ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


เอาตัวรอดจากไฟไหม้รถ!

เอาตัวรอดจากไฟไหม้รถ!
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 06, 2023, 06:49:19 AM »
ในยุคที่น้ำมันมีราคาแพง อาจทำให้เจ้าของรถยนต์หันมาให้ความสนใจกับพลังงานทางเลือกที่อาจเป็นทางออกแห่งอนาคต (https://www.smk.co.th/newsdetail/2968 4 รถยนต์พลังงานทางเลือก ทางเลือกใหม่เพื่อการเดินทางแห่งอนาคต) แต่ก็มีเจ้าของรถยนต์รุ่นเก่าหลายรายที่ยังคงให้ความนิยมนำรถยนต์ไปติดแก๊สทั้งแบบ NGV หรือ LPG เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย จนทำให้หลายครั้ง เมื่อรถยนต์ที่ติดแก๊สเกิดอุบัติเหตุจนไฟลุกท่วมไหม้ตัวรถ อาจสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินให้กับผู้คนได้มากมาย (สลด รถตู้ตกร่องกลางถนนมิตรภาพ ไฟไหม้วอดทั้งคัน ดับ 11 ศพ https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/2609033) แล้วหากต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไฟกำลังไหม้ตัวรถ (https://www.smk.co.th/newsdetail/285 ไฟไหม้รถยนต์เกิดจากอะไร) ผู้โดยสารหรือผู้ที่ติดอยู่ในตัวรถ จะต้องทำอย่างไรเพื่อเอาชีวิตรอด
 
วิธีเอาตัวรอดจากไฟไหม้รถ
เหตุไฟไหม้รถมักเกิดขึ้นกับรถยนต์ที่ติดตั้งระบบแก๊ส LPG หรือ NGV ที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือรถเก่าที่มีอายุการใช้งานมานาน รถที่ผ่านการปรับแต่งสภาพ รวมถึงขาดการบำรุงรักษาอย่างถูกวิธี ใช้อะไหล่ที่ไม่มีคุณภาพ ซึ่งทางกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้แนะนำวิธีเอาตัวรอดพร้อมวิธีป้องกันจากไฟไหม้รถ ไว้ดังนี้

1.   กรณีไฟไหม้รถเล็กน้อย
•   หากเป็นรถที่ติดตั้งระบบแก๊ส ให้รีบปิดสวิตช์การทำงานของระบบแก๊สและดับเครื่องยนต์
•   นำถังดับเพลิงเคมีฉีดพ่นบริเวณต้นเพลิง
•   หากมีเปลวไฟออกมาจากฝากระโปรงรถให้ปลดสลักฝากระโปรงออกแล้วฉีดพ่นผ่านช่องฝากระโปรงที่แง้มไว้
•   ห้ามเปิดฝากระโปรงทันที เพราะจะทำให้ไฟลุกลามมากขึ้น
•   เมื่อไฟเริ่มสงบจึงค่อยๆ แง้มฝากระโปรงขึ้นโดยใช้ผ้ารอง หรือสวมถุงมือเพื่อป้องกันความร้อนจากบริเวณฝากระโปรง
•   นำถังดับเพลิงมาฉีดพ่นให้ทั่วห้องเครื่อง จนมั่นใจว่าไฟดับสนิทแล้ว
•   รีบถอดขั้วแบตเตอรี่ออก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเปลวไฟทะลุขึ้นมาอีก

2.   กรณีไม่มีถังดับเพลิง
•   ใช้ผ้าแห้ง ผ้าเปียก หรือทราย มาโปะบริเวณที่เกิดไฟไหม้รถ
•   ใช้ขวดน้ำเจาะปากขวดเป็นรูเล็กๆ ฉีดบริเวณที่เกิดเพลิงไหม้

3.   กรณีที่ไฟไหม้รถลุกลามอย่างรวดเร็ว
•   ให้ตั้งสติ ดับเครื่องยนต์ แล้วรีบออกจากรถ
•   วิ่งออกไปให้ห่างจากรถให้มากและเร็วที่สุด เพราะอาจเกิดการระเบิดได้
•   รีบโทรศัพท์แจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย 191 ศูนย์รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ 199 หรือสายด่วนนิรภัย 1784 มาควบคุมเพลิงให้เร็วที่สุด เพื่อป้องกันการลุกลามไปยังบริเวณใกล้เคียง
 
วิธีการใช้งานถังดับเพลิง 4 ขั้นตอน
1.   ดึง - เอาถังดับเพลิงวางไว้ด้านที่ถนัด หันด้านฉลากเข้าหาลำตัว จากนั้น “ดึง” สลักนิรภัยออก และหิ้วถังดับเพลิงไปที่จุดเกิดไฟไหม้ โดยยืนห่างจากกองไฟ ประมาณ 3-4 เมตร และยืนเหนือทิศทางลม
2.   ปลด - ปลดปลายสายออกจากตัวถัง จับปลายสายให้แน่นอย่าให้หลุดมือ เล็งไปยังบริเวณฐานของกองไฟ (ห้ามฉีดที่เปลวไฟ)
3.   กด - กดคันบีบของถังดับเพลิงให้สุดคันบีบ ให้เคมีออกมาอย่างเต็มที่และต่อเนื่อง
4.   ส่าย - ส่ายปลายสายถังดับเพลิงไปมา เพื่อให้ผงเคมีที่ฉีดออกมาครอบคลุมทั่วทั้งกองไฟ โดยระหว่างดับไฟให้ย่อตัวลงเล็กน้อย เพื่อหลบเปลวไฟและความร้อน ฉีดจากตำแหน่งใกล้ไปไกล เมื่อแน่ใจว่าไฟดับสนิทแล้วจึงถอยออกจากที่เกิดเหตุ

วิธีป้องกันไฟไหม้รถ
1.   ก่อนขับรถ
•   ตรวจสภาพรถให้พร้อมใช้งานเสมอ เช่น เติมน้ำหม้อน้ำในระดับเท่าที่กำหนด ไม่มีเศษวัสดุติดในหม้อน้ำและในท่อยาง
•   เช็กสภาพท่อน้ำมันเชื้อเพลิงว่าไม่มีรอยรั่ว สายพานรถมีความตึงในค่าที่กำหนด
•   เช็กกระโปรงหน้ารถว่ามีเขม่าดำเกาะหรือไม่ เพราะแสดงว่าเครื่องยนต์ทำงานไม่สมบูรณ์
•   ตรวจดูใต้ท้องรถว่ามีรอยน้ำมันหยดหรือไม่ หากมีควรรีบซ่อมแซมโดยด่วน
•   ควรเตรียมขวดบรรจุน้ำ ถังดับเพลิงเคมีไว้ที่ด้านข้างคนขับหรือบริเวณที่หยิบได้ง่าย เพื่อให้ใช้งานได้ทันทีหากไฟไหม้รถ

2.   ขณะขับรถ
•   ควรสังเกตสัญญาณเตือนอยู่เสมอ เช่น มาตรวัดระดับความร้อนของเครื่องยนต์ซึ่งอยู่บริเวณหน้าปัดรถยนต์ หากหม้อน้ำแห้ง พัดลมระบายความร้อนขัดข้อง จะทำให้รถยนต์ร้อนจัดจนเป็นสาเหตุให้เกิดไฟไหม้รถยนต์ได้ เพราะบริเวณกระโปรงหน้ารถเป็นที่ตั้งของเครื่องยนต์และสายไฟต่างๆ ที่อาจทำให้เกิดประกายไฟ
•   รถยนต์ที่ใช้แก๊สต้องระวังบริเวณส่วนท้ายรถเพราะเป็นที่ตั้งของถังแก๊ส หากรถมีอาการกระตุกขณะขับขี่ควรนำไปตรวจสอบสภาพ เพราะเครื่องยนต์อาจขัดข้องหรือถังน้ำมันรั่วทำให้อากาศเข้าไปจนการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ ก่อให้เกิดไฟไหม้รถได้

3.   ก่อนสตาร์ตรถควรตรวจเช็กความเรียบร้อยของเครื่องยนต์ทุกครั้งว่ามีสิ่งผิดปกติหรือไม่ เพื่อป้องกันเหตุไฟไหม้รถที่อาจเกิดขึ้นได้

4.   ไม่ควรซื้อรถมือสองที่ไม่ทราบประวัติการขับขี่มาใช้งาน และเรียนรู้วิธีแก้ไขเหตุฉุกเฉิน ที่สำคัญไม่ควรขับรถเร็วเกินกว่า 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อช่วยช่วยลดแรงปะทะจากอุบัติเหตุที่อาจทำให้เกิดไฟไหม้รถได้
 
แม้การใช้รถยนต์ที่ติดตั้งแก๊ส LPG หรือ NGV จะมีส่วนช่วยในการประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ให้บริการรถโดยสารที่มีค่าใช้จ่ายด้านพลังงานเป็นปัจจัยหลัก แต่ก็ต้องนำมาซึ่งความรับผิดชอบที่ใหญ่ขึ้นทั้งต่อตัวรถโดยสารและผู้ใช้บริการ เพราะหากเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด ก็อาจนำมาซึ่งความเสียหายอันใหญ่หลวงตามมาได้เช่นกัน

ประกันรถยนต์ตามเวลา ประกันชั้น 1-3+ เลือกได้ตามใจ ให้ความคุ้มครอง 3, 6, 12 เดือน จ่ายสบาย ช่วยแบ่งเบาภาระในยามวิกฤต เพิ่มความอุ่นใจเมื่อออกเดินทาง สนใจรายละเอียด คลิก https://www.smk.co.th/productmotordetail/1024 หรือ โทร. 1596 ตลอด 24 ชั่วโมง Line : smkinsurance และสามารถติดตามเนื้อหาสาระดีๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://smkinsurance.blogspot.com