การขับขี่จะปลอดภัยถ้าใช้รถที่ดีและ
ยางรถยนต์ที่มีคุณภาพ ทำให้เราต้องคงสภาพของยางรถยนต์ให้พร้อมต่อการใช้งานอยู่เสมอ หากพบว่ามีปัญหาต้องรีบแก้ไข วลีที่ว่า “เอาไว้ก่อน” ไม่ควรนำมาใช้กับยางรถที่เสื่อมสภาพโดยเฉพาะยางบวม
ยางบวม เกิดจากอะไรยางที่เสื่อมสภาพมีโอกาสบวมได้เนื่องจากโครงสร้างของยางไม่แข็งแรง ถ้ายังใช้งานต่อโดยไม่ได้แก้ไข ยางจะบวมและพังเสียหายในที่สุด
แต่ก่อนอื่นเรามายืนยันกันก่อนว่า การขับรถเร็วไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้ ยางบวม โดยตรง แต่การขับรถเร็วนั้นเสี่ยงต่ออุบัติเหตุและอาจเป็นที่มาของยางบวม เช่น รถชนขอบถนนทำให้ยางถูกกระแทกอย่างแรง การขับรถเร็วในสภาพถนนขรุขระหรือเป็นหลุมก็เช่นกัน หากรถตกหลุมด้วยความเร็วสูง แรงกระแทกที่เนื้อยางจะหนักมากกว่าการขับรถปกติ
แก้ไขอาการบวมได้อย่างไรถ้าไม่อยากเปลี่ยนยาง
ผู้ขับบางท่านอาจมองว่า ยางรถบวม ไม่น่าจะเป็นเรื่องใหญ่ แค่เนื้อยางปูดขึ้นมาบางจุดเท่านั้นเอง แต่ที่จริงแล้วหากเราซ่อมยางเสร็จการนำรถไปใช้ต่อจะต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ ไม่ควรเดินทางไกลและไม่ควรขับรถเร็ว แต่ถ้าเป็นไปได้แนะนำว่าควรเปลี่ยนยางใหม่ไปเลยดีกว่าเพราะยางที่ซ่อมแล้วไม่ได้คุณภาพเต็ม 100 เท่าเดิม
ดูแลรักษายางของคุณให้ดีด้วยวิธีไหนได้บ้าง
ไม่อยากให้ ยางรถ มีปัญหาก็ต้องใส่ใจดูแลยางให้อยู่คู่รถไปนาน ๆ ด้วยการ
ตรวจเช็คลมยางทุกเดือน
สลับยางทุก ๆ 6 เดือน หรือทุก 10,000 กิโลเมตร
ปรับหน้าล้อหรือตั้งศูนย์ล้อให้ตรง
ถือว่าเราสามารถทำได้ไม่ยากเลย โดยการเช็คลมยางควรทำก่อนใช้รถ ยางจะได้ไม่ร้อนทำให้รู้ค่าแรงดันของ ยางรถ ที่แท้จริง ส่วนข้อที่ 2 – 3 จะต้องไปที่ศูนย์บริการ
สรุป ยางรถบวม ควรเปลี่ยนใหม่ แนะนำเลือกใช้ยางที่เหมาะสมทั้งขนาดและประเภทของยางให้เข้ากับตัวรถ และเลือกยางให้เหมาะกับลักษณะนิสัยในการขับรถของผู้ขับด้วย Bridgestone มี ยางรถยนต์ ให้เลือกหลายประเภท ปรึกษาเรื่องการเลือกยางที่เหมาะสมได้ที่ศูนย์บริการหรือเลือกชมสินค้าได้ที่
www.bridgestone.co.th