ทางลัดช่วยมือใหม่ตัดสินใจ เลือกประกันภัยรถยนต์ด้วยตัวคุณเอง

[nemophilanie]

เคยสงสัยกันไหมว่าทำไมถึงต้องมีประกันภัยรถยนต์ และจำเป็นต้องทำหรือไม่ คำตอบแรกที่เป็นพื้นฐานที่สุดก็คือ เพราะกฎหมายกำหนด อย่างน้อยคุณจะต้องมีประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับหรือ ทำ พ.ร.บ. แต่ประกันดังกล่าวจะเน้นการคุ้มครองที่ตัวบุคคล ไม่ได้ครอบคลุมทรัพย์สินและค่าซ่อมรถ ดังนั้นเพื่อความคุ้มครองที่ครอบคลุมยิ่งขึ้นและเพื่อไม่ให้เสียงานไปกับค่าอย่างอื่น ผู้ใช้รถส่วนใหญ่จึงเลือกซื้อประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจเพิ่มเติม แต่ก็มีหลายแบบให้เลือกและระดับเบี้ยประกันที่แตกต่างกัน เรามาดูกันว่าจะเลือกแบบใดจึงจะเหมาะสม โดยเฉพาะหากคุณเป็นมือใหม่

ลองคิดดูว่าหากคุณขับรถออกไป หรือนำรถไปจอดในที่สาธารณะแล้วเกิดอุบัติเหตุขึ้น ถึงแม้คุณจะไม่ได้รับบาดเจ็บทางกาย แต่รถยนต์ก็เสียหาย หรืออาจจะทำให้เกิดการจราจรติดขัด หรือทำให้รถคันอื่นและบุคคลอื่นได้รับความเสียหาย หรืออีกกรณีหนึ่งคือ รถของคุณถูกขโมยและไม่สามารถติดตามคืนได้ ทั้งหมดนี้การประกันรถยนต์ภาคสมัครใจก็จะมีแผนต่าง ๆ ให้เลือกเพื่อรองรับความเสี่ยงต่าง ๆ ที่กล่าวมา

แนวทางการตัดสินใจและเลือกประกันรถยนต์แบบต่าง ๆ
เนื่องจากแผนประกันภัยรถยนต์นั้นมีหลายระดับราคา และให้ความคุ้มครองแตกต่างกันออกไป การเลือกซื้อประกันภัยรถยนต์ คุณจำเป็นต้องพิจารณาและรู้ว่าประกันแต่ละชั้นต่างกันอย่างไรให้ดี เพื่อให้เกิดความสอดคล้องกับการใช้งานและไลฟ์สไตล์ของคุณเอง รวมทั้งไม่ทำให้งบประมาณในกระเป๋าของคุณได้รับผลกระทบและได้ประกันที่ตรงใจตรงความต้องการอีกด้วย มาลองดูกันว่า ประกันชั้น 1 , ประกันชั้น 2 , ประกันรถชั้น 3 นั้น แบบไหนจึงจะเหมาะกับคุณมากที่สุด

•   ประกันรถยนต์ชั้น 1 เป็นรูปแบบความคุ้มครองที่ครอบคลุมที่สุด ทั้งความเสียหายต่อรถยนต์ในทุกกรณี และกับตัวผู้ขับขี่เอง หรือแม้แต่ความเสียหายที่ไม่ทราบรายละเอียดของการเกิดเหตุ ของหล่นใส่รถยนต์ ชนกับรถหรือชนกับสิ่งต่าง ๆ ทั้งมีหรือไม่มีคู่กรณี รถยนต์ไฟไหม้ น้ำท่วม รถยนต์ถูกโจรกรรม ดังนั้นคนที่มีรถใหม่ป้ายแดง รวมถึงรถที่มีอายุไม่เกิน 7 ปี และผู้ที่หัดขับรถใหม่ ๆ จึงเหมาะกับ ประกันชั้น 1 ที่ให้ความคุ้มครองรอบด้าน แน่นอนว่าเบี้ยประกันจะแพงกว่าประกันรถยนต์แบบชั้น 2 และ ชั้น 3
•   ประกันรถยนต์ชั้น 2 การประกันชนิดนี้จะให้ความคุ้มครองรองลงมา ซึ่งจะไม่รอบด้านเท่าประกันรถ ชั้น 1 กล่าวคือ คุ้มครองเฉพาะเกิดเหตุชนกับยานพาหนะทางบกและต้องมีคู่กรณี ประกันจะให้ความคุ้มครองชีวิตและค่ารักษาพยาบาลทั้งผู้เอาประกันและคู่กรณี แต่จะซ่อมรถยนต์ให้คู่กรณีเท่านั้น ประกันประเภทนี้จะเหมาะกับรถที่ใช้งานเป็นประจำแต่จอดในที่เสี่ยงถูกโจรกรรมและไฟไหม้ เช่น ผู้ที่จอดรถหน้ารั้วบ้านหรือผู้ที่มีอาชีพค้าขาย ซึ่งต้องจอดรถในที่สาธารณะเป็นประจำ อีกทั้งผู้ขับขี่มีทักษะความชำนาญในการขับรถยนต์แล้ว ก็จะเหมาะกับ ประกันชั้น 2
•   ประกันรถชั้น 3 SCB Protect ประกันประเภทนี้มีความคุ้มครองต่ำที่สุดจากประกันทั้งหมด แตกต่างจากแบบประกันรถชั้น 2 คือ ไม่คุ้มครองกรณีรถยนต์สูญหายและเกิดเพลิงไหม้ รวมถึงระดับวงเงินคุ้มครองที่ลดหลั่นลงมา คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลทั้งสองฝ่าย แต่คุ้มครองค่าซ่อมรถให้กับคู่กรณีเท่านั้น เหมาะกับรถที่มีอายุเกิน 7 ปีขึ้นไปซึ่งไม่สามารถทำประกันรถแบบชั้น 1 หรือ 2 ได้แล้ว หรือต้องการประหยัดค่าเบี้ยประกันรถให้มากที่สุด เหมาะกับรถที่ใช้งานเป็นประจำ แต่ไม่มีความเสี่ยงเรื่องสถานที่จอดรถ ผู้ขับขี่มีความชำนาญและดูแลรถยนต์ ก็จะเหมาะกับ ประกันรถชั้น 3

   จะเห็นว่าประกันรถยนต์แบบชั้น 2 และ 3 นั้น ไม่คุ้มครองค่าซ่อมรถยนต์ของผู้เอาประกัน หากต้องการความคุ้มครองส่วนนี้เพิ่มเติม ก็มีประกันแบบ 2 พลัส และ ประกันชั้น 3 พลัส ให้เลือก ซึ่งปัจจุบันเป็นที่นิยมกว่าเพราะเพิ่มค่าเบี้ยประกันอีกเล็กน้อย แต่ได้ความคุ้มครองครอบคลุมมากขึ้น หากเกิดเหตุและเราเป็นฝ่ายผิด ก็ไม่ต้องออกค่าซ่อมรถเอง

คุณสามารถเลือกซื้อประกันรถยนต์แบบออนไลน์ที่ทั้งสะดวกและรวดเร็ว ตอบรับกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ หรือจะเลือกซื้อในรูปแบบผ่านตัวแทนประกันภัยก็สามารถทำได้เช่นกัน อีกทั้งยังสามารถเปรียบเทียบความคุ้มครองและเบี้ยประกันที่เหมาะสม การมีประกันรถยนต์ทั้งภาคบังคับและภาคสมัครใจนั้น จะทำให้คุณอุ่นใจมากยิ่งขึ้น เพราะมีความคุ้มครองที่ช่วยลดผลกระทบได้อย่างมากหากเกิดอุบัติเหตุขึ้น ชมเพิ่มเติมที่ https://online.scbprotect.co.th/motor/type-1