วิธีเลือกยางออฟโรด ใส่แบบไหนถึงจะเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของเรา

[อัญณา]

   เมื่อพูดถึงสายออฟโรดแล้ว หลายคนคงจะนึกภาพถึงรถยนต์ประเภทขับเคลื่อนแบบสี่ล้อ 4WD มีเครื่องยนต์ที่ทรงพลังสามารถบุกป่าฝ่าดงไปบนเส้นทางธรรมชาติได้อย่างสบาย ๆ แต่รู้หรือไม่ว่ากว่ารถคันหนึ่งจะมีความสามารถในการวิ่งฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ ได้ขนาดนั้น สิ่งสำคัญนั้นไม่ได้อยู่ที่เครื่องยนต์เพียงอย่างเดียว เพราะถ้าหากเลือกใช้ ยางออฟโรด ไม่เหมาะสมประสิทธิภาพในการขับขี่ก็จะลดลงและไม่มีความคล่องตัวอย่างที่ควรจะเป็น ทุกการขับเคลื่อนจะต้องอาศัยทั้งเครื่องยนต์ที่มีพละกำลังมากและยางที่มีประสิทธิภาพควบคู่กันไปด้วย ดังนั้นวันนี้เราจึงได้นำข้อมูลของยางออฟโรดแต่ละประเภทมาแนะนำ เพื่อให้ท่านผู้ขับขี่ได้นำไปพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อยางมาใช้งานได้อย่างเหมาะสม ดังนี้

   1. ยางประเภท HT หรือ HIGHWAY TERRAIN ส่วนใหญ่ถูกใช้เป็นยางรถกระบะ และ ยาง suv เป็นยางมาตรฐานที่มีโครงสร้างแบบเรเดียล ลักษณะดอกยางจะมีขนาดเล็ก เรียบ ละเอียด ร่องยางเล็ก มีคุณสมบัติในการรีดน้ำและยึดเกาะถนนได้ดี เป็นยางที่มีน้ำหนักเบาช่วยให้การขับขี่นุ่มนวล เสียงเงียบ สามารถทำความเร็วสูงได้ อีกทั้งยังช่วยในเรื่องการประหยัดเชื้อเพลิงอีกด้วย เพียงแต่ยางประเภทนี้จะเหมาะกับการใช้งานบนพื้นถนนเรียบทั่วไป ไม่เหมาะกับงานบรรทุก รองรับการใช้งานบนพื้นถนนขรุขระได้พอสมควร แต่ไม่เหมาะสำหรับใช้วิ่งลุยตามเส้นทางธรรมชาติ เพราะเสี่ยงต่อการทำให้แก้มยางเกิดการฉีกขาดจากหินหรือท่อนไม้แหลมคมทิ่มแทง

   2. ยางประเภท AT หรือ ALL TERRAIN ยางประเภทนี้ได้รับการออกแบบให้มีความแข็งแกร่งและทนทาน มีประสิทธิภาพในการขับขี่บนพื้นถนนที่หลากหลาย สามารถใช้งานบนพื้นถนนเรียบทั่วไปได้ดี แต่ด้วยดอกยางที่ได้รับการออกแบบให้มีขนาดใหญ่ ร่องยางห่างกัน และหนาขึ้นกว่ารุ่น HT เล็กน้อย จึงทำให้มีเสียงดังของยางที่รบกวนภายในห้องโดยสารมากกว่า อีกทั้งยังมีน้ำหนักมากจึงส่งผลต่อปริมาณการใช้เชื้อเพลิงที่มากขึ้นตามไปด้วย ยางประเภทนี้เหมาะกับผู้ที่ใช้รถบนถนนเรียบทั่วไปและนำรถเข้าป่าเป็นครั้งคราว

   3. ยาง ออฟ โร ด ประเภท MT หรือ MUD TERRAIN โครงสร้างยางจะมีความแข็งแกร่งมากกว่ายางทั้ง 2 ประเภทข้างต้น ดอกยางจะมีลักษณะโตเป็นบั้งขนาดใหญ่ ร่องยางลึก และมีระยะห่างกันมาก แก้มยางมีความหนาเป็นพิเศษเพื่อเน้นประสิทธิภาพในการขับขี่บนพื้นถนนแบบสมบุกสมบัน ขับขี่แบบลุย ๆ ตามเส้นทางธรรมชาติได้อย่างสบาย ๆ ซึ่งยางประเภท MT จะมีน้ำหนักมากจึงทำให้สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมากกว่ารุ่นอื่น ๆ จึงไม่เหมาะสำหรับการใช้งานบนพื้นถนนเรียบทั่วไป อีกทั้งยังมีเสียงดังรบกวนและประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนลดลงเมื่อต้องใช้ความเร็วสูง ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับสายลุยและการใช้งานแบบหนัก ๆ มากกว่าการใช้ขับไปทำงานในเมือง

   ยางรถยนต์แต่ละประเภทจะมีทั้งข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน การเลือกใช้ยางรถยนต์จึงควรเลือกที่เหมาะสมกับการใช้งานของแต่ละคน และถ้าหากคุณกำลังต้องการเปลี่ยนยางชุดใหม่ที่มีคุณภาพให้ความปลอดภัยและสะดวกสบายในทุก ๆ การเดินทาง แต่ยังไม่รู้ว่าจะเลือก ยาง รถยนต์ ขอบ 18 ยี่ห้อ ไหน ดี ขอแนะนำยางรถเก๋ง​ ยางออฟโรด และ ยาง suv จาก Bridgestone ที่มีให้ได้เลือกมากมายหลายรุ่นครอบคลุมทุกความต้องการของสายลุย ตอบโจทย์และเหมาะสมกับการใช้งานได้อย่างที่คุณต้องการ