ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


ยาคุมยี่ห้อไหนดี เลือกยาคุมอย่างไรให้เหมาะกับตัวเราที่สุด

ยาคุมกำเนิดยี่ห้อไหนดี

สาวๆ หลายๆ คนน่าจะคุ้นเคยกับการทานยาคุมเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ แต่รู้หรือไม่ว่ายาคุมสามารถช่วยในด้านอื่นๆ นอกจากเรื่องของการตั้งครรภ์ได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการช่วยรักษาสิว ปรับฮอร์โมนให้ประจำเดือนมาอย่างสม่ำเสมอ และยังมีส่วนทำให้หน้าอกใหญ่ขึ้นด้วย แต่ยี่ห้อและประเภทของยาคุมก็มีหลากหลาย แล้วจะเลือกอย่างไรให้ปลอดภัย เลือกยาคุมยี่ห้อไหนดีถึงจะตรงกับจุดประสงค์ในการใช้มากที่สุด เรามาดูกันค่ะ

ยาคุมกำเนิด (Birth Control Pills)

ยาคุมกำเนิด ออกฤทธิ์อย่างไร

ยาคุมกำเนิด คือยาที่บรรจุไปด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจน และฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ซึ่งยาคุมแต่ละชนิด จะมีฤทธิ์ในการทำงานที่แตกต่างกันไป ยาคุมแต่ละยี่ห้อก็จะบรรจุปริมาณฮอร์โมนที่ไม่เท่ากัน ส่งผลให้สาวๆ หลายคนสงสัยว่า แล้วเราควรเลือกยาคุมยี่ห้อไหนดี

กลไกการออกฤทธิ์ของยาคุมกำเนิด

ฮอร์โมนเอสโตรเจนและฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน จะทำให้มูกบริเวณปากมดลูกหนาขึ้น สเปิร์มจึงเข้าไปผสมกับไข่ได้ยากขึ้น และยังป้องกันการตกไข่ ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกบางลง ตัวอ่อนจึงไม่สามารถฝังตัวได้

ยาคุมกำเนิดมีกี่ประเภท

ยาคุมกำเนิดมีทั้งหมด 3 ประเภท ดังนี้

  • ยาคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนเดี่ยว บรรจุเฉพาะฮอร์โมนโปรเจสโตรเจนเท่านั้น
  • ยาคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนรวม บรรจุฮอร์โมน 2 ชนิด ได้แก่ฮอร์โมนเอสโตรเจน และฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนสังเคราะห์ เป็นชนิดที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
  • ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน บรรจุยา ลีโวนอร์เจสเตรล เป็นยาในกลุ่มโพรเจสติน ไม่ควรทานบ่อย ควรทานเฉพาะเวลาฉุกเฉินเท่านั้น เพราะอาจส่งผลกระทบต่อร่างกายได้ค่อนข้างรุนแรง
เลือกยาคุมกำเนิดอย่างไรให้เหมาะกับตัวเอง

วิธีเลือกยาคุมกำเนิดให้เหมาะกับตัวเรา

ก่อนตัดสินใจเลือกทานยาคุม ควรลองพิจารณาสภาพร่างกายของเราก่อนว่าเป็นแบบไหน ทั้งอายุ โรคประจำตัว การตั้งครรภ์ หรือรูปแบบการมาของรอบเดือน เพื่อประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อยาคุม เพราะยาคุมแต่ละชนิด แต่ละยี่ห้อ จะทำมารองรับสภาพร่างกายที่ไม่เหมือนกัน หลังจากพิจารณาได้แล้ว การตัดสินใจเลือกยาคุมยี่ห้อไหนดีจะทำได้ง่ายขึ้น

1. ยาคุมกำเนิดสำหรับผู้ที่ประจำเดือนมาปกติ

สามารถเลือกใช้ยาคุมชนิดรวมเพราะมีทั้งฮอร์โมนเอสโตรเจนและฮอร์โมนโปรเจสติน แต่ควรเลือกแบบที่มีปริมาณต่ำ เช่น Ethinyl estradiol ไม่เกิน 0.020 มก. และ Desogestrel ไม่เกิน 0.15 มก.

2. ยาคุมกำเนิดสำหรับผู้ที่ประจำเดือนมามาก

ผู้ที่ประจำเดือนมามากกว่า 7 วัน และรอบเดือนสั้นกว่า 28 วัน อีกทั้งยังมีรูปร่างท้วม ควรเลือกทานยาคุมแบบฮอร์โมนชนิดรวมที่มีเอสโตรเจนต่ำ เช่น Ethinyl estradiol ไม่เกิน 0.020 มก. และมีโปรเจสตินที่ออกฤทธิ์ต่อต้านเอสโตรเจน

3. ยาคุมกำเนิดสำหรับผู้ที่ประจำเดือนมาน้อย

ผู้ที่ประจำเดือนมาน้อยกว่า 4 วัน และมีรูปทรงทางร่างกายค่อนข้างไปทางผู้ชาย สามารถเลือกทานยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม Cyproterone acetate เพราะจะช่วยลดแอนโดรเจน อีกทั้งฮอร์โมนเอสโตรเจนในตัวยา จะช่วยลดปัญหาหน้ามัน ทำให้สิวลดลง และมีส่วนช่วยให้หน้าอกใหญ่ขึ้น

4. ยาคุมกำเนิดสำหรับผู้ที่ประจำเดือนมาไม่ปกติ

ผู้ที่ประจำเดือนมาน้อย หรือนานๆ มาครั้งหนึ่ง สามารถใช้ยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม Cyproterone acetate เพราะจะช่วยลดแอนโดรเจน หรือฮอร์โมนเพศชาย และปรับให้ฮอร์โมนสมดุลขึ้น

ยาคุมกำเนิดยี่ห้อไหนดี

หลังจากดูรายละเอียดว่ายาคุมมีกี่ประเภท มีหลักการในการเลือกยาคุมอย่างไรแล้ว เรามาดูกันค่ะว่า แล้วเราควรจะเลือกยาคุมยี่ห้อไหนดี ถึงจะตรงกับความต้องการของเรามากที่สุด

รีวิว 10 ยาคุมยี่ห้อไหนดี ฉบับปี 2565

แนะนำ 10 ยี่ห้อยาคุมสำหรับสาวๆ ให้ทุกคนได้เลือกตามความเหมาะสมของร่างกาย แต่ละยี่ห้อเป็นยาคุมประเภทไหน มีกี่เม็ด บรรจุไปด้วยฮอร์โมนอะไรบ้าง ราคาเท่าไหร่

1. ยาคุมกำเนิดยี่ห้อซูซี่ (Sucee)

ยาคุมซูซี่

  • ชนิดฮอร์โมนรวม Cyproterone acetate 2 มก. และ Ethinyl estradiol 0.035 มก.
  • มีทั้งแบบ 21 เม็ดและ 28 เม็ด
  • ช่วยลดสิวและทำให้หน้าอกมีขนาดใหญ่ขึ้น
  • ราคา 100 – 130 บาท
2. ยาคุมกำเนิดยี่ห้อยาซ (Yaz)

ยาคุม Yaz

  • บรรจุ Drospirenone 3 มก. และ Ethinyl estradiol 0.02 มก.
  • มี 28 เม็ด
  • ช่วยลดการบวมน้ำ ลดอาการปวดประจำเดือน และรักษาสิว
  • ราคา 499 บาท
3. ยาคุมกำเนิดยี่ห้อเฮอรซ์ (Herz)

ยาคุม Herz

  • บรรจุ Drospirenone 3 มก. และ Ethinyl estradiol 0.02 มก.
  • มี 28 เม็ด
  • ช่วยลดอาการก่อนมีประจำเดือน
  • ราคา 290 – 330 บาท
4. ยาคุมกำเนิดยี่ห้อไดแอน (Diane)

ยาคุม Diane

  • บรรจุ Cyproterone acetate
  • มี 21 เม็ด
  • ช่วยลดการเกิดสิวและผิวมัน
  • ราคา 215 บาท
5. ยาคุมกำเนิดยี่ห้อมาร์วีลอน (Marvelon)

ยาคุม Marvelon

  • บรรจุ Drospirenone 0.15 มก. และ Ethinyl estradiol 0.03 มก.
  • มี 21 เม็ด
  • ช่วยลดการเกิดสิวและผิวมัน
  • ราคา 100 – 130 บาท
6. ยาคุมกำเนิดยี่ห้อยาสมิน (Yasmin)

ยาคุม Yasmin

  • บรรจุ Drospirenone 3 มก. และ Ethinyl estradiol 0.03 มก.
  • มี 21 เม็ด
  • ช่วยลดอาการปวดท้องประจำเดือน ลดการเกิดสิวและผิวมัน
  • ราคา 399 บาท
7. ยาคุมกำเนิดยี่ห้อมินนี่ (Minny)

ยาคุม Minny

  • บรรจุ Desogestrel 0.15 มก. และ Ethinyl Estradiol 0.02 มก.
  • มี 21 เม็ด
  • ช่วยรักษาสิว หน้ามัน
  • ราคา 185 บาท
8. ยาคุมกำเนิดยี่ห้อริต้า (Rita)

ยาคุม Rita

  • บรรจุ Desogestrel 0.15 มก. และ Ethinyl Estradiol 0.03 มก.
  • มีทั้งแบบ 21 และ 28 เม็ด
  • ช่วยรักษาสิว หน้ามัน
  • ราคา 80 – 90 บาท
9. ยาคุมกำเนิดยี่ห้อเมโลเดีย (Melodia)

ยาคุม Melodia

  • บรรจุ Desogestrel 3 มก. และ Ethinyl Estradiol 0.03 มก.
  • มี 21 เม็ด
  • ช่วยลดปัญหาสิว หน้ามัน มีฤทธิ์ขับปัสสาวะแบบอ่อน
  • ราคา 280 – 310 บาท
10. ยาคุมกำเนิดยี่ห้อเมอซิลอน (Mercilon)

ยาคุม Mercilon

  • บรรจุ Desogestrel 0.15 มก. และ Ethinyl Estradiol 0.02 มก.
  • มีทั้งแบบ 21 และ 28 เม็ด
  • ช่วยลดปัญหาสิว หน้ามัน
  • ราคา 160 – 180 บาท
ข้อควรระวังก่อนใช้ยาคุมกำเนิด

ผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือตั้งครรภ์ อาจสงสัยว่าแล้วเราควรทานยาคุมยี่ห้อไหนดีถึงจะปลอดภัย ดังนั้น ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาคุมกำเนิดทุกชนิด เพราะอาจส่งผลข้างเคียงที่รุนแรงต่อร่างกายได้

อาการข้างเคียงที่อาจเกิดจากยาคุมกำเนิด

  • อาการคลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ ปวดหัว มักจะเกิดกับคนที่อายุ 35 ปีขึ้นไป หรือบุคคลที่สูบบุหรี่
  • อาการเจ็บ คัดเต้านม อาจพบในช่วงแรกของการใช้ยา และหายไปเมื่อใช้อย่างสม่ำเสมอ
  • อาจมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น สิวขึ้น ผมร่วง บางรายอาจพบในระยะแรก และหายไปในระยะต่อมา
  • อาจมีเลือดออกกะปริบกะปรอยเป็นบางครั้ง พบได้ในระยะแรก หรือในผู้ที่ไม่ทานยาอย่างสม่ำเสมอ
  • เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดลิ่มเลือดอุดตัน อาจส่งผลให้เกิดโรคหัวใจได้
คำแนะนำหากต้องการเปลี่ยนยี่ห้อยาคุมกำเนิด

สาวๆ หลายคนอาจต้องการเปลี่ยนยี่ห้อยาคุมกำเนิดที่ใช้อยู่ และอาจสงสัยว่า แล้วควรเปลี่ยนเป็นยาคุมยี่ห้อไหนดี เพราะฉะนั้นแล้ว ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำการตัดสินใจเปลี่ยนยี่ห้อยาคุมกำเนิด เพื่อพิจารณาสภาพร่างกายตามแต่ละบุคคล อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นวิธีการเปลี่ยนยี่ห้อยาคุมกำเนิด คือทานยาต่อทันทีแบบไม่ต้องเว้นช่วงเวลาในการเปลี่ยน เพื่อให้ระดับฮอร์โมนในร่างกายคงที่ มิเช่นนั้นอาจเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้

บางคนอาจเว้นระยะเวลา 1 เดือนก่อนเปลี่ยนยี่ห้อยาคุม ช่วงระยะเวลานี้จึงควรป้องกันเป็นพิเศษหากต้องการมีเพศสัมพันธ์ เพราะมีโอกาสเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ได้

ประโยชน์อื่นๆ ของยาคุมกำเนิด

ยาคุมกำเนิด มีประโยชน์อย่างไร

นอกจากการใช้ยาคุมกำเนิดเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์แล้ว ยาคุมยังมีประโยชน์ทางด้านอื่นๆ เช่น

  • ช่วยลดอาการปวดประจำเดือน
  • ช่วยปรับฮอร์โมนให้รอบเดือนมาสม่ำเสมอมากขึ้น
  • ช่วยรักษาสิว ทำให้หน้ามันน้อยลง
  • ป้องกันมะเร็งในเยื่อบุโพรงมดลูก
ข้อสรุป

ยาคุมกำเนิดสามารถใช้เพื่อจุดประสงค์อื่นนอกจากการคุมกำเนิด และมีหลากหลายยี่ห้อ ส่งผลให้สาวๆ หลายคนสงสัยว่าแล้วเราควรเลือกอย่างไร ทานยาคุมยี่ห้อไหนดี แต่ละยี่ห้อจะบรรจุปริมาณฮอร์โมนและชนิดของฮอร์โมนต่างกัน จึงควรพิจารณาการเลือกใช้ตามความเหมาะสมของแต่ละบุคคล ปัจจุบันมีการใช้ยาคุมเพื่อรักษาสิวหรือในกรณีอื่นๆ มากขึ้น หลายๆ คนอาจจะอยากดูว่ายาคุมตัวไหนกินแล้วไม่อ้วน ผิวสวย แต่ด้วยความที่เป็นยาค่อนข้างเฉพาะทาง อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงและอาการที่ไม่พึงประสงค์ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวและผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ จึงควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ก่อนใช้ทุกครั้ง