ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


ไขข้อสงสัย ลมยางไนโตรเจน ต่างจากลมยางธรรมดาอย่างไร พร้อมบอกเทคนิคเช็กลมยาง

การเช็ครถก่อนเดินทางไกลให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอถือเป็นสิ่งที่ผู้ใช้รถทุกคนควรปฏิบัติ เพราะนอกจากจะเป็นการทำเพื่อความปลอดภัยของตัวเองแล้ว ยังช่วยให้ผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่นปลอดภัยมากขึ้นด้วย ซึ่งหนึ่งในการตรวจเช็กรถขั้นพื้นฐานที่สามารถทำเองได้ก็คือ การตรวจเช็กลมยางให้เหมาะสม ปัจจุบัน การ เติมลมยางไนโตรเจน ใน ยางรถยนต์ ทั่วไปเริ่มมีให้เห็นแพร่หลายมากขึ้น ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะเทคโนโลยีเกี่ยวกับ ยางรถ ที่ก้าวหน้ามากขึ้น ดังนั้นวันนี้เราจะพาไปหาคำตอบว่า เติมลมไนโตรเจน แตกต่างจากลมยางธรรมดาอย่างไร

ความแตกต่างระหว่าง ลมยางไนโตรเจน กับลมยางธรรมดา
   ลมไนโตรเจน ประกอบด้วยแก๊สไนโตรเจนมากกว่า 93 – 95% ทำให้แทบไม่มีไอน้ำหรือออกซิเจนปะปนอยู่เลย ต่างจากการเติมลมธรรมดาที่มีปริมาณไนโตรเจนเพียง 78% และมีออกซิเจนถึง 21% รวมถึงแก๊สเฉื่อยอย่าง นีออน (Neon) และ อาร์กอน (Argon) รวมถึงความชื้นปะปนอยู่ด้วย ซึ่งปริมาณออกซิเจนที่ปะปนอยู่ในลมยางนี้ จะมีผลทำให้เวลาขับรถด้วยความเร็วสูงหรือขับเป็นระยะทางไกล อุณหภูมิยางจะสูงขึ้นจากการเสียดสีกับพื้นถนนเป็นเวลานาน ส่งผลให้ออกซิเจนขยายตัวจนแรงดันยางเพิ่มขึ้น ทำให้ยางเสื่อมสภาพเร็วขึ้น แต่สำหรับ ลมยางไนโตรเจน ที่มีออกซิเจนและความชื้นปะปนอยู่น้อยมากจึงแทบจะไม่พบปัญหาดังกล่าว

เติมลมยางไนโตรเจน ผสมกับลมยางธรรมดาได้ไหม?
   ยางที่เติม ลมไนโตรเจน สามารถเติมลมธรรมดาผสมเข้าไปได้โดยไม่ทำให้เกิดผลเสียต่อยางหรือการใช้งานยางแต่อย่างใด แต่ประโยชน์ที่ได้จากไนโตรเจนจะลดลงไปมาก โดยเฉพาะเมื่อปริมาณไนโตรเจนลดต่ำกว่า 93% และหากต้องการ เติมลมยางไนโตรเจน อีกครั้ง จะต้องปล่อยลมยางเก่าออกทั้งหมด ก่อนจะเติมไนโตรเจนบริสุทธิ์ 93 – 95% เข้าไปใหม่

วิธีการตรวจเช็ก ลมยางไนโตรเจน ที่ควรรู้
   หาก เติมลมยางไนโตรเจน แล้วพบว่า ความดันยางเพิ่มสูงขึ้น 3 – 4 psi เมื่อขับขี่เป็นระยะทางไกลด้วยความเร็ว แต่พอผ่านไป 2 – 3 สัปดาห์ ความดันยางกลับลดลงเป็นปกติ ก็ให้สันนิษฐานว่า ลมไนโตรเจน ที่เติมเข้าไปใน ยางรถยนต์ อาจมีการเจือปนกับลมธรรมดา หรือเป็นไนโตรเจนที่ไม่ได้มาตรฐาน ฉะนั้น ก่อนเติม ลมไนโตรเจน ทุกครั้งควรตรวจสอบเครื่องหมาย มอก. บนอุปกรณ์เติมของศูนย์บริการนั้น  ๆ ทุกครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าได้ลมยางที่มีคุณภาพ
   แม้ว่าการ เติมลมยางไนโตรเจน จะมีข้อดีหลายอย่าง แต่คุณภาพที่ดีกว่าย่อมนำมาซึ่งราคาที่สูงกว่า ทำให้มันอาจจะไม่คุ้มค่าสำหรับผู้ใช้รถบางคน แต่ไม่ว่าจะเป็นการเติมลมแบบใด สิ่งที่สำคัญในการดูแลรักษา ยางรถ คือการเติมลมตามค่าแรงดันให้เหมาะสมและตรวจเช็กสภาพยางรถเป็นประจำ สำหรับใครที่ต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับยางรถยนต์เพิ่มเติม ก็สามารถเข้าไปติดตามต่อได้ที่ https://www.bridgestone.co.th/