ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


ดูดไขมัน มีขั้นตอนเป็นอย่างไร

ดูดไขมัน มีขั้นตอนเป็นอย่างไร
« เมื่อ: ตุลาคม 18, 2022, 03:05:02 PM »
ค่านิยมความสวยงามในรูปร่างแต่ละคนล้วนไม่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นหุ่นสาวอวบ หุ่นนุ่มนิ่ม หรือหุ่นผอมเพรียว และสำหรับผู้ที่ชื่นชอบหรืออยากมีหุ่นผอมเพรียวปราศจากไขมันส่วนเกิน แต่รู้สึกว่าการควบคุมอาหารและออกกำลังกายนั้นยังไม่สามารถตอบสนองต่อความต้องการได้มากพอ หรือต้องการเส้นทางลัดเพื่อให้ได้หุ่นเป๊ะตามที่คาดหวัง การใช้เทคโนโลยีดูดไขมันอาจตอบโจทย์ของคุณได้แน่นอน

โดยในบทความนี้เราจะมาแนะนำให้ได้รู้จักกับการดูดไขมัน ว่ามีขั้นตอนเป็นอย่างไร นิยมดูดไขมันในส่วนไหนบ้าง เจ็บมากขนาดไหน อันตรายหรือไม่ รวมไปถึงข้อสงสัยต่าง ๆ อีกมากมายที่พร้อมจะเฉลยลงที่นี่!

ดูดไขมัน มีขั้นตอนเป็นอย่างไร

การดูดไขมัน คือ?
การดูดไขมัน หรือ Liposuction คือการดูดไขมันส่วนเกินในบริเวณที่ต้องการออกมา เพื่อให้ไขมันที่มีการสะสมเฉพาะที่ในบริเวณนั้นลดน้อยลง โดยการดูดไขมันจะเป็นการใช้เครื่องมือที่มีลักษณะหน้าตาคล้ายท่อยาว ๆ ใส่เข้าไปใต้ผิวหนัง เพื่อทำการดูดไขมันเหล่านั้นออก

และถ้าหากถามว่าการดูดไขมันดีไหม ก็ขอตอบเลยว่าค่อนข้างดีเลยทีเดียว สำหรับผู้ที่ต้องการมีหุ่นเพรียวสวย กระชับ และได้สรีระที่ตรงตามต้องการ ทั้งยังไม่ต้องกลุ้มใจอีกต่อไปว่าทำไมออกกำลังกายและคุมอาหารเท่าไหร่ไขมันที่สะสมถึงไม่หายไปสักที

สำหรับผู้ใดที่กำลังเผชิญปัญหาแบบนี้ หรือมีความต้องการดังที่ได้กล่าวไป ก็อาจเรียนรู้ข้อมูลต่าง ๆ เพิ่มเติมได้จากทางคลินิกที่มีความเชี่ยวชาญด้านการดูดไขมัน


การดูดไขมันคืออะไร

ดูดไขมันมีประโยชน์อย่างไรบ้าง

  • สามารถช่วยลดไขมันส่วนเกินสะสมที่ไม่สามารถเผาผลาญออกด้วยการออกกำลังกายได้
  • ช่วยทำให้สัดส่วนดูเล็กลง และกระชับมากขึ้น ไม่หย่อนย้อย
  • ช่วยให้มีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น
  • ช่วยให้การเคลื่อนไหวร่างกายนั้นสะดวกกว่าเดิม
  • สามารถแต่งตัวและหาเสื้อผ้าใส่ได้ง่ายดายขึ้น

ตำแหน่งใดบ้างที่นิยมดูดไขมัน

ในการดูดไขมันนั้นสามารถที่จะทำได้หลากหลายตำแหน่งด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการดูดไขมันหน้าท้อง ต้นขา  น่อง การดูดไขมันเหนียง สะโพก ปีกหลัง การดูดไขมันต้นแขน แผ่นหลัง กก้น รวมไปถึงการดูดไขมันข้อเท้า

ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วตำแหน่งที่หลาย ๆ คนมักนิยมดูดไขมันกันนั้นจะได้แก่

1.ดูดไขมันทั้งตัว

การดูดไขมันทั้งตัวคือการดูดไขมันส่วนเกินที่สะสมอยู่ในทุกส่วนของร่างกายออกภายในการดูดไขมันครั้งเดียว ไม่ว่าจะเป็นส่วนหน้าท้อง ต้นขา ต้นแขน หรือส่วนอื่น ๆ โดยการดูดไขมันทั้งตัวนั้นจะสามารถดูดออกหมดภายในการทำกี่ครั้งก็ขึ้นอยู่กับขนาดตัวในแต่ละเคสไป

2.ดูดไขมันหน้าท้อง

ทุกคนอย่าลืมว่าเทคโนโลยีการดูดไขมันจะช่วยลดได้เพียงไขมันใต้ผิวหนังเท่านั้น ไม่สามารถที่จะลดไขมันในช่องท้องได้ ดังนั้นผลลัพธิ์หลังจากที่ทำการดูดไขมันหน้าท้องก็อาจจะแตกต่างกันออกไป ถ้าหากมีเพียงไขมันใต้ชั้นผิวหนัง ก็จะเห็นผลลัพธิ์ได้ชัดเจน แต่ถ้าหากมีไขมันมากภายในช่องท้อง ก็อาจทำให้มองเห็นผลลัพธิ์จากการดูดไขมันได้ไม่ชัดเจน

3.ดูดไขมันต้นแขน

ก่อนที่จะทำการดูดไขมันต้นแขนนั้นแพทย์จะทำการวินิจฉัยก่อนว่าต้นแขนมีขนาดใหญ่จากสาเหตุใด เพราะถ้าหากมีขนาดใหญ่จากกล้ามเนื้อหรือผิวหย่อนคล้อย ก็ไม่สามารถที่จะดูดไขมันต้นแขนได้ เพราะการลดขนาดต้นแขนด้วยการดูดไขมันจำเป็นจะต้องมีต้นแขนที่ใหญ่จากการเกิดไขมันสะสมเท่านั้น

4.ดูดไขมันเอวเอส

การดูดไขมันเอวเอสนั้นจำเป็นต้องทำโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและเข้าใจในการออกแบบสัดส่วน เพื่อให้ได้รูปร่างเอวที่มีส่วนเว้าโค้งอย่างพอดีและเป็นธรรมชาติ โดยการดูดไขมันเอวเอสจะเป็นการดูดไขมันส่วนเกินตั้งแต่ช่วงเอวด้านหน้าไปจนถึงบริเวณเหนือสะโพก

5.ดูดไขมันต้นขา

ก่อนที่จะทำการดูดไขมันต้นขานั้นแพทย์จะทำการวินิจฉัยถึงสาเหตุที่ทำให้ต้นขามีขนาดใหญ่เสียก่อน เพราะหากมีสาเหตุมาจากกล้ามเนื้อขา หรือไขมันที่แทรกในกล้ามเนื้อ ก็ไม่สามารถที่จะดูดไขมันเพื่อลดขนาดต้นขาได้ แต่ถ้าหากมีสาเหตุมาจากไขมันที่สะสมใต้ผิวหนัง ก็สามารถที่ลดขนาดต้นขาด้วยการดูดไขมันได้

ดูดไขมันตำแหน่งไหนบ้างที่นิยม

ดูดไขมันอันตรายไหม
การดูดไขมันในปัจจุบันนั้นมีความปลอดภัยค่อนข้างมาก เนื่องจากมีเทคนิคที่ดีสำหรับการดูดไขมัน มีเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ดีและปลอดภัย มีห้องปฏิบัติการที่ปลอดเชื้อ มีการใช้ยาสลบที่ปลอดภัย ทั้งยังมีการลดความเจ็บปวดด้วย Tumescent อีกด้วย

ดูดไขมันเจ็บไหม
การดูดไขมันก็นับเป็นการผ่าตัดชนิดหนึ่ง ซึ่งแน่นอนว่าหนีความเจ็บปวดไม่พ้นแน่นอน แต่ทั้งนี้ระดับความเจ็บปวดจากการดูดไขมันก็จะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างด้วยกัน

ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดูดไขมันที่เลือกใช้ วิธีที่ใช้ในการระงับความเจ็บปวด ความมือเบาของแพทย์แต่ละคน ความหนาแน่นของไขมันในบริเวณนั้น ๆ รวมไปถึงระดับความอดทนของคนไข้แต่ละคน

ดูดไขมันที่ไทยหรือเกาหลีดี
ในสมัยปัจจุบันนี้คลินิกที่ประเทศไทยก็มีมาตรฐานเทียบเท่ากับเกาหลีได้เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทันสมัย เทคนิคในการดูดไขมัน ความสามารถในการออกแบบสัดส่วน รวมไปถึงเทคนิคในการซ่อนแผลดูดไขมัน

ดูดไขมันที่ไทยหรือเกาหลีดี

Tumescent คืออะไร
Tumescent คือสิ่งที่ช่วยลดความเจ็บปวดขณะที่ทำการดูดไขมัน ช่วยให้เสียเลือดน้อยลง ช่วยให้การดูดไขมันทำได้ง่ายขึ้น และยังลดความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะไขมันอุดตันในเส้นเลือดขณะที่ดูดไขมันอีกด้วย โดย Tumescent จะประกอบไปด้วยน้ำเกลือ ยาชา และยาที่ทำให้เส้นเลือดหดตัว

วิธีการเตรียมตัวสำหรับดูดไขมัน
  • นอนหลับและพักผ่อนให้เพียงพอ
  • งดการรับประทานยา หรือสมุนไพรบางชนิด อย่างน้อย 7 วันก่อนทำการดูดไขมัน เช่น ยาแก้ปวด วิตามินD วิตามินC วิตามินA หรือน้ำมันตับปลา เป็นต้น
  • งดรับประทานอาหาร และงดดื่มน้ำหรือเครื่องดื่มทุกชนิด อย่างน้อย 8 ชั่วโมงก่อนที่จะทำการดูดไขมัน (กรณีที่ทำการดูดไขมันแบบใช้ยาสลบ)
  • งดแต่งหน้า ทาครีม และล้างสีเล็บ เพื่อให้แพทย์สามารถสังเกตอาการต่าง ๆ และสภาวะขาดออกซิเจนได้ (กรณีที่ทำการดูดไขมันแบบใช้ยาสลบ)
  • งดสวมใส่เครื่องประดับ หรือฟันปลอม (กรณีที่ทำการดูดไขมันแบบใช้ยาสลบ)
  • ใส่เสื้อผ้าที่หลวม และสวมใส่สบาย
  • หากมีอาการฟันโยกควรแจ้งแพทย์ให้ทราบก่อน (กรณีที่ทำการดูดไขมันแบบใช้ยาสลบ)
  • ไม่ควรขับรถกลับเอง

วิธีดูดไขมัน

1.ทำการใส่ Tumescent

การใส่ Tumescent เป็นการทำเพื่อลดความเจ็บปวดและการเสียเลือดให้ลดน้อยลงขณะที่ทำการดูดไขมัน รวมไปถึงเป็นการขยายพื้นที่ให้เส้นเลือดกับเส้นประสาทลอยอยู่ในน้ำ เพื่อลดการกระทบกระเทือนที่อาจเกิดจากเข็มดูดไขมัน

2.แยกเซลล์ไขมัน

กรณีที่ใช้เครื่องดูดไขมัน Body-jet จะเป็นการใช้พลังงานน้ำฉีดเข้าไปเพื่อสลายเซลล์ไขมัน ส่วนกรณีที่ใช้เครื่องดูดไขมัน Ultraz หรือ Vaser จะเป็นการใช้แรงสั่นสะเทือนของพลังคลื่นเสียงอัลตราซาวนด์เพื่อสลายไขมัน

3.นำไขมันออกมา

ทำการดูดไขมันออกมาด้วยเครื่องมือ และเก็บไว้ในถังเก็บไขมัน

วิธีดูไขมัน

หลังดูดไขมัน เป็นอย่างไร
หลังจากที่ทำการดูดไขมันเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มักจะพบกับ 3 อาการหลัก ๆ ด้วยกัน ดังนี้

1.อาการวิงเวียน หน้ามืด

อาการวิงเวียนศีรษะ หน้ามืด หรือคลื่นไส้อาเจียน เกิดมาจากปัจจัย 2 สิ่งคือ การสูญเสียน้ำในร่างกาย หรือเกิดจากฤทธิ์ยาชาที่ใช้ ซึ่งอาการเหล่านี้สามารถหายไปภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากที่ดูดไขมัน

2.อาการปวด

อาการปวดเกิดจากการที่เนื้อเยื่อได้รับความกระทบกระเทือนขณะที่ทำการดูดไขมัน โดยระยะเวลาคงอยู่ของอาการปวดจะขึ้นอยู่กับเครื่องดูดไขมันที่ใช้ ดังนี้

  • กรณีที่ใช้เครื่องดูดไขมัน Body-jet จะมีอาการปวด 1-2 วันโดยประมาณ
  • กรณีที่ใช้เครื่องดูดไขมัน Ultraz หรือ Vaser จะมีอาการปวด 5-7 วันโดยประมาณ

3.อาการบวม

อาการบวมนั้นในกรณีที่ใช้เครื่องดูดไขมัน Body-jet จะมีอาการบวมค่อนข้างมาก โดยระยะเวลาของอาการจะคงอยู่ประมาณ 3-7 วัน ส่วนในกรณีที่ใช้เครื่องดูดไขมัน Ultraz หรือ Vaser นั้นจะมีอาการบวมที่น้อยกว่า เนื่องจากน้ำที่ค้างอยู่ใต้ผิวมีปริมาณน้อย


อาการแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นหลังดูดไขมัน

  • หัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือการหายใจผิดปกติ
อาการหายใจผิดปกติและอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะอาจเกิดได้จากการใช้ยาชาเกินขนาด

  • การติดเชื้อ
การติดเชื้อจากการดูดไขมันนั้นมีโอกาสที่จะเกิดขึ้นน้อยมาก เนื่องจากยาชาที่มีการใส่อยู่ใน Tumescent มีฤทธิ์เป็นกรด จึงทำให้ช่วยฆ่าเชื้อได้บางส่วน แต่ก็มีสิทธิ์เกิดขึ้นได้ถ้าหากเลือกใช้บริการคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐานหรือไม่สะอาด

  • ผิวเป็นคลื่น
อาการผิวเป็นคลื่นสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน เช่น ดูแลตัวเองหลังจากทำการดูดไขมันไม่ถูกวิธี แพทย์ทำการดูดไขมันเยอะเกินไป หรือดูดไขมันผิดตำแหน่ง

  • เป็นไตแข็งใต้ผิว
อาการเป็นก้อนไตแข็งใต้ผิวหลังจากทำการดูดไขมันสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยด้วยกัน ทั้งห้อเลือด การเกิดพังผืด และ Seroma ซึ่งโดยปกติแล้วอาการนี้จะค่อย ๆ หายไปได้เอง

  • Seroma
Seroma เป็นภาวะที่ร่างกายผลิตน้ำขึ้นมาเพื่อเติมเต็มช่องว่างใต้ผิวที่เกิดจากการดูดไขมัน ในกรณีที่มีน้ำสะสมอยู่น้อยร่างกายจะสามารถดูดซึมเองได้ แต่ในกรณีที่มีน้ำสะสมอยู่มาก จะต้องให้แพทย์ช่วยทำการเจาะออก

สรุปเรื่องดูดไขมัน
การดูดไขมันในยุคสมัยปัจจุบันนี้มีความปลอดภัยที่สูงกว่าการดูดไขมันในสมัยก่อนมาก ทั้งยังได้รับการยอมรับและได้มาตรฐานแม้ว่าจะทำในประเทศไทย จึงสามารถตอบโจทย์ให้แก่ผู้ที่มีปัญหาไขมันส่วนเกินสะสมแล้วหาทางลดด้วยการออกกำลังกายไม่สำเร็จสักที