ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


วิทยุติดรถยนต์ เครื่องเสียงติดรถยนต์ มีกี่ประเภท? ยี่ห้อไหนดี? 2022

“วิทยุติดรถยนต์” หรือ “เครื่องเสียงในรถยนต์” เป็นอีกหนึ่งความบันเทิงที่ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนเมื่อยามต้องเจอกับสภาพการจราจรที่ติดขัดบนท้องถนนแบบไม่ขยับ (กทม. อ่วมรับวันจันทร์! ฝนตกหนัก น้ำท่วมขังหลายเส้นทาง https://www.tnnthailand.com/news/earth/126826/) และเตรียมขอความร่วมมือหน่วยงานภาครัฐและเอกชน Work From Home หรือ กลับบ้านเร็วขึ้นช่วง 5-7 ต.ค.นี้ เพื่อรับกับมือเหตุ "ฝนตกหนัก" แล้ววิทยุติดรถยนต์ เครื่องเสียงติดรถยนต์ มีทั้งหมดกี่ประเภท ยี่ห้อไหนบ้าง
 
วิทยุติดรถยนต์ เครื่องเสียงติดรถยนต์ มี่กี่ประเภท?

เครื่องเสียงรถยนต์มีทั้งแบบกดปุ่มและแบบจอสัมผัสติดรถยนต์ ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีชื่อเรียกแตกต่างกัน ได้แก่

1.   เครื่องเสียงติดรถยนต์ 1 DIN คือ ขนาดของตัวเล่น DVD ที่มีขนาด 178 × 50 mm เป็นเครื่องเสียงติดรถยนต์รุ่นเก่า ๆ ที่มีเครื่องเล่นเพียงอย่างเดียว ไม่มีจอสัมผัสหรือลูกเล่นอื่นๆ เพิ่มเติม
2.   เครื่องเสียงติดรถยนต์ 2 DIN คือ ขนาดของตัวเล่น DVD ขนาด 2 เท่าของ 1 DIN เป็นเครื่องเสียงติดรถยนต์ในรถรุ่นใหม่ๆ ที่มีจอทัชสกรีนและฟังค์ชันเสริมอื่นๆ เพิ่มเติม

วิทยุ/เครื่องเสียงติดรถยนต์ ประกอบด้วยอะไรบ้าง

1.   เครื่องเล่นวิทยุ เป็นอุปกรณ์ชิ้นแรกที่เชื่อมต่อไปยังระบบเครื่องเสียงต่างๆ ภายในรถยนต์ โดยสามารถทำรายการได้หลากหลาย เช่น ฟังวิทยุ ดูหนัง เล่นแผ่นซีดี เล่นเพลงจาก USB เชื่อมต่อบลูทูธกับโทรศัพท์สมาร์ทโฟน หรือใช้ต่อภาพหน้าจอเป็นกล้องหลังรถก็ได้

2.   ปรีแอมป์ (Pre Amp) คือ อุปกรณ์ตัวแรกที่รับสัญญาณจากเครื่องเล่นวิทยุ มีหน้าที่ขยายสัญญาณในระดับต่ำ เพื่อให้มีระดับเสียงที่เหมาะสมมากขึ้น ทั้งยังทำหน้าที่ขยายสัญญาณพร้อมการปรับแต่งเสียงให้ลงตัวยิ่งขึ้น

3.   ครอสโอเวอร์ (Crossover) อุปกรณ์ที่ทำหน้าที่จ่ายสัญญาณความถี่เสียง รวมไปถึงควบคุมและแบ่งแยกย่านความถี่ให้เหมาะสมกับลำโพงแต่ละประเภท และตัดความถี่เสียงที่ไม่ต้องการออกไป หรือ เรียกง่ายๆ ว่าเป็นเครื่องแบ่งความถี่เสียง ทั้งเสียงทุ้ม เสียงกลาง และเสียงแหลมนั่นเอง

4.   Power Amp (เพาเวอร์แอมป์) เครื่องขยายสัญญาณเสียง ทำหน้าที่เปลี่ยนหรือเพิ่มความกว้างของคลื่นเสียง หรือความดังของสัญญาณให้เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังมีการแยกคลาส (Class) ให้เหมาะกับลำโพงแต่ละประเภทอีกด้วย ส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยม มักติดตั้งไว้ใต้เบาะนั่ง กระโปรงหลัง หรือติดตั้งแอมป์แร็คไว้รองรับกรณีใช้งานหลายเครื่อง

5.   ลำโพงหรือสปีคเกอร์ (Speaker) คือ ตัวแปลงสัญญาณไฟฟ้าให้เป็นเสียง ซึ่งได้รับกำลังมาจากเครื่องเล่นวิทยุ และอุปกรณ์ขยายสัญญาณต่างๆ ก่อนหน้านี้ มีหลายประเภท หลายรุ่น ให้เลือกใช้งานตามความเหมาะสม เช่น ลำโพงแกนร่วม ลำโพงแยกชิ้น ลำโพงเสียงสูง ลำโพงเสียงกลาง ลำโพงเสียงต่ำ ลำโพง 6×9 นิ้ว หรือลำโพงซับวูฟเฟอร์ ที่เน้นให้แต่เสียงทุ้ม เสียงเบสอย่างเดียว
 
เครื่องเสียงติดรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี 2022

1.   Pioneer รุ่น AVH-Z5250BT

เครื่องเสียงรถยนต์รุ่น AVH-Z5250BT จาก PIONEER เป็นรุ่นที่ถือได้ว่าได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเนื่องจากสามารถเล่นเพลงหรือวิดีโอได้ด้วยคุณภาพระดับพรีเมียม รองรับการเชื่อมต่อแบบบลูทูธได้ถึง 2 เครื่องพร้อมกัน เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับหน้าจอขนาดใหญ่ 6.8 นิ้ว เป็นเครื่องเสียงรถยนต์ 2 din ที่สามารถทำให้กดใช้งานปุ่มต่าง ๆ บนหน้าจอได้อย่างสะดวก และสามารถมองเห็นภาพบนหน้าจอได้อย่างคมชัดมากขึ้น ใครที่ชอบใช้แอพลิเคชันต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Youtube, Spotify, Apple Carplay หรือ Android Auto ก็สามารถใช้บนเครื่องเสียงติดรถยนต์รุ่น AVH-Z5250BT ได้เช่นกัน

2.   Worldtech รุ่น WT-A803

ด้วยฟังก์ชันฟังก์ชันการเล่นเพลง, วิดีโอ และ วิทยุ FM ซึ่งมาพร้อมกับการใช้งานอินเตอร์เน็ตผ่าน WiFi ที่เชื่อมต่อจากโทรศัพท์ ของเครื่องเสียงติดรถยนต์ Worldtech รุ่น WT-A803 ซึ่งทำให้สามารถ ฟังเพลง ดูละคร ดูซีรีส์ ด้วยขนาดหน้าจอติดรถยนต์ที่กว้างถึง 7 นิ้ว ทำให้สามารถดูได้อย่างสบายตา หรือใช้งานฟังก์ชันต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกสบาย หรือหากอยากจะใช้ดูแผนที่ GPS ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน

3.   Alpine รุ่น iLX-W650E

ALPINE รุ่น iLX-W650E ถือเป็นหนึ่งใน เครื่องเสียงติดรถยนต์ ที่มีฟังก์ชันการรับคำสั่งด้วยเสียง ทำให้ผู้ใช้งานสามารถออกคำสั่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการโทรศัพท์ หาเส้นทาง เขียนข้อความ บอกสภาพอากาศ และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยไม่ต้องละสายตาจากท้องถนน นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับฟังก์ชันที่รองรับการทำงานร่วมกับ Apple CarPlay และ Android Auto ทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานฟังก์ชันต่าง ๆ ได้ง่ายดายมากขึ้น โดย ALPINE รุ่น iLX-W650E นี้ ยังมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 7 นิ้ว เรียกได้ว่าใช้ดูหนัง ซีรีส์ หรือละครต่าง ๆ ตอนฝนตกรถติดได้อย่างดี

4.   Kenwood รุ่น DMX1025BT

เครื่องเสียงรถ KENWOOD รุ่น DMX1025BT มีฟังก์ชันรองรับ Mirror Link เฉพาะแอนดรอยด์ ซึ่งทำให้สามารถควบคุมการทำงานต่าง ๆ ได้ผ่านหน้าจอโทรศัพท์ ตัวเครื่องยังสามารถอ่านไฟล์วิดีโอในความคมชัดระดับ Full HD และรองรับไฟล์เพลงได้อย่างหลากหลายไฟล์ ทั้ง .flac .wav (96 KHz/24 bit) โดยมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.8 นิ้ว
 
5.   Sony รุ่น DSX-A410BT

SONY รุ่น DSX-A410BT นอกจากจะมีขนาดเล็กะทัดรัดแล้ว ยังสามารถเชื่อมต่อได้ทั้งแบบบลูทูธ, USB และ AUX IN ซึ่งทำให้สามารถเลือกใช้งานการเชื่อมต่อได้อย่างสะดวกสบาย เล่นไฟล์เสียงได้แบบคุณภาพสูง โดยไม่มีการบีบอัดเสียง นอกจากนี้เครื่องเสียงรถยนต์ SONY รุ่น DSX-A410BT ยังมีรีโมตควบคุมคำสั่ง ทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานได้สะดวกขึ้นและใช้งานในระยะไกลได้อีกด้วย
 
วิทยุในรถยนต์ หรือเครื่องเสียงติดรถยนต์ ถือเป็นอีกหนึ่งความบันเทิงที่ช่วยทำให้หายหงุดหงิดจากปัญหาการจราจรติดขัดได้ระหว่างการเดินทาง แต่ก็ควรขับรถด้วยความระมัดระวังอย่างเต็มที่ ปลอดภัย และไม่ประมาท ยิ่งเป็นการเดินทางในเมืองกรุงที่มีปัญหาจราจรบนท้องถนน ยิ่งต้องเตรียมตัวรับมือให้พร้อม เลือกทำประกันรถยนต์ ด้วยประกันภัยรถยนต์คนกรุง ประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ ประเภท 1 เบี้ยเริ่มต้น 11,600 บาท อัตราเบี้ยคงที่เท่ากันทุกปีคุ้มครองครอบคลุมทุกกรณี สนใจรายละเอียด คลิก www.smk.co.th/productmotordetail/19 หรือ โทร.1596  Line : @smkinsurance พร้อมติดตามอ่านข้อมูลและเนื้อหาสาระดีดีเพิ่มเติมได้ที่  https://smkinsurance.blogspot.com