ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


คุณพ่อคุณแม่ควรรับมืออย่างไรยามทารกท้องเสีย เผยวิธีดูแลที่ถูกต้อง

   ทารกท้องเสียมีอาการอย่างไรบ้าง อาการท้องเสียในทารกนั่นก็คือถ่ายอุจจาระบ่อย มีลักษณะเป็นน้ำมีกลิ่นเหม็นเน่า ไม่มีกากใย รวมไปถึงบางครั้งอาจจะมีมูกหรือเลือดปน ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ต้องคอยสังเกตอาการเหล่านี้ว่าลูกป่วยหรือไม่ รวมไปถึงเฝ้าสังเกตอาการอื่น ๆ ของทารกว่ามีไข้ อาเจียน หรือเบื่ออาหารร่วมด้วยหรือไม่ ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้แพทย์วินิจฉัยอาการได้เร็วและรักษาได้รวดเร็วกว่าเดิม และพ่อแม่ควรเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์ที่ว่าควรจะทำอย่างไรจึงจะบรรเทาอาการป่วยท้องเสียของทารกได้ โดยการดูแลทารกเบื้องต้นเมื่อท้องเสียที่คุณพ่อคุณแม่สามารถทำได้มีดังนี้
วิธีบรรเทาอาการ เมื่อทารกท้องเสีย
   เด็กทารกท้องเสียเป็นอาการที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เนื่องจากทารกที่ยังไม่รู้ความมักจะเอามือหรือสิ่งต่าง ๆ รอบตัวเข้าปาก รวมไปถึงการโอบกอดของคุณพ่อคุณแม่และญาติในบางครั้งที่ไม่ได้ระมัดระวังเชื้อโรคสิ่งสกปรกมากพอก็มีโอกาสที่จะนำเชื้อโรคเข้าสู่ตัวทารกได้โดยที่ไม่รู้ตัว ดังนั้นเมื่อลูกมีอาการถ่ายเป็นน้ำบ่อยและเริ่มร้องงอแงเป็นสัญญาณที่ผิดปกติ อันเป็นสัญญาณเริ่มต้นของโรคท้องเสียคุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยลูกน้อยบรรเทาอาการให้ลดน้อยลงโดยเบื้องต้นด้วยวิธีต่อไปนี้
1.   ไม่ให้ยาแก้ท้องเสีย
แท้จริงแล้วอาการท้องเสียคือกระบวนการทางร่างกายของมนุษย์ทุกคนที่พยายามขับออกมาเมื่อมีเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายของเสียออกหรือด้วยการอาเจียนออกมา ดังนั้นยามลูกท้องเสียจึงไม่ควรให้ยาแก้ท้องเสีย เพราะจะทำให้เชื้อโรคที่ตกค้างอยู่ในร่างกายไม่ถูกขับออกมา และอาจเกิดการติดเชื้อตามมา
2.   ไม่งดนมแม่
อาการท้องเสียทำให้ถ่ายบ่อยสูญเสียน้ำและเกลือแร่ในร่างกาย ก่อให้เกิดอันตรายต่อตัวทารกนั่นก็คืออาการขาดน้ำขึ้นได้ ดังนั้นอันดับแรกในคุณพ่อคุณแม่สังเกตว่าลูกมีอาการอาเจียนร่วมด้วยหรือไม่ หากไม่ได้มีอาการอาเจียนร่วมด้วยควรให้ลูกกินนมแม่เป็นปกติ เพราะนมแม่ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันและเพิ่มสารอาหารที่เป็นประโยชน์ให้แก่ร่างกายลูก มีสารอาหาร ไขมัน และเกลือแร่ครบ แต่ถ้าหากทารกมีอาการอาเจียนร่วมด้วยควรพาไปพบแพทย์โดยด่วน เพื่อให้แพทย์วินิจฉัยและวิธีรักษาที่ถูกต้อง ให้สารละลายอิเล็กโทรไลต์ในปริมาณที่เหมาะสมกับทารก
3.   ไม่ให้ดื่มน้ำหวาน
การที่คุณพ่อคุณแม่ให้ลูกจิบน้ำหวานหรือน้ำผลไม้ หรือของมีรสหวานอื่น ๆ อาจส่งผลให้อาการของลูกแย่ลงกว่าเดิม หากต้องการเพิ่มความสดชื่นควรให้ลูกจิบน้ำเกลือแร่สำหรับทารกในปริมาณที่พอเหมาะ หรือปรึกษาแพทย์ถึงวิธีการให้เกลือแร่แก่ทารกที่ถูกต้อง
4.   ดูแลความสะอาด
สิ่งสำคัญเลยนั่นก็คือการดูแลสิ่งแวดล้อมรอบตัวของทารกให้มีความสะอาด เพราะเมื่อลูกท้องเสียจะมีการถ่ายอุจจาระเหลวเป็นน้ำบ่อยครั้ง จึงก่อให้เกิดการสะสมของเชื้อโรค และสร้างความอับชื้นไม่สบาย คุณพ่อคุณแม่ควรดูแลทำความสะอาดอย่างพิถีพิถันบริเวณก้น ขาหนีบ และอวัยวะเพศของลูกให้สะอาดและซับให้แห้งเสมอ ไม่ให้มีความชื้น หมั่นเปลี่ยนผ้าอ้อมบ่อย ๆ เพื่อป้องกันการเกิดผดผื่นและการระคายเคือง
อาการทารกท้องเสียเกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง
   สาเหตุหลักที่ทำให้เด็กทารกท้องเสียคือเชื้อโรค ทั้งเชื้อไวรัสและแบคทีเรียที่สกปรกทั้งหลายล้วนก่อให้เกิดอาการถ่ายเป็นน้ำ ปวดท้อง อาเจียน และ มีไข้ นอกจากนี้ยังมีกรณีที่คุณแม่ดื่มน้ำผลไม้มากไป หรือคุณแม่ป้อนน้ำผลไม้ซึ่งมีน้ำตาลเยอะให้แก่ทารก เพราะน้ำตาลในผลไม้สามารถทำให้กระเพาะอาหารของทารกระคายเคืองได้หากรับประทานในปริมาณที่มากเกินไป และเด็กทารกที่อายุไม่ถึง 1 ปี ไม่ควรให้รับประทานนมวัว เพราะอาจก่อให้เกิดอาการแพ้โปรตีนในนมวัวจนเกิดอาการท้องเสียได้
สุดท้ายคือหากทารกท้องเสียในช่วงวัยที่อายุไม่ถึง 3 เดือนอาจจะมีความเสี่ยงอื่น ๆ ตามมา คุณพ่อคุณแม่ควรรีบพาไปพบแพทย์ทันทีที่เริ่มมีอาการ เพื่อให้แพทย์วินิจฉัยและทำการรักษา ในกรณีที่ทารกกินนมแม่ คุณแม่อย่าลืมแจ้งข้อมูลกับแพทย์ว่าได้รับประทานอาหารอะไรไปบ้างก่อนที่ทารกจะท้องเสีย ส่วนทารกที่รับประทานนมผง คุณแม่ควรแจ้งแพทย์ให้ทราบว่านมผงยี่ห้ออะไร และได้ป้อนอะไรให้ทารกรับประทานนอกจากนมผงหรือไม่ เพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้องและรวดเร็วต่อการรักษาต่อไป

ชมรายละเอียดเพิ่มเติมที่
https://www.nestlemomandme.in.th/baby-diarrhoea