ข้อดี-ข้อเสีย ของการเรียนแบบ home school อีกทางเลือกของระบบการศึกษา

[ว่านโบตั๋น]

home school เป็นอีกหนึ่งทางเลือกด้านการศึกษาของเด็กรูปแบบหนึ่งที่พ่อแม่สามารถจัดให้ลูกได้ที่บ้าน เด็กไม่จำเป็นต้องไปเรียนที่โรงเรียน และยังสามารถจัดสรรเวลาและจัดตารางการเรียนให้ตรงกับที่เด็กต้องการศึกษา โดยสามารถนำผลการเรียนที่ประเมินได้นั้นส่งไปที่หน่วยงานที่รับผิดชอบคือสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาออกใบรับรองการศึกษาที่นำไปเทียบวุฒิการศึกษาได้ ซึ่งจะทำให้เด็กได้รับวุฒิการศึกษาอย่างถูกต้อง  เพื่อศึกษาต่อในระดับถัดๆไป

โดยโฮมสคูล มีหลากหลายรูปแบบให้สามารถเลือกได้อย่างเหมาะสม
การเรียนแบบครอบครัวเดี่ยว เป็นการจัดการศึกษาโดยพ่อแม่เป็นผู้ประเมินผลการเรียนของลูก โดยสามารถนำผลการประเมินไปขอเทียบวุฒิการศึกษาได้จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
การเรียนแบบกลุ่ม เป็นลักษณะการจัดการเรียนโดยการรวมกลุ่มระหว่างผู้ปกครองที่จะนัดรวมกลุ่มการทำกิจกรรมในบางโอกาส เพื่อให้เด็กมีปฏิสัมพันธ์ร่วมการและยังช่วยในการฝึกการเข้าสังคมระหว่างเด็ก ส่วนในเวลาปกติที่ไม่ได้รวมกลุ่ม พ่อแม่จะจัดการเรียนการสอนด้วยตนเองที่บ้านให้กับลูก
การเรียนแบบรวมศูนย์ เป็นการจัดการเรียนโดยการจัดตั้งศูนย์การเรียน มีรูปแบบคณะกรรมการดูแล มีรูปแบบการเรียนการสอนที่ออกแบบร่วมกันเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดกับเด็ก และมีการทำกิจกรรมแบบกลุ่มเพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ ช่วยในเรื่องของการเข้าสังคมและทำงานร่วมกันอีกด้วย
การเรียนร่วมแบบมีข้อตกลงกับโรงเรียน เป็นลักษณะการเรียนที่พ่อแม่จะทำหน้าที่จัดการเรียนการสอนให้กับลูก โดยทางโรงเรียนจะช่วยในเรื่องของการสนับสนุนอุปกรณ์และสื่อการเรียนการสอน รวมถึงให้เด็กได้มาทำกิจกรรมร่วมกับเด็กคนอื่นของทางโรงเรียนบ้าง มีการประเมินผลการเรียนร่วมกันระหว่างพ่อ แม่ โรงเรียน และมีการออกใบรับรองจากโรงเรียนเมื่อจบการศึกษาตามหลักสูตร
การเรียนแบบออนไลน์ เป็นรูปแบบการเรียนที่บ้านโดยจะใช้เนื้อหาหลักสูตรของต่างประเทศ
   
ข้อดีของ การเรียนแบบโฮมสคูล
มีความยืดหยุ่นด้านเวลา เด็กไม่ต้องไปโรงเรียน จัดการศึกษาได้ตลอดเวลา สามารถเรียนจบได้ไวกว่าการเรียนในระบบ
สามารถปรับรูปแบบหลักสูตรให้เหมาะสมกับความถนัดและความสามารถของเด็กแต่ละคนได้ดี
พ่อแม่สามารถอยู่กับลูกได้ตลอดเวลา ช่วยพัฒนาความสัมพันธ์ในครอบครัว Milo

ข้อเสียของ การเรียน home school
หากพ่อแม่ไม่มีความเข้าใจในการจัดการเรียนลักษณะนี้เท่าที่ควร อาจะทำให้เด็กได้รับความรู้ที่ไม่มากพอ
เด็กอาจขาดทักษะการเข้าสังคม การทำงานเป็นกลุ่ม
หลักสูตรที่จัดอาจไม่ตอบโจทย์ต่อยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ทำให้พ่อแม่ต้องหมั่นหาความรู้ให้เพียงพอต่อการสอน
ความกดดันที่มาจากความเข้มงวดของพ่อแม่มากเกินไป อาจทำให้เด็กเกิดความเครียด
   การจัดการเรียนรูปแบบ โฮมสคูล Milo ต้องมีการพิจารณาและวางแผนเป็นอย่างดี ซึ่งจำเป็นต้องวิเคราะห์ถึงความพร้อมและความเหมาะสมของแต่ละครอบครัว เพื่อให้การเรียนการสอนประสบผลสำเร็จตามที่คาดหวังไว้สูงสุด ดูข้อมูลเพิ่มเติม https://www.milo.co.th/blog/homeschool-คืออะไร