เลือกถุงยางอนามัย

[อัญณา]

เลือกถุงยางอนามัย
ต้องบอกเลยว่าการมีเพศสัมพันธ์นั้นเป็นเรื่องปกติ และทุกคนสามารถทำได้เมื่อถึงวัยที่เจริญพันธ์แล้ว แต่ว่าการมีเพศสัมพันธ์ทุกครั้งจะต้องมีการคุมกำเนิด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต โดยถุงยางอนามัยเป็นอีกหนึ่งสิ่งในการคุมกำเนิดแบบชั่งคราวที่ได้รับความนิยมอย่างยิ่ง เพราะว่ามีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังป้องกันการตั้งท้อง การติดโรค และการที่จะทำให้การป้องกันสิ่งต่างๆ เหล่านี้สมบูรณ์ก็คือการใส่ถุงยางอนามัยที่มีไซส์พอดี เหมาะสมกับสรีระ และเราจึงมีวิธีการเลือกไซส์ของถุงยางมาฝากกันดังนี้
อะไรคือถุงยางอนามัย
สำหรับถุงยางอนามัยก็คืออุปกรณ์สำหรับการใช้ในการคุมกำเนิดชั่วคราวเพราะว่าหาซื้อไม่ยาก อีกทั้งยังสะดวกใช้ง่าย ปัจจุบันนี้ก็ทำจากยางพาราและยางสังเคราะห์เป็นส่วนใหญ่  โดยมีการป้องกันการตั้งท้องได้ 98 เปอร์เซ็นต์ และยังป้องกันการติดเชื้อโรคติดต่อทางการมีเพศสัมพันธ์ได้ดี เช่นโรคเอดส์ โรคหนองใน โรคซิฟิลิสอีกด้วย
ขนาดถุงยางอนามัย
เนื่องจากถุงยางอนามัยนั้นเป็นสิ่งที่ต้องอาศัยไซส์ที่พอดีจึงจะมีประสิทธิภาพ เราควรเลือกซื้อถุงยางให้เหมาะสม เช่นถุงยาง 52  หรือ 49,54, 56 จริงอยู่ที่ว่าในโลกนี้มีถุงยางมากถึง 6 ขนาด แต่ที่หาซื้อกันไม่ได้ยากเกินไปก็คือ4 ขนาด
1.ถุงยาง 49
สำหรับแบบแรกได้แก่ ถุงยางอนามัยที่มีความกว้างเมื่อคลี่แล้วเอาวางแนบกันกับพื้น จะวัดได้ตามความกว้างตั้งแต่ขอบหนึ่ง ไปอีกหนึ่งขอบที่ 49 มิลลิเมตรและความยาวจะอยู่ที่ 160 มิลลิเมตร
2.ถุงยาง52
เหมือนกับ 49  แต่เมื่อวัดแล้ว จากขอบหนึ่งไปอีกขอบหนึ่งก็คื 52 มิลลิเมตร ยาว 180 มม.
3.ถุงยาง 54
วัดจากขอบหนึ่งไปอีกขอบหนึ่งได้ 54 มิลลิเมตร ยาว 190 มิลลิเมตร
4.ถุงยาง
วัดความกว้างจากขอบหนึ่งไปจนถึงถึงขอบหนึ่งได้ 56 มิลลิเมตร ยาว 214 มิลลิเมตร
ทำอย่างไรจึงจะสามารถวัดไซซ์ถุงยางอนามัยให้ใส่พอดี
สำหรับคนที่อยากให้การป้องกันการตั้งครรภ์ การคุมกำเนิด การป้องกันโรคได้ผล จะต้องเลือกไซส์ให้เหมาะสมกับตนเอง หากใหญ่หรือว่าเล็กมากไปอาจจะใส่แล้วไม่ได้ผล หรือหลุดก็เป็นไปได้
การวัดไซส์ทำได้ดังนี้
1.วัดเส้นรอบวงตอนที่อวัยวะเพศแข็งตัว โดยใช้เชือกพัน 1 รอบ เมื่อนำเชือกมากางจะเท่ากันได้ดีกับเส้นรอบวง จากนั้นให้เอาขนาดที่วัดได้มาหาร 2 เช่น วัดเส้นรอบวงได้ 10.6 หาร 2 ได้ 5.3 เมื่อเปลี่ยนเป็นมิลลิเมตรก็จะเท่ากับ 53 มิลลิเมตร ซึ่งสามารถใส่ได้ทั้งไซส์ 52 และ 54

การเลือกถุงยางอนามัย
1.เลือกความหนาความบาง และผิวสัมผัส รวมไปถึงกลิ่น เพราะแต่ละแบบก็เหมาะสมกับแต่ละคนไปนั่นเอง
2.หากเราทราบขนาดของถุงยางอนามัยแล้ว ก็จะต้องดูที่ฉลากว่ามี อย.หรือไม่ นอกจากนี้หากมีวันเดือนปีที่ผลิตก็ให้บวกเพิ่มไป 5 ปี เพื่อตรวจสอบวันหมดอายุ และอย่าลืมดูว่าบรรจุภัณฑ์มีความสมบูรณ์มากหรือน้อยแค่ไหน ขำรุดเสียหายหรือไม่ เพื่อให้มันใจว่าถุงยางนั้นพร้อมใช้งานมากแค่ไหน
หลายๆ คนก็คงจะกำลังคิดหนักใช่ไหมว่าเราจะเลือกแบบไหนดีจึงจะเหมาะสมมากที่สุดเราควรเลือกแบบที่เหมาะสมกับตนเอง และขนาดพอดีเพื่อป้องกันโรค และป้องกันการตั้งท้องให้ได้