ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


การตั้งราคาขายสินค้า มีวิธีการตั้งอย่างไร ให้น่าสนใจ ขายดีแต่ไม่ขาดทุน

การตั้งราคาขายสินค้า

การตั้งราคาขายสินค้า เป็นปัญหาพื้นฐานที่สร้างความปวดหัวให้แก่พ่อค้าแม่ค้าไม่น้อย เพราะราคาเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อยอดขายเช่นเดียวกัน แล้วควรตั้งราคาเท่าไรดีจึงจะไม่ขาดทุนและได้กำไรอย่างเหมาะสม มาหาคำตอบกันได้ในบทความนี้

การตั้งราคาขายสินค้า ต้องคำนึงถึงปัจจัยอะไรบ้าง

- ต้นทุนรวม : โดยคิดจากค่าวัตถุดิบ+ค่าแรง+ค่าใช้จ่ายในการผลิต( เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่าห้อง) เมื่อทราบต้นทุนสินค้าตามจริง ก็จะช่วยให้ตั้งราคาไม่ต่ำเกินจนขาดทุนได้
- ราคาตลาด : นำราคาของสินค้าเดียวกันในท้องตลาดมาเปรียบเทียบกัน เพื่อนำมาใช้เป็นเกณฑ์ปรับเพิ่ม-ลดราคาตามความเหมาะสม
- กลุ่มลูกค้า : ลูกค้าแต่ละกลุ่มมีกำลังซื้อแตกต่างกัน การศึกษากลุ่มลูกค้าอย่างละเอียดจะช่วยให้กำหนดราคาได้แม่นยำมากขึ้น

7 เทคนิคการตั้งราคาสินค้า ให้ลูกค้าเห็นแล้วตัดสินใจซื้อทันที

1. ตั้งราคาให้ลงท้ายด้วยเลข 9

การตั้งราคาลักษณะนี้จะมีผลทางจิตวิทยา โดยลูกค้าจะรู้สึกว่าราคาที่ลงท้ายด้วยเลข 9 นั้นถูกกว่า เช่น เสื้อผ้าราคา 200 กับเสื้อผ้าราคา 199 แม้จะต่างกันแค่หนึ่งบาท ก็ยังรู้สึกถูกกว่าอยู่ดี

2. ตั้งราคาแบบเหมา

เป็นการตั้งราคาที่ถูกลงหากซื้อในปริมาณมาก เหมาะสำหรับใช้กับสินค้าที่เหมือนๆกันจนซื้อยกแพคจะคุ้มค่ากว่าการซื้อแบบปลีก เทคนิคนี้หากใช้เป็นราคาโปรโมชั่นก็มักจะดึงดูดลูกค้าได้ดีเลย

3. ตั้งราคาที่คำนวณได้ง่าย

สินค้าบางตัวควรตั้งราคาให้ลงท้ายด้วยเลข 0 หรือ 5 เพราะจะง่ายต่อการคำนวณ ไม่ต้องกดเครื่องคิดเลข ลูกค้าจะตัดสินใจซื้อได้เร็วขึ้น เหมาะสำหรับใช้กับห้างร้านที่ลูกค้าจะซื้อสินค้าคราวเดียวหลายชิ้น เช่น ร้านสะดวกซื้อ ร้านของชำ เป็นต้น

4. ตั้งราคาแบบหลอกล่อ

เป็นเทคนิคที่พบได้บ่อยตามคาเฟ่ขายเครื่องดื่ม มักเป็นการตั้งราคา 3 ระดับ ใช้กับสินค้าที่มีคุณภาพเหมือนๆกันแต่อาจต่างกันที่ขนาดหรือปริมาณ เช่น กาแฟแก้วเล็ก(49 บาท)/กลาง(69 บาท)/ใหญ่(79 บาท) หลายคนอาจจะเลือกซื้อแก้วใหญ่มากกว่าแก้วกลางเพราะรู้สึกว่าเพิ่มเงินอีกนิดก็ได้สินค้าที่ปริมาณมากกว่าแล้ว

5. คิดราคาแยกกับค่าส่ง

ในการซื้อสินค้าจะมีการเปรียบเทียบราคาเป็นเรื่องปกติ ซึ่งถ้าตั้งราคาแบบรวมส่งก็จะทำให้สินค้านั้นดูมีราคาแพงจนไม่น่าซื้อในสายตาของลูกค้า

6. ราคาต้องออกเสียงได้สั้นและจำง่าย

หากสินค้ามีราคาที่ออกเสียงได้สั้นและง่าย ก็จะเป็นที่จดจำได้ง่ายกว่าเช่นเดียวกัน

7. ตั้งราคาขายเป็นราคาเริ่มต้น

แม้จะตั้งราคาแพงแต่ก็ต้องทำให้จับต้องได้ สินค้าในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์มักมีราคาสูง แต่การตั้งราคาส่วนใหญ่จะมีคำว่า “ราคาเริ่มต้นเพียง” ซึ่งเป็นคำพูดที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าเข้าถึงสินค้าได้แม้ราคาจะแพงมากก็ตาม

การตั้งราคาขายสินค้าให้เหมาะสม มีความสำคัญอย่างไร

ราคาขายมีผลต่อการตัดสินใจซื้อของลูกค้ามาก หากตั้งราคาได้เหมาะสมกับสินค้าหรือบริการ ก็เป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ เรียกง่ายๆว่ามีผลต่อการเพิ่มยอดขายนั่นเอง

สรุปได้ว่า การตั้งราคาขายสินค้า เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ลูกค้าตัดสินซื้อสินค้าและบริการ แต่จะตั้งราคาได้อย่างเหมาะสมก็ต้องรู้จักสินค้าและกลุ่มลูกค้าของตัวเองเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามหากมีการประเมินปัจจัยที่เกี่ยวข้องแล้วเรียบร้อยก็สามารถนำข้อมูลดังล่าวมาตั้่งราคาร่วมกับเทคนิคที่แนะนำไปข้างต้นกันได้เลย

ขอบคุณข้อมูลจาก : https://packhai.com/how-to-set-price-product/