สายลงทุนห้ามพลาด 5 ไลฟ์สไตล์ที่เหมาะกับการทำประกันสะสมทรัพย์

[มุทิตา แสนสุข]

ถ้าเราพูดถึงการออมเงินที่ปลอดภัย ได้ผลตอบแทนที่แน่นอน และไม่อยากเสี่ยงกับการขาดทุนจากความผันผวนจากการลงทุน หลายๆ คนอาจจะนึกถึงการออมเงินกับบัญชีฝากประจำแบบปลอดภาษี แต่ที่จริงอีกรูปแบบการออมเงินที่สามารถใช้ในการลดหย่อนภาษีได้และหากเสียชีวิต ผู้ที่อยู่ด้านหลังก็จะได้รับเงิน และผู้ซื้อได้รับเบี้ยประกันคืนเมื่อครบสัญญาในกรมธรรม์นั้นก็คือ การออมผ่าน ประกันสะสมทรัพย์
ประกันสะสมทรัพย์ เป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ออกแบบมาเพื่อใช้ออมเงิน และอาจได้รับความคุ้มครองในลักษณะ ประกันสุขภาพ เช่น ประกันโรคร้าย  ประกันโรคมะเร็งไปพร้อม ๆ กัน เมื่อผู้เอาประกันส่งเบี้ยประกันตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ ประกันชีวิตจะจ่ายเงินคืนให้กับเรา โดยสามารถเลือกแผนการคืนเงินได้ ทั้งแบบจ่ายเงินคืนเป็นก้อน หรือแบบแบ่งจ่ายเงินคืนระหว่างสัญญาก็ได้ มีแผนให้เลือกมากมาย เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังวางแผนการเงินอยู่
เช่น ประกัน 16/6 Plus (แบบมีความคุ้มครองโรคร้ายแรง) จะมีให้ความคุ้มครองครอบคลุม ประกันโรคร้าย สามารถรับเบี้ยฯ ส่วนโรคร้ายแรงแรงคืนทั้งหมดเมื่อครบกำหนดสัญญา โดยรับเงินก้อนทันทีเมื่อตรวจพบโรคร้ายแรงในปีที่ 6 – 16 แต่เมื่อครบสัญญาก็จะได้รับเงินในส่วนเบี้ยคุ้มครองโรคร้ายแรงคืนเต็มจำนวนเมื่อครบ 16 ปี
 3 โรคร้ายแรงที่คุ้มครอง ประกอบไปด้วย โรคมะเร็งระยะลุกลาม โรคหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน และ กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจากการขาดเลือด จึงถือได้ว่าเป็น ประกันโรคมะเร็ง ที่คุ้มค่า เหมาะสำหรับคนที่กลัวว่าเบี้ยที่ส่งไปจะสูญเปล่า เพราะถ้าหากไม่เคลม 1 ใน 3 โรคร้ายแรงดังกล่าว จะได้รับเบี้ยฯ ส่วนโรคร้ายแรงคืนทั้งหมดเมื่อครบสัญญา โดยมีระยะเวลาชำระเบี้ยประกันเพียง 6 ปีแรกเท่านั้น สามารถเลือกได้ว่าจะส่งเงินชำระเบี้ยประกันภัยเป็นรายปีหรือราย 6 เดือน
อีกตัวอย่างหนึ่งของประกันประเภทนี้ คือ ประกันเพราะอุ่นใจได้เงินหมุน 15/7 ทำการส่งเบี้ยประกันเพียงแค่ 7 ปีแรก และได้รับเงินคืนสูงและเร็ว 20% ทุกปี ทำให้นอกจากจะใช้ลดหย่อนภาษีได้แล้ว ยังสามารถได้รับเงินหมุนคืนอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามตัวนี้ไม่ได้มีความคุ้มครอง ประกันสุขภาพ เช่น ประกันโรคมะเร็ง
และเราสรุปให้แล้วว่า 5 ไลฟ์สไตล์ของคนที่เหมาะกับ ประกันสะสมทรัพย์ คือ
คนที่ต้องการออมเงินให้เงินต้นปลอดภัย
คนที่ต้องการลดหย่อนภาษี
คนที่ต้องการ ประกันสุขภาพ ที่คุ้มค่า (มักเป็นสัญญาเพิ่มเติมที่ต้องซื้อเพิ่ม) เช่น ประกันโรคร้าย
คนที่ต้องการวางแผนการเงิน เพื่อการใช้ชีวิตหลังเกษียณอย่างมีความสุข
คนที่ต้องการความคุ้มค่าจากการลงทุนมากกว่าการฝากประจำแบบปลอดดอกเบี้ย