ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


มาทำความเข้าใจกับแผนออมเงินพร้อมลดหย่อนภาษีด้วยกองทุน SSF และ RMF

มาทำความเข้าใจกับแผนออมเงินพร้อมลดหย่อนภาษีด้วยกองทุน SSF และ RMF ทางเลือกที่ใช่สำหรับมนุษย์เงินเดือน
   เพราะมนุษย์เงินเดือนมีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี ซึ่งหลายคนต้องชำระภาษีเพิ่มเป็นเงินจำนวนไม่น้อย การหาวิธีลดหย่อนภาษีจึงเป็นแนวทางที่หลายคนใช้วางแผนสำหรับการยื่นภาษีเป็นประจำทุกปี ในปัจจุบันกรมสรรพากรได้เปิดให้นำค่าใช้จ่ายต่าง ๆ มายื่นเพื่อลดหย่อนภาษีได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นดอกเบี้ยจากการผ่อนบ้าน ค่าเลี้ยงดูบุตร ค่าเลี้ยงดูบิดามารดา การทำประกันชีวิต รวมถึงการลงทุนในระยะยาวผ่านกองทุนที่เรียกว่า rmf และ SSF
   รู้จัก 2 กองทุนที่เป็นตัวช่วยลดหย่อนภาษีให้กับมนุษย์เงินเดือน
   กองทุน SSF (Super Saving Fund) เป็นกองทุนที่เพิ่งเข้ามาเป็นทางเลือกให้กับมนุษย์เงินเดือนเมื่อช่วงปี 2563 แทนกองทุน LTF หรือกองทุนรวมหุ้นระยะยาวที่หมดอายุไปในปี 2562 กองทุน SSF นี้สามารถเข้าไปลงทุนในสินทรัพย์ได้อย่างหลากหลายไม่ว่าจะเป็นหุ้นในประเทศ หุ้นต่างประเทศ อสังหาริมทรัพย์ ตราสารหนี้และทองคำ โดยผู้ที่จะลงทุนสามารถเลือกกองทุน SSF ที่เหมาะสมกับความต้องการได้ ไม่มีข้อกำหนดวงเงินขั้นต่ำในการลงทุนแต่ละครั้งและไม่จำเป็นต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี ทั้งนี้สามารถซื้อหน่วยลงทุนเพื่อการลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 30% ของรายได้พึงประเมินที่จะต้องเสียภาษี ไม่เกิน 200,000 บาท แต่ทั้งนี้จะต้องถือกองทุนที่ซื้อและใช้สิทธิลดหย่อนภาษีนี้ไว้ไม่น้อยกว่า 10 ปี
   กองทุน rmf หรือกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (Retirement Mutual Fund) เป็นกองทุนที่มุ่งส่งเสริมการออมในระยะยาวเพื่อความมั่นคงหลังเกษียณการทำงาน โดยสามารถเลือกลงทุนได้อย่างหลากหลายไม่ว่าจะเป็นการลงทุนหุ้นในประเทศ หุ้นต่างประเทศ อสังหาริมทรัพย์ ตราสารหนี้และทองคำ ทั้งยังสามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 30% ของรายได้พึงประเมินที่จะต้องเสียภาษี แต่ไม่เกิน 500,000 บาท และเมื่อรวมกับกองทุนเพื่อลดหย่อนภาษีประเภทอื่น ๆ (เช่น SSF) ด้วยแล้วจะต้องไม่เกิน 500,000 บาท สำหรับกองทุนประเภทนี้จะต้องถือหน่วยลงทุนไม่น้อยกว่า 5 ปี นับจากการซื้อครั้งแรกและจะขายกองทุนได้เมื่ออายุของผู้ถือหน่วยลงทุนครบ 55 ปี โดยมีข้อกำหนดให้ต้องซื้อต่อเนื่องทุกปีหรือซื้อแบบปีเว้นปีก็ได้
   การลงทุนแบบ dca ช่วยเฉลี่ยต้นทุนและลดภาษีได้อย่างลงตัว
   การลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษีเป็นประจำนั้นจะช่วยเฉลี่ยต้นทุนให้ต่ำลงได้ในระยะยาว เหมาะกับผู้ลงทุนที่ไม่มีเวลาหรือไม่ต้องการติดตามความเคลื่อนไหวของมูลค่าหน่วยลงทุน (NAV) เป็นประจำก็สามารถเลือกวิธีการลงทุนแบบ dca (Dollar Cost Average) ได้ โดยสามารถแจ้งกับทางผู้จัดการกองทุนขอลงทุนในจำนวนเท่า ๆ กันเป็นประจำทุก ๆ เดือนโดยไม่ต้องสนใจ NAV ในช่วงนั้น ๆ หรือจะใช้วิธีการให้ธนาคารหักเงินจากบัญชีเป็นประจำทุกเดือนเพื่อนำไปลงทุนในกองทุนที่เลือกก็ได้ ซึ่งวิธีการแบบนี้เองจะทำให้ต้นทุนเฉลี่ยในระยะยาวต่ำในทุกสภาวะตลาด
   การเลือกกองทุนลดหย่อนภาษีที่ใช่ด้วยวิธีการลงทุนอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอจะช่วยให้มนุษย์เงินเดือนลดภาระภาษีเงินได้ประจำปีพร้อมกับสร้างความมั่นคงทางการเงินเพื่อเตรียมรับการเกษียณได้อย่างลงตัว
ที่มาข้อมูล
-   https://www.scb.co.th/th/personal-banking/stories/make-kid-millionaire.html
-   https://www.setinvestnow.com/th/mutualfund/how-to-pick-mutual-funds
-   https://www.set.or.th/set/education/html.do?name=preretire_isp_preretire-3&innerMenuId=48