ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


รวมไว้ให้แล้ว เรื่องที่ต้องรู้และข้อควรระวังก่อน ติดตั้งหลังคาเมทัลชีท

แบบบ้านยุคใหม่ที่มาในสไตล์โมเดิร์น (Modern Style) กำลังได้รับความนิยมสูง เพราะมีรูปแบบที่สวยงาม หรูหรา และเรียบง่ายลงตัว บ้านในสไตล์นี้มักเน้นนำวัสดุอุตสาหกรรมมาใช้สร้างความโดดเด่น โดยเฉพาะเหล็กและกระจก พร้อมรูปทรงที่สามารถตอบโจทย์การใช้ประโยชน์พื้นที่ได้อย่างลงตัวที่สุด ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นทรงเรขาคณิต เช่น เป็นสี่เหลี่ยมหรือทรงโค้ง ซึ่งต้องอาศัยวัสดุที่สามารถตอบสนองการใช้งานตามแบบได้เป็นอย่างดี สามารถทำหลังคาบ้านทรงโมเดิร์น ให้เข้ากับสไตล์บ้านได้
 “แผ่นหลังคาเมทัลชีท” กลายเป็นวัสดุหลักที่นิยมนำมาปรับใช้กับแบบบ้านในสไตล์นี้ ไม่เพียงแต่ใช้ ติดตั้งหลังคาเมทัลชีท ให้กับบ้านเท่านั้น หากแต่ยังนำมาทำเป็นผนัง ตกแต่งรวมถึงยังนิยมนำมาทำ หลังคาโรงรถ อีกด้วย ทั้งนี้เนื่องจากหลังคาประเภทนี้สามารถติดตั้งได้ง่ายและรวดเร็วเพราะมีน้ำหนักเบา จึงส่งผลให้การออกแบบโครงสร้างทางวิศวกรรมเพื่อรับน้ำหนักของหลังคาทำได้ง่าย ไม่ต้องใช้ต้นทุนสูง ทั้งยังมีความทนทาน ไม่เป็นสนิมง่าย ลดปัญหารั่วซึมจากจุดรอยต่อของหลังคาอีกด้วย
แต่กระนั้น การเลือกใช้แผ่นเมทัลชีทเพื่อทำหลังคาหรือนำไปใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ ก็มีข้อต้องพิจารณาหลายด้าน ได้แก่
1.   ต้องคำนึงถึงความลาดชันของหลังคา ทั้งนี้ แผ่นหลังคาเมทัลชีท มีคุณสมบัติเฉพาะตัวที่สามารถติดตั้งให้มีความลาดชันต่ำเพื่อให้รูปทรงของตัวบ้านมีความทันสมัยแต่กระนั้น ก็จำเป็นต้องคำนึงถึงข้อจำกัดของรูปลอนด้วยเช่นกัน
2.   ต้องคำนึงถึงความห่างของระยะแป สำหรับแปที่มีระยะห่างมากก็ควรเลือก ติดตั้งหลังคาเมทัลชีท ที่มีความหนามากกว่าแปที่มีระยะห่างน้อย
3.   คำนึงถึงลักษณะของงาน ที่จะนำแผ่นเมทัลชีทไปใช้หรือติดตั้ง ซึ่งในกรณีที่งานต้องการรูปลอนให้มีความโค้งมากกว่าปกติ ก็ควรพิจารณาเลือกแผ่นเมทัลชีทที่เป็นเหล็กเกรดนิ่ม ซึ่งจะมีความยืดหยุ่นมากกว่า
4.   คำนึงถึงอายุการใช้งานของแผ่นเมทัลชีท โดยทั่วไป Metal Sheet ที่มีปริมาณมวลสารเคลือบมากจะสามารถทนทานต่อการกัดกร่อนได้ดีกว่าแผ่นที่มีปริมาณมวลสารเคลือบน้อย ดังนั้นหากต้องการให้มีอายุการใช้งานยาวนาน ก็ควรเลือกชนิดที่มีปริมาณมวลสารเคลือบมาก ซึ่งสามารถดูได้จากตัวเลขค่า AZ ที่ระบุไว้ที่หลังคา หากมีตัวเลขสูง หมายถึงการมีมวลสารเคลือบมาก เช่น AZ 90 เป็นต้น
5.   ตรวจสอบคุณภาพและความน่าเชื่อถือ โดยควรตรวจสอบจากจากแบรนด์ของผู้ผลิตเหล็กที่เชื่อถือได้ รวมถึงต้องตรวจสอบครื่องหมายรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ด้วยเพื่อให้มั่นใจว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตตามมาตรฐานสากล
   นอกจากความสวยงามทันสมัยและตอบโจทย์รูปทรงของอาคารบ้านเรือนได้หลากหลายสไตล์แล้ว แผ่นเมทัลชีทที่นำมาทำหลังคายังมีคุณสมบัติพิเศษช่วยลดความร้อนและสะท้อนความร้อนให้กับตัวบ้านได้เป็นอย่างดีอีกด้วย เนื่องจากสามารถระบายความร้อนได้เร็วกว่าหลังคาคอนกรีต จึงทำให้บ้านเย็นเร็วกว่า แต่กระนั้นหลังคาประเภทนี้ก็ยังสามารถเพิ่มฟังก์ชั่น “ฉนวนกันความร้อน” ที่ทำให้สามารถรับมือกับอุณหภูมิความร้อนและป้องกันเสียงได้มากขึ้นอีกด้วย โดยสามารถเลือกฉนวนประเภทต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลายไม่ว่าจะเป็น ฉนวนใยแก้ว (Fiberglass) ซึ่งมีลักษณะเป็นแผ่นหนาหุ้มด้วยฟอยล์, ฉนวนใยหิน (Rock Wool) ที่ทำมาจากเส้นใยของหินบะซอลท์จากภูเขาไฟ สามารถกันความร้อนใต้หลังคาได้เป็นอย่างดี, โฟมพียู (PU) ที่มีคุณสมบัติสำคัญในด้านการส่งผ่านความร้อนได้ต่ำที่สุด, โฟมพีอี (PE) ซึ่งเป็นแผ่นหนาและเหนียว หุ้มด้วยแผ่นฟอยล์บาง ๆ ต้านทานความร้อนและแรงกระแทกได้ดี และแบบที่เป็นโฟมอีพีเอส (EPS) มีคุณสมบัติกันทั้งความร้อนและยังเก็บความเย็นไว้ได้อีกด้วย
ชมรายละเอียดเพิ่มเติมที่
https://zacsroof.nsbluescope.com/th/garage-roof-materials-guide/