ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


ทำความรู้จักวิธีกิน ยาปรับฮอร์โมน และตอบคำถามว่ากินแล้วหน้าใส รักษาสิวอย่างไร

                สาว ๆ เมื่ออยู่ในช่วงวัยเจริญพันธุ์อาจประสบปัญหาอาการมีประจำเดือนมาไม่ปกติ สาเหตุมาจากความเครียด ฮอร์โมนแปรปรวน หรืออื่น ๆ กับสาว ๆ ที่มีครอบครัวแล้วแต่ต้องการป้องกันการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ ทั้ง 2 กลุ่มนี้สามารถเลือกใช้ยาที่ช่วยแก้ปัญหาทั้ง 2 ประเภทซึ่งเราเรียกว่า ยาปรับฮอร์โมนต่ำ หรือยาคุมกำเนิดได้ ซึ่งนอกจากมีคุณสมบัติหลักคือช่วยป้องกันการตั้งครรภ์แล้ว ยังสามารถใช้เป็น ยาคุมรักษาสิว ได้ด้วย ดังนั้นวันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับประโยชน์ของยาคุมกำเนิดกัน
 
                ยาปรับฮอร์โมน หรือยาคุมกำเนิดคือยาเม็ดที่มีส่วนประกอบของฮอร์โมน 2 ชนิดคือ Ethinyl Estradiol (EE) ที่จะทำหน้าที่คล้ายฮอร์โมนเพศหญิงหรือเอสโตรเจน กับโปรเจสติน (Progestin) หรือฮอร์โมนเพศหญิงที่แบ่งหลัก ๆ ออกได้เป็น 4 รุ่นตั้งแต่มีฤทธิ์น้อย เช่น Ethynodiol diacetate ไปจนถึงกลุ่มที่มีประสิทธิภาพสูง เช่น ดรอสไพรีโนน (Drospirenone) ลดอาการบวมน้ำ หรือ เดโซเจสเทรล (Desogestrel) และไซโปรเตอโรน อะซิเตท (Cyproterone acetate) ซึ่งมีคุณสมบัติต้านฮอร์โมนเพศชาย ใช้เป็น ยาคุมรักษาสิว ลดอาการขนดกในผู้หญิง โดยรวมแล้วส่วนประกอบของยาคุมกำเนิด นอกจากหน้าที่หลักคือช่วยคุมกำเนิด ยังเพิ่มเติมคุณสมบัติในการเป็น ยาคุมหน้าใส เพราะช่วยลดสิว ผิวมันและลดอาการบวมน้ำด้วย ส่วนคำถามที่ว่ายาคุมกำเนิดใช้เป็น ยาคุมหน้าใส หรือรักษาสิวได้อย่างไรก็ขึ้นอยู่กับส่วนประกอบของฮอร์โมนที่มีอยู่ในตัวยา กล่าวคือ
1)   ee35c เป็นชนิดที่มีเอสโตรเจน 0.035 mg สารไซโปรเตอโรน อะซิเตท (Cyproterone acetate) ช่วยต้านฮอร์โมนเพศชายซึ่งมีลักษณะเด่นตรงที่ผิวมันง่ายและมีสิวเห่อ ชนิด ee35c จึงเหมาะกับสาวที่มีสิวเห่อรุนแรง
2)   ee20d หรือ ee30d มีคุณสมบัติเหมือนกันคือช่วยลดอาการบวมน้ำและช่วยรักษาสิวระดับปานกลางได้ ยาทั้ง 2 ชนิดต่างกันตรงระดับเอสโตรเจนอยู่ที่ 0.02 mg และ 0.03 mg เหมาะสำหรับคนที่เพิ่งเคยกินยาคุมครั้งแรกเพราะผลข้างเคียงน้อย
3)   ชนิดที่มีเดโซเจสเทรล (Desogestrel) เป็นส่วนประกอบ เหมาะสำหรับคนที่เป็นสิวไม่มากและช่วยลดอาการเลือดออกกะปริดกะปรอย แต่หากเพิ่งกินเป็นครั้งแรกควรเลือกชนิด ee20d เพื่อลดอาการข้างเคียง

หลัก ๆ แล้วคือการกินยาคุมเพื่อรักษาสิวควรเลือกชนิด ee20d , ee30d หรือ ee35c แล้วแต่ลักษณะฮอร์โมนในร่างกายของแต่ละคนโดยจะต้องกินอย่างต่อเนื่อง 3 – 6 เดือนจึงจะเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน
 
อาจพูดได้ว่านี่เป็นเรื่องใหม่ที่สาว ๆ หลายคนยังไม่ทราบถึงประโยชน์ของยาคุมกำเนิดที่มีมากกว่าการป้องกันการตั้งครรภ์ นั่นก็คือการช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย ทำให้ประจำเดือนมาเป็นปกติ แถมท้ายด้วยการช่วยควบคุมน้ำหนัก และช่วยเรื่องสิวทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใสน่ามองมากขึ้นด้วย