« เมื่อ: ตุลาคม 11, 2021, 01:22:05 PM »
ท่อ HDPE (High Density Polyethylene) ผลิตมาจากตัวเรซินพอลิเอทิลีนที่มีความหนาแน่นสูง ทำให้เนื้อท่อมีคุณสมบัติที่เหนียวและแข็ง ไม่เปราะหรือแตกหักง่าย อีกทั้งตัวท่อมีการผสมสารป้องกันยูวี ทำให้สามารถทนต่อแดดได้อย่างดี รวมถึงยังทนทานต่อสารเคมี กรด ด่าง เกลือ อีกด้วย ทำให้สามารถนำไปใช้งานได้อย่างยาวนานโดยไม่ต้องกังวลว่าจะต้องซ่อมแซมในระยะสั้น ซึ่งท่อ HDPE จะต่างกับท่อ PVC และท่อประเภทอื่นๆ ตรงที่ท่อ HDPE จะมีความแข็งแรงและทนทานมากกว่าเมื่อต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่รุนแรง มีต้นทุนที่ต่ำกว่า และสามารถทนต่อความร้อนได้มากกว่าท่อ PVC นอกจากนี้ท่อ HDPE ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วยคุณสมบัติสำคัญของท่อ HDPE- สามารถดัดให้โค้งงอได้ตามรูปทรงที่ต้องการโดยไม่ต้องใช้กาวต่อท่อ
- ไม่เปราะหรือแตกหักง่าย ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน
- ตัวน้ำหนักของท่อ HDPE นั้นมีน้ำหนักเบา ทำให้สะดวกต่อการติดตั้งและขนส่ง
- ผิวมีลักษณะที่เรียบมัน ทำให้ของเหลวสามารถไหลภายในท่อได้อย่างสะดวก เหมาะที่จะใช้เป็นท่อสำหรับจ่ายน้ำดื่มและของเหลวที่เป็นอาหาร
ท่อ HDPE เหมาะกับการใช้งานประเภทใดโดยมากแล้ว ท่อ HDPE จะได้รับความนิยมในงานอุตสาหกรรม ระบบประปา งานเกษตรกรรม ท่อร้อยสายไฟฟ้าและสายเคเบิ้ล ท่อระบายน้ำทิ้งภายนอกอาคาร ไปจนถึงงานก่อสร้างต่างๆ ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นทำให้ผู้รับเหมาและเจ้าของอุตสาหกรรมขนาดเล็กและขนาดใหญ่ต่างเลือกใช้งานท่อประเภทนี้เป็นหลักวิธีเลือกใช้ท่อ HDPE ให้ได้คุณภาพสำหรับท่อ HDPE จะมีเส้นคาดอยู่ 2 ประเภทด้วยกัน นั่นคือประเภทที่มีเส้นคาดสีฟ้า จะเป็นท่อสำหรับการใช้งานประปา และเส้นคาดสีส้ม เป็นท่อสำหรับการใช้งานไฟฟ้า ซึ่งความยาวของท่อนั้นจะมีให้เลือกทั้งแบบท่อนและแบบม้วน ทั้งความยาว 6 เมตร สำหรับแบบท่อน หรือแบบม้วนที่มีความยาว 50 เมตร 100 เมตร หรือ 200 เมตร ขึ้นอยู่ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของท่อ และ ท่อ HDPE ที่ดีและได้มาตรฐาน ควรมีเครื่องหมาย มอก.982-2556 ควบคุมเอาไว้