ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


เคล็ดลับลดอาการแพ้ท้องจาก แอพตั้งครรภ์ คุณแม่มือใหม่ควรดูแลตัวเองอย่างไร

คุณแม่มือใหม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหลายอย่างเพื่อลดอาการแพ้ท้องรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์ที่ฝากครรภ์ หรือปรึกษาผ่าน แอพคนท้อง แอพคุยกับหมอ เพื่อศึกษาข้อมูลที่ถูกต้อง ผู้เชี่ยวชาญจะแนะนำข้อมูลการดูแลตัวเองและเคล็ดลับต่าง ๆ เพื่อรับมือกับอาการแพ้ท้องช่วยให้คุณแม่ท้องอ่อน ๆ ที่กำลังมีปัญหาแพ้ท้องรุนแรงและลูกน้อยในครรภ์มีสุขภาพดี มีข่าวสารน่าสนใจมาอัปเดตทุกวัน ดังนี้
1.กินยาลดอาการแพ้ท้องหรือวิตามินที่คุณหมอให้มา
ช่วงระยะแรก 1-3 เดือน คุณแม่ตั้งครรภ์ส่วนใหญ่มีอาการแพ้ท้อง บางรายคลื่นไส้วิงเวียนเล็กน้อย บางรายอาเจียนหนักมาก หากอาการไม่ดีขึ้นอาจจำเป็นต้องได้รับยาแก้แพ้ท้องจากแพทย์เท่านั้น ห้ามซื้อยากินเอง แอปพลิเคชันแนะนำให้รับประทานอาหารที่มีวิตามินบี 6 และสังกะสีช่วยลดอาการแพ้ท้องได้ วิตามินบี 6 มีมากในข้าวกล้อง ไข่ เนื้อหมู และกล้วย ส่วนแร่ธาตุสังกะสีมีอยู่ในเนื้อ นม ไข่ อาหารทะเล ถั่ว และข้าวโพด ไม่เพียงลดอาการแพ้ท้องได้เท่านั้น ยังส่งผลดีต่อ พัฒนาการทารกในครรภ์ ด้วย
2.จิบน้ำขิงระหว่างวัน
เป็นที่ทราบกันว่าดื่มน้ำขิงดีต่อสุขภาพหลายประการ แอพปรึกษาหมอ แนะนำว่าให้คุณแม่ที่มีอาการแพ้ท้องต้มน้ำขิงดื่มจิบบ่อย ๆ ตลอดทั้งวัน อาจชงผสมกับน้ำชาเพื่อลดความเผ็ดร้อน หรือทำเป็นบัวลอยน้ำขิงใส่น้ำตาลได้เล็กน้อย ไม่ควรรับประทานหวานเกินไปอาจเสี่ยงเป็นเบาหวาน น้ำขิงช่วยลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อ และกระตุ้นให้ขับถ่ายได้ดี ช่วยแก้ปัญหาท้องผูกที่เป็นได้ง่ายระหว่างตั้งครรภ์
3.พักผ่อนให้เพียงพอ
เมื่อรู้ตัวว่าตั้งท้องและไป ฝากครรภ์ เรียบร้อยแล้ว แพทย์และพยาบาลให้คำแนะนำกับคุณแม่มือใหม่ควรดูแลตัวเองอย่างไร การนอนเป็นเรื่องสำคัญเพื่อให้ไม่เหนื่อยล้าเกินไป โดยปกติร่างกายคนท้องมีการเปลี่ยนแปลงทำให้อ่อนเพลียง่าย แต่กรณีที่แพ้ท้องหนักมากจนนอนหลับไม่สนิทส่งผลให้วิตกกังวลเครียดหนักและนอนหลับยากขึ้นอีก ลองจัดห้องสร้างบรรยากาศให้เงียบและมืด ออกกำลังกายเบา ๆ ก่อนนอนช่วยผ่อนคลาย ทำให้นอนหลับได้ง่าย การนอนดึกไม่ดี แต่ถ้านอนไม่พอจะส่งผลต่อพัฒนาการของเด็กในท้องรุนแรงยิ่งกว่า
4.หลังกินข้าวไม่ควรนอนลงทันที
ท้องแล้วหิวบ่อย เหนื่อยง่าย ง่วงนอนตลอดเวลา แต่คุณแม่ตั้งครรภ์ไม่ควรนอนหลับทันทีหลังกินอิ่มใหม่ ๆ เพราะจะทำให้จุกเสียดแน่นท้องและเสี่ยงเกิดโรคกรดไหลย้อนได้ ก่อนนอนควรหลีกเลี่ยงอาหารมื้อดึก ไม่กินก่อนนอนประมาณ 2-3 ชั่วโมง
5.ปรับเปลี่ยนวิธีการกิน กินอาหารที่ย่อยง่าย
แอปสําหรับคนท้อง แนะนำให้กินอาหารที่ย่อยง่ายอย่างเช่นโปรตีนจากเนื้อปลา ระหว่างตั้งครรภ์หากกินอาหารมากเกินไปจะเป็นผลเสียมากกว่าผลดี เลือกอาหารที่มีประโยชน์ สารอาหารครบถ้วน และกินประมาณเพียงพอไม่ทำให้ท้องอืดท้องเฟ้อ คนท้องมักจะท้องผูกบ่อยกว่าปกติ ควรรับประทานผักและผลไม้ที่มีกากใยอาหารช่วยให้ถ่ายง่าย แต่จะต้องเคี้ยวให้ละเอียดด้วย
6.ดื่มน้ำอุ่นให้มากขึ้น
รสชาติของน้ำขิงอาจไม่ถูกปากหรือหลายคนดื่มแล้วเป็นร้อนใน ถ้าดื่มแล้วมีอาการผิดปกติให้เปลี่ยนมาดื่มน้ำอุ่นบ่อย ๆ ตลอดทั้งวัน ไม่จำเป็นต้องฝืนดื่มน้ำครั้งละมาก ๆ เพราะจะทำให้รู้สึกผะอืดผะอมและคลื่นไส้มากกว่าเดิม
คุณแม่มือใหม่มักจะกังวลกับอาการแพ้ท้อง กลัวว่าจะส่งผลต่อพัฒนาการของทารกในครรภ์ แนะนำให้ดาวน์โหลดแอป Alive Powered by AIA เป็นแหล่งความรู้ที่เชื่อถือได้ ลดความกังวลใจและความเครียดของคุณแม่ได้เป็นอย่างดีใครที่กังวลว่า แอป alive ดีไหม นั้นมี รีวิว แอพ alive จากคุณแม่มากมาย แอพตั้งครรภ์ ไม่เพียงเป็นช่องทางปรึกษาแพทย์และพยาบาลอย่างสะดวกง่ายดายเท่านั้น แต่ยังได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกับคุณแม่ที่มีประสบการณ์เพื่อการเจริญเติบโตที่ดีของลูกน้อยด้วย
ข้อมูลเพิ่มเติม https://www.amarinbabyandkids.com/uncategorized/review-app-alive-powered-by-aia/