ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


เริ่มแล้ว แคลิฟอร์เนียห้ามซื้อ-ขายรถมือสองเครื่องเบนซิน

รัฐแคลิฟอร์เนีย สั่งห้ามซื้อ-ขายรถมือสองและมือหนึ่งที่ขับเคลื่อนด้วยน้ำมันเชื้อเพลิงในอีก 25 ปี หรือนับตั่งแต่ปี 2578 เป็นต้นไป เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนหันมาใช้รถที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า พร้อมตั้งเป้าลดปริมาณการปลดปล่อยแก๊สเรือนกระจกลงร้อยละ 35

อาจสายเกินไป ถ้าไม่ออกคำสั่งห้ามซื้อ-ขายรถมือสองและมือหนึ่งเครื่องเบนซิน

ผู้ว่ารัฐแคลิฟอร์เนีย ระบุว่า ผู้ที่ผลักดันคำสั่งห้ามซื้อ-ขายรถมือสองและมือหนึ่งเครื่องเบนซินเผยว่า ช่วงหลายปีที่ผ่านมาเราปล่อยปละละเลยให้มีควันพิษลอยปะปนไปกับอากาศที่เราใช้หายใจ หลายคนในครอบครัวของทุกคนต่างสูดดมมันเข้าไปเต็มปอด

จึงออกมาตราการนี้ขึ้น เพราะไม่อาจปล่อยรถเป็นเหตุให้สถานการณ์ไฟป่าย้ำแย่ลง และทำให้เกิดปัญหาหมอกควันเพิ่มสูงขึ้น หรือทำให้น้ำแข็งละลาย จนระดับน้ำทะเลทั่วโลกสูงขึ้น ซึ่งส่งผลเสียต่อระบบนิเวศชายทะเล ใต้ท้องทะเลและชายฝั่งทั่วโลกด้วย

ถือเป็นเรื่องที่กล้าหาญอย่างยิ่ง ที่ยกระดับแคลิฟอร์เนียไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเปลี่ยนของสภาพภูมิอากาศ อันเนื่องมาจากการใช้พลังงานฟอสซิล ทั้งนี้ คำประกาศไม่ได้ห้ามประชาชนแคลิฟอร์เนียครอบครองรถที่ใช้น้ำมันแต่อย่างใด

เป็นรัฐเดียวในอเมริกา ที่สั่งห้ามไม่ให้ซื้อ-ขายรถมือสองเครื่องเบนซิน

รัฐแคลิฟอร์เนียเป็นเพียงรัฐเดียวของอเมริกาเท่านั้น ที่สั่งห้ามไม่ให้ซื้อ-ขายรถมือสองเครื่องเบนซิน เพื่อบังคับการใช้พลังงานฟอสซิลอย่างเต็มรูปแบบ พร้อมกันนี้ ยังให้ความสำคัญกับประเด็นรถยนต์และมลพิศอย่างเป็นรูปธรรมด้วยเช่นกัน

ส่วนสถานการณ์ในไทยยังซื้อขายได้ปกติ ทั้งจากในเว็บ https://www.toyotasure.com/web/faq/faq_static2.aspx และตามท้องตลาดทั่วไป ขณะที่หลายประเทศทั่วโลกเริ่มนำร่องเอาคำประกาศนี้ไปใช้ ในเวลาไล่เลี่ยกับแคลิฟอร์เนีย เช่น ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร และนอร์เวย์ ที่ออกมาประกาศแบนการจำหน่ายรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยการใช้พลังงานฟอสซิลมาภายในปี 2040 2050 และ 2025 ตามลำดับ.