บอกต่อความน่าสนใจของเครื่องดื่มไมโลที่หลายคนยังไม่รู้ พร้อมมาทำความรู้จักกัน

[อัญณา]

   คุณรู้ไหมว่าไมโลถูกคิดค้นขึ้นครั้งแรกไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อการค้าหรือเพื่อหวังผลกำไรแต่อย่างใด จาก ประวัติไมโล ถูกคิดค้นโดยนักวิจัยของเนสท์เล่ที่ชื่อ โทมัส เมน เพื่อแก้ไขปัญหาเด็กขาดสารอาหาร ซึ่งในช่วงปี ค.ศ. 1934 เป็นยุคเศรษฐกิจตกต่ำเกิดปัญหาราคาข้าวของแพงจึงส่งผลให้เด็ก ๆ ขาดสารอาหารกันเป็นจำนวนมาก โทมัส เมน จึงเริ่มต้นคิดค้นเครื่องดื่มที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางสารอาหารเพื่อให้เด็ก ๆ ได้ดื่มควบคู่กับอาหาร ซึ่งจะช่วยให้เด็ก ๆ มีพลังงานเพียงพอที่จะทำกิจกรรมต่าง ๆ ในแต่ละวัน

ไมโลเป็นผลิตภัณฑ์หนึ่งภายใต้เครื่องหมายการค้าของ “เนสท์เล่”
   หลายคนเข้าใจว่าไมโล คือ บริษัท ไมโลของ Milo แท้ที่จริงแล้วไมโลเป็นเพียงหนึ่งในผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้าของกลุ่มบริษัท Nestle (เนสท์เล่) ไม่ได้ถูกจดทะเบียนเป็น บริษัท ไมโล แต่อย่างใด ผลิตภัณฑ์ทุกประเภทที่วางจำหน่ายในแบรนด์ MILO ทั้งหมดถูกวิจัยและพัฒนาด้วยทีมวิจัยเนสท์เล่ทั้งสิ้น

ที่มาของชื่อ MILO (ไมโล)
   ไมโลเป็นชื่อของเทพเจ้าแห่งความแข็งแกร่งและเจ้าแห่งพละกำลังในยุคกรีกโบราณที่ชื่อว่า “MILO of Croton” หรือ ไมโลแห่งโครตอน เป็นยอดนักกีฬามวยปล้ำผู้มีพละกำลังแข็งแกร่งในปฐพีและเป็นผู้ก่อกำเนิดทฤษฎีการเพิ่มความแข็งแกร่งหรือ “ทฤษฎีไมโล” โดยการฝึกฝนร่างกายด้วยการยกวัวตัวเดิมทุก ๆ วัน จนกระทั่งสามารถยกวัวตัวใหญ่ที่โตเต็มวัยเดินไปมาและกลายเป็นผู้ชนะคว้าแชมป์ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกครั้งนั้นไปได้ ด้วยความมุ่งมั่นของไมโลแห่งโครตอนจึงได้ถูกนำมาตั้งเป็นชื่อแบรนด์สินค้าเครื่องดื่มที่เป็นขุมพลังและอุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายที่คุณแม่เลือกให้ลูก ๆ ทุกคนดื่มอย่างเช่นทุกวันนี้

ประโยชน์ของไมโล ที่หลายคนยังไม่รู้
   คุณทราบไหมว่าไมโลมีส่วนประกอบเป็นส่วนผสมพื้นฐานชนิดเดิมตั้งแต่ในอดีตมาจนถึงปัจจุบัน ได้แก่ มอลต์สกัดด้วยกระบวนการพิเศษเฉพาะของเนสท์เล่จนกลายมาเป็น “โปรโตมอลต์” ที่มีลักษณะเป็นของเหลวเหมือนน้ำผึ้งเข้มข้นผสมกับนม โกโก้ น้ำตาลและแอคทิฟ-โกที่เป็นกลุ่มวิตามินและแร่ธาตุ ซึ่งเป็นส่วนผสมเฉพาะสูตรของเนสท์เล่มีคุณสมบัติพิเศษในการช่วยเสริมประสิทธิภาพของร่างกายในการปลดปล่อยพลังงานภายในร่างกายได้ต่อเนื่องยาวนานตลอดทั้งวัน ส่วนผสมที่ไมโลคัดเลือกมานั้นล้วนผ่านการวิจัยถึง ประโยชน์ของไมโล โดยในไมโล 100 กรัม ให้พลังงานถึง 412 kcal ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพลังงานที่ได้จากกลุ่มคาร์โบไฮเดรตในรูปแบบคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่มีการเปลี่ยนจากแป้งเป็นน้ำตาลได้ช้าทำให้ร่างกายได้พลังงานต่อเนื่องยาวนานกว่านั่นเอง

        นอกจากความน่าสนใจที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้นไมโลยังได้ทำการการวิจัยและพัฒนารสชาติให้ถูกปากสำหรับผู้บริโภคในแต่ละประเทศ นั่นจึงทำให้รสชาติของไมโลในแต่ละประเทศแตกต่างกัน ปัจจุบันไมโลมีผลิตภัณฑ์หลากหลายแบบไม่ว่าจะเป็น ไมโล 3 in 1, ไมโล ยูเอชที, ไมโลแบบผงที่มาทั้งรูปแบบซองพร้อมชง แบบกล่องและแบบกระป๋อง เพื่อตอบโจทย์ที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคได้มากที่สุด จึงไม่น่าแปลกใจที่ผลิตภัณฑ์จากไมโลยืนหนึ่งในใจผู้บริโภคเสมอมา  นอกจากนี้ อย่าลืมติดตามกิจกรรมของไมโลกันด้วย โดยมีกิจกรรมไมโล ฟุตซอล 2020 (เพิ่มเติม: https://www.milo.co.th/our-brand) ให้ทุกคนได้ติดตามกัน อย่าลืมล่ะ ไมโล ฟุตซอล

ที่มาข้อมูล
-   https://www.milo.co.th/our-brand#starting
-   https://www.nestle.co.th/th/brands/chocolate_beverage
-   https://www.nestle.co.th/th/brands
-   https://sites.google.com/site/nestledpu/history
-   https://www.marketingoops.com/reports/10-milo-facts/
-   https://www.sanook.com/campus/1382705/
-   https://www.nestle.co.th/th/brands/chocolate_beverage/milo