ที่อยู่อาศัย คือปัจจัยที่สำคัญต่อการดำรงชีวิต การซื้อบ้านสักหลังไม่ได้เป็นเรื่องของหาบ้านที่ถูกใจ บนทำเลที่สะดวกต่อการเดินทางเพียงอย่างเดียว เพราะในการซื้อบ้านใหม่มูลค่าสูง การซื้อ ประกันอัคคีภัยจาก
ไทยประกันภัย ก็ยิ่งเป็นสิ่งจำเป็นที่ควรศึกษาควบคู่กันไปด้วย แม้ว่าจะไม่มีการเป็นกฎหมาย, ระเบียบ, หรือข้อบังคับ แต่หากต้องบริหารความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับที่อยู่อาศัย การทราบถึงเรื่องสำคัญในการทำประกันเป็นสิ่งที่คนซื้อบ้านใหม่ควรรู้ไว้
1. ความคุ้มครองของประกันภัยไฟไหม้สำหรับที่อยู่อาศัย แม้ว่าชื่อของประกันจะเน้นไปที่ความคุ้มครองที่อยู่อาศัยจากเหตุอัคคีภัย แต่ในสาระสำคัญที่กำหนดไว้ในรายละเอียดของประกันชนิดนี้ ให้การคุ้มครองครอบคลุมไปถึง ภัยจากการจลาจล, ภัยจากยานพาหนะ, ภัยที่เกิดจากธรรมชาติ เช่น ภัยสึนามิ, ภัยลูกเห็บ, พายุ, แผ่นดินไหว และการระเบิดของภูเขาไฟ เป็นต้น
2. ชดเชยความเสียหายมากกว่าตัวบ้าน ประกันไฟไหม้ สำหรับที่อยู่อาศัยไม่เพียงแต่ชดเชยตามมูลค่าความเสียหายจริงที่เกิดกับตัวบ้านเท่านั้น แต่ยังชดเชยความเสียหายครอบคลุมทรัพย์สิน เฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่อยู่ภายในบ้าน รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น ค่าดับเพลิง, ค่ารื้อถอนและขนย้ายซาก เป็นต้น นอกจากนี้เจ้าของบ้านที่ไม่สามารถอยู่อาศัยในบ้านที่ต้องซ่อมแซมหรือรื้อถอน ประกันภัยไฟไหม้สำหรับที่อยู่อาศัยยังชดเชยค่าที่อยู่อาศัยชั่วคราวสูงสุดวันละ 1,000 บาท แต่ไม่เกิน 100,000 บาทตลอดระยะเวลาเอาประกันภัย
3. การประเมินค่าทุนประกันภัยบ้าน การประเมินทุนประกันภัย ควรนำมูลค่าที่อยู่อาศัยไม่รวมมูลค่าที่ดิน รวมกับทรัพย์สินและเฟอร์นิเจอร์ที่อยู่ภายในบ้าน ทั้งนี้ในการประเมินทุนประกันภัยสามารถประเมินต่ำกว่ามูลค่าจริงของทรัพย์สินได้ แต่ไม่ควรประเมินทุนประกันภัยบ้านเกินกว่าความเป็นจริง เพราะการจ่ายค่าชดเชยความเสียหายของประกัน จะจ่ายตามความเสียหายที่เกิดกับตัวบ้านจริงบวกกับค่าเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้า
4. เทคนิคประหยัดค่าเบี้ย ประกันอัคคีภัย อัตราค่าเบี้ยประกันภัยคิดเป็นมูลค่า 0.1% ของทุนประกันภัย ซึ่งเป็นอัตราที่ค่อนข้างถูก แต่ในยุคที่ค่าใช้จ่ายสูง การทราบเทคนิคในการซื้อประกันภัยไฟไหม้สำหรับที่อยู่อาศัยจะช่วยลดค่าใช้จ่ายเพิ่มได้อีกเล็กน้อย โดยการซื้อประกันที่ให้การคุ้มครองระยะยาวจะมีอัตราเบี้ยประกันถูกลงหลายร้อยบาท รวมถึงการมีอุปกรณ์ป้องกันเหตุเพลิงไหม้หรือสัญญาณเตือนเหตุเพลิงไหม้ในตัวบ้าน จะทำให้ค่าเบี้ยประกันถูกลงไปอีก เนื่องจากประกันมองว่ามีความเสี่ยงต่อเหตุฉุกเฉินน้อยกว่า
5. เพิ่มความคุ้มครองให้กับตัวบ้านเพิ่มได้ สำหรับเจ้าของบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงสูงต่อการเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม, พายุ, สึนามิ, ภูเขาไฟระเบิด หรือแผ่นดินไหว เป็นต้น สามารถซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมเพื่อปรับวงเงินชดเชยจากปกติทุกภัยรวมกันไม่เกิน 20,000 บาทต่อปี เป็น 30% ของทุนประกันภัยได้ หรือในกรณีที่ทรัพย์สิน ของแต่งบ้าน เฟอร์นิเจอร์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้ามีราคาสูง เจ้าของบ้านสามารถซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มเงินชดเชยได้อีก 10% ของทุนประกันภัย
เจ้าของบ้านที่ไม่อยากแบกความเสี่ยงต่อเหตุอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับตัวบ้าน สามารถลดความเสี่ยงได้ด้วยการซื้อ ประกันไฟไหม้ เพราะในยามฉุกเฉิน ประกันจะช่วยลดภาระได้อย่างมาก ผ่อนหนักให้เป็นเบา ช่วยสร้างความสบายใจให้กับผู้อยู่อาศัย