แม้ว่าจะมีเบี้ยประกันที่สูงกว่าประกันรถยนต์ประเภทอื่นก็ตาม แต่การใช้งานรถที่หนักเกินไปก็คงต้องพึ่งประกันรถยนต์ชั้น 1 เพราะด้วยข้อดีของประกันชั้น 1 ดังนี้
1. คุ้มครองผู้เอาประกันทุกกรณี ไม่ว่าผู้เอาประกันจะเป็นฝ่ายถูกหรือฝ่ายผิด คู่กรณีจะเป็นสิ่งมีชีวิตหรือไม่มีชีวิตก็ตาม ประกันชั้น 1 สามารถคุ้มครองได้ทุกกรณี ซึ่งค่อนข้างแตกต่างกับ ประกันรถยนต์ 2+ และ
ประกันรถยนต์ 3+ ที่คุ้มครองผู้เอาประกันเฉพาะกรณีที่มีคู่กรณีเป็นยานพาหนะทางบกด้วยกันเท่านั้น
2. คุ้มครองคู่กรณีครอบคลุมไปถึงชีวิตและทรัพย์สินของคู่กรณีด้วย หากเกิดอุบัติเหตุแบบขั้นร้ายแรงจนทำให้รถหรือทำให้ทรัพย์สินใด ๆ ของคู่กรณีเสียหาย ประกันชั้น 1 จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าความเสียหายให้ตามวงเงินที่ทำประกัน
3. เบี้ยลดลง หากไม่มีประวัติเคลมเบี้ยประกันชั้น 1 ลดลงในทุก ๆ ปี ทั้งที่ความคุ้มครองต่าง ๆ จะยังเท่าเดิมทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของบริษัทประกันภัยนั้น ๆ แต่ที่แน่ ๆ เบี้ยประกันจะลดลงในรถยนต์ที่ไม่มีประวัติการเคลมเปรียบเสมือนการให้รางวัลสำหรับรถที่ไม่เคยเกิดความเสียหายให้เรียกเก็บจากประกันนั้นเอง
4. ครอบคลุมกรณีอื่นประกันชั้น 1 ไม่ได้ครอบคลุมเฉพาะในเรื่องของการชนเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมไปถึงกรณีอื่น ๆ ที่เกิดความเสียหายกับตัวรถด้วย เช่น สูญหาย ไฟไหม้หรือน้ำท่วม
5. ง่ายในการซ่อมแซมอย่างที่บอกว่าประกันชั้น 1 ใคร ๆ ก็อยากทำจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีศูนย์รับซ่อมหรืออู่ซ่อมรถยนต์ที่รับรถทำประกันชั้น 1 อยู่ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ ทำให้รถยนต์ที่มีประกันชั้น 1 จะเข้าซ่อมที่ศูนย์ไหนหรืออู่ไหนก็สามารถทำได้อย่างง่ายดาย
จริงอยู่ว่า ประกันรถยนต์ชั้น 1 อาจจะมีราคาค่าเบี้ยสูงไปสักหน่อยแต่เมื่อเทียบกับความคุ้มครองและความคุ้มค่าที่จะได้รับเมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้วถือว่าคุ้มไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว หากรถยนต์ที่ยังใช้ขับเคลื่อนไปเผชิญกับความเสี่ยงบนท้องถนนทุกวันสามารถที่จะทำประกันชั้น 1 ได้ก็ไม่ควรลังเล เพราะหากมีวันใดที่เกิดอุบัติเหตุแบบไม่คาดคิดขึ้นคุณจะไม่นึกเสียดายค่าเบี้ยประกันชั้น 1 ที่จ่ายไปเลย แต่อย่างไรก็ตาม อย่าลืมพิจารณาถึงประกันรถยนต์ 2+ และ
ประกันรถยนต์ 3+ จากไทยประกันภัยเผื่อไว้ด้วยล่ะ