ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


วิธีทำงานของ SOC Security Operation Center คืออะไร

วิธีทำงานของ SOC Security Operation Center คืออะไร
« เมื่อ: มีนาคม 25, 2025, 07:34:51 AM »


SOC Security Operation Center คือสิ่งที่องค์กรขาดไม่ได้ยุคนี้

ในยุคที่ไม่ว่าใครก็มีโอกาสเผชิญหน้ากับภัยคุกคามไซเบอร์ SOC Security Operation Center คือหนึ่งในสิ่งที่ได้กลายเป็นกลไกหลักที่องค์กรขาดไม่ได้ โดย Security Operation Center จะทำหน้าที่ในการเฝ้าระวังและรับมือการโจมตีไซเบอร์ทุกระดับ การทำงานของ Security Operation จึงไม่เพียงแต่ช่วยให้รับมือภัยคุกคามได้ทันเวลา แต่ยังเป็นการป้องกันความเสียหายต่อระบบไปพร้อม ๆ กันด้วย แล้วกระบวนการทำงานของ Security Operation Center คืออะไร บทความนี้จะพาคุณไปหาคำตอบและทำความเข้าใจกระบวนการต่าง ๆ ที่ Security Operation  ใช้ในการตรวจสอบและรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์

รู้จักวิธีการทำงานของ SOC Security Operation Center คืออะไร?

SOC Security Operation Center คือศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยไซเบอร์ เป็นหน่วยงานสำคัญที่ช่วยให้องค์กรสามารถตรวจจับ วิเคราะห์ และตอบสนองต่อภัยคุกคามไซเบอร์ได้อย่างทันท่วงที โดย Security Operation Center จะทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับทีมงานมืออาชีพและใช้เครื่องมือเทคโนโลยีขั้นสูงในการป้องกันไม่ให้ภัยคุกคามส่งผลกระทบต่อระบบและข้อมูลขององค์กร นอกจากนี้การทำงานใน Security Operation Center ยังมีการเชื่อมโยงกันในทุกกระบวนการ เพื่อให้การป้องกันภัยคุกคามมีประสิทธิภาพสูงสุด

- การตรวจสอบและการวิเคราะห์ (Detection & Analysis)

ขั้นตอนแรกในการกระบวนการทำงานของ SOC Security Operation Center คือการตรวจสอบและการวิเคราะห์ (Detection & Analysis) เป็นขั้นตอนที่ช่วยให้ Security Operation สามารถระบุกิจกรรมผิดปกติและสามารถป้องกันได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ โดยจะมีการใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือที่ทันสมัยเข้ามาช่วยตรวจสอบอย่างละเอียด ซึ่งขั้นตอนหลัก ๆ ในการตรวจสอบและวิเคราะห์มีดังนี้

การตรวจสอบเครือข่าย (Network Monitoring): ทีม SOC จะตรวจสอบการไหลของ
ข้อมูลในเครือข่ายเพื่อจับพฤติกรรมผิดปกติ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของการโจมตีในระบบ

การวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้ (User Behavior Analytics: UBA): ทีม SOC จะทำการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้ในองค์กร เพื่อตรวจสอบการกระทำที่อาจบ่งชี้ถึงการโจมตีภายใน

การวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analysis): ทีม SOC จะใช้เครื่องมือและระบบ (Security Information and Event Management) ในการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลจากหลายแหล่ง

- การตอบสนองต่อเหตุการณ์ (Incident Response)

เมื่อ Security Operation Center ตรวจพบภัยคุกคามไซเบอร์หรือเหตุการณ์ที่อาจมีผลกระทบต่อระบบ ทีมงานจะดำเนินการตอบสนองทันทีเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายร้ายแรงตามมา โดยการตอบสนองนี้จะครอบคลุมหลายขั้นตอน ดังนี้

การปิดการเข้าถึงที่ไม่เหมาะสม: เมื่อพบการบุกรุกที่ไม่ได้รับอนุญาต ทีม SOC จะปิดกั้นการเข้าถึงทันที เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการขโมยข้อมูลหรือการทำลายระบบ

การตรวจสอบแหล่งที่มาของภัยคุกคาม: ทีม SOC จะตรวจสอบแหล่งที่มาของภัยคุกคามเพื่อทำความเข้าใจวิธีการโจมตีต่าง ๆ ที่ผู้ประสงค์ร้ายใช้เพื่อเจาะระบบ

การประสานงานกับทีมอื่น ๆ: ในกรณีที่ภัยคุกคามมีผลกระทบระดับใหญ่ SOC จะประสานกับทีม IT กฎหมาย หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมมือกัันจัดการกับเหตุการณ์ดังกล่าว

- การฟื้นฟูและการปรับปรุง (Recovery & Improvement)

หลังจากการตอบสนองต่อเหตุการณ์ ทีม Security Operation Center จะทำการฟื้นฟูระบบที่ได้รับผลกระทบให้กลับมาสู่สภาพปกติ เช่น การกู้คืนข้อมูลจากการสำรอง หรือการแก้ไขช่องโหว่จากการถูกโจมตี นอกจากนี้ทีม Security Operation Center ยังต้องดำเนินการปรับปรุงกระบวนการรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ให้แข็งแกร่งขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์การโจมตีทางไซเบอร์ที่
คล้ายการในอนาคต

SOC Security Operation Center คือศูนย์กลางที่สำคัญในการปกป้องระบบและข้อมูลขององค์กรจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ โดยการกระบวนการทำงานของ Security Operation Center จะเริ่มตั้งแต่การตรวจสอบและวิเคราะห์ข้อมูลภัยไซเบอร์อย่างละเอียด จากนั้นทีม Security Operation จะทำการตอบสนองอย่างรวดเร็วเพื่อยับยั้งผลกระทบที่เกิดขึ้น และสุดท้ายจะมีการฟื้นฟูระบบและปรับปรุงระบบรักษาความปลอดภัยให้แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นจะเห็นได้ว่าบทบาทของ SOC คือสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมากที่จะช่วยให้องค์สามารถรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความมั่นคงในระยะยาว