ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - nemophilanie

หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 7
151
หากพูดถึงการชงกาแฟให้ได้รสชาติกลมกล่อมสมบูรณ์แบบ ต้องยอมรับว่าการมี เครื่องตีฟองนม เป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มรสชาติและเพิ่มความสะดวกให้เมนูกาแฟนมแก้วโปรดได้มากขึ้น เพราะไม่ว่าจะเป็นคอกาแฟ คาปูชิโน่ หรือคนรักลาเต้ล้วนจำเป็นต้องมีฟองนมช่วยเพิ่มสัมผัสที่เนียนนุ่มรสชาติละมุนให้กับเครื่องดื่มแก้วโปรดของคุณได้

ทำไมต้องมี เครื่องทำฟองนม ติดบ้าน?
การตีฟองนมที่ดีจำเป็นต้องตีให้เกิดฟองอากาศขนาดเล็กที่สุดเพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่มน่ารับประทาน ช่วยเพิ่มความน่าสนใจและยกระดับเมนูกาแฟที่แสนธรรมดาให้หรูหรามากขึ้น โดยในปัจจุบันอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกในการทำฟองนมแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ แบบใช้มือในการควบคุมและแบบอัตโนมัติ ที่ตัวเครื่องสามารถทำฟองนมร้อนและเย็นได้แบบอัตโนมัติเพียงแค่กดปุ่มสั่งการทำงาน

ข้อดีและข้อเสียของอุปกรณ์ทำฟองนมแต่ละแบบ
แบบควบคุมด้วยมือ ราคาไม่แพง สามารถหาซื้อได้ตามท้องตลาด และไม่มีข้อจำกัดในการใช้งานร่วมกับภาชนะอื่น ๆ แต่ต้องใช้มือควบคุมทำให้เสียเวลาในการเตรียมเมนูกาแฟและใช้เวลานานในการตีฟองนม รวมถึงไม่สามารถเปลี่ยนอุณหภูมิของฟองนมได้
แบบอัตโนมัติ ราคาสูงกว่าแบบควบคุมด้วยมือ แต่มีข้อดีตรงช่วยประหยัดเวลาและขั้นตอนในการทำฟองนมไม่ยุ่งยาก  ไม่ต้องเสียเวลาอุ่นนมหรือแช่เย็นให้ได้อุณหภูมิที่ต้องการ ฟองนมที่ได้มีความนุ่มละเอียด ใช้เวลาไม่นาน

เคล็ดลับเลือก เครื่องทำฟองนม ของ Nespresso เพิ่มความสมบูรณ์แบบให้กาแฟแก้วโปรด
1.   ต้องช่วยประหยัดเวลา แม้ว่าฟองนมจะเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้เมนูกาแฟอร่อยมากขึ้น แต่หากต้องใช้เวลานานอาจทำให้คุณต้องเสียเวลาในการทำสิ่งที่สำคัญได้ สำหรับคอกาแฟนมที่ต้องการความสะดวก มีเวลาน้อย Aeroccino 3 จะช่วยให้คุณได้ทานฟองนมบนเมนูโปรดทุกวัน เพราะใช้เวลาเพียง 1 นาที และทำให้คุณมีเวลาในการเตรียมตัวเดินทางในวันที่เร่งรีบมากขึ้น
2.   คุณภาพของฟองนมที่ได้ แม้ว่าอุปกรณ์ทำฟองนมจะมีให้เลือกหลายรูปแบบ แต่หากต้องการฟองนมที่มีความเนียนละเอียด ฟองอากาศเล็ก ให้สัมผัสที่นุ่มละมุน  Aeroccino 3 เป็นทางเลือกที่จะช่วยให้คุณได้ฟองนมอย่างที่ต้องการ
3.   ทำฟองนมได้เยอะ หากใครชอบเนื้อสัมผัสของฟองนมนุ่มละเอียดและรู้สึกว่าฟองนมคือ องค์ประกอบสำคัญที่ช่วยยกระดับเมนูกาแฟ การลงทุนซื้อ Aeroccino 3 เป็นเรื่องคุ้มค่ามาก ๆ เพราะไม่เพียงแต่ทำฟองนมได้อย่างรวดเร็วแต่ยังทำฟองนมได้ปริมาณสูงสุดถึง 240 มิลลิลิตร

แนะนำ เครื่องตีฟองนม Aeroccino 3
Aeroccino 3 เครื่องตีฟองไฟฟ้าที่ไม่เพียงแต่ให้ความสำคัญกับดีไซน์การออกแบบให้มีรูปร่างที่ทันสมัย สามารถเลือกเฉดสีตามความชอบได้ และยังมาพร้อมกับฟังก์ชันการใช้งานที่แสนง่าย แต่ทำให้ได้ฟองนมเนียนนุ่ม ละเอียด และใช้เวลาไม่นาน โดยการทำฟองนมประมาณ 1 แก้วครึ่ง ใช้เวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น เหมาะสำหรับทำเมนูกาแฟนมอย่าง คาปูชิโน่ หรือลาเต้ได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ไม่ว่าคุณจะทำเครื่องดื่มร้อนหรือเย็นก็ทำได้ เพียงกดปุ่มเพื่อเปลี่ยนโหมดอุณหภูมิค้างไว้ไม่กี่วินาที

การเลือก ที่ทำฟองนม เพิ่มความสมบูรณ์แบบให้กาแฟแก้วโปรด อย่าง Aeroccino 3 จะทำให้คุณได้รับประสบการณ์การดื่มกาแฟที่แสนอร่อยยิ่งขึ้น โดยใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีและยังรองรับการทำเมนูกาแฟร้อน กาแฟเย็น หรือเครื่องดื่มอื่น ๆ ที่ทำให้เครื่องดื่มแต่ละแก้วสมบูรณ์แบบกว่าที่เคย

152
   ปัจจุบันธุรกิจเกี่ยวกับกาแฟมีแนวโน้มได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ สังเกตเห็นได้จากร้านกาแฟที่พบได้ทั่วทุกมุมเมือง ไม่ว่าจะเป็นรายใหม่หรือรายเก่าที่ขยายสาขาและแฟรนไชส์ สิ่งที่ดึงดูดบรรดาคอกาแฟย่อมเป็นเรื่องรสชาติที่ถูกใจ แต่น้อยร้านนักที่จะมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์และสามารถมัดใจบรรดาลูกค้าให้กลับมาซื้อ กาแฟสด ดังนั้น เครื่องชงกาแฟแคปซูล จึงเข้ามามีบทบาทสำหรับคนที่ต้องการรสชาติกาแฟอร่อยกลมกล่อมคงเดิม ผิดเพี้ยนน้อย ในราคาที่เหมาะสมและตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่เร่งรีบในปัจจุบัน

แนะนำ เครื่องชงกาแฟอัตโนมัติ นวัตกรรมใหม่เพื่อคอกาแฟ
•   เครื่องชงกาแฟ ESSENZA MINI C Model Bundle
   เครื่องชงกาแฟสดอัตโนมัติ ขนาดเล็กที่มาพร้อมเครื่องทำฟองนม Aeroccino 3 สำหรับคอ กาแฟสด ที่ต้องการทั้งความเข้มข้นและความนุ่มนวลของฟองนม ตัวเครื่องมีขนาด 11x32.5x20.5 cm.(กxยxส) มีน้ำหนักเพียง 2.3 กก. เคลื่อนย้ายง่าย เป็นได้ทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าและสามารถตกแต่งบ้านเพราะมีดีไซน์สวยงาม ความจุถังน้ำ 0.6 ลิตร แรงดัน 19 บาร์ บรรจุแคปซูลที่ใช้แล้วได้ 6 ชิ้น มีโปรแกรมการชงกาแฟได้ 2 แบบ ได้แก่ Espresso และ Lungo สามารถเพิ่มเครื่องทำฟองนม Acroccino 3 ที่ให้ความนุ่มฟูและหอมในแบบมืออาชีพสำหรับคนชอบกาแฟนม
•   เครื่องชงกาแฟ PIXIE Bundle
   ขยับมาในรุ่นขนาดกลาง ที่รองรับการใช้งานที่มากขึ้น สามารถใช้ในออฟฟิศขนาดเล็กที่ต้องการสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าและผู้บริหาร ด้วยเครื่องชงกาแฟสดอัตโนมัติ Pixie สีแดงสดที่มาพร้อมเครื่องทำฟองนม Aeroccino 3 ดุจดั่งมืออาชีพใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นเมนูกาแฟดำหรือกาแฟนม ลาเต้, คาปูชิโน่, แฟลทไวท์ และเมนูอื่น ๆ ตามที่ต้องการก็สามารถทำได้ ด้วยขนาด 11.1x32.6x23.5 cm. (กxยxส) ความจุถังน้ำ 0.7 ลิตร แรงดันน้ำ 19 บาร์ น้ำหนัก 2.8 กก. จึงไม่ใช่ปัญหาสำหรับเคาน์เตอร์บาร์ขนาดเล็ก
•   เครื่องชงกาแฟ GRAN LATTISSIMA
   ขอแนะนำ เครื่องทํากาแฟแคปซูล GRAN LATTISSIMA เพื่อตอบโจทย์ชาวออฟฟิศ, รีสอร์ทและครอบครัวขนาดใหญ่ที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟสดอยู่เป็นประจำและสร้างความประทับใจให้แขกผู้มาเยือน ไม่ว่าจะเป็นเมนูกาแฟร้อน-เย็น Espresso, Lungo, Cappuccino, Latte และเมนูอื่น ๆ ตอบโจทย์การชงกาแฟในปริมาณ 5-7 แก้วต่อครั้ง และไม่ต้องหงุดหงิดกับการเติมน้ำบ่อย ๆ เพียงเลือก กาแฟแคปซูล รสชาติที่ต้องการ ใส่แคปซูลลงในเครื่อง กดปุ่มเมนูกาแฟ รอไม่กี่วินาทีก็ได้กาแฟพร้อมดื่ม หากเป็นเมนูเย็นเพียงเตรียมน้ำแข็งใส่แก้ว รอให้อุณหภูมิลดลง เทกาแฟที่ได้ใส่ลงไปก็จะได้กาแฟเย็นสดชื่นตามที่ต้องการ เครื่องชงกาแฟแคปซูล GRAN LATTISSIMA มีขนาด 20.3 x 36.7 x 27.6 cm. (กxยxส) หนัก 5.2 ก.ก. ความจุถังน้ำ 1.3 ลิตร สามารถใช้รังสรรค์เมนูกาแฟได้หลากหลายไม่จำเจ

   สำหรับเครื่องชงกาแฟสดทั้ง 3 รุ่น มาพร้อมแรงดันน้ำขนาด 19 บาร์ ระบบปิดตัวเองอัตโนมัติเมื่อไม่ได้ใช้งาน ระบบทำน้ำร้อนภายใน 25 วินาที รับประกันการใช้งานนานถึง 2 ปี โดยเฉพาะรุ่น GRAN LATTISSIMA ที่มาพร้อมเมนูกาแฟนมในขั้นตอนเดียว โดยไม่ต้องซื้อออปชั่นเสริม โดย กาแฟแคปซูล จากเนสเพรสโซ่ มีกาแฟให้เลือกมากถึง 25 รสชาติจากทั่วทุกมุมโลก อีกทั้งยังมี Limited Edition ที่มีออกมาให้ลิ้มลองรสชาติที่แตกต่างอยู่เสมอ

ซึ่งรายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเข้าชมได้ที่
https://www.nespresso.com/th/th/order/machines/vertuo
https://www.nespresso.com/th/th/order/machines/vertuo

153
กาแฟเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลกโดยเฉพาะวัยทำงาน ด้วยกลิ่นหอมและรสชาติที่กลมกล่อมเข้มข้นซึ่งสามารถรังสรรค์เมนูได้หลากหลาย สำหรับคนที่ชื่นชอบกาแฟรสชาติเข้มข้นมักจะเลือกดื่มกาแฟดำ ส่วนคนที่ชอบความละมุนกลมกล่อมก็มักจะนิยมดื่มกาแฟนม

กาแฟนมก็มีหลายเมนูหลายสูตรให้คอกาแฟได้เลือกดื่มตามชอบ แต่ละเมนูจะมีกรรมวิธีการชงและรสชาติที่ต่างกัน อาทิ Macchiato ( มัคคิอาโต้ ) cappuccino (คาปูชิโน่) Latte ( ลาเต้ ) ซึ่งทั้ง 3 เมนูนี้ใช้เอสเพรสโซ่แค่ 1 ช็อตเหมือนกัน แต่มีความแตกต่างกันที่ส่วนผสมของนม การชงกาแฟนมให้ได้รสชาติถูกใจไม่ใช่เรื่องยากเลยแค่มีเครื่องชงกาแฟอัตโนมัติติดบ้านไว้จะช่วยให้การทำกาแฟในทุก ๆ วันแสนง่ายและสะดวก รสชาติได้มาตรฐานทุกครั้ง เครื่องชงกาแฟ แคปซูล Nespresso รุ่น Pixie & Aeroccino Bundle เป็นเครื่องชงกาแฟขนาดเล็กที่มีประสิทธิภาพสูง ทำกาแฟนมได้สารพัดเมนูด้วยฟังก์ชันการใช้ง่ายแค่ 2 ปุ่ม มาพร้อม เครื่องตีฟองนม Aeroccino 3

สูตรชงกาแฟนมที่อร่อยและง่ายอย่างไม่น่าเชื่อเมื่อชงด้วย Nespresso รุ่น Pixie & Aeroccino Bundle
เมนูที่ 1 Espresso Macchiato คำว่า มัคคิอาโต้ ในภาษาอิตาลีหมายถึงรอยด่าง ดังนั้น Espresso Macchiato จึงหมายถึงกาแฟที่มีรอยด่าง หรือกาแฟที่ทำสัญลักษณ์ไว้ด้วยการหยอดฟองนม เมนูนี้จะมีความเข้มข้นของเอสเพรสโซ่เป็นหลักแทรกด้วยกลิ่นอายของนมแค่บางเบา 1 ถ้วยของ Espresso Macchiato ประกอบไปด้วยกาแฟเอสเพรสโซ่ 1 ช็อต และฟองนมเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เริ่มจากเติมนม 20 มล.ใน เครื่องตีฟองนม Aeroccino 3 เพื่อเตรียมฟองนมไว้ก่อน จากนั้นกดกาแฟเอสเพรสโซ่ 1 ช็อต หรือ 40 มล. จากเครื่องชงกาแฟ Pixie โดยเลือกฟังก์ชันการชง Espresso เมื่อได้กาแฟให้เติมความหวานได้ตามชอบ ต่อด้วยการท็อปหรือตกแต่งด้วยฟองนมเพียงเล็กน้อยที่เตรียมไว้ หากต้องการรสชาติที่นุ่มนวลขึ้นอีกสามารถเติมฟองนมเพิ่มได้ แนะนำให้ลองใช้กาแฟแคปซูล Nespresso Roma ที่กลมกล่อมเต็มรสชาติ หรือ Volluto ซึ่งให้ความนุ่มละมุนหอมหวาน
เมนูที่ 2 Intense cappuccino สูตรนี้ถูกใจคนที่ชอบกาแฟคาปูชิโน่แน่นอน เพราะให้เนื้อครีมกาแฟที่มีความเข้มข้นและฟองนมหนา ๆ อร่อยลงตัว เริ่มจากเทนมเย็น (อุณหภูมิ 4C) ปริมาณ 60 มล. ลงในเครื่อง Aeroccino 3 เพื่อทำฟองนม เทฟองนมที่ได้ลงในถ้วยกาแฟ Cappuccino เตรียมไว้ จากนั้นนำกาแฟแคปซูลใส่ที่เครื่องชงกาแฟ Pixie แล้วกดกาแฟโดยเลือกฟังก์ชันการชง Espresso ตามลงไปในปริมาณ 25 มล. แนะนำให้ใช้กาแฟแคปซูล Nespresso  Arpeggio หรือ Scuro เพื่อให้คาปูชิโน่รสหนักแน่นและเนียนนุ่ม
เมนูที่ 3 Caffe Latte เป็นเมนู ลาเต้ สุดคลาสสิกที่มีส่วนผสมของกาแฟ นม และฟองนม ทำให้มีรสชาติที่นุ่มนวลกลมกล่อม เริ่มจากชงกาแฟลุงโกปริมาณ 110 มล. ซึ่งเครื่องชงกาแฟ Nespresso รุ่น Pixie มีปุ่มให้เลือกฟังก์ชันการชงเมนู Lungo จึงใช้งานได้สะดวกมาก โดยให้ทำการปรับตะแกรงวางแก้วก่อนนำแก้วทรงสูงไปวางไว้ตรงช่องจ่ายกาแฟแล้วจึงค่อยกดให้เครื่องทำการชงกาแฟ จากนั้นเทนมร้อนลงด้านบนกาแฟแล้วแต่งหน้าด้วยฟองนมบาง ๆ ปิดท้ายเป็นอันเสร็จพร้อมเสิร์ฟทันที แนะนำให้ลองใช้กาแฟแคปซูล Nespresso  Vivalto Lungo หรือ Fortissio Lungo

ทั้ง 3 สูตรชงกาแฟ นมสามารถชงได้จาก Nespresso รุ่น Pixie & Aeroccino Bundle ทำให้การชงกาแฟที่บ้านเป็นเรื่องง่ายเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคอกาแฟรุ่นใหม่ ทั้งยังสามารถเนรมิตเมนูกาแฟที่หลากหลายได้อรรถรสเหมือนมีบาริสต้าส่วนตัวมาชงกาแฟให้ดื่ม

ชมรายละเอียดเพิ่ม
https://www.nespresso.com/recipes/th/th/015CAP-cappuccino-aeroccino3.html
https://www.nespresso.com/recipes/th/th/16730BOR-borgia-mocha-barista.html

154
   เมนูกาแฟสดที่คอกาแฟนิยมดื่มปลุกความสดชื่นในยามเช้านั้นส่วนใหญ่มักจะเป็นกาแฟเข้ม ๆ อย่างกาแฟดำ หรือไม่ก็เป็นกาแฟนมอย่างลาเต้และคาปูชิโน่ที่ให้ความรู้สึกอยู่ท้องจากนมนุ่ม ๆ ดื่มคู่กับขนมปังก็ถือว่าเป็นมื้อเช้าแบบง่าย ๆ แล้ว วันนี้เราเลยจะมาแชร์ไอเดีย สูตรชงกาแฟสด ไว้ปลุกความสดชื่นยามเช้า 3 สไตล์แบบไม่จำเจไว้เป็นแนวทางให้คอกาแฟได้นำไปต่อยอดชงดื่มเองแบบง่าย ๆ แม้ในเช้าที่ต้องเร่งรีบ
   แน่นอนว่าในเช้าที่ต้องเร่งรีบจะเสียเวลาชงกาแฟดริป หรือนั่งต้มน้ำรอน้ำเดือดนาน ๆ ก็คงไม่ได้ หรือจะให้มานั่งสตรีมนมตีฟองนมก็เสียเวลามากเกินไป หลาย ๆ คนเลยแก้ปัญหาที่กาแฟสำเร็จรูปหรือไม่ก็เลือกซื้อกับคาเฟ่ร้านประจำที่ไว้ใจ จะดีกว่าไหมถ้าเราสามารถชงกาแฟสดดื่มเองได้ใน 5 นาที ด้วยนวัตกรรมตัวช่วยการชงกาแฟให้อร่อยจาก Nespresso ที่มีทั้งกาแฟแคปซูลและเครื่องชงกาแฟสด ซึ่งจะช่วยให้การชงกาแฟจบครบในเครื่องเดียวเพียงกดปุ่มปลายนิ้วสัมผัสเท่านั้น เราลองมาดูความอัจฉริยะของมันกันผ่านการชงกาแฟ 3 สูตรนี้ว่าเจ๋งแค่ไหน
1.เอสเปรสโซเป็นกาแฟสุดคลาสสิก
   สูตรชงกาแฟสด เมนูแรกก็คือเอสเปรสโซเป็นกาแฟสุดคลาสสิก เป็นช็อตกาแฟเพียว ๆ ที่สามารถนำไปต่อยอดเป็น เมนูกาแฟ อื่น  ๆ ต่อไป แต่วิธีทำให้กลมกล่อมสมบูรณ์แบบนั้นไม่ง่าย เพราะต้องแม่นปริมาณกาแฟ ปริมาณน้ำและอุณหภูมิ  ถ้าหากมีเครื่องชงกาแฟ Nespresso ก็หมดกังวลได้เลย เพราะเพียงแค่ใส่แคปซูลกาแฟและน้ำเปล่าลงไป แล้วกดปุ่มชงเมนูเอสเปรสโซ เครื่องก็จะคำนวณทุกอย่างและชงกาแฟออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบได้ในเวลาเพียง 5 นาที
2.อเมริกาโน่เย็น เมนูชงง่าย
   เมนูกาแฟ ต่อมาก็คือ อเมริกาโน่เย็น เมนูนี้ก็ทำง่ายมาก ต่อยอดมาจากเอสเปรสโซ เพราะเพียงแค่นำเอสปรสโซที่ได้จากเครื่องชงกาแฟมาเจือจางด้วยน้ำร้อน ให้ความเข้มขนลดลงแล้วใส่น้ำแข็งลงไป หรืออาจจะเพิ่มความสดชื่นด้วยน้ำผลไม้อย่างส้มและเสาวรสก็จะช่วยเพิ่มความสดชื่นกระปรี้กระเปร่าให้ อเมริกาโน่เย็น แก้วนี้ง่าย ๆ แถมยังได้ความหอมหวานแบบธรรมชาติสุด ๆ
3.ลาเต้เย็น ถูกปากคนชอบกาแฟนม
   เอาใจคนที่ชอบการแฟผสมนมนั่นก็คือ สูตรลาเต้เย็น ซึ่งก็ทำง่ายไม่แพ้ 2 เมนูก่อนหน้าเลย เพียงแค่เติมนมสดเย็นลงไปในเอสเปรสโซ 2 ใน 3 ของแก้ว  อาจจะเติมน้ำแข็งเพิ่มความสดชื่น จากนั้นก็ตีฟองนมจากเครื่องทำฟองนมอัตโนมัติของ Nespresso มาออนท็อปปิดท้ายเป็นอันเสร็จ
   ทั้ง 3 สูตร เมนูกาแฟ ด้วยนวัตกรรม Nespresso ที่เรานำมาบอกต่อนี้เพื่อน ๆ คอกาแฟอย่าลืมนำไปเป็นไอเดียไว้ชงดื่มปลุกความสดชื่นในยามเช้าแล้วคุณจะไม่ผิดหวังกับกาแฟที่ชงดื่มเองที่บ้าน

ชมเพิ่มเติมที่เว็บไซด์
https://www.nespresso.com/th/th/types-of-coffee

155
การชงกาแฟไม่ใช่เรื่องยากแต่การชงกาแฟให้ถูกปากนี่สิคือเรื่องยาก ชงอย่างไรก็ไม่คุ้นรสชาติเดิมที่ต้องการ เมื่ออยากลองชง กาแฟสด ดื่มเองที่บ้าน จึงไปเลือกซื้ออุปกรณ์มาเพื่อดริปกาแฟดื่มเอง โดยใช้เวลาชงอยู่นาน แต่ปรากฏว่าได้กาแฟสดรสชาติไม่ถูกปากอย่างที่ต้องการ เมื่อไปศึกษาเพิ่มเติมทำให้รู้ว่าการชงกาแฟด้วยวิธีดริปที่เขาบอกกันว่าง่ายนั้นมีเทคนิคที่ต้องมีทักษะความชำนาญไม่ต่างจากมืออาชีพ เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการคัดเลือกเมล็ดกาแฟคั่ว การจัดการเมล็ดกาแฟไม่ให้ชื้นและเหม็นอับ การใช้อัตราส่วนของน้ำกับเมล็ดกาแฟให้พอดี การต้มน้ำให้ได้อุณหภูมิที่เหมาะสม รวมถึงระยะเวลาและความเร็วในการรินน้ำในขั้นตอนการสกัดกาแฟ ซึ่งทุกเทคนิคที่กล่าวมาแล้วแต่ความชำนาญของแต่ละบุคคล ต้องใช้เวลาในการทำและการฝึกฝีมือ ความตั้งใจที่อยากจะชงกาแฟสดดื่มเองจึงแทบจะหมดไป

แต่นวัตกรรมเครื่องชงกาแฟแคปซูล Nespresso รุ่น Atelier ที่มีฟังก์ชันการชงอัตโนมัติและ วิธี ใช้ เครื่อง ชง กาแฟ ที่สะดวกด้วยการกดปุ่มสัมผัสเพียงปุ่มเดียว อีกทั้งเครื่องชงกาแฟนี้ยังสามารถชง กาแฟสด ได้ทั้งเมนูร้อนและเย็น เมนูที่ชงได้มีทั้งเอสเพรสโซ่ ลุงโก ริสเทรตโต้ คาปูชิโน่ ไอซ์เฟรปเป้ ลาเต้มัคคิอาโต้ มอคค่า และเครื่องดื่มนมอื่น ๆ เช่น นมชาเขียว นมช็อกโกแลต หรือนมร้อนสำหรับเด็ก ๆ นอกจากนั้นเครื่องชงกาแฟรุ่นนี้มีฟังก์ชั่นสามารถตีฟองนมได้จากนมหลายชนิดทั้งนมวัว นมอัลมอนด์ นมถั่วเหลือง หรือนมอื่น ๆ ตามที่ต้องการ โดยในวันนี้จะขอมาแนะนำเคล็ดลับวิธีใช้เครื่องชงกาแฟ Nespresso รุ่น Atelier ได้แบบง่าย ๆ
วิธีใช้เครื่องชงกาแฟ สำหรับสร้างสรรค์เมนูกาแฟดำอย่างริสเทรตโต้ เอสเพรสโซ่ หรือลุงโก มีขั้นตอนง่าย ๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอนดังนี้
1.   เริ่มจากการเปิดเครื่องแล้วนำ แคปซูลกาแฟ ใส่ในช่องบรรจุแคปซูลให้เรียบร้อย
2.   วางถ้วยกาแฟใต้หัวจ่ายเตรียมไว้
3.   กดปุ่มเลือกเมนูที่ต้องการชง รอไม่เกินหนึ่งนาทีจะได้กาแฟหอมกรุ่น ถือเป็นวิธีที่ง่ายและสะดวกแม้ในช่วงเวลาเร่งรีบยามเช้า
โดยเมนูกาแฟนมมีขั้นตอน วิธี ใช้ เครื่องชงกาแฟแคปซูล เพิ่มขึ้นมาอีกเล็กน้อยดังนี้
1.   เริ่มจากเปิดการทำงานเครื่อง นำก้านตีฟองนมไปประกอบในตำแหน่งที่กำหนด
2.   ผสมนมและส่วนผสมอื่น ๆ ใส่ในเหยือกแก้วแล้วนำไปวางตรงจุดรองแก้วจากนั้นปรับระดับก้านตีฟองนมให้พอเหมาะ
3.   นำ แคปซูลกาแฟ บรรจุลงช่องใส่แคปซูลให้เรียบร้อย จากนั้นกดเลือกปุ่มเมนูกาแฟที่ต้องการชง รอในหนึ่งอึดใจเครื่องจะตีฟองนมฟูนุ่มพร้อมน้ำกาแฟในปริมาณตามเมนูที่เลือก เป็นอันเสร็จพร้อมดื่มได้ทันที

ความพิเศษอีกหนึ่งที่ช่วยให้กาแฟสดที่ชงจากเครื่องทํากาแฟแคปซูล ของ Nespresso หอมอร่อยไม่เหมือนใคร นั่นก็คือ แคปซูลกาแฟ Nespresso ที่ภายในบรรจุด้วย กาแฟสด ซึ่งถูกคัดสรรมาเป็นพิเศษจากหลายที่ทั่วโลกให้รสชาติ ความหอม ความเข้มข้นของกาแฟ และรสชาติอร่อยแตกต่างกัน ซึ่งมีให้เลือกถึง 30 รสชาติ ตัวแคปซูลทำมาจากอะลูมิเนียมที่ช่วยรักษาคุณภาพความหอมสดใหม่ของเมล็ดกาแฟได้เป็นอย่างดี ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยว่ากาแฟสดทุกแก้วจากเครื่องชงกาแฟ Nespresso ที่มีฟังก์ชันและ วิธีใช้เครื่องชงกาแฟ ที่ง่ายแสนง่ายนี้จะหอมอร่อยกลมกล่อมเหมือนกันทุกแก้ว

156
    ในบรรดากาแฟคั่วบดทั้งหมด กาแฟคั่วกลาง เป็นระดับการคั่วที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เมื่อไล่ ตั้งแต่ระดับคั่วอ่อน คั่วกลาง ไปจนถึง กาแฟคั่วเข้ม แล้ว ระดับความเข้มกาแฟคั่วกลางกลมกล่อมลงตัวกว่าระดับอื่น กำลังตรงจริตคอกาแฟส่วนใหญ่ เหมาะสำหรับการชงแบบ espresso รสชาติเข้มข้น หรือแบบ latte กาแฟผสมนมหวานมันก็ได้ ดื่มอร่อยทั้งแบบร้อนและเย็น
   ห่อบรรจุภัณฑ์กาแฟโดยทั่วไปบ่งบอกระดับการคั่วกาแฟมี 3 ระดับหลัก ได้แก่ Light Roast, Medium Roast และ Dark Roast เห็นได้ว่า ความแตกต่างของกระบวนการคั่วกาแฟที่ใช้เวลานานต่างกัน หากใช้ความร้อนน้อย รสชาติกาแฟขมไม่มาก กาแฟคั่วอ่อน มีความเปรี้ยวนิด ๆ ติดปลายหวานหน่อย ๆ รู้สึกถึงรสผลไม้และกลิ่นที่เป็นลักษณะเฉพาะของเมล็ดกาแฟสายพันธุ์นั้นได้ชัดเจน ทำให้คนดื่มกาแฟแบบดั้งเดิมส่ายหน้าเพราะไม่คุ้นเคย
หากคั่วนานขึ้นถึงระดับกลางจนความเปรี้ยวจางลงและขมมากขึ้น รสขมและกลิ่นของกาแฟอบอวลยิ่งขึ้น เป็นรสชาติที่คนนิยมกันมากที่สุด นับเป็นระดับการคั่วบดที่เหมาะกับการปรับแต่งรสชาติให้หลากหลายยกระดับประสบการณ์การดื่มกาแฟให้มีอรรถรสยิ่งขึ้น เมื่อปรุงแต่งส่วนผสมอื่นเข้าไป ทำให้ได้รสชาติแปลกใหม่หลากหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็น espresso,  Cappuccino หรือ Latte
ส่วน กาแฟคั่วเข้ม ได้รสสัมผัสความขมของกาแฟที่หนักหน่วงมากกว่ากาแฟคั่วระดับอื่น กลิ่นและรสออกไปในโทนช็อกโกแลตหรือน้ำตาลไหม้ ความร้อนสลายรสเปรี้ยวแบบ กาแฟคั่วอ่อน ไปจนเกือบหมด เหมาะสำหรับดื่มในสูตรเอสเพรสโซ่ก็ดี หรืออเมริกาโน่ก็ได้ นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับทำกาแฟเย็นหรือกาแฟลาเต้เพราะเติมนมเพิ่มความหวานตัดกับรสขมแล้ว กลิ่นกาแฟยังคงเข้มข้นชัดเจน ไม่ถูกกลบไปกับส่วนผสมอื่น จึงถูกใจคอกาแฟนมที่ชอบลาเต้รสเข้มมากกว่าถ้วยปกติ
   กาแฟคั่วกลาง นำมาชงกาแฟร้อนหรือเย็นก็อร่อยกลิ่นหอมละมุน เมนูที่ได้รับความนิยมคือชงกาแฟร้อนแบบ Espresso และ Cappuccino แต่งหน้าด้วยฟองนมนุ่มลงไปในถ้วยกาแฟให้มีความสวยงามจนไม่มีใครปฏิเสธได้ วิธีชงกาแฟร้อนทั้งสองแบบทำง่าย ๆ ด้วยเครื่องชงกาแฟ จากนั้นเทฟองนมที่เตรียมไว้ลงในถ้วย เติมน้ำตาลและโรยผงโกโก้เพื่อเพิ่มรสชาติเข้มข้นอร่อยยิ่งขึ้น
   อีกแนวที่คอกาแฟบางกลุ่มชื่นชอบคือเมนู latte วิธีการชงกาแฟจะใช้เอสเพรสโซ่ช็อต 1/3 รินนมอุ่น ๆ 2/3 ลงไปให้สัมผัสความหอมของกลิ่นกาแฟผสมนมรสกลมกล่อม พร้อมแต่งหน้าด้วยโฟมนมนุ่มละมุนถูกกปากคอกาแฟสายนม ส่วนใครที่ชอบลาเต้เย็นเหมาะกับอากาศร้อน ๆ ให้ใช้วิธีชงกาแฟแบบเดิมคือเอสเพรสโซ่ช็อตผสมกับนมสดคนให้เข้ากันแล้วเทน้ำแข็งลงไปเพิ่มความเย็นสดชื่น
เมื่อพูดถึงในแง่รสชาติ กาแฟคั่วกลาง นำมารังสรรค์ปรุงแต่งรสชาติแปลกใหม่ได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นรสชาติคาราเมล ลาเต้ , ช็อกโกแลต ลาเต้, เฮเซลนัท ลาเต้ หรือเติมน้ำเชื่อม เป็นเมนูดื่มง่าย ๆ ใคร ๆ ก็ชอบสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้นดื่มกาแฟ

ชมรายละเอียดเพิ่มเติมที่
https://www.nespresso.com/th/th/coffee-roast-levels

157
ก่อนการเดินทางท่องเที่ยวแต่ละครั้งจะมีเรื่องให้เตรียมตัวมากมาย ไม่ว่าจะการจองโรงแรม ที่พัก และหาข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวจุดหมายปลายทางแล้ว ในกรณีที่เดินทางด้วยเครื่องบินยังต้องวางแผนจองตั๋วโดยสารด้วย ซึ่งหากจองตั๋วล่วงหน้าเป็นระยะเวลานานก็มักจะได้ราคาที่ถูกลง และการทำ ประกันเดินทาง ติดไว้เพื่อความอุ่นใจในการเดินทางเผื่อมีเหตุไม่คาดฝันด้วย

รู้จัก ประกันการเดินทางในประเทศ ตัวช่วยเพิ่มความอุ่นใจให้กับนักท่องเที่ยว
ประกันการเดินทางเป็นการคุ้มครองความเสี่ยงที่ในช่วงการเดินทางท่องเที่ยว โดยมีความคุ้มครองครอบคลุมในเรื่องสุขภาพ อุบัติเหตุ ทรัพย์สิน และความเสี่ยงอื่น ๆ ในกรณีเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดระหว่างการเดินทาง เช่น เที่ยวบินล่าช้า ทรัพย์สินสูญหาย การยกเลิกเที่ยวบิน เป็นต้น โดยระยะเวลาความคุ้มครองของ ประกันเดินทาง ปกติเราจะเลือกที่วันแรกของการเดินทางจนถึงวันเดินทางกลับ

ท่องเที่ยวในประเทศควรต้องทำ ประกันเดินทางในประเทศ หรือไม่
หลายคนมักจะนึกถึงประกันเดินทางเฉพาะเมื่อต้องเดินทางต่างประเทศเท่านั้น แต่ที่จริงแล้วการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศก็สามารถทำเพื่อคุ้มครองความเสี่ยงในด้านต่าง ๆ ด้วยเช่นกัน ยิ่งเป็นนักท่องเที่ยวที่ ขึ้นเครื่องบินครั้งแรก ซึ่งจะมีความกังวลใจหลายด้าน ยิ่งควรทำประกันการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไว้เพื่อเพิ่มความอุ่นใจ เพราะการ ขึ้นเครื่องบินครั้งแรก ยังไม่คุ้นชินกับกระบวนการและขั้นตอนต่าง ๆ อาจไม่รู้ว่าควรแก้ปัญหาอย่างไรในกรณีที่มีการยกเลิกเที่ยวบิน เที่ยวบินล่าช้า หรือสัมภาระสูญหายระหว่างการเดินทาง จนกระทบแผนที่วางไว้
แต่หากมีประกันท่องเที่ยวก็จะได้รับการคุ้มครองค่าเสียหายในกรณีดังกล่าวไว้หมด รวมถึงหากเกิดอุบัติเหตุระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวจนต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลก็จะได้รับความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลด้วย
ยิ่งหากเป็นประกันภัยเดินทางจาก SCB PROTECT ยิ่งมีแต้มต่อความคุ้มครองที่มากกว่า เพราะมีเงินชดเชยรายได้ระหว่างเข้ารักษาตัวในฐานะผู้ป่วย และหากเกิดเหตุไม่คาดฝันจากอุบัติเหตุทายาทจะได้รับเงินชดเชยเป็นเงินก้อนอีกด้วย การเลือกซื้อประกันภัยการเดินทางจึงเป็นหนึ่งในขั้นตอนจำเป็นสำหรับการ เตรียมตัวก่อนขึ้นเครื่องบิน 

แนะนำขั้นตอนการ เตรียมตัวก่อนขึ้นเครื่องบิน สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางในประเทศ หรือ ประกันการเดินทางต่างประเทศ
-   ตรวจสอบและห้ามลืมเอกสารสำคัญที่ต้องพกเอาไว้ก่อนขึ้นเครื่องบิน ได้แก่ ตั๋วเครื่องบิน บัตรประชาชน
-   หากต้องการทำประกันเดินทางก็สามารถติดต่อเคาน์เตอร์บริษัทประกันที่สนามบินหรือทำผ่านช่องทางออนไลน์ล่วงหน้าได้
-   เช็กอินสามารถทำได้ที่หน้าเคาน์เตอร์พร้อมโหลดกระเป๋าสัมภาระขึ้นเครื่องได้ทันทีหรือเช็กอินผ่านตู้อัตโนมัติที่สนามบินก็ได้ เมื่อเช็กอินเรียบร้อยจะได้บัตรขึ้นเครื่องบิน (Boarding Pass)  ซึ่งอย่าลืมตรวจสอบรายละเอียดไม่ว่าจะเวลาเครื่องออก ประตูที่จะไปยังเครื่องบิน เลขที่นั่ง และควรไปถึงจุดขึ้นเครื่องก่อนเครื่องออกไม่น้อยกว่า 20 นาที
-   การเข้าด่านตรวจสัมภาระด้วยการเอกซเรย์เพื่อตรวจสอบ ต้องระวังไม่ให้มีของเหลวที่ปริมาณมากกว่า 100 มิลลิลิตร ติดตัวขึ้นเครื่อง
-   การขึ้นเครื่องเจ้าหน้าที่ของสายการบินจะเรียกผู้โดยสารขึ้นเครื่องตามคิว ส่วนใหญ่จะให้ผู้สูงอายุ หรือผู้โดยสารที่เดินทางพร้อมเด็กเล็กขึ้นก่อน เมื่อขึ้นไปยังเครื่องบินเรียบร้อยก็จะมีการแนะนำวิธีปฏิบัติตัวระหว่างอยู่บนเครื่องบินอีกครั้ง

158
บอกลารอยแดงรอยดำจากสิวแบบเร่งด่วน เรียกความมั่นใจกลับคืนมาด้วยตัวช่วยดี ๆ อย่าง รองพื้นปกปิดรอยสิว ที่จะช่วยกลบรอยคล้ำรอยแผลจากสิวในทันทีทันใด เปลี่ยนผิวที่เต็มไปด้วยริ้วรอยให้กลับมาเนียนใส โดยตัวช่วยคือรองพื้นสำหรับปกปิดคุณภาพเยี่ยม นอกจากจะสามารถปกปิดรอยต่าง ๆ ได้อย่างดีเยี่ยมแล้วยังดูเป็นธรรมชาติ เปลี่ยนผิวเสียเป็นผิวสวย ต้องรีบหามาลองแล้ว

แนะนำ รองพื้นปกปิดรอยสิว เสกผิวเรียบเนียนแบบเร่งด่วน
1.   Estee Lauder Double Wear Sheer Long-Wear Makeup Foundation SPF20 PA++
คนที่ชอบลุคธรรมชาติทาแล้วไม่หนา เชื่อว่าต้องถูกใจรองพื้นสูตรน้ำขวดนี้ เกลี่ยง่าย เนื้อบางเบา ทาแล้วเนื้อเนียนกลืนไปกับผิว หน้าไม่แห้ง ไม่มัน ไม่อุดตันรูขุมขน มาพร้อมส่วนผสมอย่างวิตามินอีช่วยบำรุงผิว สารสกัดจากผลไม้ และสารปกป้องผิวจากสารแดด SPF 20 รวมถึงแสงสีฟ้า เสกผิวให้เนียนกริบพร้อมปกป้องผิวในขั้นตอนเดียว
2.   Estee Lauder Double Wear Maximum Cover Camouflage Makeup for Face and Body Broad Spectrum SPF 15
รองพื้นเนื้อครีมที่ให้การปกปิดอำพรางริ้วรอย รอยสิว เส้นเลือดขอด และรอยแผลเป็นได้อย่างดีเยี่ยม ติดทนนานตลอดวัน ให้ลุคกึ่งแมตต์ ดูเป็นธรรมชาติ มีสารป้องกันแสงแดด SPF15 พร้อมปกป้องผิวจากมลภาวะ คนเป็นสิวสามารถใช้ได้เพราะไม่อุดตันและไม่ก่อให้เกิดสิว

วิธีเลือกรองพื้นให้เหมาะกับตัวเอง
•   เลือกให้เหมาะกับสภาพผิว
สภาพผิวที่แตกต่างกันย่อมเหมาะกับรองพื้นสูตรแตกต่างกัน ก่อนตัดสินใจซื้อรองพื้นควรคำนึงถึงสภาพผิวเป็นหลัก หากผิวแห้งควรเลือกรองพื้นที่มีน้ำเป็นส่วนผสม แต่หากเป็นผิวมันควรเลือกสูตรปราศจากน้ำมันเพื่อไม่ให้หน้ามันเงาระหว่างวัน
•   เลือกเฉดสีแมทช์กับผิวหน้า
การทารองพื้นให้เป๊ะปังต้องเลือกรองพื้นสีที่พอดีกับผิว เมื่อทาแล้วกลืนไปกับผิวดูเป็นธรรมชาติ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาหน้าลอยหรือหน้าเทาระหว่างวัน เทคนิคลองสีรองพื้นที่ถูกต้องควรทารองพื้นบริเวณช่วงคาง ซึ่งเป็นรอยต่อระหว่างผิวหน้ากับผิวคอ ไม่ควรทดลองสีบริเวณข้อมือ
•   เลือกให้เหมาะกับโอกาส
รองพื้นแต่ละรูปแบบมีคุณสมบัติและเหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกันจึงควรเลือกให้เหมาะกับโอกาสหรือกิจกรรมแต่ละวัน หากเป็นวันออกงานที่ต้องการความเนี้ยบเป็นพิเศษควรเลือกแบบเนื้อครีมที่ปกปิดดีเยี่ยม ในขณะที่รองพื้นแบบน้ำเหมาะกับวันทำกิจกรรมเบา ๆ เน้นลุคสดใส ดูเป็นธรรมชาติ

การเลือกรองพื้นให้เหมาะกับตัวเองจะช่วยเรียกความมั่นใจกลับมา สำหรับใครที่มองหา รองพื้นติดทนนาน ปกปิดรอยสิวได้อย่างดีเยี่ยม แต่ทาแล้วไม่หนา ไม่อุดตัน ใช้รองพื้นยี่ห้อไหนดี ห้ามพลาดรองพื้นรุ่นยอดนิยมจาก Estee Lauder ที่สามารถปกปิดเรียบเนียนแต่ดูเป็นธรรมชาติ ให้งานผิวสวยไร้ที่ติ และเพื่อการลดปัญหาสิวในระยะยาว อย่าลืมล้างเครื่องสำอางให้สะอาดเสมอด้วยน้ำยาล้างเครื่องสำอางโดยเฉพาะ ลดโอกาสการสะสมของแบคทีเรียซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิว เพียงเท่านี้ก็เป็นเจ้าของผิวหน้าเนียนใส ไร้ปัญหาสิวกวนใจ

ชมเพิ่มเติมที่
https://sistacafe.com/summaries/95902

159
   ทุกวันนี้กาแฟสดกลายเป็นสิ่งจำเป็นของหลายคนไปแล้ว บางคนต้องดื่มกาแฟสดทุกวัน วันไหนไม่ได้ดื่ม เริ่มทำงาน ไปเรียน หรือเริ่มใช้ชีวิตประจำวันไม่ได้เลย ทำให้ต้องมองหาหา เครื่องชงกาแฟ มาไว้ชงเองที่บ้านเพื่อตอบโจทย์ความสะดวกสบายและประหยัดงบ
   แล้วจะซื้อเครื่องชงกาแฟแบบไหนดี ไปหาข้อมูลดูก็มีเครื่องชงกาแฟให้เลือกหลายแบบ ทั้ง เครื่องชงกาแฟอัตโนมัติ เครื่องชงกาแฟแบบดริป เครื่องชงกาแฟแคปซูล เครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซ ซึ่งสนนราคามีตั้งแต่หลักไม่กี่พันบาทไปจนถึงหลักหมื่นหลักแสน ใครที่ยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกเครื่องชงแบบไหนดี เรามีเช็กลิสต์ให้ เพื่อให้เห็นว่าเครื่องชงแต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
•   งบประมาณ ให้เริ่มต้นจากงบประมาณก่อนว่าเราต้องการราคาเท่าไหร่ เช่น หลักพันไม่เกินหมื่น หรือหลักหมื่นยังพอไหว การกำหนดงบไว้ช่วยกรองประเภทและยี่ห้อของเครื่องชงกาแฟ แล้วเราค่อยโฟกัสไปที่เครื่องชงกาแฟประเภทและแบรนด์ที่เหมาะกับงบในกระเป๋าเรา โดยหากให้เรียง เครื่องชงกาแฟแบบดริปมีราคาย่อมเยาที่สุด ถัดไปจะเป็น เครื่องชงกาแฟแบบแคปซูล ส่วนเครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซ่ที่มีทั้งแบบชงเองกับอัตโนมัติจะมีราคาแพงที่สุด ด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่สูงกว่าเครื่องชงกาแฟประเภทอื่น และนอกจากค่าเครื่องชงแล้ว ยังต้องคิดถึงวัตถุดิบตอนชงกาแฟด้วย อย่าง เครื่องชงกาแฟแคปซูล แม้เครื่องชงจะไม่แพง แต่ตัวแคปซูลกาแฟเฉลี่ยแล้วแพงกว่ากาแฟต่อแก้วที่ชงจาก เครื่องชงกาแฟอัตโนมัติ หรือเครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซ่ที่ค่าเครื่องแพงกว่า
•   การทำความสะอาดดูแลเครื่อง ก่อนซื้อต้องดูเรื่องสิ่งสำคัญอย่างการทำความสะอาดที่จะปล่อยปะละเลยไม่ได้ ควรเลือก เครื่องชงกาแฟอัตโนมัติ ที่ทำความสะอาดง่าย ดูแลง่าย สำหรับคนที่เร่งรีบ มีเวลาไม่มาก เครื่องชงกาแฟที่มีขั้นตอนการชงไม่ซับซ้อน มักทำความสะอาดดูแลง่ายกว่าเครื่องชงกาแฟที่มีขั้นตอนการชงที่ซับซ้อน
•   ประเภทเครื่องชงกาแฟ สำหรับผู้ที่เริ่มต้นมี เครื่องทำกาแฟเป็นครั้งแรก เครื่องชงกาแฟแบบดริปจะตอบโจทย์ เพราะราคาย่อมเยา ใช้งานง่าย ส่วนเครื่องชงกาแฟที่ใช้แคปซูลเป็นเครื่องชงกาแฟอีกประเภทที่ใช้งานง่าย สะดวก ทำกาแฟได้แค่ปลายนิ้วสัมผัส ได้รสชาติกาแฟที่มาตรฐานทุกแก้ว เพียงเลือกชนิดกาแฟจากแคปซูลที่ต้องการ เครื่องชงกาแฟแบบดริปและแบบแคปซูลนั้นใช้งานง่าย จึงเหมาะกับช่วงเวลาเร่งรีบตอนเช้า สำหรับเครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซ่จะเหมาะกับคอกาแฟที่ต้องการความเข้มข้นหลากหลาย เน้นเรื่องอรรถรสของกาแฟ ไม่เร่งรีบ
•   วัตถุดิบ นอกจากตัวเครื่องแล้ว วัตถุดิบที่ใช้ชงกาแฟก็เป็นสิ่งที่ควรคำนึง อย่างเมล็ดกาแฟ ถ้าเป็นเครื่องชงกาแฟแบบดริป ต้องใช้เมล็ดกาแฟบดหยาบ ส่วนเครื่องชงกาแฟแบบเอสเพรสโซ่ ก็ต้องใช้เมล็ดกาแฟ โดยตัวเครื่องมีทั้งแบบบดกาแฟในตัวกับแบบไม่มีเครื่องบดกาแฟ หากต้องการเมนูที่มีฟองนม ต้องเตรียมนมสดเพื่อตีฟองนม ฯลฯ สำหรับ เครื่องชงกาแฟแคปซูล วัตถุดิบคือแคปซูลกาแฟที่สามารถหาซื้อได้ง่าย รสชาติมาตรฐานคงที่ ไม่ต้องลุ้นรสชาติแก้วต่อแก้ว

หวังว่าจะได้แนวทางในการเลือกซื้อ เครื่องชงกาแฟสด ที่เหมาะกับการใช้งานที่ถนัดกับตัวเอง แล้วคุณจะพบว่าสามารถชงกาแฟแก้วโปรดได้ทุกวัน ทั้งสะดวกและประหยัดกว่า อีกทั้งยังเลือกรสชาติกาแฟที่ชื่นชอบได้

ชมรายละเอียดเพิ่ม
https://www.nespresso.com/th/th/order/machines/vertuo

160
   เบื่อไหมกับการต้องตื่นขึ้นมาแต่เช้ากว่าปกติเพราะอยากจะจิบกาแฟสดหอม ๆ ดี ๆ ก่อนออกจากบ้านไปทำงาน แทนที่จะได้มีความสุขกับการดื่มกาแฟทำเอาหลาย ๆ คนเกิดอาการเพลียไม่มีความสุขไปเลย แล้วเราอยากจะให้เช้าวันใหม่ของเราเป็นแบบนี้จริง ๆ หรอ วันนี้เราเลยอยากจะชวนคุณมาเปลี่ยนวิธีชงกาแฟแบบเดิม ๆ ด้วยนวัตกรรม เครื่องชงกาแฟแคปซูล Nespresso ที่จะทำให้การชง กาแฟสด ของคุณง่ายขึ้นแบบไม่ต้องเผื่อเวลาตื่นเช้ามาชงกาแฟดื่มอีกต่อไป
   เครื่องชงกาแฟของ Nespresso ที่เรายกมาแนะนำในวันนี้คือเครื่องชงกาแฟรุ่น Gran Lattissima เป็น เครื่องชงกาแฟในออฟฟิศ ของ Nespresso และในบ้าน ฟังก์ชั่นการใช้งานครบถ้วนไม่แพ้เครื่องชงกาแฟตามคาเฟ่เลย เพราะรุ่นนี้เขามีระบบทำฟองนมมาด้วยในตัว จึงสามารถชงได้ทั้งกาแฟดำและกาแฟผสมนม เรียกได้ว่าครบจบในเครื่องเดียว
   เครื่องชงกาแฟ Gran Lattissima ยังใช้งานง่าย เพราะออกแบบมาให้ใช้งานร่วมกับ กาแฟแคปซูล สะดวกสบายมาก ๆ จึงไม่ต้องมานั่งตักตวงเมล็ดกาแฟบดชงเอง ซึ่งเสี่ยงมาที่เราจะกะปริมาณได้ไม่พอดี ส่งผลให้กาแฟออกมาขมเข้มหรือบางทีก็อ่อนเกินไปในแต่ละครั้ง ถ้าใช้ กาแฟแคปซูล ก็ตัดปัญหาความไม่เสถียรในการชงกาแฟแบบเดิม ๆ ไปได้เลย มั่นใจได้ว่ารสชาติคงที่ออกมากลมกล่อมลงตัวทุกแก้วทุกแคปซูลแน่นอน
   วิธีใช้งานก็ง่ายมาก ๆ เพียงแค่ใส่แคปซูลกาแฟลงไป เติมน้ำเปล่า และถ้าอยากจะชงกาแฟนมต่าง ๆ ก็ใส่นมสดลงไป จากนั้นก็กดปุ่มให้เครื่องเซ็ตตัว ซึ่งใช้เวลาไม่นาน เพราะเขามีระบบทำความร้อนเร็วที่มาพร้อมกับแรงดันน้ำ 19 บาร์ ทำให้ไม่ต้องรอน้ำเดือดนาน ๆ หลายนาทีแบบกาต้มน้ำทั่วไป ที่สำคัญเขามีปุ่มฟังก์ชั่นการใช้งานมาให้เลือก 6 ปุ่มตามเมนูของเครื่องดื่ม ชงได้ทั้งเอสเปรสโซ ลุงโก้ ลาเต้ คาปูชิโน่ มัคคิอาโต้ และฟองนมอุ่น เพียงกดปุ่มที่ต้องการ รอเพียง 5 นาที ก็จะได้ กาแฟสด เมนูนั้น ๆ ออกมาอย่างสมบูรณ์แบบ
   เตรียมตัวบอกลากาต้มน้ำแบบที่เคยไปได้เลย เพียงแค่คุณมี เครื่องชงกาแฟขนาดเล็ก ที่ทำงานอัตโนมัติติดบ้านไว้อย่าง เครื่องชงกาแฟแคปซูล รุ่น Gran Lattissima ของ Nespresso การชงกาแฟสดดื่มเองก็ไม่ใช่เรื่องอยากวุ่นวายที่ต้องเผื่อเวลานาน ๆ อีกต่อไป เพราะเพียงแค่นิ้วสัมผัสง่าย ๆ ภายในเวลาไม่กี่นาทีคุณก็จะมีกาแฟสดดี ๆ ไว้จิบชิล ๆ ปลุกความสดชื่นยามเช้าได้ทุกวัน

161
มอยส์เจอไรเซอร์เป็นผลิตภัณฑ์ที่เราใช้ปิดท้ายการบำรุงผิวหน้าก่อนนอนหรือก่อนใช้ครีมกันแดด แต่เคยสงสัยกันไหมว่าทำไมมอยส์เจอไรเซอร์จึงต้องเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการบำรุงผิว เรามาหาคำตอบไปพร้อมกัน

   มอยส์เจอไรเซอร์ (Moisturizer) คือ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่ช่วยเติมและรักษาความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำหน้าที่เคลือบผิวเพื่อเก็บกักน้ำใต้ผิวหน้าและสารบำรุงผิวของผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ไม่ให้ระเหยออกไป ผิวหน้าจึงคงความชุ่มชื้น นุ่มนวล อิ่มน้ำ แข็งแรง ไม่ระคายเคืองง่าย และยังช่วยให้เครื่องสำอางติดทนขึ้นด้วย

ส่วนผสมมอยส์เจอไรเซอร์แบ่งตามที่ให้ความชุ่มชื้นได้ 3 ประเภท
1.   Occlusives เป็นประเภทของมอยส์เจอไรเซอร์ที่ช่วยป้องกันการสูญเสียน้ำ โดยการเคลือบหรือปิดผิวเพื่อไม่ให้น้ำระเหยออกจากผิว ช่วยเก็บกักความชุ่มชื้นของผิวไว้อย่างดีเยี่ยม Occlusives เป็นไขมันที่ผิวมันดูดซึมไม่ได้ เช่น ซิลิโคน ขี้ผึ้ง ปิโตรเลียมเจล ลาโนลิน สารสกัดจากน้ำมันมะกอก สารสกัดจากถั่วเหลือง สารสกัดจากจมูกข้าวสาลี และสารสกัดจากรำข้าว เป็นต้น
2.   Humectants เป็นประเภทของมอยส์เจอไรเซอร์ที่ช่วยให้ผิวฉ่ำน้ำ นำน้ำมาไว้บนผิวโดยการดูดซับน้ำจากผิวที่อยู่ลึกลงไปจากชั้นหนังกำพร้ามาไว้ที่ชั้นผิวและในขณะเดียวกันก็ดึงน้ำจากอากาศภายนอกเข้ามาที่ชั้นผิวด้วย ตัวอย่างสารที่มีคุณสมบัติที่ดึงดูดน้ำได้ดี เช่น กลีเซอรีน ไฮยาลูรอนิก ยูเรีย ซอร์บิทอล และอัลฟาไฮดรอกซี เป็นต้น
3.   Emollients เป็นประเภทของมอยส์เจอไรเซอร์ที่ทำให้ผิวเนียนนุ่ม โดยการช่วยประสานเซลล์ที่ตายแล้ว เป็นการเติมร่องผิวและเคลือบผิวด้วยไขมันบาง ๆ จึงทำให้ผิวเนียนเรียบ ตัวอย่างสารในกลุ่ม Emollients เช่น เชียร์บัตเตอร์ คอลลาเจน ปาล์มิเตท และสควาเลน เป็นต้น

แนะนำการเลือกมอยส์เจอไรเซอร์ให้เหมาะกับผิว
1.   ผิวธรรมดา เป็นผิวที่มีความแข็งแรงสมดุลพอดี ไม่มันหรือแห้งเกินไป สามารถใช้ Moisturizer ทั้งที่เป็น Water-based และ Oil-based ทั้งในรูปแบบที่เป็นโลชั่นและครีม แต่ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมประเภท Occlusives ที่มากเกินไป เนื่องจากอาจก่อให้เกิดการอุดตันของรูขุมขนได้
2.   ผิวมัน เป็นผิวที่ผลิตน้ำมันออกมามากกว่าปกติ ซึ่งอาจมาจากผิวขาดความชุ่มชื้นจนต่อมไขมันต้องผลิตไขมันออกมาเพิ่มเพื่อให้ผิวมีความชุ่มชื้นหรือเกิดจากพันธุกรรม อย่างไรก็ตาม มอยส์เจอไรเซอร์ก็ยังจำเป็นกับผิวมัน เพราะเมื่อผิวมีความชุ่มชื้นต่อมไขมันก็จะลดการผลิตไขมันออกมา โดยสามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็น Water-based ทั้งในรูปแบบโลชั่นและเจลเพื่อให้ซึมสู่ผิวได้รวดเร็ว แนะนำให้หลีกเลี่ยงมอยส์เจอไรเซอร์ที่มีส่วนผสมประเภท Occlusives
3.   ผิวแห้ง เป็นผิวที่ขาดความชุ่มชื้นและควรใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่มีความเข้มข้นอย่างสม่ำเสมอ โดยเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็น Oil-based ในรูปแบบโลชั่น ครีม หรือบาล์ม moisturizer แนะนำ ได้แก่ Moisturizer ที่มีส่วนผสมประเภท Occlusives สูง เพื่อช่วยกักความชุ่มชื้นไม่ได้ระเหยออกจากผิว และแนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้ Moisturizer ที่มีส่วนผสมหลักเป็น Humectants โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศมีความชื้นต่ำ เนื่องจากไม่ช่วยแก้ไขปัญหาผิวหน้าแห้งได้ 
4.   ผิวผสม เป็นผิวหน้าที่มีทั้งบริเวณที่มีความมันส่วนเกิน ได้แก่ หน้าผาก จมูก และคาง กับผิวแห้งบริเวณแก้ม moisturizer แนะนำ ได้แก่ Moisturizer ที่มีส่วนผสมของน้ำและน้ำมันเท่า ๆ กัน อยู่ในรูปแบบกึ่งโลชั่นกึ่งครีมที่ให้ความชุ่มชื้นระดับปานกลาง หรือเลือกใช้ Moisturizer แยกตามส่วนก็ได้เช่นกัน

การใช้ มอยส์เจอไรเซอร์ ช่วยป้องกันการสูญเสียน้ำของชั้นผิว ให้ผิวเกิดความสมดุล และช่วยให้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าต่าง ๆ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ การไม่ใช้มอยส์เจอไรเซอร์ทำให้เกิดปัญหาผิวหน้ามากมาย ไม่ว่าจะเป็นผิวหน้าแห้ง ขาดความชุ่มชื้น เกิดริ้วรอย รูขุมขนกว้าง และระคายเคืองง่าย ดังนั้นเพื่อสุขภาพที่ดีของผิวหน้า เราจึงต้องใช้มอยส์เจอไรเซอร์ทุกวันไม่ควรขาด ที่สำคัญควรเลือกมอยส์เจอไรเซอร์ที่เหมาะกับสภาพผิวของเราด้วย แต่หากคุณยังกังวลว่าจะเลือกมอยส์เจอไรเซอร์ที่ใช่สำหรับผิวของคุณได้อย่างไร หรือมอยเจอร์ไรเซอร์ยี่ห้อไหนดี เราขอให้คุณแวะเข้าไปที่ https://www.esteelauder.co.th/products/688/product-catalog/skin-care/moisturizer  แล้วคลิก “ค้นหามอยส์เจอไรเซอร์ที่ใช่สำหรับผิวของคุณ” ตอบคำถาม 2 - 3 ข้อ คุณก็จะได้ Moisturizer ที่เหมาะกับสภาพผิวของคุณ เพิ่มความชุ่มชื้นและแก้ปัญหาผิวหน้าของคุณได้ง่าย ๆ ไม่ต้องพลิกดูส่วนผสมหลังกล่องให้วุ่นวาย เพราะ Estee Lauder เลือกมาให้แล้วว่าใช่

162
“รองพื้น” เป็นเครื่องสำอางที่สามารถเสกความเนียนกริบปกปิดจุดบกพร่องต่าง ๆ บนใบหน้าได้อย่างรวดเร็ว ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับสาว ๆ ทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน เรียกได้ว่าเป็นเครื่องสำอางชิ้นสำคัญที่ขาดไม่ได้ แต่สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มแต่งหน้า “รองพื้น” อาจจะก่อให้เกิดปัญหาได้หากเลือกใช้ไม่เหมาะสม ดังนั้นจึงควรทำความรู้จักกับรองพื้นให้ดีก่อนซื้อมาใช้งาน

รองพื้นคืออะไร
รองพื้น (Foundation) เป็นเครื่องสำอางซึ่งทำหน้าที่ในการอำพรางหรือปกปิดจุดบกพร่องบนใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นรอยสิว รอยแผลเป็น ฝ้า กระ หรือรูขุมขนขนาดใหญ่ ด้วยการปรับสภาพผิวให้เนียนเรียบและมีสีผิวสม่ำเสมอขึ้น รองพื้นมักจะประกอบไปด้วยน้ำมันแร่หรือซิลิโคนผสมกับเม็ดสี เช่น ไททาเนียมไดออกไซด์ ซิงค์ออกไซด์ และเหล็กออกไซด์ โดยอนุภาคของเม็ดสีซึ่งให้สีแก่รองพื้นนั้นจะถูกแขวนลอยอยู่ในของเหลวที่มีน้ำมัน 
ปัจจุบันมีรองพื้นหลายรูปแบบให้เลือกใช้ หากจะถามว่า รองพื้นยี่ห้อไหนดี ตอบได้เลยว่ารองพื้นที่ดีที่สุดคือรองพื้นที่เหมาะกับตัวเรา

เคล็ดลับการเลือกรองพื้นให้เหมาะกับตนเอง
1.   เลือกรองพื้นให้เหมาะกับสภาพผิว
•   ผิวหน้ามันควรเลือกใช้รองพื้นสูตร Oil free เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวหน้ามันวาว                                                                           
•   ผิวแห้งควรเลือกใช้รองพื้นเนื้อบางเบาเพื่อป้องกันการอุดตันของรูขุมขนและเลือกที่มีส่วนผสมวิตามินเอและ/หรือวิตามินอีเพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหน้า
•   ผิวผสมให้เลือกใช้รองพื้นที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นแก่ผิวเป็นหลักและเน้นใช้ในบริเวณผิวแห้งมากกว่าผิวมัน
2.   เลือกให้เหมาะกับการใช้งาน               
•   Cream Foundation มีส่วนผสมของน้ำมันมากกว่าน้ำจึงมีเนื้อครีมเข้มข้น รองพื้นปกปิดรอยสิวให้การปกปิดสูง เหมาะสำหรับงานแต่งหน้าที่ต้องการความสมบูรณ์แบบ เช่น แต่งหน้าเพื่อออกงานหรือถ่ายรูป                                                                                                                     
•   Liquid Foundation รองพื้นสูตรน้ำเนื้อบางเบาจึงเกลี่ยง่ายสบายผิวกว่าแบบแรก ปกปิดได้พอสมควร เหมาะสำหรับการแต่งหน้าสไตล์ธรรมชาติหรือ Everyday Look                                               
•   Powder Foundation เป็นแป้งผสมรองพื้นที่ใช้งานง่ายเหมาะสำหรับพกพาไปใช้ในระหว่างวันเพราะเมื่อเกลี่ยรองพื้นลงบนผิวหน้าแล้วเนื้อรองพื้นจะเซตตัวเป็นแป้งทำให้ไม่ต้องลงแป้งซ้ำทั้งยังช่วยควบคุมความมันได้ดี
3.   เลือกสีรองพื้นให้เหมาะกับสีผิวตัวเอง
สีผิวภายนอกของคนเราสามารถเปลี่ยนแปลงได้จากปัจจัยภายนอก เช่น ช่วงที่เจอแดดแรงทุกวันผิวหน้าอาจคล้ำกว่าปกติ หรืออยู่ในบ้านนาน ๆ ไม่ได้เจอแดดผิวก็อาจจะขาวขึ้น ดังนั้นการเลือกสีรองพื้นที่ถูกต้องจึงควรเช็กตามสีผิวที่แท้จริง (Undertone) ซึ่งไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ การเช็ก Undertone ทำได้ง่ายเพียงแค่หงายข้อมือแล้วเช็กสีเส้นเลือดกับแสงสว่างจากธรรมชาติ
•   หากเส้นเลือดสีน้ำเงิน – ม่วง แสดงว่า ผิวโทนชมพูหรือ Cool Undertone       
•   หากเส้นเลือดสีน้ำเงิน – เขียว แสดงว่า ผิวโทนปกติหรือ  Neutral Undertone   
•   หากเส้นเลือดสีเขียว – เขียวเข้ม แสดงว่า ผิวโทนเหลือง หรือ Warm Undertone       
เมื่อเลือกรองพื้นตามโทนสีผิวได้แล้ว ก่อนตัดสินใจซื้ออย่าลืมเทียบสีรองพื้นที่เลือกกับผิวบริเวณคอหรือกรามด้วย

การเลือกรองพื้นที่เหมาะกับตนเองนั้นนอกจากจะช่วยกลบจุดบกพร่องบนใบหน้าแล้ว ยังลดปัญหาหน้าเทา หน้าลอย รองพื้นติดไม่ทนทำให้เป็นคราบ หนึ่งในรองพื้นยอดนิยมของสาว ๆ นั่นคือ Estee Lauder Double Wear Stay-in-Place Makeup Foundation SPF10 / PA++ รองพื้นขายดีอันดับ 1 ของ Estee Lauder ด้วยคุณสมบัติ Double Wear จึงเป็น รองพื้นติดทน นานตลอดวัน ให้การปกปิดตั้งแต่ระดับปานกลางจนถึงขั้นสุด เนื้อกึ่งแมตต์บางเบาช่วยให้ผิวหน้าดูสวยอย่างเป็นธรรมชาติแม้ต้องอยู่ท่ามกลางแดดจัด ทั้งยังไม่มีส่วนผสมของน้ำมันและน้ำหอม ผ่านการทดสอบจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเรียบร้อยแล้วสบายใจว่าไม่ก่อให้เกิดสิวอย่างแน่นอน

163
   มอยส์เจอร์ไรเซอร์ สกินแคร์ที่หลายคนมักมองข้ามเพียงเพราะคิดว่าไม่สำคัญ และไม่รู้ว่าใช้เพื่ออะไร จะเลือกอย่างไรให้เหมาะกับผิวหน้า วันนี้เราจะพามารู้จักกับ มอยส์เจอไรเซอร์ จาก ELCA สกินแคร์ตัวเด็ดที่หลายคนมองข้ามมีความสำคัยกว่าที่คิด ช่วยให้ผิวสวยที่หลายคนใฝ่ฝันอยากมี ตามไปดูพร้อมกันได้เลยค่ะ

มอยส์เจอร์ไรเซอร์ (Moisturizor) คือสกินแคร์ชนิดหนึ่งที่ช่วยเติมความชุ่มชื้น กระชับผิวให้ดูเต่งตึงแลดูสุขภาพดี ทำให้ผิวแข็งแรงคืนความสมดุลแก่ผิว กระจ่างใส ลดเลือนริ้วรอย ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นจะขึ้นอยู่กับแต่ละสูตรและยี่ห้อที่มีเอกลักษณ์ในการปรนนิบัติผิวที่แตกต่างกันออกไป โดยส่วนใหญ่จะมาในรูปแบบเนื้อครีมและเนื้อเจล

Moisturizer มีกี่ประเภท เลือกอย่างไรให้เหมาะกับผิว
   Moisturizer แบ่งออกเป็น 3 ประเภทด้วยกัน ดังนี้
-   ประเภทที่ 1 Moisturizer Occlusives
   ประเภทนี้เป็น Moisturizer ที่มีประสิทธิภาพในการเคลือบผิว ล็อกความชุ่มชื้น ส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อครีมที่เข้มข้นกว่าชนิดอื่น ๆ เหมาะสำหรับผู้ที่มีสภาพผิวแห้งกร้าน แห้งแตกลอก

-   ประเภทที่ 2 Moisturizer Humectants
   มอยเจอร์ไรเซอร์ในกลุ่ม Humectants จะมีประสิทธิภาพในการดูดซับความชุ่มชื้นคืนสู่ผิว อาจดึงความชุ่มชื้นจากอากาศภายนอกหรือชั้นผิวหนังกำพร้า ช่วยให้ผิวดูฉ่ำน้ำ เหมาะสำหรับผู้ที่มีสภาพผิวธรรมดาไปจนถึงผิวผสม แต่ประเภทนี้จะไม่มีประสิทธิภาพในการกักเก็บความชุ่มชื้นยาวนาน หากมีปัญหาผิวแห้ง ก็แนะนำให้ใช้ร่วมกับประเภทอื่น ๆ

-   ประเภทที่ 3 Moisturizer Emollients
ประเภทสุดท้ายเป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีประสิทธิภาพในการบำรุงให้ผิวนุ่มน่าสัมผัส ผิวเรียบเนียน กระจ่างใส ล็อกความสมดุลของผิวให้คงที่ไม่ขาดน้ำ ไม่แห้งกร้านหรือมันจนเกินไป เหมาะสำหรับผู้ที่มีสภาพผิวธรรมดาและผิวผสม

มอยส์เจอร์ไรเซอร์ ใช้ตอนไหน
   มอยส์เจอร์ไรเซอร์สามารถใช้ได้ทั้งเช้า-เย็นหลังจากล้างหน้า หากใช้โทนเนอร์ร่วมด้วยแนะนำให้ทาหลังจากที่เช็ดโทนเนอร์แล้วจะทำให้ผลิตภัณฑ์ซึมเข้าสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น ส่วนใครที่ต้องแต่งหน้าก็แนะนำให้ทาก่อนแต่งหน้า ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นสู่ผิวและทำให้เครื่องสำอางติดทนขึ้นอีกด้วย

   การใช้ Moisturizer จะช่วยเข้าไปแก้ปัญหาเรื่องสมดุลของผิวได้เป็นอย่างดี ทำให้ผิวสุขภาพดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะผิวที่มีปัญหาจากการขาดน้ำ ผิวดูโทรม ไม่แข็งแรง ใครที่สนใจอยากลองใช้แต่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกใช้ มอยเจอร์ไรเซอร์ยี่ห้อไหนดี จาก ELCA วันนี้เรามี moisturizer แนะนํา จาก ELCA Estee Lauder สกินแคร์แบรนด์ชั้นนำจากอเมริกา มี Moisturizer ให้เลือกหลายสูตร ตอบโจทย์ทุกสภาพผิว อย่างเช่น Revitalizing Supreme+ Youth Power Soft Creme Moisturizer ที่ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน และคืนความชุ่มชื้นคืนสู่ผิว ช่วยแก้ปัญหาผิวแห้งกร้าน ให้ผิวดูอิ่มกระจ่างใส พร้อมยกกระชับผิวดูอ่อนเยาว์ อยากมีผิวสวยสุขภาพดี ลองเลย!

164
สำหรับคนที่อยาก ทำบัตรเครดิต ให้ตรงตามไลฟ์สไตล์ของตนเอง ทำ บัตรเครดิต ครั้งเดียวให้ผ่านฉลุย แต่ยังไม่รู้ว่ามีขั้นตอนอย่างไรและควรเตรียมตัวอย่างไร วันนี้เราจะมาแชร์เคล็ดลับการสมัครใช้เครดิตการ์ดว่าต้องเตรียมความพร้อมกันก่อนว่าทำอย่างไรจึงจะผ่านง่าย ๆ
ก่อนไปธนาคารเพื่อ สมัครบัตรเครดิต ใบแรกที่เหมาะสมกับเรา ควรเช็กคุณสมบัติของผู้สมัครว่าตรงกับตัวเราด้วย คุณสมบัติพื้นฐานของผู้สมัคร โดยทั่วไปมี 3 สิ่งคือ
1.อายุระหว่าง 20 - 55 ปี
2.มีเงินเข้าบัญชีรายเดือน 15,000 บาทขึ้นไป
3.มีหลักฐานแสดงอายุการทำงานปัจจุบันอย่างน้อย 6 เดือน

เอกสารที่ต้องใช้ในการ สมัครบัตรเครดิตผ่านออนไลน์
1.สำเนาบัตรประชาชน
2.สำเนาหรือต้นฉบับสลิปเงินเดือนล่าสุด หรือหนังสือรับรองรายได้ฉบับจริง
3.สำเนารายการเดินบัญชีธนาคาร (statement) 6 เดือน
4.กรณีที่มีรายได้ทางอื่นควรแนบสำเนาหรือต้นฉบับสลิปเงินเดือนย้อนหลัง 6 เดือนต่อเนื่อง
5.สำเนาทะเบียนบ้าน (บางธนาคารจะขอเอกสาร)

สำหรับคนที่มีความจำเป็นต้อง ทำบัตรเครดิต จาก KCC ใบแรก ก่อนสมัครต้องเช็กสถานะของตัวเอง ควรทำอย่างไรบ้างทำให้ผ่านอนุมัติไว ถ้าพร้อมแล้วเราไปดูกันเลย
•   แน่นอนว่าสิ่งแรกคือฐานของเงินเดือน ต้องมีขั้นต่ำ 15,000 บาท แต่ไม่ได้หมายความมีเงินเดือนเพียงแต่ 15,000 บาทเท่านั้น กรณีที่มีเงินเดือน 15,000-30,000 บาท ได้วงเงินไม่เกิน 1.5 เท่าของเงินเดือน หรือวงเงิน 22,500-45,000 บาทนั่นเอง ทั้งนี้ อัตราการขออนุมัติขึ้นอยู่กับช่วงเงินเดือน ถ้ามีเงินเดือนสูงกว่านี้ เช่น 30,000-50,000 บาท ได้วงเงินไม่เกิน 3 เท่าของเงินเดือน จะขอวงเงินได้ระหว่าง 90,000-150,000 บาท เป็นต้น
•   หลักฐานด้านอายุการทำงานปัจจุบันอย่างน้อย 6 เดือน หมายความว่าได้รับเงินเดือนมาแล้วอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่งจะต้องมีสลิปเงินเดือนและรายการเดินบัญชีธนาคารย้อนหลัง (statement) และสถานที่ทำงานต้องมีความน่าเชื่อถือด้วย โดยการจ่ายเงินเดือนตามกำหนด ไม่มีเลื่อนหรือล่าช้า
•   โดยปกติการใช้เครดิตการ์ดรูดซื้อสินค้าและใช้ผ่อนของได้ด้วย ปัจจุบันยังสามารถกดเงินสดออกมาได้โดยใช้บัตรใบเดียว ซึ่งจะคิดค่ากด 3% ของจำนวนเงินที่กดออกมา กติกาการคิดดอกเบี้ยต่อปีอาจจะรวมกับยอดการกดเงินสดหรือแยกยอดกันอย่างชัดเจน ขึ้นอยู่กับกติกาของแต่ละบัตรซึ่งต้องไปศึกษาเพิ่มเติมกันอีกที

คนที่ทำงานมานานหรือทำงานนานกว่า 6 เดือนมาแล้ว หากไม่เคย สมัครบัตรเครดิต หรือไม่เคยมีประวัติ สมัครบัตรผ่อนสินค้า มาก่อน ขอเพียงมีรายได้ผ่านเกณฑ์ แนะนำให้สมัครบริการเครดิตการ์ดตามปกติกับธนาคารกรุงศรีซึ่งอนุมัติบัตรง่ายหากมีรายได้ผ่านเกณฑ์ ดีกว่าสมัครบัตรระดับสูงกว่าแต่ท้ายสุดเปิดบัตรไม่สำเร็จ การกรอกข้อมูลให้ครบถ้วนสำคัญมากกับการขอสมัครบริการ ควรกรอกข้อมูลอย่างมีสติ ถ้ากรอกผิดแล้วแก้ไขจะต้องเซ็นชื่อกำกับทุกครั้ง ถ้าข้อมูลไม่ครบอาจมีการโทรมาสอบถามเพิ่มเติมหรือถูกปฏิเสธการสมัครได้
บัตรเครดิต มีไว้อุ่นใจใช้จ่ายเพื่อความสะดวก มิใช่ใช้จ่ายเพราะคิดว่ามีเงินมาเพิ่ม ควรเริ่มจากสมัครใบเดียวก่อนเพื่อให้ฐานการเงินมั่นคงและมีความสามารถในการชำระหนี้ได้ ควรวางแผนการชำระให้ตรงเวลาด้วย เพราะจะได้ไม่ถูกคิดดอกเบี้ยเงินกู้ และยังเป็นการสร้างประวัติเครดิตบูโรที่ดีให้กับตัวเองอีกด้วย ชมเพิ่มเติมที่ https://www.krungsricard.com/th/Product

165
   โดยทั่วไปคนชงกาแฟสดระดับพรีเมียมรสชาติกลมกล่อมจำเป็นต้องมีประสบการณ์พอตัว แต่ถ้าเลือกใช้ เครื่องชงกาแฟแคปซูล ที่มาพร้อมกาแฟแคปซูลหลากหลายรสชาติ กดปุ่มเดียวรู้เรื่อง ชงกาแฟสดอร่อย ๆ ด้วยตัวเองได้ทุกวันโดยไม่ต้องมีความรู้หรือประสบการณ์เรื่องกาแฟสดแม้แต่น้อย มาดูกันว่า เครื่องชงกาแฟสดอัตโนมัติ ใช้งานอย่างไร ทำไมควรค่าแก่การลงทุนซื้อมาไว้ในบ้าน
เครื่องชงกาแฟแคปซูล ใช้งานง่าย เพียงเลือก แคปซูลกาแฟ รสชาติที่ต้องการใส่ลงในตัวเครื่อง กดปุ่มทำงานครั้งเดียวรอกาแฟสดชงสำเร็จ ปล่อยกาแฟลงมาในแล้วพร้อมดื่มภายในเวลาไม่กี่วินาที เปรียบเทียบกับกาแฟสดตามร้านกาแฟทั่วไปจะใช้เวลาอย่างน้อย 10-20 นาที ดีไซน์ตัวเครื่องทันสมัย แบ่งออกเป็นขนาดเล็ก กลาง และใหญ่ ทุกรุ่นใช้งานง่ายเพียงไม่กี่ขั้นตอน แต่ละรุ่นมีโหมดการทำงานที่หลากหลาย บางรุ่นทำได้ทั้งเมนูกาแฟดำและกาแฟนม เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายชงอร่อยกลมกล่อมทั้งกาแฟร้อนและกาแฟเย็น
นอกจากนี้ เครื่องชงกาแฟขนาดเล็ก ยังมีระบบทำฟองนมเป็นอุปกรณ์เสริมเพิ่มรสสัมผัสเอาใจคนชอบดื่มกาแฟนมอย่างคาปูชิโนและลาเต้ด้วย ทั้งยังสะดวกสำหรับคนที่ฝึกวาดลวดลายนมบนถ้วยกาแฟสไตล์ลาเต้อาร์ต ทำความสะดวกตัวเครื่องไม่ยุ่งยากในรุ่นที่มีระบบทำความสะอาดอัตโนมัติ เรียกว่าทุกขั้นตอนครบจบในเครื่องเดียว
เครื่องชงกาแฟอัตโนมัติเป็นนวัตกรรมที่นำเสนอความสะดวกสบายเหนือระดับสำหรับคอกาแฟตัวยง สัมผัสรสชาติกาแฟแท้ที่มีกลิ่นหอมตามแบบฉบับเมล็ดกาแฟคั่วบดละเอียดด้วย เครื่องชงกาแฟแคปซูล โดยไม่ต้องออกจากบ้านไปหาร้านกาแฟนั่งดื่มให้เสียเวลา เหมาะสำหรับใช้ในครัวเรือนทั่วไปชงกาแฟแก้วโปรดดื่มเองที่บ้านหรือเสิร์ฟกาแฟสดต้อนรับแขกพิเศษที่มาเยือนบ้านได้อย่างภาคภูมิใจ สำหรับเครื่องชงกาแฟรุ่นกลางเหมาะใช้ในสำนักงาน ห้องประชุม ร้านค้าปลีก ไปจนถึงร้านอาหารที่มีกาแฟสดเป็นเครื่องดื่มเสริม
เครื่องชง กาแฟแคปซูล รุ่นใหญ่สุดใช้งานไม่ยากและมีฟังก์ชั่นเสริมหลายอย่าง รวมทั้งระบบทำความสะอาดอัตโนมัติ ความจุของแท็งก์น้ำเติมน้ำเพียงพอชงกาแฟครั้งละ 5-7 แก้วได้สบาย สามารถเลือกปุ่มชงกาแฟแก้วโปรดสารพัดเมนู เช่น เอสเปรสโซ, คาปูชิโน, มัคคิอาโต้,  ลาเต้, ลุงโก้ เป็นต้น หากคุณเป็นคอกาแฟสายนมให้เลือกเมนูที่ชอบและเทนมลงไปแท็งก์นมด้วย เพียงกดปุ่มเพียงสองปุ่มเท่านั้น ไม่กี่วินาทีก็ได้ดื่มด่ำลิ้มชาติกาแฟแก้วโปรดรสชาติตรงใจ
   ด้วยคุณสมบัติการใช้งานที่สะดวกรวดเร็วและราคาเริ่มต้นหลักพันเท่านั้น ไม่น่าแปลกใจที่คอกาแฟสนใจเลือกที่จะซื้อ เครื่องชงกาแฟสดอัตโนมัติ มาไว้ในบ้านกันมาก ถือเป็นลงทุนคุ้มค่าในระยะยาว ชงดื่มได้บ่อยไม่มีเบื่อและต้นทุนราคาถูกกว่าออกไปซื้อกาแฟนอกบ้าน เนื่องจากกาแฟแคปซูลราคาไม่แพง มีหลายรสชาติให้เลือกทำกาแฟสดออกมาตอบโจทย์ทุกความชอบ มีเครื่องชงกาแฟอร่อยติดบ้านแล้วก็ไม่ต้องเสียเวลาออกไปตามหาร้านกาแฟให้ยุ่งยากอีกเลย

166
สาว ๆ หลายคนที่เป็นสายบิวตี้ย่อมรู้จัก มอยส์เจอไรเซอร์ แต่อาจจะรู้ประโยชน์ของ มอยส์เจอไรเซอร์ ได้แบบไม่ครบถ้วน หลายคนก็มองข้ามไป วันนี้เราพาทุกคนมาทำความรู้จักถึงประโยชน์ที่แท้จริง ที่มีมากกว่าการให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว พร้อมแนะนำเทคนิคในการเลือกใช้มอยส์เจอไรเซอร์ให้เหมาะกับผิวและใช้งานแบบเต็มประสิทธิภาพ คุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไปด้วย

มอยส์เจอไรเซอร์ ดูแลผิวมากกว่าที่คุณคิด
มอยส์เจอไรเซอร์ เป็นสกินแคร์ที่มีคุณสมบัติเด่นในเรื่องเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว การที่ผิวเรามีความชุ่มชื้นถือว่ามีความสมดุล เป็นจุดเริ่มต้นของการมีสุขภาพผิวที่ดีหลายประการ และหากในมอยส์เจอไรเซอร์ได้มีการเติมส่วนผสมที่มีคุณสมบัติพิเศษมากกว่าความชุ่มชื้น ผิวก็จะได้รับการบำรุงในส่วนอื่น ๆ เพิ่มขึ้น ประโยชน์ที่ผิวจะได้รับหลังจากที่ใช้ ครีมมอยส์เจอไรเซอร์ คือ ผิวเต่งตึง เรียบเนียนและมีความแข็งแรงมากขึ้น เมื่อผิวชุ่มชื้น น้ำในผิวมาก ริ้วรอยต่าง ๆ ก็เกิดขึ้นได้น้อยลง ทั้งชะลอการเกิดริ้วรอยใหม่ และช่วยให้การแต่งหน้าง่ายขึ้น เครื่องสำอางติดหน้าได้ดีอีกด้วย

ประเภทของ มอยส์เจอไรเซอร์
   มอยส์เจอไรเซอร์ ที่เราใช้ส่วนใหญ่มักอยู่ในรูปแบบ ครีม โลชั่น เจล หรือเนื้อเอสเซนส์ ในแต่ละรูปแบบมีคุณสมบัติแตกต่างกัน สามารถแบ่งออกเป็น 3 คุณสมบัติเด่นดังนี้
•   กลุ่มทำให้ผิวนุ่ม (Emollients) เป็นมอยส์เจอไรเซอร์ในกลุ่มไขมัน หรือน้ำมัน มีคุณสมบัติในด้านช่วยในเรื่องผิวมีความนุ่ม ผิวเรียบเนียน เป็นหลัก
•   กลุ่มช่วยผิวฉ่ำน้ำ (Humectants) เป็นกลุ่มที่ช่วยกักเก็บน้ำให้ชั้นผิว คุณสมบัติอุ้มน้ำนี้เองที่ทำให้ผิวชุ่มชื้น ไม่ทำให้ผิวแห้ง ความชุ่มชื้นคงอยู่ในผิว
•   กลุ่มช่วยเคลือบผิว (Occlusives) ป้องกันการสูญเสียน้ำจากผิว ทำงานโดยการสร้างฟิล์มเคลือบผิว เพื่อลดการสูญเสียความชุ่มชื้นของผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้นยาวนาน
ในมอยส์เจอไรเซอร์ส่วนใหญ่มักมีส่วนผสมของ 3 กลุ่มนี้อยู่แล้ว อาจจะมีมากมีน้อย หรือเน้นการดูแลด้านใดเป็นหลักก็ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของการดูแลผิวเป็นสำคัญ

เลือก มอยส์เจอไรเซอร์ ให้เหมาะ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพผลลัพธ์ที่ดี
   โดยทั่วไปผิวถูกแบ่งตามสภาพผิวเป็น 4 กลุ่ม คือ ผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสม และผิวปกติ แล้วจะเลือกมอยส์เจอไรเซอร์อย่างไรให้เหมาะกับสภาพผิว มาดูกัน
•   ผิวปกติ คือผิวที่มีปัญหาผิวน้อย หรือผิวที่มีความสมดุลผิวที่ดี การเลือกมอยส์เจอไรเซอร์สามารถเลือกตามสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงในช่วงเวลานั้น ๆ หรือตามที่เรากังวล เช่น อากาศร้อนเลือกมอยส์เจอไรเซอร์ที่เป็นเบสน้ำ เนื้อบางเบาเพื่อให้ซึมสู่ผิวได้ง่าย อากาศเย็น เน้นประเภทน้ำมันเพื่อกักเก็บน้ำ ป้องกันผิวแห้งแตก เป็นต้น
•   ผิวมัน คือผิวที่มีความมัน และรูขุมขนกว้าง เป็นสิวง่าย ควรเลือกมอยส์เจอร์ไรเซอร์ประเภทเนื้อบางเบาอย่างโลชั่น มีส่วนผสมของไขมันน้อย มีน้ำเป็นส่วนประกอบ เพื่อช่วยให้ซึมลงสู่ผิวได้ง่าย
•   ผิวแห้ง คือผิวที่ขาดน้ำ มักจะมีอาการคัน ผิวลอก และมีริ้วรอย สำหรับการเลือก moisturizer แนะนํา เป็นรุ่นที่มีส่วนผสมประเภท Occlusives เน้นเรื่องการสูญเสียน้ำของผิว และกลุ่ม Humectants ที่มีคุณสมบัติอุ้มน้ำ ทำให้ผิวไม่แห้งมีความชุ่มชื้นเป็นหลัก
•   ผิวผสม เป็นผิวที่มีสภาพทั้งผิวมันโดยเฉพาะบริเวณ T-zone และผิวแห้ง การเลือก moisturizer แนะนํา ให้เลือกที่มีแนวโน้มมากกว่า หรือใช้มอย์เจอไรเซอร์ที่เหมาะกับสภาพผิวบริเวณนั้นๆ เป็นการเฉพาะไปเลย

สรุปแล้วมอยส์เจอไรเซอร์ นั้น มีความสำคัญและเป็นสิ่งจำเป็นต่อผิวมากขนาดไหน สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ยี่ห้อไหนดี แนะนำมอยส์เจอร์ไรเซอร์จาก Estee Lauder มีจุดเด่นเรื่องช่วยให้ผิวเนียนเรียบ กระชับ รูขุมขนเล็กลงแล้ว มาพร้อมคุณสมบัติพิเศษช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานของคอลลาเจน ช่วยให้ผิวเต่งตึงกระชับ ริ้วรอยลดลงอย่างเห็นได้ชัด และต้องไม่ลืมข้อสำคัญ คือต้องเลือกใช้ประเภทมอยส์เจอร์ไรเซอร์ให้เหมาะกับสภาพผิวของเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า

167
การออกไปท่องเที่ยวในประเทศไทยเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจทางหนึ่งที่ช่วยให้เงินสะพัดและคึกคักขึ้นกว่าเดิม อีกทั้งยังเป็นการได้ไปชาร์จแบตเติมพลังให้กับชีวิตโดยไม่ต้องเดินทางยาวนานเหมือนไปต่างประเทศ ซึ่งในปัจจุบันนี้การเดินทางท่องเที่ยวในไทยนั้นมีความสะดวกสบายมาก หลาย ๆ จังหวัดมีเที่ยวบินไปถึงหลายไฟล์ท เดินทางง่ายเตรียมจองตั๋วจัดกระเป๋ากันไว้ได้เลย แต่มีสิ่งหนึ่งที่เราจะต้อง เตรียมตัวก่อนขึ้นเครื่องบิน นั่นก็คือการทำ ประกันการเดินทางในประเทศ เตรียมไว้ให้เรียบร้อยเพื่อสร้างความอุ่นใจ คุ้มครองความปลอดภัยตลอดทริป

ทำไมต้องทำประกันเดินทางในประเทศ
   หลาย ๆ คนอาจจะคิดว่าการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไม่จำเป็นจะต้องวางแผนซื้อประกันการเดินทางเหมือนกับการไปท่องเที่ยวต่างประเทศก็ได้ เพราะก็แค่เที่ยวในประเทศ หากเกิดเหตุอะไรขึ้นมาจริง ๆ ยังไงก็ไม่น่าจะเดือนร้อนให้ต้องยุ่งยากอะไร ยิ่งหากใครที่มีประกันสุขภาพหรือประกันอุบัติเหตุอยู่แล้วก็สามารถใช้ความคุ้มครองตรงนั้นได้เลย ทำไมจะต้องมาเสียเงินซ้ำซ้อนซื้อ ประกันท่องเที่ยวในประเทศ อีกให้เปลืองเงินเปล่า ๆ
   การทำประกันการเดินทางในประเทศสำหรับบางคนนั้นดูเหมือนเป็นเรื่องเกินความจำเป็น แต่จริง ๆ แล้วกลับเป็นสิ่งที่ช่วยสร้างความอุ่นใจในระหว่างการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี เพราะไม่ได้ให้ความคุ้มครองอุบัติเหตุในระหว่างการเดินทางอย่างเดียวเท่านั้น หากแต่ยังคุ้มครองไปถึงไฟล์ทบินที่เกิดการเปลี่ยนแปลงทำให้การเดินทางล่าช้า รวมถึงกรณีสัมภาระของผู้ทำประกันเกิดเสียหายและสูญหายด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ประกันสุขภาพหรือประกันอุบัติเหตุแบบทั่วไปไม่ได้ให้ความคุ้มครองครอบคลุม ใครที่เดินทางครั้งแรกหรือ ขึ้นเครื่องบินครั้งแรก ควรมีไว้เพื่อสร้างความอุ่นใจ จะได้ท่องเที่ยวแบบไร้กังวล

เที่ยวแบบอุ่นใจไปพร้อมประกันเดินทางในประเทศจาก SCB PROTECT
   ประกันเดินทาง ของ SCB Protect เป็นประกันคุ้มครองชีวิตและการเดินทางตลอดทริป ให้ความคุ้มครองค่าใช้จ่ายที่เกิดจากความล่าช้าในการเดินทาง เช่น ไฟล์ทบินหรือเที่ยวบินดีเลย์ไม่สามารถออกได้ตามกำหนด สามารถยื่นเคลมเพื่อชดเชยค่าเสียหายส่วนนี้ได้ รวมถึงหากเกิดเจ็บป่วยกะทันหันหรือมีเหตุจำเป็นเร่งด่วนที่ไม่สามารถเดินทางได้แล้ว สามารถเคลมค่าตั๋วเครื่องบินและค่าที่พักได้ทันที
   ส่วนการคุ้มครองอุบัติเหตุนั้นครอบคลุมตั้งแต่ค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุพร้อมบริการเคลื่อนย้ายเพื่อการรักษาพยาบาลฉุกเฉิน และชดเชยรายได้ระหว่างเข้ารักษาตัวในฐานะผู้ป่วยใน ที่สำคัญยังให้ความคุ้มครองชีวิตหลักล้านเมื่อเสียชีวิตหรือเกิดเหตุไม่คาดฝันจากอุบัติเหตุ
   ความพิเศษเพิ่มขึ้นไปอีกด้วยการคุ้มครองครอบคลุมไปถึงเพื่อนร่วมทริปของคุณด้วย ทั้งค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุและคุ้มครองชีวิตจากเหตุไม่คาดฝัน ไม่เพียงเท่านั้นยังเพิ่มความคุ้มครองบ้านและทรัพย์สินของคุณในระหว่างออกไปท่องเที่ยวเพื่อให้คุณเที่ยวได้อย่างสบายใจ
   
หากคุณกำลังวางแผนจัดทริปท่องเที่ยวไทยอยากเพิ่มความอุ่นใจใส่กระเป๋าไปด้วย ด้วย ประกันท่องเที่ยวในประเทศ จาก SCB PROTECT ที่จะช่วยคุ้มครองตลอดการเดินทาง ทำให้คุณท่องเที่ยวไปอย่างสบายใจแฮปปี้ตลอดทริป

ชมรายละเอียดเพิ่มเติม
https://online.scbprotect.co.th/travel/international

168
   โลกเราทุกวันนี้มักมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้เสมอ ไม่ว่าจะอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว หรือไม่ก็โรคโควิด-19 ที่ก็ไม่ได้หายไปสักทีเดียว ยังแฝงตัวอยู่เงียบ ๆ ยังมีโรคภัยไข้เจ็บมากมาย ข้อสุดท้ายนี่ร้ายแรงที่สุดเพราะหากเจ็บป่วยขึ้นมาค่ารักษาพยาบาลมากมายย่อมตามด้วยแน่นอน เราสามารถลดภาระด้านค่าการรักษาพยาบาลด้วยการทำ ประกันสุขภาพเหมาจ่าย เรามาดูความสำคัญของ ประกันเหมาจ่าย ที่คู่ควรมีไว้ในครอบครองกัน

   การใช้ชีวิตในยุคปัจจุบัน หลายคนที่กำลังอยู่ในวัยทำงานที่ต้องหารายได้มาจุนเจือครอบครัว จนประมาทสุขภาพของตัวเอง เพราะว่าคนเราต้องมีสุขภาพดีมาก่อนถึงจะมีแรงกำลังในการหารายได้มาใช้จ่าย ด้วยเหตุนี้การทำประกันสุขภาพจึงได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลหากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นมา ทั้งนี้ เบี้ยประกันสุขภาพ ในปัจจุบันก็มีหลายแพ็กเกจให้เลือกตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนด้วย เมื่อเทียบกับการนำเงินออมมาใช้ในการรักษาพยาบาลแล้ว การมีประกันสุขภาพถือว่าคุ้มกว่าแน่นอน เพราะค่าใช้จ่ายที่ใช้การรักษาพยาบาลแบบ opd คือ ผู้ป่วยนอก กับ ipd คือ ผู้ป่วยใน มีความแตกต่างกันอย่างมาก กล่าวคือ

•   opd คือ (Out Patient Department) การเข้ามาทำการรักษาในโรงพยาบาลแบบไม่ต้องนอนพัก คือหาหมอ รับยาแล้วกลับบ้านได้เลย สำหรับผู้ป่วยแบบ OPD นี้มักจะไม่ได้เจ็บป่วยร้ายแรง ประกันสุขภาพจะให้ความคุ้มครองด้านค่าปรึกษาแพทย์และค่ายากลับบ้าน และยังครอบคลุมถึงค่ารักษาพยาบาลจากโรคที่ต้องอยู่ดูอาการในโรงพยาบาลหลังทำการรักษาไม่เกิน 6 ชม. อีกด้วย ยกตัวอย่าง ประกัน OPD คุ้มครบ จบหายห่วง ประกัน FWD ของ SCB Protect แผนผลประโยชน์ 2 ล้านบาทต่อปีจะได้รับการชดเชยค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอกจำนวน 6,000 บาทต่อปีกรมธรรม์และยังได้รับความคุ้มครองโรคร้ายแรงด้วย

•   ipd คือ (In Patient Department) จะเป็นลักษณะของการเจ็บป่วยที่ต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลมากกว่า 6 ชม. ขึ้นไป ซึ่งโดยปกติจะต้องประกอบไปด้วย ค่าห้องพักรักษาตัว ค่าแพทย์เยี่ยมไข้ ค่าพยาบาล รวมไปถึงการตรวจรักษาที่ต้องใช้เครื่องมือทางการแพทย์ ซึ่งค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการรักษาต้องสูงกว่า OPD อย่างมาก แต่ยังมีตัวช่วยอย่าง ประกันสุขภาพออนไลน์ อีซี่ เฮลท์ ท็อป อัป แผนประกันสุขภาพเหมาจ่ายของ FWD จาก SCB Protect ที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลแบบ IPD ได้มาก ยกตัวอย่างแผนประกันเหมาจ่ายแพ็กเกจความคุ้มครอง 1,000,000 บาท จ่ายค่า เบี้ยประกันสุขภาพ เพียงปีละ 15,583 บาท ขึ้นอยู่กับเพศและอายุซึ่งจะได้รับความคุ้มครองชีวิตจำนวน 150,000 บาทเข้าไปด้วย เมื่อเทียบกับการต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลแบบ IPD ต่อครั้งที่ค่าห้องมาตรฐานก็ไม่ต่ำกว่า 3,000 บาทต่อคืน ไหนจะยังค่าแพทย์ ค่าพยาบาล ค่ารักษาต่อครั้งเป็นจำนวนหลายหมื่นก็ถือว่าคุ้มค่ากว่ามาก

   ไม่ว่าจะเป็นแบบผู้ป่วยนอกหรือผู้ป่วยใน การที่ได้มีตัวช่วยอย่างแพ็กเกจประกันสุขภาพเหมาจ่ายไว้ในครอบครองถือว่าช่วยเพิ่มความอุ่นใจได้มากขึ้นแน่นอน อย่างน้อยก็ไม่ต้องเป็นภาระให้กับคนในครอบครัวที่จะต้องมาหาค่ารักษาพยาบาลให้เราหากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น

ชมเพิ่มเติมที่เว็บไซด์
https://online.scbprotect.co.th/content/what-is-ipd-and-opd

169
การดื่มกาแฟเป็นที่นิยมกันมากตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เพียงแต่ในอดีตกาแฟรสชาติดีที่ถูกปากอาจหายากสักหน่อยเพราะเกิดจากการชงเมล็ดกาแฟด้วยน้ำร้อนและปรุงรสด้วยนมข้นหวานหรือนมสดตามแต่ความชอบซึ่งถูกปากบ้างไม่ถูกปากบ้าง และในบางแก้วยังมีปริมาณความหวานที่มากเกินพอดี ทว่าในปัจจุบันการชงกาแฟรสชาติที่ชอบอย่างเมนู คาปูชิโน่ หรือ ลาเต้ สามารถทำได้ไม่ยากจากเครื่องชงกาแฟแคปซูลที่วันนี้จะมาแนะนำคือ Nespresso New Lattissima One ที่คอกาแฟสามารถชงกาแฟรสชาติที่ชอบได้เองภายในปุ่มเดียว เครื่องนี้เหมาะสำหรับการชงกาแฟนมอย่างมากเพราะมีความจุของกระบอกใส่นมถึง 165 มิลลิกรัม สามารถทำความร้อนได้ภายใน 25 วินาที และมีระบบทำความสะอาดอัตโนมัติด้วย ราคาเครื่องละ 10,500 บาท แม้จะสูงไปบ้างแต่ถือว่าคุ้มค่าสำหรับคนที่ชื่นชอบกาแฟเป็นอย่างมากเพราะสามารถชงกาแฟนมได้เองจาก เครื่องตีฟองนม ที่บรรจุมาด้วย โดยในวันนี้จะมาแนะนำ 2 สูตรชงกาแฟ รสชาติดีที่ชงด้วยเครื่องชงกาแฟ Nespresso New Lattissima One

สูตรชงกาแฟ คาปูชิโน่ – CAPPUCCINO
เป็นกาแฟผสานฟองนมรสชาติกลมกล่อมหวานมันและมีสัมผัสนุ่มละมุนลิ้น จากวัตถุดิบที่ประกอบไปด้วย Nespresso Espresso 1 แคปซูล นมเย็น 50 – 70 มิลลิลิตร น้ำตาล และผงโกโก้ โดยมีวิธีการชงดังนี้
1.   เติมนมใส่เหยือกนมในปริมาณที่กำหนดสำหรับชงเมนูคาปูชิโน่ 1 ครั้ง จากนั้นนำเหยือกนมบรรจุกลับเข้าไปในตัวเครื่องชงกาแฟ
2.   นำแคปซูล Espresso ที่เลือกไว้ใส่ในช่องแคปซูลบนเครื่องชงกาแฟ New Lattissima One
3.   นำ ถ้วยกาแฟ ไปวางใต้ช่องจ่ายกาแฟแล้วทำการปรับช่องจ่ายนมให้อยู่ในตำแหน่งที่พอดี จากนั้นกดปุ่มให้เครื่องทำงาน
4.   เมื่อได้กาแฟคาปูชิโน่ร้อนแล้วสามารถเพิ่มความหวานด้วยน้ำตาลตามชอบปิดท้ายด้วยการโรยผงโกโก้เล็กน้อย

สูตรชงกาแฟ ลาเต้ มัคคิอาโต้ – LATTE MACCHIATO
กาแฟนมสูตรคลาสสิกสำหรับคนที่ชื่นชอบนมและกาแฟในแก้วเดียว โดยสามารถเลือกกาแฟแคปซูลของ Nespresso รสชาติใดก็ได้ที่ชื่นชอบ 1 แคปซูล พร้อมกับนมเย็นปริมาณ 100 มิลลิกรัม น้ำตาลปริมาณตามชอบ สำหรับวิธีการชงมีดังนี้
1.   นำเหยือกนมมาเติมนมในปริมาณสำหรับการชงเมนูลาเต้มัคคิอาโต้ 1 ครั้ง โดยจะมีสัญลักษณ์แจ้งไว้ตรงเหยือกบรรจุนม
2.   นำกาแฟแคปซูลที่เลือกไว้มาบรรจุยังช่องใส่แคปซูลกาแฟบนเครื่องชงกาแฟ
3.   นำ ถ้วยกาแฟ ขนาดพอดีสำหรับใส่กาแฟเมนูลาเต้มัคคิอาโต้มาวางตรงช่องจ่ายกาแฟ จากนั้นปรับช่องจ่ายนมให้อยู่ในตำแหน่งพอดีปากถ้วย
4.   กดปุ่มให้เครื่องทำการชง เมื่อได้กาแฟลาเต้มัคคิอาโต้แล้วให้เติมความหวานด้วยน้ำตาลตามชอบ

จะเห็นได้ว่าขั้นตอนในการชงกาแฟจากเครื่องชงกาแฟแคปซูล Nespresso ด้วย สูตรชงกาแฟ ที่แนะนำมาทำได้ง่ายและรวดเร็ว ดังนั้นสำหรับคอกาแฟต้องห้ามพลาดติดตั้งเครื่องชงกาแฟแคปซูล Nespresso ไว้ที่บ้านสักเครื่องจะได้ทำให้ทุกวันคือวันที่สดใสพร้อมทำงานได้ตลอดปี

170
   หากเป็นการ ขึ้นเครื่องบินครั้งแรก เชื่อว่าหลาย ๆ คนมีเรื่องให้กังวลมากมาย ทั้งเอกสารมากมายที่ต้องเตรียมให้พร้อมในการเดินทาง ยังประหม่ากับขั้นตอนต่าง ๆ ที่ต้องจัดการในวันขึ้นเครื่อง รวมถึงการซื้อ ประกันเดินทาง ที่หลายคนยังลังเลว่าจะต้องซื้อหรือไม่ ดังนั้นเพื่อให้คนที่เดินทางขึ้นเครื่องเตรียมตัวได้ง่ายขึ้น วันนี้เรามีขั้นตอนการ เตรียมตัวก่อนขึ้นเครื่องบิน มาฝาก มีเรื่องไหนบ้างนั้นมาดูกันเลย

เตรียมเอกสารให้พร้อมตั้งแต่ก่อนออกเดินทาง
การเตรียมเอกสารการเดินทางเป็นขั้นตอนแรกที่ต้องทำ ซึ่งการเดินทางภายในประเทศอาจไม่ใช่เรื่องยากเพราะเตรียมแค่บัตรประชาชนและตั๋วเครื่องบินเท่านั้น แต่เดินทางไปต่างประเทศจะต้องเตรียมทั้งตั๋วเครื่องบิน พาสปอร์ต และวีซ่า (กรณีที่ประเทศปลายทางกำหนดให้ต้องขอวีซ่าก่อนเข้าประเทศ)

ก่อนเดินทาง อย่าลืมประกันการเดินทาง
ประกันเดินทาง จึงกลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการเดินทางไม่ว่าจะเป็นภายในประเทศหรือต่างประเทศ เพราะเหตุการณ์ไม่คาดฝันสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลา ประกันการเดินทางเป็นตัวช่วยให้ความคุ้มครองทั้งเงินชดเชยกรณีเสียชีวิต อุบัติเหตุ บริการเคลื่อนย้ายรักษาพยาบาลฉุกเฉิน เงินชดเชยรายได้ การล่าช้าจากการเดินทาง ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับกระเป๋าเดินทางและทรัพย์สิน สำหรับ ประกันการเดินทางในประเทศ มีเฉพาะแบบรายทริป ส่วน ประกันเดินทางต่างประเทศ มีขายทั้งแบบรายทริปและรายปี อีกทั้งยังเพิ่มความคุ้มครองกรณีเจ็บป่วยในต่างประเทศด้วย

การจัดกระเป๋าเดินทาง
สำหรับการจัดกระเป๋าขึ้นเครื่องบินนอกจากเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวแล้ว และต้องตรวจสอบ เงื่อนไขในการนำของขึ้นเครื่องบินให้ดี อย่างของเหลวสามารถพกติดตัวขึ้นเครื่องได้รวมกันไม่เกิน 1 ลิตร แต่ต้องแบ่งออกเป็นขวดละไม่เกิน 100 มิลลิลิตร ขณะที่แบตเตอรี่สำรองขนาดความจุไม่เกิน 32,000 mAh ขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 2 ชิ้น แต่ไม่อนุญาตให้ติดตัวขึ้นเครื่อง ส่วนของที่ห้ามนำขึ้นอย่างเด็ดขาดคือ อาวุธ ของมีคม สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ วัตถุไวไฟ วัตถุระเบิด สารเสพติด อาหารกลิ่นแรง สัตว์มีพิษ สัตว์ดุร้าย สารเคมี เพราะฉะนั้นจึงต้องตรวจสอบให้ดีก่อนปิดกระเป๋าถ้าไม่อยากเสียเวลาตอบคำถามเจ้าหน้าที่สนามบิน

วันเดินทาง
ในวันเดินทางควรตรวจเช็กกระเป๋าสัมภาระ เอกสาร และ ประกันเดินทางในประเทศ หรือ ประกันการเดินทางต่างประเทศ ให้เรียบร้อย เพื่อความราบรื่นในการเดินทาง จากนั้นให้เช็กอินผ่าน App หรือเว็บไซต์ของสายการบิน เพื่อปริ้นต์ Boarding Pass แต่หากไม่เคยทำมาก่อนแนะนำให้ไปเช็กอินผ่านตู้คีออสที่สนามบินหรือเคาน์เตอร์สายการบิน เพราะหากเกิดข้อผิดพลาดจะได้สามารถแก้ไขได้ทัน หลังจากได้ Boarding Pass เรียบร้อยให้นำกระเป๋าเดินทางไปที่ด่านตรวจสัมภาระและเดินทางไปรอที่ Gate ตามที่ระบุไว้ใน Boarding Pass เพื่อรอขึ้นเครื่องตามเวลาที่กำหนด
   
จะเห็นได้ว่าการเดินทางขึ้นเครื่องครั้งแรกนั้นไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่เข้าใจ แต่ไม่ว่าจะไปเที่ยวในประเทศหรือต่างประเทศก็อย่าลืมทำ ประกันเดินทาง รับประกันว่ามีไว้อุ่นใจกว่าแน่นอน

171
   หากคุณดื่มกาแฟสดเป็นประจำ กำลังไตร่ตรองอยู่ว่าควรซื้อเครื่องชงกาแฟเป็นของตัวเองไหม แนะนำให้พิจารณา เครื่องทํากาแฟแคปซูล เป็นตัวเลือกที่สุดคุ้ม ควักกระเป๋าลงทุนครั้งเดียวประหยัดมากขึ้น จิบกาแฟร้อนรสชาติเยี่ยม ชงง่าย ๆ ด้วยตัวเอง เหมือนมีบาริสต้ามาชงให้ดื่มที่บ้านหรือในออฟฟิศ ไม่ต้องเสียเวลาไปซื้อทีละแก้วที่ร้านคาเฟ่ไกล ๆ
   เครื่องชงกาแฟสดอัตโนมัติ เริ่มเข้ามาเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่บ้านนับตั้งแต่เปิดตัวนวัตกรรมเครื่องชงกาแฟราคาค่อนข้างย่อมเยาทีเดียว เงินไม่กี่พันบาทก็ครอบครองเป็นเจ้าของได้ ซื้อมาใช้ที่บ้านคุ้มค่าแบบไม่ต้องคิดมาก ด้วยฟังก์ชั่นที่หลากหลายและใช้งานง่ายทำให้ชง กาแฟสด ได้เหมือนอย่างบาริสต้าผู้เชี่ยวชาญเพียงแค่กดปุ่มนาทีเดียวเลือกเมนูกาแฟแก้วโปรดเร็วทันใจ
   เครื่องชงกาแฟแบบอัตโนมัติมาพร้อม กาแฟแคปซูล หลายรสชาติที่ได้คนรักกาแฟชื่นชอบ เปิดมุมมองใหม่สำหรับคนที่ไม่คุ้นเคยกับกาแฟสดจะได้ลิ้มชิมรสชาติต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น วิธีการชงกาแฟด้วย เครื่องชงกาแฟแคปซูล มีไม่กี่ขั้นตอน รับรองว่าไม่ยุ่งยากสำหรับมือใหม่ เพียงกดปุ่มเปิด ใส่แคปซูลกาแฟที่ชอบลงไปแล้วกดปุ่มเลือกเมนูเท่านั้น ระบบชงกาแฟคุณภาพสูงทำงานอัตโนมัติ ดื่มแก้วเล็กแก้วใหญ่ตามปริมาณที่พอใจ มีระบบปิดเครื่องอัตโนมัติหลังหยุดใช้งาน 5 นาทีเพื่อประหยัดพลังงาน ทั้งใช้งานสุดคุ้มและประหยัดค่าใช้จ่ายรอบด้าน
   เครื่องชงกาแฟสดอัตโนมัติ มาพร้อมเมนูกาแฟหลายรูปแบบ รสชาติต่างกันไปตามสูตรกาแฟ ได้แก่
        - กาแฟดำเอสเปรสโซแบบ Capriccio จากเมล็ดกาแฟอาราบิก้าและโรบัสต้า ให้กลิ่นหอมติดรสเปรี้ยวเล็กน้อย เป็นรสชาติโดดเด่นมีเอกลักษณ์ของกาแฟคั่วอ่อน
        - กาแฟดำเอสเปรสโซแบบ Volluto จากเมล็ดกาแฟอาราบิก้าแท้แบบคั่วอ่อน รสหวานกลมกล่อมหอมกลิ่นผลไม้ติดเปรี้ยวนิด ๆ
   - กาแฟดำเอสเปรสโซแบบ COSI จากเมล็ดกาแฟอาราบิก้าแท้ รสชาติเข้มข้นหอมกลิ่นไม้น้อย ๆ เจือกลิ่นผลไม้อ่อน ๆ
   - กาแฟดำเอสเปรสโซ สำหรับเครื่องชงกาแฟที่มีฟังก์ชันเครื่องทำฟองนมอัตโนมัติ แต่งฟองนมนุ่มละมุนด้านบนรสชาติกาแฟอร่อยเข้มข้นหวานมัน
   รู้กันแล้วว่าจุดเด่นของเครื่องชงกาแฟสดคือการชงกาแฟดำรสชาติเข้มข้น แต่ก็มีกาแฟแคปซูลหลายชนิดที่ชงกาแฟนมและกาแฟเย็นได้อร่อยถูกใจไม่ยุ่งยาก เครื่องชงกาแฟ ทำกาแฟได้ทั้งร้อนและเย็น โดยใช้เครื่องชงกาแฟสดอัตโนมัติและ กาแฟแคปซูล แบบที่เหมาะกับเมนูกาแฟเย็น เช่น เมนูอเมริกาโนเย็น รสชาติและกลิ่นหอมเข้มข้น เมนูคาปูชิโนเย็นให้รสชาติเข้มข้นของเอสเปรสโซ ผสมกลิ่นโกโก้ อบเชยและกลิ่นเครื่องเทศ อีกหนึ่งเมนูลาเต้เย็น ผสมผสานรสชาติกาแฟเอสเปรสโซและกลิ่นนมหอม ๆ เพิ่มรสหวานละมุนลงตัว มอบประสบการณ์การชิมกาแฟรสชาติแปลกใหม่ สำหรับคนที่ชอบดื่ม กาแฟสด อยู่แล้วไม่ต้องคิดนาน ลงทุนซื้อมาใช้งานเลยคุ้มมาก

172
หากถามคนที่ไม่มีเงินเก็บว่าทำไมถึงไม่รีบเก็บเงินเพื่อ วางแผนเกษียณ ตั้งแต่อายุยังน้อย มั่นใจเลยว่าคำตอบส่วนใหญ่คงหนีไม่พ้น “ภาระเยอะ” ต้องจ่ายค่าผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ค่าโทรศัพท์ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าบัตรเครดิต และค่าใช้จ่ายจิปาถะอีกมากมาย แต่อย่างไรก็ตามในความเป็นจริงแล้วหากบริหารจัดการเงินในกระเป๋าอย่างรอบคอบการวางแผนการเงินเพื่อชีวิตหลังเกษียณดี ๆ ในแบบที่ต้องการก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินไป วันนี้เรามี 5 วิธี วางแผนเกษียณ มาฝาก แต่จะมีวิธีไหนบ้างนั้นมาดูกันเลย

1.   ทำบัญชีรายรับรายจ่ายให้ชัดเจน
สำหรับวิธีแรกที่อยากให้คนมีภาระทุกคนทำคือ การทำบัญชีรายรับรายจ่ายอย่างละเอียด จดให้ครบทั้งค่าบ้าน ค่ารถ ค่าใช้จ่ายประจำวัน ค่า ประกันเงินออม ค่าเบี้ยประกันอุบัติเหตุ หรือค่าใช้จ่ายเพื่อซื้อของฟุ่มเฟือย เพราะมีหลายกรณีที่เข้าใจว่าตัวเองมีภาระเยอะ ทั้ง ๆ ที่ความจริงแล้วค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่อาจไปกองอยู่ที่ค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย การทำบัญชีรายรับรายจ่ายจะช่วยให้เห็นภาพรวมค่าใช้จ่ายส่วนต่าง ๆ ว่าส่วนไหนสามารถลดหรือตัดออกได้ จะทำให้เหลือเงินเก็บมากขึ้นอย่างที่ตั้งใจ

2.   หักเก็บตั้งแต่ได้รับเงิน
ปกติแล้วคนส่วนใหญ่มักคิดว่าใช้ก่อนเหลือแล้วค่อยเก็บ แต่วิธีที่ถูกต้องคือ ต้องเก็บก่อนใช้ ซึ่งในกรณีคนที่มีภาระเยอะอาจใช้วิธีจ่ายหนี้ก่อน แบ่งเก็บประมาณ 10 – 20 เปอร์เซ็นต์ จากนั้นค่อยใช้เงินที่เหลือก็จะช่วยให้เก็บเงินได้ง่ายขึ้น

3.   รีบเคลียร์ภาระหนี้สินระยะสั้นให้จบเร็วที่สุด
หนี้สินเป็นอีกหนึ่งอุปสรรคใหญ่ที่ทำให้หลายคนไม่สามารถเก็บเงินหรือทำ ประกันออมทรัพย์ ของ SCB Protect เพื่อรองรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ดังนั้นการเคลียร์หนี้สินระยะสั้นหรือหนี้สินที่มีดอกเบี้ยสูง อย่างหนี้บัตรเครดิตหรือหนี้สินเชื่อเงินสดให้หมดก่อน นอกจากจะช่วยให้เก็บเงินได้มากขึ้นแล้ว ยังเป็นการลดโอกาสนำเงินเก็บสำหรับใช้หลังเกษียณมาใช้เวลาที่หมุนเงินไม่ทัน

4.   ลงทุนเพื่อเพิ่มเงินเก็บ
แน่นอนว่าแค่แบ่งเงินเก็บไว้อย่างเดียวอาจไม่พอสำหรับค่าใช้จ่ายหลังเกษียณ ด้วยเหตุนี้จึงต้องมีการนำเงินไปลงทุนเพื่อเพิ่มเงินเก็บสำหรับใช้หลังเกษียณมากขึ้น แต่กรณีที่มีหนี้สินหรือค่าใช้จ่ายต่อเดือนสูงแนะนำว่าควรเลือกวิธีการลงทุนที่ปลอดภัย อย่าง ประกันชีวิตสะสมทรัพย์ ประกันที่รวมเอาประกันชีวิตและ ประกันออมทรัพย์ ไว้ด้วยกัน มีจุดเด่นตรงที่ให้ผลตอบแทนมากกว่าทุนประกันหลายเท่า ปลอดภัยการันตีว่าได้รับเงินเมื่อครบสัญญา จ่ายค่าเบี้ยประกันระยะสั้นแต่รับความคุ้มครองนาน และนำไปใช้ลดหย่อนภาษีได้ด้วย

5.   ปรับแผนลงทุนเมื่อปลอดภาระ
ถ้าเคลียร์ภาระหนี้สินจนหมดหรือน้อยลงแล้ว ควรเพิ่มการลงทุนไปยังหน่วยลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงขึ้น หรือลงทุนในประเภทการลงทุนที่ปลอดภัย อย่าง ประกันชีวิตสะสมทรัพย์ แต่เพิ่มจำนวน ประกันสะสมทรัพย์ มากขึ้น จะช่วยให้เก็บเงินถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้น
   
หาก วางแผนเกษียณ เป็นและเริ่มเร็ว และให้ความสำคัญกับการลงทุนที่ปลอดภัย อย่าง ประกันสะสมทรัพย์ ชีวิตเกษียณในฝันก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

ชมรายละเอียดเพิ่ม
https://online.scbprotect.co.th/life/saving

173
   ทุกวันนี้เวลาแต่งหน้าออกจากบ้าน สาว ๆ หลายคนประสบกับปัญหาทาลิปสติกแล้วสีไม่อยู่ทน โดยเฉพาะเวลาที่ใส่และถอดแมสก์ระหว่างวัน หรือเวลากินข้าวที่ลิปสติกแทบจะหลุดหมด วันนี้ปัญหาเหล่านั้นจะหมดไปกับเทคนิคทาลิปสติกให้ติดทน เพื่อริมฝีปากเปล่งปลั่งสีสวยตลอดวัน รับรองว่าเริ่ด!
ก่อนทาลิปการบำรุงริมฝีปากเป็นประจำสำคัญมาก
   เพื่อให้ทาลิปติดทน ริมฝีปากจะต้องมีความชุ่มชื้น ไม่แห้งลอก สาว ๆ จำเป็นต้องดูแลริมฝีปากด้วยการสครับปาก แนะนำใช้ลิปสครับหรือใช้แปรงขัดเบา ๆ บริเวณริมฝีกปาก เพื่อช่วยกำจัดขุยเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วที่ริมฝีปากให้หมดจด ทำสัปดาห์ละ 2 – 3 ครั้ง และทาลิปบาล์มบำรุงก่อนนอนเพื่อเติมความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปาก ก่อนลงสีลิปสติกการทาลิปบาล์มที่ไม่มันมากจะทำให้ลิปสติกติดทน และยังช่วยให้ริมฝีปากอิ่มสวยสุขภาพดีอีกด้วย เอาละมาลองติดตามเทคนิคทาลิปเนื้อแมทกัน
1.   ใช้ลิปไพร์เมอร์ให้ริมฝีปากเรียบเนียน
   ลิปไพร์เมอร์ใช้กับริมฝีปากโดยเฉพาะ จะช่วยเตรียมริมฝีปากให้เรียบเนียน ชุ่มชื้น ไม่ตกร่อง ช่วยล็อคลิปสติกให้ติดทนขึ้นด้วย
2.   ลงลิปคอนซีลเลอร์สำหรับริมฝีปากหมองคล้ำ
   ทาลิปแล้วสีเพี้ยน เกิดจากสีปากที่หมองคล้ำ แนะนำให้ลงลิปคอนซีลเลอร์ จะช่วยกลบสีปากจริงให้อ่อนลงทำให้ลง ลิปเนื้อแมท สีไหน ๆ ก็คมชัดและตรงเฉดมากขึ้น
3.   ใช้ลิปไลน์เนอร์เขียนขอบปาก
   ใช้ลิปไลเนอร์วาดลงบนขอบ จะทำให้ขอบปากดูคมชัด มีมิติ แล้วยังช่วยให้ลิปสติกติดทน ไม่ทำให้ลิปสติกไหลเลอะไปตามมุมปากอีกด้วย
4.   เลือกทาลิปสติกเนื้อแมทและไม่ทาจนเยิ้ม
   แนะนำให้ใช้พู่กันจุ่มลงบนเนื้อลิปสติกแล้วค่อย ๆ เกลี่ยเนื้อลิปสติกให้ทั่วเนื้อปาก อย่าจุ่มสีมากจนเกินไปเพราะหากทาจนเยิ้มลิปส่วนเกินจะติดแมสก์ได้ง่าย เทคนิคนี้นอกจากจะทำให้ลิปติดทนแล้ว ยังทำให้สีลิปที่อยู่บนปากมีความเนียนสวย ไม่อยากให้ลิปสติกเลอะหน้ากากอนามัยจนเป็นคราบ และแนะนำว่าควรเลือก ลิปแมทติดทน ของ ELCA ที่มีเม็ดสีเข้มข้น ทาแล้วจะทำให้สีสันติดทนบนริมฝีปาก
5.   ล็อกลิปสติกให้ติดทนด้วยแป้งฝุ่น พร้อมทาลิปสติกอีกรอบ
   สำหรับเทคนิคนี้เป็นการใช้กระดาษทิชชูแผ่นบางวางทางลงบนริมฝีปาก จากนั้นใช้แป้งฝุ่นโปร่งแสงค่อย ๆ ปัดลงบนทิชชูแล้วทาลิปสติกสีเดิมทับลงไปอีกหนึ่งรอบ เพื่อทำให้ลิปสติกติดทนตลอดวัน ไม่ต้องเสียเวลามานั่งเติมปากทั้งวัน

   สิ่งสำคัญคืออย่าลืมหมั่นบำรุงริมฝีปาก เลือกใช้ลิปเนื้อแมทดี ๆ และทำตามเทคนิคที่บอกไว้ เท่านี้ลิปก็ติดทน ไม่ติดแมสก์แล้ว ส่วน ลิปยี่ห้อไหนดี ของ ELCA ต้องไอเทมนี้เลย MAC MATT LIPSTICK ลิปเนื้อแมท เนื้อสีแน่นติดทน สีปากชัด ไม่มีความวาว ลิปเนื้อ แมทรุ่นฮิตจาก MAC

174
แป้งพัฟคุมมัน เป็นบิวตี้ไอเท็มคู่ใจสาว ๆ ที่มีหลายสูตรให้ได้เลือกใช้ ทั้งแป้งฝุ่นธรรมดาและ แป้งผสมรองพื้น ของ ELCA แต่รู้หรือไม่ว่าทั้งสองแบบนี้ต่างกันอย่างไรบ้างในเรื่องของการใช้งาน วันนี้เราจึงจะพาไปรู้จักความแตกต่างระหว่างแป้งพัฟสองแบบนี้ พร้อมวิธีการเลือกแป้งพัฟให้คุมมันได้ลุคปังตลอดวัน

ทำความรู้จักกับ แป้งผสมรองพื้น หรือแป้งพัฟ สวยครบจบเป๊ะในตลับเดียว
แป้งพัฟเป็นแป้งที่มีส่วนผสมของรองพื้น กันแดด และสารบำรุงต่าง ๆ เรียกได้ว่าตลับเดียวสวยครบ มีความปกปิดแต่ยังคงให้ลุคบางเบาและไม่หนักผิวเท่าการใช้รองพื้น เหมาะกับสาว ๆ ที่ต้องการปกปิดและต้องการผิวเรียบเนียนเป็นพิเศษ

รู้จักกับแป้งฝุ่น ตัวช่วยคุมมันและสร้างลุคบางเบา
แป้งฝุ่นเป็นแป้งชนิดผง เนื้อบางเบา ช่วยคุมความมันบนใบหน้าได้แต่ไม่สามารถปกปิดได้มากนัก จึงเหมาะกับการใช้เซ็ตรองพื้นหรือคอนซีลเลอร์ให้คงที่ตลอดวัน หรือใช้ในวันที่ไม่ได้แต่งหน้าเพื่อช่วยทำให้หน้าดูนวลขึ้น แป้งฝุ่นยังมีหลายแบบให้ได้เลือกใช้ ทั้งแบบแมตต์ที่ช่วยคุมความมัน กับแบบผสมชิมเมอร์ที่ช่วยให้ผิวดูโกลว์มีมิติ

คำถามยอดฮิตของมือใหม่ แป้งฝุ่น VS แป้งพัฟคุมมัน ใช้แบบไหนดี
ถ้าสาว ๆ กำลังลังเลว่าแป้งฝุ่นหรือแป้งพัฟ แบบไหนดีกว่ากัน คำตอบคือไม่มีแป้งแบบไหนดีที่สุด แต่อยู่ที่ความต้องการของแต่ละคนมากกว่า โดยแป้งฝุ่นเหมาะกับสาว ๆ ที่ไม่ได้ต้องการการปกปิดมาก แต่ต้องการแป้งที่ช่วยเซ็ตเมคอัพให้สวยติดทนนานตลอดวันและช่วยคุมมัน หรือถ้าต้องการผลิตภัณฑ์ที่พกพาง่ายและช่วยซับความมันระหว่างวัน แป้งฝุ่นอัดแข็งคือคำตอบ
สำหรับคนที่ต้องการความสะดวกรวดเร็ว ปาดทีเดียวครบจบเป๊ะในหนึ่งตลับ แป้งรองพื้นเป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์เรื่องนี้ได้ดีกว่า พกพาง่ายใช้งานสะดวก เติมได้ระหว่างวันให้สวยอยู่เสมอ และเพื่อให้สวยปังมากขึ้น สาว ๆ ควรเลือกแป้งพัฟให้เข้ากับสีผิวและสภาพผิวของตนเอง โดยสาวผิวมันควรเลือกใช้แป้งพัฟที่ช่วยคุมมันเพื่อให้ผิวสวยสดใสทั้งวัน แต่สำหรับสาวผิวแห้ง ควรเลือกแป้งพัฟที่มีความฉ่ำวาว เพิ่มความชุ่มชื้นเพื่อสร้างงานผิวสุขภาพดี

หากสาว ๆ กำลังสงสัยว่าใช้แป้งพัฟยี่ห้อไหนดีที่จะตอบโจทย์ความต้องการได้ เราขอแนะนำผลิตภัณฑ์ Powder Foundation จาก MAC Cosmetic ที่ช่วยเผยผิวสวยไร้รอยในขั้นตอนเดียว อำพรางริ้วรอยและรูขุมขน ติดทนนานถึง 12 ชั่วโมง เรียกได้ว่าเจอแดดแค่ไหนหน้าก็ยังไม่หมอง สวยเป๊ะไม่ดรอปตลอดวัน

175
แน่นอนว่าอากาศร้อน ๆ ในเมืองไทย สาว ๆ จะแต่งหน้าทั้งทีก็คงขาดไอเทมสำคัญอย่าง รองพื้นคุมมัน ไปเสียไม่ได้ วันนี้เราจึงอาสาพาไปรู้จักเบสเมคอัพสุดคลาสสิกตัวนี้ให้ดียิ่งขึ้น ว่าจริง ๆ แล้วรองพื้นคืออะไร มีกี่ประเภท รวมถึงเคล็ดลับว่าจะลงรองพื้นอย่างไรให้หน้าสวยเป๊ะติดทนนานจนหมดวัน

รู้จักกับรองพื้น เบสเมกอัพเนรมิตงานผิวสวย
รองพื้น เป็นผลิตภัณฑ์ช่วยสร้างงานผิว รองพื้นปกปิดรอยสิว รอยดำรอยแดง และริ้วรอยต่าง ๆ ให้ดูเรียบเนียนมากขึ้น เรียกได้ว่าเป็นเบสเมกอัพที่สาว ๆ หลายคนต้องมีติดโต๊ะไว้เสมอ เพราะด้วยเฉดรองพื้นที่มีมากมาย รวมถึงคุณสมบัติของรองพื้นที่มีหลากหลายตอบโจทย์ทุกสภาพผิว ทำให้ไม่ว่าจะสีผิวไหนหรือต้องการรองพื้นที่มีคุณสมบัติอย่างไร ก็มีรองพื้นที่เหมาะกับตนเองแน่นอน

ไขข้อข้องใจ รองพื้นมีกี่ประเภท ใช้แบบไหนดีที่สุด
รองพื้นคุมมัน มีหลายประเภท เช่น เนื้อครีม ของเหลว เนื้อมูส แบบทินท์ หรือแบบแท่ง ทั้งนี้ ยังมีรองพื้นที่ให้ฟินิชลุคที่หลากหลาย ทั้งแบบแมตต์ไม่วาวและฉ่ำน้ำแบบผิวสุขภาพดี รองพื้นยังมีแบบที่ต้องการการปกปิดขั้นสุดกับแบบบางเบาเป็นธรรมชาติด้วย ซึ่งจะเลือกใช้แบบไหนก็ขึ้นกับความต้องการและสภาพผิวของผู้ใช้นั่นเอง

แชร์ทริค 3 ขั้นตอน ทำอย่างไรให้ลงรองพื้นได้ติดทนและคุมมัน ออร่าจับตลอดวัน
•   บำรุงผิวหน้าให้พร้อมด้วยสกินแคร์ที่เหมาะกับสภาพผิวของตนเอง รวมทั้งทาครีมกันแดดควบคู่ไปด้วย และทิ้งเวลาให้ครีมซึมซาบเข้าสู่ผิว
•   การจะลงรองพื้นให้สวยต้องเริ่มจากการเข้าใจสภาพผิวตนเองและเลือกรองพื้นในสูตรที่เหมาะสม จากนั้นจึงเริ่มลงรองพื้น โดยอาจจะใช้ได้ทั้งมือ ฟองน้ำ หรือแปรง เพื่อช่วยในการลงรองพื้น และใช้เวลาในการเกลี่ยให้ได้นานที่สุดเพื่อให้รองพื้นเนียนและติดทนนาน
•   ฉีดสเปรย์ที่จะช่วยล๊อกรองพื้นติดทนนาน หรือหากไม่ต้องการใช้สเปรย์ สามารถใช้แป้งทาทับรองพื้นได้เพื่อให้รองพื้นเซ็ตตัวได้ดียิ่งขึ้น


การแต่งหน้าโดยเลือกใช้ รองพื้นคุมมันที่ดีที่สุด ย่อมช่วยเสริมบุคลิกและความมั่นใจได้ การเลือกรองพื้นไปจนถึงขั้นตอนลงรองพื้นให้ติดทนจึงสำคัญอย่างยิ่งเพื่อจะเป็นการสร้างลุคสวยเรียกความมั่นใจตลอดทั้งวัน และถ้าคุณกำลังถามตัวเองว่า หากต้องการเลือกซื้อรองพื้นแต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกรองพื้นยี่ห้อไหนดี เราขอแนะนำ Liquid Foundation จาก MAC Cosmetic ที่มีคุณสมบัติติดทนนานตลอดวัน สามารถช่วยปกปิดทุกรอยบนใบหน้า เกลี่ยลงผิวและเซ็ตตัวได้สวยรวดเร็ว ทำให้ผิวทั้งชุ่มชื้นและปกป้องผิวจากมลภาวะทางแสงแดดด้วย เรียกได้ว่ารองพื้นขวดเดียวช่วยเนรมิตงานผิวเนียน สร้างความมั่นใจได้ตลอดวัน

176
ประกันสะสมทรัพย์ เป็นเครื่องมือการเงินท่ะช่วยสร้างวินัยในการออม ไม่มีความเสี่ยง ได้รับผลตอบแทนที่แน่นอน ทั้งยังได้รับสิทธิประโยชน์ในการคุ้มครองชีวิตด้วย โดยเมื่อครบกำหนดตามแผนประกันแล้วจะได้รับเงินก้อนพร้อมดอกเบี้ยเป็นผลตอบแทน ทั้งยังสามารถนำเบี้ยไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 100,000 บาท
สำหรับคนที่อยากมีเงินเก็บ มีเป้าหมายในการเก็บเงิน คนที่กำลังสร้างเนื้อสร้างตัวอยากลงทุนแต่ไม่มีเวลาติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวของหุ้นหรือไม่อยากเสี่ยงกับคริปโต รวมไปถึงคนที่กำลัง วางแผนเกษียณ อายุด้วย ซึ่ง ประกันออมทรัพย์ ประเภทนี้สามารถตอบโจทย์ความต้องการได้เป็นอย่างดี แม้ผลตอบแทนที่ได้รับอาจจะไม่สูงมากนักเมื่อเทียบกับการลงทุนอื่น ๆ เช่น หุ้น หรือ กองทุนต่าง ๆ แต่ก็ไม่มีความผันผวนให้ต้องเสี่ยง หากจำเป็นต้องใช้เงินแบบฉุกเฉินสามารถเบิกถอนเงินได้เหมือนบัญชีออมทรัพย์ทั่วไปผ่านการทำเรื่องขอเวนคืนกรมธรรม์ซึ่งมีรายละเอียดแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับข้อตกลง ระยะเวลาการส่งเบี้ยประกัน และระยะเวลาคุ้มครอง หากผู้ทำประกันเสียชีวิตระหว่างระยะเอาประกันเงินที่ลงทุนหรือเบี้ยประกันที่จ่ายไปนั้นจะกลายเป็นมรดกสำหรับคนข้างหลัง ประกันชีวิตสะสมทรัพย์ จึงเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าในการสร้างหลักประกันความมั่นคงให้กับอนาคต
ประกันสะสมทรัพย์ มีจุดสังเกตที่ทำให้เข้าใจง่าย นั่นคือหลังชื่อของประกันจะตามด้วยตัวเลขที่มีลักษณะ X/Y โดย X หมายถึงจำนวนปีที่คุ้มครอง และ Y หมายถึงจำนวนปีที่ชำระเบี้ยประกันภัย เช่น ประกันสะสมทรัพย์ออนไลน์ Easy E-SAVE 10/5 นั่นแสดงว่ากรมธรรม์ฉบับนี้จ่ายเบี้ยประกันในระยะเวลาเพียงแค่ 5 ปี แต่ให้ความคุ้มครองนานถึง 10 ปี
ประกันชีวิตสะสมทรัพย์ ผู้ทำประกันต้องชำระเบี้ยประกันตามระยะเวลาที่กำหนดในกรมธรรม์แต่จะมีเงินคืนระหว่างทางซึ่งต่างกับประกันบำนาญที่จะไม่มีการคืนเงินในส่วนนี้ ทั้งยังได้รับความคุ้มครองชีวิตและสิทธิลดหย่อนภาษีเช่นเดียวกัน ดังนั้น ประกันเงินออม ประเภทนี้จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับการ วางแผนเกษียณ อายุ


Easy E-SAVE 10/5 หนึ่งในเครื่องมือวางแผนอนาคตทางการเงินจาก SCB PROTECT เป็น ประกันสะสมทรัพย์ ที่จ่ายเบี้ยระยะสั้นเพียง 5 ปี ให้ความคุ้มครองถึง 10 ปี ทั้งยังสามารถเลือกเบี้ยประกันต่อปีได้ตั้งแต่ 20,000 - 400,000 บาท โดยปีที่ 1 - 5 จะได้รับเงินคืน 4% ของทุนประกัน ปีที่ 6 - 9 เพิ่มเป็น 5%  และเมื่อครบสัญญาจะได้รับเงินก้อนคืน 350% ของทุนประกัน คุ้มครองชีวิตตลอดสัญญาเอาประกัน และสามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาท
เพิ่มความมั่นคงให้มากขึ้นได้ตั้งแต่วันนี้ เช็กเบี้ยประกันและคำนวณผลตอบแทนที่จะได้รับด้วยตนเองที่ SCB PROTECT  หรือที่เว็บไซด์ https://online.scbprotect.co.th/life/saving

177
   สาว ๆ หลายคนเคยประสบปัญหาตอนเช้าออกจากบ้านหน้าเป๊ะ แต่พอตกบ่ายกลับกลายเป็นหน้ามันเยิ้มเกิดคราบ แสดงว่ายังไม่รู้จักการใช้ รองพื้นคุมมัน ในการแต่งหน้าให้ถูกต้อง ไอเทมเด็ดที่จะทำให้ผิวหน้าเนียนกริบ โกลว์สว่าง สวยได้ตลอดทั้งวัน
รองพื้นคุมมัน ของ ELCA เป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยคุมมันให้ผิวหน้าไม่มันเยิ้มระหว่างวัน เป็นตัวช่วยที่ทำให้ผิวเรียบเนียน ไร้จุดด่างดำ ที่สำคัญคือควบคุมความมันบนใบหน้าได้ดี มีหลายระดับตั้งแต่ปกปิดน้อย เนื้อบางเบา ไปจนถึงปกปิดขั้นสุด มีหลากหลายประเภทของเนื้อรองพื้นให้เลือกใช้ ปัจจุบันผู้ผลิตจะเพิ่มส่วนประกอบที่เป็นประโยชน์ต่อผิวหน้าเข้าไป เช่น มอยส์เจอไรเซอร์เพื่อให้ความชุ่มชื้น สารกันแดด สารสกัดเพื่อปกป้องและบำรุงผิวหน้า ที่สำคัญคือสารที่ช่วยในการควบคุมความมัน เพื่อให้หน้าไม่มันเยิ้ม เนียนใสได้ตลอดวัน

วิธีเลือกซื้อรองพื้นให้เหมาะกับตัวเอง
•   เลือกซื้อรองพื้นให้เหมาะกับสภาพผิว หากผิวมัน ควรเลือกรองพื้นคุมมันที่ดีที่สุด เลี่ยงส่วนผสมของน้ำมันหรือออยล์ต่าง ๆ ช่วยควบคุมความมันได้ตลอดวัน ผิวแห้ง ควรเลือกรองพื้นที่ช่วยในเรื่องเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ส่วนผิวผสม ควรเลือกรองพื้นที่มอบความชุ่มชื้น เวลาลงรองพื้นให้เน้นไปทางบริเวณที่เป็นผิวแห้ง
•   เลือกให้เหมาะกับการใช้งานของตัวเอง ในแต่ละวันและแต่ละโอกาส ก็สามารถเลือกใช้รองพื้นที่แตกต่างกันได้ตามความเหมาะสม เช่น วันสบาย ๆ ไปท่องเที่ยวพักผ่อนส่วนตัว ไม่ได้ต้องการถ่ายภาพเป็นพิเศษ ลุคธรรมชาติจะเหมาะสมที่สุด ไม่หนักหน้า ก็เลือกแบบสูตรบางเบา แต่ถ้าไปออกงานสังสรรค์ การทำงาน หรือวันสำคัญ ก็เลือกแบบที่ปกปิดริ้วรอยต่าง ๆ ได้ดี เน้นความเรียบเนียนสวยไร้ที่ติ
•   ต้องลองเทสรองพื้นกับผิวจริง เพื่อความมั่นใจจะได้ไม่เกิดข้อผิดพลาด โดยสีของรองพื้นควรเลือกสีที่อ่อนกว่าสีผิวเล็กน้อย ลองทาที่ร้าน และเดินออกมาดูกับแสงธรรมชาติ เมื่อลองดูแล้วผิวหน้าต้องไม่วอก ไม่ลอย ไม่เทา ไม่หมอง ก็เลือกสีนั้นได้เลย
   
หากเรารู้จักเลือกรองพื้น การแต่งหน้าก็จะทำได้ง่ายขึ้น สวยเปล่งปลั่งตลอดทั้งวัน อย่าง รองพื้นใช้ยี่ห้อไหนดี แนะนำ Liquid Foundation จาก MAC Cosmetic ครีมรองพื้นที่ช่วยปกปิดริ้วรอยผิวให้ดูสวย พร้อมคุณสมบัติกันแดด ปรับผิวให้ดูเรียบเนียน ควบคุมความมันบนใบหน้า ปกปิดดีเยี่ยม ติดทนนาน ไม่จับตัวเป็นก้อน และไม่ทำให้เกิดสิว มีถึง 14 เฉดสีให้เลือก เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว

ชมข้อมูลเพิ่ม
https://praew.com/praew-special/511605.html

178
สาว ๆ เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นเท่าไร ก็กังวลเกี่ยวกับปัญหาผิวมากเท่านั้น ต่างก็หาตัวช่วยอย่าง เซรั่มบำรุงลดริ้วรอย มาบำรุงผิว แม้จะอายุมากขึ้นคุณก็สามารถทำให้หน้าดูเด็กลงได้ นอกจากการใช้เซรั่มแล้วเรายังมีวิธีบำรุงผิวด้วยตัวเองมาบอกต่ออีกด้วย แต่ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกับปัญหาผิวก่อนว่าริ้วรอยต่าง ๆ เกิดขึ้นได้อย่างไร

สาเหตุที่ทำให้ผิวเกิดริ้วรอย
-   อายุ การมีริ้วรอยเกิดขึ้นเมื่ออายุมากขึ้นนั้นถือเป็นเรื่องธรรมชาติที่ใคร ๆ ก็มี
-   ฮอร์โมนเพศ เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดริ้วรอยได้ โดยเฉพาะผู้หญิงจะพบปัญหานี้ได้มากกว่าผู้ชาย
-   ความเครียด คนที่อารมณ์ไม่ดี เครียดง่าย โมโหบ่อย มักจะแก่ไว ทั้งหมดส่งผลต่อผิวพรรณก็จะเครียดด้วย ส่งผลให้ผิวหน้าหมองคล้ำ ไม่ผ่องใส และมีริ้วรอยได้ง่ายขึ้น
-   แสงแดดและฝุ่นละออง PM 2.5 ควันพิษ อากาศเสียล้วนแล้วแต่เป็นตัวการทำร้ายผิว ทำให้ผิวอ่อนแอและขาดน้ำจนแห้งกร้าน ส่งผลทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย

บำรุงผิวด้วยเซรั่มดีไหม
เซรั่มลดเลือนริ้วรอยเป็นที่ยอมรับในวงการแพทย์ผิวหนังว่ามีประสิทธิภาพในการลดอายุผิวได้จริง แต่จะลดได้อย่างไรนั้น ขึ้นอยู่กับส่วนผสมที่อยู่ในเซรั่มซึ่งได้แก่
-   เรตินอล ช่วยลดริ้วรอยได้โดยการกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวและเสริมสร้างประสิทธิภาพของคอลลาเจน ถ้าหากว่าเราเลือกเซรั่มที่มีเรตินอลผสมอยู่จะช่วยให้ผิวกระชับขึ้นได้
-   สารต้านอนุมูลอิสระ เป็นตัวป้องกันผิวให้พ้นจากสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นแสงยูวี และมลพิษสภาพแวดล้อมที่ก่อให้เกิดปัญหาผิวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นฝ้า กระ ริ้วรอย ผิวหมองคล้ำแดด ดังนั้นการใช้เซรั่มที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสามารถชะลอวัยได้อย่างแน่นอน ดังนั้นหากว่าสาว ๆ ที่อยากหน้าเด็กคิดไม่ตกว่าจะเลือก เซรั่มตัวไหนดี คุณสามารถเลือกเซรั่มที่มีส่วนประกอบทั้งสองอย่างนี้เป็นหลักได้เลย

อายุเท่าไรก็หน้าเด็กได้ด้วยกลไกธรรมชาติ
การบำรุงผิวจากภายในเป็นเรื่องสำคัญ อยากมีผิวสวยอ่อนกว่าวัยก็ต้องดูแลผิวด้วยวิธีต่อไปนี้
-   รับประทานอาหารที่มีประโยชน์  เช่น อาหารที่มีโอเมก้า 3 ผัก ผลไม้ที่มีวิตามินเอ อี ซี และดื่มน้ำเปล่าวันละ 6 - 8 แก้ว เพื่อสุขภาพร่างกายและผิวที่ดี
-   ออกกำลังกายช่วยให้ระบบการเผาผลาญอาหารดีขึ้น เลือดไหลเวียนดี ส่งผลให้ผิวพรรณเต่งตึงไม่หย่อนยาน ไม่เหี่ยวง่าย ริ้วรอยไม่ถามหา
-   พักผ่อนอย่างเพียงพอ เพื่อให้ผิวได้รับการฟื้นฟู สดชื่น ไม่หมองคล้ำ และไม่แห้งเหี่ยว

วิธีดูแลผิวด้วยวิธีธรรมชาติทำได้แต่ต้องใช้เวลาและความสม่ำเสมอ หากอยากให้ผิวสวยแบบเร่งด่วนมากยิ่งขึ้นควรเพิ่ม เซรั่มลดริ้วรอย เป็นตัวช่วยอีกทางหนึ่ง แนะนำ Advanced Night Repair Synchronized Multi-Recovery Complex Serum จาก ESTEE LAUDER ไว้รับมือกับริ้วรอยตั้งแต่วัยสาว เซรั่มบำรุงหน้าใสที่มีประสิทธิภาพเป็นเลิศในการบำรุงยามค่ำคืน ช่วยให้ผิวอ่อนเยาว์ได้อย่างยาวนาน

ชมข้อมูลเพิ่ม
https://www.jeban.com/topic/362829

179
   หลาย ๆ คนอาจจะมองข้ามวิธีการดูแลผิวขั้นพื้นฐานอย่างการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื้นอย่างมอยส์เจอไรเซอร์ ซึ่งการใช้มอยส์เจอไรเซอร์เป็นประจำจะช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว ไม่ทำให้รูขุมขนกว้าง ปรับสมดุลผิว แต่ก่อนจะใช้ต้องทำความเข้าใจก่อนว่ามอยส์เจอไรเซอร์คืออะไร มีกี่ประเภท และควรจะเลือกใช้ มอยเจอร์ไรเซอร์ยี่ห้อไหนดี ของ ELCA ถึงจะทำให้ผิวสวยชุ่มชื้นดูอิ่มน้ำ

มอยส์เจอไรเซอร์ คือ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ช่วยลดปัญหาผิวแห้งลอก ลดการเกิดริ้วรอยที่มาจากการขาดความชุ่มชื้น  ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นเต่งตึง และช่วยปรับสภาพผิว ส่งผลทำให้เมคอัพติดทนเนียนไปกับผิวมากยิ่งขึ้น

มอยส์เจอไรเซอร์มีกี่ประเภท
   ประเภทของมอยส์เจอไรเซอร์สามารถแบ่งคุณลักษณะของเนื้อผลิตภัณฑ์เป็น 5 ประเภท ดังนี้
1.   เนื้อครีม เป็นมอยส์เจอไรเซอร์ที่ใช้แล้วผิวชุ่มชื้นมากเป็นพิเศษ มีส่วนผสมของ Oil เป็นหลัก เนื้อครีมมีความหนาแน่นสูง ปกป้องผิวชั้นนอกได้ดีแต่ซึมลงใต้ผิวหนังได้ช้า ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นได้ยาวนาน
2.   เนื้อโลชั่น เป็น moisturizer แนะนำ สำหรับผู้ที่ไม่ชอบความเหนียวเหนอะของเนื้อครีม เพราะเนื้อโลชั่นจะมีความเข้มข้นน้อยกว่า มอยส์เจอไรเซอร์ประเภทนี้มีทั้งแบบ Water-based และ Oil-based ให้เลือก
3.   เนื้ออิมัลชัน มีความบางเบาแต่ข้นกว่าเนื้อโลชั่น เพราะมีส่วนผสมเป็นตัวบำรุงที่ล้ำลึกกว่า
4.   เนื้อเซรั่ม มีความเข้มข้นมากแต่เนื้อเบาไม่เหนียวเหนอะ ใช้บำรุงแบบขั้นสูงเติมความชุ่มชื้นได้ล้ำลึก และสามารถซึมเข้าไปซ่อมแซมโครงสร้างของคอลลาเจนใต้ผิวหนัง
5.   เนื้อเจล เป็นมอยส์เจอไรเซอร์เนื้อบางกว่าประเภทอื่น ๆ สามารถซึมเข้าสู่ชั้นผิวได้ง่ายเพราะส่วนผสมหลักคือน้ำ ใช้แล้วรู้สึกเย็นสบายผิวเหมือนได้ชโลมผิวด้วยน้ำ เหมาะสำหรับคนที่มีผิวบอบบางแพ้ง่ายหรือคนที่มีผิวมันแต่ไม่ต้องการความเหนอะหนะ

เลือกใช้ให้เหมาะกับผิว มอยส์เจอไรเซอร์ยี่ห้อไหนดี
การใช้มอยส์เจอไรเซอร์ประเภทต่าง ๆ ควรเลือกให้เหมาะกับผิว ผิวของคุณเป็นแบบไหนให้เลือกใช้ตามนี้
•   ผิวธรรมดา สามารถเลือกใช้ตามที่ชอบ ไม่ว่าจะแบบเนื้อครีมก็ได้ถ้าไม่ติดเรื่องความเหนอะและหนักผิว แต่ถ้าชอบความเบาสบายเลือกใช้เนื้อโลชั่น เจล หรืออิมัลชัน ใช้ได้ทั้งเนื้อ Oil-based และ Water-based
•   ผิวมัน สามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เนื้อโลชั่นหรือเนื้อเจลก็ได้ ถ้าเน้นบำรุงเข้มข้นพิเศษควรเลือกเป็นเซรั่ม แต่ไม่ควรใช้แบบเนื้อครีม เพราะอาจเกิดการอุดตันของรูขุมขนมากยิ่งขึ้น
•   ผิวแห้ง moisturizer แนะนํา ของ ELCA คือ เนื้อครีม เพราะให้ความชุ่มชื้นมากที่สุดและประกอบด้วย Oil เป็นส่วนใหญ่
•   ผิวแพ้ง่าย ต้องระวังการใช้ผลิตภัณฑ์เป็นพิเศษ นอกจากเลือกผลิตภัณฑ์ประเภทเนื้อบางเบาแล้ว ควรดูส่วนผสมอื่น ๆ ประกอบเพิ่ม เช่น แอลกอฮอล์ น้ำหอม สี และสารอื่น ๆ ว่ามีอะไรบ้างที่เราแพ้หรือเสี่ยงทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง

หากอยากผิวสวยควรใช้มอยส์เจอไรเซอร์ ของ ELCA เป็นประจำ เพราะมอยส์เจอไรเซอร์ช่วยไม่ทำให้ผิวแห้งลอก รักษาสมดุลของผิว และถ้ายังตัดสินใจไม่ถูกว่าจะใช้ มอยเจอร์ไรเซอร์ยี่ห้อไหนดี ขอแนะนำ ESTEE ทั้งเนื้อครีม เนื้อเจล และเซรั่มสูตรพิเศษ ไม่ว่าสภาพผิวของคุณเป็นแบบไหน ผลิตภัณฑ์จาก ESTEE สามารถฟื้นฟูผิว บำรุงอย่างล้ำลึกและได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ

180
   หลาย ๆ คนซื้อรถยนต์เป็นของตนเองเพื่อให้ชีวิตมีการเดินทางที่สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น สิ่งที่สำคัญที่มาคู่กับรถยนต์ก็คือ ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ ส่วนใหญ่เมื่อซื้อรถออกจากศูนย์ใหม่ ๆ เรามักจะได้ประกันชั้น 1 ติดมาอยู่แล้ว และเรามักจะเข้าใจว่าเมื่อใช้รถไประยะหนึ่ง เราก็ต้องทำ ประกันชั้น 1 ไปตลอด โดยเฉพาะเป็นผู้หญิงขับด้วย เรามาดูกันว่าความเข้าใจในเรื่องผู้หญิงขับรถกับการทำประกันชั้น  1 นั้นคือเรื่องเดียวกันหรือไม่

ประกันชั้น 1 คืออะไร
   ประกันรถยนต์ชั้น 1 คือ กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 ที่ให้ความคุ้มครองมากที่สุด ซึ่งมี 4 เรื่องหลัก ดังนี้
-   คุ้มครองความเสียหายรถยนต์ทั้งของเราที่เอาประกันและคุ้มครองรถยนต์ของคู่กรณีเวลาเกิดอุบัติเหตุ
-   คุ้มครองความเสียหายในชีวิตและการบาดเจ็บของผู้ขับขี่ ผู้โดยสารที่อยู่ในรถ ครอบคลุมทั้งชีวิต ร่างกาย อนามัยของบุคคลภายนอก ทั้งรถคู่กรณีและผู้ใช้รถใช้ถนนที่ได้รับความเสียหายจากการขับขี่ของรถที่เอาประกัน
-   คุ้มครองความเสียหายจากการถูกโจรกรรม ไฟไหม้และน้ำท่วม
-   บริการเสริมในกรณี เช่น มีรถใช้ระหว่างซ่อม ค่าพาหนะกรณีที่ต้องเข้าศูนย์ หรืออู่เพื่อซ่อมรถที่เอาประกัน
ซึ่งความคุ้มครองนี้ ประกันรถยนต์ชั้น 2 ประกันรถยนต์ชั้น 3 มีความคุ้มครอง แต่ไม่ครอบคลุมเท่ากับประกันชั้น 1 นั่นเอง

แล้วเมื่อผู้หญิงขับรถต้องทำ ประกันชั้น 1 เท่านั้น จริงหรือไม่
   ในเรื่องของการเลือกทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัคร มีข้อกำหนดที่เป็นเงื่อนไขของทางบริษัทประกันภัยแต่ละบริษัทที่จะระบุไว้ว่าประกันแต่ละประเภทรับรถยนต์อายุไม่เกินกี่ปี บางบริษัทประกันภัยชั้น 1 รับอายุรถยนต์ไม่เกิน 2 ปี บางบริษัทอาจยาวนานกว่านั้นเช่น 5-7 ปี เป็นต้น ซึ่งในความเป็นจริงแม้ว่ารถยนต์เราอายุไม่ได้เกินกว่าที่จะทำประกันชั้น 1 แต่หากเราสะดวกใจที่จะทำ ประกันรถยนต์ชั้น 2 หรือ ประกันรถยนต์ชั้น 3 ก็สามารถทำได้เช่นกัน ทั้งนี้ความคุ้มครองก็จะลดลงตามเงื่อนไขของประเภทประกันที่เราซื้อ นั่นแปลว่าหากเกิดเหตุขึ้น ต้องจ่ายค่าใช้จ่ายส่วนที่เกินจากความคุ้มครองเอง เราไม่จำเป็นต้องซื้อประกันชั้น 1 ก็ได้แม้ว่าจะเป็นผู้หญิงขับรถก็ตาม

ผู้หญิงขับรถควรต้องทำประกันอะไร ?
   ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิง หรือผู้ชายการซื้อประกันภัยรถยนต์ มีข้อควรพิจารณาหลายปัจจัย นอกจากปัจจัยในเรื่องของคนขับแล้วยังมีปัจจัยด้านอื่นๆ ที่เข้ามาเกี่ยวข้องในการตัดสินใจ เช่น
1.   จุดประสงค์ของการใช้งาน เช่น ความบ่อยในการใช้ ขับไปทำงานทุกวัน ขับต่างจังหวัด ขับในเมือง หรือบรรทุกของ เป็นต้น
2.   เรื่องสภาพเศรษฐกิจหรือความเป็นอยู่ของครอบครัว หรือของเจ้าของรถยนต์
3.   นิสัยส่วนตัวของคนขับประจำ เช่น เป็นคนขับรถเร็ว-ช้า เป็นคนอารมณ์ร้อน เป็นคนขี้หงุดหงิด หรือเป็นคนขี้หลงขี้ลืม เป็นต้น
ซึ่งหากเราต้องการซื้อเพื่อความอุ่นใจในกรณีที่กังวล ซื้อเผื่อไว้ดีกว่าจะใช้แล้วไม่มีให้ใช้หรือไม่ครอบคลุม ไม่ติดเรื่องค่าเบี้ยประกันชั้น1 ที่ต้องจ่ายแพงกว่า ประกันชั้น 2  เราจะซื้อประกันชั้น 1 ก็ได้ แต่หากเราไม่ค่อยได้ใช้รถ และมีความสามารถถ้าต้องจ่ายค่าความเสียหายที่อยู่นอกเหนือเงื่อนไขของ ประกันรถยนต์ชั้น 2  จะตัดสินใจซื้อประกันชั้น 2 ก็ได้ ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยในการใช้ตัดสินใจซื้อของคุณผู้หญิงแต่ละคนนั่นเอง

ดังนั้นไม่ว่าจะเพศไหน ๆ ถ้าสามารถจ่ายเบี้ยในราคาของประกันชั้น 1 ได้ ก็ซื้อประกันชั้น 1 เพื่อความสบายใจในความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากที่สุด หากอายุรถยนต์เกินจากที่บริษัทรับประกันกำหนด ในการรับทำประกันชั้น 1 หรือสะดวกจ่ายเบี้ยในการทำ ประกันชั้น 2 หรือ ประกันรถยนต์ชั้น 3 มากกว่าและยอมรับได้กับความคุ้มครองที่ลดลง ก็สามารถซื้อได้ตามความสะดวกใจเช่นกัน


ชมเพิ่มเติมได้ที่
https://online.scbprotect.co.th/motor/type-1

181
ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ หรือ พ.ร.บ.รถยนต์ เป็นข้อกำหนดตามกฎหมายว่าให้รถทุกคันที่จะต่อภาษีประจำปีต้องทำ พ.ร.บ. โดยหากไม่ทำจะไม่สามารถต่อภาษีรถยนต์ประจำปีได้และถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย โดย พ.ร.บ. รถยนต์มีไว้เพื่อคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ผู้เสียหายจะต้องได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายตามที่กำหนดไว้

พ.ร.บ. คุ้มครองอะไรบ้าง?
พ.ร.บ. จะให้ความคุ้มครองเฉพาะค่ารักษาพยาบาล การบาดเจ็บ การสูญเสียอวัยวะ และการเสียชีวิต ของผู้ประสบเหตุทางรถยนต์เท่านั้น ไม่คุ้มครองในส่วนของทรัพย์สินและความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์หรือยานพาหนะ เว้นเสียแต่ว่ารถยนต์หรือยานพาหนะคันดังกล่าวได้ทำประกันภัยประเภทสมัครใจเอาไว้จึงจะให้ความคุ้มครอง ซึ่งประกันภัยภาคสมัครใจแบ่งออกเป็น 5 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่
-   ประกันรถชั้น 1 ให้ความคุ้มครองดีที่สุดและครอบคลุมมากที่สุด 
-   ประกันชั้น 2 พลัส ของ SCB Protect ให้ความคุ้มครองรองมาจาก ประกันชั้น 1 ต่างกันเพียงต้องเป็นอุบัติเหตุที่มีคู่กรณีที่เป็นยานพาหนะทางบกด้วยกันเท่านั้น ถ้าคู่กรณีหนีหรือไม่สามารถตามตัวได้ก็จะไม่ให้ความคุ้มครอง
-   ประกันชั้น 2 ให้ความคุ้มครองในส่วนของค่ารักษาพยาบาลของคู่กรณีและผู้เอาประกัน รวมถึงคุ้มครองกรณีรถไฟไหม้ แต่ความเสียหายที่เกิดจากอุบัติเหตุจะให้ความคุ้มครองเฉพาะรถของคู่กรณีเท่านั้น ในกรณีที่ผู้เอาประกันเป็นฝ่ายผิด
-   ประกันรถยนต์ชั้น 3 พลัส ให้ความคุ้มครองรถยนต์ของผู้เอาประกันแต่ต้องมีคู่กรณีเท่านั้น หากหนีหรือไม่มีหลักฐานในการเอาผิดก็จะไม่ได้รับความคุ้มครอง ในส่วนของรถคู่กรณีก็จะได้รับความคุ้มครองด้วย รวมถึงค่ารักษาพยาบาลทั้งคู่กรณีและผู้เอาประกัน
-   ประกันรถชั้น 3 เป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองเฉพาะรถของคู่กรณีเท่านั้น ในส่วนของค่ารักษาพยาบาลยังให้ความคุ้มครองทั้งคู่กรณีและผู้เอาประกันเช่นเดียวกับประกันภัยชั้นอื่น ๆ

เห็นได้ว่าประกันภัยรถยนต์ในแต่ละระดับให้ความคุ้มครองที่แตกต่างกัน ซึ่งเจ้าของรถก่อนจะทำต้องพิจารณาตามความเหมาะสม โดยจะมีในส่วนของอายุรถเป็นเกณฑ์ โดยเฉพาะรถเก่าที่หลายคนมักจะมองข้ามในส่วนของ ประกันรถยนต์ชั้น 3 และเลือกที่จะทำประกันภัยภาคบังคับหรือ พ.ร.บ. เท่านั้น เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาและตนเองเป็นฝ่ายผิดนอกจากจะไม่ได้ความคุ้มครองเพิ่มเติมแล้ว ซ้ำร้ายยังต้องชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นอีกด้วย การทำ ประกันรถชั้น 3 ให้กับรถเก่าที่มีอายุมากกว่า 10 ปี เอาไว้ยังดีกว่าไม่มี อย่างน้อยก็ช่วยลดความเสี่ยง ผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ ในขณะที่ พ.ร.บ. ให้ความคุ้มครองเฉพาะค่ารักษาพยาบาลเท่านั้น

ชมรายละเอียดเพิ่ม
https://online.scbprotect.co.th/motor/type-2

182
เพิ่มเสน่ห์ให้กับตัวเองด้วย โค โล ญ จ น์ ผู้หญิง ที่เข้ากับบุคลิกตัวเอง โดยสำหรับใครที่กำลังมองหา โค โล ญ ผู้หญิง กลิ่นหอมเย้ายวนใจ ขอแนะนำ 5 โคโลญจน์กลิ่นหอมแบบผู้ดีที่จะทำให้คุณมีเสน่ห์และดูแพงภายในพริบตา

ทำความรู้จัก โค โล ญ คือ อะไร
เราขอพาทุกคนไปทำความรู้จักว่า โคโลญ คือ อะไร แตกต่างจากน้ำหอมประเภทอื่นอย่างไร โดยโคโลญจน์จะมีระดับความเข้มข้นของหัวน้ำหอม 2 - 5 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งกลิ่นจะติดอยู่ประมาณ 2 - 3 ชั่วโมง แม้จะน้อยกว่าน้ำหอมแบบ EDP (Eau de Parfum) และ EDT (Eau de Toilette) อยู่มาก แต่ถึงอย่างนั้นกลับได้รับความนิยม เพราะกลิ่นบางเบา ไม่ทำให้ฉุน ทำให้หลาย ๆ คนเลือกฉีดในวันสบาย ๆ เพื่อเพิ่มความสดชื่นให้กับตัวเอง

บอกต่อ 5 โค โล ญ ผู้หญิง กลิ่นผู้ดี เพิ่มดีกรีความแพง
1.   Jo Malone
Earl Grey & Cucumber Cologne
กลิ่นหอมสุดเลื่องชื่อที่แน่นอนว่าคนรักความหอมต้องมีติดเอาไว้ สำหรับกลิ่นนี้เมื่อสูดดมจะเหมือนเดินอยู่ท่ามกลางฤดูใบไม้ร่วง มอบความรู้สึกเย็น สดชื่น หอมแบบผู้ดี นอกจากนี้ Jo Malone ยังมีโคโลญจน์กลิ่นอื่นให้เป็นเจ้าของอีกเพียบ
2.   Dior
Homme Cologne
ใครชื่นชอบกลิ่นหอมสะอาด ๆ แนะนำให้เลือกกลิ่นนี้เลย โดดเด่นด้วยกลิ่นมะกรูดผสมมะนาว กลิ่นเปรี้ยวนิด ๆ แต่ดูสะอาดเหมือนเดินท่ามกลางธรรมชาติ อากาศสดใส แถมไม่ฉุน เหมาะกับการเลือกพรมความหอมทุกวัน
3.   Etude House
Belle Dress Pretty Look Shower Cologne
พรมความหอมหลังอาบน้ำได้แบบทันทีด้วยโคโลญจน์ผู้หญิงกลิ่นหอมสดชื่น เพิ่มความมีชีวิตชีวาด้วยกลิ่นฟรุตตี้หวานกำลังดีของผลไม้และมะลิ นอกจากเพิ่มความหอมแล้วยังช่วยให้ผิวชุ่มชื่นขึ้นอีกด้วย
4.   AVON
Butterfly Cologne Spay
ใครเป็นสาวหวานต้องถูกใจสิ่งนี้ เพราะนี่คือโคโลญจน์กลิ่นหอมหวานจากผลไม้และดอกไม้ ฉีดแล้วเพิ่มดีกรีความหวานละมุน มอบความสดชื่น อิสระ เปรียบเสมือนยามผีเสื้อโบยบิน
5.   Bvlgari
Eau Parfumée au Thé Noir Eau de Cologne Intense Spray
ตัวดังที่กลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่มาพร้อมกลิ่นอายธรรมชาติ สูดดมเมื่อไหร่มอบความรู้สึกผ่อนคลาย ได้แรงบันดาลใจจากกลิ่นชาดำผสานกลิ่นเย้ายวนจากกุหลาบ แฝงด้วยความอบอุ่นของกลิ่นไม้ ให้บรรยากาศสบาย ๆ แต่ยังคงความเป็นผู้ใหญ่

กลิ่นหอมนอกจากช่วยเพิ่มความมั่นใจและเสน่ห์ส่วนตัวแล้วยังทำให้มีแต่คนรอบตัวอยากเข้าใกล้ เพราะกลิ่นหอมคือเสน่ห์อย่างหนึ่ง เพราะฉะนั้นการดูแลร่างกายให้มีกลิ่นหอมติดตัวตลอดเวลาด้วย โคโลญ เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม ที่สำคัญต้องดูแลความสะอาดของร่างกาย อาบน้ำให้สะอาด สครับผิวสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อลดการสะสมของคราบไคล เพียงเท่านี้ไม่ว่าใครก็อยากอยู่ใกล้แน่นอน

183
การแต่งหน้าหากเน้นเรื่องของการปกปิด เราจะมีอยู่ 2 ขั้นตอนที่จะช่วยปกปิดความบกพร่องต่าง ๆ ของใบหน้า นั่นก็คือขั้นตอนของการลงครีมรองพื้น ซึ่งปัจจุบันมีหลายแบรนด์ที่นำเอาขั้นตอนของการเตรียมผิวกับการแต่งหน้ามาอยู่ในไอเทมเดียวกันอย่าง ครีม กันแดด ผสม รองพื้น เป็นการใช้สกินแคร์ตัวเดียว แต่มีคุณสมบัติทั้งกันแดดและปกปิดร่องรอยต่าง ๆ ในเวลาเดียวกัน และการแต่งหน้าด้วยการใช้แป้งผสมรองพื้น หลายคนเกิดข้อสงสัยว่า แล้วเราจะเลือกใช้แป้งพัฟแบบไหนหรือ แป้ง พัฟ แบรนด์ ไหน ดี ที่ช่วยในเรื่องของการปกปิด ให้ผิวสวยดูเนียนกริบ วันนี้จึงขอมาแนะนำ 5 แบรนด์แป้งพัฟที่ใช้แล้วดี ปกปิดได้เนียน สวยเป๊ะทุกมิติ

1.   SKIN WEIGHTLESS POWDER FOUNDATION แบรนด์ Bobbi brown
แป้งผสมรองพื้นเนื้อครีมเน้นการปกปิดแบบดีเยี่ยม ช่วยให้ผิวหน้าเรียบเนียน กันความชื้นและป้องกันเหงื่อ ติดทนนาน แต่ยังให้ความสบายผิว ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน ช่วยควบคุมความมันไม่ทำให้หน้าหมองคล้ำระหว่างวัน เน้นลุคที่ดูเป็นธรรมชาติ เหมาะกับทุกโทนผิว มีเฉดสีให้เลือกถึง 9 เฉด
2.   STUDIO FIX POWDER PLUS FOUNDATION แบรนด์ Mac
   แป้งผสมรองพื้น STUDIO FIX POWDER PLUS FOUNDATION ให้ความปกปิดระดับปานกลางไปจนถึงระดับสูง ช่วยเบลอรูขุมขนและปกปิดริ้วรอยได้อย่างเรียบเนียน ติดทนนาน ซึ่งทางแบรนด์ได้เคลมความติดทนนานถึง 12 ชม. นอกจากความเจ๋งในเรื่องของการปกปิดแล้ว ยังช่วยเรื่องการควบคุมความมันของผิว ไม่ก่อให้เกิดสิว เหมาะมากกับคนที่มีผิวมันแล้วกำลังตามหา แป้ง พัฟ แบรนด์ ไหน ดี ที่เหมาะกับคนผิวหน้ามัน ไม่เยิ้ม ไม่มันวาว ไม่หมองคล้ำระหว่างวัน ถือว่ารุ่นนี้ตอบโจทย์ ทั้งกันน้ำ กันเหงื่อ และความชื้นได้ดี เนื้อแป้งเกลี่ยง่าย ไม่ตกร่องอีกด้วย
3.   Superpowder Double Face Makeup แบรนด์ Clinique
แป้งผสมรองพื้นเนื้อแมตต์แบบ 2 in 1 ใช้ปกปิดและเติมหน้าระหว่างวัน เนื้อแป้งให้ความรู้สึกบางเบาแต่ปกปิดดี ช่วยให้ผิวเรียบเนียน ติดทนนาน ผ่านการทดสอบการแพ้และไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม สาว ๆ คนไหนที่ผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะน้ำหอมก็สามารถใช้แบรนด์นี้ได้ เหมาะกับสภาพผิวค่อนข้างแห้งไปจนถึงผิวแห้ง
4.   The Soft Moisture Powder Foundation SPF30 แบรนด์  Lamer
   แป้งรองพื้น แบบ Soft Matte เป็นเสมือน ครีม กันแดด ผสม รองพื้น ที่มาในรูปของแป้งพัฟ มีส่วนผสมของสารกันแดด SPF30 ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดไปพร้อมกับการดูแลผิว เนื้อแป้งนุ่ม เบาสบายผิว อำพรางริ้วรอยและความบกพร่องต่าง ๆ ได้ดี ช่วยให้ผิวหน้าเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมกับปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ เหมาะกับการแต่งหน้าในลุคใส ๆ หรือในวันที่ต้องการความเป็นธรรมชาติหรืองานโชว์ผิว
5.   Double Wear Stay-in-Place Matte Powder Foundation SPF 10 แบรนด์ Esteelauder
   เนื้อแป้งเนียนละเอียดมีความบางเบา ติดทนนานถึง 12 ชม. ไม่มีส่วนผสมของ Oil กันน้ำกันเหงื่อ ช่วยดูดซับและควบคุมความมันตลอดทั้งวัน มีส่วนผสมของกันแดด SPF 10 ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV ปกปิดรูขุมขนได้เรียบเนียน สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว

แป้งพัฟทั้ง 5 แบรนด์ที่ได้แนะนำกันไปข้างต้นล้วนเป็นแป้งพัฟที่ช่วยให้ผิวหน้าของคุณเนียนสวยเป๊ะได้ตลอดทั้งวัน สามารถไปหาซื้อมาลองใช้ตามกันดูได้ รับรองไม่ผิดหวัง

184
     โรคร้ายแรงเป็นโรคที่จำเป็นต้องรักษากับแพทย์เฉพาะทางโดยเฉพาะ เนื่องจากเป็นโรคที่รักษายากจำเป็นต้องใช้ความรู้และเทคนิคการรักษาเฉพาะจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จึงทำให้ค่ารักษาพยาบาลโรคในกลุ่มนี้อยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง โดยแบ่งเป็น 5 กลุ่มหลัก ๆ ได้แก่ กลุ่มโรคมะเร็ง, โรคเกี่ยวกับหลอดเลือดและหัวใจ, โรคเกี่ยวกับกล้ามเนื้อ กระดูก และข้อ, โรคเกี่ยวกับระบบประสาทและสมอง และโรคเกี่ยวกับอวัยวะสำคัญ เช่น หอบหืดรุนแรง ไตวายเรื้อรัง เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันมีคนป่วยด้วยโรคร้ายแรงเหล่านี้มากขึ้นเรื่อย ๆ จากความเสี่ยงของสภาพแวดล้อมและพฤติกรรมการใช้ชีวิต นั่นหมายถึงภาระที่จะต้องเตรียมค่ารักษาพยาบาลสำหรับการรักษาโรคร้ายแรงเหล่านี้ไว้ให้พร้อม
   ประกันโรคร้ายเบี้ยคงที่ เป็นประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลโรคเหล่านี้ได้โดยเฉพาะ และให้ความคุ้มครองโรคในระยะเริ่มต้นไปจนถึงโรคระยะรุนแรงที่อาจส่งผลให้เกิดการเสียชีวิต สูญเสียการได้ยินหรือการมองเห็น หรือทุพพลภาพอย่างถาวร โดยปัจจุบันมี ประกันโรคร้ายเบี้ยคงที่ ให้เลือกหลายรูปแบบและยังสามารถ ซื้อประกันออนไลน์ ได้อีกด้วย โดยเฉพาะประกันโรคร้ายแรงจาก SCB Protect ที่มีจุดเด่นที่สำคัญคือ
-   ให้ความคุ้มครอง 3 กลุ่มโรคร้ายแรง ได้แก่ มะเร็ง, โรคเกี่ยวกับสมองและระบบประสาท และโรคเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด
-   ได้รับเงินก้อนสูงสุดถึง 2 ล้านบาททันที เมื่อได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น 1 ใน 3 กลุ่มโรคร้ายแรงดังกล่าวนี้ แม้ว่าจะอยู่ในระยะเริ่มต้นของโรคก็ตาม
-   ให้ความคุ้มครองต่อเนื่องถึง 5 ปี โดยการจ่ายเบี้ยประกันอัตราคงที่ตลอด 5 ปี
-   สมัครได้ผ่านช่องทางออนไลน์ เพียงคลิกสมัครก็สามารถรับความคุ้มครองได้ทันทีที่ชำระเงินเสร็จ
แต่หากต้องการความคุ้มครองโรคร้ายแรงเฉพาะ เช่น โรคมะเร็ง ก็สามารถเลือกแบบ ประกันมะเร็ง ได้ ซึ่งจะได้รับความคุ้มครองที่มากขึ้น ได้แก่
-   การคุ้มครองมะเร็งทุกระยะ เมื่อตรวจพบครั้งแรกก็จะได้รับเงินก้อนทันทีและยังสามารถเลือกรับการรักษาได้ตามความต้องการ
-   เลือกแผนความคุ้มครองได้ตามที่ต้องการ ทั้งแผนคุ้มครองแบบ 500,000 บาท, 1 ล้านบาท และ 2 ล้านบาท
-   เพิ่มความอุ่นใจว่ามีเงินสำรองไว้ใช้รักษาตัวหรือแบ่งมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
-   เพิ่มความคุ้มครองมะเร็งผิวหนัง โดยจะได้รับความคุ้มครองเพิ่มเติม 50,000 บาท
   สำหรับ ประกันมะเร็ง ไม่จำเป็นต้องตรวจสุขภาพ เพียงแค่ตอบคำถามสั้น ๆ เท่านั้น ที่สำคัญเบี้ยประกันเริ่มต้นเพียง 800 กว่าบาทต่อปีเท่านั้น โดยขึ้นอยู่กับเพศและอายุ
นอกจากนี้ ไม่ว่าจะทำ ประกันโรคร้ายแรง แบบรวม ๆ หรือเลือกเป็นประกันโรคร้ายแรงแบบเฉพาะ ก็ยังสามารถใช้เบี้ยประกันไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้บางส่วนอีกด้วย  นั่นจึงทำให้ผู้คนต่างเลือกทำประกันโรคร้ายของ SCB Protect เพราะนอกจากจะมีความคุ้มครองสูงแล้ว ยังสามารถสมัครได้ง่าย ๆ ด้วยการ ซื้อประกันออนไลน์   

ชมข้อมูลเพิ่ม
https://online.scbprotect.co.th/
https://online.scbprotect.co.th/life/e-cancer

185
เชื่อว่าหลายคนคงคุ้นเคยกับเมนูกาแฟที่เป็นที่นิยมอย่าง  เอสเพรสโซ่, อเมริกาโน่, คาปูชิโน่และลาเต้ ยกเว้นบางร้านที่มีบาริสต้ามืออาชีพจะมีเมนูซิกเนเจอร์ที่เป็นของตนเอง ซึ่งน้อยร้านมากที่จะมีบาริสต้ามืออาชีพแบบนั้น คงจะดีมากหากเราสามารถปรุงแต่งเมนู กาแฟแคปซูล สูตรพรีเมี่ยมได้ตรงใจเหมือนกับบาริสต้ามืออาชีพ ด้วย เครื่องชงกาแฟแคปซูล ทั้ง 3 รุ่นที่จะแนะนำต่อไปนี้
1.   เครื่องชงกาแฟ Nespresso Atelier
Atelier มาพร้อมดีไซน์ที่เพียวบาง สวยงามและทันสมัย ตัว เครื่องชงกาแฟขนาดเล็ก เคลือบด้วยสแตนเลสสตีล แข็งแรง มาพร้อมเทคโนโลยีการตีฟองนมที่หลากหลายชนิดทั้ง นมวัว นมแอลมอลด์และนมถั่วเหลือง พร้อม วิธีใช้เครื่องชงกาแฟ เมนูการทำกาแฟสดที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น เช่น แฟลตไวท์, มอคคาหรือมัคคิเอโต้ ที่ล้วนแล้วแต่ต้องอาศัยบาริสต้ามืออาชีพในการปรุงแต่ง ตัวเครื่องมีขนาด 11.9 x 43.4 x 27.9 ซ.ม. (กxยxส) หนัก 3.92 กก. ความจุถังน้ำ 1 ลิตร แรงดันน้ำ 19 บาร์ มีก้านตีฟองนมโดยเฉพาะ รองรับการชงในแบบ Longo และ Espresso และเมนูกาแฟนมได้ทุกเมนู
2.   เครื่องชงกาแฟ New Lattissima One สีขาว
ด้วย เครื่องชงกาแฟขนาดเล็ก เครื่องนี้สามารถชงทุกเมนูกาแฟสุดหรูด้วยปลายนิ้วเพียงครั้งเดียว ด้วยความสามารถที่ไม่เล็กเหมือนขนาดจึงทำให้ New Lattissima One ตอบโจทย์ทุกเมนู ไม่ว่าจะเป็น ลาเต้มัคคิเอโต้, คาปูชิโน่ฟองนมหนานุ่มหรือแม้แต่โกโก้ร้อนสำหรับเด็ก ๆ ก็สามารถทำได้ด้วยตนเองง่าย ๆ ตัวเครื่องมีขนาด 15.4 x 32.4 x 25.6 ซ.ม (กxยxส) หนัก 4.17 กก. ความจุถังน้ำ 1 ลิตร ความจุกระบอกนม 165 มล. แรงดันน้ำ 19 บาร์ เหมาะกับออฟฟิศขนาดเล็ก-กลางและคนที่ชื่นชอบเมนูกาแฟนมเป็นชีวิตจิตใจ
3.   เครื่องชงกาแฟ Creatista Plus
หากใครที่ต้องการฝึกฝนที่จะเป็นบาริสต้ามืออาชีพขอแนะนำ Nespresso Creatista Plus เครื่องชงกาแฟแคปซูล ที่มาพร้อม ท่อสตรีมทำฟองนมด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยสามารถตีฟองนมได้ถึง 4 รูปแบบ ตั้งค่าอุณหภูมินมได้ถึง 11 ค่า ทำให้วาดลวดลายลาเต้อาร์ตได้เหมือนดั่งมืออาชีพ ตัวเครื่องทำจากสแตนเลสสตีล มีขนาด 17.0 x 40.9 x 30.9 ซ.ม. (กxยxส) น้ำหนัก 5.2 กก. รองรับคำสั่งการทำกาแฟ 8 เมนูหลัก วิธีใช้เครื่องชงกาแฟ สั่งการผ่านจอแสดงผล สะดวก รวดเร็วสามารถชงกาแฟต่อเนื่องได้ 6-8 แก้วขึ้นอยู่กับการใช้น้ำของแต่ละเมนู ความจุถังน้ำ 1.5 ลิตร แรงดันน้ำ 19 บาร์ ปิดเครื่องอัตโนมัติภายใน 9 นาทีหากไม่มีการใช้งาน
สำหรับ เครื่องทํากาแฟสด ข้างต้นที่สามารถช่วยให้คุณเป็นบาริสต้ามือชีพได้ไม่ยาก ด้วยมาตรฐานการผลิต กาแฟแคปซูล จึงมั่นใจได้ว่ากาแฟทุกแก้วที่ชงด้วยเครื่องชงกาแฟสดแคปซูลจะมีรสชาติเหมือนกันและมีความกลมกล่อมไม่ผิดเพี้ยน นอกจากนี้ทาง Nespresso ยังมี สูตรกาแฟสดพร้อม วิธีใช้เครื่องชงกาแฟ ให้ได้ไปฝึกฝนและทดลองเมนูกาแฟสูตรพรีเมียมในแบบที่คุณต้องการ เพื่อสร้างความหลากหลายและไม่จำเจอีกต่อไป

ชมเพิ่มเติม
https://www.nespresso.com/th/th/order/machines/vertuo

186
หลายคนคุ้นเคยกับโลชั่นที่เป็นสกินแคร์ใช้กับผิวกาย แต่จริง ๆ แล้วผลิตภัณฑ์ประเภทนี้มีแบบที่สามารถใช้กับผิวหน้าได้ด้วย สำหรับ โลชั่นบำรุงผิวหน้า นี้จะใช้เพื่อเป็นการเปิดผิวและเตรียมผิวให้พร้อมสำหรับการบำรุง การทาโลชั่นร่วมกับครีมจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการบำรุงได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม
โลชั่นสำหรับผิวหน้านั้นมีอยู่หลายประเภทด้วยกัน คือ
โลชั่นแบบน้ำตบหรือ เวลาทาโลชั่นต้องใช้ฝ่ามือตบเบา ๆ ให้เนื้อโลชั่นซึมลงผิว เรียกอีกอย่างว่า โลชั่นบำรุงผิวสูตรน้ำ ซึ่งมีลักษณะบางเบา ซึมเข้าผิวได้เร็ว
โลชั่นแบบเนื้อเจล เป็นโลชั่นที่ซึมง่าย ทาไม่นานก็จะรู้สึกว่าเนื้อโลชั่นซึมหายไป เหลือไว้แต่ความนุ่มเนียน มีความชุ่มชื้นกว่าแบบนิดหน่อยแต่ยังไม่หนักหน้า ลักษณะเด่นของ มอยเจอร์ไรเซอร์แบบเจล ของ ELCA คือมีความใส บางเบา ทาแล้วไม่หนักหน้า เหมาะกับคนผิวมัน
โลชั่นเนื้อครีม มีส่วนประกอบหลักคือน้ำมันจึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแห้ง โลชั่นบำรุงหน้า ที่มีลักษณะเป็นเนื้อครีมจะมีความชุ่มชื้นมากกว่าโลชั่นประเภทน้ำ แต่มีความหนักผิวมากกว่า
โลชั่น Oil-free ไม่มีน้ำมันซึ่งเสี่ยงต่อการอุดตันเป็นส่วนผสม แต่ให้ความชุ่มชื้นสำหรับคนผิวมัน
โลชั่นผิวขาว เป็นผลิตภัณฑ์สกัดจากผลไม้ ช่วยเรื่องปรับผิวให้สว่างขึ้น ดูกระจ่างใสโดยไม่เป็นอันตรายต่อผิว
การใช้โลชั่นเพื่อดูแลผิวให้ได้ผล ต้องใช้อย่างถูกวิธี
การใช้โลชั่นอย่างถูกวิธี อันดับแรกเลยคือ เลือกโลชั่นให้เข้ากับผิวพรรณ ไม่ว่าผิวของคุณจะเป็นแบบไหน
ผิวทั่วไป - ควรเลือกใช้ โลชั่นบำรุงหน้า ที่มีส่วนผสมหลักเป็นน้ำและซิลิโคนชนิดเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะและไม่อุดตันผิว
ผิวมีแนวโน้มแพ้ง่าย – ควรเลือก โลชั่นบำรุงผิวหน้า ที่ใช้ส่วนผสมหลักจากธรรมชาติและอ่อนโยนต่อผิว เช่น ว่านหางจระเข้ เป็นต้น
ผิวมัน - ผู้ที่มีผิวมัน ควรใช้โลชั่นเพื่อปกป้องผิวไม่ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น เนื้อโลชั่นเป็นแบบ oil-free
ผิวแห้ง - โลชั่นที่คนผิวแห้งควรใช้จะต้องมีส่วนผสมหลักเป็นน้ำมัน เพื่อคงความชุ่มชื้นแก่ผิว
นอกจากเลือกใช้โลชั่นมอยเจอร์ไรเซอร์ลดรูขุมขนให้ถูกกับผิวเพื่อช่วยให้หน้าใส รูขุมขนกระชับแล้ว การใช้โลชั่นยังไม่ควรนำโลชั่นทาตัวหรือ บอดี้โลชั่น มาใช้ทาผิวหน้า เพราะผิวหน้ามีความบอบบางมากกว่าผิวกาย ผิวกายจะมีความหยาบกร้านมากกว่าผิวหน้า และส่วนผสมในโลชั่นทาตัวอาจจะสร้างความระคายเคืองให้กับผิวที่อ่อนแอ ไม่เฉพาะแต่โลชั่นเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผลิตภัณฑ์สกินแคร์ทุกประเภท เช่น ครีมกันแดด ครีมบำรุง ยกตัวอย่างเช่น ครีมกันแดดที่ใช้ทาตัว จะมีส่วนผสมที่เข้มข้นมากกว่าครีมกันแดดสำหรับทาหน้า หากนำมาใช้ผิดที่ผิดทาง ผิวหน้าอาจเกิดการระคายเคืองจนผิวอักเสบ เป็นผื่นขึ้นได้ จะสังเกตได้ว่าผู้ผลิตสกินแคร์ต่างพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับผิวหน้าและผิวกายโดยแยกออกจากกัน การซื้อใช้ควรเลือกให้ดีเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ชมรายละเอียดเพิ่มที่เว็บไซด์
https://www.clinique.co.th/product/1625/45042/clinique-for-men-maximum-hydrator-activated-water-gel-concentrate

187
สาว ๆ หลายคนคงสงสัยเมื่อได้เห็นเซ็ต แปรงแต่งหน้า แบบเต็มสูตร ว่าอะไรใช้ยังไงบ้าง มีหลากหลายแบบหลากหลายขนาดเต็มไปหมด วันนี้จะมาแนะนำให้รู้จักแปรงแต่ละชนิดว่ามีอะไรบ้าง และแบบไหนใช้อย่างไร มาดูกัน
1.แปรงลงรองพื้น โดยปกติแปรงสำหรับลงรองพื้นเป็นแปรงขนสังเคราะห์นุ่มไม่บาดหน้า ใช้กระจายรองพื้นให้ผิวเรียบเนียนได้รวดเร็ว มีหัวแปรงหลายประเภท
-ชนิดหัวโค้งรับกับใบหน้าที่ใช้ลงเฉพาะจุดบริเวณซอกจมูกและใต้ตา
-ชนิดหัวแบนปลายลาดเอียงที่ใช้สะดวก ลงรองพื้นได้เรียบเนียน เกลี่ยง่ายกว่าเดิม สามารถเข้าตามซอกได้
-ชนิดหัวแปรงกลมโค้งมนช่วยให้ลงรองพื้นเกลี่ยทั่วใบหน้าอย่างเนียนสนิท ใช้งานสะดวกรวดเร็ว ลงรองพื้นได้ง่าย ไม่เป็นเส้นเหมือนชนิดหัวตัด
-ชนิดหัวแปรงกลมโค้งมนขนาดเล็กด้วยช่วยให้ลงตามซอกเฉพาะจุดได้ดี
-ชนิดหัวแบนช่วยเกลี่ยรองพื้นได้เร็วและเนียน แต่ควบคุมได้ยากเหมาะกับมือโปรที่เชี่ยวชาญแล้ว
-ชนิดหัวแปรง 2 ด้าน ด้านหนึ่งเป็นขน แปรงปัดแป้ง ฝุ่น อีกด้านเป็นฟองน้ำช่วยเกลี่ยรองพื้นให้เรียบเนียนกลืนกับผิวหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ
2.แปรงลงคอนซีลเลอร์ ตัวแปรงขนาดเล็กกว่าแปรงลงรองพื้นและมีหลายแบบให้เลือกคล้ายกันด้วย เช่น หัวกลม หัวแบน และหัวตัด แปรงขนแน่น ๆ นุ่มสบายผิวเหมาะแก่การเกลี่ยคอนซีลเลอร์ปกปิดทุกส่วนบนใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นร่องแก้ม รอยสิว รอยดำ รอยแดง รอยคล้ำใต้ตา หรือตามซอกจมูก ช่วยกลบรอยเล็ก ๆ ได้ดีทำให้ผิวเรียบเนียนและไม่เป็นคราบบนใบหน้า
3.แปรงลงแป้ง แปรงขนาดใหญ่ขนฟูและไม่แน่นเกินไป ใช้ปัดแป้งฝุ่นหรือแป้งแข็งในตลับให้กระจายทั่วใบหน้าและลำคอ มีหัวแปรง 3 ชนิดคือ ทรงกลมขนาดใหญ่ขนฟูนิ่มสำหรับปัดแป้งฝุ่นให้ใบหน้านวลเนียน หรือทรงรูปพัดใช้ปัดแป้งส่วนเกินออกไป หรือทรงคาบูกิ เป็นแปรงขนฟูสั้น ๆ แน่น ๆ เหมาะใช้กับแป้งผสมรองพื้นและใช้กับแป้งฝุ่นปัดวนทั่วใบหน้า
4.แปรงแต่งตา มีลักษณะเป็นพุ่มเล็กหรือทรงแบนขนาดเล็กสำหรับแต่งอายแชโดว์เนื้อครีม ของ ELCA บริเวณดวงตาโดยเฉพาะ มีทั้งหัวกลม หัวแบน หัวตัด ตัดเฉียง ขึ้นอยู่กับจุดที่ใช้ เช่น แปรงหัวกลมสำหรับเกลี่ยสี eye shadow แบบเนื้อครีม บนเปลือกตาได้ง่ายและรวดเร็ว ออกมาสีดูฟุ้งกระจาย ส่วนแปรงหัวตัดใช้เติมความคมชัดบริเวณหางตาและขอบตาได้อย่างสวยงาม สำหรับแปรงอายไลเนอร์มีหัวตัดเฉียงหรือปลายแหลม ต้องฝึกให้มือแม่นจะได้เขียนขอบตาให้คมกริบ
5.แปรงเขียนคิ้ว นอกเหนือจากดินสอเขียนคิ้วและมาสคาร่าปัดคิ้วแล้ว แปรงเขียนคิ้วเป็นอุปกรณ์ตกแต่งให้คิ้วสวยงามดูเป็นธรรมชาติอย่างแนบเนียน รูปแบบแปรงที่ได้รับความนิยมคือชนิดปลายตัดเฉียงที่เน้นความแม่นยำ ส่วนแปรงเขียนคิ้วแบบสปูลี่เหมาะกับมือใหม่ทำให้ควบคุมทิศทางได้ง่าย ช่วยจัดเรียงขนคิ้วและเกลี่ยสีให้กลมกลืนสวยงาม
6.แปรงปัดแก้ม แปรงขนาดเล็กกว่าแปรงแต่งหน้าเพื่อให้คุมพื้นที่ได้ง่าย หัวกลมฟูขนไม่แน่นมากช่วยกระจายสีได้ดีเหมาะสำหรับปัดแก้ม ลงเฉดดิ้ง คอนทัวร์ หรือไฮไลท์ เหมาะสำหรับพกพาใช้เติมหน้าระหว่างวัน หัวแปรงมีหลายรูปทรง เช่น
-หัวแปรงทรงเฉียงใช้ปัดบริเวณโหนกแก้มให้มีสีสันโดดเด่น
-หัวแปรงทรงแบนสำหรับปัดแก้มถึงข้างจมูก
-หัวแปรงทรงกลมใช้ปัดวนบริเวณแก้ม
7.แปรงทาปาก แปรงขนาดเล็กมีขนแปรงทรงแบนเหมาะกับการเบลนด์สีลิปสติกและเขียนขอบปากให้สวยคม ช่วยกลบสีปากเดิมก่อนทาลิปสติกได้ แต่บางคนก็ไม่ชอบใช้เพราะเห็นว่าไม่ค่อยจำเป็นเท่าไร
แปรงแต่งหน้า ไม่จำเป็นต้องมีทั้งหมด แต่อาจจะเลือกเฉพาะที่เราเห็นว่าจำเป็นและได้ใช้บ่อย ๆ ฝึกฝนแต่งหน้าให้คล่องแล้วเลือกประเภทที่เหมาะกับตัวเอง ไม่นานก็แต่งหน้าได้อย่างมือโปร

ชมเพิ่มเติมที่
https://www.bobbibrown.co.th/product/2330/53791/luxe-eye-shadow/fh17
https://www.maccosmetics.co.th/product/13840/75923/products/makeup/eyes/shadow/powder-kiss-soft-matte-eye-shadow

188
   เมื่อเรานึกถึงการชงกาแฟสด หลายคนคงนึกถึงการชงกาแฟที่ใช้ความพิถีพิถัน ใช้เวลาในชงนาน ๆ มีเครื่องไม้เครื่องมือเฉพาะทางและต้องใช้ฝีมือกว่าที่จะได้ กาแฟสด กลมกล่อมสักแก้ว คงจะดีไม่น้อยถ้าเราสามารถทำกาแฟสดแก้วโปรดได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องฝึกปรือฝีมือมากมาย ถ้าสนใจอยากเปลี่ยนวิธีการชงแบบเดิม ๆ อย่ามองข้ามตัวช่วยในการชงกาแฟอย่าง เครื่องชงกาแฟอัตโนมัติ ที่จะทำให้คุณสามารถดื่มด่ำกับกาแฟสดง่ายขึ้นกว่าเดิม
เครื่องชงกาแฟสุดล้ำจากแบรนด์ Nespresso ที่จะเปลี่ยนวิธีชงกาแฟแบบเดิม
•   ถ้าคุณมองหาเครื่องชงกาแฟที่สามารถชงกาแฟนมได้ ขอแนะนำ เครื่องชงกาแฟแคปซูล จากแบรนด์ Nespresso รุ่น Creatista Plus Metal Stainless Steel เครื่องชงกาแฟที่มาพร้อมกับก้านสตรีมฟองนมที่มีประสิทธิภาพ ตีฟองนมได้ถึง 4 รูปแบบด้วยกัน มีเทคโนโลยีสร้างฟองนมขนาดเล็ก ทำให้เราสามารถครีเอทเมนูได้หลากหลาย โดยตัวเครื่องนี้สามารถทำเมนู กาแฟสด ได้ถึง 8 เมนูทั้งเมนูกาแฟดำและเมนูกาแฟนม เราสามารถใช้เครื่องชงกาแฟรุ่นนี้ทำลาเต้อาร์ตสวย ๆ ได้อย่างสบาย ความแตกต่างของเครื่องชงกาแฟเมื่อเทียบกับรุ่นอื่น ๆ คือ สามารถปรับอุณหภูมิของนมได้หลายระดับตามต้องการ ความจุของถังน้ำเครื่องชงกาแฟรุ่นนี้อยู่ที่ 1.5 ลิตร แรงดัน 19 บาร์ วิธีใช้เครื่องชงกาแฟ เครื่องนี้ต้องบอกเลยว่าง่ายมาก ๆ มีทั้งปุ่มกดและหน้าจอระบบสัมผัสใช้งานง่ายมาก ๆ  เพียงใส่แคปซูลกาแฟลงและเลือกเมนูที่ต้องการชงเท่านั้นเอง
•   ส่วนถ้าใครเน้นดื่มกาแฟดำเป็นประจำทุกวันอยู่นั้น ขอแนะนำ เครื่องชงกาแฟแคปซูล ขนาดเล็กน่ารัก ดีไซน์สวยลงตัว รุ่น Essenza Mini มีขนาดกะทัดรัด จะนำไปตั้งอยู่ห้องไหน ๆ ของบ้านก็ช่วยส่งเสริมให้บ้านดูดีมากยิ่งขึ้น วิธีใช้งานตัวเครื่อง ก็ไม่ยากอย่างที่คิด แค่กดปุ่มเลือกเมนูกาแฟดำที่ต้องการชงคือ กาแฟแบบเอสเปรสโซและกาแฟลุงโก เมื่อกดปุ่มแล้ววางแก้วกาแฟ เพียงไม่กี่สิบวินาทีก็จะได้กาแฟสุดหอมกรุ่นออกมาแล้ว ตัวเครื่องทำความร้อนได้เร็ว ถึงน้ำถอดเติมน้ำได้ การเติมน้ำหนึ่งครั้งสามารถทำกาแฟได้ต่อเนื่องหลายแก้ว
เครื่องทำกาแฟสด ของ Nespresso รุ่น Creatista Plus Metal Stainless Steel และเครื่องชงกาแฟรุ่น Essenza Mini ที่แนะนำมาข้างต้น คือตัวช่วยในการชงกาแฟที่จะทำให้คุณลืมการชงกาแฟแบบเดิม ๆ ที่มีหลายขั้นตอนและต้องใช้เวลา ให้คุณสามารถสร้างสรรค์เมนูกาแฟสดอย่างที่คุณต้องการได้ด้วยตัวเอง

189
อุบัติเหตุเป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาและผลที่ตามมาอาจจะความสูญเสียทั้งทางร่างกายและส่งผลกระทบต่อการเงินได้ นั้นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงควรทำประกันที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ชีวิตของตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประกัน pa เราจะมาเจาะลึกถึงความสำคัญของการทำประกันประเภทนี้เพื่อช่วยให้ทุกคนสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปตัดสินใจในการเลือกทำประกันส่วนบุคคลต่อไป

ประกัน pa คืออะไร?
ประกัน pa คือ ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล มีจุดประสงค์เพื่อความคุ้มครองความเสี่ยงทางด้านการเงินในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุจนได้รับบาดเจ็บ ทุพพลภาพ หรือเสียชีวิต โดยประกันอุบัติเหตุมุ่งเน้นไปที่การบรรเทาความเสี่ยงหลังจากอุบัติเหตุเกิดขึ้น ในส่วนของความคุ้มครองประเภทนี้จะให้การชดเชยค่ารักษาพยาบาลและการสูญเสียรายได้จากทุพพลภาพชั่วคราวหรือถาวรที่เกิดจากอุบัติเหตุและช่วยให้ผู้เอาประกันไม่สูญเสียสภาพคล่องทางการเงิน ประกันอุบัติเหตุมีสำหรับทุกช่วงวัยไม่ว่าจะเป็น ประกันอุบัติเหตุเด็ก วัยทำงาน หรือผู้สูงอายุ

ใครบ้างที่ควรทำ ประกันอุบัติเหตุวัยทำงาน
ประกันอุบัติเหตุเหมาะสำหรับทุกสายอาชีพ รวมถึงผู้ที่มีไลฟ์สไตล์ที่ชอบความท้าทาย เช่น
1.   พนักงานที่มีความเสี่ยงสูง เช่น คนงานก่อสร้าง พนักงานฝ่ายผลิต พนักงานขนส่ง ฯลฯ ซึ่งอาชีพเหล่านี้เป็นอาชีพที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุสูงได้ง่ายกว่าอาชีพอื่น ๆ
2.   ผู้ประกอบอาชีพอิสระ (Freelance) ไม่ว่าจะเป็นนักแปลอิสระ ที่ปรึกษา หรือผู้รับจ้างอิสระ ฯลฯ ที่มักไม่มีสวัสดิการที่ควรได้รับเหมือนกับพนักงานประจำ อย่างประกันสังคมหรือประกันชีวิตที่บริษัททำให้ ประกันอุบัติเหตุวัยทำงาน จึงเป็นการลงทุนที่จำเป็นสำหรับผู้ประกอบอาชีพอิสระที่อาจเกิดอุบัติเหตุระหว่างการทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน
3.   นักกีฬา ไม่ว่าจะเป็นนักกีฬาอาชีพหรือชอบเล่นกีฬาที่มีความเสี่ยงสูง เช่น กีฬาผาดโผน การปีนเขา หรือขี่มอเตอร์ไซค์ ประกัน pa จะช่วยลดผลกระทบทางการเงินจากอุบัติเหตุได้

ความแตกต่างระหว่าง ประกันอุบัติเหตุรายวัน และ ประกันอุบัติส่วนบุคคลรายปี
SCB Protect PA เป็นประกันอุบัติเหตุที่ไม่เพียงแต่มีค่าเบี้ยประกันราคาถูกและปรับค่าเบี้ยตามความเหมาะสมของไลฟ์สไตล์แต่ละบุคคล แต่ยังสามารถเลือกระยะเวลาความคุ้มครองได้ด้วยตัวเองตั้งแต่ 60 วัน สูงสุด 365 วัน หรือหนึ่งปี
ประกันอุบัติเหตุรายวัน (PA) เริ่มต้นค่าเบี้ยประกันวันละ 1 บาท ให้ความคุ้มครองครอบคลุมกรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุและการถูกทำร้าย รวมถึงช่วยลดความเสี่ยงทางด้านการเงิน เพราะชดเชยเมื่อผู้เอาประกันสูญเสียรายได้จากการขาดงานเพราะอุบัติเหตุด้วย
ประกันอุบัติส่วนบุคคลรายปี สำหรับคนวัยทำงาน ช่วงอายุ 21 – 60 ปี ให้ความคุ้มครองครอบคลุมตั้งแต่อุบัติเหตุและอาการเจ็บป่วยจากโรคยอดฮิต จึงไม่ต้องกังวลเรื่องการเจ็บป่วยและบาดเจ็บ รวมถึงไม่ต้องห่วงว่าจะสูญเสียรายได้ เพราะชดเชยรายได้จากการขาดงานเนื่องจากต้องรักษาตัวด้วย

ประกันภัยอุบัติเหตุเป็นเครื่องมือคุ้มครองการรักษาพยาบาลและลดปัญหาการเงินกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ ทำให้ผู้เอาประกันไม่ต้องเสี่ยงต่อการแบกรับภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลและสามารถพักรักษาตัวให้หายดีโดยไม่ต้องกังวลว่าจะขาดรายได้

ชมรายละเอียดเพิ่ม
https://online.scbprotect.co.th/personal-accident

190
การล้างหน้าเรียกได้ว่าเป็นด่านแรกของการบำรุงเพื่อผิวสุขภาพดี การเลือกใช้ โฟมล้างเครื่องสำอาง ที่เหมาะกับสภาพผิว ล้างหน้าขจัดสิ่งสกปรกตกค้างบนผิวให้พร้อมต่อการทาครีมบำรุง จึงเป็นสิ่งที่ควรเลือกให้ถูกต้อง เผยผิวหน้าใหม่ที่กระจ่างใสและลดริ้วรอยต่าง ๆ ช่วยให้หน้าอ่อนเยาว์ดูเด็กลงอย่างที่สาว ๆ หลายคนใฝ่ฝัน เรามาดูกันดีกว่าว่าจะเลือกโฟมที่ใช่สำหรับผิวอย่างไรได้บ้าง
เคล็ดลับเลือกโฟมล้างหน้าควรดูจากสภาพผิวเป็นหลัก ดังนี้
1.ผิวมัน
คนที่มีสภาพผิวมันควรเลือกโฟมที่ล้างสิ่งสกปรก ฝุ่นละอองที่เกาะอยู่บนใบหน้า ออกให้หมดจดเพื่อให้ผิวหน้าสะอาดแต่ยังคงมีน้ำมันหล่อเลี้ยงผิวตามธรรมชาติ ไม่ทำร้ายผิวให้อ่อนแอ ไม่ทำให้หน้าแห้งตึงจนขาดความชุ่มชื้น ซ้ำยังกระตุ้นให้รูขุมขนผลิตน้ำมันออกมาทดแทนเป็นสาเหตุให้ผิวหน้ามันยิ่งกว่าเดิม การเลือกโฟมล้างหน้าที่ช่วยล้างความมันจะช่วยให้ลดต้นเหตุของสิวอุดตันได้ดียิ่งขึ้น
2.ผิวผสม
ผิวผสมจะคล้ายกับผิวมันแต่แตกต่างกันเนื่องจากผิวผสมมีความมันช่วงบริเวณทีโซนตั้งแต่หน้าผาก จมูก และคางเป็นผิวมัน ส่วนบริเวณอื่น ๆ มีความแห้งฃ อีกแบบคือบริเวณทีโซนเป็นผิวธรรมดา ช่วงกรอบหน้า ขมับ และรอบดวงตาเป็นผิวแห้งลอกเป็นขุยและหมองคล้ำ แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์แบบเจลล้างหน้าบริเวณทีโซนซ้ำสองรอบ เป็นทริคทำความสะอาดผิวผสมได้ลงตัว
3.ผิวแห้งและผิวแพ้ง่าย
ผิวแห้งต้องเลือกโฟมล้างหน้าอย่างระมัดระวัง ถ้าผิวไม่สกปรกมาก เลือก โฟมล้างหน้าสูตรอ่อนโยน เหมาะสำหรับผิวแห้งและผิวแพ้ง่ายจะดีกว่า โฟมทำความสะอาดใบหน้าอย่างอ่อนโยนและล้ำลึก ทั้งยังป้องกันไม่ให้น้ำมันผิวตามธรรมชาติถูกชะล้างออกไปซึ่งจะส่งผลให้ผิวยิ่งแห้งตึงหลังล้างหน้า
4.ผิวเป็นสิว
สำหรับสาว ๆ ที่เป็นสิวง่ายหรือกำลังเป็นสิวอยู่ แนะนำให้ใช้โฟมล้างหน้าสูตรลดสิวสูตรอ่อนโยน ทำความสะอาดหมดจดทั้งมลภาวะทั้งหลายและสิ่งสกปรกตกค้าง ลดการเกิดสิว ใช้คู่กับเจลลดสิวไปด้วยจะช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างใส ดูสุขภาพดีดังเดิม สลับกับการใช้ โฟมล้างหน้าลดริ้วรอย ช่วยเติมคอลลาเจนและน้ำมันธรรมชาติรักษาความชุ่มชื้น ต้านริ้วรอย และลดอายุผิวหน้าด้วย บอกลาปัญหาสิวซ้ำซากไปได้เลย
5.ผิวแพ้ง่าย
สาวผิวแพ้ง่ายแน่นอนว่าควรเลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้าไม่มีฟองสูตรอ่อนโยน ทำความสะอาดได้ในขั้นตอนเดียวจบ เพราะโฟมล้างหน้าแบบมีฟองทำให้เกิดสารตกค้างบนผิวได้ง่าย หลีกเลี่ยงส่วนผสมแอลกอฮอล์ น้ำหอม พาราเบน กรดอัลฟา และเบต้าไฮดรอกซี (AHAs/BHAs) ที่อาจกระตุ้นให้ผิวเกิดอาการแพ้ได้ง่าย มีคำแนะนำให้ล้างหน้าด้วยน้ำเย็นเป็นขั้นตอนสุดท้ายช่วยให้ผิวระคายเคืองน้อยลง

การล้างหน้าควบคู่กับการบำรุงผิวเป็นขั้นตอนสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพื่อผิวหน้าที่ปราศจากสิว มีความชุ่มชื้นผิวใส สิ่งที่ต้องใส่ใจมาก ๆ คือเลือกซื้อ โฟมล้างเครื่องสำอาง ที่เหมาะกับสภาพผิวของเราเอง หลังล้างหน้าแล้วควรเช็ดผิวด้วยโทนเนอร์ ครีมบำรุงให้ผิวดูชุ่มชื้น ดูแลตัวเองให้ผิวอิ่มเด้ง ดูอ่อนวัยและสุขภาพดี บอกลาปัญหาผิวซ้ำซาก

191
สวยเหมือนดาราเกาหลี ออร่าพุ่ง ใคร ๆ ก็ชอบ และทุกคนก็ได้ทำได้ แค่มีเครื่องสำอางที่ตอบโจทย์การเมคอัพอย่างไรให้สวยเหมือนดารา และฝึกเทคนิคแต่งหน้าแบบ ไฮไลท์คอนทัวร์ บ่อย ๆ ดีไม่ดีอาจได้เข้าวงการ
ไฮไลท์คอนทัวร์ คืออะไร
การไฮไลท์และการคอนทัวร์ เป็นเทคนิคในการแต่งหน้าที่นำเอาวิธีไฮไลท์มาใช้ร่วมกับวิธีคอนทัวร์เพื่อปรับแก้ไขรูปหน้าให้สวยขึ้น การไฮไลท์ใช้สำหรับเน้นใบหน้าให้เด่นขึ้นโดยเฉพาะบริเวณหน้าผาก แก้ม สันจมูก ส่วนการคอนทัวร์ช่วยปรับรูปหน้าที่ใหญ่ ให้ดูเรียวลง และเพิ่มเงาในบางส่วนเพื่อให้ใบหน้ามีมิติ นอกจากนี้ยังมีสไตล์การแต่งหน้าแบบ ไฮไลท์หน้าฉ่ำ อย่างที่เห็นดาราเกาหลีเขาแต่งกัน สาวหน้ามันก็แต่งได้ โดยเลือกใช้ไฮไลต์แบบฝุ่นเนื้อละเอียด บวกกับ Face mist ล็อคเมคอัพ ป้องกันการไหลเยิ้มระหว่างวัน
ไฮไลท์คอนทัวร์ใช้เครื่องสำอางชนิดไหนบ้าง
ถ้าอยากสวยแบบดาราก็มาเตรียมอุปกรณ์กันเลย เครื่องสำอางที่จำเป็นต้องใช้ในการ ไฮไลท์และคอนทัวร์ก็คือ
-   ไฮไลท์ เป็นไอเท็มที่เพิ่มความสว่าง มีหลายเนื้อให้เลือกทั้งแบบฝุ่น แบบครีม แบบน้ำ และแบบมีชิมเมอร์แวววาว
-   ไฮไลท์เนื้อลิควิด ใช้สำหรับการ ไฮไลท์หน้าเงา สไตล์ Glass Skin เป็นเทรนด์การแต่งหน้าสมัยใหม่ที่เห็นบ่อยคือ แต่งหน้าให้ดูเงาใสเหมือนผิวกระจก
-   บรอนเซอร์ มีทั้งแบบผสมชิมเมอร์และเนื้อแมท บรอนเซอร์เป็นไอเทมช่วยให้ผิวสว่างระเรื่อ มีความแก้มแดงนิด ๆ เหมือนผิวบ่มแดดกำลังดี
-   คอนทัวร์ หรือเฉดดิ้งแบบฝุ่น หรือแบบเนื้อครีมก็ได้ เลือกใช้ตามความถนัด
-   ไฮไลท์คอนทัวร์ในเซ็ทเดียวกัน เพื่อความสะดวกในการใช้งาน โดยมาในรูปของตลับที่มีผลิตภัณฑ์สีสว่างสำหรับใช้ไฮไลท์ และสีเข้มสำหรับทำคอนทัวร์ บางยี่ห้อทำออกมาเป็นแบบแท่งมีสองหัว คือหัวสีเข้มและหัวสีสว่าง
-   พาเลทไฮไลท์ มาเป็นเซ็ทมีหลายสีไล่ระดับความเข้มอ่อน เลือกใช้ตามสีผิวที่ต้องการ
เครื่องสำอางที่คุ้นเคยใช้ไฮไลท์คอนทัวร์ได้
นอกจากเครื่องสำอางที่ใช้ไฮไลท์และคอนทัวร์โดยเฉพาะแล้ว ยังสามารถหยิบจับเมคอัพชิ้นเดิม ๆ ที่คุ้นเคยมาใช้เสริมในการแต่งหน้าให้มีมิติได้ด้วย เช่น
-   บลัชออน ยังไงก็ต้องมี หลังจากลง ไฮไลท์คอนทัวร์ แล้วให้ปัดบลัชออนเนื้อแมททับบาง ๆ เพิ่มความเป็นธรรมชาติให้ผิวหน้ามากยิ่งขึ้น
-   อายแชโดว์ สามารถนำมาใช้ทำเฉดดิ้งได้ แต่ต้องเกลี่ยให้เนียน สีที่ใช้ได้คือสีเนื้อกับน้ำตาล ใช้เฉดบริเวณแก้มและจมูก เหมาะใช้กับการแต่งหน้าไปงานกลางคืน
สาว ๆ ที่อยากได้ลุคแต่งหน้าแบบมีมิติ และหน้าฉ่ำวาวแบบสาวเกาหลี อย่าลืมเตรียมเครื่องสำอางบลัชออนชิมเมอร์ให้พร้อม แล้วลงมือแต้มสีสันเพิ่มความสวยให้กับตัวเองกันได้เลย ลุคนี้ยังอินเทรนด์อีกนาน

192
การทำประกันภัยรถยนต์เป็นหนึ่งในเรื่องคนใช้รถจำเป็นต้องศึกษาก่อนทำประกันภัย เพื่อจะสามารถตัดสินใจเลือกได้ตอบโจทย์ความต้องการและสามารถครอบคลุมได้อย่างคุ้มค่า
โดยการทำประกันรถ นอกจากการทำประกันภัยตาม พ.ร.บ. ที่เป็นการบังคับให้รถยนต์ทุกคันต้องทำและให้ความคุ้มครองตามมาตรฐานของกฎหมายแล้ว ยังมีประเภทของการทำประกันภัยภาคสมัครใจที่สามารถเลือกเพิ่มความคุ้มครองให้มากขึ้น
ประกันรถชั้น 1 ทราบกันดีอยู่แล้วว่าให้ความคุ้มครองได้ครอบคลุมมากที่สุด โดยคุ้มครองความเสียหายของตัวรถที่เกิดอุบัติเหตุทั้งจากการเฉี่ยวชนและพลิกคว่ำ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ของ SCB Protect จะดูแลคุ้มครองความเสียหายทั้งหมดไม่ว่ารถคันที่เอาประกันจะเป็นฝ่ายผิดหรือถูก รวมถึงจะมีคู่กรณีหรือไม่ก็ให้ความคุ้มครองทั้งหมด ส่วนผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บทั้งผู้โดยสารในรถคันที่เอาประกันและคู่กรณีก็จะได้รับความคุ้มครองจาก ประกันรถชั้น 1 ด้วย ความคุ้มครองที่ครอบคลุมได้ทั้งหมดทำให้เบี้ย ประกันชั้น 1 สูงที่สุดในบรรดาประเภทของการทำประกันภัยรถยนต์ทั้งหมด จึงเหมาะกับรถใหม่หรือรถที่มีอายุการใช้งานไม่เกิน 5 ปี
ส่วนประกันชั้น 2 และ ประกันรถชั้น 3 เบี้ยประกันลดหลั่นลงมา และเงื่อนไขการให้ความคุ้มครองจากประกันชั้น 2 และ ประกันรถชั้น 3 ก็จะลดตามไปด้วย 
ปัจจุบันพบว่าคนใช้รถส่วนใหญ่ให้ความสนใจทำ ประกันชั้น 3 พลัส ของ SCB Protect เป็นทางเลือกใหม่ของการทำประกันรถที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการได้อีกทางเลือก โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ต้องการแบกรับภาระค่าเบี้ยประกันที่สูงเกินไป โดย ประกันชั้น 3 พลัส มีจุดเด่นและข้อควรพิจารณาดังนี้ 
•   ให้ความคุ้มครองรถคันที่เอาประกันและความเสียหายของรถคู่กรณี
•   คุ้มครองผู้โดยสารในรถคันที่เอาประกันและผู้โดยสารที่อยู่ในรถคู่กรณี
•   ความคุ้มครองจะเกิดขึ้นกับอุบัติเหตุที่มีคู่กรณีเท่านั้น หากเป็นความเสียหายที่เกิดจากการเฉี่ยวชนวัตถุต่าง ๆ หรือเป็นเหตุที่เกิดขึ้นโดยไม่มีคู่กรณีจะไม่ได้รับความคุ้มครองจากประกันประเภทนี้     
•   กรณีอุบัติเหตุที่มีคู่กรณี แต่เกิดปัญหาชนแล้วหนี ไม่สามารถหาหลักฐานได้ จะไม่ได้รับความคุ้มครองจากประกันชั้น 3 พลัส ถือเป็นรูปแบบประกันภัยที่เหมาะกับรถที่มีการใช้งานมานานกว่า 10 ปี โดยประกันแบบ 3 พลัสนี้จะไม่คุ้มครองรถที่จดทะเบียนเพื่อการใช้งานในเชิงพาณิชย์
หากใครสนใจอยากทำประกันภัยรถยนต์ ขอแนะนำ SCB PROTECT ให้คุณเปรียบเทียบเบี้ยประกันภัยรถยนต์ประเภทต่าง ๆ พร้อมศึกษาเงื่อนไขความคุ้มครองเพิ่มเติม รวมถึงซื้อประกันผ่านช่องทางออนไลน์ได้ด้วยตัวเองตลอด 24 ชม. ที่ https://online.scbprotect.co.th/motor/type-1

193
   เหตุผลของการซื้อ เครื่องชงกาแฟแคปซูล มาใช้ที่บ้าน หากพูดตรง ๆ เลยสิ่งที่คอกาแฟคำนึงถึงอย่างแรกคือความสะดวกในการชงกาแฟด้วยตัวเองง่าย ๆ ในเวลาแค่นาทีเดียว ทั้งยังประหยัดค่าใช้จ่ายถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว ส่วนคนที่สนใจเรียนรู้เทคนิคการชงกาแฟหลายแบบจะอาศัย เครื่องชงกาแฟสดอัตโนมัติ เป็นทางลัดช่วยให้ปรุงแต่งรสชาติหรือสร้างลวดลายบนกาแฟสไตล์ลาเต้อาร์ตได้ง่ายกว่าที่คิด มาดูกันว่าเหตุผล 5 ข้อที่ควรซื้อเครื่องชงกาแฟสดติดบ้านไว้มีอะไรบ้าง

1.ชงกาแฟด้วยตัวเองได้ง่ายด้วยระบบชงกาแฟอัตโนมัติ คนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำและทราบกรรมวิธีชงกาแฟให้รสชาติคงที่แบบมืออาชีพไม่ใช่เรื่องง่าย หากเปรียบเทียบกับกาแฟดริปหรือวิธีชงกาแฟแบบดั้งเดิมยิ่งยากขึ้นไปอีก วิธีใช้เครื่องชงกาแฟ สะดวกง่ายดายมาก เพียงกดปุ่มให้ระบบทำงานอัตโนมัติ สนุกกับการชงกาแฟสดได้ดื่มด่ำกับรสชาติอร่อยเข้มข้นได้ในเวลาไม่ถึงนาที
2.ประหยัดค่าใช้จ่าย มี เครื่องชงกาแฟแคปซูล ติดบ้านไว้พร้อมดื่มกาแฟแก้วโปรดได้ทุกวันตามเวลาสะดวก จะดีแค่ไหนที่กดปุ่มชงดื่มได้ทันที มีกาแฟแคปซูลหลายยี่ห้อหลายรสชาติ เช่น Nespresso คัดเลือกกาแฟมา 5 ชนิด มีรสชาติมากถึง 30 แบบให้เลือก สนนราคาเครื่องชงกาแฟอัตโนมัติเครื่องละไม่กี่พันบาท คำนวณแล้วเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่าราคาที่ขายในร้านคาเฟ่ ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปต่อคิวรอในร้าน เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบกาแฟมาก ๆ และดื่มทุกวันหรือวันละหลายแก้ว
3.เครื่องชงกาแฟสดอัตโนมัติ สร้างสรรค์เมนูกาแฟหลากหลายแบบ มีกาแฟแคปซูลให้เลือกชง กาแฟสด หลายเมนู นำมาต่อยอดรังสรรค์กาแฟสูตรอร่อยได้ง่ายขึ้น เครื่องชงกาแฟที่มีฟังก์ชั่นระบบทำฟองนมด้วยก็เป็นข้อดีไม่น้อย เพิ่มความสะดวกในการชงกาแฟสไตล์ลาเต้อาร์ตที่สวยงามและคนรักกาแฟต้องชื่นชอบแน่นอน
4.เปิดร้านกาแฟสดสร้างรายได้ สำหรับคนที่กำลังมองหาช่องทางสร้างรายได้ ในช่วงนี้ร้านกาแฟสดเปิดใหม่เสนอเมนูเครื่องดื่มให้เลือกหลากหลายกำลังเป็นที่นิยม เพราะสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ ถึงจะไม่ใช่บาริสต้ามืออาชีพแต่ วิธีใช้เครื่องชงกาแฟ เป็นระบบอัตโนมัติที่สะดวกง่ายดาย เรียนรู้สูตรกาแฟต่าง ๆ พร้อมกับฝึกฝนปรุงแต่งเมนูแปลกใหม่ไม่เหมือนกันได้ง่ายขึ้น
5.คุณสมบัติของเครื่องชง กาแฟสด มีหลายแบบตั้งแต่ขนาดเล็ก กลาง และใหญ่ ดีไซน์ทันสมัยขนาดกะทัดรัดไม่กินพื้นที่ วางไว้ได้ทุกห้องในบ้าน เป็นอุปกรณ์ใช้งานออฟฟิศ หรือขนาดใหญ่สำหรับใช้งานในร้านกาแฟสด แตกต่างจากเครื่องชงกาแฟรุ่นเก่าที่ใหญ่กินพื้นที่ นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่มีประโยชน์ เช่น ตั้งโปรแกรมการชงได้ มีเครื่องทำฟองนมในตัว มาพร้อมระบบทำความสะอาด ระบบปิดการใช้งานอัตโนมัติ

   หากคุณเป็นนักดื่มกาแฟตัวยง ถือเป็นเครื่องดื่มที่ขาดไม่ได้ การซื้อ เครื่องทํากาแฟแคปซูล ติดบ้านไว้ใช้งานเป็นประจำถือว่าสมเหตุสมผล คุณเองก็ทราบดีว่าชงกาแฟสดอร่อยกว่ากาแฟสำเร็จรูป คุ้มค่าทั้งเรื่องสะดวก ประหยัดเงิน ประหยัดเวลา การบำรุงรักษาก็ไม่ยาก ลองศึกษาดี ๆ ก่อนตัดสินใจเลือกเครื่องคุณภาพดีคุ้มราคา

194
   ประกันสะสมทรัพย์ เป็นการลงทุนทางการเงินที่มีความเสี่ยงต่ำ ได้รับผลตอบแทนแน่นอน พร้อมรับความคุ้มครองชีวิต มีข้อดีคือช่วยให้เราออมเงินได้ตามแผนการเงินที่วางไว้ จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า ประกันออมทรัพย์ เพราะช่วยให้เราออมเงินได้ตามเป้าหมายที่ต้องการ โดยหากผู้ออมเงินมีชีวิตอยู่จนครบสัญญาก็จะได้รับเงินออมพร้อมผลตอบแทน แต่หากเกิดกรณีที่ผู้ออมเงินเสียชีวิตระหว่างสัญญา ผู้รับประโยชน์ก็จะได้เงินก้อนตามสัญญา ถือได้ว่า ประกันสะสมทรัพย์ เป็นการลงทุนที่ได้ทั้งเงินออมและประกันชีวิตในเวลาเดียวกัน
   ข้อดีของ ประกันชีวิตสะสมทรัพย์ หรือ ประกันออมทรัพย์ คือระยะเวลาที่ให้ความคุ้มครองและระยะเวลาการชำระเบี้ยประกันแน่นอน ทำให้วางแผนการเงินง่ายขึ้น ตัวอย่างเช่น Easy E-Save 10/5 จะมีระยะเวลาคุ้มครอง 10 ปีโดยชำระเบี้ยประกันเพียง 5 ปี เป็นต้น
   ประกันสะสมทรัพย์ สามารถนำมาวางแผนทางการเงินเพื่อ วางแผนเกษียณ ได้อย่างดีด้วย ไม่ว่าเราจะเริ่มวางแผนเกษียณในช่วงไหนของชีวิต หากเราเลือกซื้อประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ตอนอายุยังน้อย เมื่อครบสัญญาก็จะได้เงินออมและผลตอบแทนนำไปต่อยอดทางการเงินต่อไป แต่หากเลือกซื้อ ประกันชีวิตสะสมทรัพย์ ของ SCB Protect ก่อนเกษียณไม่นาน เมื่อครบสัญญาก็มั่นใจว่ามีเงินก้อนเพื่อใช้จ่ายหลังเกษียณอย่างแน่นอน
   ค่าใช้จ่ายหลังเกษียณไม่ใช่แค่ค่าอาหารกับที่พัก แต่ยังมีค่าใช้จ่ายภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ รวมไปถึงค่าซ่อมแซมเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า สถานที่ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในบ้าน นอกจากนี้ยังมีค่าดูแลสุขภาพ ค่าเดินทาง หรือค่าสันทนาการ เช่น การพบปะสังสรรค์เพื่อนฝูง หรือการท่องเที่ยวด้วย ดังนั้นการ วางแผนเกษียณ เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้มั่นใจว่าชีวิตจะไม่ลำบากเมื่อไม่มีรายได้ประจำแล้ว เพราะเมื่อเรา วางแผนเกษียณ แล้ว เราจะมีการจัดสรรค่าใช้จ่ายเพื่อนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน และเพื่อการออม ทำให้มองเห็นค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นและสามารถลดหรือตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นนั้นออกเพื่อให้เงินออมตามเป้าหมาย
อย่างไรก็ตาม หากคำนวณแล้วเงินออมเพื่อใช้จ่ายหลังเกษียณยังไม่เพียงพอตามที่ต้องการ เราก็ยังมีเวลาวางแผนเพื่อหาอาชีพหลังเกษียณได้ ยิ่งถ้าเลือกทำ ประกันออมทรัพย์ ฉบับที่ให้ครบสัญญาช่วงเกษียณอายุ เงินคืนและผลตอบแทนหลังครบสัญญาก็สามารถนำมาเป็นเงินทุนเพื่อประกอบอาชีพหลังเกษียณได้ด้วย
   
   เป็นอีกทางเลือกเพื่อชีวิตวัยเกษียณอย่าง ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ ช่วยออมเงินได้ตามกำลังของเรา แต่จำเป็นต้องออมเงินในจำนวนที่เท่า ๆ กันทุกปี พร้อมได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี โดยสามารถนำเบี้ยประกันไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุดปีละ 100,000 บาท นอกจากนี้ผลตอบแทนจาก ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ ยังไม่ต้องเสียภาษีอีกด้วย เลือกทำประกันสะสมทรัพย์ เพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษีในวันนี้ และเพื่อความอุ่นใจในอนาคต

195
ปัจจุบันไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของหลาย ๆ คนได้เปลี่ยนแปลงไป ทำให้คอกาแฟหลายคนมองหาเครื่องชงกาแฟอัตโนมัติที่มีฟังก์ชันการใช้งานและการดูแลรักษาง่าย ๆ เอาไว้ติดบ้านโดยเฉพาะ เพราะทั้งช่วยประหยัดเวลาในการเดินทางไปซื้อกาแฟเมนูโปรด ประหยัดค่าใช้จ่ายในการสั่งเดลิเวอรี่ และสามารถปรุง สูตรชงกาแฟ รสชาติที่ต้องการได้เองในทุกวัน
Nespresso Essenza mini bundle เครื่องชงกาแฟและเครื่องทำฟองนมอัตโนมัติที่มีขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบาและรองรับฟังก์ชันการทำกาแฟ Espresso และ Lungo และฟังก์ชันประหยัดพลังงานโดยจะปิดเครื่องเองอัตโนมัติเมื่อไม่มีการใช้งานใน 9 นาที โดย Nespresso Essenza mini มีแท็งก์บรรจุน้ำได้สูงสุด 600 มล. และรองรับการบรรจุแคปซูลใช้แล้วได้สูงสุด 6 แคปซูล
วิธีการใช้งานเครื่อง Nespresso Essenza mini เหมาะกับมือใหม่ ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด เริ่มด้วยการใส่น้ำสะอาดลงในแท็งก์น้ำและกดปุ่มเปิด Espresso หรือ Lungo เพื่อเปิดเครื่องและรอประมาณ 25 วินาที หรือสังเกตที่ปุ่มป้อนคำสั่งว่ามีไฟกระพริบหรือไม่ หากไฟไม่กระพริบแสดงว่าพร้อมใช้งาน จากนั้นใส่แคปซูลกาแฟลงไปในช่องบรรจุแคปซูลและปิดฝา จัดวางแก้วกาแฟลงบนแท่นวาง ขยับระยะให้พอดีแล้วจึงกดป้อนคำสั่งทำกาแฟด้วยปุ่ม Espresso จะได้กาแฟ 40 มล. หรือถ้าเลือกปุ่ม Lungo จะได้กาแฟ 110 มล. ตามความต้องการ
สูตรชงกาแฟ ที่สามารถทำจาก Nespresso Essenza mini bundle ได้แก่
1.   เมนูโตเกียวมัชชะ ลาเต้ เริ่มต้นเตรียมฟองนมกลิ่นมัชชะด้วยการใส่นมสดร้อน 150 มล. และผงมัชชะ 2 ช้อนโต๊ะ ลงใน bundle และเปิดเครื่องเพื่อผสมผงมัชชะและนมให้เกิดเป็นฟองนมมัชชะที่ต้องการ ต่อมาใส่น้ำผึ้ง 1 – 2 ช้อนเพิ่มความหวานหอม ลงในแก้วกาแฟและนำไปวางบนแท่นวางแก้วของเครื่อง Nespresso Essenza mini จากนั้นใส่แคปซูล World Explorations Tokyo ลงในช่องบรรจุแคปซูลและกดคำสั่ง Lungo โดยก่อนเสิร์ฟ ให้เทฟองนมที่เตรียมไว้ลงไป ตามด้วยงาคั่ว โดยทั้งหมดนี้ใช้เวลาเพียง 2 – 3 นาทีก็ได้เมนูกาแฟ ลาเต้ มัชชะรสชาติเข้มข้นกลมกล่อม
2.   เมนู คาปูชิโน่ เลือกแคปซูลกาแฟรสชาติที่ต้องการ (เราขอแนะนำแคปซูลกาแฟ CAPRICCIO ที่มีความเข้มระดับกลาง ๆ หอมกลิ่นซีเรียล) ใส่ลงในช่องบรรจุกาแฟบริเวณด้านบนของเครื่อง Nespresso Essenza mini จากนั้นนำแก้วกาแฟวางบนแท่นวางแก้วและกดป้อนคำสั่งทำกาแฟเอสเพรสโซ ปรุงรสด้วยน้ำตาลหรือน้ำเชื่อม ต่อมาเตรียมฟองนมด้วยเครื่อง bundle ที่ช่วยให้ได้ฟองนมนุ่มเนื้อละเอียด แล้วนำฟองนมที่ได้ใส่ลงในแก้ว คาปูชิโน่ ของ Nespresso ที่เตรียมเอาไว้และโรยหน้าด้วยผงโกโก้เพื่อความสวยงาม เมนูนี้สามารถเปลี่ยนเป็นเมนูสุดพิเศษได้ด้วยการเติมน้ำเชื่อมรสอัลมอนด์ลงไปในแก้วกาแฟดำแทนน้ำตาลและเพิ่มสารสกัดจากอัลมอนด์ขม ¼ ช้อนชา ลงในนมสดก่อนทำฟองนม เพียงเท่านี้ก็จะได้เมนู ALMOND ORGEAT cappuccino ของ Nespresso สูตรพิเศษที่เราอยากนำเสนอ
เปิดประสบการณ์ใหม่ของการดื่มกาแฟสดด้วย Nespresso Essenza mini ที่ใช้งานง่าย ให้รสชาติกลมกล่อมในทุก ๆ ครั้ง ประหยัดพื้นที่ รองรับการทำเมนูกาแฟดำอย่างอเมริกาโน เมนูกาแฟนมอย่าง กาแฟ cappuccino, latte, มัคคิอาโต้ และอื่น ๆ อย่างง่ายดายในทุกวัน

ชมรายละเอียดเพิ่ม
https://www.nespresso.com/recipes/th/th/16730BOR-borgia-mocha-barista.html

196
   การวางแผนเกษียณยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี นอกจากจะมีเวลาเตรียมตัวในการเก็บเงินได้นานกว่าแล้ว ยังสามารถนำเงินเก็บไปลงทุนเพื่อรับผลตอบแทนในระยะเวลาที่นานกว่าด้วย ยกตัวอย่างเช่น หากเราเริ่มออมเงินตั้งแต่อายุ 25 ปี และต้องการเกษียณอายุ 55 ปี เราจะมีเวลาในการออมเงินและลงทุน 30 ปี แต่หากเราเริ่มออมเงินตอนอายุ 35 ปี เราจะมีเวลาแค่ 20 ปี และหากเรายังไม่วางแผนเกษียณและพอรู้ตัวอีกทีตอนอายุ 45 ปี เราจะมีเวลาเพียงแค่ 10 ปี ยิ่งเริ่มต้น วางแผนเกษียณ ช้าก็ยิ่งต้องออมเงินในแต่ละเดือนให้มากเพื่อให้มั่นใจว่าเรามีเงินพอใช้หลังเกษียณ ในขณะเดียวกัน การเริ่มต้นออมเงินช้าก็จะมีเวลาศึกษาทางเลือกในการออมและทางเลือกในการลงทุนได้น้อยกว่ารวมถึงยอมรับความเสี่ยงได้น้อยกว่าด้วย ดังนั้น การเริ่มต้นวางแผนเกษียณยิ่งเร็วก็ยิ่งมั่นใจว่าชีวิตหลังวัยเกษียณมีเงินพอใช้แน่นอน
   แต่ไม่ว่าคุณจะเพิ่งมาศึกษาวิธีการออมเงินเพื่อวางแผนเกษียณตอนอายุเท่าไหร่ ถ้าคุณต้องการออมเงินที่มีกำหนดระยะเวลาในการออมชัดเจน มีการรับ ประกันเงินออม ว่าได้รับผลตอบแทนแน่นอน และต้องการความคุ้มครองกรณีเสียชีวิตด้วย เรามีทางเลือกในการออมเพื่อวางแผนเกษียณที่รวมเอาเงินออมและประกันชีวิตไว้ด้วยกัน นั่นคือ ประกันสะสมทรัพย์ หรือ ประกันชีวิตสะสมทรัพย์ ของ SCB Protect นั่นเอง
   ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ เป็นการประกันชีวิตที่บริษัทเอาประกันจะจ่ายเงินให้แก่ผู้เอาประกันเมื่อผู้เอาประกันมีชีวิตอยู่เมื่อครบสัญญาหรือจ่ายเงินให้แก่ผู้รับประโยชน์เมื่อผู้เอาประกันเสียชีวิตระหว่างสัญญา
   ลักษณะของการชำระเบี้ยประกันและการให้ความคุ้มครองของประกันชีวิตสะสมทรัพย์จะแสดงเป็นตัวเลขจำนวนปีไว้ ตัวอย่างเช่น Easy E-Save 10/5 ตัวเลข 10 หมายถึงระยะเวลาที่ให้ความคุ้มครองซึ่งหมายถึงอายุของสัญญา ส่วนตัวเลข 5 หมายถึงระยะเวลาที่ชำระเบี้ยประกัน
   ประกันสะสมทรัพย์ เหมาะกับผู้ วางแผนเกษียณ ทุกวัย หากคุณเริ่มออมตั้งแต่อายุยังน้อย เมื่อครบสัญญาก็สามารถนำเงินออมและผลตอบแทนที่ได้รับมาลงทุนใหม่ได้เรื่อย ๆ แต่หากคุณเริ่มออมตอนอายุมากแล้ว ก็มั่นใจได้ว่าหลังเกษียณจะมีเงินก้อนที่สามารถนำมาใช้ได้ หรือหากเสียชีวิตระหว่างสัญญาก็สบายใจที่จะมีเงินเก็บให้ครอบครัว
   ประกันสะสมทรัพย์ ทางเลือกของการออมเงินระยะสั้นที่ได้รับความคุ้มครองระยะยาว นอกจากจะช่วยให้เราออมเงินได้อย่างต่อเนื่องในช่วงระยะเวลาหนึ่งแล้ว ยังเป็นการรับ ประกันเงินออม ว่าได้รับผลตอบแทนแน่นอนไม่ว่าจะมีชีวิตอยู่จนครบสัญญาหรือเสียชีวิตไประหว่างสัญญา
   นอกจากข้อดีของประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ที่เป็นทั้งการออมเงินและการคุ้มครองชีวิตแล้ว ยังมีข้อดีอื่น ๆ อีก ได้แก่ สามารถนำเบี้ยประกันที่ชำระทุกปีใช้ลดหย่อนภาษีได้สูงสุดปีละ 100,000 บาท และผลตอบแทนที่ได้รับไม่ว่าจะเป็นเงินคืนพร้อมผลตอบแทนเมื่อครบสัญญาหรือเงินเอาประกันก็ต้องไม่เสียภาษีด้วย

ชมข้อมูลเพิ่มเติมที่
https://online.scbprotect.co.th/life/saving

197
   พนักงานบริษัทจำนวนไม่น้อยชื่นชอบการดื่มกาแฟตอนทำงานเป็นชีวิตจิตใจ เพราะเครื่องดื่มแก้วนี้เป็นตัวช่วยให้ทำงานมีประสิทธิภาพขึ้น สร้างความตื่นตัวระหว่างวัน บริษัทชั้นนำจำนวนมากจึงมีสวัสดิการเรื่องเครื่องชงกาแฟสำนักงานเอาไว้บริการพนักงาน ดังนั้นวิธีเลือกซื้อ เครื่องชงกาแฟอัตโนมัติ ที่เหมาะทั้งในเรื่องขนาด ประเภท และงบประมาณไว้บริการพนักงานจึงเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญเพื่อที่จะเลือกเครื่องชงกาแฟไว้ใช้งานได้อย่างเหมาะสม
   เครื่องชงกาแฟสำนักงาน ไม่เพียงเป็นเครื่องมือสำหรับพนักงานในการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน สร้างบรรยากาศที่ดีให้กับการทำงานของพนักงานเท่านั้น แต่ยังเป็นภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร เมื่อมีแขกมาเยี่ยมเยือน มาประชุมที่ออฟฟิศ การเสิร์ฟกาแฟสดที่ชงจากเครื่องชงกาแฟที่มีคุณภาพเพื่อรับรองแขกที่มาเยือนช่วยสร้างความประทับใจและความพอใจให้ผู้มาเยือนได้
   เคล็ดลับการเลือกซื้อ เครื่องชงกาแฟสำนักงาน ที่เหมาะกับออฟฟิศของคุณ ขึ้นอยู่กับกับขนาดของบริษัท หรือผู้ใช้งานเครื่องชงกาแฟ
•   บริษัทใหญ่ที่มีจำนวนแขกและพนักงานมาก ควรเลือกซื้อ เครื่องชงกาแฟอัตโนมัติ จะคุ้มค่ากว่า เพราะต้นทุนกาแฟต่อแก้วถูกกว่า แม้ราคาเครื่องจะแพงกว่าเครื่องชงกาแฟแบบแคปซูล แต่เมื่อคำนวณงบประมาณรวมคือราคาเครื่องชงกาแฟและต้นทุนกาแฟต่อแก้ว เป็นต่อหัวของจำนวนแขก/พนักงาน จะประหยัดกว่า
•   บริษัทขนาดกลางและเล็กที่มีจำนวนพนักงานไม่มากนัก เป็นบริษัทที่เน้นไอเดียความคิดสร้างสรรค์ของพนักงาน มีการทำงานที่ยืดหยุ่นในเรื่องเวลา ต้องการมอบสวัสดิการเรื่องนี้ให้กับพนักงานอย่างเต็มที่ เครื่องชงกาแฟสำนักงาน แบบแคปซูลก็ตอบโจทย์ ราคาเครื่องไม่สูง แม้ราคาแคปซูลต่อแก้วจะสูงหน่อย แต่จำนวนพนักงานไม่มาก ทำให้งบประมาณรวมค่ากาแฟแต่ละเดือนอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ ไม่สูงเกินไป
แต่สำหรับบริษัทที่เพิ่งเปิดได้ไม่นาน ต้องการควบคุมงบประมาณค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในช่วงแรกไม่ให้สูงนัก แต่เน้นและต้องการให้ออฟฟิศมีเครื่องชงกาแฟคุณภาพดีไว้บริการแขกและพนักงาน สามารถพิจารณาทางเลือกในการ เช่าเครื่องชงกาแฟสำนักงาน จาก Nespresso แทนได้ โดยไม่ต้องจ่ายด้วยการซื้อ เครื่องชงกาแฟอัตโนมัติ ราคาหลายหมื่น จ่ายเป็นเพียงค่าเช่ารายเดือนหรือรายปี ก็สามารถควบคุมต้นทุนให้ไม่แพงเกินไป การ หาเช่าเครื่องชงกาแฟ สำหรับสำนักงานสามารถทำการเช่าเป็นรายเดือน หรือรายปีก็ได้ สามารถเลิกเช่าเมื่อไหร่ก็ได้ บริษัทฯ ที่ให้เช่าใช้มีการรับประกันเครื่องชงกาแฟหากเสีย หรือต้องซ่อมแซมตามการใช้งานปกติ ค่าซ่อมแซมไม่เป็นภาระกับบริษัท การเลือก เช่าเครื่องชงกาแฟสำนักงาน แบบอัตโนมัติยังมีข้อดีเรื่องความสดและสามารถใช้เมล็ดกาแฟได้หลากหลาย ได้ลองชิมกาแฟรสชาติใหม่ ๆ สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลเรื่องการเช่าเครื่องชงกาแฟสำนักงาน สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ผู้เชี่ยวชาญเนสเพรสโซ่ www.nespresso.com/th

198
ชีวิตเต็มไปด้วยความเสี่ยง แต่จะทำอย่างไรถึงจะสามารถใช้ชีวิตด้วยความสุขปลอดภัย ปราศจากความกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ประกัน pa เป็นหนึ่งในตัวเลือกลำดับต้น ๆ ของคนที่ต้องการใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่และพร้อมที่จะหาความท้าทายใหม่ ๆ แม้ว่าจะได้รับบาดเจ็บจากกิจกรรมที่ทำ คุณก็สามารถอบอุ่นใจได้เสมอเพราะมี ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล ช่วยดูแลในส่วนของค่ารักษาพยาบาล

แนะนำ ประกัน pa จาก SCB Protect
ประกันอุบัติส่วนบุคคลรายปี มีอยู่ด้วยกัน 3 รูปแบบใหญ่ ๆ ดังนี้
1.   ประกันอุบัติเหตุเด็ก เหมาะสำหรับเด็กวัย 1 ขวบเป็นต้นไป ซึ่งเป็นวัยแห่งการเรียนรู้และมีความซุกซนตามธรรมชาติของเด็ก มาพร้อมความคุ้มครองโรคยอดฮิตในหมู่เด็กเล็ก เช่น ไข้หวัด มือเท้าปาก RSV เป็นต้น ด้วยประกันดังกล่าวจะช่วยลดความกังวลจากความซนของเจ้าตัวเล็กได้ โดยเฉพาะเมื่อต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ทาง ประกันอุบัติเหตุเด็ก ของ SCB Protect ยังมีเงินชดเชยให้กับผู้ปกครองที่ขาดงานมาเฝ้าอาการของลูกน้อยให้อีกด้วย
2.   ประกันอุบัติเหตุผู้สูงอายุ เป็น ประกันอุบัติส่วนบุคคลรายปี สำหรับคนสำคัญภายในบ้านที่ต้องการการปกป้องจากอันตรายที่ไม่คาดคิด เช่น การหกล้ม พลัดตกจากที่สูง ด้วยวัยที่แก่ชราทำให้สุขภาพร่างกายถดถอย การทรงตัวเริ่มมีปัญหา ระบบประสาทและกล้ามเนื้อทำงานไม่สัมพันธ์กัน นำมาซึ่งการเกิดอุบัติเหตุได้บ่อยครั้ง จะดีกว่าไหมหากเราทำประกันอุบัติเหตุให้กับผู้สูงวัยในบ้านให้ได้รับความคุ้มครองที่ดี นอกจากท่านจะมีสุขภาพจิตที่ดีและมีความมั่นใจในทุกย่างก้าวแล้ว ตัวเราเองก็ไร้ความกังวลด้วยเช่นกัน
3.   ประกันอุบัติเหตุวัยทำงาน เป็นประกันที่ออกแบบมาให้คนวัยทำงานได้ทำงานด้วยความมั่นใจ ปราศจากความกังวลใด ๆ เมื่อต้องทำงานภายใต้ความเสี่ยง เพราะบางคนเป็นถึงเสาหลักของครอบครัว การมีประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลรายปีไว้จึงช่วยให้เบาใจลงได้ เพราะหากได้รับอุบัติเหตุต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลก็ยังมีเงินชดเชยให้กับผู้เอาประกัน ตลอดจนค่ารักษาพยาบาล ค่าสูญเสียอวัยวะและค่าทำศพเมื่อประสบอุบัติเหตุขั้นร้ายแรง เท่านั้นยังไม่พอยังให้ความคุ้มครองโรคยอดฮิตที่คนวัยทำงานนิยมเป็นกัน ได้แก่ อาหารเป็นพิษ ไข้หวัดใหญ่ ไข้เลือดออก เป็นต้น โดยให้ความคุ้มครองทั้งผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก

ประกันอุบัติเหตุจ่ายเบี้ยเพียงครั้งเดียว แต่ให้ความคุ้มครองตลอดสัญญาที่ทำไว้ บางแผนประกันมีให้เลือกความคุ้มครองระยะสั้น เช่น 60 วัน 90 วัน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการระยะเวลาคุ้มครองไม่นาน สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวเพื่อคลายความกังวลในเรื่องของอุบัติเหตุและค่ารักษาพยาบาล หากสนใจ ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล สามารถดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ SCB Protect ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

199
การทำประกันสุขภาพให้เด็ก วัยทำงาน และผู้สูงวัยในปัจจุบันเป็นที่นิยมอย่างมาก เพราะค่ารักษาพยาบาลที่สูงขึ้นในทุก ๆ ปี จึงควรที่จะพิจารณา เบี้ยประกันสุขภาพ และแผนของกรมธรรม์ให้ครอบคลุมในทุก ๆ ด้าน ทั้งด้านสุขภาพและอุบัติเหตุ โดยเฉพาะลูกน้อยในวัย 0 - 5 ขวบ ที่มักจะป่วยบ่อย ประกอบกับความซุกซนตามวัยที่ทำให่มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย

ประกันเหมาจ่าย แผนความคุ้มครองสำหรับคนทุก ๆ วัย
เป็นที่รู้กันดีว่าประกันสุขภาพส่วนใหญ่จะให้ความคุ้มครองเฉพาะการรักษาในกรณีที่เป็นผู้ป่วยใน หรือ ipd เท่านั้น หากเกิดอุบัติเหตุที่ต้องพักรักษาตัวไม่เกิน 6 ชั่วโมง หรือ opd อาจไม่ให้ความคุ้มครองหรือถ้าคุ้มครองก็ให้ความคุ้มครองในวงเงินที่จำกัด จะต้องซื้อประกันอุบัติเหตุแยกต่างหาก แต่จะดีกว่าไหมหากมีประกันสุขภาพที่ทั้งคุ้มครองในเรื่องของสุขภาพและอุบัติเหตุภายในหนึ่งเดียว
-   ประกันสุขภาพแบบ opd คือ การให้ความคุ้มครองในกรณีเป็นผู้ป่วยนอกที่เข้ารับการรักษาและใช้เวลาไม่เกิน 6 ชั่วโมง เช่น การเกิดอุบัติเหตุที่ได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์แล้วว่าไม่ต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาล หรือด้วยโรคอื่น ๆ เช่น อาการปวดท้อง เป็นไข้ เป็นต้น
-   ประกันสุขภาพแบบ ipd คือ การให้ความคุ้มครองในกรณีที่ผู้ป่วยเข้ารับการรักษาตัวแบบค้างคืนหรือพักรักษาตัวเกิน 6 ชั่วโมง โดยจะให้ความคุ้มครองทั้งค่าห้องพัก ค่าอาหาร ค่าแพทย์-พยาบาล รวมไปถึงค่าผ่าตัด
-   ประกันสุขภาพเหมาจ่าย เป็นการนำเอาประกันสุขภาพ ipd และ opd รวมเข้าด้วยกัน เพื่อตอบโจทย์ความคุ้มครองที่คุ้มค่าสำหรับทุกวัยที่มักจะเจ็บไข้ได้ป่วยบ่อย รวมถึงการให้ความคุ้มครองในเรื่องของอุบัติเหตุ การผ่าตัดขนาดเล็กที่ใช้ระยะเวลาในการรักษาไม่เกิน 6 ชั่วโมง โดยทาง SCB Protect มีให้เลือกความคุ้มครองด้วยกันทั้งหมด 3 แผน
ประกันสุขภาพ อีซี่ เฮลธ์ ท็อปอัป จาก SCB Protect
-   แผนที่ 1 ความคุ้มครอง 500,000 บาท คุ้มครองชีวิต 150,000 บาท เบี้ยประกันสุขภาพต่อปีเริ่มต้น 9,849 บาท (ขึ้นอยู่กับเพศและอายุ)
-   แผนที่ 2 ความคุ้มครอง 1,000,000 บาท คุ้มครองชีวิต 150,000 บาท เบี้ยประกันสุขภาพต่อปีเริ่มต้น 15,583 บาท (ขึ้นอยู่กับเพศและอายุ)
-   แผนที่ 3 ความคุ้มครอง 1,500,000 บาท คุ้มครองชีวิต 150,000 บาท เบี้ยประกันสุขภาพต่อปีเริ่มต้น 20,798 บาท (ขึ้นอยู่กับเพศและอายุ)
ทุกแผนให้ความคุ้มครองทั้งแบบ ipd และ opd แตกต่างกันแค่วงเงินในการรักษาเท่านั้น นอกจากนี้ยังสามารถเสริมแพ็กเกจประกันสุขภาพอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ เช่น เบี้ยประกันสุขภาพ ใช้ในการลดหย่อนภาษีประจำปีได้ ความคุ้มครองโรคร้ายแรงยอดฮิตทั้ง 7 โรค

สำหรับใครที่กำลังมองหาความคุ้มครองเพื่อความอุ่นใจ หากต้องจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพอย่าลืมพิจารณาในส่วนของความคุ้มครองทั้งด้านสุขภาพและอุบัติเหตุ เมื่อเข้ารับการรักษาจะได้ไม่ต้องเป็นกังวลอีกต่อไป

200
การมีผมสวยสุขภาพดีถือว่าส่งผลต่อบุคลิกภาพของเราเป็นอย่างมาก เพราะสุขภาพผมที่ดีสร้างความมั่นใจและช่วยเสริมลุคให้เราดูดี ดังนั้นเราต้องใส่ใจกับการดูแลเส้นผมของเรากันเป็นพิเศษ ลำพังแค่ใช้แชมพูอย่างเดียวคงไม่พอยิ่งถ้าเป็นคนที่ทำเคมีกับผม ควรใช้ผลิตภัณฑ์ บำรุงผม หลังสระด้วย ซึ่งวันนี้เรามีทั้งแชมพูและครีมบำรุงมาแนะนำกันด้วย เป็น 5 ไอเทมที่การันตีเลยว่าใช้แล้วเยี่ยม

1.   ซึบากิ พรีเมี่ยม รีแพร์ มาส์ก เอส
ผลิตภัณฑ์มาส์กบำรุงผมหลังสระชื่อดังจากญี่ปุ่น tsubaki ช่วยบำรุงเส้นผมอย่างล้ำลึกแบบเส้นต่อเส้น เพราะมีสารสกัดจากธรรมชาติหลายตัว เช่น คามิเลียออยล์ โปรตีนไข่มุก และรอยัลเจลลี่ ให้คุณได้บำรุงผมเงางามสุขภาพดีราวกับทำทรีตเมนต์ในซาลอน ผมนุ่มสลวยไม่พันกัน
2.   เทรซาเม่ แชมพู แพลตทินั่มสเตรง
ผลิตภัณฑ์แชมพูที่ช่วยฟื้นฟูปัญหาเส้นผมเสียสะสมกว่า 2 ปี ด้วยเทคโนโลยี Renewing Complex ที่ช่วยคืนความแข็งแรงให้กับเส้นผม พร้อมเป็นเกราะกำบังเส้นผมจากมลภาวะและความร้อน ช่วยให้ผมนุ่มสลวยสุขภาพดี ให้ผมมีน้ำหนัก แถมยังช่วยลดผมขาดหลุดร่วงได้ถึง 98%
3.   ซันซิล คอลลาเจน ฟิลเลอร์ ซุปเปอร์คอนดิชันเนอร์ พาวเวอร์ไชน์
นวัตกรรมใหม่ของ ครีมบํารุงผม จากซันซิลที่นำเอาคอลลาเจนฟิลเลอร์จากผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าและซุปเปอร์ไชน์คอมเพล็กซ์มาช่วยบำรุงเส้นผมให้นุ่มชุ่มชื้น แก้ปัญหาผมแห้งหยาบกระด้างให้นุ่มลื่นขึ้นเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ ให้ผมพลิ้วสลวยจัดทรงง่ายไม่พันกัน
4.   เซนท์ ไอฟ์ รีไวทัลไลซิง แชมพู อโลเวร่า & เอ็กไคนาเซีย
ผลิตภัณฑ์ชมพูสระผมแบรนด์ดังจากอเมริกาอย่าง Stives พิเศษด้วยการผสานเอามอยส์เจอไรเซอร์จากธรรมชาติอย่างว่านหางจระเข้และเอ็กไคนาเซียเอาไว้ด้วยกัน ช่วยบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะให้นุ่มชุ่มชื้น ลดปัญหา หนังหัวแห้ง และรังแค ให้เส้นผมเงางามสลวยไม่ลีบแบบจัดทรงง่าย
5.   ก๊กเลี้ยง คอนดิชั่นเนอร์ แฮร์ ดาร์คเคนนิ่ง แอนด์ ทิคเคนนิ่ง
ครีม บำรุงผม สุดยอดด้วยสารสกัดจากสมุนไพรชั้นเลิศจากโชวูกว่า 10 ชนิด ที่ใช้กันมานานนับศตวรรษ ช่วยบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ ช่วยลดผมขาดร่วง พร้อมกระตุ้นให้ผมงอกใหม่ และยังช่วยลดปัญหาผมหงอกก่อนวัยอันควรด้วย ให้ผมแข็งแรง หนานุ่ม และเงางามขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

ถ้าหากสนใจสามารถเข้าไปช้อปได้ที่วัตสันพร้อมลุ้นรับ โปรโมชั่นวัตสัน เด็ด ๆ โปรโดน ๆ ได้อีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็น โปรวัตสัน 1 แถม 1 ล่าสุด ก็มีโปรประจำเดือนและโปรส่งฟรี รับรองได้ว่าช้อปกันได้แบบจุใจ


ชมรายละเอียดเพิ่ม
https://www.watsons.co.th/th/blog/th/latest-trend/10-อันดับผลิตภัณฑ์บำรุงผ

หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 7