ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - สุดารัตน์

หน้า: 1 [2] 3
51

หากการวางแผนไว้อย่างเดียวแล้วยังทำให้ธุรกิจการค้ายังคงมีปัญหา และหาทางแก้ไขยังไม่ค่อยได้ เราควรปรับเปลี่ยนแผนใหม่ รวมไปถึงปรับกลยุทธ์และติดตามข่าวสารรอบโลก เพื่อรับข้อมูลให้มากขึ้น ศึกษาเรื่องราวใหม่ๆ ที่นำมาปรับใช้ในการดำเนินธุรกิจของเรา ต้องมีความสงสัยและใส่ใจอยู่ตลอดเวลา เพราะเทรนด์ต่างๆนั้นหมุนไปอย่างรวดเร็ว ถ้าเราตามไม่ทันแล้วล่ะก็ เราอาจพลาดกลุ่มลูกค้าและวางแผนด้านการตลาดผิดพลาดเลยก็เป็นไปได้

ถ้าปัญหาเหล่านั้นจะลดน้อยลง หรือแทบจะหมดไป สิ่งที่เราควรมองหาคือ ที่ปรึกษาที่ดี ที่เข้าใจถึงกระบวนการของงานและธุรกิจของเรา รวมไปถึงให้คำแนะนำอย่างตรงไปตรงมาว่ามีส่วนไหนต้องมีการแก้ไข ปรับปรุงให้ดีขึ้น อีกทั้งที่ปรึกษาที่ดีนั้นจะมีความเป็นมืออาชีพสูงและมีประสบการณ์โดยตรง ไม่ว่าจะเป็นให้คำปรึกษาในเรื่องการทำธุรกิจระหว่างประเทศ เพื่อขยายและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ หรือจะทำ patent registration services ที่ทำให้ธุรกิจของเรามีระเบียบแบบแผนมากยิ่งขึ้น จากบทความที่น่าสนใจของเว็บไซต์ swinethailand แชร์ไว้ว่า ธุรกิจยุคใหม่ใครต้องปรับตัว ทุกวันนี้เราได้ยินคำว่า Disrupt หนาหูขึ้นเรื่อย  ๆ ซึ่งจุดเริ่มมันมาจากธุรกิจ Start-Up ของเด็กรุ่นใหม่ ที่ใช้จุดนี้แหละหาช่องโหว่ของตลาด แล้วเปลี่ยนจุดนั้นเป็นโอกาสแจ้งเกิดของธุรกิจ Start-Up ลองดูอย่างธุรกิจแท็กซี่ที่โดน Disrupt ไปเรียบร้อยด้วย Uber และ Grab เพราะอาศัยช่องที่ลูกค้ากับแท็กซี่ไม่โดนกัน แท็กซี่ชอบปฏิเสธลูกค้า Start-Up ก็ตี Pain Point อันนี้เป็นโอกาสธุรกิจได้ทันที ถ้าโอกาสนั้นไม่มีรายใหญ่ครองตลาดอยู่ ยิ่งเกิดง่าย เพราะอย่างแท็กซี่เห็นชัดๆ ว่า ไม่มีรายใหญ่ ..มันต่างกับ ตลาดเช่น ค้าปลีก หรือธุรกิจที่รายใหญ่ครองอันนั้นก็จะเกิดยากขึ้นเป็นทวีคูณ มาดูกันว่าธุรกิจไหนต้องเตรียมปรับตัว 1. ธุรกิจที่ใช้สินทรัพย์เยอะๆ - อนาคตมันจะมีการเช่ามาทดแทน การซื้อและลงทุนในสินทรัพย์ ทำให้ธุรกิจในอนาคตเริ่มง่ายเพราะทุนเริ่มต่ำ แต่เกิดและโตยาก เพราะคู่แข่งเขาก็เริ่มง่ายเหมือนกัน เป็น Low-Barrier to Entry Business 2. ธุรกิจที่พนักงานเยอะๆ - อนาคตธุรกิจจะจ้างคนลดลง แต่ Outsource งานไปให้ผู้เชี่ยวชาญแต่ละด้านทำ เหลือเพียงจุดแข็งที่สุดของธุรกิจ เป็น Business LEGO Model 'ทุกธุรกิจเหมือนตัวต่อ LEGO ที่เชื่อมต่อกัน เปลี่ยนแปลง และปรับเปลี่ยนอย่างยืดหยุ่น รวดเร็ว' 3. ธุรกิจที่มี Fix Cost เยอะๆ จะเปลี่ยนเป็น Variable Cost ต้นทุนผันแปลตามงานที่เข้ามาแทน 4. ธุรกิจที่มีโครงสร้างขนาดใหญ่จะพังลง - ธุรกิจในอนาคตจะทำงานแบบเครือข่าย ทำงานเป็นทีมขนาดเล็ก แถมเป็น Performance Base 'จ่ายตามผลงานจริงๆ' 5. Cloud Base - ธุรกิจในอนาคตจะใช้ระบบ Cloud เพื่อลดต้นทุนการทำธุรกิจ ดังนั้น online จะมาแทนหน้าร้านในฐานะ จุดติดต่อหลัก ส่วนร้านจริงๆ จะเป็นแค่ส่วนเสริม หรือเป็นแค่ Luxury 'หน้าร้านในอนาคต จะเป็นแค่สิ่งฟุ่มเฟือย เพื่อส่งเสริมการตลาดที่ใช้เพียงธุรกิจบางประเภทเท่านั้น เช่น Luxury Brand'





52

ถ้าถามว่า บริเวณส่วนไหนของบ้านที่เราใช้เวลามากที่สุด เชื่อว่าส่วนมากจะต้องตอบว่า ห้องนอน เพราะเราใช้เวลาไม่ต่ำกว่าหกถึงแปดชั่วโมงในการนอนหรือพักผ่อน แต่ถ้าถามว่า ห้องไหนของบ้านที่เราทำกิจกรรมที่มากที่สุด ก็คงไม่พ้น ห้องนั่งเล่น และห้องครัว เพราะห้องนั่งเล่นนั้นเราจะใช้เวลาดูหนัง ดูซีรีส์ ละครที่เราชอบ ส่วนห้องครัวนั้น คนที่รักในการทำอาหารก็คงจะเอ็นจอยในการทำครัว และยังรวมไปถึงคนรักการกิน ที่มักจะแฝงตัวอยู่ที่ห้องครัวเ เนื่องจากมีของกินมากมายนั่นเอง

ห้องครัวแต่ละบ้านนั้นไม่เหมือนกัน เพราะการใช้งานของแต่ละคนนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เนื่องจากบางบ้านจะเน้นการใช้งานของเครื่องครัวให้สอดคล้องกัน ครอบครัวไหนที่ชอบรับประทานอาหารไทย ก็จะมีเครื่องครัวที่ใช้เตรียมอาหาร ไม่ว่าจะเป็นครก ซึ่งถ้าเป็นครัวสไตล์ฝรั่งก็จะใช้เครื่องปั่นแทน แต่รสชาติและรสสัมผัสก็จะแตกต่างโดยสิ้นเชิง นอกจากนี้สิ่งที่เราควรคำนึงถึงต่อมาคือ ฟังก์ชั่นการใช้งานของห้องครัวว่าตอบโจทย์ทุกคนหรือไม่ เช่น หากเราเป็นคนรักความเป็นระเบียบเรียบร้อยและความสะอาด เราควรเลือกอุปกรณ์เครื่องครัวที่ทำความสะอาดและดูแลง่าย และถ้าเรามีสมาชิกในครอบครัวที่เยอะ การเลือกใช้เตาอบขนาดกลางถึงขนาดใหญ่จะช่วยย่นระยะเวลาในการประกอบอาหารได้มากขึ้น เว็บไซต์ thaicontractor ได้แชร์บทความไว้ว่า  เทคนิคจัดโซนครัวง่ายๆ ให้คุณทำเมนูอร่อย จัดวางตำแหน่งเครื่องใช้ครัวต่างๆ คัดอุปกรณ์ทำครัววางไว้เป็นหมวดหมู่ เพื่อความสะดวกในการใช้งาน และการรักษาความสะอาด เพราะหากไม่มีการคัดแยกอาจจะไม่สะดวกในการใช้งาน อายุการใช้งานสั้น และยังไม่มีความปลอดภัยอีกด้วย เช่น เตาไฟฟ้า ตั้งไว้ไม่ไกลจากที่เตรียมอาหาร ไม่วางในที่แคบเพราะจะทำให้ไม่สามารถทำความสะอาดจนเกิดกลิ่นอับได้ และอ่างล้างจาน ควรวางต่อจากโต๊ะเตรียมอาหาร เพราะเวลาจะล้างผัก ล้างอุปกรณ์ต่างๆ จะทำให้การใช้งานง่ายขึ้น เป็นต้น รีโนเวทห้องครัวด้วยการตกแต่งห้องครัวด้วยสี โคมไฟ หรือชั้นวางของ เปลี่ยนสีภายในห้องครัวโดยใช้สีที่ดูสวยงาม เหมาะกับเครื่องใช้ภายในครัว เพิ่มความรู้สึกอยากทำอาหารทั้งโทนร้อนและเย็น สามารถมิกซ์แอนด์แมซ์ หรือเลือกสีใดสีหนึ่งก็ได้ ใส่ลูกเล่นการทำอาหารด้วยการประดับไฟในโซนเตรียมอาหารหรือโต๊ะทานข้าว เวลาถ่ายรูปอัพลงไอจี ภาพจะได้สวยเก๋ ไม่ซ้ำใคร โดยปัจจุบันโคมไฟมีให้เลือกหลายแบบทั้ง ตั้งโต๊ะ แขวน หรือ ติดฝาผนัง สามารถเลือกได้ตามใจชอบเลย ความสะอาด สิ่งนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุดของห้องครัวเลย หากเราใช้อุปกรณ์ทำครัวแล้วไม่ทำความสะอาด ประสิทธิภาพการใช้อุปกรณ์ก็จะน้อยลง แถมอาจจะทำให้เกิดอาการท้องเสียหรืออาหารเป็นพิษได้ นอกจากนี้ หากห้องครัวสกปรก อาจจะเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคจากแมลงสาบ และหนู ที่สามารถเป็นภาหนะนำเชื้อโรคและทำลาย โต๊ะ เก้าอี้ ชั้นวางของอีกด้วย






53

เวลาที่เรารู้สึกเศร้า เสียใจ กังวล และ feel down กับทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัว ทำให้เราอยากจะหลบหนี หนีหายไปที่ๆใดที่หนึ่ง ซึ่งมีความสงบและทำให้จิตใจเราสบายใจขึ้น สิ่งที่เราไว้วางใจ และเชื่อใจ อาจจะไม่ใช่ตัวบุคคลหรือสถานที่ แต่เป็นความรู้สึก ที่เมื่อไรก็ตามที่เรารู้สึกถึงมัน เราจะเหมือนได้รับการเยียวยา ปลดปล่อย และทำให้ใจเรากลับมาเข้มแข็งพร้อมจะเผชิญทุกอุปสรรค ยิ่งไปกว่านั้นหากเรามีคนที่คอยห่วงใย พร้อมที่จะดูแลในเรื่องอาหารการกินที่ทำด้วยใจและเสริ์ฟด้วยความรัก ช่วยเติมพลังงานที่ดีต่อกัน

การส่งพลังงานที่ดีต่อกัน ไม่ใช่แค่สร้างมิตรภาพ แต่สร้างสายใยที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ ความปรารถที่ดีต่อกันที่ส่งผ่าน มันมีพลังอย่างมาก สังเกตได้จากครอบครัวที่รักกันมากๆ เวลาแสดงความรักความห่วงใย ไม่ใช่แค่คำพูด แต่คือการกระทำที่ส่งผ่าน เช่น การทำอาหารจานโปรด ความอร่อยที่ช่วยปลัดเป่าความทุกข์ใจ ความไม่สบายใจ ให้หายไปดั่งราวมีเวทย์มนต์ อย่างการทำอาหารที่หลากหลายและสำหรับสมาชิกในครอบครัวที่มีจำนวนเยอะ การใช้เครื่องครัวอย่างเตาอบ60ลิตรน่าจะเป็นตัวช่วยที่ทำให้การทำอาหารเสร็จได้ไวพร้อมเสริ์ฟให้กับทุกคน นอกจากนี้อาหารที่เหมาะสำหรับการจัดงานเลี้ยงภายในครอบครัว เว็บไซต์ cooking kapook ได้แชร์ไว้ว่า ข้าวผัดปู ส่วนผสม ข้าวผัดปู กระเทียมสับ ไข่เป็ด 2 ฟอง หอมใหญ่หั่นเต๋า กรรเชียงปูม้าแกะสำเร็จ ข้าวสวย (แช่เย็น) ซีอิ๊วขาว ซอสหอยนางรม น้ำตาลทราย ต้นหอมซอย แตงกวา พริกน้ำปลาสามรส (สำหรับเสิร์ฟ) น้ำมันพืช (สำหรับผัด) วิธีทำข้าวผัดปู ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชลงไป พอน้ำมันร้อนใส่กระเทียมลงไปเจียวให้หอม ตอกไข่เป็ดลงไปผัดให้เข้ากัน ตามด้วยหอมใหญ่ และเนื้อปู (แบ่งครึ่งลงไปผัด) ใส่ข้าวเย็นลงไปผัดให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว ซอสหอยนางรม และน้ำตาลทราย จากนั้นใส่เนื้อปูที่เหลือลงไป สุดท้ายโรยต้นหอมลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน ปิดไฟ ตักใส่จาน เสิร์ฟพร้อมแตงกวากับพริกน้ำปลาสามรส ลาบหมูทอด ส่วนผสม ลาบหมูทอด หมูบด แป้งข้าวโพด น้ำปลา พริกป่น มะนาว ข้าวคั่ว ต้นหอม ผักชี หอมแดง ใบมะกรูด วิธีทำลาบหมูทอด เทส่วนผสมทั้งหมดรวมกัน คลุกเคล้าให้เข้ากัน ปั้นเป็นก้อนกลมขนาดก็เล็กหรือใหญ่ตามต้องการ เอาไปทอดจนสุก จะกินกับข้าวเหนียวร้อน ๆ หรือข้าวสวยก็อร่อย เกี๊ยวหมูลวกจิ้ม ส่วนผสม แผ่นเกี๊ยวแบบบาง หมูสับ 450 กรัม น้ำตาลทรายไม่ขัดสี 35 กรัม กระเทียมทุบ 3 กลีบ ซีอิ๊วขาว 35 กรัม ซอสปรุงรส 10 กรัม พริกไทย แป้งมัน 15 กรัม เบกกิ้งโซดา 1/4 ช้อนชา (ไม่ใส่ก็ได้) ไข่ขาว 15 กรัม วิธีทำเกี๊ยวหมูลวกจิ้ม นวดผสมหมูสับ น้ำตาลทราย กระเทียม ซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรส พริกไทย แป้งมัน เบกกิ้งโซดา และไข่ขาว ใช้มือนวดให้เข้ากันหรือใช้เครื่อง Stand Mixer ตีจนเหนียวตามชอบ หมายเหตุ ถ้าไม่ชอบแบบหมูเด้ง ก็ตีพอให้เกาะกัน แต่ถ้าอยากได้แบบหมูเด้งก็ตีไปอีกจนจับตัวเป็นก้อน ยิ่งใส่น้ำแข็งบดลงไปสักนิดก็จะดี เอาแผ่นเกี๊ยวมาห่อไส้หมูสับแล้วนำกลับไปแช่เย็นสักพัก พอให้แผ่นเกี๊ยวกับหมูเกาะตัวกัน นำเกี๊ยวหมูไปลวกประมาณ 5 นาที หรือจนสุก จัดใส่จาน เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มตามชอบ


54

ความรักนั้นคือสิ่งที่เราหลายคนใช้ยึดเหนี่ยวทางจิตใจและความรู้สึกมากที่สุด เหมือนเป็นพลังขับเคลื่อนให้เราได้ทำสิ่งต่างๆอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย ซึ่งเราเห็นได้ชัดเจนเลย นั่นก็คือ ความรักที่บริสุทธิ์ของพ่อแม่ที่มีต่อลูก ที่เสียสละและยอมทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ลูกมีความสุขและคุณภาพชีวิตที่ดี ความรักของเพื่อนที่มีแต่ความหวังดี ความปรารถนาดี ที่แม้ว่าจะห่างไกลกันสักแค่ไหน สิ่งดีๆก็ยังคงอยู่ในความทรงจำเสมอ ความรักของหนุ่มสาวที่แม้ว่าจะมีความแตกต่างทางด้านการใช้ชีวิตและทัศนคติ แต่ก็มีความรักที่เชื่อมประสานสองคนไว้ พร้อมทั้งความให้เกียรติและความไว้ใจ ยิ่งทำให้ความรักและความสัมพันธ์ยิ่งมั่นคงมากขึ้น

ไม่ว่าจะเป็นความรักแบบใด กับเพศไหน หากรักนั้นเกิดขึ้นมาแล้ว สิ่งที่เราควรทำคือ ดูแลฟูมฟักความรักให้เปรียบเสมือนกับการดูแลต้นไม้ ดอกไม้ ที่ต้องมีการบำรุงทั้งน้ำและปุ๋ย แสงแดด เพื่อที่จะให้ต้นไม้ ดอกไม้ เจริญเติบโตอย่างงดงามและแข็งแรง แต่ความรักที่ทรงพลังที่สุดนั้น คือการที่เรารักตัวเองให้เป็น หลายคนอาจจะคิดว่าไม่มีคนรักมากนัก เลยรู้สึกเศร้าและไร้ค่า ซึ่งไม่ใช่เลย เรามีตัวเราอยู่เสมอ และนั่นเป็นรักที่มั่นคงที่สุดที่เราจะมอบให้ตัวเราเองได้ การดูแลสุขภาพโดยการเลือกทานสิ่งที่มีประโยชน์ การดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาท การลดการสูบบุหรี่และหันมาใช้บุหรี่ไฟฟ้าอาจจะเป็นทางเลือกที่มีอันตรายต่อผู้อื่นน้อยลงได้ หากเรากำลังอยู่ในช่วงหัวใจถูกทำร้าย สามารถเริ่มรักตัวเองได้จากหยุดพูดถึงอดีตที่ผิดพลาด อดีตไม่ทำร้ายใคร มีแต่เราเอาอดีตมาทำร้ายตัวเราเองนะ กว่าจะมาเป็นวันนี้ไม่มีใครในโลกที่ไม่เคยก้าวพลาดหรอกเธอ ทุกคนล้วนมีอดีตที่ไม่ดี และมีข้อผิดพลาดกันทั้งนั้น แต่อดีตก็คืออดีต ไม่มีใครย้อนกลับไปแก้ไขอะไรได้ใหม่ได้ เราจึงต้องเก็บความผิดพลาดในวันนั้นมาเป็นบทเรียนให้เราก้าวต่อไปได้อย่างไม่ผิดซ้ำ ทางที่ดีที่สุดคือเพื่อนๆ ต้องหยุดนึกถึงเรื่องเก่าๆ ที่ผ่านมา หยุดโทษทุกความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และสำคัญมากๆ คือการรู้จักให้อภัยตัวเอง หันมาโฟกัสกับปัจจุบัน คิดไว้เสมอว่าเราต้องทำปัจจุบันให้ดีเพื่อที่จะมีอนาคตที่ดีต่อไป โดยที่ไม่ทำผิดซ้ำเหมือนในอดีต ใครจะคิดยังไงกับเราก็ปล่อยเขาไป ยิ้มเข้าไว้ อะไรที่ไม่ดีก็ปล่อยผ่านไป ยิ่งโตขึ้นโลกจะสอนให้เรารู้ว่าใครที่เราควรแคร์ จำไว้ว่าต่อให้เราดีแค่ไหนถ้าเขาจะไม่ชอบให้ทำดีให้ตายเขาก็ไม่ชอบเรา มีคนรักก็ต้องมีคนเกลียด คือความจริงของโลกใบนี้ เราไม่จำเป็นจะต้องใส่ใจกับทุกคำพูดของทุกคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิต อย่าเปลี่ยนแปลงอะไรที่ไม่ใช่ตัวเองเพื่อสายตาคนอื่น ท่องเอาไว้ว่า ใครจะคิดยังไงกับเราก็ช่าง แคร์แค่คนสำคัญในชีวิตเราก็พอ แต่สาวๆ ก็ต้องมั่นใจด้วยว่าการกระทำของเรานั้นคือสิ่งที่ถูกต้อง เราคิดดีทำดีและทำให้เรามีชีวิตที่ดีขึ้น โดยที่ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใคร อย่าเอาความสุขของเราไปฝากไว้ที่ใคร รักใครก็ขอให้รักตัวเองด้วย รักคนอื่นได้แต่ก็อย่าลืมรักตัวเอง จำเอาไว้ว่าความสุขควรเกิดขึ้นจากความรู้สึกของเราเองเท่านั้น อย่าเอามันไปฝากไว้ที่ใคร ถ้าเมื่อไรที่เรารู้สึกว่าเขามีผลกับความรู้สึกของเรามากไปแล้ว ให้ลองถอยออกมาคุยกับตัวเอง อย่าให้ชีวิตของเรา ความรู้สึกของเรา ไปขึ้นอยู่กับใคร





55

หากเราคือพ่อแม่ที่มีลูกเล็กๆ ตั้งแต่เริ่มลืมตาดูโรค สิ่งที่พ่อแม่ควรรู้คือ เมื่อไรก็ตามที่ต้องพาลูกน้อยไปฉีดวัคซีนต่างๆให้ครบ เพราะวัคซีนเด็กสำหรับเด็กทารกนั้น จะสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวเด็กในอนาคตได้ อาการเจ็บป่วยต่างๆรวมไปถึงโรคต่างๆก็สามารถป้องกันได้อย่างเนิ่นๆ แน่นอนว่าความห่วงใยของพ่อแม่เวลาที่คุณหมอลงเข็มเล็กๆจิ้มไปตัวลูก ใจพ่อแม่แทบสลาย เพราะเสียงร้องความเจ็บปวดของลูกน้อย แต่เพื่อความปลอดภัยของลูกในอนาคต พ่อแม่จำต้องข่มใจข่มความกังวลนั้นไว้

เพราะวัยเด็กนั้น คือวัยที่เจริญเติบโตในหลายๆด้าน หน้าที่ของพ่อแม่หลักๆคือ ปกป้องลูกจากอันตรายต่างๆ รวมไปถึงสนับสนุนในสิ่งที่ลูกสนใจ ไม่ว่าจะเป็นการเล่น การเรียนรู้ เพื่อให้เขาได้เรียนรู้ ค้นพบตัวเอง ว่าสิ่งใดคือสิ่งที่เขาต้องการจะทำ ยิ่งไปกว่านั้น พ่อแม่ควรรับฟังและเป็นผู้ฟังที่ดีให้แก่ลูก เพราะการรับฟังอย่างตั้งใจถือเป็นการแสดงออกของความรักอย่างหนึ่ง ทำให้ลูกกล้าที่จะบอกเล่าเรื่องราวและไว้ใจ บทความ HOW TO เลี้ยงลูกอย่างไรให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ จากเว็บไซต์ thaichildrights ได้แชร์ไว้ว่า พูดคุยกับเด็กได้ตั้งแต่อยู่ในท้องเพื่อสร้างสัมพันธ์ การสร้างความผูกพันกับเด็ก โดยมีการสื่อสารกับเด็ก ด้วยการแสดงออกที่ดีมีความรัก ความผูกพันต่อเด็ก จะทำให้เด็กรักและผูกพันตอบเช่นเดียวกันในทางที่ดี ตัวอย่างเช่น แม้แต่เด็กอยู่ในครรภ์ ถ้าอายุครรภ์ 5 เดือน ประสาทหูเริ่มทำงาน แนะนำให้บุคคลแวดล้อมซึ่งไม่ใช่แม่ พูดคุยกับเด็กในท้อง พูดคุยเพื่อให้เด็กคุ้นเคยกับเสียงของคนๆนี้ เพราะโทนเสียงของแต่ละคน จะแสดงถึงความอ่อนโยน ความแข็งกระด้าง ความนิ่มนวล ละมุนละไม จะอยู่ที่ลีลาการพูดการออกเสียง เด็กจะได้เรียนรู้ความสัมพันธ์ที่ดีจากคนที่มาพูดกับเค้าผ่านหน้าท้องของแม่ ตัวแม่เองเค้าก็จะรู้อยู่ตลอดเวลา แม่ท้องหลีกเลี่ยงจาก ชา กาแฟ สุรา บุหรี่ และความเครียด ผู้หญิงเวลาตั้งครรภ์ ควรมีอารมณ์ดีทำตัวเองให้อยู่ในสภาพทางอารมณ์จิตใจที่ดี เพื่อไม่มีผลไปถึงตัวเด็ก ถ้าหากแม่เกิดความเครียดก็จะหลั่งฮอร์โมนความเครียด ไปถึงเด็กในครรภ์ผ่านสายสะดือ อารมณ์เครียดของแม่ที่มีอายุครรภ์ตั้งแต่ 25 วัน อาจก่ออันตรายให้แก่การพัฒนาการของสมอง เพราะอายุครรภ์ 25 วัน เซลล์สมองเริ่มพัฒนาและอาการผิดปกติของเด็ก ADHD (โรคสมาธิสั้น) ออทิสซึม(ภาวะการทำงานของสมองผิดปกติ) เกิดจากช่วงที่ว่านี้ ไม่ได้เกิดจากอารมณ์เครียดของแม่อย่างเดียว เกิดจากแม่ได้รับสารพิษผ่านทางอาหาร อากาศ ทางน้ำ สารที่เป็นพิษภัยต่อสมอง ไม่ว่าจะเป็นสารเสพติด ชา กาแฟ บุหรี่ เหล้า ยากล่อมประสาท ฯลฯ ก็มีผล ตรงนี้เป็นประเด็นที่อาจจะต้องระมัดระวัง คนในครอบครัวแสดงความรัก สัมผัส อุ้มท่าเดียวกับที่แม่ให้นมเด็ก เมื่อเด็กคลอดออกมาแล้ว คนที่ไม่ใช่แม่เวลาไปอุ้มให้นม ควรอุ้มท่าเดียวกับที่แม่ให้นมลูกคือ หน้าอกติดกัน ถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกต่อกันผ่านการสัมผัส





56

หากการตั้งคำถามของเราไม่เคยได้รับคำตอบ หรือหนทางแก้ไข เราอาจจะรู้สึกโดดเดี่ยวและไร้ค่า ทำให้เรารู้สึกดาวน์และไม่เป็นที่รัก เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นได้กับทุกคนบนโลกใบนี้ แต่จะมีกี่คนบ้างที่ฉุกคิดว่า นั่นจะเป็น red flag ว่าสุขภาพจิตของเรากำลังต้องการการรักษาและเยียวยาไม่แพ้โรคทางกายภาพเลยที่สามารถแสดงอาการได้อย่างชัดเจนว่าเรากำลังป่วย เช่น อาการท้องเสีย ปวดหัว ตัวร้อนมีไข้

เพราะการละเลยอาการบ่งชี้ทางสุขภาพจิต เราเลยละเลยสาเหตุและอาการต่างๆที่มีผลต่อสุขภาพจิต ยิ่งถ้าสะสมและมีอาการมาเป็นเวลานานตั้งแต่อายุยังน้อย อาการจะหนักมากๆ ต้องใช้เวลารักษาหลายปี ใครว่าเด็กป่วยทางสุขภาพจิตไม่ได้ เด็กนั้นจะได้รับสารและความรุนแรงเร็วมากหากเกิดเรื่องราวต่างๆในครอบครัว พ่อแม่ที่แสดงความรุนแรงต่อกัน ทะเลาะเบาะแว้งกันเสมอ การดูแลสุขภาพจิตเบื้องต้นคือ มองหาสิ่งที่เราทำแล้วมีความสุข ไม่ว่าจะเป็นกีฬา งานอดิเรก หรือแม้กระทั่งการเล่นเกมส์เอง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้เราผ่อนคลายได้ แม้กระทั่งการเขียนเว็บไซต์ ที่มีการใช้โคดต่างๆ ทั้ง HTML หรือคีย์เวิร์ดต่างๆที่ช่วยให้เว็บไซต์ได้รับการจดจำผ่านทางเว็บสืบค้นซึ่งอาจจะมีการรับทำ SEO สายเทาหรือสายสีขาว ที่มีหลายเว็บไซต์ใช้บริการอยู่ เพราะทำให้เว็บไซต์นั้นอยู่ในหน้าแรกๆของการสืบค้นและสร้าง traffic เข้าเว็บไซต์ได้เพิ่มอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น การเดินทางไปยังสถานที่ใหม่ๆ ก็ทำให้เรามีมุมมองใหม่ๆ และทำให้ปัญหาด้านสุขภาพจิตของเราดีขึ้นอีกด้วย การได้อยู่กับธรรมชาติจะช่วยเยียวยา เว็บไซต์ kbkj clinic ได้แชร์บทความเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพจิตไว้อย่างน่าสนใจว่า เริ่มต้นรักษาสุขภาพใจ ด้วยการรักษาสุขภาพกาย การดูแลสุขภาพจิต อาจเริ่มต้นจากการทำร่างกายให้แข็งแรง ไม่ว่าจะโดยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อวัน ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ การไม่มีโรคประจำตัว หรืออาการป่วยที่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการมีสุขภาพจิตที่ดี ลดหรืองดการเสพสื่อที่อาจสร้างความกังวลและบั่นทอนจิตใจ การรับรู้ข่าวสาร และอัปเดตเรื่องราวในชีวิตประจำวันเป็นเรื่องที่ดี แต่หากเราใช้เวลากับสื่อต่าง ๆ มากเกินไป และรับแต่เนื้อหาเชิงลบ หรือเนื้อหาที่ทำให้เกิดความไม่สบายใจ ก็อาจส่งผลให้เรารู้สึกเครียดมากขึ้น ดังนั้น หากรู้สึกว่าตัวเองเริ่มมีอาการเครียด การลดเวลาการใช้โซเชียลมีเดีย หรือรับสื่อต่าง ๆ อาจช่วยให้สุขภาพจิตดีขึ้นไม่มากก็น้อย พูดคุยถึงปัญหาและเรื่องราวต่าง ๆ กับคนในครอบครัว เพื่อนสนิท หรือคนรัก หากเรามีปัญหา หรือความเครียดสะสมในใจ การได้ระบายออกมา อาจสามารถช่วยคลายความกังวลหรือความเครียดลงได้บ้าง และเราอาจได้รับข้อคิด หรือความคิดดี ๆ จากคนรอบตัวอีกด้วย




57

เมื่อการทำธุรกิจการค้าขายไม่ได้เป็นไปอย่างที่เราตั้งเป้าหมายและตามแพลน เราอาจจะต้องขาดทุนหรือเสียเวลาไปกับการแก้ไขปัญหาต่างๆ ซึ่งปัญหาเหล่านั้นก็จะสร้างความเครียดและความกังวลใจให้เราเป็นอย่างมาก อีกทั้งอุปสรรคต่างๆที่ตามมาอีก ไม่ว่าจะเป็นคู่แข่งทางการค้า การจัดส่งสินค้าและการให้บริการที่ไม่เป็นที่พึงพอใจให้แก่ลูกค้า ที่เราต้องรีบแก้ไขไม่ให้สิ่งเหล่านี้มีผลเสียต่อธุรกิจของเรา เพราะอาจมีผลต่อภาพลักษณ์แบรนด์ได้ กว่าจะสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักนั้นใช้เวลาค่อนข้างนาน แต่ถ้ามีภาพลักษณ์ในทางลบแล้วล่ะก็ จะต้องใช้สื่อมีเดียต่างๆเพื่อกู้ภาพลักษณ์กลับคืนมา

เนื่องจากปัญหาและอุปสรรคคต่างๆที่อาจเกิดได้อย่างไม่คาดคิด เราจึงต้องเตรียมตัวอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาระบบต่างๆที่นำเทคโนโลยีมาใช้แก้ปัญหาได้อย่างทันท่วงที เช่น หากเราต้องส่งสินค้าให้กับลูกค้าทั่วประเทศหรือทั่วโลก เราจะเป็นจะต้องมี code หรือ รหัส และระบบที่ track สินค้าได้ทุกอย่าง แม้ว่าจะตกหล่นอยู่ที่ไหน เราจะต้องมีคำตอบให้แก่ลูกค้าของเราได้ หากธุรกิจของเราเป็นงานบริการ เราก็จะต้องสามารถให้บริการได้อย่างพึงพอใจและสร้างความประทับใจ หากมีปัญหาใดๆเกิดขึ้นเราจะต้องรีบเสนอ complimentary ให้ลูกค้าทันที เป็นต้น และถ้าในเรื่องธุรกิจที่มี details มากมาย การเลือกที่ปรึกษาที่ดีที่สามารถดูแลได้อย่างครอบคลุมรวมไปถึงการทำ intellectual property Thailand ที่จะสามารถนำมาใช้ได้ในอนาคต และเว็บไซต์ businessplus ได้แชร์บทความที่น่าสนใจไว้ว่า วิธีรับมือกับปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ในชีวิต ยอมรับความจริง ชีวิตของคนทุกคนไม่สามารถหลีกหนีจากความทุกข์ได้ มีความสุขก็ต้องมีความทุกข์เป็นของคู่กัน สิ่งที่เราทำได้คือการยอมรับการมีอยู่ของความทุกข์นั้น หาทางแก้ไข แล้วก้าวผ่านมันไปให้ได้ ยิ้มให้กับตัวเอง ต่อให้รอบตัวคุณไม่มีใครให้พึ่งพิง แต่คุณก็ยังมี "ตัวคุณเอง" ที่สามารถเติมพลังและกําลังใจให้ตัวของคุณเองได้ พูดกับตัวเองว่า “มันคงดีที่สุดแล้ว" ก่อนที่จะลืมตาขึ้น ยิ้มให้ตัวเอง และก้าวเดินต่อไป มองหาต้นเหตุของปัญหา ทุกปัญหาย่อมต้องมี "ต้นเหตุ" มองหาต้นเหตุนั้นให้เจอ หากแก้ไขได้ก็จงพยายามแก้ไข หากมันยากเกินกว่าที่จะทำได้ ก็ทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อที่ตัวเราจะได้ไม่ต้องมาเสียดายภายหลัง จงรีบเป็นอิสระจากความเศร้า อย่าให้ความเศร้าครอบครองชีวิตของเรานานเกินไป รีบดึงจิตใจของเราให้ขึ้นมาจากความทุกข์ใจ หากิจกรรมสนุกๆ ที่เราชอบทำ พบปะเพื่อนฝูง หาประสบการณ์ใหม่ๆ ก็จะช่วยผ่อนคลายจิตใจให้คุณได้ มองแง่บวก สร้างภูมิต้านทานให้ ตนเอง หากเรามองในแง่บวก ว่าเรื่องแย่ๆ ที่เกิดขึ้นจะทำให้เราเติบโตขึ้น แข็งแกร่งขึ้น มีภูมิต้านทานมากขึ้น จงเรียนรู้จากเรื่องแย่ๆ เหล่านั้น สร้างภูมิต้านทานให้ตัวเราเอง และก้าวต่อไปอย่างเข้มแข็ง

58

การเป็นคุณแม่ คือ หน้าที่อันยิ่งใหญ่ ที่ต้องให้กำเนิดลูก และเลี้ยงดูลูกให้เติบโตมาอย่างมีสุขภาพดีและมีคุณภาพ เวลาแทบจะตลอด 24 ชั่วโมงที่แม่ต้องคอยดูแลอีกทั้งในช่วงเวลาตั้งครรภ์ต้องคอยระมัดระวังทุกอย่าง กล่าวได้ว่า เมื่อใดก็ตามที่เรารู้ว่าตัวเองกำลังจะเป็นแม่คน เมื่อนี้ชีวิตและการดำเนินชีวิตเราไม่เหมือนเดิมแล้ว อาหารการกิน การนอนให้เพียงพอ รวมไปถึงขนมหวาน ผลไม้ต่างๆที่เราเคยชอบ เราอาจจะต้องหักห้ามใจ เพราะอาจจะส่งผลต่อลูกน้อยในครรภ์ได้ เพราะโรคที่มาพร้อมกับการตั้งครรภ์นั้นก็มีเยอะเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเบาหวาน ถ้าคุณแม่ไม่ควบคุมน้ำตาล

หลังจากดูแลทารกในท้องมาตลอดเก้าเดือนอย่างดี พอหลังคลอดอาจจะต้องเผชิญปัญหาโรคซึมเศร้าได้ ซึ่งอาจเกิดได้ค่อนข้างมาก เพราะมีทั้งความเครียดสะสม ไหนจะเรื่องที่เราคิดมากใน การเลี้ยงเด็กทารก อีกทั้งน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมาระหว่างการตั้งครรภ์ หุ่นและรูปร่างที่เปลี่ยนแปลงไปมาก และปัญหาน้ำนมที่อาจไม่เพียงพอ จนกระทั่งถึงความหย่อนคล้อยของหน้าอกหลังจากให้นมบุตร เรื่องนี้สามารถแก้ไขได้โดยการทำศัลยกรรมหน้าอก เช่นการยกกระชับทรวงอก ที่สามารถเห็นผลได้ทันทีและลดความกังวลในเรื่องนี้สำหรับคุณแม่ๆได้อย่างมาก อย่าลืมว่าถึงแม้เราจะมีบทบาทเพิ่มมากขึ้น นั่นคือการเป็นแม่ แต่เราก็ยังต้องการที่จะดูดีและมีความสุขในแบบของเรา ยิ่งไปกว่านั้นเราสามารถนำเคล็ดลับต่างๆมาใช้เพื่อให้ได้เป้าหมายที่ต้องการ และการดูแลตัวเองในช่วงหลังคลอดนั้นเป็นสิ่งจำเป็น เว็บไซต์สนุกดอทคอม ได้แชร์ว่า เริ่มจากการพักผ่อนให้ได้มากที่สุด ถึงแม้ว่าเราจะรู้สึกไม่เจ็บปวดมากเท่าไรภายหลังจากคลอดแล้ว และรู้สึกว่าตัวเองแข็งแรงดี แต่ก็ต้องพักผ่อนให้มากที่สุดภายในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังคลอด เพื่อเป็นการฟื้นฟูกล้ามเนื้อและมดลูกให้กลับมาอยู่ในสภาพปกติได้ไวที่สุด ดูแลแผลผ่าตัด ไม่ว่าจะคลอดด้วยการคลอดธรรมชาติ หรือจะคลอดด้วยการผ่าตัดก็ต้องมีแผลเย็บทั้งนั้น คุณแม่จึงควรให้ความสนใจและรักษาความสะอาดเป็นพิเศษ เพื่อจะได้ไม่มีอาการอักเสบและติดเชื้อจนทำให้แผลหายช้าลง อาบน้ำรักษาความสะอาด หลังการทำคลอดเสร็จเรียบร้อยแล้ว 12-14 ชั่วโมง คุณแม่สามารถอาบน้ำเพื่อชำระล้างความสะอาดได้เลย ยิ่งถ้าคุณแม่มีน้ำนมไหลออกมาจำนวนมาก ก็ขอให้เปลี่ยนเสื้อชั้นในบ่อย ๆ ใช้แผ่นซับน้ำนม หรือจะใช้เครื่องปั๊มน้ำนมปั๊มเก็บไว้เลยก็ดีไม่แพ้กัน รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ก็เข้าใจดีว่าคุณแม่บางคนอาจจะรู้สึกอยากกินอะไรหลาย ๆ อย่างที่ต้องงดไปช่วงที่ตั้งครรภ์อยู่ เมื่อคลอดแล้วก็อยากจะกินให้เต็มที่ แต่ถึงอย่างไรก็ต้องทานอาหารที่มีประโยชน์ งดอาหารรสจัด ของหมักดอง และแอลกอฮอล์ทุกชนิดไปก่อนเพื่อป้องกันปัญหาโรคท้องผูก เต้านมและหัวนมต้องสะอาด เพราะน้ำนมจะต้องหลั่งตลอดเวลา และลูกน้อยก็จะต้องดื่มน้ำนมจากเต้านมของคุณ เพราะฉะนั้นคุณแม่จึงควรทำความสะอาดอย่างพิถีพิถันสักนิด วิธีที่ดีที่สุดก็คือเอาสำลีชุบน้ำอุ่นเช็ดรอบเต้านมและรอบหัวนมให้สะอาดก่อนให้นมลูกทุกครั้ง ห้ามลืมการตรวจร่างกาย ปกติเมื่อคุณแม่คลอดลูกแล้ว 1 เดือน คุณหมอจะนัดให้ไปตรวจร่างกายเพื่อดูว่ามีสิ่งผิดปกติหรือไม่ ระบบต่าง ๆ ของร่างกายกลับคืนสู่สภาพเดิมหรือยัง รวมทั้งตรวจหามะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูกด้วย เพราะฉะนั้นห้ามลืมเป็นอันขาด




59

หากความคิดเห็นที่ว่า อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ และเราไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่า เราจะได้รับอุบัติเหตุนั้นได้เมื่อไร และความเสียหายนั้นจะมีมากน้อยเพียงใด และคำว่าอุบัติเหตุก็มีความหมายในเชิงที่ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิดมาก่อน คนจำนวนมากเลยสับสนว่า ความประมาท ไม่ระมัดระวังและขาดความยับยั้งชั่งใจในการทำสิ่งผิดรวมกันว่าเป็นอุบัติเหตุ ซึ่งอันที่จริงแล้วการละเลยเหล่านั้นต่างเป็นการขาดความรับผิดชอบต่อทั้งทรัพย์สินและชีวิตของผู้อื่น และเราสามารถป้องกันสิ่งเหล่านั้นไม่ให้เกิดขึ้นได้

มันไม่ใช่เรื่องที่เกินขีดความสามารถหรือการควบคุม หากเราจะเข้มงวดกวดขันในเรื่องวินัยการใช้รถใช้ถนน เพื่อให้ลดการเกิดความเสียหายได้ ไม่ว่าจะเป็นการขับรถชน ซึ่งเกิดได้แทบจะทุกนาที เพราะความปลอดภัยควรมาเป็นอันดับแรกสำหรับทุกคน และหากเกิดเหตุการณ์ที่อันตรายถึงชีวิต แม้จะเป็นแค่เพียงเสี้ยวนาที ก็สามารถกู้ชีพคืนได้ เราจะสังเกตได้จากที่มีการปฐมพยาบาลโดยใช้เครื่องกระตุกหัวใจหรือเครื่องaed ในกรณีที่หาชีพจรไม่เจอและต้องการกู้ชีพขั้นต้นก่อนถึงมือแพทย์ ถ้าหากเราใช้ถนนที่ต้องขับไปบริเวณที่มีทางรถไฟ สิ่งที่เราควรใส่ใจเบื้องต้นคือ ข้อควรระวังต่างๆ และต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ซึ่งเว็บไซต์ travel kapok ได้แชร์บทความไว้ว่า วิธีปฏิบัติเพื่อความปลอดภัย เมื่อใช้ถนนผ่านเสมอระดับทางรถไฟ สังเกตป้ายสัญลักษณ์ หรือลูกคลื่นบนพื้นผิวถนน ก่อนข้ามถนนผ่านเสมอระดับทางรถไฟ สังเกตป้ายสัญลักษณ์ หรือ ลูกคลื่นบนพื้นผิวถนน เพื่อชะลอความเร็วให้ดี ๆ เพราะนั่นเป็นสัญญาณบอกให้ผู้ขับขี่รู้ว่า ข้างหน้ามีจุดตัดทางรถไฟ โดยทั้งป้ายสัญลักษณ์และลูกคลื่นชะลอความเร็ว ทางรถไฟได้ดำเนินการจัดทำมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีทั้งหมดมากกว่า 2,000 จุดทั่วประเทศ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าสามารถป้องกันอุบัติเหตุได้ 100% ทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้รถใช้ถนนของผู้ขับขี่ร่วมด้วยเช่นกัน ห้ามขับแซงรถอื่น ในระยะ 30 เมตร ก่อนถึงทางรถไฟ ผู้ขับขี่ทุกคนไม่ควรเอาตัวเองไปตกอยู่ในความประมาท อย่าคิดว่าสามารถขับแซงรถคันข้างหน้าในระยะเท่านั้นเท่านี้เมตรได้สบาย เพราะแซงบนถนนปกติ กับแซงใกล้กับบริเวณทางรถไฟ ความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุย่อมแตกต่างกัน แนะนำว่าให้ขับขี่ตามกฎจราจรตามปกติ น่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด ก่อนข้ามถนนผ่านเสมอระดับทางรถไฟ ให้ชะลอความเร็ว และพร้อมหยุดรถได้ทันทีที่มีสัญญาณเตือน สังเกตให้ดีว่าถนนผ่านเสมอระดับทางรถไฟที่ผ่านมีเครื่องหมายระวังรถไฟหรือไม่ ในกรณีที่ทางรถไฟนั้นไม่มีสัญญาณระวังรถไฟหรือสิ่งปิดกั้น ผู้ขับขี่ต้องลดความเร็วและหยุดรถห่างจากทางรถไฟในระยะไม่น้อยกว่า 5 เมตร เมื่อเห็นว่าปลอดภัยแล้วจึงจะขับรถผ่านไปได้ หากมีสัญญาณเตือน หรือแผงกั้นทางรถไฟปิดลงมา ให้หยุดรถห่างจากทางรถไฟอย่างน้อย 5 เมตร กรณีที่มีสิ่งปิดกั้นหรือมีเจ้าหน้าที่ให้สัญญาณ แสดงว่ารถไฟกำลังแล่นผ่านเข้ามาใกล้ ผู้ขับขี่จึงจำเป็นที่จะต้องลดความเร็วหรือหยุดรถให้ห่างจากทางรถไฟอย่างน้อย 5 เมตรเช่นกัน และเมื่อรถไฟผ่านไปแล้ว และมีเครื่องหมายหรือสัญญาณให้รถผ่านได้ ผู้ขับขี่จึงค่อยขับต่อไป





60

เราอาจจะเคยสังเกตตัวเองและคนรอบข้างอยู่บ่อยครั้ง ที่เมื่อใดก็ตามที่เราปล่อนให้ตัวเองมีสิ่งสกปรกปนเปื้อนลงในเสื้อผ้าหรือแม้กระทั่งในน้ำหรืออาหาร หลังจากนั้นไม่นานร่างกายเราจะตอบสนองต่อสิ่งปนเปื้อนเหล่านั้น ทำให้เราเกิดอาการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นท้องเสีย อาเจียน หรือแม้กระทั่งป่วยมีไข้ ซึ่งบ่งบอกได้ว่าความสกปรกเหล่านั้นเป็นสาเหตุที่ทำให้เราป่วย ยิ่งไปกว่านั้นเชื้อโรคที่อยู่ในความสกปรก ไม่ว่าจะมากับฝุ่น มลภาวะในอากาศ หรือเชื้อโรคที่อันตรายต่างๆ จะยิ่งทำให้ร่างกายเราอ่อนแอและภูมิคุ้มกันร่างกายอาจจะต้องทำงานหนักเพราะต่อสู้กับเชื้อโรค การป้องกันเบื้องต้นเราอาจจะใช้ถุงมือทางการแพทย์ที่มีความปลอดภัยขั้นสูง เมื่อเราต้องใช้มือสัมผัสกับสิ่งที่ต้องผ่านเชื้อโรคมากมาย

เราจะต้องดูแลร่างกายอย่างไรเมื่อเรารู้ตัวว่า เราอาจรับเชื้อโรคเหล่านั้นเข้าสู่ร่างกาย สิ่งแรกคือตั้งสติ และไปพบแพทย์เพื่อรับยาและอาหารเสริมมาเพื่อช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย และแน่นอนว่าการเสริมด้วยการออกกำลังกายและสารอาหารที่มีคุณประโยชน์สูงส่งผลต่อร่างกายได้ในระยะยาวและยั่งยืนอย่างมาก เว็บไซต์ sanook health ได้แชร์บทความเกี่ยวกับเปอร์ฟู้ด" อาหารดีมีประโยชน์ เพื่อเทรนด์ใหม่สำหรับคนไทยรักสุขภาพ ซึ่งมีใจความสำคัญว่า เกิดการคิดค้นเทรนด์นวัตกรรมการปรุงอาหารเพื่อสุขภาพโดยเชฟนักวิทยาศาสตร์การปรุงอาหารขึ้น เพื่อผลิตอาหารสุขภาพตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมือง เพราะอาหารคือจุดเริ่มต้นสำคัญที่คนเราสามารถเลือกได้ในการดูแลตัวเองให้มีสุขภาพดี เช่น น้ำนมจากพืช นวัตกรรมทางเลือกใหม่ของการดื่มนม “น้ำนมพืช” ชื่อนี้อาจจะคุ้นหูของใครหลายๆ คน ซึ่งน้ำนมพืชจะมาในรูปแบบของ น้ำนมอัลมอนด์ (Almond Milk) น้ำนมข้าว (Rice Milk) น้ำนมผสมเครื่องเทศ (Golden Milk) น้ำนมข้าวโอ๊ต (Oat Milk) หรือโยเกิร์ตจากน้ำนมพืช (Plant-Based Yogurts) โดยน้ำนมจากพืชจะให้โปรตีนแทนน้ำนมจากสัตว์และปราศจากน้ำตาลแลกโตส ทำให้ลดปริมาณกรดไขมันอิ่มตัวและการบริโภคสารพิษที่ติดมากับสัตว์ได้ น้ำนมจากพืชมีโปรตีนและคุณค่าทางโภชนาการสูง นอกจากนี้น้ำนมจากพืชยังช่วยลดระดับคลอเรสเตอรอล โรคท้องผูก บำรุงระบบย่อยอาหาร และปกป้องหัวใจ อีกทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระและเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง อย่างไรก็ตาม น้ำนมจากพืชนั้นอาจจะไม่เหมาะกับการให้เด็กวัยกำลังเจริญเติบโตดื่มเนื่องจากยังขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตบางชนิด แต่สำหรับคนเมืองวัยทำงานสามารถเลือกบริโภคน้ำนมจากพืชเป็นทางเลือกใหม่ในการดูแลสุขภาพได้อย่างปลอดภัย โปรตีนฟิวชัน ทดแทนโปรตีนจากสัตว์ใหญ่ โปรตีนเป็นสารอาหารที่สำคัญในการสร้างและซ่อมแซมเนื้อเยื่อส่วนที่สึกหรอของร่างกาย รวมทั้งยังเป็นหนึ่งในสารอาหารสำคัญสำหรับการสร้างสมดุลของเอนไซม์ ฮอร์โมน และสารเคมีในร่างกายของเรา แต่ปัจจุบันพบว่าโปรตีนจากสัตว์ใหญ่ที่เป็นแหล่งที่มาหลักของโปรตีนที่ใช้บริโภคในปัจจุบันมีการปนเปื้อนสารพิษและยาปฏิชีวนะสูง โปรตีนฟิวชันถึงถูกคิดค้นขึ้นเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรักสุขภาพซึ่งได้แก่ โปรตีนจากพืช โปรตีนจากแมลง หรือโปรตีนจากถั่ว เป็นต้น





61

ในโลกสมัยใหม่ที่เทคโนโลยีต่างๆเข้ามาใหม่ๆได้แทบจะทุกนาที สิ่งที่เราควรตามให้ทันไม่ใช่แค่เทคโนโลยี แต่การรู้เท่าทันเทคโนโลยีมากกว่า เนื่องจากเรามีการคิดวิเคราะห์และการสืบหาข้อมูลเพื่อหาข้อเท็จจริง แต่ถ้าเป็นเด็กในวัยเล็กที่สามารถเข้าสู่สมาร์ทโฟนและแอพพลิเคชั่นต่างๆในแทบเล็ตได้ แม้ว่าผู้ปกครองจะใช้การปิดกั้นการเข้าสู่เว็บไซต์ที่อันตรายและสุ่มเสี่ยง แต่ก็ไม่สามารถป้องกันปัญหาในส่วนนี้ได้ทั้งหมด สิ่งที่พ่อแม่ควรทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งนั่นก็คือ การพูดคุยและการปลูกฝังให้เด็กได้มีอิสระในการเรียนรู้อย่าง Global Citizen

ไม่ใช่แค่การเป็นพลเมืองของประเทศ แต่พลเมืองโลก คือ การตระหนักรู้ถึงความรับผิดชอบต่อโลกใบนี้ที่เราทุกคนอยู่ร่วมกัน จึงไม่แปลกใจว่าเด็กรุ่นใหม่จะตื่นตัวในทุกๆเรื่องบนโลกใบนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของมลภาวะ สภาพอากาศ สงครามและการเมือง สิทธิสตรีและความหลากหลายทางเพศ การเคารพสิทธิของมนุษย์ซึ่งกันและกัน ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อโลกและพลเมืองโลกเป็นอย่างมาก นั่นคือความร่วมมือทุกภาคส่วนเพื่อทำให้โลกใบนี้มีการพัฒนาในทุกด้าน พ่อแม่รุ่นใหม่จึงใส่ใจที่จะให้ลูกตั้งแต่วัยเด็กได้เริ่มเรียนรู้ โดยการส่งเสริมการศึกษาให้เข้าเรียนในโรงเรียนอนุบาลนานาชาติที่จะตอบโจทย์การพัฒนาศักยภาพของเด็กๆ และเรื่องที่ผู้ปกครองควรใส่ใจไม่แพ้กันนั่นก็คือ โภชนาการอาหารของวัยเด็ก ซึ่งเว็บไซต์ สนุกดอทคอม ได้แชร์บทความไว้ว่า โภชนาการเป็นปัจจัยเสริมที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโต และพัฒนาการตามวัยของเด็กวัยนี้ การทำความเข้าใจเกี่ยวกับโภชนาการจึงเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ เด็กวัยเรียน เป็นวัยที่มีการเคลื่อนไหวและใช้พลังงานอยู่ตลอดเวลาไม่หยุดนิ่ง ยกเว้นช่วงเวลาที่เจ็บป่วย ดังนั้นร่างกายจึงจำเป็นต้องได้รับสารอาหารต่าง ๆ ครบทั้ง 5 หมู่และควรได้รับอาหารที่สมดุลตามสัดส่วนที่สอดคล้องกับความต้องการของร่างกายของเด็กวัยนี้ ชนิดอาหารที่ควรเลือกให้เด็กวัยเรียนรับประทาน ประกอบด้วย อาหารประเภทเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์ เป็นสารอาหารที่ให้โปรตีนช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ เนื้อเยื่อ และฮอร์โมน ควรเลือกเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมันเพื่อเป็นการปลูกฝังนิสัยการบริโภคที่ดีให้แก่เด็ก ควรได้รับไข่เป็ดไข่ไก่วันละ 1 ฟองทุกวัน และควรให้อาหารทะเล เครื่องในสัตว์สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ถั่วเมล็ดแห้ง เด็กวัยเรียนควรรับประทานถั่วเมล็ดแห้งเป็นประจำ เพราะถั่วเมล็ดแห้งมีโปรตีน แคลเซียม และวิตามินบีสองมาก นมสด เป็นผลิตภัณฑ์ที่ให้โปรตีนและแคลอรีสูง นอกจากนี้ยังมีแคลเซียมวิตามินเอมาก เหมาะสำหรับเด็กที่กำลังเจริญเติบโต เด็กจึงควรดื่มนมทุกวัน ข้าว หรือแป้งต่าง ๆ ควรจัดให้เด็กในมื้ออาหารทุกมื้อ หรือกินในรูปของขนมบ้าง โดยเลือกข้าวหรือแป้งที่ผ่านการขัดสีน้อย เพราะวิตามินและแร่ธาตุมาก ผักใบเขียวและผักสีเหลือง ควรให้เด็กบริโภคในมื้ออาหารทุกมื้อ และควรสับเปลี่ยนชนิดให้หลากหลาย เพื่อให้เด็กได้รับวิตามินและแร่ธาตุครบถ้วน ผลไม้สด เป็นแหล่งที่ดีของวิตามินและเกลือแร่ โดยเฉพาะวิตามินซี เด็กควรได้รับผลไม้ทุกวัน และเลือกชนิดให้หลากหลายตามฤดูกาล





62

แม้ว่าในช่วงสองสามปีที่ผ่านมาหลายๆการเดินทางทั้งในและต่างประเทศจะต้องชะงักลง และทำให้ธุรกิจการบินทั่วโลกจะต้องปิดกิจการ เพราะไม่มีนักท่องเที่ยวและนักเดินทาง แต่ละประเทศทั่วโลกปิดประเทศเพื่อป้องกัน ฟื้นฟูและเยียวยาประชาชนในผ่านช่วงเวลาวิกฤตไปด้วย การที่เราไม่ได้เดินทางมาเป็นเวลานาน ทำให้เราสะสมความเครียด เพราะเมื่อไรก็ตามที่เราเดินทางท่องเที่ยว จิตใจของเราจะผ่อนคลาย และได้พบเจอประสบการณ์ใหม่ๆ ดั่งที่ใครหลายๆคนบอกว่า ไปเที่ยวเพื่อชาร์จพลัง

ยิ่งเราค้นพบตัวเองมากขึ้นเท่าไร เราจะรู้ว่าสิ่งใดที่เหมาะสมกับเรา และเราจะมีความสุขกับสิ่งนั้น ไม่ว่าจะเป็นงานหรืองานอดิเรกที่อาจกลายมาเป็นอาชีพเสริมได้ ยิ่งไปกว่านั้น เราจะค้นพบคำตอบในใจที่เรากำลังตามหาอยู่ก็ได้ หลายคนไม่เคยรู้ว่าลึกๆแล้วชอบทำอาหารมาก จนได้ค้นพบตัวเองเมื่อได้เดินทางและพักที่โฮสเทลที่ต้องทำอาหารทานเอง และมีความสุขมากๆเมื่อได้เข้าครัวทำอาหาร และหลายคนก็ออกจาก comfort zone เพื่อเริ่มทำธุรกิจไม่ว่าจะเปิดตลาดในไทยหรือต่างประเทศอย่างประเทศสิงคโปร์ โดยเริ่มจากการ register business Singapore ซึ่งประเทศนี้ก็ไม่ห่างจากไทยมากนัก และเศรษฐกิจก็เจริญเติบโตได้ดีมาก อีกทั้งยังมีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย ซึ่งเว็บไซต์ travel trueid ได้แชร์ไว้ว่า เริ่มต้นทริปที่ Merlion Park แลนด์มาร์คของสิงคโปร์ที่ใครๆ ก็ต้องไปถ่ายรูปกับรูปปั้น สิงโตพ่นน้ำ หรือ Merlion ที่ตั้งโดดเด่นอยู่ริม Marina Bay มองไปตรงข้ามก็จะเห็น ตึกเรือ มาริน่า เบย์ แซนด์ (Marina Bay Sand) สถาปัตยกรรมสุดล้ำ แสดงถึงความเจริญก้าวหน้าของสิงคโปร์ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเป็นจุดชมการแสดงแสงสีเสียงชื่อดังอย่าง The Wonder Full Show ใครมาสิงคโปร์แล้วไม่มาถ่ายรูปที่นี่ถือว่าพลาดมากๆ  อีกหนึ่งแลนด์มาร์คของสิงคโปร์ ด้วยพื้นที่กว่า 600 ไร่ เต็มไปด้วยต้นไม้ และพืชพรรณนานาชนิดในเรือนกระจก จึงทำให้ Gardens by the Bay เป็นสวนที่มีความทันสมัยและยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ไฮไลท์ของที่นี่คือ Super Trees ต้นไม้จำลองที่ตกแต่งด้วยแสงสีเสียงสุดอลังการ และจะงดงามที่สุดในยามค่ำคืน ควรค่าแก่การไปเยือนสักครั้งในชีวิตจริงๆ ได้เวลาไปสนุกสนานกับเครื่องเล่นสุดมันส์ที่ Universal Studios Singapore แหล่งรวมความสนุกทุกรูปแบบ มาพร้อมกับธีมพาร์คต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโซน TRANSFORMERS The Ride: The Ultimate 3D Battle, Ancient Egypt, Madagascar, Shrek 4D Adventure, Jurassic Park และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้พวกเรายังมีโอกาสได้ไปเดินที่ Hollywood Walk of Fame และสัมผัสกับ special effects ที่นำไปใช้จริงในการถ่ายทำภาพยนตร์ระดับโลก

63

ความกังวลของพ่อแม่ตั้งแต่ที่รู้ตัวว่ากำลังมีลูก มีชีวิตเล็กๆที่เข้ามาแชร์มาเติมเต็มความสุข การเฝ้าทะนุถนอม บำรุงร่างกายอย่างเต็มที่เพื่อให้ลูกในท้องนั้นได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่ ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ ไม่มีอาการแทรกซ้อนใดๆที่เกิดขึ้นทั้งแม่และลูก แม้ว่าแม่นั้นจะมีความเครียดจากปัจจัยภายนอกมากมายเพียงใด แม่ก็จะพยายามอย่างหนักเพื่อไม่ให้ความเครียดนั้นได้ทำให้กระทบต่อการตั้งครรภ์ และหลายคนมองว่าการตั้งครรภ์นั้นไม่ใช่โรคภัยไข้เจ็บ ไม่จำเป็นจะต้องดูแลอะไรมากมาย ซึ่งถือว่าเป็นการคิดที่ไม่ถูกต้องนัก

เนื่องจากการตั้งครรภ์นั้นสามารถส่งผลที่ไม่ดีต่อร่างกายทั้งแม่และเด็กในครรภ์ได้ อย่างที่เราจะเห็นได้กับอาการครรภ์เป็นพิษ ซึ่งอาการนั้นก็จะร้ายแรงแล้วแต่ที่เกิดขึ้นกับแม่แต่ละท่าน ซึ่งการดูแลอย่างใกล้ชิดกับแพทย์ที่ฝากครรภ์นั้นถือเป็นสิ่งสำคัญ เมื่อคลอดจนจะเข้าสู่วัยอนุบาล ก็จะมีความกังวลในการเรื่องหลักสูตรการศึกษาที่ดีที่สุด ซึ่งหลักสูตรอนุบาลนานาชาติถือว่าเป็นหลักสูตรที่น่าสนใจและช่วยพัฒนาในด้านต่างๆของลูกในวัยเล็กอย่างเต็มที่ ส่วนอาหารและสารอาหารที่สำคัญสำหรับแม่ขณะตั้งครรภ์นั้น เว็บไซต์ Bangkok hospital ได้แชร์บทความที่น่าสนใจไว้ว่า คุณแม่ตั้งครรภ์กับสารอาหารสำคัญ หลักการง่าย ๆ สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ในการรับประทานอาหารนั่นคือ ทานให้หลากหลายและครบทุกหมู่เป็นประจำทุกวัน อาทิ แป้ง โปรตีน ผัก ผลไม้ เป็นต้น เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วนเพียงพอ แต่หากทำไม่ได้หรือไม่แน่ใจควรให้ความสำคัญกับสารอาหาร ไม่ว่าจะเป็น โปรตีน เพราะสำคัญสำหรับการนำไปใช้เสริมสร้างอวัยวะและกล้ามเนื้อของมารดาและทารกจึงควรรับประทานโปรตีนจากสัตว์ ไข่ และพืชให้หลากหลาย ปริมาณที่คนตั้งครรภ์ต้องการเท่ากับ 75 – 110 กรัมต่อวัน ในทางปฏิบัติเพื่อให้ง่าย ควรเพิ่มสัดส่วนโปรตีนแต่ละมื้อให้ไม่ต่ำกว่า 30 – 40% ก็น่าจะเพียงพอ สารโฟลิก กรดโฟลิกหรือโฟเลตเป็นสารอาหารสำคัญอันดับแรกที่คุณแม่ที่กำลังจะหรือตั้งครรภ์แล้วขาดไม่ได้ เพราะโฟเลต เป็นสารอาหารที่สำคัญสำหรับการสังเคราะห์ดีเอนเอของเซลล์เพื่อสร้างอวัยวะต่าง ๆ ของทารกในครรภ์ มีรายงานพบทารกสมองไม่ปกติและท่อหุ้มไขสันหลังไม่ปิดในมารดาที่ขาดสารโฟเลต เนื่องจากสมองและไขสันหลังจะพัฒนาอย่างรวดเร็วและสมบูรณ์ภายใน 28 วันหลังการปฏิสนธิ มีรายงานพบว่า การบริโภคสารโฟเลต 400 – 800 มิลลิกรัมต่อวัน ก่อนการตั้งครรภ์และในช่วง 28 วันหลังการปฏิสนธินี้ มีผลทำให้อุบัติการณ์ของการเกิดความผิดปกติของทารกลดลงอย่างมาก กระทรวงสาธารณสุขของสหรัฐอเมริกาแนะนำให้สตรีวัยเจริญพันธุ์รับประทานสารโฟเลต 400 มิลลิกรัมต่อวัน โดยโฟเลตพบมากในอาหารจำพวกพืช สัตว์ และจุลินทรีย์ พบมากในพืชใบเขียว ธัญพืช พืชตระกูลถั่ว ตับ ไต และยีสต์ แต่อย่างไรก็ตามอาหารพวกนี้อาจไม่เพียงพอ ควรทานอาหารเสริมที่มีสารโฟเลตร่วมด้วยจะดีที่สุด




64

เมื่อตอนที่เรายังเด็ก เราเห็นผู้ใหญ่หลายๆคนดื่มกาแฟเพื่อให้พร้อมไปเริ่มงานและผจญกับงานหนักๆในแต่ละวัน ผู้ใหญ่หลายคนถึงกับบ่นว่า ถ้าไม่ได้ดื่มกาแฟ เหมือนรถยนต์ที่ไม่ได้เติมน้ำมัน และไม่มีเรี่ยวแรงจะทำสิ่งใดๆ พอเด็กๆอย่างเราอยากจะลองชิมบ้าง ก็โดนห้ามปรามว่า กาแฟนั้นไม่เหมาะสมสำหรับเด็กๆ เพราะจะทำให้ใจสั่นและเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ พอเราโตขึ้นมา เราก็ทราบว่าข้อมูลที่ได้รับตอนเด็กนั้น มีทั้งเป็นเท็จและจริง ซึ่งการดื่มกาแฟในปัจจุบันนั้น ได้เปลี่ยนไปอย่างมาก และกาแฟที่ดีต่อสุขภาพก็มีให้เลือกทานอย่างมากมาย เช่น กาแฟสมุนไพร ที่เติมหรือผสมสมุนไพรเพื่อทำให้ร่างกายมีสุขภาพที่ดีมากขึ้น

การทานกาแฟนั้น ถือเป็นเรื่องปัจเจกบุคคล เพราะแต่ละคนจะชอบรสกาแฟที่แตกต่างกัน รสสัมผัสที่ลิ้นแรกเริ่มอาจจะมีรสชาติติดขม หรือขมอมเปรี้ยว ซึ่งสิ่งนี้เปรียบได้กับเสน่ห์ของกาแฟแต่ละชนิด หากเราจะเปิดร้านกาแฟ หรือคาเฟ่ เราควรศึกษาในเรื่องนี้โดยเฉพาะ ยิ่งไปกว่านั้นแหล่งที่มาของกาแฟ เมล็ดกาแฟ ต้นกำเนิดสายพันธุ์กาแฟ ก็ถือว่าเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของกาแฟ ซึ่งข้อมูลเกี่ยวกับRobusta โรบัสต้านั้น เว็บไซต์ suzuki-coffee ได้แชร์ไว้ว่า Robusta โรบัสต้า คือ พันธุ์กาแฟที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคิดเป็น 20% ทั่วโลกรองลงมาจากอราบิก้า ลักษณะของเมล็ดจะอวบอ้วนและส่วนผ่าตรงกลางนั้นจะเป็นเส้นตรง โรบัสต้าจะปลูกในพิ้นที่ต่างกับอราบิก้าโดยสินเชิงคือ ปลูกในพื้นที่ต่ำ ให้มีความสูงจากระดับน้ำทะเลเพียง 500 – 600 เมตร เท่านั้น เพราะพันธุ์นี้จะปลูกให้ได้คุณภาพที่ดีต้องปลูกในพื้นที่อากาศชุ่มชื้น จึงพบว่านิยมปลูกในจังหวัดแถบภาคใต้ เช่น ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี เป็นต้น ส่วนกลิ่นของสายพันธุ์กาแฟโรบัสต้าจะค่อนข้างออกไปทางฉุน รสชาติก็จะเข้มข้นและขมกว่า ส่วนมากจะถุกนำไปทำเป็นกาแฟสำเร็จรูป เพราะด้วยปริมาณคาเฟอีนที่มีมากถึง 2% ขึ้นไป และสำหรับใครที่ชอบการดื่มกาแฟสดตามร้านละก็ คุณก็น่าจะได้ทานทั้งอราบิก้าและโรบัสต้า เพราะโดยมากแล้วเขาจะนำสายพันธุ์กาแฟทั้งสองมาผสมในอัตราส่วนเท่าๆ กัน หรือตามสูตรผสมของในแต่ละร้าน เพื่อให้ได้รสชาติที่ลงตัวและน่าประทับใจมากที่สุด กาแฟที่ถูกค้นพบบนโลกใบนี้มีอยู่หลากหลายพันธุ์มากๆ แต่ที่นำมาบริโภคกันจริงๆ มีอยู่ประมาณ 4 สายพันธุ์ ได้แก่ พันธุ์เอ็กซ์เซลซ่า (Excelsa), พันธุ์ลิเบอริก้า (Liberica), พันธุ์อราบิก้า (Arabica), พันธุ์โรบัสต้า (Robusta) ซึ่งใน 2 สายพันธุ์แรกนั้นไม่เป็นที่นิยมในการนำมาปลูกเท่าใดนัก เพราะเหตุที่ว่ามีความด้อยใรเรื่องของกลิ่นและรสชาติ คือไม่ค่อยอร่อยถูกปากเท่าไร




65

หากพูดถึงการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า เหล่าพ่อค้าแม่ค้าที่ทำธุรกิจเล็กๆ หรือออนไลน์ หรือแม้กระทั่งคนเริ่มทำธุรกิจอาจจะมองมาเป็นสิ่งไกลตัว และสินค้าบริการที่มีนั้นก็ไม่น่าจะต้องมีการจดทะเบียนอะไรให้ยุ่งยาก ซึ่งความจริงแล้วไม่ใช่เลย ไม่ว่าจะธุรกิจประเภทใดและขนาดเท่าไร หากเราอยากเริ่มทำอย่างถูกต้องและต้องการให้เครื่องหมายการค้านั้นดำเนินการได้อย่างเรียบร้อยสมบูรณ์ ซึ่งในส่วนนี้ควรจะต้องดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญด้านนี้โดยเฉพาะอย่าง trademark registration Thailand ที่จะคอย เป็นทั้งที่ปรึกษาและผู้ดำเนินการทำให้คนทำธุรกิจวางใจในเรื่องนี้ได้

ด้วยเหตุนี้ นักธุรกิจรุ่นใหม่ๆจึงให้ความสำคัญในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เพราะเมื่อเราเริ่มสิ่งใดอย่างถูกต้องและชัดเจน อุปสรรคและปัญหาในเรื่องการทำธุรกิจก็จะน้อยลงหรือแทบไม่มีเลย และหากเกิดปัญหาใดๆเกิดขึ้นในทางกฎหมาย เราก็สามารถที่จะดำเนินการได้อย่างถูกต้อง เพราะเราทำตามระเบียบข้อกฎหมายในการจดเครื่องหมายการค้าทุกอย่าง ธุรกิจของเราที่วางแผนไว้ก็จะไม่สะดุด และหลักกลยุทธ์ทางการตลาดแบบใหม่ที่เหล่าคนทำธุรกิจควรทราบนั้น เว็บไซต์ bluebik ได้แชร์ไว้ว่า ปัจจุบันจะมีหลักการตลาดใหม่ที่น่าสนใจ และสามารถปรับใช้ได้เหมาะกับยุคปัจจุบันมากกว่าคือ 4E’s ซึ่งก็มีทั้ง Product >> “Experience” ทุกวันนี้ผู้บริโภคไม่ได้คาดหวังแค่สินค้าหรือบริการเท่านั้น ตัวอย่างที่เห็นกันง่ายๆ คือทำไมบางคนถึงยอมจ่ายเงินซื้อรถหรูหลักหลายล้าน หรือเลือกจ่ายแพงกว่าเพื่อนั่งเครื่องบินระดับ First class นั่นเป็นเพราะต้องการประสบการณ์ที่ดีกว่า สะดวกสบายกว่าและสร้างความสุขได้มากกว่า ซึ่งประสบการณ์ที่ว่านี้มาจากการนำเสนอภาพลักษณ์ของแบรนด์และการสร้างความรู้สึกเกี่ยวข้องกับบริษัท ดังนั้นการเอาชนะคู่แข่งทางการตลาดในยุคนี้คงไม่พ้นเรื่องของการ “สร้างประสบการณ์” เพื่อให้เกิดผลลัพธ์แบบที่ผู้บริโภคจะต้อง “หลงรัก” และอยู่กับเราไปยาวนาน Price >> “Exchange” ก่อนหน้านี้การตั้งราคาสินค้ามาจากต้นทุนการผลิตเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นผู้ประกอบการจึงมักแข่งกันด้วยการลดราคาต้นทุน เพื่อให้สินค้าสามารถขายได้ในราคาที่ถูกกว่าคู่แข่งในตลาด แต่ในปัจจุบันเมื่อพฤติกรรมการบริโภคเปลี่ยนแปลงไป ผู้คนไม่ได้ให้ความสำคัญที่ราคาเป็นหลัก แต่หันไปให้ความสนใจเรื่อง “ความคุ้มค่า” มากกว่า เปรียบเหมือนกับการแลกเปลี่ยนความพึงพอใจของทั้งสองฝ่ายระหว่างตัวธุรกิจและผู้บริโภค ซึ่งไม่ว่าสินค้าราคาเท่าไหร่ แต่ถ้าผู้บริโภคชั่งใจแล้วว่าคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป ก็ย่อมอยากซื้อสินค้านั้นๆ Place >> “Everywhere” ในอดีต ถ้าอยากทำธุรกิจต้องมีหน้าร้านและมองหาทำเลเหมาะๆ สำหรับขายสินค้า แต่ในปัจจุบัน หน้าร้านอาจไม่ใช่สิ่งจำเป็นอีกต่อไป เพราะความก้าวหน้าของเทคโนโลยีได้เชื่อมต่อผู้ขายสินค้าและลูกค้าเข้าด้วยกัน ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้าและบริการได้จากทุกหนทุกแห่งทั่วโลกเพียงแค่มีอินเทอร์เน็ต ดังนั้นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญมากที่สุดในการทำการตลาดออนไลน์ จึงเปลี่ยนจากหน้าร้านไปเป็นเว็บไซต์ อีคอมเมิร์ชแพลตฟอร์ม หรือโมบายแอปพลิเคชัน รวมไปถึงการเน้นสร้าง Customer Journey และ Experience บนออนไลน์แพลตฟอร์ม Promotion >> “Evangelism” การออกแคมเปญลด แลก แจก แถม แบบการตลาดสมัยก่อนอาจไม่ได้รับความนิยมมากนักในปัจจุบัน เนื่องจากผู้บริโภคยุคใหม่มักมีความพึงพอใจหรือความชอบในแบรนด์ที่บริโภคเป็นประจำอยู่แล้ว หรือที่เรียกว่า “Evangelism (สาวก)” ถ้าจะพูดให้เข้าใจง่ายขึ้นก็หมายถึง “Brand Loyalty” นั่นเอง ดังนั้นกลยุทธ์การชิงส่วนแบ่งตลาดแบบเดิม ๆ อาจใช้ไม่ได้ผล หากเรายังไม่สามารถเปลี่ยนลูกค้าขาจรให้กลายเป็นลูกค้าขาประจำได้





66

ในช่วงที่เกิดปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจมาพร้อมกับวิกฤตโรคระบาดที่ส่งผลกระทบหลายเท่ากับทั้งนักธุรกิจทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ รวมไปถึง SMEs แม้กระทั่งแพล็ตฟอร์มออนไลน์ที่ได้ชื่อว่าเป็นแพล็ตฟอร์มที่ตอบโจทย์การทำธุรกิจในโลกดิจิตอล ก็ยังกระทบต่อทั้งจำนวนการสั่งซื้อที่มีน้อยลง เนื่องมาจากว่า เศรษฐกิจที่แย่ลงและต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่าสองสามปีถึงจะกลับมาปกติได้ ยิ่งไปกว่านั้น การท่องเที่ยวที่แทบว่าจะเป็นปัจจัยหลักของการนำเม็ดเงินต่างๆเข้ามายังประเทศไทย ก็ต้องหยุดชะงัก เนื่องมาจากวิกฤติขาดแคลนนักท่องเที่ยว ที่ไม่สามารถเดินทางไปยังต่างประเทศได้

สิ่งที่นักธุรกิจหลายๆคนหาแนวทางในการแก้ปัญหานี้คือ ศึกษาลู่ทางและความเป็นไปได้ในการทำธุรกิจให้แข็งแกร่งขึ้น พบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับนักธุรกิจหลากหลายสาขาเพื่อแลกเปลี่ยนแนวความคิดและปรับกลยุทธ์ และสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งคือ การมีที่ปรึกษาที่ดีในเรื่องต่างๆที่เกี่ยวกับการทำธุรกิจ และรวมไปถึงการลองทำสิ่งใหม่ๆอย่างการศึกษาเกี่ยวกับ ip rights protection เพื่อต่อยอดทางธุรกิจว่าสามารถดำเนินได้ในทิศทางใด และนั่นคือการคิดนอกกรอบ ซึ่งเว็บไซต์ tkpark ได้แชร์ไว้ว่า การคิดนอกกรอบนั้นพูดง่ายแต่ทำยาก จึงต้องหมั่นฝึกฝน คนที่คิดนอกกรอบนั้นมิใช่พวกจินตนาการเพ้อฝัน แต่เป็นคนที่สามารถใช้ความคิดเชิงตรรกะเหตุผลกับความเข้าใจเรื่องอารมณ์ความรู้สึกได้อย่างสมดุลหรือไม่ให้น้ำหนักเอียงไปทางด้านใดด้านหนึ่งมากจนเกินไป จุดมุ่งหมายของการคิดนอกกรอบคือการแสวงหาวิธีการหรือผลลัพธ์ที่เป็นไปได้ใหม่ๆ เพื่อพัฒนาหรือปรับปรุงแก้ไขสิ่งเดิมให้ดีขึ้น มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นหรือมีคุณภาพสูงขึ้น สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมาย ตอบโจทย์องค์กรและสังคม มีงานเขียนและการบรรยายต่างกรรมต่างวาระที่เอ่ยถึงวิธีการคิดนอกกรอบ ซึ่งอาจสรุปแบบกระชับได้โดย กล้าแตกต่าง ไม่กลัวล้มเหลว มองเห็นการเปลี่ยนแปลงและแนวโน้มในอนาคตคือโอกาส ไม่ใช่ปัญหา คิดบวกและสนุกกับการแสวงหาความเป็นไปได้จากความท้าทายใหม่ๆ  ฝึกคิดสร้างสรรค์ การคิดสร้างสรรค์และการคิดนอกกรอบเกือบจะเป็นสองด้านของเหรียญเดียวกัน หากไม่มีความคิดสร้างสรรค์ การคิดนอกกรอบก็เกิดขึ้นได้ยาก ความคิดสร้างสรรค์เป็นกระบวนการคิดที่ฝึกฝนได้ หาใช่พรสวรรค์ รู้กว้างและรู้ลึก ฝึกการคิดแบบรอบด้านมองหลายมุม ไม่ยึดติดการคิดเพียงด้านเดียว ฝึกฝนการตั้งคำถามและหาคำตอบ ไม่เดินย่ำซ้ำรอยความสำเร็จเดิม ด้วยความเชื่อว่าโครงการหรือการพัฒนาใดๆ ย่อมมีช่องว่างที่สามารถทำให้ดีขึ้นกว่าเดิมได้เสมอ รู้เท่าทันเทคโนโลยี ให้เทคโนโลยีสนับสนุนประสิทธิภาพการทำงานและพัฒนาคุณภาพคน ฉะนั้นจึงต้องรู้จักคนและเข้าใจงานที่ทำก่อนจึงค่อยเลือกเทคโนโลยี อย่าเลือกใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดเพียงเพราะกลัวไม่ทันสมัย ซึ่งนั่นไม่ใช่การรู้เท่าทัน แต่เป็นความทันโลกแค่เปลือก ขณะที่แก่นหรือเนื้อในกลวงเปล่า การรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีนอกจากช่วยให้ไม่ตกเป็นทาสของเทคโนโลยีแล้ว ยังเป็นเชื้อไฟที่ดีของการคิดนอกกรอบ






67

คนรักกาแฟทั้งหลายนั้น จะต้องชงกาแฟให้ตัวเองในยามเข้าอยู่เสมอย่างแน่นอน เพราะเหมือนเป็นจุดเริ่มต้นในการเติมไฟ เติมพลังงานในการทำสิ่งต่างๆ กิจกรรมต่างๆ จึงไม่แปลกใจว่าทำไมร้านกาแฟ หรือคาเฟ่ที่นำกาแฟหลายสายพันธุ์ถึงได้มีเพิ่มขึ้นมากมายทั่วประเทศ ซึ่งแต่ละสายพันธุ์กาแฟนั้น ต่างก็มีลักษณะเฉพาะตัวและความเข้ม ความอร่อยที่แตกต่างกัน รวมไปถึงขั้นตอนกระบวนการทำกาแฟก็ถือว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กัน บางบ้านก็อาจใช้การชงแบบธรรมดา เติมกาแฟและน้ำร้อน และบางบ้านก็อาจจะใช้เครื่องทำกาแฟอัตโนมัติที่ช่วยทำให้กลิ่นของกาแฟหอมกรุ่นชัดเจนมากขึ้น

เมื่อกล่าวถึงกาแฟ บางคนอาจจะมองว่าเป็นเครื่องดื่มที่ไม่ดีต่อสุขภาพได้ เพราะมีสารคาเฟอีน แต่ในปัจจุบันนี้ ได้มีกาแฟหลายหลายรูปแบบที่ดีต่อสุขภาพที่เติมสารอาหารและสิ่งต่างๆที่ดีต่อทั้งสุขภาพและช่วยให้ร่างกายดีขึ้น ที่เรียกกันว่า กาแฟเพื่อสุขภาพ ซึ่งก็มีการเพิ่มสารอาหารต่างๆที่ร่างกายต้องการ ไม่ว่าจะเป็นวิตามินต่างๆ รวมไปถึงแร่ธาตุที่จำเป็น ตามที่กล่าวถึงสายพันธุ์กาแฟ เรามาทราบข้อมูลเบื้องต้นในเรื่องนี้จากเว็บไซต์ suzuki-coffee ได้แชร์บทความไว้ว่า ความหอมกรุ่นอันเป็นเอกลักษณ์และมีเสน่ห์อย่างที่สุดของกาแฟ คือสิ่งที่ดึงดูดใจและทำให้หลงใหลจากผู้ที่รักและชื่นชอบกาแฟอยู่เสมอ ไม่ว่าจะอยู่มุมใดของโลกเชื่อว่าความเป็นกาแฟจะต้องไปถึงทุกพื้นที่แน่นอน แต่คุณรู้หรือไม่ว่ากาแฟเครื่องดื่มที่เราๆ ชื่นชอบในรสชาติกันอยู่นั้นมีแยกย่อยสายพันธุ์ต่างกันไป และแต่ละสายพันธุ์กาแฟก็มีรายละเอียดที่เฉพาะตัวเฉพาะพันธุ์ของใครของมันอีกด้วย Arabica อราบิก้า คือ พันธุ์กาแฟที่ถูกค้นพบและมีการปลูกมาอย่างเก่าแก่มากๆ ลักษณะของเมล็ดจะเป็นเมล็ดที่ค่อนข้างเรียวและส่วนผ่าตรงกลางนั้นจะเป็นเหมือนรูปตัว S ในภาษาอังกฤษ พื้นที่ที่ใช้ปลูกอราบิก้าให้ได้ผลผลิตที่ดีมีคุณภาพควรจะเป็นที่สูง อากาศเย็น เพราะสายพันธุ์นี้เขาชอบและจะเจริญเติบโตได้ดี จึงจำเป็นต้องปลูกบนพื้นที่ที่อยู่เหนือขึ้นไปจากระดับของน้ำทะเลประมาณ 800 – 1,000 เมตร หรือให้ดีเลยก็ 1,000 เมตร ขึ้นไป จึงเป็นเหตุให้เราสามารถพบการปลูกอราบิก้ามากที่สุดในแถบจังหวัดภาคเหนือของไทย เช่น เชียงราย เชียงใหม่ ลำปาง เป็นต้น และด้วยเอกลักษณ์ของกลิ่นที่หอมอย่างพอดี พร้อมกับรสชาติที่ออกไปทางกลมกล่อมนุ่มนวล อีกทั้งยังมีปริมาณของคาเฟอีนที่ต่ำมากไม่ถึง 2% นี่เอง ที่ส่งผลให้สายพันธุ์กาแฟอราบิก้าเป็นที่นิยมและขายได้มากที่สุดในโลก เฉลี่ยถึง 80% กันเลยทีเดียว ส่วนอีก 2 สายพันธุ์หลังนั้นคือพันธุ์ที่เป็นที่ถูกปากของผู้ที่ทานกาแฟมากที่สุด จึงถูกปลูกและนิยมนำมาขายในเชิงพาณิชย์เป็นจำนวนมากทั่วโลก ทำไมต้องเป็นอราบิก้า และ โรบัสต้า






68

ใครว่าการมีผิวสวย ต้องดูแลได้แค่เรื่องผิวได้เรื่องเดียว และจะต้องแค่โฟกัสกับการใส่ใจในเรื่องของผิวหน้าและผิวกายเท่านั้น แต่จริงๆแล้ว เราสามารถดูแลทั้งสุขภาพกายและผิวไปพร้อมๆกันได้ นั่นก็คือ การทานอาหารที่มีสารอาหารต่อร่างกายและเน้นในเรื่องการดูแลผิว อย่างการดื่มน้ำมะเขือเทศ ที่ช่วยให้ร่างกายมีระบบไหลเวียนเลือดที่ดีมากขึ้น และยังมีวิตามินเอซึ่งมีส่วนชวยบำรุงสายตาอีกด้วย และหลายคนที่ชอบดื่มน้ำมะพร้าว ที่ไม่ใช่แค่เพิ่มความสดชื่น เหมาะสำหรับผู้หญิง เพราะน้ำมะพร้าวมีส่วนช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน และอิลาสตินให้กับผิว ส่งผลทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส น้ำมะพร้าวมีฤทธิ์ช่วยย่อยอาหาร และช่วยลดอาการกรดไหลย้อน

หากเราต้องการเน้นในเรื่องผิว เราก็เลือกทานอาหารที่มีสารอาหารที่เกี่ยวกับการดูแลผิวพรรณ ไม่ว่าจะเป็น วิตามินเอ ดี อี ซี รวมไปถึงคอลลาเจน ซึ่งมีในเนื้อปลาต่างๆ จากเว็บไซต์ nestle ได้แชร์บทความไว้ว่า คอลลาเจน คือโปรตีนชนิดหนึ่งที่เป็นส่วนประกอบหลักของผิวหนัง โดยมีสัดส่วนสูงถึง 80 % ทำหน้าที่คล้ายกับกาวและเป็นโครงสร้างของเนื้อเยื่อต่าง ๆ ในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นผิวหนัง กระดูก กล้ามเนื้อ เล็บ เอ็น และข้อ โดยคอลลาเจนจะอยู่ที่ผิวหนังชั้นล่าง (ชั้นหนังแท้ หรือ dermis) ฉะนั้นการทาครีมทั่วไปจะไม่มีผลโดยตรงถึงคอลลาเจนในผิวหนัง โดยในร่างกายคนเรามีคอลลาเจนมากถึง 16 ชนิด โดยชนิดที่เราจะสามารถพบได้บ่อย คือ คอลลาเจน 4 ชนิดที่สามารถพบได้บ่อยในร่างกาย คอลลาเจนชนิดที่ 1 (Collagen Type I) เป็นชนิดที่พบได้มากที่สุดในร่างกาย ช่วยในการเสริมความยืดหยุ่น การสมานแผล สามารถพบได้ในผิวหนัง เส้นผม กระดูก เนื้อเยื่อ และผนังหลอดเลือด คอลลาเจนชนิดที่ 2 (Collagen Type II) เป็นชนิดที่มีความยืดหยุ่นมากกว่าชนิดที่ 1 พบมากในกระดูก กระดูกอ่อน และข้อต่อ มีหน้าที่ช่วยในการสร้างกระดูกอ่อน คอลลาเจนชนิดที่ 3 (Collagen Type III) เป็นชนิดที่มักจะพบในผิวหนัง กล้ามเนื้อ และหลอดเลือด คอลลาเจนชนิดที่ 5 (Collagen Type V) สามารถพบได้ในบริเวณเดียวกันกับชนิดที่ 1 หรือใต้ชั้นผิวหนัง และในเนื้อเยื่อของทารกในระหว่างตั้งครรภ์ จะเห็นได้ว่าคอลลาเจนกระจายอยู่ทั่วร่างกายของเรา โดยปกติแล้วร่างกายจะมีการสร้างและสลายคอลลาเจนในปริมาณที่สมดุลกัน แต่เมื่อเรามีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป การสร้างคอลลาเจนก็จะลดลงประมาณร้อยละ 1 ต่อปี ในขณะที่อัตราการสลายคอลลาเจนยังเท่าเดิม ทำให้ปริมาณคอลลาเจนในร่างกายลดลงเรื่อย ๆ ส่งผลให้ความแข็งแรงของผิวลดลงเมื่ออายุมากขึ้น และอย่างที่ทุกคนรู้กันดีว่าเมื่อคอลลาเจนใต้ผิวหนังลดลงก็จะเกิดริ้วรอย เพราะฉะนั้นแล้วเราสามารถเลือกทานอาหารเสริมคอลลาเจนอย่าง Donutt Collagen ได้ เพื่อช่วยในเรื่องการดูแลทั้งกระดูกและฟัน รวมไปถึงการมีผิวที่อ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้น






69

คนที่รักการเข้าครัว และรักการทำงานบ้าน อาจจะเอ็นจอยและมีความสุขที่ได้จัดการทำความสะอาดงานบ้านต่างๆ แต่ไม่ใช่กับทุกคนที่จะรักในเรื่องนี้ เพราะความชอบของแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน จึงไม่แปลกใจว่า ทำไมหลายๆคนเลือกที่จะใช้บริการแม่บ้านทำความสะอาด เพราะนอกจากจะประหยัดเวลาในการทำความสะอาดบ้านแล้ว ยังสะดวกสบายได้บ้านใหม่ที่สะอาดเป็นระเบียบอีกด้วย

หากเราเป็นคนชอบเข้าครัวและเป็นแฟนตัวยงรายการทำอาหารต่างๆ รวมไปถึงชอบติดตามช่องยูทูปที่สอนทำกับข้าว ทำอาหาร เราอาจจะเข้าครัวมากขึ้นกว่าปกติ อีกทั้งการทำอาหารนั้นยังเป็นการฝึกสมาธิและเพิ่มความสนุกสนานอีกด้วย ในส่วนที่ไม่สนุกในการเข้าครัวนั้นคงหนีไม่พ้น การทำความสะอาดข้าวของต่างๆหลังจากการทำการอาหาร นั่นก็คือ การล้างจานนั่นเอง ต่อให้เราใช้จานชามแค่ใส่อาหารที่ซื้อมาทานจากข้างนอก เราก็ต้องล้างจานที่มีจำนวนมากอยู่ดี และถ้าเราประกอบอาหาร อุปกรณ์ก็จะมากขึ้นด้วย และการทำความสะอาดก็จะใช้เวลามากขึ้นไปอีก นอกจากนี้ยังมีคนที่แพ้น้ำยาล้างจานที่ทำให้มือลอก และเกิดอาการแสบคันได้ การมีเครื่องล้างจานเอาไว้ในครัวเรือนจึงช่วยประหยัดเวลาให้แก่พ่อบ้านแม่บ้านที่รักการทำอาหารเป็นอย่างมาก ส่วนเรื่องการจัดเก็บห้องครัวให้เป็นระเบียบนั้น เว็บไซต์ จัดพื้นที่ตรงตามฟังก์ชันในครัว ในการประกอบอาหาร ไม่ว่าจะเป็นมื้อเล็กๆ หรือมื้อใหญ่ๆ ที่มีเมนูหลายสิบอย่าง การใช้งานในห้องครัวจะต้องเกี่ยวเนื่องกันเป็นพื้นที่สามเหลี่ยม ซึ่งพื้นที่ทั้ง 3 ส่วนนี้ประกอบด้วย พื้นที่เก็บของ คือส่วนที่มีไว้สำหรับเก็บอุปกรณ์ทำครัว จาน ช้อน ส้อม หม้อ มีด และเป็นส่วนที่รวมทั้งของสดและของแห้ง ตรงนี้จะประกอบด้วย ตู้เคาน์เตอร์ ชั้นลอย และตู้เย็น ส่วนเตรียมและส่วนปรุง เป็นพื้นที่สำหรับประกอบอาหาร จะมีเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ เป็นส่วนประกอบ เช่น เครื่องดูดควัน เตาแก๊ส เตาไฟฟ้า ไมโครเวฟ รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ จะจัดอยู่ในบริเวณนี้ในระยะที่เดินได้ไม่เกิน 1-2 เมตร และไม่ควรมีสิ่งกีดขวาง เพื่อความปลอดภัยจากการถือของร้อนเดินไปมาระหว่างการปรุง ส่วนล้าง เป็นพื้นที่สำหรับล้างและทำความสะอาด จะประกอบไปด้วย ซิงค์ล้างจาน และที่พักจาน โซนนี้ควรอยู่ใกล้ๆ กับตู้เย็นซึ่งเป็นพื้นที่เก็บของ เพราะเป็นมุมที่สัมพันธ์กันในแง่ของการใช้งานเมื่อต้องเตรียมอาหาร เช่น การนำผักและผลไม้ออกจากตู้เย็นไปล้างได้อย่างสะดวก รวมถึงการล้างทำความสะอาดจานชามก่อนเก็บในตู้เก็บของด้วย ในการวางแปลนให้ตรงกับฟังก์ชัน ให้กำหนดตำแหน่งการใช้งานจริงๆ โดยเริ่มจากประตูทางเข้า ไปยังส่วนเก็บ ต่อด้วยส่วนเตรียมและสวนปรุง จบด้วยส่วนล้างซึ่งต้องอยู่ไม่ห่างจากส่วนเก็บ จะทำให้เกิดพื้นที่สามเหลี่ยมที่สัมพันธ์กันในแง่ของการใช้งานอย่างแท้จริง





70

เมื่อปัญหาเข้ามารุมเร้าในช่วงที่เกิดวิกฤติโรคระบาด ใครจะคิดว่าอาชีพที่รายได้ดีอย่างนักบินและพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินจะต้องหยุดงานเป็นเวลาเกือบสองปี และนั่นทำให้หลายๆคนเริ่มคิดได้ว่า ความไม่แน่นอนคือความแน่นอน และต้องหาหนทางอื่นในการเอาชีวิตรอด เพราะแต่ละคนก็มีหน้าที่ความรับผิดชอบที่แตกต่างกัน มากน้อยไม่เหมือนกัน บางคนเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ต้องดูแลทุกคนในบ้าน เป็นหัวเรือที่คอยหารายได้ ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ซึ่งจะรองานหลักงานประจำคงจะไม่เพียงพอต่อการใช้จ่าย

การมองหาอาชีพเสริม หรือรายได้เสริมจึงได้เกิดขึ้น หลายคนต้องพยายามลองทำทุกอย่างจนกว่าตัวเองจะเจอสิ่งที่ตัวเองชอบและถนัด และสามารถนำมาประกอบอาชีพเสริม อย่างการทำอาหารและทำขนม ซึ่งอาจจะต้องใช้เทคนิคส่วนตัว และการมีอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำขนม อย่างเตาอบขนม ที่หลายบ้านต่างก็มีไว้ทำอาหารและขนมง่ายๆไว้ทานกับกาแฟ ส่วนสูตรการทำขนมต่างๆนั้น เราสามารถค้นหาได้จากเว็บไซต์ที่แจกสูตรทำขนมให้ไปใช้ได้ฟรี และนำไปปรับใช้ให้อร่อย และนอกจากนี้การจัดห้องครัวให้ดูทันสมัย ก็ยิ่งช่วยสร้างบรรยากาศให้เราอยากจะยิ่งทำขนมมากยิ่งขึ้น ซึ่งเว็บไซต์ minihouseideas ได้แชร์ไว้ว่า ห้องครัวร่วมสมัย ขนาดใหญ่ สามารถรองรับคนในการรับประทานอาหารได้สูงสุดที่ 3 คน เมืองมองดูภาพรวมแล้ว เป็นห้องครัวที่ให้ความทันสมัยเข้ากับยุคปัจจุบันอย่างมาก ห้องที่ถูกเน้นด้วยสีขาวเป็นหลัก ถูกต้องแทรกด้วยสีอ่อน อย่างสีเทาจากหินอ่อน และสีจากลายไม้ ทำให้ได้บรรยากาศที่อบอุ่นน่าใช้งานอย่างมาก เพิ่มความโดดเด่นของตัวห้องด้วยโคมไฟระย้าเพิ่มเสน่ห์ได้อย่างลงตัว โต๊ะเคาน์เตอร์บาร์ขนาดใหญ่ที่ทำจากไม้สีน้ำตาลเข้ม มีหินอ่อนวางไว้เพิ่มความเป็นเคาน์เตอร์บาร์ ตัดกับห้องครัวสีขาวได้อย่างลงตัว โคมไฟระย้าแบบบราณทำให้ห้องดูมีมิติมากขึ้น ห้องครัวสีขาวแทรกด้วยสีเทาและแดงตัดกันในบ้างส่วน โต๊ะเคาน์เตอร์บาร์ลอย ทำให้ห้องครัวมีพื้นที่มากขึ้นกว่าเดิม ดูแล้วไม่อึดอัด พร้อมพื้นที่รับประทานอาหาร สำหรับ 3 คน ห้องครัวสีขาวเรียบง่ายทันสมัย เน้นไปที่ความเรียบง่าย หน้าต่างตามผนังกลายเป็นช่องให้แสงธรรมชาติผ่านเข้ามา ทำให้ในช่วงเช้าไม่จะเป็นต้องเปิดไฟช่วย ประหยัดคาไฟได้อย่างดี งานไม้สีอ่อนตัดกับสีขาว สามารถทำให้สบายตาได้อย่างดี ตู้แขวนผนังครัวสีเหลือตัดกับลายกระเบื้องข้างหลังได้อย่างลงตัว ชั้นลอย สามารถนำสิ่งของอื่น ๆ มาวางได้ เพื่อสะดวกต่อการใช้งาน เคาน์เตอร์บาร์ขนาดใหญ่กลางห้องครัว หรือแม้แต่เคาน์เตอร์บาร์สำหรับทำครัว ที่มาในรูปแบบตัว U ก็ทำให้ห้องครัวนี้ดูหรูหราไปหมดทุกส่วน เป็นห้องครัวที่มีฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครันอย่างมาก เพิ่มสิ่งดึงดูดใจด้วยโคมไฟระย้าแบบคลาสสิค เท่านี้ก็ลงตัวทุกสัดส่วนแล้ว ครัวสไตล์โมเดิร์น แต่กลับให้กลิ่นอายของความเป็นลอฟท์ออกมานิดๆ  เนื่องจากกำแพงเป็นแบบโชว์อิฐมอญสวย ๆ หน้าต่างบานใหญ่ ตรงซิงค์ล้างจาน ทำให้แสงภายนอกเข้ามาในห้องครัวมากขึ้น สามารถใช้งานได้ดีในช่วงเวลากลางวัน และที่สำคัญหนาต่างบานใหญ่สามารถระบายอากาศได้อย่างดีเยี่ยม





71

เมื่อการเข้าสังคมอาจจะดูไม่ใช่เรื่องง่ายของใครหลายคนที่ขาดความมั่นใจในตัวเอง เพราะต้องรวบรวมความกล้าอย่างมากในการเริ่มที่จะทักผู้อื่นก่อน และถ้ายิ่งถูกปฏิเสธหรือหมางเมินแล้วล่ะก็ ความมั่นใจที่มีน้อยอยู่แล้วก็ยิ่งน้อยลงมากขึ้นไปอีก ทำให้ไม่กล้าที่จะทำความรู้จักกับใครใหม่ๆ หรือเข้าสังคมได้เลย ความมั่นใจที่มีจะต้องเกิดขึ้นมาอย่างการทำความรู้จักและเข้าใจตัวเองว่า เพราะอะไรเราถึงขาดความมั่นใจ และต้องปรับทัศนคติแนวคิดเกี่ยวกับตัวเองแบบไหน เพื่อจะทำให้เพิ่มความมั่นใจได้

หากมองรูปลักษณ์ภายนอก ซึ่งหลายคนอาจจะคิดว่า นี่อาจจะเป็นประเด็นหลักที่ทำให้คนไม่มีความมั่นใจ เพราะคิดว่าตัวเองนั้น หล่อ สวย ดูดีในมาตรฐานของความสวยงามไม่มากพอ การคิดในทำนองนี้ถือเป็นการคิดในแง่ลบ เพราะมาตรฐานความสวย Beauty Standard นั้น ไม่มีอยู่จริง และใครกันคือคนเซ็ตค่าความสวยงามนี้ เราอาจจะปรับปรุงในส่วนที่เราไม่ชอบ เช่นหากเราอยากยิ้มสวย การจัดฟัน อาจจะช่วยในเรื่องการยิ้มและการเรียงตัวของฟันได้ หากเราอยู่ในวัยทำงาน เราสามารถเพิ่มความมั่นใจในการทำงานได้ จากบทความน่าสนใจจากเว็บไซต์ job bangkokpost ที่แชร์ไว้ว่า คนที่ประสบความสำเร็จในการทำงาน ล้วนมีความมั่นใจเป็นส่วนประกอบในความสำเร็จ แต่ในขณะเดียวกัน ก็ยังมีคนวัยทำงานอีกจำนวนมากที่รู้สึกว่าตัวเองไม่ค่อยมีความมั่นใจ ไม่กล้าพูดในที่สาธารณะ ประหม่าเมื่อต้องคุยกับคนแปลกหน้า หรือไม่กล้าแม้แต่จะออกความคิดเห็นในที่ประชุม ทำให้ไม่ฉายแววโดดเด่นจนพลาดโอกาสดีๆ ในการทำงาน จึงอยากให้ลองเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ ลองเชื่อว่าความมั่นใจเป็นสิ่งที่สร้างกันได้ด้วยเคล็ดลับเหล่าคือ ฝึกสร้างความมั่นใจให้ตัวเอง เริ่มจากปรับเปลี่ยนทัศนคติ เชื่อว่าความมั่นใจสามารถสร้างได้ โดยเริ่มด้วยการฝึกพูดกับตัวเองหน้ากระจก ฝึกพูดเรื่องราวสั้นๆ จำลองสถานการณ์เมื่อต้องพรีเซนต์งานหรือการพูดในที่ประชุม การฝึกตัวเองบ่อยๆ จะช่วยให้พูดได้อย่างชัดถ้อยชัดคำ ฉายแววมั่นใจ จนสร้างความประทับใจให้กับผู้ฟัง ปรับบุคลิก สังเกตท่วงท่า การนั่ง ยืน เดิน ของตัวเอง พยายามฝึกยืน เดิน ให้หลังตั้งตรง อกผายไหล่ผึ่ง ในช่วงแรกๆ ของการฝึก พยายามมีสติกับทุกท่วงท่า แต่เมื่อฝึกจนเกิดความเคยชิน ก็จะสามารถเปลี่ยนบุคลิกให้แลดูเป็นคนที่มีความมั่นใจไปได้ เพิ่มทักษะสร้างความมั่นใจ คนเก่งส่วนใหญ่จะดูมั่นใจ แต่ไม่จำเป็นต้องเก่งไปหมดทุกอย่างก็สร้างความมั่นใจได้ แนะนำให้ลองค้นหาสิ่งที่ตัวเองถนัด สิ่งที่ทำแล้วมีความสุข ลองใช้ช่วงนั้นเวลาอยู่กับตัวเอง จะช่วยให้รู้สึกว่าตัวเราก็มีความสามารถ มีสิ่งดีๆ ไม่ได้ด้อยไปกว่าใคร เป็นการฝึกคิดบวกและยังช่วยให้พบความสุขเล็กๆ จากการอยู่กับตัวเอง







72

วัยทำงาน คือ วัยที่แทบจะไม่มีเวลาว่างเลย บางคนเสาร์อาทิตย์ยังต้องคอยสแตนบายเรื่องงานเผื่อในกรณีฉุกเฉิน จึงไม่แปลกใจว่า ทำไมคนในวัยนี้จึงบ่นกันว่า เพื่อนเริ่มน้อยลง และเข้าสังคมแทบจะไม่ได้ ซึ่งแตกต่างกับช่วงวันเรียน วัยมหาวิทยาลัย ที่มีเพื่อนมากมายหลายกลุ่ม ยิ่งถ้าเราเป็นเด็กกิจกรรม ทำกิจกรรมมากมายของทางมหาวิทยาลัยและคณะ ทำให้ได้พบปะคนมากหน้าหลายตาและสานสัมพันธ์มาเป็นเพื่อน แต่เมื่อเริ่มทำงาน ต่างคนก็แยกย้ายไปเติบโตในหน้าที่การงานของตัวเอง ทำในสายงานที่ถนัด การจะนัดเจอกันนั้นต้องทำล่วงหน้าหลายอาทิตย์

การที่เราจะลองเปิดใจ เข้าสังคมใหม่ๆในที่ทำงาน ที่มีความหลากหลายทางสังคม โดยเฉพาะในเรื่องความแตกต่างของอายุ ถ้าเราเป็นพนักงานใหม่ที่อายุน้อยที่สุดก็จะได้รับความเอ็นดู ความช่วยเหลือจากพี่ๆในที่ทำงาน แต่ถ้าเราอายุมากสุด อาวุโสสุด เราก็จะได้รับความเคารพ เพื่อนในที่ทำงานอาจจะเป็นแค่เพื่อนในเวลาทำงานที่เราไม่ควรไปสนิทสนม และปัญหาเรื่องงานก็ไม่ควรนำไปเล่าให้คนในที่ทำงานฟัง เพราะจะมีปัญหาใหญ่ตามมาได้ ส่วนเรื่องความมั่นใจที่ใช้ในการสร้างเพื่อนใหม่นั้น ควรเริ่มจากการทักทายด้วยรอยยิ้ม และการมีร้อยยิ้ม มีฟันที่ขาวสะอาดโดยการทำวีเนียร์ ก็ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้แก่เราเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม บทความเกี่ยวกับการสร้างความมั่นใจในที่ทำงานจากเว็บไซต์ job bangkokpost ได้แชร์ไว้ว่า ควรพยายามใช้สายตา เมื่อต้องสนทนากับผู้อื่น พยายามใช้สายตาเป็นตัวบ่งบอกความมั่นใจ โดยประสานสายตากับผู้ฟังอยู่เสมอ จะช่วยให้ผู้ฟังรู้สึกถึงความมั่นใจ นอกจากนั้น หลายคนอาจไม่รู้ว่าการหลบสายตาผู้พูดจะทำให้คู่สนทนารู้สึกอึดอัดได้ รอยยิ้มจริงใจ เมื่อต้องพูดคุยกับใคร หากไม่รู้จะเริ่มต้นบทสนทนาอย่างไร แนะนำให้เริ่มต้นด้วยรอยยิ้มที่จริงใจ จะช่วยให้อีกฝ่ายรู้สึกผ่อนคลายและเป็นกันเองมากขึ้น พยายามมีสติ นอกจากการสร้างความมั่นใจจากภายนอก ทั้งท่วงท่า แววตาแล้ว การสื่อสารออกมาอย่างมั่นใจ ช่วยให้ผู้ฟังเกิดความประทับใจได้ จึงจำเป็นจะต้องมีสติอยู่ตลอดเวลา คิดก่อนพูด พูดอย่างมั่นใจ ด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นและทัศนคติที่ดี ให้ความสำคัญกับการแต่งตัว อีกสิ่งสำคัญที่ช่วยสร้างความมั่นใจได้อย่างเหลือเชื่อ คือการเลือกสวมเสื้อผ้าที่ช่วยเสริมบุคลิกให้กับผู้สวมใส่ โดยเฉพาะในช่วงวัยของการทำงาน ควรให้ความสำคัญกับการเลือกเสื้อผ้าสักนิด ทั้งเนื้อผ้า โทนสี ไปจนถึงรูปแบบการตัดเย็บ ควรเลือกให้เข้ากับรูปแบบของงาน และควรเป็นชุดเก่งที่สวมแล้วรู้สึกมั่นใจ แต่ทั้งนี้ ก็ไม่ควรลืมคำนึงถึงกาลเทศะด้วยเช่นกัน จะเห็นได้ว่า จะวัยทำงานหรือวัยไหน หากเรามีความมั่นใจและตั้งใจจะมีเพื่อนมีสังคมแล้วล่ะก็ เราก็สามารถสร้างความเป็นมิตร สนิทสนมได้กับทุกคน ซึ่งพื้นฐานการเป็นเพื่อนที่ดีนั้นจะต้องมีความจริงใจให้แก่กัน เพื่อมิตรภาพที่มั่นคงยาวนาน








73

เพื่อนเก่ามาที่เราไม่ต้องการมาเยือนอีกครั้งแล้วในฤดูหนาวช่วงปลายปี โรคระบาดก็ยังไม่จางหายไป สิ่งที่ต้องระวังเพิ่มมากขึ้นนั่นก็คือ ฝุ่น PM 2.5 ถึงแม้เราจะใส่หน้ากากแล้ว แต่หน้ากากอนามัยนั้นจะต้องสามารถป้องกันฝุ่นจิ๋วที่มีความอันตรายต่อระบบภายในร่างกายของเราทั้งในระยะสั้นและระยะยาวได้ สิ่งนั้นก็คือ หน้ากากอนามัยpm2.5 ที่ได้รับการรับรองจากทางการแพทย์ ซึ่งเราจะต้องเลือกซื้อจากร้านขายยาที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานเท่านั้น

เราอาจจะมองว่า ฝุ่นนั้นคงทำอันตรายกับเราได้ไม่มากนัก ทำความสะอาดก็น่าจะเพียงพอแล้ว แต่ถ้าเป็นฝุ่นขนาดเล็กอย่าง PM 2.5 แล้วล่ะก็ ความอันตรายของมันนั้นถือว่าเป็นภัยต่อร่างกายของเราอย่างมาก ซึ่งเว็บไซต์ theworldmedicalcenter ฝุ่น PM 2.5  คือฝุ่นละอองในอากาศที่มีขนาดอนุภาคเล็กมากๆ (ขนาดเล็กกว่า2.5ไมครอน หรือไมโครเมตร) (PM ย่อมาจาก Particulate Matters) ด้วยขนาดที่เล็กมากๆ เราจึงมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่ถ้าฝุ่นนี้มีปริมาณสูงมากๆ ในอากาศ จะดูคล้ายกับมีหมอกหรือควัน สาเหตุส่วนใหญ่มาจากการเผาไหม้จากท่อไอเสียของเครื่องยนต์ ควันบุหรี่ การเผาขยะ เผาหญ้า เผาเชื้อเพลิงที่ใช้ในโรงงาน เป็นต้น ฝุ่น PM 2.5นี้ยังสามารถรวมตัวกับสารมลพิษ เช่นสารไฮโดรคาร์บอน และโลหะหนัก และด้วยขนาดที่เล็กมากจึงสามารถลอดผ่านการกรองของขนจมูก ไปยังหลอดลม และลงลึกจนถึงถุงลมปอดและซึมเข้าสู่กระแสเลือด และทำให้เกิดผลเสียต่อร่างกาย ฝุ่น PM 2.5 มีผลเสียต่อร่างกาย ในวันที่อากาศไม่ดี มีค่าฝุ่นมลพิษสูง หลายคนคงรู้สึกแสบตา แสบจมูก เจ็บคอ ระบบที่มีผลกระทบมาก คือระบบทางเดินหายใจ เมื่อหายใจเอาฝุ่น PM2.5เข้าไป จะรู้สึกแสบจมูก ไม่สบาย ไอและมีเสมหะได้ ในคนไข้ที่มีโรคประจำตัว เช่นโรคภูมิแพ้,โรคปอด (เช่น หอบหืด, ถุงลมโป่งพอง) ต้องระวังสุขภาพเป็นพิเศษ เนื่องจากฝุ่นนี้จะทำให้โรคกำเริบได้ง่าย ในระยะยาวมีผลทำให้เกิดโรคมะเร็งปอดและ โรคระบบหัวใจและหลอดเลือดได้ นอกจากนี้ยังทำลายผิวของเราได้ด้วย ผิวหนังเป็นอวัยวะที่ห่อหุ้มร่างกาย จึงหลีกเลี่ยงที่จะเผชิญฝุ่นมลพิษได้ยาก เนื่องจากฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กมากๆ เล็กกว่าขนาดของรูขุมขน จึงสามารถซึมผ่านเข้าผิวหนัง ทำให้เกิดผื่นผิวหนังอักเสบ มีอาการแดงคัน ระคายเคืองผิว โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาผิวแพ้ง่าย โรคภูมิแพ้ผิวหนัง จะมีผื่นกำเริบได้ง่าย ผิวหน้ามันขึ้น น้ำมันบนหน้าและฝุ่นจะทำให้เกิดการอุดตันของผิว และก่อให้เกิดสิว กระตุ้นการเกิดอนุมูลอิสระที่จะทำลายผิว ทำให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นก่อนวัย และจุดด่างดำ เมื่ออากาศที่เราจำเป็นต้องสูดหายใจเข้าไปทุกวันๆนั้นเต็มไปด้วยฝุ่นมลพิษทำลายร่างกาย เราจะป้องกัน และดูแลตนเองโดย หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้ง ควรอยู่ในบ้านหรือในอาคารที่มีเครื่องฟอกอากาศชนิดที่มีHEPA filter เมื่อจำเป็นต้องออกนอกบ้าน ควรสวมใส่หน้ากากชนิดที่สามารถกันฝุ่นPM2.5ได้ และใส่ให้ถูกวิธี รักษาสุขภาพให้แข็งแรง โดยการพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกาย ทานอาหารให้ครบ5หมู่ ทานผลไม้หรือวิตามินที่สารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) เช่นวิตามินซี ดื่มน้ำสะอาดเพื่อช่วยในการขับสารพิษจากร่างกาย






74

เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ และไม่คาดคิดมาก่อน จึงไม่แปลกใจว่า หลายๆบ้านจะเลือกหาสิ่งของและอุปกรณ์ที่สร้างความมั่นใจและความปลอดภัยให้แก่คนในครอบครัว ยิ่งบ้านไหนที่มีสมาชิกหลายคน และแตกต่างอายุกัน การดูแลสุขภาพและความปลอดภัยหากเกิดอุบัติเหตุใดๆ ยิ่งต้องระมัดระวังเพิ่มอีกหลายเท่า เช่น การดูแลเด็กและผู้ป่วยสูงวัยนั้น ต้องใช้อุปกรณ์ที่แตกต่างกัน ฟังก์ชั่นการใช้งานที่แตกต่างกันอยู่เสมอ ด้วยเหตุนี้อุปกรณ์การแพทย์ที่เราควรมีติดบ้านไว้ เพื่อช่วยชีวิตหากมีเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้น

ในต่างประเทศจะให้ความสำคัญกับการให้ความรู้ในเรื่องการปฐมพยาบาลเบื้องต้น หากเกิดเหตุการณ์ร้ายใดๆ ยิ่งไปกว่านั้นจะมีหลักสูตรขั้นพื้นฐานให้เด็กๆได้เรียนรู้ถึงวิธีเอาตัวรอดจากภัยร้ายต่างๆรอบตัว และยังสามารถช่วยชีวิตผู้อื่นได้อีกด้วย จึงไม่แปลกใจว่าทำไมเรามักจะได้อ่านข่าว เด็กน้อยช่วยเหลือชีวิตพ่อแม่ เมื่อมีเหตุฉุกเฉินต่างๆ เช่น พ่อแม่มีการอาการชัก หัวใจวาย หากเราต้องการให้ลูกหลานของเรามีความรู้ในเรื่องเหล่านี้ เราสามารถลงคอร์สเรียนเกี่ยวกับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้ ซึ่งในเว็บไซต์ thaitravelclinic ได้แชร์บทความการปฐมพยาบาลมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การปฐมพยาบาลบาดแผลฟกช้ำ (Contusion) บาดแผลฟกช้ำหรือบาดแผลเปิด เป็นบาดแผลที่ไม่มีร่องรอยของผิวหนัง แต่มีการฉีกขาดของเนื้อเยื่อและหลอดเลือดบริเวณที่อยู่ใต้ผิวหนังส่วนนั้น มักเกิดจากแรงกระแทกของแข็งที่ไม่มีคม เช่น ถูกชน หกล้ม เป็นต้น ทำให้เห็นเป็นรอยฟกช้ำ  บวมแดงหรือเขียว อุปกรณ์  1. น้ำเย็น 2. ผ้าขนหนูผืนเล็ก 3. ผ้าพันแผลชนิดเป็นม้วน วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น 1. ให้ประคบบริเวณนั้นด้วยความเย็น เพราะความเย็นจะช่วยให้เลือดใต้ผิวหนังบริเวณนั้นออกน้อยลง โดยใช้ผ้าชุบน้ำเย็นประคบหรือใช้ผ้า ห่อน้ำแข็งประคบเบาๆ ก็ได้ 2. ถ้าบาดแผลฟกช้ำเกิดขึ้นกับอวัยวะที่ต้องมีการเคลื่อนไหวอยู่เสมอ เช่น ข้อมือ ข้อเท้า ข้อศอก เป็นต้น ให้ใช้ผ้าพันแผลชนิดเป็นม้วนที่ยืดหยุ่นได้พันรอบข้อเหล่านั้นให้แน่นพอสมควร เพื่อช่วยให้อวัยวะที่มีบาดแผลอยู่นิ่งๆ และพยายามอย่างเคลื่อนไหวผ่านบริเวณนั้น รอยช้ำค่อยๆ จางหายไปเอง การปฐมพยาบาลบาดแผลถูกของมีคมบาด (Incision wounds) บาดแผลแยกหรือบาดแผลเปิด  เป็นบาดแผลที่เกิดจากการฉีกขาดของผิวหนังหรือเนื้อเยื่อจากการถูกของมีคมบาด แทง  กรีด  หรือถูกวัตถุกระแทกแรงจนเกิดบาดแผล  มองเห็นมีเลือดไหลออกมา อุปกรณ์ เช่นเดียวกับการปฐมพยาบาลแผลถลอก วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น 1.  ใช้สำลีเช็ดเลือด และกดห้ามเลือด 2.  ใช้แอลกอฮอล์เช็ดทำความสะอาดรอบๆ แผล 3.  ใช้สำลีชุบเบตาดีน หรือ โปรวิดี ไอโอดีนใส่แผลสดทารอบๆ แผล 4.  ใช้ผ้าพันแผล หรือพลาสเตอร์ปิดแผล 5. รีบน้ำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลให้กรณีบาดแผลรุนแรง การปฐมพยาบาลบาดแผลกระดูกหัก (Fracture) กระดูกหัก คือ การที่กระดูกแยกออกจากกัน ก่อให้เกิดความเจ็บปวด บวม เคลื่อนไหวไม่ได้หรือเคลื่อนไหวผิดปกติ เนื่องจากอุบัติเหตุ เช่น ถูกรถชน หกล้ม ตกจากที่สูง หรือกระดูกเป็นโรคไม่แข็งแรงอยู่แล้ว กระดูกเปราะเมื่อถูกแรงกระทบกระเทือนเพียงเล็กน้อยก็อาจหักได้ อุปกรณ์ 1. แผ่นไม้หรือหนังสือหนาๆ 2. ผ้าพันยึด วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น 1. วางอวัยวะส่วนนั้นบนแผ่นไม้หรือหนังสือหนา ๆ 2. ใช้ผ้าพันยึดไม้ให้เคลื่อนไหว 3. ถ้าเป็นปลายแขนหรือมือใช้ผ้าคล้องคอ






75

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ใครที่ไม่ทานกาแฟก่อนเริ่มงาน หรือบางคนแทบจะเลือกดื่มกาแฟตั้งแต่ตื่นนอนเพื่อให้ความรู้สึกกระฉับกระเฉง ซึ่งรสกาแฟนั้นก็มีหลากหลายรสชาติให้ได้เลือกทาน บางคนชอบเน้นหวาน บางคนชอบเน้นรสชาติขม แต่การทานกาแฟนั้นก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย และถ้าเรามีโรคประจำตัวที่เกี่ยวกับหัวใจ หรือเบาหวาน เราควรเลือกทานกาแฟเพื่อสุขภาพอย่างกาแฟถั่งเช่า หรือกาแฟสูตรสมุนไพรที่เป็นส่วนผสมสำคัญ นอกจากจะช่วยให้สุขภาพแข็งแรงเพิ่มขึ้นแล้ว ก็จะได้รสชาติแปลกใหม่ให้ได้ลิ้มลองอีกด้วย

เมื่อพูดถึงกาแฟ เราก็จะนึกถึงกลิ่นหอมกรุ่นของกาแฟที่เสิร์ฟในยามเช้า คาเฟอีนในกาแฟที่ช่วยให้เราพร้อมลงมือทำงาน แต่เราอาจจะไม่ได้นึกถึงที่มาที่ไปของกาแฟ ว่ามีต้นกำเนิดและกระบวนการผลิตอย่างไร จากเว็บไซต์ silpa-mag ได้แชร์บทความเกี่ยวกับกาแฟไว้ว่า กาแฟเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดบริเวณทวีปแอฟริกา ช่วงต้นนั้นกาแฟเป็นพืชป่าจนกระทั่งได้ถูกนำมาปลูกในดินแดนอาระเบีย ก่อนจะแพร่หลายไปยังภูมิภาคอื่นๆ ของโลก เช่น ละตินอเมริกา อินเดีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นต้น สายพันธุ์กาแฟนั้นมีอยู่มากมายหลากหลาย แต่สายพันธุ์ที่มีการบริโภคหลักๆ มีอยู่ ๒ สายพันธุ์ ได้แก่ คอฟเฟ่ คาเนโฟรา (Coffea Canephora) หรือที่รู้จักในชื่อ คอฟเฟ่ โรบัสตา (Coffea Robusta) ซึ่งมีต้นกำเนิดบริเวณภาคกลางและตะวันตกของแอฟริกา กับคอฟเฟ่ อาราบิกา (Coffea Arabica) ซึ่งสายพันธุ์นี้มีต้นกำเนิดในเอธิโอเปียและเยเมน  กาแฟเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดบริเวณทวีปแอฟริกา ช่วงต้นนั้นกาแฟเป็นพืชป่าจนกระทั่งได้ถูกนำมาปลูกในดินแดนอาระเบีย ก่อนจะแพร่หลายไปยังภูมิภาคอื่นๆ ของโลก เช่น ละตินอเมริกา อินเดีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นต้น สายพันธุ์กาแฟนั้นมีอยู่มากมายหลากหลาย แต่สายพันธุ์ที่มีการบริโภคหลักๆ มีอยู่ ๒ สายพันธุ์ ได้แก่ คอฟเฟ่ คาเนโฟรา (Coffea Canephora) หรือที่รู้จักในชื่อ คอฟเฟ่ โรบัสตา (Coffea Robusta) ซึ่งมีต้นกำเนิดบริเวณภาคกลางและตะวันตกของแอฟริกา กับคอฟเฟ่ อาราบิกา (Coffea Arabica) ซึ่งสายพันธุ์นี้มีต้นกำเนิดในเอธิโอเปียและเยเม ทั้ง ๒ สายพันธุ์นี้มีลักษณะแตกต่างกันเล็กน้อย คือ สายพันธุ์อาราบิกาเป็นสายพันธุ์แรกที่มีการค้นพบ มีระยะเวลาเก็บเกี่ยวเร็วกว่าเล็กน้อย ต้องการน้ำน้อยกว่า และมีการพัฒนาสายพันธุ์มากกว่า ขณะเดียวกันอาราบิกาก็มีการดูแลรักษายากกว่า อ่อนแอทั้งต่อศัตรูพืชและโรค และยังให้ผลผลิตน้อยกว่าสายพันธุ์โรบัสตา ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ค้นพบโดยชาวยุโรปในปลายศตวรรษที่ ๑๙ มีรสชาติขมกว่า และปลูกมากในหลายประเทศทั้งในละตินอเมริกา อินเดีย และประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเวียดนามและไทย[1] กาแฟทั้ง ๒ สายพันธุ์นี้ได้กลายเป็นกาแฟสายพันธุ์สำคัญที่ถูกใช้ทางการค้านับตั้งแต่ศตวรรษที่ ๑๕ โดยสายพันธุ์อาราบิกาจะเป็นสายพันธุ์แรกที่เข้าสู่ระบบการค้า ตามมาด้วยสายพันธุ์โรบัสตาในศตวรรษที่ ๒๐







76

เมื่อวิกฤติโรคระบาดในสองปีที่ผ่านมา เหล่าบุคลากรหน้างานทั้งแพทย์ พยาบาลและบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการดูแลผู้ป่วยติดเชื้อ ต่างก็พยายามทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถเพื่อรักษาและเยื้อชีวิตของผู้ป่วยไว้อย่างมากที่สุด การระดมมันสมองของการค้นคว้าวิจัยยารักษาโรคและสมุนไพรไทยเพื่อนำมาใช้ในการป้องกันและรักษา อย่างที่เราทราบกันดีว่า สมุนไพรไทยพื้นบ้านนั้น เป็นหยูกยาที่รักษาโรคต่างๆมาตั้งแต่สมัยโบราณ สมัยที่วิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถวิจัยสารต่างๆได้ ว่ามีการออกฤทธิ์ป้องกันโรคต่างๆได้อย่างไร ถือเป็นความโชคดีของคนไทยเป็นอย่างมากที่มีสมุนไพรหลายชนิด

การนำสมุนไพรไทยแต่ละประเภทและแต่ละชนิดมาใช้นั้น ก็ต้องอาศัยทั้งหลักภูมิปัญญาไทยและวิทยาศาสตร์เข้ามาผสมผสานกัน ในหลักทางวิทยาศาสตร์นั้นก็จะเน้นการสกัดสารต่างๆในสมุนไพร เช่น สารสกัดกระชายขาวที่สกัดมาจากกระชายขาว เพื่อนำมาใช้เป็นส่วนผสมในอาหารเสริมต่างๆที่บำรุงรักษาร่างกายและป้องกันโรค จากเว็บไซต์ rspg ได้รวบรวมสมุนไพรต่างๆไว้อย่างมากมาย ซึ่งสมุนไพรที่จัดได้ว่าอยู่ในกลุ่มยาลดไขมันในเส้นเลือด นั้นคือ กระเจี๊ยบแดง สรรพคุณ คือ กลีบเลี้ยงของดอก หรือกลีบที่เหลืออยู่ที่ผล เป็นยาลดไขมันในเส้นเลือด และช่วยลดน้ำหนักด้วย ลดความดันโลหิตได้โดยไม่มีผลร้ายแต่อย่างใด น้ำกระเจี๊ยบทำให้ความเหนียวข้นของเลือดลดลง ช่วยรักษาโรคเส้นโลหิตแข็งเปราะได้ดี น้ำกระเจี๊ยบยังมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ เป็นการช่วยลดความดันอีกทางหนึ่ง ช่วยย่อยอาหาร เพราะไม่เพิ่มการหลั่งของกรดในกระเพาะ เพิ่มการหลั่งน้ำดีจากตับ เป็นเครื่องดื่มที่ช่วยให้ร่างกายสดชื่น เพราะมีกรดซีตริคอยู่ด้วย ใบ  แก้โรคพยาธิตัวจี๊ด ยากัดเสมหะ แก้ไอ ขับเมือกมันในลำคอ ให้ลงสู่ทวารหนัก ดอก  แก้โรคนิ่วในไต แก้โรคนิ่วในกระเพราะปัสสาวะ ขัดเบา ละลายไขมันในเส้นเลือด กัดเสมหะ ขับเมือกในลำไส้ให้ลงสู่ทวารหนัก ผล  ลดไขมันในเส้นเลือด แก้กระหายน้ำ รักษาแผลในกระเพาะ เมล็ด  บำรุงธาตุ บำรุงกำลัง แก้ดีพิการ ขับปัสสาวะ ลดไขมันในเส้นเลือด นอกจากนี้ได้บ่งสรรพคุณโดยไม่ได้ระบุว่าใช้ส่วนใด ดังนี้คือ แก้อ่อนเพลีย บำรุงกำลัง บำรุงธาตุ แก้ดีพิการ แก้ปัสสาวะพิการ แก้คอแห้งกระหายน้ำ แก้ความดันโลหิตสูง กัดเสมหะ แก้ไอ ขับเมือกมันในลำไส้ ลดไขมันในเลือด บำรุงโลหิต ลดอุณหภูมิในร่างกาย แก้โรคเบาหวาน แก้เส้นเลือดตีบตัน นอกจากใช้เดี่ยวๆ แล้ว ยังใช้ผสมในตำรับยาร่วมกับสมุนไพรอื่น ใช้ถ่ายพยาธิตัวจี๊ด วิธีและปริมาณที่ใช้  คือ โดยนำเอากลีบเลี้ยง หรือกลีบรองดอกสีม่วงแดง ตากแห้งและบดเป็นผง ใช้ครั้งละ 1 ช้อนชา  (หนัก 3 กรัม) ชงกับน้ำเดือด 1 ถ้วย (250 มิลลิลิตร) ดื่มเฉพาะน้ำสีแดงใส ดื่มวันละ 3 ครั้ง ติดต่อกันทุกวันจนกว่าอาการขัดเบาและอาการอื่นๆ จะหายไป ส่วนคุณค่าด้านอาหาร คือ น้ำกระเจี๊ยบแดง มีรสเปรี้ยว นำมาต้มกับน้ำ เติมน้ำตาล ดื่มแก้ร้อนใน กระหายน้ำ และช่วยป้องกันการจับตัวของไขมันในเส้นเลือดได้ และยังนำมาทำขนมเยลลี่ แยม หรือใช้เป็นสารแต่งสี ใบอ่อนของกระเจี๊ยบเป็นผักได้ หรือใช้แกงส้ม รสเปรี้ยวกำลังดี กระเจี๊ยบเปรี้ยวมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า "ส้มพอเหมาะ" ในใบมี วิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตา ส่วนกลีบเลี้ยงและกลีบดอก มีสารแคลเซียม ช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง น้ำกระเจี๊ยบแดงที่ได้สีแดงเข้ม สาร Anthocyanin นำไปแต่งสีอาหารตามต้องการ






77

การมีที่ปรึกษาที่เป็นผู้เชี่ยวชาญและมืออาชีพในเรื่องการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า เพราะในแง่ของการทำธุรกิจ เราต้องการทำทุกอย่างให้ถูกต้องและตรงไปตรงมาอย่างถึงที่สุด อีกทั้งการดำเนินในเรื่องนี้ยิ่งส่งผลดีของการทำธุรกิจด้วย ก่อนอื่นเราก็ต้องวิเคราะห์ธุรกิจของเราว่าควรจดเครื่องหมายการค้าในประเภทใด และต้องเตรียมเอกสารที่จำเป็นในส่วนใดบ้าง แต่ถ้าเรามีมืออาชีพคอยช่วยในเรื่องนี้ เราก็ไม่ต้องกังวลในเรื่องใด

หากเราไม่มีที่ปรึกษา เราก็ต้องศึกษาหาความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับขั้นตอนการจดเครื่องหมายการค้า รวมไปถึงความสำคัญ ความจำเป็น และความหมายของเครื่องหมายการค้าคืออะไร ซึ่งจากเว็บไซต์กระทรวงพาณิชย์ ได้แชร์บทความไว้ว่า เครื่องหมายการค้า หมายถึง เครื่องหมายหรือสัญลักษณ์หรือตราที่ใช้กับสินค้าหรือบริการ ซึ่งเครื่องหมายที่ให้ความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2543 มี 4 ประเภท คือ 1. เครื่องหมายการค้า (Trade Mark) คือเครื่องหมายที่ใช้เป็นที่หมายเกี่ยวข้องกับสินค้าเพื่อแสดงว่าสินค้าที่ ใช้เครื่องหมายนั้นแตกต่างกับสินค้าที่ใช้เครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่น เช่น บรีส  มาม่า กระทิงแดง เป็นต้น 2. เครื่องหมายบริการ (Service Mark) คือ เครื่องหมายที่ใช้เป็นที่หมายหรือเกี่ยวข้องกับบริการ เพื่อแสดงว่าบริการที่ใช้เครื่องหมายนั้นแตกต่างกับบริการที่ใช้เครื่องหมาย บริการของบุคคลอื่น เช่น เครื่องหมายของสายการบิน ธนาคาร โรงแรม เป็นต้น 3. เครื่องหมายรับรอง (Certification Mark) คือ เครื่องหมายที่เจ้าของเครื่องหมายรับรองใช้เป็นที่หมายหรือเกี่ยวข้องกับ สินค้าและบริการของบุคคลอื่น เพื่อเป็นการรับรองคุณภาพของสินค้า หรือบริการนั้น เช่น เชลล์ชวนชิม แม่ช้อยนางรำ ฮาลาล (Halal) เป็นต้น 4. เครื่องหมายร่วม (Collective Mark) คือ เครื่องหมายการค้าหรือเครื่องหมายบริการที่ใช้โดยบริษัทหรือวิสาหกิจในกลุ่ม เดียวกัน หรือโดยสมาชิกของสมาคม กลุ่มบุคคล หรือองค์กรอื่นใดของรัฐหรือเอกชน เช่น ตราช้างของบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด  เป็นต้น และถ้าหากธุรกิจของเราเป็นด้านการดูแลสุขภาพ ทางเว็บไซต์ bangkokbiznew ได้แชร์ว่า ควรมี Simplify customer communication สื่อสารให้โปร่งใสได้ใจความ คำศัพท์ทางการแพทย์ย่อมเข้าใจยากเป็นธรรมดาอยู่แล้ว อีกทั้งต้องอยู่ภายใต้กฎระเบียบ เช่น อาหารเสริมห้ามโฆษณาเกินจริง ในขณะที่ความโปร่งใส จริยธรรม และความรับผิดชอบ เป็นเรื่องสำคัญที่สุดในธุรกิจสุขภาพ การสื่อสารจึงเป็นความท้าทายที่ผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญทุกตัวอักษร สื่อสารกับลูกค้าอย่างสม่ำเสมอเมื่อมีข้อมูลอัพเดต หรือลองนึกถึงบริการหลังการขาย เช่น การแจ้งเตือนลูกค้าเมื่อสินค้าใกล้หมดอายุ หรือบริการซ่อมบำรุงเป็นประจำ ที่สำคัญที่สุดคือ ต้องมีช่องทางให้ลูกค้ากลับมาติดต่อสอบถาม หรือ ส่งฟีดแบ็ค เพื่อลดความกังวลของการใช้งาน 




78

เวลาเราเลือกซื้อสินค้า หรือ ผลิตภัณฑ์อะไรก็แล้วแต่ สิ่งที่สะดุดตาเราหรือผู้ซื้อหลายๆคนนั้นคืออะไร และมีผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อของผู้บริโภคเหล่านั้นหรือไม่ ซึ่งถ้ามองตามหลักความเป็นจริงแล้ว สิ่งสำคัญคือ คุณภาพของสินค้าและตัวผลิตภัณฑ์นั้น แต่ในแง่ของการทำธุรกิจ ทุกโอกาสที่เราสามารถสร้างกำไร และสร้างความน่าสนในคือความท้าทายของการออกแบบบรรจุภัณฑ์ เพราะสามารถสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าได้ตั้งแต่แรกเห็น และยิ่งเพิ่มความเป็นต่อในไลน์สินค้าเดียวกัน

ทำไมบรรจุภัณฑ์ถึงได้มีความสำคัญและน่าสนใจ ทุกวันนี้ มนุษย์เรามีสุนทรีในการเสพสิ่งต่างๆรอบตัว ยิ่งถ้ามาในแนวศิลปะ ยิ่งเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าเหล่านั้น เราจะสังเกตได้จากที่มีคอมเมนท์จากลูกค้าว่า สินค้าดูไม่แพง นั่นคือหนึ่งในเหตุผลที่คนทำธุรกิจเอามาวิเคราะห์และปรับปรุงกลยุทธ์ต่างๆในการทำธุรกิจ สังเกตได้จากสินค้าที่มาจากประเทศญี่ปุ่น ที่มีบรรจุภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ลูกค้าทุดเพศทุกวัย เว็บไซต์ krungsri ได้แชร์บทความที่น่าสนใจเกี่ยวกับผู้บริโภคในยุคใหม่ว่าใช้หลักการใดในการเลือกสินค้า ไว้ว่า แม้ว่าการรีวิวสินค้าจะเป็นสิ่งที่มีมาเนิ่นนาน แต่ปัจจัยนี้ยังคงเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญมาก ๆ ในการตัดสินซื้อ ข้อมูลการสำรวจของ BrightLocal พบว่า 88% ของลูกค้านั้นเชื่อการรีวิวบนโลกออนไลน์มากพอ ๆ กับการแนะนำจากคนรอบ ๆ ข้างแบบออฟไลน์ ส่วนการรีวิวนั้นก็สามารถเกิดได้จากหลากหลายช่องทางตั้งแต่การเอ่ยปากขอลูกค้าที่มาซื้อสินค้า หรือใช้บริการของเราให้รีวิวสินค้าของเราสั้น ๆ เพื่อแลกรับสิทธิหรือส่วนลดอะไรบางอย่างเพื่อใช้ในครั้งถัดไป หรือถ้าหลาย ๆ ที่ก็เลือกที่จะจ้างรีวิว ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของรูปแบบสินค้า หรือบริการของเราด้วย จากข้อแรกที่เป็นเรื่องของการรีวิวนั้นสามารถเกิดขึ้นได้จากผู้ใช้จริง ๆ ที่เข้ามาใช้บริการ หรือเลือกซื้อสินค้าของเรา แต่ในอีกแง่มุมหนึ่งหลาย ๆ แบรนด์ก็เลือกใช้การตลาดโดยใช้ผู้มีอิทธิพล ฟังดูแปลก แต่ถ้าพูดถึงคำว่า Influencer Marketing เราก็จะเข้าใจ ข้อมูลจากการสำรวจของ Nielsen พบว่ากว่า 92% ของผู้ทำแบบสำรวจค่อนข้างเชื่อถือแนะนำ หรือการรีวิวจากบุคคลอื่น ๆ บนโลกออนไลน์ แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้จักก็ตาม พาร์ทนี้หลายแบรนด์เลือกที่จะพยายามส่งสินค้า หรือคูปองต่าง ๆ ให้กับเหล่า Influencer เพื่อให้พูดถึงแบรนด์ หรือสินค้าของตนเอง และเช่นเดิมหลายแบรนด์ก็เลือกที่จะแบ่งงบไปทำ Influencer Marketing ความง่าย แม้ว่าสินค้าและบริการนั้นจะดีมากขนาดไหน แต่ถ้าการเข้าถึง การชำระเงิน หรือขั้นตอนในการใช้บริการนั้นเต็มไปด้วยความยุ่งยาก ก็มีแนวโน้มที่ผู้บริโภคจะตัดสินใจไม่ซื้อสินค้าหรือบริการนั้น ๆ ลองนึกถึงประสบการณ์ในการซื้อสินค้าหรือบริการอะไรสักอย่างของตัวเองดูสิ มีครั้งไหนไหมที่เราตัดสินใจไม่ไปต่อ เพราะว่า “มันยาก” และ “วุ่นวาย”



79

การที่เราจะมีผิวพรรณที่ดูกระจ่างใสและอ่อนเยาว์นั้น จะต้องเกิดจาการดูแลผิวและการดูแลตัวเองอย่างดีและสม่ำเสมอ เพราะถ้าเราไม่ดูแลผิวของเรา ผิวก็จะเกิดริ้วรอย หมองคล้ำ และยังเกิดสิวอีกด้วย ซึ่งปัญหาที่ตามมาคือ เราอาจจะขาดความมั่นใจในตนเองเวลาส่องกระจก เพราะเราจะเห็นสภาพผิวของเราที่มีแต่ปัญหา และผิวของเราต้องการได้รับการแก้ไข พร้อมทั้งเพิ่มการบำรุงผิวอย่างล้ำลึกเพิ่มขึ้น

ปัจจัยการเกิดปัญหาของผิวเสียนั้น มีหลายปัจจัย แต่ปัจจัยที่สำคัญที่เราควรระวังนั้นก็คือ แสงแดด เพราะความอันตรายของแสงแดดนั้น สร้างความเสียหายให้แก่สภาพผิว และชั้นผิวเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้ การทำครีมกันแดดจึงถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องทำ ไม่ว่าเราจะอยู่ในที่ร่มหรือกลางแจ้ง จึงมีคำกล่าวที่ว่า 10 ครีมบำรุงไม่เท่า 1 กันแดด ถ้าเราอยากมีผิวหน้าที่กระจ่างใส การทำทรีตเมนต์หน้าใสถือว่าเป็นการช่วยให้ผิวหน้าของเรามีสุขภาพดีขึ้น และยังเป็นการบำรุงผิวอย่างล้ำลึกอีกด้วย นอกจากนี้เรายังสามารถนำสูตรพอกหน้าไปใช้ได้ ซึ่งได้แชร์มาจากเว็บไซต์สุขภาพดีด็อทเน็ต สูตรขัดหน้าขาวด้วยน้ำผึ้ง สำหรับสูตรนี้ใช้เพียง “น้ำผึ้ง” อย่างเดียวเท่านั้นก็สวยได้ โดยนำน้ำผึ้งประมาณ 1 – 2 ช้อนโต๊ะ มาทาให้ทั่วใบหน้าแล้วขัดวนเบาๆ ให้ทั่วใบหน้าประมาณ 5 – 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่นให้สะอาด สูตรนี้จะช่วยให้ผิวหน้าของคุณสาวๆ เนียนนุ่ม อ่อนเยาว์ขึ้น และช่วยดูดซับสิ่งสกปรกออกจากผิวหน้าได้ดี แต่ถ้าสาวๆ คนไหนมีสิวอักเสบให้เว้นการขัดบริเวณนั้น เพราะจะทำให้อักเสบมากขึ้น สูตรขัดหน้าขาวด้วยมะนาวกับน้ำผึ้ง สูตรนี้ใช้ส่วนผสมหลักๆ เพียงสองอย่าง คือ “มะนาวกับน้ำผึ้ง” โดยเตรียมน้ำมะนาวสดไว้แล้วเติมน้ำผึ้งลงไป คนส่วนผสมให้เข้ากัน นำมาทาให้ทั่วใบหน้าพร้อมกับขัดเบาๆ เมื่อเสร็จแล้วให้ล้างออกได้ทันที เมื่อล้างหน้าคุณจะรู้สึกเลยว่าผิวหน้าชุ่มชื่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าเผยผิวใหม่ที่สดใสขึ้น แต่สูตรนี้ทำอาทิตย์ละครั้งก็เพียงพอแล้ว เพราะน้ำมะนาวอาจจะกัดผิวหน้าให้บางและเกิดการระคายเคืองได้ สูตรขัดหน้าขาวด้วยมะเขือเทศ สูตรนี้เป็นอีกสูตรหนึ่งที่น่าสนใจและเตรียมส่วนผสมง่ายมาก ๆ เพียงแค่นำมะเขือเทศสดมาล้างให้สะอาดแล้วผ่าครึ่งผล จากนั้นนำมาขัดให้ทั่วใบหน้า หรืออาจจะนำมะเขือเทศไปจุ่มน้ำตาลทรายก่อนแล้วนำมาขัดก็ได้ เมื่อขัดเสร็จให้ล้างหน้าออกให้สะอาด จะช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างใส ขจัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดออก ลดความหมองคล้ำบนใบหน้า ผิวหน้าชุ่มชื้นสดใสขึ้น สูตรขัดหน้าขาวด้วยกากกาแฟ สำหรับสูตรนี้การใช้กากกาแฟขัดหน้า สาวๆ หลายคนอาจจะเคยทำมากันแล้ว แต่วันนี้เรามีสูตรหนึ่งมานำเสนอ คือ นำกากกาแฟ น้ำผึ้ง และนมสดผสมให้เข้ากัน แล้วนำมาทาให้ทั่วใบหน้าและขัดวนเบาๆ จากนั้นพอกทิ้งไว้ 15 – 20 นาทีแล้วจึงล้างออกให้สะอาด จะช่วยให้ผิวขาวใสและนุ่มลื่นยิ่งขึ้น สูตรขัดหน้าขาวด้วยผงพิเศษ “ผงพิเศษ” สามารถนำมาขัดหน้าและทำให้ผิวเนียนใสได้แบบสุดๆ โดยนำผงพิเศษประมาณ 3 ช้อนชา น้ำมะนาว 1 – 2 ช้อนชา ผสมกันจนเป็นเนื้อครีมเหลว แล้วนำมาทาให้ทั่วใบหน้า ขัดวนเบาๆ ประมาณ 1 – 2 นาที พอกทิ้งไว้ประมาณ 2 – 3 นาที แล้วจึงล้างออกให้สะอาด ทำสัปดาห์ละ 1 – 2 ครั้งก็พอ โดยสูตรนี้จะช่วยขจัดแบคทีเรียที่อยู่ตามรูขุมขน ลดรอยดำจากสิว ผิวหน้าจะขาวใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สูตรนี้แนะนำให้ทำช่วงเวลากลางคืน

80

ใครบ้างที่จะไม่พบเจอปัญหาเกี่ยวกับสิว แทบจะไม่มีเลย แทบจะทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย ต่างก็ประสบพบเจอกับปัญหากวนใจอย่างปัญหาสิว ซึ่งแก้ไขยังไงก็เหมือนจะไม่มีทางหายเลย ยิ่งไปกว่านั้น สิวที่เกิดขึ้นก็ทำให้ความมั่นใจตัวเองน้อยลง เพราะไม่กล้าที่จะออกไปพบปะผู้คน หากเรามีสิวที่หลังเยอะมาก เราก็จะไม่กล้าที่จะใส่เสื้อผ้าที่ต้องเผยผิวด้านหลัง

การเจริญเติบโตเข้าสู่วัยรุ่น คือ วัยที่จะต้องพบเจอกับปัญหาสิวเป็นอย่างมาก เพราะฮอร์โมนที่เกิดขึ้นในร่างกาย รวมไปถึงการรับประทานอาหารที่อาจส่งผลต่อการเกิดสิว การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสิว ควรเลือกอย่างเหมาะสมกับสภาพผิวของเราอย่างมากที่สุด และต้องดูรายละเอียดของส่วนผสมด้วย ว่ามีสารเคมีหรือสารอันตรายผสมลงไปหรือไม่ การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาตินั้นคือ สิ่งที่ดีที่สุด หากเรามาโฟกัสในเรื่องการเลือกผลิตภัณฑ์นั้นเว็บไซต์พบแพทย์ด็อทคอมได้แชร์ไว้ว่า การใช้ครีมรักษาสิว ส่วนใหญ่แล้ว ครีมและยาทาสิวมักจะใช้รวมกันหลายชนิด โดยมีจุดประสงค์เพื่อควบคุมสิวและรักษาสิวที่มีอยู่ก่อนแล้ว รวมไปถึงรักษารอยดำรอยแดงจากสิว ซึ่งในครีมรักษาสิวหรือผลิตภัณฑ์รักษาสิวที่มีประสิทธิภาพมักมีส่วนประกอบ เรตินอยด์ (Retinoid) เป็นวิตามินเอรูปแบบหนึ่งที่มีสรรพคุณช่วยผลัดเซลล์ผิว ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการอุดตันของไขมันภายในรูขุมขนที่เป็นสาเหตุของสิว ยาฆ่าเชื้อ จะช่วยฆ่าเชื้อและยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อสิวบนผิวหนัง ซึ่งจะช่วยลดรอยแดงที่เกิดจากการอักเสบบนผิวหนัง ช่วยให้สิวอุดตันนิ่มลงและหลุดออกได้ง่ายขึ้น กรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) เป็นอีกหนึ่งสารที่พบได้บ่อยในครีมรักษาสิว โดยกรดชนิดนี้มีคุณสมบัติเป็นสารผลัดเซลล์ผิวอ่อน ๆ เมื่อใช้เป็นประจำอาจช่วยให้ไขมันที่อุดตันในรูขมขนหลุดออกได้ง่ายขึ้น จึงอาจช่วยลดการกดสิวที่ทำให้เกิดรอยช้ำ รอยแดง หรือแผลเป็นหลังการกดสิวได้ ดังนั้น การใช้ครีมรักษาสิวที่มีกรดซาลิไซลิกก็อาจช่วยรักษาและป้องกันการอุดตันของไขมันได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะสิวอุดตันหัวขาวและสิวอุดตันหัวดำ สารต้านอักเสบ การอักเสบของสิวมักทำให้รู้สึกเจ็บ มีตุ่มนูน และเกิดรอยแดงบริเวณตุ่มสิว โดยการอักเสบอย่างต่อเนื่องอาจทำให้เนื้อเยื่อผิวหนังเสียหายส่งผลให้เกิดรอยดำและหลุมสิว ครีมรักษาสิวบางชนิดจึงมีสารที่ช่วยลดการอักเสบของสิว ส่วนใหญ่มักเป็นวิตามินและสารสกัดจากพืชธรรมชาติ อย่างลิโคชาลโคน (Licochalcone) ซึ่งเป็นสารสกัดจากชะเอมเทศที่มีสรรพคุณในช่วยบรรเทาอาการจากสิว ลดการอักเสบ และช่วยให้ความชุ่มชื้นกับผิวอีกด้วย นอกจากนี้ ครีมรักษาสิวและผลิตภัณฑ์รักษาสิวบางชนิดอาจมีส่วนผสมจากสารที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดสิว เช่น สารควบคุมความมันอย่างคาร์นิทีน (Carnitine) สารเพิ่มความแข็งแรงของผิวและสารลดรอยแดง อย่างวิตามินซี และสารเพิ่มความชุ่มชื้นอย่างไฮยาลูรอนิกเอซิด (Hyaluronic Acid) เป็นต้น ซึ่งการเลือกใช้สารที่มีส่วนผสมที่เหมาะกับสภาพผิวก็อาจช่วยลดสิวและปัญหาที่เกิดจากสิว อย่างรอยดำรอยแดงจากสิวหรือแผลเป็นจากการกดสิวด้วย แต่ถ้าเราต้องการจะลบรอยสิว หลุมสิวต่างๆ การเลือกใช้บริการเลเซอร์หลุมสิวจากคลินิคที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญถือเป็นทางเลือกที่ดี





81

หากเราตามเรื่องหลักสูตรการศึกษา เราจะทราบว่าในประเทศไทยนั้นมีหลากหลายหลักสูตรให้พ่อแม่ผู้ปกครองได้เลือกให้แก่ลูกหลาน แต่ละหลักสูตรก็จะมีทั้งความโดดเด่นและความนิยม ไม่ว่าจะเป็นหลักสูตรไทยเองที่เน้นความเป็นระเบียบเรียบร้อย ความมีวินัย หรือจะเป็นหลักสูตรอเมริกัน อังกฤษ แม้กระทั่งหลักสูตรแคนาดาอย่าง Canadian international school ที่เข้ามาเพิ่มความน่าสนใจให้กับพ่อแม่ผู้ปกครองที่เลือกจะส่งบุตรหลานเข้าไปเรียนรู้เพื่อเพิ่มศักยภาพและเติมเต็มความรู้ความสามารถในด้านต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพ

แม้ว่าจะมีหลักสูตรหลากหลายให้เลือก แต่พ่อแม่เองก็ไม่ควรมองข้ามความต้องการของลูก เพราะเขาคือผู้ที่จะต้องเข้าศึกษาและหากหลักสูตรนั้นไม่ตอบโจทย์ในการเพิ่มศักยภาพของเขา เราอาจจะต้องเสียทั้งเงินและเวลา เพราะทุกหลักสูตรนั้นต่างก็สร้างมาเพื่อพัฒนาและให้ความรู้แก่เด็กๆ และเด็กๆเองนั้นก็เปรียบเสมือนต้นกล้าต้นเล็กๆที่ต่างก็เหมาะกับป่าที่ต่างประเภทกัน นั่นก็หมายความว่า หากเราเจอหลักสูตรที่ใช่สำหรับเด็ก เด็กก็จะได้รับความรู้และความสนุกอย่างเต็มที่ ซึ่งเว็บไซต์ไมโลได้แชร์บทความเกี่ยวกับเด็กวัย 9- 10 ปีไว้ว่า ลูกวัย 9 ปี ผ่านมาถึงครึ่งทางของลูกวัยประถม เด็กวัยนี้จะเริ่มมีเหตุผลและความรู้รอบตัวกว้างขึ้น เราจะสังเกตได้ว่า ลูกเริ่มรู้จักการแก้ปัญหาด้วยตัวเอง ฟังเหตุผลมากขึ้น เรียกได้ว่ามีพัฒนาการทางอารมณ์ค่อนข้างชัดเจน ในขณะเดียวกันเด็กวัยนี้ก็ต้องการอิสรภาพมากขึ้นในการทำสิ่งต่าง ๆ กิจกรรมเด็กประถมที่อายุอยู่ในช่วงวัยนี้จึงควรเป็นกิจกรรมที่เขาได้มีโอกาสในการเลือกทำด้วย หรือหากเป็นกิจกรรมสำหรับเด็กประถมที่พ่อแม่เห็นว่าเหมาะสมกับลูกและต้องการพาไปก็ควรมีการอธิบายเหตุผลให้ลูกฟังว่า เพราะอะไรถึงพามาทำกิจกรรมนี้ อย่างเช่นการพาไปออกกำลังกายที่สวนสาธารณะที่เอื้อต่อการพัฒนาการกล้ามเนื้อมัดใหญ่ หรือการพาไปชมการแสดง อย่างเช่น ละครหุ่น ละครใบ้ หรือภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาเหมาะกับเด็ก ซึ่งกิจกรรมอย่างหลังนี้ พ่อแม่สามารถใช้เป็นโอกาสในการฝึกและอธิบายให้ลูกรู้ว่า พฤติกรรมอย่างไรที่แสดงในที่สาธารณะได้ พฤติกรรมแบบไหนที่ไม่ควรทำ นอกจากเด็กจะสนุกแล้วและเขายังได้ฝึกพัฒนาการทางอารมณ์ไปด้วยในเวลาเดียวกัน ลูกวัย 10 ปี พัฒนาการทางสติปัญญาคือจุดเด่นของลูกวัยนี้ เด็กมีการใช้ความคิดและเหตุผลกับสิ่งต่างๆ มากขึ้น และมีทักษะการแก้ปัญหาที่ดีขึ้น สามารถตัดสินใจด้วยด้วยตัวเองได้ในหลายเรื่อง กิจกรรมสำหรับเด็กประถมอีกอย่างหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่สามารถชวนลูกในวัยนี้ทำได้โดยไม่ต้องเตรียมอุปกรณ์อะไรเป็นพิเศษและไม่ต้องออกจากบ้าน ก็คือการฝึกให้ลูกทำงานบ้านง่ายๆ ที่เขาสามารถรับผิดชอบได้ หรือการฝึกทำอาหารเช้าง่าย ๆ สำหรับตัวเด็กเอง เพราะในการทำงานบ้านบางครั้งก็ต้องอาศัยการแก้ปัญหาบางเรื่องเช่นกัน ลูกจะได้มีทักษะเรื่องนี้มากขึ้น และมั่นใจในการตัดสินใจเรื่องต่างๆ เพิ่มขึ้น ส่วนกิจกรรมนอกบ้านเด็กวัยนี้จะเริ่มแสดงออกชัดเจนว่าชอบอะไร หน้าที่ของพ่อแม่คือสังเกตและพูดคุยเพื่อให้เข้าใจความสนใจของลูกมากขึ้น หรือบางครั้ง ลูกอาจเป็นฝ่ายบอกเองว่าอยากจะไปไหนหรือทำอะไร ซึ่งเราควรเปิดโอกาสให้เขาเสนอความคิดและรับฟังเหตุผลของลูกก่อนจะอนุญาตหรือปฏิเสธ แต่หากจะปฏิเสธอะไรกับลูกวัยนี้ ต้องอย่าลืมว่า การให้เหตุผลเป็นเรื่องสำคัญ

82

ในวัยเข้าสู่ชั้นประถม เด็กๆจะเริ่มมีความสนใจในสิ่งที่เขารักมากขึ้น และแสดงความเป็นตัวตนของตัวเองอย่างเด่นชัด อาจจะมีขัดใจและโต้เถียงกับพ่อแม่ผู้ปกครองบ่อยครั้ง แต่นั่นก็คือการพัฒนาไปตามวัยของเขาเอง พ่อแม่ผู้ปกครองอาจจะยังไม่เข้าใจ ซึ่งถ้าหากมีความกังวลในเรื่องนี้ การปรึกษาจิตแพทย์เด็กถือเป็นทางออกที่ดีมากๆและยังสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างเข้าใจกันและกันมากยิ่งขึ้น เพราะไม่ใช่ความผิดของเด็กเลย หากเขาจะมีความซนและความอยากลองในเรื่องใดที่พ่อแม่อาจมองและกังวลว่าเป็นสิ่งอันตราย

หลักสูตรปฐมวัยหรือประถมศึกษานั้น แน่นอนว่าถ้าเป็นโรงเรียนรัฐบาลก็จะมีความแตกต่างอย่างมากในเรื่องหลักสูตรหากเทียบกับโรงเรียนนานาชาติในระดับชั้นประถมศึกษา elementary international school Bangkok เพราะหลักสูตรโรงเรียนรัฐบาลยังคงเน้นท่องจำและไม่ได้ให้เด็กตั้งคำถามมากนัก เด็กจะถูกป้อนความรู้ข้อมูลซึ่งไม่อาจนำมาต่อยอดหรือโต้แย้งได้หากข้อมูลนั้นไม่ถูกต้อง แต่ถ้าเป็นหลักสูตรจากต่างประเทศหรือนานาชาติ เด็กจะมีอิสระด้านความคิด การวิเคราะห์และการตั้งคำถาม ครูจะมีหน้าที่แค่เพียงไกด์ไลน์ให้เท่านั้น จึงไม่แปลกใจว่าทำไมเด็กทั้งสองหลักสูตรถึงมีทัศนคติที่แตกต่างกันในการดำเนินชีวิต อย่างไรก็ตามการเลือกกิจกรรมให้เด็กในวัยซนนี้ทำนั้นคือสิ่งที่เด็กสามารถเล่นได้อย่างเต็มที่ซึ่ง ในเว็บไซต์ไมโลได้แชร์ไว้ว่า กิจกรรมสำหรับเด็กประถมในช่วงวัย 6-7 ปีนี้เป็นช่วงที่เด็กวัยนี้จะเข้าใจคอนเซปต์ของสิ่งต่างๆ ได้ดีขึ้นกว่าวัยอนุบาล มีความอยากรู้อยากเห็นในเรื่องรอบตัว แต่ไม่ใช่วัยที่เราจะคาดหวังให้เขามีสมาธิอยู่กับกิจกรรมได้ยาวๆ เด็กวัยนี้จะมีอาการคล้ายเด็กไฮเปอร์หรือเด็กสมาธิสั้น ถ้าเป็นกิจกรรมที่ใช้เวลา ควรแบ่งกิจกรรมนั้นออกเป็นกิจกรรมย่อยๆ เพื่อไม่ให้ลูกรู้สึกว่าใช้เวลานานเกินไป กิจกรรมสำหรับเด็กที่เหมาะกับช่วงวัยนี้อาจเป็นงานศิลปะที่ไม่ซับซ้อน แต่ให้เขาได้ใช้กล้ามเนื้อมือมัดเล็กในการตัด แปะ พับสิ่งต่างๆ หรืออาจจะเริ่มแนะนำให้ลูกรู้จักกับดนตรี เพราะวัยนี้สามารถจับจังหวะและแยกความแตกต่างระหว่างเสียงเครื่องดนตรีต่างๆ ได้ ส่วนลูกวัย 8 ปี ความแตกต่างที่พ่อแม่จะเริ่มสังเกตได้ในลูกวัยนี้ก็คือ ลูกจะสามารถมีสมาธิจดจ่อกับกิจกรรมที่ทำได้นานขึ้น ความอยากรู้อยากเห็นยังคงมีเหมือนวัยก่อนหน้า แต่พ่อแม่ต้องเตรียมรับมือกับคำถามที่มากขึ้น ในช่วงวัยนี้คุณพ่อคุณแม่อาจจะหากิจกรรมสำหรับเด็กประถมที่เหมาะสมกับลูกได้ง่ายขึ้น เพราะด้วยพัฒนาการทางอารมณ์ที่เพิ่มขึ้นตามวัย ลูกจะสามารถแสดงออกได้ชัดเจนขึ้นระหว่างกิจกรรมที่ชอบและไม่ชอบ เพราะฉะนั้นกิจกรรมสำหรับเด็กที่เหมาะกับวัยนี้ควรจะสอดคล้องกับสิ่งที่ลูกสนใจ ตัวอย่างเช่น หากเราสังเกตว่าลูกเริ่มชอบอ่านนิทานด้วยตัวเองมากขึ้น แทนที่จะเป็นฝ่ายให้คุณพ่อคุณแม่อ่านให้ฟังอย่างเดียว เราอาจจะชวนลูกไปร้านหนังสือ ให้เขาเลือกหนังสือที่ชอบ พอเขาอ่านแล้ว ก็อาจจะชวนคุยถึงนิทานเรื่องนั้น หรือให้เขามาเล่าให้คุณพ่อคุณแม่ฟังทีหลังว่า หนังสือที่ซื้อมานั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร วิธีนี้จะช่วยให้ลูกได้ฝึกพัฒนาการด้านสติปัญญาผ่านการใช้ภาษา ทั้งการอ่านและการถ่ายทอดเรื่องราวนั้นให้คนอื่นฟังอีกต่อ[/font]






83

เมื่อความต้องการศึกษาหาความรู้ของเด็กๆในยุคสมัยใหม่ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความต้องการของพ่อแม่เป็นหลัก และพ่อแม่ผู้ปกครองเองต่างก็เรียนรู้ที่จะปล่อยวางในเรื่องของการบังคับให้ลูกต้องเข้าศึกษาในสถานศึกษาที่พ่อแม่เห็นว่าดีแก่ลูกโดยไม่ถามถึงความสมัครใจ ซึ่งสร้างบาดแผลและความรู้สึกว่าสถานที่แห่งนี้ไม่ได้เหมาะสำหรับเขาก็ได้ เพราะฉะนั้นแล้ว ก่อนที่พ่อแม่ผู้ปกครองหลายๆท่านจะให้ลูกได้เข้าเรียน เราควรพาลูกไปยังสถานที่เหล่านั้น และให้เขาได้ลองเข้าไปพบกับบรรยากาศต่างๆ สนามเด็กเล่น รวมไปถึงพบปะพูดคุยกับเหล่าครูบาอาจารย์ว่ามีทัศนคติเป็นอย่างไรบ้าง

เนื่องจากสถานศึกษานั้นมีหลากหลายประเภท และการพิจารณาเบื้องต้นของพ่อแม่ผู้ปกครองนั้นถือว่าเป็นสิ่งจำเป็น การวางแผนในระยะยาวเกี่ยวกับอนาคตและการศึกษาของลูกหลานถือเป็นการลงทุนที่ดีอย่างมาก เราไม่ได้มองถึงการลงทุนในการขาดทุนหรือกำไร แต่เรามองถึงการได้เข้าถึงศักยภาพอันไร้ขีดจำกัดและการค้นพบตัวเองและพัฒนาตนเองในวัยเรียนรู้ของเด็กเป็นสำคัญ ซึ่งส่วนมากจะเป็นโรงเรียนที่มีความพร้อมสูงและได้มาตรฐานอย่าง International school Bangkok ที่พ่อแม่หลายๆคนเลือกที่จะส่งลูกหลานเข้าไปรับการศึกษา และสิ่งสำคัญที่เราไม่ควรมองข้ามต่อมาคือ อาหารที่สำคัญต่อการพัฒนาสมองของเด็กๆ ซึ่งทางเว็บไซต์ sikarin ได้แชร์ไว้ว่า สารอาหารที่มีประโยชน์ต่อพัฒนาการทางสมองที่สำคัญ โดยมีการศึกษาว่าสารอาหารบางอย่างจำเป็นต่อการพัฒนาของระบบประสาทและสมอง ถ้าขาดสาร อาหารเหล่านี้ จะมีผลต่อการเรียนรู้ และพฤติกรรมได้ ได้แก่ การได้รับโปรตีนและพลังงานที่เพียงพอ กรดไขมัน จำเป็น โดยเฉพาะ DHA ธาตุเหล็ก (Iron) ไอโอดีน สังกะสี (Zinc) โคลีน (Choline) วิตามินบี เป็นต้น สารอาหารดังกล่าวมีผลต่อพัฒนาการทางสมองอย่างไร และพบได้ในอาหารประเภท กรดไขมันจำเป็น (Essential fatty acid) มีการศึกษาว่าการได้กรดไขมันจำเป็น omega-3 โดยเฉพาะ DHA เพียงพอ ส่งผลต่อพัฒนาการ และความฉลาดในการเรียนรู้ (IQ) ที่ดี การมองเห็น การได้ยิน รวมไปถึงสมาธิ และการยับยั้งชั่งใจ ตั้งแต่ทารกอยู่ในครรภ์ มารดา โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสที่ 3 ของการตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นช่วงที่มีการใช้กรดไขมัน ในการสร้างและพัฒนา สมองมาก DHA พบมากใน ปลาทะเล เช่น แซลมอน ทูน่า แมคเคอเรล ซาดีน และยังพบในสาหร่ายทะเล เมล็ดเซีย ถั่วแระ วอลนัท น้ำมันพืช โดยเฉพาะน้ำมันคาโนล่า เป็นต้น เหล็ก (Iron) ผู้ปกครองควรระวังการขาดธาตุเหล็กในทารกอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป เนื่องจากธาตุเหล็กในทารกที่มาจาก มารดาลดน้อยลง ร่วมกับนมแม่มีธาตุเหล็กไม่เพียงพอต่อความต้องการ ทารกจึงควรได้อาหารที่มีธาตุเหล็ก ได้แก่ เนื้อแดง เครื่องในสัตว์ หอย พืชตระกูลถั่ว เมล็ดฟักทอง บล็อคโคลี เป็นต้น และควรตรวจเช็คภาวะโลหิต จางจากการขาดธาตุเหล็กในทารกที่อายุ 9-12 เดือน มีการศึกษาว่าเด็กอายุน้อยกว่า2 ปี ที่มีภาวะเลือดจางจากการขาดธาตุเหล็ก ส่งผลให้ทั้งพัฒนาการกล้ามเนื้อ การเรียนรู้ IQ พฤติกรรมและสมาธิลดลง เมื่อติดตามไปในอนาคต








84

หากเราเป็นคนต่างถิ่นและไม่รู้อะไรเกี่ยวกับวัฒนธรรมและแหล่งท่องเที่ยว การใช้ชีวิตของคนภาคอื่น เราสามารถเริ่มที่จะเรียนรู้สิ่งเหล่านั้นได้ เพราะการเรียนรู้และเข้าใจถึงความต่างของวัฒนธรรมและการใช้ชีวิตของคนภาคอื่นๆที่เราไม่รู้จักหรือคุ้นเคยทำให้เราเกิดองค์ความรู้และมีการตกตะกอนทางความคิด รวมถึงเข้าใจบริบบทของสังคมในถิ่นเรานั้นด้วย อีกทั้งยังเพิ่มการตระหนักรู้และการเคารพในเรื่องที่มีความแตกต่าง

ทั้งนี้ จังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรือภาคอิสานนั้นมีหลายจังหวัดและก็มีความหลากหลายทางภาษาถิ่นและวัฒนธรรมมากเช่นกัน หากเราจะเริ่มการเรียนรู้และการท่องเที่ยว จังหวัดอุบลราชธานีเองก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเพราะเราสามารถที่จะเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวได้อย่างมากมายและเรายังสามารถใช้บริการรถเช่าอุบลที่มีรถเช่าราคาถูก อุบล และถ้าหากเราเดินทางโดยเครื่องบิน ก็สามารถลงจากเครื่องและใช้บริการเช่ารถสนามบินอุบลได้เลย เพราะที่อุบล รถเช่านั้นมีให้บริการแก่นักท่องเที่ยว ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวนั้นเราสามารถค้นหาได้ตามเว็บไซต์ท่องเที่ยวหรือจะสอบถามกับชาวจังหวัดอุบล อย่างไรก็ตามเว็บไซต์ atsiamtour ได้แชร์ไว้ว่า วัดทุ่งศรีเมือง สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 ภายในวัดมีสถาปัตยกรรมอิสานที่สวยงามและสมบูรณ์ที่สุดก็คือ หอไตรกลางน้ำ ที่สร้างขึ้นด้วยไม้ทั้งหลังเป็นศิลปะผสมผสานระหว่างไทย พม่าและลาว ตัวอาคารเป็นเรือนไทยแบบฝาปะกน ภายในมีตู้เก็บพระธรรมลงรักปิดทองส่วนลวดลายแกะสลักบนหน้าบันที่สวยงามทั้งสองด้านเป็นลักษณะของศิลปะลาว วัดศรีอุบลรัตนาราม พระอารามหลวง พระอุโบสถสร้างตามแบบวัดเบญจมบพิตร เป็นที่ประดิษฐานพระแก้วบุษราคัมพระคู่บ้านคู่เมือง ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของทุกปีจะมีการอัญเชิญพระแก้วบุษราคัมเข้าขบวนแห่รอบตัวเมืองอุบลฯเพื่อให้ศาสนิกชนได้นมัสการและสรงน้ำ พระแก้วบุษราคัม แกะมาจากแก้าบุษราคัมหน้าตักกว้าง 3 นิ้ว สูงจากเรือนแท่นถึงเปลวพระโมฬี 5 นิ้ว มีความงดงามเป็นอย่างมาก วัดมหาวนาราม (วัดป่าใหญ่) วัดเก่าแก่และถือเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประดิษฐานในพระอุโบสถคือ พระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยสร้างขึ้นใน พศ. 2350 ทุกวันเพ็ญเดือน 5 ประมาณเมษายน ของทุกปีจะมีการทำบุญตักบาตร เทศน์มหาชาติชาดกและสรงน้ำพระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง วัดสระประสานสุข หรือวัดบ้านนาเมือง  วัดที่มีพระอุโบสถแปลกตา สร้างเป็นรูปเรือสุพรรณหงส์ประดับตกแต่งด้วยเซรามิค นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่น่าสนใจได้แก่หอระฆังประดับเซรามิค พิพิธภัณฑ์หลวงปู่บุญมี และวิหารกลางน้ำเรือธรรม นาคราชหรือที่เรียกกันสั้นๆว่าวิหารกลางน้ำที่สร้างไว้กลางน้ำบนพญานาคราชรูปร่างคล้ายเรือ วัดใต้พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ เป็นวัดที่สำคัญวัดหนึ่งของจังหวัดอุบลราชธานี สร้างเมื่อปี 2322 เดิมชื่อวัดใต้เทิงตามประวัติกล่าวว่าเดิมมีอยู่ 2 วัด วัดใต้เทิงและวัดใต้ท่า ต่อมายุบรวมกันเป็นวัดเดียวในปี 2545 เหลือแต่คำว่า วัดใต้เทิง สิ่งสำคัญวัดนี้สร้างด้วยศิลปะ 3 ชาติอยู่หลังเดียวกัน คือหลังคาเป็นทรงไทยประยุกต์ส่วนฐานเป็นศิลปะขอมผสมเวียดนาม เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดใหญ่หนัก 1 ตื้อ เท่ากับ 1,000 กิโลกรัมจึงได้ชื่ออว่าสักใต้พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ




85

เชื่อหรือไม่ว่าในสมัยนี้ เราเดาอายุกันยากมากขึ้น เพราะหลายๆคนดูแลตัวเองดีมากๆ แต่ก่อนเราอาจจะคิดว่าคนที่กำลังจะอายุเข้าเลขสามนั้นจะต้องดูแก่และมีอายุ ซึ่งได้พิสูจน์แล้วว่า ไม่เป็นความจริงเลย เพราะหลายๆคนที่อายุสามสิบหรือสี่สิบก็ยังคงดูดีและอ่อนกว่าวัย ซึ่งเคล็ดลับเหล่านั้น ก็คงไม่พ้นการดูแลตัวเองอย่างดีและใส่ใจทุกรายละเอียด เริ่มตั้งแต่อาหารที่รับประทาน รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการดูแลและบำรุงผิว แต่ก็มีไม่น้อย ที่อายุน้อยแต่มีปัญหาผิวและปัญหาเรื่องสุขภาพ ซึ่งชี้ให้เห็นว่า เราควรเริ่มดูแลผิวตั้งแต่เนิ่นๆเพื่อที่จะให้ผิวแข็งแรงและเกิดริ้วรอยได้ช้ามากขึ้น

สารสกัดที่มาจากธรรมชาติล้วนเป็นสิ่งที่ดีต่อผิวอย่างมาก เพราะธรรมชาตินั้นจะรังสรรค์สารธรรมชาติมาเพื่อเยียวยาดูแลผิว ปรนนิบัติผิวของเราให้ดูเรียบเนียน และบำรุงอย่างล้ำลึก ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยให้ผิวอ่อนวัยขึ้นนั้นส่วนมากจะเป็นเซรั่มสกัดจากธรรมชาติและครีมลดริ้วรอย สารสกัดธรรมชาติ และยังมีนวัตกรรมใหม่ๆในการดูแลผิวเช่น สเปรย์เซรั่มลดริ้วรอย ส่วนแบรนด์เซรั่มที่น่าสนใจนั้นก็มี เซรั่ม MiracleOne ที่ทำให้ผิวไร้ริ้วรอยและช่วยให้ดูเด็กขึ้น เมื่อได้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเราก็ควรที่จะไม่ละเลยการทานสารอาหารที่ดีต่อผิว ซึ่งเว็บไซต์ bangkokpattayahospital ได้แชร์ไว้ว่า โดยปกติร่างกายต้องรับประทานอาหารทุกวันเพื่อสร้างการเจิญเติบโตให้กับร่างกาย สร้างภูมิคุ้มกัน และสร้างเสริมสุขภาพให้แร็งแรง  ผิวเองก็เช่นกัน ที่ต้องการอาหารเพื่อเข้าไปบำรุงเซลล์ผิวให้ดูเปล่งปลั่ง สดใส มีสุขภาพดี  นอกเหนือจากการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ  พักผ่อนให้เพียงพอ  หรือดื่มน้ำวันละ 6 แก้วเป็นอย่างน้อยแล้ว  “อาหารที่ผิวต้องการ”  ในที่นี้หมายถึงอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารเพื่อผิวพรรณที่สดใส ดูเปล่งปลั่งตลอดเวลา พืช ผัก ผลไม้  ตระการไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ( Antioxidant) ช่วยต่อสู้กับมลภาวะจากสิ่งแวดล้อม กำจัดของเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ส้ม มะนาว มะละกอ สตรอเบอร์รี่ บรอคเคอร์รี่ ดอกกะหล่ำ ผักโขม แครอท คะน้า เป็นต้น พืชที่มีเบต้าแคโรทีน (Beta-carotene) หรือวิตามินเอ (Vitamin A) ช่วยเสริมสร้างเซลล์ผิว ซ่อมแซมเซลล์ที่ถูกแสงแดดทำลาย ทั้งยังช่วยต่อต้านการเกิดมะเร็งผิวหนังด้วย เริ่ด! เช่น ฟักทอง แครอท แตงโม แคนตาลูป มะเขือเทศสุก ฝรั่ง ผักโขม เป็นต้น เซเรเนียม (Selenium) ช่วยปกป้องผิวจากการถูกแสงแดดทำลาย  มีมากในธัญพืชที่ไม่ฟอกขาว เช่น เนื้อแดง กุ้ง ปู ข้าวกล้อง ไข่ เห็ด วิตามินซี (Vitamin C) ช่วยผลิตคอลลาเจน และปกป้องเซลล์ผิวถูกทำลาย พบอาหารผิวมากๆ จาก ฝรั่ง ส้ม สับปะรด และมะขามป้อม อาหารที่มีวิตามินอีและสังกะสี (Vitamin E & Zinc) ช่วบปกป้องผิวชั้นนอกจากรังสี UV วิตามินอี เช่น น้ำมันรำข้าว น้ำมัน ถั่ว งา ข้าวกล้อง สังกะสีพบในปู หอยนางรม เนื้ออกไก่ จมูกข้าวกรดไขมันจำเป็นตระกูลโอเมก้า-3 (Essential Fatty Acid: Omega-3) เสริมสร้างให้ผิวชั้นนอกแข็งแรง จึงสามารถเก็บความชุ่มชื้นไว้ในผิวได้ดี ช่วยให้ผิวไม่แห้งตึง ป้องกันการอักเสบ พบมากในปลาทู ปลาทะเลทั่วไป สาหร่าย น้ำมันถั่วเหลือง



86

หากเราเกิดและเติบโตในเมืองใหญ่ๆหรือเมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานคร เราอาจจะเห็นถึงความแออัดของทั้งตัวเมืองและจำนวนประชากร เพราะทั่วประเทศต่างก็หลั่งไหลมาทำงานและใช้ชีวิต การมีบ้านกลางเมืองอาจจะไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีนัก เพราะความแออัดรวมไปถึงปัญหาด้านการจราจรซึ่งต่อให้เรามีบ้านและคอนโดติดรถสาธารณะอย่างรถไฟฟ้าและรถไฟใต้ดิน เราก็ยังต้องเผชิญกับปัญหาอื่นๆได้ เช่น มลภาวะทางเสียงและทางอากาศอย่าง PM 2.5 ที่แทบจะเป็นปัญหาหลักในเมืองใหญ่ๆทั่วโลก

แต่ถ้าเราลองหาทำเลและพื้นที่ในเขตต่างจังหวัดหรือชานเมืองอย่างนนทบุรี ที่ไม่ห่างไกลจากกรุงเทพมากนัก และยังสามารถเดินทางได้ในเวลาที่ไม่นานมาก เราอาจจะต้องเพิ่มเวลาในการเดินทางมากขึ้น แต่เวลาที่เรากลับมาพักผ่อนที่บ้าน เราก็ได้อยู่กับบรรยากาศที่สงบมากขึ้น และห่างไกลความแออัด และหากเราอยากได้บ้านและที่อยู่อาศัยแถวนนทบุรี เราควรที่จะปรึกษามือชีพอย่าง ตัวแทนฝากขายบ้าน นนทบุรีหรือนายหน้าบ้านมือสอง บางใหญ่ บางบัวทองที่สามารถหา ทาวน์เฮ้าส์นนทบุรี และบ้านเดี่ยวนนทบุรีมาให้เราได้เลือกชมบ้านได้ เมื่อได้บ้านและที่อยู่อาศัยตามที่เราต้องการแล้ว เราควรหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆที่เราสามารถไปเที่ยวชมได้ ซึ่งเว็บไซต์ไปด้วยกันได้แชร์ไว้ว่า ศาลากลางจังหวัดนนทบุรี (หลังเก่า) ตั้งอยู่ บริเวณท่าน้ำนนทบุรี ใกล้กับหอนาฬิกา  เป็นอาคารไม้สักเก่าแก่ที่เปี่ยมไปด้วยคุณค่าทาง ประวัติศาสตร์ สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5  ลักษณะอาคาร สร้างด้วยไม้สักเป็นสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก ที่ประยุกต์ให้เข้ากับ ภูมิอากาศเขตร้อน อาคารหลังนี้ได้รับการอนุรักษ์ และปรับปรุงให้เป็นที่ตั้ง พิพิธภัณฑ์จังหวัดนนทบุรี อันเป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องราวความเป็นมาของจังหวัดนนทบุรีอย่างครบถ้วน  โดยเป็นแหล่งรวบรวม เก็บรักษา และจัดแสดงหลักฐานทางประวัติศาสตร์ตลอด จนมรดกทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญาอันทรงคุณค่า ท่าน้ำนนท์ ท่าเรือขนาดใหญ่ จุดจอดเรือทุกสายที่มายังนนทบุรี รวมทั้งจุดจอดรถประจำทาง เรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางความคึกคักของนนทบุรี และเป็นที่ตั้งของตลาดนนทบุรี ตลาดชุมชนขนาดใหญ่ ที่รวมร้านค้า ร้านอาหาร ที่อร่อยเด็ดดวงไว้มากมาย มาที่นี่ส่วนใหญ่จะนิยมมาหาของอร่อยทาน และซื้อของกินกลับบ้าน ซึ่งมีร้านอาหารขึ้นชื่อ ไม่ว่าจะเป็น เกาเหลาเมืองนนท์ ส้มตำ หมูสะเต๊ะ  เป็ดพะโล้ ข้าวหมูแดง หมูกรอบ ขนมปัง ขนมหวาน เรียกว่ามีให้เลือกทานกันจนอิ่มท้อง  Street Art เมืองนนท์ ใต้สะพานมหาเจษฎาบดินทร์ เป็น Street Art  ที่วาดได้อย่างว้าว สวยงามสมจริงแบบสามมิติ แต่ละภาพสะท้อนเรื่องราว วิถีชีวิต ชุมชน ประเพณี วัฒนธรรม ของดีจังหวัดนนท์ รวมถึงอัตลักษณ์ความเป็นเมืองนนท์ ถูกถ่ายทอดไว้บนภาพศิลปะแบบสตรีทอาร์ททั้งบนกำแพง บริเวณตอม่อสะพาน กลายเป็นสีสัน ที่ใครผ่านไปมาต้องหันมามองและแวะมาถ่ายภาพ





87

อย่าให้ความกลัวมาจำกัดความฝันของเราในการจะเป็นเจ้าของธุรกิจ คนเราอาจจะมีต้นทุนที่แตกต่างกัน แต่ความพยายามและความสามารถในการศึกษาหาความรู้ด้านกฎหมายของนักธุรกิจรุ่นใหม่ๆนั้น ต่างก็ถือว่าอาจเป็นจุดเปลี่ยนในการทำธุรกิจได้ ยิ่งเรารู้ข้อกฎหมายมากเท่าใด เราก็จะเริ่มต้นดำเนินทางธุรกิจได้อย่างราบรื่นและมีความถูกต้องมากขึ้น สิ่งนี้อาจจะเป็นข้อได้เปรียบอีกด้วย เพราะความรู้ในเรื่องกฎหมายนั้นสามารถทำให้เรารู้จักวางแผนการทำงานอย่างมีระบบระเบียบมากขึ้น

เมื่อเกิดการติดขัดในการทำธุรกิจ อาจจะสร้างความเครียดและทำให้เรารู้สึกผิดหวังได้ ในสภาะความตึงเครียดรวมไปถึงวิกฤติเศรษฐกิจต่างๆ อาจนำไปสู่การเป็นโรคซึมเศร้าตามมาได้ การมีที่ปรึกษาในเรื่องการทำธุรกิจทั้งในเรื่อง IP Services และกฎหมายถือว่าเป็นตัวช่วยที่ดี รวมไปถึงการเข้าพบจิตแพทย์เพื่อดูแลสภาพจิตใจ สุขภาพจิตก็ถือว่าเป็นการรักษาและป้องกันตัวเอง และถ้าเราอยากมีแนวทางในการดำเนินธุรกิจอย่างประสบความสำเร็จพร้อมกับการมีทัศนคติที่ดี ทางเว็บไซต์มันนี่ฮับได้แชร์บทความอย่างน่าสนใจไว้ว่า ต้องเรียนรู้และปรับปรุงธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ในการดำเนินธุรกิจจำเป็นอย่างมากที่จะต้องเรียนรู้และปรับปรุงอยู่เสมอ เพราะหากไม่ทำ ก็เท่ากับว่า ธุรกิจนั้นเตรียมตัวที่จะต้องเจอกับการขาดทุน ล้มละลาย และหายไปอย่างช้าๆแน่นอน อย่ากลัวว่าจะล้มเหลว ในการทำธุรกิจอย่าได้กลัวความล้มเหลว เพราะความล้มเหลวไม่ใช่ความโชคร้ายเสมอไป แต่เป็นโอกาสที่จะทำให้เราได้เรียนรู้ เมื่อเราทำดีที่สุดแล้วก็ไม่ได้หมายความว่าจะสำเร็จเสมอ จงนำเอาความล้มเหลวนี้มาเป็นประสบการณ์ และแก้ไขให้ดีขึ้นในอนาคตจะดีกว่า เชื่อเถอะทุกอย่างย่อมเป็นเหตุเป็นผล ผู้ที่ประสบความสำเร็จหลายคนล้วนเคยล้มเหลวมาแล้วทั้งนั้น ฟื้นตัวให้เร็วหากผิดพลาด หากธุรกิจต้องพบกับคำว่า “ล้มเหลว” อย่ามัวแต่เสียใจ โทษตัวเอง หรือจมปลักอยู่กับที่ ควรคิดในแง่ดีและนำความผิดพลาดนั้นมาวิเคราะห์และเรียนรู้ เพื่อที่จะพัฒนาบริษัทต่อไปจะดีกว่า ที่สำคัญจงจำเอาไว้ว่าอดีตแก้ไขไม่ได้ จงทำอนาคตและปัจจุบันให้ดีที่สุด มีความเชื่อมั่น จงเชื่อเถอะว่าบริษัทจะสำเร็จได้เราเองต้องมีความเชื่อมั่นและคิดบวกมาก่อน ซึ่งความเชื่อมั่นนี้จะส่งผลไปถึงผู้ร่วมงานได้อีกด้วย ดังนั้นไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม ควรจะมีความเชื่อมั่นเสมอ แล้วความสำเร็จจะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม อย่ามั่นใจจนไม่ฟังใคร ความมั่นใจในการทำธุรกิจเป็นสิ่งดีแต่อย่าทำตัวมั่นใจเกินไปจนไม่ฟังใครท้วงติงอะไรเลย ทางที่ดีควรที่จะฟังความคิดจากทุกคนเพื่อจะได้นำมาพัฒนาตัวเองและบริษัท ตัดสินใจให้เร็วอย่ามัวช้าเพื่อโอกาสที่ดี หากมีสิ่งดีๆที่จะทำให้ธุรกิจของเราพัฒนาไปได้ อย่าผัดวันประกันพรุ่งรอที่จะทำเด็ดขาด การรอไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นมาเลย สิ่งที่สำคัญที่สุดในบริษัทก็คือตัวเราเอง ไม่ว่าในบริษัทจะมีพนักงานนับร้อยคนหรือเครื่องจักรราคาแพงเท่าใด แต่คนที่สำคัญที่สุดก็คือตัวเราเองดังนั้นพยายามดูแลรักษาสุขภาพของตัวเองให้ดีที่สุด เพื่อจะได้เห็นพัฒนาการและความสำเร็จของบริษัทไปนานๆ




88

การทำธุรกิจและการค้าต่างๆ หลายคนอาจจะเริ่มดำเนินการโดยคำนึงถึงทุนและกำไรเป็นหลัก รวมไปถึงการมองหาหน้าร้านหรือแหล่งที่กระจายสินค้าหรือจำหน่ายสินค้าได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งแน่นอนว่าธุรกิจนั้นมีหลากหลาย ถ้าเป็นในเรื่องการค้าขาย ทำเลที่ตั้ง การลงทุนและรายรับจากกำไรต้องมีความสำคัญมาเป็นอันดับต้นๆอยู่แล้ว แต่ก็มีธุรกิจอย่างอื่นที่เป็นประเภทงานบริการ หรืออุตสาหกรรมประเภทอื่นที่เจ้าของธุรกิจอาจจะเริ่มศึกษาและทำความเข้าใจในเรื่องของทางกฎหมายต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจ อย่าง IP law firm Thailand
 ทั้งภายในและต่างประเทศ ซึ่งการมีที่ปรึกษาที่ดีนั้น จะช่วยให้เราดำเนินการได้อย่างถูกต้องและตรงตามกระบวนการ

แน่นอนว่าการทำธุรกิจไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือใหญ่ หรือจะเป็น Start-up, SMEs ต่างก็ต้องมีการดำเนินการทางกฎหมายที่ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นการจดทะเบียนต่างๆที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงการดำเนินในเรื่องทางกฎหมายอื่นๆ เพราะถ้าหากเกิดปัญหาใดๆขึ้นมา เราจะได้หลักฐานในการดำเนินคดี และยังปกป้องในเรื่องของการละเมิดลิขสิทธิ์ การจดทะเบียนการค้า และอื่นๆได้อีกด้วย เมื่อเรามีใจรักในการทำธุรกิจและอยากจะทำให้ธุรกิจของเราผ่านวิกฤติและปัญหาต่างๆ เราควรเชื่อมั่นและมั่นใจในความสามารถของตนเองและจะต้องมีแนวคิดที่ดีในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งทางเว็บไซต์มันนี่ฮับได้แชร์ไว้ว่า รักในธุรกิจของตัวเอง เพราะธุรกิจนี้เราสร้างมากับมือ ความสำเร็จคือสิ่งที่เราต้องการดังนั้นจะทำเป็นเล่น ไม่จริงจัง ขอไปที ไม่ได้ และตรงกันข้ามเราต้องทำงานด้วยความรัก ความสนุก ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้เราไม่ท้อ สามารถผ่านจุดที่ยากลำบากไปได้อย่างง่ายดาย ซึ่งความรู้สึกชอบนี้จะสอนกันไม่ได้ มันต้องเกิดมาจากจิตใต้สำนึกของเราเอง ถ้าไม่รู้จะเริ่มจากอะไร ลองคิดถึงที่มาของการทำธุรกิจนี้ และเมื่อสำเร็จแล้วมันจะได้ผลตอบรับอะไรกลับไป เช่น ทำธุรกิจเพื่อให้ครอบครัวมีเงินมีทองใช้ไม่ขาดมือและถ้าทำสำเร็จ ทุกคนในครอบครัวก็จะสบายเป็นต้น ต้องหาคำนิยามของธุรกิจตัวเองให้ได้ ลองตั้งคำถามให้กับธุรกิจของเราเองว่า ธุรกิจเราคืออะไร ? ขายเสื้อผ้า หรือ ขายดีไซด์ ? ขายขนมหม้อแกง หรือ ขายวัฒนธรรมไทย ? ขายความสวยหรือขายความรวย? และของเราล่ะ คำนิยามสั้น ๆ ของธุรกิจเราคืออะไร หากเรารู้มันก็จะเป็นตัวบอกทิศทางให้เราตระหนักได้ว่าควรจะเดินไปทางไหน เพื่อสื่อสารให้ลูกค้ารู้ว่าเรากำลังขายอะไร อีกทั้งยังง่ายในการกำหนดกลุ่มลูกค้าด้วย ต้องรู้จักกลุ่มลูกค้า การทำธุรกิจที่ดีเราต้องรู้ว่ากลุ่มลูกค้าของเราคือใคร กลุ่มไหน และที่สำคัญกว่านั้นก็คือ การมองพวกเขาเป็น “เพื่อนสนิท” ที่รู้ใจเขาไปหมด เมื่อเขาเห็นสินค้าของเราแล้วเขาอยากได้ รู้สึกว่ามันมีค่าสมควรแก่ราคา และเมื่อเขาถูกใจการซื้อซ้ำก็จะตามมา และธุรกิจของเราก็จะไปรอด ธุรกิจต้องนำเสนอ “คุณค่า” ไม่ใช่ “ราคา” เมื่อเรารู้ว่ากลุ่มลูกค้าของเราคือใคร และสินค้าหรือบริการของเราเข้าไปตอบโจทย์ชีวิตเขาได้อย่างไรแล้ว คราวนี้ให้เราคิดว่าเราควรจะมอบ “คุณค่า” อะไรให้กับเขา ซึ่งหลายๆคนมองข้ามไปเพราะไปคิดถึงแต่เรื่อง “ราคา” อย่างเดียว แบบนี้อาจไม่ตรงใจลูกค้ามากนัก เพราะคุณค่าต่างหาก ที่จะทำให้ลูกค้าเชื่อใจและไว้ใจสินค้าของ



89

ถ้ากล่าวถึงชื่อเสียงของเมืองไทยที่ชาวต่างชาติต่างกล่าวขานแล้วล่ะก็ อันดับแรกก็คงไม่พ้นความน่ารักและเป็นกันเองของคนไทย ที่ทำให้ชาวต่างชาติรักในความมีน้ำใจของเรา ส่วนด้านอื่นก็คงไม่พ้นอาหารไทย ผลไม้เมืองไทย ซึ่งประเทศไทยได้ชื่อว่าเปรียบได้กับ ครัวโลก เพราะสมบูรณ์ในด้านอาหารการกิน และสิ่งที่ชาวต่างชาติหลงใหลอย่างมากนั่นก็คือ สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองไทย ไม่ว่าจะเป็น ทะเลแดนใต้ที่มีน้ำทะเลเขียวสดใส ความสวยงามของประวัติศาสตร์และแหล่งท่องเที่ยวทั่วไทยทุกภาค ซึ่งมีเสน่ห์ที่แตกต่างกันไป เพราะทั้งภูมิประเทศ รวมไปถึงภาษาถิ่น และวัฒนธรรมที่น่าสนใจและเรียนรู้

มนต์เสน่ห์อย่างหนึ่งที่ชาวต่างชาติพลาดไม่ได้เลยคือ การนวดแผนไทย ที่คลายความเมื่อยล้า และช่วยลดความตึงเครียดของร่างกาย การจับตรวจ กดเส้นต่างๆตามร่างกายตั้งแต่หัวจรดเท้าที่ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น จากบทความของเว็บไซต์วงในได้แชร์ไว้ว่า นวดแผนไทย คือ การนวดชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นศาสตร์บำบัดและรักษาโรคแขนงหนึ่งของการแพทย์แผนไทย โดยจะเน้นในลักษณะการกด การคลึง การบีบ การดัด การดึง การอบ และประคบ ซึ่งรู้จักกันโดยทั่วไปในชื่อ “นวดแผนโบราณ” ซึ่งไม่ใช่เพื่อรักษาความเจ็บปวดเท่านั้น แต่ยังดีต่อสุขภาพ และสามารถรักษาโรค เพราะการนวดจะส่งผลโดยตรงต่อร่างกายและจิตใจ โดยอาศัยการสัมผัสอย่างมีศิลปะ แม้ว่าการนวดไทยนั้นทำให้เราสบายตัว คลายความเมื่อยล้า แต่การนวดนั้นใช่ว่าจะมีแต่ข้อดีเสมอไป จริงอยู่ว่าการนวดไทย หรือ การนวดแผนโบราณ นั้นมีข้อดีอยู่มาก แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีข้อเสียเลย ดังนั้นก่อนเข้ารับการนวด ผู้นวดจึงควรจะต้องศึกษาข้อมูลเรื่องประโยชน์และโทษให้ดีเสียก่อน เพื่อป้องกันอันตราย หรือความเสียหายบางอย่างที่อาจเกิดขึ้นกับร่างกายได้ นวดผิดวิธี อันตรายกว่าเดิม อย่างแรกเราต้องเข้าใจก่อนว่าการนวดแผนไทย หรือการนวดแผนโบราณนั้นสามารถที่จะให้โทษแก่ร่างกายเราได้เหมือนกัน ถ้าการนวดกระทำขึ้นอย่างผิดวิธี อย่างเช่น ผู้นวดไม่มีความชำนาญพอ ตัวเราเองมีโรคประจำตัวบางอย่างที่อาจตอบสนองการนวดออกมาในแบบที่เลวร้ายรุนแรงได้ ข้อเสียของการนวดที่พบบ่อยก็คือ อาการฟกช้ำจากการนวดที่แรงเกินไป อาจทำให้เกิดกล้ามเนื้ออักเสบ บวมแดง หากเกิดขึ้นซ้ำ ๆ บ่อยๆ ขึ้น จะทำให้เกิดพังผืด จนต้องไปผ่าตัดออก เช็กโรคประจำตัวก่อน เพราะใครที่มีโรคประจำตัวต่อไปนี้ควรจะต้องงด หรือระมัดระวังให้มากในระหว่างการนวด เนื่องจากการกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต หรือการยืดดัดกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นนั้น อาจทำให้ร่างกายได้รับบาดเจ็บได้ ความเสี่ยงของโรคนั้นก็มีทั้ง โรคความดันโลหิต โรคหัวใจ โรคกระดูกพรุน โรคเกี่ยวกับระบบประสาท โดยเฉพาะไขสันหลัง โรคข้อต่อหลวม โรคหลอดเลือด หรือน้ำเหลืองอุดตัน โรคเบาหวาน






90

เมื่อเรามีความเครียด เราก็ต้องการจะรบายความเครียดนั้นออกมา อยากจะกรีดร้อง ซึ่งก็แค่ช่วยระบายได้แค่ในระยะสั้นเท่านั้น แต่ถ้าการผ่อนคลายความเครียดนั้นยังสามารถทำให้ผิวและสุขภาพกายของเราดีขึ้นด้วยล่ะ ทำไมเราจะต้องพลาดด้วย และสิ่งนั้นก็คือการทำสปา Spa Bangkok ซึ่งการทำสปานั้น เราอาจจะคิดว่า คงมีแค่สาวๆที่ชอบทำ ในยุคที่ใครก็ดูแลตัวเอง ไม่ได้จำกัดแค่สาวๆเท่านั้นที่ชอบทำสปา หนุ่มๆเองก็ชอบทำสปาด้วย เพราะผลลัพธ์ที่ได้จากการทำสปานั้น นอกจากได้ผิวที่อ่อนเยาว์เรียบเนียนขึ้นแล้ว ยังช่วยลงความตึงเครียดอีกด้วย ให้เราได้ชาร์จพลังเพื่อเริ่มสู้กับปัญหาและภาระงานความรับผิดชอบต่างๆ

เราอาจจะเคยสงสัยว่า สปา มีความหมายและความเป็นมาอย่างไร เพราะเราได้ยินคำนี้มาบ่อยมาก แต่ไม่เคยได้รู้ความหมายที่แท้จริง ซึ่งเว็บไซต์เกร็ดความรู้ได้แชร์บทความไว้ว่า สปา (Spa) นั้นเป็นคำที่มาจากภาษาละตินคือ Sanus Per Aquam ซึ่งแปลว่า การดูแลสุขภาพโดยการใช้น้ำ เพื่อให้ได้สุขภาพที่ดีและเกิดความผ่อนคลาย โดยการทำสปานั้นเป็นการดูแลสุขภาพโดยวิธีทางธรรมชาติที่อาศัยน้ำเป็นองค์ประกอบแห่งการบำบัด ผสานควบคู่กับศาสตร์สัมผัสทั้งห้าอย่าง รูป รส กลิ่น เสียง และการสัมผัส เพื่อให้เกิดความสมดุลขึ้นระหว่างร่างกายและจิตใจของเราได้เป็นอย่างดี ศาสตร์สัมผัสทั้ง 5 นั้นคือ รูป เป็นการผ่อนคลายด้วยบรรยากาศ คือการสร้างบรรยากาศให้แก่สถานที่มีความสดชื่นน่าผ่อนคลาย โดยอาจประดับตกแต่งด้วยดอกไม้ หรือรูปภาพที่สวยงามต่างๆ รส เป็นการบำบัดร่างกายด้วยการรับประทานอาหารที่ได้สัดส่วนในปริมาณที่เหมาะสมและปลอดภัยจากสารเคมีต่างๆ อย่างในผักและผลไม้ ตลอดจนเครื่องดื่มสมุนไพรอย่างน้ำชาเขียว หรือขิงอุ่นๆ กลิ่น เป็นการใช้กลิ่นหอมในการบำบัดโดยหลักของอโรมาเธอราปี เพื่อให้เกิดความผ่อนคลาย เสียง เป็นการใช้ดนตรีในการบำบัด ซึ่งเป็นเสียงดนตรีแบบฟังสบาย ๆ รื่นหู อย่างเช่น เสียงน้ำหยด เสียงนกร้อง เสียงน้ำไหล สัมผัส เป็นการนวดผ่อนคลายแบบอ่อนโยน ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายสบายขึ้น และจิตใจก็เย็นลง ประเภทของสปาต่าง ๆ นั้นก็มีทั้ง คลับสปา เป็นสปาขนาดเล็กภายในศูนย์สุขภาพของคนที่มาออกกำลังกาย หรือสถานบริการในการบริหารร่างกายต่างๆ เดสทิเนชั่นสปา เป็นสปาสำหรับการฟื้นฟูสุขภาพ เป็นสถานที่ซึ่งมีห้องสำหรับพักค้างคืน โดยก่อนเข้าพักจะทำการตรวจสุขภาพเพื่อเป็นการเลือกโปรแกรมบำบัดได้อย่างเหมาะสมโดยใช้วารีบำบัด เมดิคอลสปา เป็นสปาที่นำธรรมชาติมาผสมผสานกับวิทยาการทางการแพทย์ ซึ่งเป็นสปาที่มีแพทย์ผู้ชำนาญโดยเฉพาะเป็นผู้ดูแล น้ำพุร้อนสปา เป็นสปาที่มีบ่อน้ำแร่และน้ำพุร้อน ช่วยบำบัดและรักษาอากาเจ็บป่วยอย่างอาการปวดไขข้อ เป็นต้น เดย์สปา เป็นสปาส่วนใหญ่ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง โดยจะเน้นในเรื่องของความสวยงามควบคู่กับการผ่อนคลาย โฮมสปา เป็นการทำสปาด้วยตนเองแบบง่าย ๆ ที่บ้าน โดยอาจเรียกใช้บริการสถานบริการสปาที่ส่งพนักงานมาบริการถึงบ้าน







91

การเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด ประโยคนี้เราอาจจะได้ยินมาโดนตลอด และยังไม่ค่อยเข้าใจอย่างลึกซึ้งมากนัก จนกระทั่งเมื่อเรามีอายุมากขึ้น เราจึงตระหนักได้ว่า เรายังสามารถเรียนรู้สิ่งใหม่ๆได้ตลอด ไม่ว่าจะอายุเท่าไร ความรู้และสิ่งใหม่ๆนั้นรอคอยให้เราได้ค้นพบ ยิ่งในยุคดิจิทัลที่มีเทคโนโลยีครอบคลุมแทบจะทุกอย่าง หากเราไม่มีความรู้ในด้านนี้ การใช้ชีวิตในประจำวันของเราอาจติดขัดและพบเจอปัญหามากขึ้น เช่น หากเราจะทำธุรกรรมด้านการเงิน แล้วเราไม่รู้วิธีการใช้โมบายแบงค์กิ้ง เราก็จะต้องเสียเวลาเดินทางไปที่ธนาคาร

จำเป็นหรือไม่ ที่เราต้องเก่งรอบด้าน เก่งในทุกเรื่อง คำตอบนี้เราเท่านั้นคือคนที่รู้ดีที่สุด ถ้าความรู้นั้นมันสร้างประโยชน์ในแก่การดำเนินชีวิตในประจำวันของเรา ก็ถือว่าเราเก่งในด้านนั้นแล้ว การเก่งในด้านของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน บางคนเก่งในเรื่องการใช้กำลังด้านกีฬาต่างๆ จึงไม่แปลกใจเลยว่า ไม่ว่าจะลงเล่นกีฬาชนิดใด คนเหล่านั้นสามารถทำได้ดีเสมอ ศักยภาพในด้านการแก้ปัญหา ไม่ว่าจะเป็นปัญหาขนาดใด เราก็สามารถแก้ไขได้เสมอ แม้ว่าจะต้องใช้เวลาในการดำเนินการ เช่น หากเราโอนเงินไปผิดบัญชี แน่นอนว่าปัญหานี้แค่ได้ยินชื่อ ก็สร้างความปวดหัวแล้ว โดยเฉพาะเรื่องเงิน เราสามารถเริ่มได้จากการติดต่อเจ้าของบัญชี ธนาคาร และลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจ และยื่นเรื่องไปที่ธนาคาร หากยังไม่ได้เงินคืน อาจจะต้องถึงเพจสื่อต่างๆที่สามารถสร้างแรงกดดันได้ และนี่คือการแก้ปัญหาในยุคดิจิทัล นอกจากนี้พื้นฐานการเรียนรู้ของเราก็มีส่วนสำคัญในการพัฒนาศักยภาพ ซึ่งบางคนเรียนจากหลักสูตรธรรมดา บางคนเรียนในหลักสูตร International school แต่ในท้ายที่สุดไม่ว่าจะเรียนจากหลักสูตรไหน หากเรามีใจรักที่จะพัฒนาตัวเอง เราก็จะสามารถต่อยอดความรู้ต่างๆได้เสมอ ในเว็บไซต์ภารกิจได้แชร์บทความไว้ว่า ในตอนที่เริ่มเข้าสู่โลกการทำงาน จำเป็นต้องมีทักษะ Hard Skills หรือทักษะทางวิชาชีพในงานนั้น อีกทั้งใช้เวลาหลายปีเพื่อฝึกฝนให้เกิดความชำนาญเฉพาะทางรวมถึงอาจเรียนเพิ่มเติมจากมหาวิทยาลัยในขั้นสูงขึ้นไป แต่ลำพังทักษะด้าน Hard Skills อย่างเดียวนั้นดูจะไม่เพียงพอที่จะทำให้ประสบความสำเร็จในการทำงานกับองค์กร สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นและเป็นที่ยอมรับคือ องค์กรส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับผู้ที่มีทักษะการปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นหรือ Soft Skills ซึ่งเป็นทักษะที่ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย ถ้าต้องการก้าวหน้าในอาชีพ ดังนั้น Soft Skills จึงเป็นทักษะในการทำงานที่จําเป็นในอนาคต ซึ่งส่งผลต่อความก้าวหน้า เป็นส่วนช่วยให้ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ราบรื่น และประสบความสำเร็จ ทักษะการสื่อสารเป็นทักษะที่ต้องใช้อยู่เสมอ เนื่องจากการทำงานในองค์กรต้องติดต่อกับผู้อื่นตลอดเวลา เช่น หัวหน้า ลูกน้อง ผู้ร่วมงานในทีม ซัพพลายเออร์ รวมถึงติดต่อสื่อสารกับลูกค้าเพื่อเสนอขายสินค้าหรือบริการ การสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ข้อมูลถูกต้องชัดเจน ตรงประเด็น ครบถ้วนสมบูรณ์ ไม่ตกหล่น รวมถึงรู้จักเลือกใช้คำพูดให้เหมาะสมกับสถานการณ์ นอกเหนือจากการพูดแล้ว การฟังก็เป็นสิ่งสำคัญในการสร้างทักษะการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ กล่าวคือ การเป็นผู้ฟังที่ดีจะทำให้เข้าใจสิ่งที่ผู้พูดต้องการอย่างแท้จริง ขณะรับฟัง ไม่ควรรีบด่วนสรุป หรือไม่อดทนฟังจนจบ ทำให้ไม่เข้าถึงความต้องการที่แท้จริงของผู้พูด และเป็นสาเหตุให้เกิดความล้มเหลวในการติดต่อสื่อสาร







92

เมื่อครั้งเรายังเด็ก เราอาจจะตั้งคำถามกับตัวเองซ้ำๆว่า ทำไมเราต้องมาเรียนและเราจะได้ความรู้อะไรจากการเรียนเหล่านี้ การได้ลงมือทำและทดลองทำในสิ่งต่างๆที่ไม่เคยทำมาก่อน ทำให้เราสามารถตอบปัญหาที่ค้างคาใจได้ไม่มากก็น้อย ยิ่งไปกว่านั้น การที่เราล้มเหลวจากสิ่งที่เราทำ แน่นอนว่าความรู้สึกแรกที่ประดังเข้ามาเลยคือ ความเสียใจ ความผิดหวัง และความท้อแท้ที่ไม่อยากจะทำอะไรต่อไป แต่เมื่อเราพิจารณาว่า เราสามารถนำประสบการณ์เหล่านั้นมาวิเคราะห์ถึงจุดเด่นและข้อบกพร่องที่เรามี จากนั้นก็นำมาปรับปรุงทำให้ดีขึ้น

การที่จะเป็นคนที่มีคุณภาพทั้งด้านความสามารถและทัศนคตินั้น ต้องเกิดจากการปลูกฝังที่ดีจากครอบครัว รวมไปถึงการได้คลุกคลีกับคนรอบข้างที่ดีอีกด้วย นอกจากนี้ยังรวมไปถึง การที่เราไม่หยุดเพิ่มทักษะต่างๆ ทั้งการอ่านและการลงมือปฏิบัติ การได้เลือกเรียนในสถานศึกษาที่ตอบโจทย์ของตัวเราเองก็มีส่วนทำให้เรานั้นมีคุณภาพ แต่ไม่ใช่ว่าจะสถานศึกษาที่อื่นไม่ดี ซึ่งไม่ใช่ตรรกะที่ถูกต้องนัก ไม่ว่าเราจะจบมาจาก Top International school Bangkok ระดับจังหวัด หรือระดับประเทศ หรือจะมาจากระดับตำบล ถ้าพื้นฐานเราเป็นคนไม่หยุดนิ่งและพร้อมจะพัฒนาตนเองอยู่เสมอ ไม่ว่าเรื่องใด อุปสรรคใดก็สามารถแก้ปัญหาข้ามผ่านไปได้ ซึ่งในเว็บไซต์แมนพาวเวอร์ได้แชร์บทความเกี่ยวกับการเพิ่มทักษะไว้ว่า ในยุคปัจจุบันการพัฒนาทักษะในการทำงานถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่พนักงานและนายจ้างไม่ควรมองข้ามและสมควรที่จะให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เราสามารถแบ่งการพัฒนาทักษะการทำงานออกเป็นสองประเภท ประเภทแรกคือการพัฒนาทักษะทางด้านอารมณ์ (EQ) และ ประเภทที่สองคือการพัฒนาทักษะทางด้านความสามารถที่เป็นสิ่งที่จับต้องและวัดได้เช่นเพิ่มทักษะด้านภาษาอังกฤษ (English skill) เพิ่มทักษะในด้านการบริหารจักการ (management skill) ทักษะในการเป็นผู้นำ (leadership skill) และทักษะด้านการสื่อสาร (communication skill) เป็นต้น ซึ่งการพัฒนาทักษะการทำงานควรจะต้องพัฒนาทั้งสองประเภทควบคู่กันเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพที่สูงสุด การที่พนักงานจะมีพร้อมทั้งสองทักษะก็ถือว่าเป็นเรื่องไม่ง่ายนักแต่ก็ไม่ยากจนเกินไปที่จะพัฒนาไม่ได้ เทคนิคการพัฒนาทักษะการทำงานก็มีอยู่มากมายแล้วแต่มุมมองและความเหมาะสมของแต่ละบุคคลหรือองค์กรที่จะนำมาใช้เพื่อให้เข้ากับสภาพการทำงานและให้เข้ากับพนักงานให้มากที่สุด การพัฒนาทักษะการทำงานไม่ใช่เรื่องยาก แต่การปฏิบัติที่จะนำไปสู่ความสำเร็จต่างหากที่เป็นสิ่งที่ยาก ถ้าเรารู้สึกว่าไม่มีแรงจูงใจ ไม่มีความตั้งใจที่จะปฏิบัติ และไม่เห็นความสำคัญ เช่น คิดว่าทำไปก็เท่านั้น ทำไปก็คงไม่มีอะไรดีขึ้น เราอาจจะกำลังทำร้ายตัวเองทางความคิด เพราะฉะนั้นถ้าเราเป็นหนึ่งในบุคคลที่กำลังทำร้ายตัวเองทางความคิด เราควรปรับความคิดใหม่ให้คิดบวก สุดท้ายนี้เราทุกคนมีศักยภาพในการพัฒนาทักษะการทำงานของตนเองและคิดว่าทุกๆคนมีความรู้สึกและอยากที่จะให้ตัวเองมีความพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพียงแต่จะมีใครที่จะดึงความตั้งใจและความพยายามเหล่านั้นมาใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์มากกว่ากันท่านั้น




93

เมื่อการได้เล่นกับลูกหรือเด็กๆ ทำให้เราแทบจะหมดพลัง ไม่รู้ว่าเด็กๆในวัยนี้ไปเอาพลังมาจากไหน เพราะเหมือนกับว่ามีพลังอย่างล้นหลาม วิ่งได้ทั้งวัน และเล่นได้อย่างไม่หยุดหย่อน กว่าจะหมดพลังก็ทำเอาพ่อแม่ถึงกับเหงื่อออกและปวดหัวอย่างมาก ซึ่งแน่นอนว่าเด็กๆย่อมมีความซนตามวัยและชอบที่จะเล่นสนุก โดยพ่อแม่นั้นสามารถเสริมพัฒนาการปนไปกับการเล่นสนุกของเด็กๆได้เลย

สิ่งสำคัญที่ควรจะต้องคำนึงถึงอย่างเป็นพิเศษนั้นก็คือ เรื่องอาหารและสารอาหารที่สำคัญที่เด็กๆในแต่ละวัยควรได้รับอย่างเหมาะสมและเต็มที่ ซึ่งจะต้องบำรุงร่างกายให้เจริญเติบโตอย่างแข็งแรงทั้งภายนอกและภายใน เปรียบได้กับว่าร่างกายที่รับสารอาหารอย่างเต็มที่พร้อมที่จะสนุกไปกับการเล่นและการเรียนรู้สิ่งต่างๆ รับสิ่งใหม่ๆได้อย่างมีการคิดวิเคราะห์ เพราะฉะนั้นแล้วสิ่งสำคัญที่ตามมาคือการได้รับการศึกษาที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนรัฐบาล เอกชน รวมไปถึงนานาชาติที่มีหลักสูตรเตรียมพร้อมสำหรับเด็กเล็กจนถึงระดับมัธยมปลายที่มี Sixth Form ที่พร้อมจะให้เด็กในวัยนี้ได้รับความรู้และมีอิสระในการเลือกเรียนอย่างเต็มที่ และสารอาหารต่างๆที่ควรเสริมเข้าไปนั้นคือ โปรตีน เพราะเด็กวัยเรียนจำเป็นต้องได้รับอาหารที่มีโปรตีนให้เพียงพอเพื่อความเจริญเติบโตของร่างกาย เพื่อใช้ในการสร้างกระดูก กล้ามเนื้อ และเซลล์เนื้อเยื่อต่างๆ ทั่วร่างกาย โปรตีนที่ได้รับส่วนใหญ่ควรมาจากไข่ น้ำนม เนื้อสัตว์ และถั่วเมล็ดแห้งต่างๆ ไขมัน อาหารประเภทไขมันจะช่วยให้ลูกได้รับพลังงานมากขึ้น ประกอบไปด้วยไขมันจากสัตว์และจากพืช เช่น หมู ไก่ วัว ปลา และสัตว์อื่นๆ ที่เรานำมาบริโภค รวมทั้งน้ำมันประเภทต่างๆ วิตามินและเกลือแร่ พบว่าเด็กในวัยนี้มักจะขาดวิตามินเอและธาตุเหล็ก ซึ่งวิตามินเอจะได้จากการกินไข่แดง ตับสัตว์ต่างๆ ผักใบเขียวสีเหลือง ร่วมกับอาหารที่มีไขมันและโปรตีนเพียงพอ ส่วนธาตุเหล็กนั้นได้รับจากการกินไข่เป็ด ไข่ไก่ เครื่องในสัตว์ต่างๆ และผักใบเขียวให้มาก ซึ่งแร่ธาตุและวิตามินสำหรับเด็กที่จำเป็นมีทั้ง วิตามินบี 12 มีส่วน ในการทำงานของระบบประสาทและสมอง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาความคิด สติปัญญาของลูก พบมากในเนื้อสัตว์ เครื่องในสัตว์ เนื้อปลา ไข่ และนมที่มีวิตามินบี 12 สูง แคลเซียมมีความสำคัญต่อการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง มีส่วนในการกระตุ้นปฏิกิริยาโต้ตอบของระบบประสาทสัมผัสของลูก และจำเป็นต่อการเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง พบมากในปลาไส้ตัน ถั่วเหลือง เมล็ดพืชต่างๆ และนมที่มีแคลเซียมสูง ธาตุเหล็กเป็นส่วนประกอบสำคัญของฮีโมโกรบินในเม็ดเลือดแดง ในเซลล์สมองก็มีธาตุเหล็กอยู่ด้วย ธาตุเหล็กมีส่วนช่วยในการสร้างสารสื่อสัญญาณประสาท เมื่อได้รับธาตุเหล็กอย่างเพียงพอ ลูกน้อยจะมีพัฒนาการทางการเรียนรู้และความจำที่ดี ธาตุเหล็ก พบมากในเนื้อแดง ปลา ไข่แดง ตำลึง ใบขี้เหล็ก งา และนมที่มีธาตุเหล็ก ธาตุสังกะสี  พบในโครงสร้างเซลล์สมองเช่นเดียวกับธาตุเหล็ก เมื่อได้รับธาตุสังกะสีอย่างเพียงพอ จะช่วยพัฒนาความจำ การเรียนรู้ และสายตาของลูกน้อย





94

เราอาจจะคิดว่าเรารู้จักลูกของเราดีที่สุด เพราะเราตั้งท้องเขามา เราเลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เกิด เราเลยคิดว่าเราสามารถเลือกสิ่งต่างๆแทนเขาได้ ซึ่งการทำอย่างนั้นจะทำให้ลูกของเราไม่เป็นตัวของตัวเอง อย่างเช่น การเลือกเสื้อผ้า รองเท้าให้ลูกใส่ ฟังดูอาจจะเป็นเรื่องธรรมดา แต่เรื่องเล็กๆนี้อาจสร้างเกราะบางๆให้เขาไม่สามารถก้าวผ่านได้ เราจึงควรให้ลูกได้มีส่วนในการเลือกและตัดสินใจในสิ่งที่เกี่ยวกับตัวเขาเอง เพื่อที่เขาจะได้รู้ว่าตัวเองชอบแบบใดและมีความสุขกับสิ่งนั้น

นอกจากนี้เรายังสามารถฝึกและสร้างวินัยให้ลูกตั้งแต่เด็กๆ เพื่อที่จะฝึกให้เขารู้จักทำทุกอย่างให้เป็นระบบระเบียบ อย่างการเลือกโรงเรียนให้ลูกเข้าเรียน เราก็ต้องทำความแนะนำกับตัวลูกว่าโรงเรียนและหลักสูตรแบบไหนที่จะตอบโจทย์ และการพัฒนาในทุกๆด้านของเขาอย่างครบถ้วน ไม่ว่าเขาจะเลือกเส้นทางด้านสายวิชาการ ด้านกีฬา ด้านดนตรีและการแสดง หรือด้านอื่นๆ อย่างหลักสูตรโรงเรียนนานาชาติ Early years international school ถ้าเราสามารถซัพพอร์ตลูกในด้านการศึกษาได้ ก็คงไม่แปลกหากเราจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูก นอกจากนี้การเล่นอย่างมีจินตนการเป็นเพื่อนลูก ก็จะช่วยให้ลูกมีพัฒนาการด้านการแก้ไขปัญหา ซึ่งเราสามารถทำได้โดย เริ่มจากตั้งคำถามปลายเปิดกับทุกการพูดคุย ไม่ว่าเรื่องนั้นจะเล็กน้อยแค่ไหน เพื่อกระตุ้นให้ลูกใช้ความคิด กล้าแสดงออก รวมถึงสามารถถ่ายทอดความรู้สึกของตัวเองได้จากความคิดเหล่านั้นโดยไม่มีถูกผิด เช่น ทำไมลูกถึงชอบตุ๊กตาล่ะ เมฆบนฟ้าเป็นรูปอะไร รู้ไหมว่าถ้าไม่แปรงฟันจะเกิดอะไรขึ้นฯลฯ หรือจะเป็นการพาลูกไปเที่ยวสถานที่ต่างๆ เช่น สวนสนุก สวนสาธารณะ พิพิธภัณฑ์ หรือแม้แต่บ้านเพื่อน บ้านญาติพี่น้อง เพื่อให้ลูกได้มอง สังเกต และจดจำสิ่งต่างๆ รอบตัวที่มีความหลากหลายซึ่งจะเป็นเหมือนสร้างคลังข้อมูลที่ลูกจะนำไปใช้ในกระบวนการคิด และการประติดประต่อเรื่องราวต่างๆ ในอนาคต นอกจากนี้เราควรที่จะสร้างชั่วโมงกิจกรรมบันเทิงอยู่เสมอ เช่น ร้องหรือฟังเพลงที่ชอบ ดูหนังเรื่องโปรด หรือวาดภาพตามจินตนาการ เพื่อช่วยให้ลูกอารมณ์ดี ผ่อนคลาย และมีอิสระให้การคิดโดยไม่ติดกรอบข้อบังคับใดๆ ยิ่งลูกเปิดจินตนาการได้มากเท่าไหร่ ความคิดสร้างสรรค์ก็จะยิ่งมีมาก ฝึกจดบันทึกให้เป็นนิสัย โดยการลองชวนลูกมาทำสมุดบันทึกเล็กๆ เพื่อจดประโยคสั้นๆ ที่ลูกชอบ หรือจะวาดภาพ ติดสติ๊กเกอร์ ติดรูปภาพ แทนการเขียน จะช่วยเตือนความจำหรือลูกสามารถเปิดขึ้นมาดูเพื่อนำมาใช้งานได้ ไม่ควรพูดว่า “ไม่” และ “อย่า”กับลูก เมื่อลูกกำลังแสดงความคิดเห็น หรือกำลังสร้างจินตนาการ เพราะคำพูดเหล่านี้จะทำให้ลูกไม่กล้าคิดเพราะกลัวความผิด กลัวความแตกต่าง หากคุณพ่อคุณแม่เห็นว่าสิ่งที่ลูกทำไม่ทำให้เกิดอันตรายหรือไม่สร้างความคิดในแง่ลบ ก็ควรปล่อยให้ลูกแสดงออกได้อย่างเต็มที่ โดยเราทำหน้าที่เป็นเพียงผู้แนะนำและสนับสนุน





95

เมื่อความสวยคือสิ่งที่ทุกคนไม่ว่าจะเป็นเพศไหน ชาย หญิง หรือจะเป็น LGBTQ+ นั้นต้องการ การมีผิวพรรณที่ดี ผิวหน้าที่เรียบเนียน และผิวสวยกระชับได้รูป ต้องได้รับการดูแลอย่างดี ทั้งเรื่องการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิว ที่ต้องเลือกอย่างพิถีพิถัน เพราะถ้าใช้ครีมหรือโลชั่นที่ไม่เหมาะสมกับผิวของเรา อาจสร้างความเสียหายและเกิดอาการแพ้ได้

เนื่องจากการใช้ผลิตภัณฑ์แก่ผิวพรรณนั้น ต้องใช้ระยะเวลาสักพักเพื่อจะเห็นผลลัพธ์ เพราะฉะนั้นแล้ว จึงไม่แปลกใจว่า มีคนหลายคนเลือกจะสวยทางรัด ด้วยการพบแพทย์ที่เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนังโดยเฉพาะ ซึ่งแพทย์ก็จะแนะนำให้ดูแลผิวให้กระชับด้วยการทำ Hifu ที่เป็นนวัตกรรมดูแลด้านผิวพรรณที่ไม่ต้องมีการผ่าตัดศัลยกรรม และเห็นผลได้ชัดเจนอีกด้วย ไม่ต้องมีความสี่ยงจากการผ่าตัดและไม่มีแผลเป็นให้ต้องกังวลใจ ส่วนเรื่องการเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวนั้น เราต้องมาตรวจสอบเบื้องต้นว่าผิวเรานั้นเป็นสภาพผิวชนิดใด ซึ่งก็มีทั้ง ผิวธรรมดา (Normal Skin) ผิวหน้าธรรมดาถือว่าเป็นผิวหน้าที่มีความสมดุลมากที่สุด ผิวบริเวณ T-zone (หน้าผาก จมูก และคาง) มีความมันเล็กน้อยและไม่แห้งจนเกินไป ทำให้ผิวมีความชุ่มชื้น อ่อนนุ่ม หรือที่เรียกว่าผิวสุขภาพดีนั่นเอง ลักษณะของผิวธรรมดา ผิวเรียบเนียน อ่อนนุ่ม ไม่มีสิว ไร้ริ้วรอย มีรูขุมขนขนาดเล็ก ผิวไม่มันและไม่แห้งจนเกินไปฃ มีการไหลเวียนโลหิตที่ดี ทำให้ผิวมีความสดชื่น สีอมชมพู ไม่หมองคล้ำ การดูแลผิวธรรมดา ควรใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เพิ่มความชุ่มชื้นเป็นประจำเพื่อรักษาสภาพของผิวให้คงอยู่ได้นานขึ้น ทำความสะอาดผิวด้วยโฟมล้างหน้าที่อ่อนโยน มีค่า pH 5.5 และทาครีมกันแดดทุกครั้งก่อนออกกลางแจ้ง ผิวมัน (Oily Skin) ผิวหน้ามันเป็นผิวที่ มีการผลิตน้ำมันในปริมาณที่มากเกินไป สามารถมองเห็นรูขุมขนได้อย่างชัดเจน เพราะว่ารูขุมขนใหญ่ และมีแนวโน้มที่จะเป็นสิว เวลาใช้กระดาษซับมัน จะเห็นน้ำมันบนกระดาษได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะจากบริเวณ จมูก หน้าผาก และ โหนกแก้ม ลักษณะของผิวมัน หน้ามันเยิ้มได้ง่าย ผิวเงา มันวาว รูขุมขนกว้าง น้ำมันหล่อเลี้ยงผิวมากเกินไป บางครั้ง มีสิวหัวดำ หรือ สิวเสี้ยน ผิวค่อนข้างหนา และไม่สามารถมองเห็นเส้นเลือดได้อย่างชัดเจนการดูแลผิวมัน ผู้ที่มีผิวมันจึงควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นประเภทเนื้อบางเบา ซึมซาบง่าย เช่น โลชั่น หรือ เซรั่ม เป็นต้น เพราะโดยปกติแล้ว ผิวมันที่สามารถผลิตสารให้ความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ (Sebum) ได้ดีอยู่แล้ว ส่วนการทำความสะอาดผิวมัน ควรล้างหน้าอย่างน้อยวันละ 2- 3 ครั้ง เพื่อช่วยขจัดความมันส่วนเกิน และป้องกันการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย อันเป็นสาเหตุแห่งการเกิดสิว ผิวแห้ง (Dry Skin) ผิวหน้าแห้งเป็นผิวที่มีการผลิตความมันได้น้อยกว่าผิวธรรมดา รวมถึงขาดกรดไขมันที่จำเป็นต่อการรักษาความชุ่มชื้น ทำให้ผิวอาจจะลอกเป็นขุย หยาบกร้านและดูหมองคล้ำได้ง่าย โดยเฉพาะหากอยู่ในสภาพอากาศที่เย็นนาน ๆ ลักษณะของผิวแห้ง ผิวดูขาดน้ำ แห้งกร้าน ผิวลอกเป็นขุย ๆ  ผิวไม่มีน้ำมันหล่อเลี้ยง รูขุมขนเล็ก ละเอียด มีริ้วรอยก่อนวัย การดูแลผิวแห้ง ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์และควรเป็นเนื้อครีม เพราะมอยเจอร์ไรเซอร์สามารถช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวและรักษาสมดุลผิวหน้าให้มีความอิ่มน้ำมากขึ้นอีกด้วย เมื่อผิวลอก เป็นขุย ไม่ควรขูดหรือแกะออก เพราะอาจจะทำให้เกิดแผลได้ ควรสัมผัสผิวหน้าอย่างเบามือ






96

เวลาเราส่องกระจกเพื่อเช็คสภาพผิว และดูริ้วรอยบริเวณใบหน้า เราพึงพอใจกับสิ่งที่เราเห็นหรือไม่ นี่คือการทดสอบความต้องการของเราว่า ต้องการผิวหน้าแบบใด เพราะบางคนอาจจะไม่มีปัญหาดังกล่าวแม้จะอยู่ในวัยที่อายุมากแล้ว อาจจะเพราะกรรมพันธุ์หรือการเลือกรับประทานอาหารอย่างเคร่งครัด ทานอาหารออร์แกนิคเท่านั้น ซึ่งส่งผลให้ผิวหน้าดูอ่อนกว่าวัยมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนจะสามารถเคร่งครัดกับการเลือกรับประทานอาหารได้ ดังนั้นแล้ว การดูแลผิวหน้าจึงต้องเลือกตามขั้นตอนที่เราทำได้อย่างดีและสะดวกต่อใช้ชีวิตประจำวันอีกด้วย

เพราะทุกวัยต่างก็มีปัญหาผิวหน้าที่แตกต่างกัน เราอาจจะคิดว่าเราอายุยังน้อย ผิวพรรณยังมีคอลลาเจนเยอะอยู่ จึงไม่จำเป็นที่จะต้องใส่ใจดูแลผิวมากไป ซึ่งก็ถือว่าไม่ผิดและไม่ถูกต้อง เพราะไม่ว่าเราจะอยู่ในวัยใด เราก็ต้องดูแลผิวพรรณอย่างดีอยู่เสมอ โดยเฉพาะความเรียบเนียนของผิว รวมไปถึงผิวหน้าที่ไร้ริ้วรอยด้วย หากเราอายุยังไม่มากนัก ในวัยรุ่นจนถึงวัย20 การใช้ครีมที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใสจะทำให้เรายิ่งดูอ่อนกว่าวัยมากยิ่งขึ้น ส่วนอายุ20ปลายๆขึ้นไป หากผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงผิวอาจไม่เห็นผลได้ชัดเจน การเลือกใช้บริการสถานเสริมความงามเพื่อทำไฮฟูก็ถือว่าเป็นทางเลือกในกานดูแลความสวยที่มีความปลอดภัย เพราะดูแลทุกขั้นตอนด้วยแพทย์ผิวหนังเฉพาะทาง เมื่อดูและภายนอกแล้ว เราก็ไม่ควรละเลยการดูแลภายใน ซึ่งเริ่มจากการทานสารอาหารที่ดีต่อผิว ไม่ว่าจะเป็น เต้าหู้ทำมาจากถั่วเหลือง ซึ่งในถั่วเหลืองมีทั้งคาร์โบไฮเดรต แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินมากมาย และยังมี “เลซิตินหรือฟอสโฟไลปิด” เป็นสารบำรุงสมอง และที่สำคัญคือมีองค์ประกอบใกล้เคียงกับของเซลล์ผิวของเรา เมื่อนำมาสกัดเป็นเนื้อครีม ก็จะทำให้เนื้อครีมซึมเข้าผิวได้ดี ทำให้ผิวเนียนนุ่มนั่นเอง ถั่ว เพราะถั่ว ถือเป็นแหล่งโปรตีนที่ดีต่อร่างกาย วิตามินบีสูง ลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็ง และช่วยลดคอเลสเตอรอล ถั่วที่อยากแนะนำให้รับประทานเป็นประจำ ได้แก่ ถั่วเขียว ถั่วดำ ถั่วแดง ถั่วลันเตา ถั่วเหลือง ถั่วลิสง เม็ดมะม่วงหิมพานต์ อัลมอนด์ เป็นต้น น้ำมะพร้าว น้ำมะพร้าวช่วยทำให้ผิวพรรณสดใส เปล่งปลั่งขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เพราะมีฮอร์โมนเอสโตรเจนอยู่ และยังมีส่วนสำคัญอย่างมากต่อการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ซึ่งทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น กระชับ ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัยได้เป็นอย่างดี ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ซึ่งเบอร์รี่อุดมไปด้วย “กรดเอลลาจิก” ช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวี อีกทั้งยังช่วยชะลอริ้วรอยแห่งวัยได้ แถมยังมีวิตามินซีที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ทับทิม เป็นผลไม้ที่มีมีสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่าชาเขียวและไวน์แดง และยังมีวิตามินซีสูงมาก จึงช่วยให้ผิวดูกระจ่างใส ปราศจากริ้วรอยก่อนวัย แครอท ผักสีส้มที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ เช่น เบตาแคโรทีน แคลเซียม โพแทสเซียม ธาตุเหล็ก รวมถึงวิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี ธาตุ และยังมีสารสำคัญคือสาร “ฟอลคารินอล” ซึ่งช่วยต่อต้านเซลล์มะเร็งด้วย







97

หากกล่าวถึงอุปกรณ์การแพทย์ เวชภัณฑ์การแพทย์ หลายคนอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัว เพราะสิ่งเหล่านี้ควรมีไว้ใช้แค่ในสถานพยาบาล โรงพยาบาลเท่านั้น อันที่จริงแล้ว อุปกรณ์เครื่องมือแพทย์นั้นสามารถมีไว้ที่บ้านได้ เพื่อปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้แก่ผู้ป่วย ซึ่งหลายๆบ้านนั้นก็จะมีผู้ป่วยติดเตียงที่ต้องได้รับการดูแลอย่างดีจากคนในครอบครัว ซึ่งเราอาจจะไม่ทราบแหล่งที่มา หรือสถานที่ร้านค้ารวมไปถึงบริษัทขายเครื่องมือแพทย์ที่เราสามารถเลือกซื้อเครื่องมือแพทย์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่นำมาใช้ในครัวเรือนได้ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องวัดความดัน เตียงผู้ป่วยไฟฟ้าที่ปรับระดับได้ รถเข็นวีลแชร์ รวมไปถึงอุปกรณ์วัดไข้ เช่น ปรอทวัดไข้ และสิ่งที่ขาดไม่ได้ในช่วงโควิดคือแอลกฮอลล้างมือ

เมื่อกล่าวถึงการดูแลผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้ป่วยที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้นั้น คนในครอบครัวจะต้องทำความเข้าใจและเห็นใจผู้ป่วยเหล่านี้ด้วย อาการป่วยเหล่านี้ต้องการกำลังใจทั้งผู้ป่วยและผู้ดูแลผู้ป่วย เพราะถ้าขาดกำลังใจและมีความท้อแท้ อาจทำให้สภาพร่างกายและจิตใจย่ำแย่ลงกว่าเดิมได้ เริ่มจากการดูแลผู้ป่วยโดยสังเกตอาการความเครียดต่างๆที่อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งเว็บไซต์มัมแอนด์แดดได้แชร์ไว้ว่า ว่าด้วยเรื่องของอาการเครียดของผู้สูงอายุ เป็นสิ่งที่ทำให้รู้สึกไม่สบายกาย ไม่สบายใจ ทำให้เกิดความวิตกกังวลไปต่างๆนาๆ แต่ถ้าระดับความเครียดมีมากโดยเฉพาะในผู้สูงอายุ เช่น มีการสูญเสีย การผิดหวัง หรือหวาดกลัวอย่างรุนแรง ความเครียดนั้นก็จะกลายเป็นความทุกข์แสนสาหัสขึ้นมาทันที ฉะนั้นเราจะต้องหมุ่นสังเกตและดูแลผู้สูงอายุของท่านอย่างไม่คาดสายตา ข้อสังเกตของสัญญาณบอกอาการความเครียดผู้สูงอายุ ผู้สูงอายุจะมีนิสัยในการรับประทานอาหารเปลี่ยนแปลงไป โดยอาจจะรับประทานอาหารมากขึ้น หรือเบื่ออาหารเนื่องมาจากภาวะความเครียดที่เกิดขึ้น อารมณ์ของผู้สูงอายุแปรปรวนขึ้นลงเร็วผิดปกติจากอาการเครียด ซึ่งอาจแสดงออกด้วยอาการหงุดหงิดเพิ่มมากขึ้น หรือมีภาวะซึมเศร้า หลงๆ ลืมๆ หรือเกิดปัญหาด้านความทรงจำ อาทิ ลืมชื่อคนสถานที่ หรือสิ่งต่างๆ ที่เคยพบเห็นเป็นประจำ รวมถึงขาดสมาธิได้ง่าย หรืออาจอาการหนักจนลามไปถึงการตัดสินใจ เช่น การใช้จ่ายเงินเกินจากงบประมาณที่กำหนดมาก เนื่องจากไม่สามารถตัดสินใจได้ อาการเครียดแสดงออกด้วยปัญหาสุขภาพตัว อย่างเช่น การปวดเมื่อยร่างกาย อาการเจ็บป่วยรุนแรงขึ้น รวมถึงปัญหาในการนอนด้วย ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนว่าเกิดอาการเครียดอย่างหนัก สุขภาพจิตผู้สูงอายุ ก็เสียด้วย และนี่ก็คืออาการที่เราสามารถสังเกตความผิดปกติของผู้สูงอายุเหล่านี้ได้ หากเราทราบถึงสาเหตุของอาการเครียดของผู้สูงอายุที่เกิดขึ้น เราก็จะมีวิธีการแก้ไขได้อย่างทันท่วงที เรามาร่วมดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุกันตั้งเเต่วันนี้ เพื่อที่ผู้ป่วยจะได้มีสุขภาพที่ดีขึ้นและอยู่กับเราไปนานๆ






98

เด็กๆหลายคนในช่วงนี้โดนเลื่อนให้เปิดเทอม เนื่องมาจากการควบคุมโรคระบาด โควิด-19 ที่อาจมีผลเสี่ยงต่อการติดโรคนี้รวมไปถึงการแพร่เชื้อโรคได้ ซึ่งทำให้แต่ละสถานศึกษานั้นต้องวางแผนในการสอนออนไลน์ ซึ่งก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีคือ เด็กๆไม่ต้องเสี่ยงกับอันตรายจากโรคภัยในการเดินทางไปโรงเรียนได้ และได้ใช้ชีวิตกับพ่อแม่ที่บ้าน มีเวลาให้กันและกัน ส่วนข้อเสียนั้น มีเยอะมากเช่นกัน เพราะโครงสร้างแต่ละครอบครัวไม่เหมือนกัน บางครอบครัวนั้นพ่อและแม่ต้องออกไปทำงาน ซึ่งต้องจ้างพี่เลี้ยงหรือต้องผลัดกันลางานมาเพื่อดูแลเด็กๆในช่วงเรียนออนไลน์

จริงอยู่ที่ว่า การเรียนนั้น ไม่ว่าอยู่ที่ใดบนโลกใบนี้ ถ้ามีอินเตอร์เนทก็สามารถเรียนหลักสูตรและเลือกสถานที่เรียนได้ เช่น เลือกเรียนคอร์สออนไลน์จากสถานศึกษาชื่อดังของต่างประเทศ หรือจะเลือกหลักสูตรของ international school in Thailand ที่มีให้เลือกมากมายเพื่อตอบโจทย์การเรียนรู้และการศึกษาเล่าเรียนของเด็ก ยิ่งไปกว่านั้นทักษะรักการอ่านคือปัจจัยสำคัญในการเพิ่มจินตนาการให้กับเด็ก ซึ่งฝึกการอ่านหนังสืออย่างมีประสิทธิภาพนั้นคือ การอ่านทีละคำ การอ่านออกเสียง ปัญหาเกี่ยวกับศัพท์เฉพาะ การใช้วิธีเดียวกันตลอดในการอ่านทุกประเภท การใช้นิ้วชี้ข้อความตามไปด้วยในขณะอ่าน การอ่านซ้ำไปซ้ำมา การขาดสมาธิในการอ่าน ข้อเสนอแนะที่ช่วยให้นักศึกษาอ่านอย่างมีประสิทธิภาพ หลักการคือ การอ่านทีละคำ ทำให้อ่านหนังสือได้ช้า เพราะมุ่งหาความหมายของคำทีละคำ สามารถแก้ไขได้โดยตั้งใจไว้ว่า เมื่ออ่านหนังสือทุกครั้ง จะจับใจความสำคัญของประโยคด้วยการใช้สายตาเพียงครั้งเดียว และได้ความหมายทันที การอ่านหนังสือออกเสียงไปทีละตัว โดยทั่วไปติดมาจากนิสัยการอ่านสมัยชั้นประถม การอ่านออกเสียงไม่ว่าจะมีเสียงออกมาหรือมีเสียงในคอ การอ่านแบบนี้อ่านได้ช้าทั้งสิ้นเพราะมุ่งแต่ออกเสียงตามตัวหนังสือที่ปรากฎ การอ่านได้เร็วสามารถแก้ไขได้โดยพยายามทำให้การมอง เห็นรูปทรง และการประสมคำของตัวหนังสือ สามารถผ่านขั้นตอนการรับรู้ของเราไปสู่สมองได้เลย โดยไม่ต้องเสียเวลาพินิจพิเคราะห์ว่า มันมีเสียงอะไรการแก้ไขให้ใช้นิ้วปิดปากในขณะอ่านตลอดเวลาจะทำให้อ่านได้ดีขึ้น และเมื่อปฏิบัติเช่นนี้จนติดเป็นนิสัยแล้ว จะพบว่าทำให้อ่านได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ไม่มีกังวลเกี่ยวกับศัพท์ เฉพาะการหยุดและกังวลเกี่ยวกับคำศัพท์ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนจะทำให้จังหวะในการอ่านและแนวคิดในการอ่านประโยคนั้นหายไป ดังนั้นแม้ว่าจะไม่รู้ศัพท์บางคำก็สามารถหาความหมายของศัพท์นั้นได้ โดยดูจากข้อความในประโยค ถ้าใช้ความคิดคิดตามตลอดเรื่อง ไม่ใช้วิธีเดียวกันตลอดในการอ่านทุกประเภทนักศึกษาควรใช้วิธีการอ่านที่แตกต่างกันในแต่ละเรื่องที่อ่าน เช่น อ่านเรื่องเบาสมองก็อ่านเร็วได้ ถ้าอ่านตำราวิชาการต้องใช้ความคิดพิจารณาเนื้อเรื่องก็ใช้เวลาอ่านนานขึ้นนั้นคือผู้อ่านต้องรู้จุดประสงค์ของเรื่องที่จะอ่านด้วย จึงจะได้ประโยชน์ที่แท้จริง





99

การฝึกนั้น จะต้องเริ่มฝึกตั้งแต่ที่เรายังเล็กๆ เพราะจะได้ประสิทธิภาพ ดั่งคำสุภาษิตไทยที่กล่าวไว้ว่า ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก แต่ไม่ได้หมายความว่าคนที่มีอายุมากนั้นจะฝึกไม่ได้ ซึ่งก็มีหลายคนที่ได้รับการฝึกฝนจนประสบความสำเร็จมากมาย การได้ลองทำในสิ่งที่สนใจ การออกมาจากพื้นที่ปลอดภัยอย่าง Comfort Zone สร้างความท้าทายและความแปลกใหม่ให้เราได้เสมอ ทำให้เรากล้าที่จะลงมือทำสิ่งใหม่ๆ และยังทำให้เราได้ค้นพบตัวเองมากยิ่งขึ้น ว่ายังมีหลายสิ่งที่รอให้เราได้เรียนรู้อีกมากมาย

เมื่อต้องการจะฝึกให้รักการเรียนรู้ ก็ควรฝึกให้ตัวเรารู้จักการตั้งคำถามในสิ่งต่างๆรอบตัวของเรา เพราะการตั้งคำถามนั้น จะนำไปสู่การหาคำตอบ และเราจะได้คำตอบและความรู้แบบใดนั้น ก็ถือว่าเป็นข้อมูลและความรู้ใหม่ ยิ่งไปกว่านั้นหากจะฝึกเด็กๆให้รักการเรียนรู้ ผู้เป็นผู้ปกครองหรือพ่อแม่จะต้องเป็นคนรักการเรียนรู้ด้วยตัวเองเสียก่อน เพราะจะเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่ลูกหลานของเรา การเลือก international school in Bangkok นั้นจึงถือเป็นทางเลือกของการศึกษาที่ดีที่สุดที่รองรับการฝึกทักษะการเรียนรู้ได้อย่างหลากหลาย นอกจากนี้ยังสามารถฝึกลูกให้รักการอ่าน ข้อมูลนี้มาจากเว็บไซต์รักลูกที่แชร์ไว้ว่า การอ่านหนังสือให้ลูกฟังบ่อยๆ เป็นการปลูกฝังความรักต่อหนังสือและการอ่านที่ดีไม่น้อย โดยเฉพาะการอ่านนิทาน ที่สามารถเสริมจินตนาการด้วยท่าทาง น้ำเสียง ซึ่งทำให้เรื่องราวมีความน่าสนใจและสนุกยิ่งขึ้น ก็จะยิ่งทำให้การอ่านเข้าไปอยู่ในใจของลูกได้ไม่ยาก สังเกตว่าลูกชอบหรือสนใจสิ่งใดหรือเรื่องใดเป็นพิเศษ แล้วเชื่อมโยงเข้ากับการอ่าน โดยหาหนังสือที่มีเรื่องราวหรือสิ่งของที่ลูกชอบมาให้ นอกจากความประทับใจแล้ว ยังอาจสร้างแรงบันดาลใจให้ลูกได้อีกทาง สอดแทรกการอ่านเข้ากับกิจวัตรประจำวัน เช่น การชี้ชวนให้ลูกอ่านป้าย ฉลากบนบรรจุภัณฑ์ กระทั่งเมนูอาหาร ขณะที่ออกไปทานข้าวนอกบ้านก็ได้ บรรยากาศแห่งการอ่านสร้างได้ โดยเลือกมุมใดมุมหนึ่งของบ้าน จัดเป็นมุมหนังสือ มีหนังสือหลากหลายแบบให้ลูกเลือกอ่านหรือเพื่อให้คุณอ่านให้ฟัง ซึ่งควรวางอยู่ในที่ที่ลูกเห็นและสามารถหยิบเองได้ เป็นอีกมุมกิจกรรมที่ควรมีเก้าอี้หรือโซฟานั่งสบายสำหรับเอนหลังชวนกันอ่าน การพาลูกไปเลือกซื้อหนังสือเล่มโปรดด้วยตัวเอง เป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งที่สร้างการมีส่วนร่วม และเข้ากับพัฒนาการของเด็กวัยนี้ที่เริ่มเป็นตัวของตัวเอง นอกจากร้านหนังสือแล้ว อาจพาลูกเข้าห้องสมุดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อซึมซับบรรยากาศแห่งการอ่าน อ่านผ่านการเล่น นี่เป็นอีกวิธีที่ได้ทั้งความสนุกและการเรียนรู้ อาจะเป็นการทายคำ หาคำจากภาพ หรือจับคู่คำกับภาพที่เห็นก็ได้ โดยเป็นคำง่ายๆ ที่ใช้บ่อยๆ ในชีวิตประจำวัน อย่าลืมว่าคุณพ่อคุณแม่คือบุคคลสำคัญ ที่มีอิทธิพลต่อการอ่านของลูก นอกจากเทคนิคต่างๆ แล้ว การเป็นแบบอย่างของหนอนหนังสือสามารถส่งผ่านไปถึงลูกได้ ผ่านการกระทำให้เห็นเป็นแบบอย่าง เพื่อสร้างแรงจูงใจให้แก่ลูก







100

การศึกษานั้นมีความสำคัญมาก เพราะมนุษย์จะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และพบเพื่อนใหม่ในโรงเรียน จึงถือได้ว่า โรงเรียนคือจุดเริ่มต้นของความทรงจำที่ดีหลายอย่าง ทั้งเรื่องเรียน เรื่องเพื่อน แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนจะได้รับประสบการณ์ที่ดี เพราะหลายๆคนก็ผ่านช่วงเวลาที่ย่ำแย่ในช่วงวัยเรียนเช่นกัน เนื่องจากโรงเรียนในประเทศไทยหลายแห่งนั้นมีการบูลลี่และทำร้ายร่างกายในโรงเรียนอยู่เสมอ สาเหตุนี้เองทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองหลายคนยอมที่จะจ่ายแพงกว่าเพื่อให้ลูกหลานได้เข้าเรียนในสถานศึกษาที่ดีที่มีการดูแลเรื่องนี้อย่างเคร่งครัด

ปริมาณครูผู้สอนต่อจำนวนนักเรียนนั้นสำคัญมาก เพราะยิ่งจำนวนสอดคล้องเหมาะสมกันมากเท่าไร การดูแลนักเรียนทุกคนก็จะทั่วถึงมากยิ่งขึ้นด้วย เพราะโรงเรียนรัฐบาลหลายแห่งนั้นมีจำนวนครูที่น้อยและไม่เพียงพอ ครูเพียงท่านเดียวต้องดูแลเด็กถึง 40-50 คน ถือว่ายากมากที่จะสอดส่องได้ทุกคน เพราะฉะนั้นปัญหาต่างๆจึงเกิดขึ้นได้ แต่โรงเรียนเอกชนหรือโรงเรียนนานาชาติ international school Bangkok นั้นก็จะมีจำนวนครูและนักเรียนที่พอดี เช่น ครู 1 ท่านต่อนักเรียน 3 คน ถือว่าเป็นจำนวนที่ดีและพอเหมาะต่อการสอบถามและให้คำปรึกษากับนักเรียนอยู่เสมอ พ่อแม่ผู้ปกครองหลายๆท่านจึงเลือกสิ่งที่ดีที่สุดอย่าง best international school Bangkok และ top international school Bangkok เพื่อให้ลูกได้รับการศึกษาอย่างดีและเหมาะสมที่สุด สิ่งต่อมาที่พ่อแม่ผู้ปกครองจะต้องดูแลลูกคือ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และบำรุงสมอง ไม่ว่าจะเป็น น้ำมันปลา (Fish Oil) ซึ่งยังมีหลายคนเข้าใจผิดอยู่มาก ว่าหมายถึงน้ำมันตับปลา น้ำมันปลานั้นเป็นน้ำมันที่สกัดได้จากส่วนหัวของปลาทะเล เช่น ปลาทู ปลาทูน่า ปลาซาร์ดีนครับ ส่วนน้ำมันตับปลา นั้นสกัดมาจากตับปลา ประโยชน์ของน้ำมันปลา คือ ช่วยบำรุงโครงสร้างสมอง เหมาะสำหรับเด็กอายุไม่เกิน 10 ปี เพราะเป็นช่วงที่สมอง ยังมีการเจริญเติบโตเรื่อยๆ วิตามินบีรวม (B-Complex) นั้นประกอบไปด้วยวิตามิน บี10 ชนิด ได้แก่ บี1 บี2 บี3 บี4 บี5 บี6 บี9 บี12 บี15 และบี17 โดยตัวที่มีการพูดถึงมากที่สุด ได้แก่ วิตามินบี1 บี6 และบี12 มีประโยชน์ช่วยบำรุงเซลล์ประสาทให้แข็งแรง แก้เหน็บชา ช่วยเปลี่ยนกรดแอมิโนทริปโตเฟนให้กลายเป็นสารเซโรโทนินที่จะช่วยให้สงบ มีสมาธิ และยังเป็นโคเอนไซม์(Coenzyme) ช่วยในการทำงานของสมองและระบบประสาท วิตามินบีเหล่านี้พบมากในธัญพืช นม ถั่วต่างๆ หากต้องการกินเพื่อบำรุงสมองเป็นหลัก ควรกินแยกชนิดเพียง บี1 บี6 และบี12 เพราะจะได้ปริมาณที่เข้มข้นกว่าการกินวิตามินบีชนิดรวมใน 1 เม็ด ซึ่งจะถูกหารเฉลี่ยกับวิตามินบีตัวอื่นๆ  ส่วนเรื่องของผลเสียหรือผลข้างเคียง วิตามินบีสามารถกินเยอะหรือเกินกว่าที่ร่างกายต้องการได้ เพราะละลายในน้ำ ร่างกายสามารถขับออกทางปัสสาวะ แต่ทางที่ดีควรกินแต่พอดีจะประหยัดสตางค์กว่า หรือสามารถเลือก กินจากอาหารตามที่กล่าวไปก็ได้เช่นกัน




หน้า: 1 [2] 3