ผลตอบแทนเป็นสิ่งที่นักลงทุนทุกคนต่างมองหา แม้จะเป็นคนที่ลงทุนในประกันเงินออมเองก็ย่อมต้องการผลตอบแทนที่เหมาะสมด้วยเช่นกัน การเลือกประกันจึงเป็นสิ่งที่คนที่ต้องการลงทุนในประกันจำเป็นต้องให้ความสำคัญไม่แพ้เรื่องอื่น ว่าแต่คุณควรมีวิธีในการเลือกประกันประเภทนี้อย่างไร เรามาหาคำตอบไปพร้อมกันเลยดีกว่า
1.   ผลตอบแทนเป็นสิ่งแรกที่คุณมองหา การทำประกันออมทรัพย์นี้ช่วยให้คุณได้รับผลตอบแทนที่มากกว่า เพราะการเงินฝากออมทรัพย์และกระแสรายวันนั้นมีอัตราดอกเบี้ยที่น้อยกว่าการลงทุนในประกันออมทรัพย์อยู่แล้ว
2.   ความคุ้มครองที่ตามมา ขณะที่คุณจ่ายเบี้ยประกัน คุณก็ยังสามารถได้รับความคุ้มครองเมื่อเจ็บป่วยได้อีกด้วย การเลือกประกันประเภทนี้ติดมือเอาไว้จึงทำให้ได้ประโยชน์ 2 ส่วนพร้อมกัน
3.   ดูระยะเวลาในการออมเงินและสภาพคล่องของตนเอง คุณจำเป็นต้องคำนึงถึงสภาพคล่องของตนเองในช่วงที่ต้องใช้เงินก้อนสำหรับค่าใช้จ่ายอื่น ๆ หรือค่าใช้จ่ายสำหรับเหตุฉุกเฉินด้วยเช่นกัน เพราะประกันเงินออมส่วนใหญ่ไม่สามารถเบิกถอนเงินออกมาใช้ก่อนได้
4.   เลือกประกันออมทรัพย์ที่ลดหย่อนภาษีได้ คุณสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ แต่ไม่เกิน 100,000 บาท โดยเฉพาะประกันที่มีอายุกรมธรรม์ 10 ปีขึ้นไป ยิ่งเหมาะกับคนที่ต้องรับภาระเรื่องการจ่ายภาษีทุกระดับ
5.   เลือกบริษัทประกันที่มีความน่าเชื่อถือและความมั่นคง ควรเป็นไปตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ เช่น SCB Life เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีการจ่ายเงินปันผลให้กับลูกค้าตรงตามเวลาและยังให้บริการที่น่าประทับใจให้กับลูกค้าเสมอมา การใช้บริการจากบริษัทที่มีความมั่นคงและเชื่อถือได้นั้นจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ
ประกันเงินออมเป็นประกันประเภทหนึ่งที่หลายคนให้ความสนใจ หากคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากลงทุนในประกันประเภทนี้ ก็ควรมีแนวทางในการเลือกประกันทั้ง 5 ข้อนี้ติดตัวด้วยเสมอเมื่อต้องเลือกประกันจากแต่ละบริษัท เพื่อการลงทุนที่เหมาะสมกับผลตอบแทน และไม่เป็นการทำร้ายกระเป๋าเงินตัวเองในระยะยาวเมื่อต้องจ่ายเบี้ยประกันอย่างสม่ำเสมอ นอกจากประกันภัยแล้วคุณยังสามารถซื้อประกันรถยนต์กับ บมจ.ชับบ์สามัคคีประกันภัย อย่างประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ขับขี่ปลอดภัย อุ่นใจทุกเส้นทาง ด้วยความคุ้มครองที่ครอบคลุม

   ทุกวันนี้การเข้าถึงบริการทางการเงินเช่นการขอเปิดบัตรเครดิตบัตรกดเงินสด หรือบริการทางการเงินอื่น ๆ ทำได้ง่ายขึ้นมาก จึงมีคนส่วนหนึ่งที่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องเป็นหนี้บัตรเหล่านั้นจนจัดการไม่ไหว แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นยังมีทางออกที่เป็นไปได้ นั่นคือการรีไฟแนนซ์หรือการรวมหนี้บัตรให้เป็นก้อนเดียว ซึ่งขั้นแรกที่ต้องทำก็คือเข้าไปติดต่อธนาคารที่คุณเลือกแล้วว่าน่าจะให้ความช่วยเหลือคุณได้
   การติดต่อธนาคารให้คุณขอวงเงินซึ่งมากกว่ายอดหนี้ที่เป็นอยู่ เพราะหากขอไปแบบพอดี แล้วธนาคารอนุมัติน้อยกว่าวงเงินที่ขอ คุณก็จะไม่พอปิดหนี้บัตรทั้งหมดได้ สำหรับการรีไฟแนนซ์กับ SCB จะทำผ่าน สินเชื่อ (เพิ่มเติมที่ : https://www.scb.co.th/th/personal-banking/loans.html) ส่วนบุคคล Speedy Loan โดยเป็นการรวมหนี้ได้สูงสุดห้ารายการและมีระยะเวลาผ่อนชำระตั้งแต่ 12 เดือนถึง 72 เดือน (ขึ้นอยู่กับยอดหนี้) เมื่อได้รับการอนุมัติแล้ว ขั้นต่อไปก็คือการวางแผนทางการเงิน ส่วนจะทำอย่างไรได้บ้าง ไปดูกันทีละข้อได้เลยครับ!
• ไม่ก่อหนี้เพิ่ม
   เรื่องนี้สำคัญมากและควรเป็นเรื่องแรกที่ตั้งใจไว้กับตัวเองในการวางแผนบริหารจัดการทางการเงิน เพราะถ้าสร้างหนี้เพิ่มไม่ว่าจะเป็นการกู้เงินธนาคารหรือหนี้นอกระบบ มันก็จะทำให้คุณเป็นหนี้ต่อไปไม่จบไม่สิ้น ทำให้การรีไฟแนนซ์ครั้งนี้แทบไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย แทนที่จะมีเงินเหลือก็กลับต้องเป็นหนี้เพิ่มขึ้นไปอีก
• ชำระหนี้ตรงเวลาเพื่อสร้างเครดิตทางการเงิน
   เมื่อสินเชื่อส่วนบุคคลชนิดนี้ทำให้คุณสบายขึ้น สิ่งที่คุณควรทำก็คือชำระหนี้ตามกำหนด ดูผิวเผินเหมือนจะไม่มีประโยชน์อะไร แต่ถ้าลองมองให้ดีแล้วมันคือการสร้างเครดิตที่ดีให้กับตัวคุณเอง สมมุติอนาคตคุณมีปัญหาทางการเงินอีกและต้องการใช้เงินด้วยการขอเปิดบัตรกดเงินสดหรือต้องการเงินลงทุนแล้วไปติดต่อธนาคาร เครดิตที่ได้สะสมไว้จะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ธนาคารอนุมัติวงเงินให้คุณง่ายขึ้น
• วางแผนว่าเมื่อผ่อนน้อยลงแล้วจะเอาเงินส่วนต่างไปทำอะไร
   เหตุผลสำคัญที่ทำให้ทุกคนตัดสินใจรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตก็คือทำให้ผ่อนน้อยลง เช่นจากเดิมต้องผ่อนรวมบัตรทุกใบอยู่ที่เดือนละ 20,000 บาท สำหรับหลายคนแล้ว เงินจำนวนนี้ถือเป็นเกือบทั้งหมดของรายได้ต่อเดือน แต่เมื่อขอกู้เงินธนาคารตามวัตถุประสงค์นี้แล้วทำให้ผ่อนอยู่ที่เดือนละประมาณ 10,000 บาท นั่นแสดงว่าคุณมีเงินเหลือในทุกเดือน อย่าเพิ่งเอามาใช้จ่ายในเรื่องที่ไม่จำเป็น ให้วางแผนว่าจะเอาเงินนั้นไปทำอะไรดี มีหลายอย่างที่ทำได้ตั้งแต่เก็บไว้เพื่อตั้งต้นธุรกิจเล็ก ๆ ของตัวเอง ลงทุนกับหุ้นหรือกองทุนรวม สะสมไว้ซื้อทองคำ ฯลฯ ทั้งหมดนี้ทำให้เงินส่วนต่างที่ได้มาก่อให้เกิดผลดีระยะยาว
   ท้ายที่สุดการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตจะได้ประโยชน์สูงสุดหรือไม่ขึ้นอยู่กับว่าคุณมีวินัยทางการเงินมากแค่ไหน และมีการวางแผนเผื่ออนาคตได้ดีเพียงใด ถ้ามีวินัยทางการเงิน ผ่อนชำระตรงเวลา ไม่สร้างหนี้เพิ่ม และวางแผนได้ว่าเงินที่เหลือจะนำไปลงทุนทำอะไร คุณก็จะได้ประโยชน์จากการรีไฟแนนซ์อย่างเต็มที่ นอกจากสินเชื่อส่วนบุคคลแล้ว SCB ยังมีสินเชื่อรถและสินเชื่อบ้านทั้งมือหนึ่งและมือสอง เพื่อคนที่ต้องการซื้อบ้านมือสองจาก SCB หรือต้องการเงินยามจำเป็นอีกด้วย

ที่มาของข้อมูล:
https://bit.ly/2DIyUuQ
https://www.scb.co.th/th/personal-banking/promotions/loans/speedy-loan-all.html

ต้องยอมรับว่าหลังจากเกิดการระบาดของโควิด-19 เป็นต้นมา วิถีชีวิตของผู้คนก็เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน ทั้งการออกไปใช้ชีวิตนอกบ้าน, ตามแหล่งชุมชนหรือสถานที่ ๆ มีผู้คนอยู่มาก ๆ ก็เป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่พยายามหลีกเลี่ยง ดังนั้นเมื่อต้องการมีบัตรเครดิตไว้เป็นผู้ช่วยทางการเงินก็ต้องหาช่องทางที่สมัครใช้บริการได้สะดวก, ง่ายดายและหากไม่ต้องเดินทางไปติดต่อที่ธนาคารได้ก็ยิ่งดี
ใครที่กำลังมีโจทย์ความต้องการแบบนี้ แนะนำให้เลือกสมัครบัตรเครดิต scb  ที่สามารถสมัครใช้บริการได้ง่าย ๆ ทุกที่ ทุกเวลาโดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปติดต่อที่เคาน์เตอร์ตามสาขาของธนาคารเพราะมีช่องทางให้เลือกสมัครได้ถึง 3 วิธี ได้แก่
   1. สมัครทางแอปพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ วิธีนี้ทำได้ด้วยการโหลดแอปพลิเคชั่น scb easy ไว้บนสมาร์ทโฟนทั้งที่เป็นระบบแอนดรอยด์และ IOS จากนั้นก็เข้าไปทำการสมัครโดยเริ่มจากเมนู “สินเชื่อและบัตรเครดิต”, ทำรายการที่เมนู “บัตรเครดิต” แล้วเลือกประเภทของบัตรเครดิต scb ที่ต้องการสมัคร, เลือกวงเงินในบัตรตามที่ต้องการ, เลือกวิธีการชำระเงินจากนั้นก็ใส่ข้อมูลตามที่ระบบกำหนดพร้อมโหลดภาพเอกสารไปพร้อมกับการสมัครด้วยซึ่งได้แก่ รูปภาพบัตรประจำตัวประชาชน, รูปภาพสลิปเงินเดือนและรูปภาพรายการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน และเมื่อตรวจสอบความถูกต้องเรียบร้อยก็กด “ยอมรับ” ในขั้นตอนสุดท้าย เพียงเท่านี้การสมัครบัตรเครดิต scb ผ่านทางแอปพลิเคชั่นก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย ซึ่งธนาคารจะพิจารณาข้อมูลต่าง ๆ และหากผ่านเงื่อนไขตามเกณฑ์ ธนาคารก็จะส่งบัตรเครดิตมาให้ตามที่อยู่ที่ระบุไว้ในเวลาอันรวดเร็ว
2. สมัครบัตรเครดิต scb ผ่านเว็บไซต์ของ scb (www.scb.co.th) ซึ่งวิธีนี้ก็จะสามารถสมัครได้ทุกที่ทุกเวลาเหมือนกับการสมัครผ่านแอปพลิเคชั่น และขั้นตอนการสมัครก็คล้ายกันคือจากนั้นก็เลือกที่เมนู “บัตรเครดิต”, เลือกประเภทของบัตรเครดิตที่ต้องการสมัคร, กรอกข้อมูลการสมัครตามขั้นตอนที่ระบุซึ่งจะคล้ายกับกรณีของการสมัครผ่านแอปพลิเคชั่น เมื่อทำตามขั้นตอนครบถ้วนเรียบร้อยก็คลิกที่ “ยอมรับ” ก็เป็นอันเรียบร้อย จากนั้นระบบจะทำการส่งข้อมูลการสมัครไปให้ธนาคารพิจารณา และเมื่อได้รับการอนุมัติเรียบร้อยธนาคารก็จะส่งบัตรเครดิตให้กับผู้สมัครตามที่อยู่ที่ได้ระบุไว้ 
3. สมัครที่ทุกสาขาของธนาคารscb เป็นช่องทางสำหรับอำนวยความสะดวกผู้ที่ต้องการใช้บัตรเครดิตแต่ไม่ต้องการทำผ่านระบบออนไลน์ ผู้ที่ใช้ช่องทางนี้ในการสมัครใช้บัตรเครดิต scb สามารถนำหลักฐานและเอกสารที่กำหนดคือ บัตรประจำตัวประชาชน, บัตรข้าราชการหรือพนักงานรัฐวิสาหกิจ, สลิปเงินเดือนปัจจุบันและสำเนาใบแจ้งยอดเงินฝากย้อนหลัง ไปติดต่อที่เคาน์เตอร์ตามสาขาของธนาคาร scb ทุกแห่งทั่วประเทศและสาขาในห้างสรรพสินค้าด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ของธนาคารจะดำเนินการตามขั้นตอนต่าง ๆ ให้อย่างรวดเร็วและเมื่อได้รับการอนุมัติ ทางธนาคารก็จะส่งบัตรเครดิตที่สมัครใช้บริการไว้มาให้ตามที่อยู่ที่ระบุในเวลาไม่นาน
3 ช่องทางสมัครใช้บัตรเครดิตของธนาคาร scb ที่ค่อนข้างสะดวกสบายและรวดเร็วตรงใจคนยุคใหม่นี้เองที่ทำให้ความนิยมถือบัตรเครดิต scb เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบัตรประเภทที่มีเงินคืนให้กับการใช้จ่าย อย่างบัตรเครดิต scb family plus (Link : https://money.kapook.com/view230923.html) ซึ่งกำลังมาแรงที่สุดในช่วงนี้เลยทีเดียว เนื่องจากมีสิทธิประโยชน์ดี ๆ ตอบแทนอย่างคุ้มค่าสำหรับทุกการใช้จ่าย
เปิดจุดเด่นบัตรเครดิต scb family plus   
บัตรเครดิตใบนี้จะมีเงินคืนให้กับการใช้จ่ายทั้งที่เป็นแบบเต็มจำนวนและการผ่อนชำระ โดยจะได้รับเครดิตเงินคืน 1% ต่อบิล/รอบบัญชี โดยมีเพดานสูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท แต่หากเป็นการใช้จ่ายสำหรับการรับประทานอาหารนอกบ้านหรือการสังสรรค์ในโอกาสสำคัญ ๆ อย่างวันเกิดจะได้รับเงินคืนเพิ่มเป็น 4% ทันที แต่หากเป็นการเฉลิมฉลองหรือสังสรรค์นอกบ้านในโอกาสพิเศษที่เกี่ยวกับครอบครัว เช่น ในวันครอบครัว, วันพ่อ, วันแม่และวันเด็ก จะได้รับเงินคืนเพิ่มอีกเป็น 5% เลยทีเดียว จึงนับว่าบัตรเครดิต scb family plus เป็นบัตรคู่ใจสำหรับครอบครัวคนยุคใหม่ที่ให้สิทธิประโยชน์ดี ๆ คุ้มค่าสำหรับทุกการใช้จ่ายอย่างแท้จริง
เพียงแค่มีรายได้ขั้นต่ำ 15,000 บาทก็สามารถเป็นเจ้าของบัตรเครดิตดี ๆ ใบนี้ได้แล้ว ที่สำคัญ scb family plus ยังเป็นบัตรที่ให้วงเงินสูงสุดได้ถึง 5 เท่าของรายได้อีกด้วย
แหล่งข้อมูล
1.h ttps://money.kapook.com/view230923.html
2.https://gurucreditcard.com/2019/08/09/creditcard-scbapply/

ในปัจจุบันมีพนักงานบริษัทจำนวนไม่น้อยที่มี credit card  เป็นของตัวเอง เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้จ่ายในยามที่ไม่มีเงินสดติดตัวหรือการซื้อสินค้าและบริการผ่าน Market place ทั่วโลก และยังได้รับสิทธิพิเศษบัตรเครดิตที่มีแต่ผู้ถือบัตรเครดิตเท่านั้นที่จะได้รับ ลักษณะของสิทธิพิเศษบัตรเครดิตที่ได้รับความนิยมมี 2 ประเภท คือ
-   เครดิตเงินคืนเป็นโปรโมชั่นที่จะให้เงินคืนเมื่อซื้อสินค้าหรือบริการที่กำหนด โดยเปอร์เซ็นต์เงินคืนที่ได้รับขึ้นอยู่กับเปอร์เซ็นต์ที่เครดิตเงินคืนกำหนดไว้แตกต่างกันไปตามแต่ละประเภทสินค้าหรือบริการ โดยส่วนใหญ่จะคำนวณเปอร์เซ็นต์หลังจากใช้จ่ายขั้นต่ำ 800 – 1,000 บาท/ครั้ง
-   บัตรเครดิตสะสมแต้ม เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตลูกค้าจะได้รับ point สะสมเพื่อนำไปแลกรับบัตรกำนันหรือสินค้าเมื่อครบแต้มสะสมตามที่โปรโมชั่นบัตรกำหนดไว้ โดยอัตราการคำนวณคะแนนจะนับทุก ๆ ยอดเงินที่กำหนด เช่น บัตรเครดิตเติมน้ำมันจาก SCB 25 บาท เท่ากับ 1 คะแนน เป็นต้น
บัตรเครดิตโปรโมชั่นใหม่ของ SCB ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าด้วยโปรโมชั่นฟรีค่าธรรมเนียมและใช้เป็นส่วนลดค่าสินค้าหรือบริการในร้านค้าที่เข้าร่วมโปรโมชั่น โดยฐานเงินเดือนขั้นต่ำที่สามารถสมัครบัตรเครดิตได้เริ่มต้นเพียง 15,000 บาท/เดือน เหมาะสำหรับพนักงานประจำที่ต้องการเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้สามารถซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคต่าง ๆ ได้ตามความต้องการพร้อมรับสิทธิประโยชน์สุดพิเศษที่มีแต่ลูกค้าบัตรเครดิต SCB เท่านั้นที่จะได้รับ โดยบัตรเครดิต SCB UP2ME เป็นบัตรเครดิตที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ถือบัตรสามารถปรับเปลี่ยนโปรโมชั่นได้ตามลักษณะการใช้ชีวิตพร้อมรับคะแนนคูณ 3 เท่าในหมวดการใช้จ่ายที่ได้ทำการเลือก ทั้งช็อปปิ้ง ร้านอาหาร เสื้อผ้าและเครื่องสำอาง หรือแม้กระทั่งการใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวก็สามารถทำได้และยังคูณคะแนนพิเศษในเดือนเกิดถึง 5 เท่า นอกจากนี้ไม่ว่าจะใช้จ่ายเท่าไหร่ก็ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมตลอดชีพ โดยคะแนนในบัตรสะสมแต้ม SCB UP2ME สามารถใช้แลกบัตรกำนัน ส่วนลดหรือสินค้าและบริการได้หลากหลายหมวด เงื่อนไขในการสมัคร SCB UP2ME แสนง่ายเหมาะสำหรับพนักงานประจำรุ่นใหม่ อายุ 20 ปีขึ้นไป รายได้ 15,000 บาท/เดือน เพียงนำสำเนาบัตรประชาชน สลิปเงินเดือนและ Statement บัญชีเงินเดือนย้อนหลัง 3 เดือนและกรอกเอกสารสมัครที่ธนาคาร SCB ใกล้ที่สุด จากนั้นรอการอนุมัติบัตรเป็นอันเรียบร้อย
SCB credit card ไม่เพียงช่วยอำนวยความสะดวกในการจับจ่ายใช้สอยตามความต้องการ แต่ยังคุ้มค่ากว่าด้วยสิทธิพิเศษมากมาย ยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีกว่าคุ้มค่ากว่าการใช้สอยด้วยเงินสด

   ผมมีอาชีพเป็นครูสอนพิเศษที่โรงเรียนกวดวิชาแห่งหนึ่งย่านอนุสาวรีย์ฯ ทุกเดือนผมจะเช็คยอดเงินในบัญชีผ่านแอป SCB EASY  แต่ช่วงสิ้นเดือนมักมีปัญหาแอป SCB EASY เข้าไม่ได้ หรือพอเข้าแอปได้แต่เวลากดโอนเงินก็มักจะเจอข้อความว่า “"ระบบไม่สามารถทำรายการได้ในขณะนี้ กรุณาทำรายการใหม่อีกครั้ง" ผมก็เลยเดาว่าน่าจะเป็นเพราะแอป SCB EASY ล่ม ช่วงสิ้นเดือนคงมีคนใช้แอปทำธุรกรรมกันเยอะเพราะเงินเดือนออกไล่ ๆ กันแทบทั้งนั้น พอลองเลื่อนดูตามโซเชียลก็เห็นคนบ่นว่าแอปธนาคารหลายเจ้ามีปัญหากันเยอะช่วงนี้  ก็เจอคอมเมนท์แนะนำว่าให้ลองพักสัก 10 นาทีค่อยเข้าใหม่ ผมเลยไปทำอย่างอื่นสักพักประมาณ 10-20 นาที แล้วลองกดเข้าแอปใหม่ก็ปรากฏว่าใช้งานได้ตามปกติ ซึ่งผมคิดว่าคงเป็นเรื่องธรรมดาของช่วงเวลาสิ้นเดือนอย่างนี้ เพราะต่างคนต่างก็อยากจะถอนเงินออกมาใช้ เท่าที่ถามเพื่อนครูสอนพิเศษของผมที่ใช้แอปของธนาคารอื่นก็มีปัญหาช่วงสิ้นเดือนกับวันหวยออกเหมือนกันแทบทุกเจ้า ช่วงหลังผมเลยเลือกเวลาเช็คยอดเงินหรือทำธุรกรรมอื่น ๆ เป็นสักวันที่ 2-3 ของเดือนใหม่แทน สะดวกดีครับ แถมสบายใจด้วย เพราะรู้ว่าถ้าใช้งานแอปช่วงสิ้นเดือนก็อาจจะเจอปัญหาแอป SCB EASY เข้าไม่ได้ หรือ SCB EASY ล่ม ได้ครับ แต่ถ้าใครไม่มีเหตุรีบร้อนให้ต้องทำธุรกรรมช่วงสิ้นเดือนก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรนะครับ เพราะจากประสบการณ์การใช้งานช่วงต้นเดือน-กลางเดือนแอป SCB EASY ก็ใช้งานได้ปกติดีครับ 

   เราเป็นคนชอบช็อปปิ้งช่วงเงินเดือนออก ทุกทีเวลาเงินเดือนออกก็ต้องเปิดเว็บช็อปปิ้งออนไลน์โดยเฉพาะพวกเสื้อผ้าตัวเองกับเสื้อผ้าของลูกสาวเป็นประจำ แล้วก็เลือกชำระเงินด้วยการโอนเงินผ่านบัญชีด้วยแอป SCB EASY เพราะมันใช้งานง่ายและสะดวกมาก แต่ช่วงสิ้นเดือนก็มักจะเจอปัญหาโอนเงินผ่านแอปไม่ได้พร้อมกับข้อความว่า “ไม่สามารถทำรายการทางการเงินได้ในขณะนี้” พูดง่าย ๆ ก็คือ SCB EASY ไม่สามารถเข้าได้ ซึ่งตอนแรกก็ตกใจว่าเป็นที่แอปพลิเคชั่นหรือเป็นที่มือถือของเรา เพราะเราชอบโหลด ๆ ลบ ๆ แอปพลิเคชั่นนู่นนี่ในมือถือบ่อย ก็เลยลองลบแล้วลงแอป SCB EASY ใหม่ ปรากฏว่าก็ยังเข้าไม่ได้  แต่พอถามเพื่อนก็รู้ว่าเป็นเพราะแอป SCB EASY ล่ม ซึ่งเราพอเข้าใจได้ค่ะ เพราะช่วงสิ้นเดือนคงมีแม่บ้านสายช็อปปิ้งออนไลน์เหมือนเราไม่น้อย แถมยังเป็นช่วงที่หลายคนโอนเงินส่งให้ที่บ้านด้วย สำหรับเราคิดว่าคงเป็นเรื่องปกติ ลองถามสามีที่ใช้แอปเจ้าอื่นช่วงสิ้นเดือนก็ไม่รอดเหมือนกัน สามีแนะนำให้เราเลยลองปล่อยทิ้งไว้สัก 10-20 นาที แล้วลองโอนเงินใหม่อีกที ก็ปรากฏว่าแอปกลับมาใช้ได้ปกติ หลัง ๆ เราเลยเปลี่ยนพฤติกรรมชอบ “เอฟ” ของตัวเองด้วยการเลื่อนเวลาช็อปปิ้งออนไลน์จากช่วงสิ้นเดือนขยับมาสักสัปดาห์แรกหรือสัปดาห์ที่สองของเดือนแทน เราแทบไม่เจอปัญหาแอป SCB EASY เข้าไม่ได้ (เพิ่มเติมที่ : https://www.scbeasy.com/v1.4/site/presignon/th/srv/srv_prf.asp) หรือแอป SCB EASY ล่ม อีกเลย


   

   ปัญหาแอปพลิเคชั่น SCB EASY เข้าไม่ได้ (เพิ่มเติมที่ : https://tadoo.co/news/306747/) หรือ SCB EASY ล่มทำธุรกรรมไม่ได้เป็นเรื่องที่เจอบ่อย วันนี้จะพามาดูถึงสาเหตุของปัญหาพร้อมทางแก้ไขที่ทำแล้วได้ผล บอกเลยว่าง่ายมาก ๆ ค่ะ
ทำไมแอป SCB EASY เข้าไม่ได้ หรือ SCB EASY ล่ม
1.   แอป SCB EASY ไม่สามารถเข้าได้ กดเข้าแอปแล้วเด้งออก
วิธีการแก้ไข
•   เช็คเวอร์ชั่นมือถือที่ใช้ก่อนค่ะว่าเป็นเวอร์ชั่นที่รองรับการทำงานระบบปฏิบัติการล่าสุดของ SCB EASY แล้วหรือยัง คือระบบปฏิบัติการ iOS ต้องอัปเดทเวอร์ชั่นที่ต่ำสุดอยู่ที่ 10.3.4 และ Android อัปเดทต่ำสุดอยู่ที่ 6.0 ถ้ายังไม่ได้อัปเดท ต้องทำการอัปเดทระบบปฏิบัติการของมือถือใหม่ถึงจะเข้าใช้งานได้ตามปกติ หรือหากมือถือไม่สามารถอัปเดทได้ขอให้เป็นที่เข้าใจกันว่า ต้องเปลี่ยนมือถือเครื่องใหม่ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของเงินในบัญชีของคุณเอง หรือ
•   รอเวลาสักพักนะคะใจเย็น ๆ  ทิ้งช่วงเวลาเพื่อเว้นระยะหลังจากที่เข้าไม่ได้สักช่วงนึง แล้วค่อยกลับมาเข้าแอปใหม่
2.   ทำธุรกรรมไม่ได้ โดยเฉพาะช่วงสิ้นเดือน
วิธีการแก้ไข
•   การทำธุรกรรมผ่านทางแอปพลิเคชั่น SCB EASY ก็คือการทำธุรกรรมผ่านระบบคอมพิวเตอร์ที่ต้องใช้การประมวลผลของตัวเซิร์ฟเวอร์กลางที่เป็นแหล่งเก็บข้อมูลใหญ่ของธนาคาร นั่นหมายความว่า หากทุกคนใช้แอปพลิเคชั่นพร้อมกันในช่วงเวลาเดียวกัน การประมวลผลของตัวเซิร์ฟเวอร์อาจจะล่าช้าหรือระบบล่มได้ ดังนั้นทางแก้ง่าย ๆ คือ เลี่ยงการทำธุรกรรมในช่วงเวลาที่คนใช้งานผ่านแอปพลิเคชั่นเยอะ ๆ ค่ะ เช่น ช่วงสิ้นเดือน ช่วงก่อนเวลาหวยออก เป็นต้น
ซึ่งแอปพลิเคชั่นใด ๆ ก็ตาม หากเราเข้าใจถึงระบบการทำงานและเงื่อนไขการใช้ของแอปพลิเคชั่นนั้น ๆ จะทำให้เรารู้วิธีการแก้ปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในขณะที่ใช้งานได้ แค่เว้นระยะเวลาไว้สักพักนึงก่อน แล้วค่อยลองเข้าใหม่ แค่นี้ก็ทำให้ปัญหาที่เกิดขึ้นหมดไปก็เป็นได้อีกเช่นกัน ดังนั้นอย่าพึ่งตื่นตระหนก การทำธุรกรรมการเงินอย่าใจร้อน บางอย่างรอได้ก็รอค่ะ

ที่มาข้อมูล
1.   https://www.youtube.com/watch?v=OxFWpcLbuMU
2.   https://pantip.com/topic/40168545

สิ่งหนึ่งที่คนมีครอบครัวจะต้องให้ความสำคัญคือเรื่องของการวางแผนการเงินทั้งในระยะสั้นและระยะยาวนั่นเอง การมีประกันชีวิตจึงเป็นเรื่องที่ช่วยอุดความเสี่ยงได้ วันนี้เรามีเทคนิคการเลือกประกันให้ตัวเองและคนที่คุณรักแต่จะมีอะไรบ้าง เรามาดูกันเลยดีกว่า
• ประเมินความสามารถในการจ่ายเบี้ยประกันของตนเอง ว่ามีศักยภาพในการชำระเบี้ยประกันได้มากน้อยแค่ไหน ควบคู่ไปกับการวางแผนการเงินไปด้วย เพราะหากวางแผนการจ่ายเบี้ยประกันผิดหรือเกินกว่าที่ตนเองจะชำระได้ก็จะทำให้เกิดผลเสียตามมาภายหลัง
• สำรวจเงื่อนไขของกรมธรรม์ก่อนทำสัญญาเสมอ แม้ว่าประกันที่คุณเลือกอาจดูให้ผลตอบแทนที่มากหรือให้การคุ้มครองที่ดี แต่ตามมาด้วยเงื่อนไขบางอย่างที่ไม่เหมาะกับคุณและคนในครอบครัวก็ได้
• เลือกประกันชีวิตที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคุณ เช่น ควรมองหากรมธรรม์ที่สามารถเป็นเครื่องมือในการออมเงินหรือช่วยแบ่งเบาภาระเรื่องภาษีให้กับคนในครอบครัว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณว่าคุณและครอบครัวมีไลฟ์สไตล์แบบไหน
• อย่าลืมเลือกประกันออมทรัพย์เป็นตัวช่วยในการลงทุน ซึ่งเป็นเงินปันผลในรูปแบบที่ง่ายและความเสี่ยงน้อยหรือปราศจากความเสี่ยงมาเป็นตัวช่วยในระยะยาว โดยประกันออมทรัพย์สามารถทำได้ตั้งแต่อายุยังน้อยไปจนถึงอายุมาก ซึ่งทำให้ทุกคนในบ้านสามารถปลูกฝังวินัยในการออมเงินได้แบบไม่ยาก
• ใครที่มีผู้สูงอายุในบ้านควรมีประกันบํานาญอยู่ในพอร์ตการลงทุน เพราะช่วยให้คนที่กำลังจะเกษียณหรือเกษียณตัวเองไปแล้วมีผลตอบแทนให้กับตัวเองในรูปแบบที่จ่ายๆ แถมยังได้รับผลประโยชน์จากการลงทุนเรื่องของการรักษาพยาบาลมากกว่าที่จะได้รับจากสิทธิการรักษาบัตรทองด้วย
การมีประกันทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นประกันออมทรัพย์หรือประกันสุขภาพ นั้นล้วนเป็นตัวช่วยในการสร้างความมั่นคงให้กับคนมีครอบครัวได้เหมือนกันทั้งนั้น ซึ่งการเลือกประกันนั้นไม่ได้ดูเพียงแค่เรื่องของความคุ้มครองหรือผลตอบแทนที่จะได้รับจากการลงทุนเท่านั้น แต่ควรให้ความสำคัญต่อการเลือกบริษัทประกันที่มีความมั่นคงและมีประวัติที่ดีด้วย

จากสถิติจากจดทะเบียนรถยนต์สะสมของกรมการขนส่งทางบกพบว่า ในปัจจุบันประเทศไทยมีจำนวนรถยนต์ประเภทต่าง ๆ รวมกันมากกว่า 8 ล้านคัน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะระบบขนส่งสาธารณะในประเทศยังไม่ดีเท่าที่ควร การซื้อรถส่วนตัวจึงช่วยให้เกิดความสะดวกในการเดินทางมากกว่า ทำให้คนส่วนใหญ่มักทราบถึงความสำคัญของการทำประกันรถยนต์อยู่แล้ว
SCB นายหน้าประกันรถของบริษัท ชับบ์สามัคคีประกันภัย จำกัด (มหาชน) มีแผนประกันรถหลากหลายประเภทที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์การขับรถที่แตกต่างกัน ซึ่งช่วยในการคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินในยามเกิดเหตุฉุกเฉิน โดยแผนประกันรถที่น่าสนใจ มีดังนี้
-   ประกันภัยชั้น 1 เป็นประกันที่บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนตลอด 24 ชั่วโมง โดยใช้เวลาในการเดินทางไปถึงสถานที่เกิดเหตุเพียง 20 นาที และให้บริการซ่อมแซมรถยนต์ที่อู่ในเครือ บมจ.สามัคคีประกันภัย โดยเฉพาะ รวมถึงให้การคุ้มครองทุกประเภทรถส่วนบุคคลโดยมีเงื่อนไขซื้อประกันรถยนต์อายุรถส่วนบุคคลสูงสุดไม่เกิน 9 ปี
-   ประกันภัยแผน One Save Save คุ้มครองรถยนต์ทั้งกรณีเสียหายจากอุบัติเหตุและกรณีสูญหาย สามารถเลือกสถานที่ซ่อมรถได้ด้วยตัวเอง มีบริการ Roadside Services Assistance ตลอด 24 ชม. และยังเป็นประกันชั้น 1 ที่ราคาซื้อประกันรถถูกกว่าท้องตลาดสูงสุด 40%
-   ประกันคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถยนต์ (พรบ.) คุ้มครองผู้ประสบภัยจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ทั้งกรณีบาดเจ็บและเสียชีวิต
-   ประกันพร้อมใช้ รถยนต์ประเภท 3 เหมาะสำหรับผู้ที่มีพฤติกรรมขับรถดี เกิดอุบัติเหตุน้อยคุ้มครองความสูญเสียกรณีบาดเจ็บหรือเสียชีวิตทั้งผู้ซื้อประกันรถยนต์และคู่กรณีสูงสุด 10,000,000 บาท ต่อครั้ง ประกันเฉพาะรถเก๋งหรือรถกระบะส่วนบุคคลเท่านั้น
-   ประกันรถยนต์ ชั้น 3 ประหยัด ประกันที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีรถยนต์ส่วนตัวคันเก่า เพราะไม่จำกัดอายุของรถและยังให้การคุ้มครองสูงสุด 500,000 บาท ต่อคน เหมาะสำหรับรถเก๋งและรถกระบะ โดยอายุของรถยนต์ที่เอาประกัน ไม่เกิน 20 ปี คุ้มครองทุกอุบัติเหตุยกเว้นอุบัติเหตุที่เกิดจากการเฉี่ยวชนกับวัตถุใด ๆ ที่ไม่ใช่ยานพาหนะทางบก
-   ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3+ ฮอตฮิต คุ้มครองสูงสุด 1,000,000 บาท ต่อคน มีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน 24 ชั่วโมงและพร้อมซ่อมแซมรถส่วนตัวให้แม้จะเป็นผู้ถูกหรือผิด รวมถึงหากมีประวัติการขับรถดีจะได้รับการลดเบี้ยประกันให้ถูกลงด้วย โดยรถที่สามารถทำประกันได้ต้องเป็นรถเก๋งและรถกระบะที่มีอายุไม่เกิน 20 ปี เท่านั้น
-   ประกันภัยรถยนต์ชั้น 5 เบี้ยประกันน้อย คุ้มครองมากสามารถซื้อประกันรถได้ไม่ต้องตรวจสภาพรถ ก่อนรับประกันภัย ดูแลพิเศษด้วยบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนและซ่อมให้ทันทีไม่ว่าจะเป็นฝ่ายผิดหรือไม่
นายหน้าประกันรถ SCB พร้อมดูแลรถยนต์ส่วนตัวทุกประเภทด้วยประกันที่มีคุณภาพ บริการรวดเร็วและให้ความคุ้มครองสูง นอกจากประกันรถยนต์แล้ว SCB ยังมีประกันสุขภาพ ประกันสุขภาพอีกมากมายให้ได้เลือกกัน

สำหรับผู้ที่กำลังมองหาคอนโดมิเนียมในย่านสุขุมวิทที่ใกล้กับรถไฟฟ้าและมีราคาไม่สูงมากนัก แนะนำ 2 โครงการคอนโดอ่อนนุชสไตล์โมเดิร์นที่มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครันสำหรับกิจกรรมยามว่างของทุกไลฟ์สไตล์ ซึ่งได้แก่
1. โครงการ บลอคส์ 77 จากค่ายแสนสิริเป็นคอนโดแบบ High Rise สูง 28 ชั้น ที่อยู่ในซอยสุขุมวิท 77 ตรงช่วงโค้งของคลองพระโขนงพอดีทำให้โครงการนี้ได้ทั้งลมเย็นและวิวที่สวยงาม บลอคส์ 77 ยังตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า BTS อ่อนนุชทำให้เดินทางได้สะดวกหรือหากจะใช้รถยนต์ส่วนตัวก็สามารถเข้าออกได้ทั้งทางถนนอ่อนนุชและปรีดีพนมยงค์ 2 ทั้งยังอยู่ใกล้กับจุดขึ้นลงทางด่วนด้วยในบริเวณนี้ถือว่ามีความคึกคักและเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร Community Mall สำหรับแฮงก์เอาท์ในยามว่าง มีโรงเรียนนานาชาติอยู่ในละแวกใกล้เคียงและยังไม่ไกลจากสถานพยาบาลอย่างโรงพยาบาลกล้วยน้ำไทอีกด้วย โครงการนี้จัดเต็มสิ่งอำนวยความสะดวกไว้อย่างครบครันทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวนหย่อม พื้นที่ส่วนกลางสำหรับทำกิจกรรมยามว่าง
2. โครงการ ฮาสุเฮาส์ จากค่ายแสนสิริที่น่าสนใจมาก ๆ โครงการนี้เป็นคอนโดแบบ Low Rise สูง 7 ชั้น ที่อยู่ในซอยสุขุมวิท 77 เช่นกัน เป็นหนึ่งในโครงการที่อยู่ในกลุ่ม T77 ซึ่งทางบริษัทแสนสิริได้นำโครงการคอนโดมารวมกันไว้หลายโครงการ โดยมีฮาสุเฮาส์และบลอคส์ 77 รวมอยู่ด้วย  จุดที่ตั้งของโครงการนี้ถือว่าสะดวกเพราะสามารถเข้าออกได้หลายเส้นทางทั้งถนนอ่อนนุช ปรีดีพนมยงค์ 2 และยังใกล้กับทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ โครงการนี้อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้า BTS อ่อนนุช จึงง่ายต่อการเดินทางด้วยระบบรถไฟฟ้าด้วย การออกแบบห้องพักในโครงการนี้เน้นความโปร่งโล่งเพื่อเปิดรับลมและวิวได้แบบเต็ม ๆ ตามแนวคิดคอนโดสไตล์รีสอร์ทจึงออกแบบหน้าต่างห้องให้เป็นแบบสูงจากพื้นจรดฝ้าเพดาน โซนพื้นที่ใช้สอยในห้องพักจะแบ่งเป็นสัดส่วนอย่างลงตัวโดยตกแต่งพร้อมเฟอร์นิเจอร์ Build - in สำหรับพื้นที่ส่วนกลางในโครงการนี้ได้จัดสิ่งอำนวยความสะดวกไว้ให้อย่างครบครันทั้งสระว่ายน้ำระบบเกลือแยกสระเด็ก ฟิตเนสส ห้องสมุดและห้องพักผ่อนหย่อนใจ
ทั้งสองโครงการคอนโดในซอยสุขุมวิท 77 จึงเป็นโครงการที่น่าสนใจและเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมีที่พักอาศัยในย่านสุขุมวิทตอนปลายช่วงอ่อนนุช ด้วยงบประมาณไม่ถึง 6 ล้านบาท โดยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ www.plus.co.th ส่วนผู้ที่มีคอนโดอยู่แล้วและต้องการขายคอนโดทุกพื้นที่ทุกโซนก็สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจากพลัสพร็อพเพอร์ตี้ ได้เช่นเดียวกัน ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-688-7555
แหล่งที่มาข้อมูล
1.https://thinkofliving.com/คอนโด/blocs-77-คอนโดแต่งครบริมคลองพระโขนง-ใกล้-bts-อ่อนนุช-โดยแสนสิริ-รีวิวเจาะลึก-58-10527-รีวิวโครงการ/
2. https://www.homenayoo.com/blocs-77/
3. https://www.plus.co.th/location/sukhumvit/condominium/

   การรีไฟแนนซ์บ้านคือการขอกู้จากสถาบันการเงินแห่งใหม่เพื่อมาปลดภาระหนี้สินที่มีอยู่กับสถาบันการเงินเดิมที่ให้ดอกเบี้ยต่ำกว่าเดิมหรือผ่อนต่องวดต่ำลงกว่าเดิม ส่วนใหญ่เมื่อผ่านไปสามปีดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายจะสูงขึ้น ทำให้หลายคนเริ่มมองหาโอกาสที่ดีกว่าในระยะนี้ โดยต้องเลือกธนาคารที่ให้ดอกเบี้ยต่ำกว่าที่เคยจ่ายอยู่และพิจารณาว่าเมื่อครบอายุสัญญาจะต้องจ่ายทั้งหมดเท่าไหร่ อย่าง ผ่อนคอนโดมิเนียม จากนั้นเทียบเงื่อนไขกับธนาคารใหม่ว่าถ้าให้อายุการผ่อนชำระยาวนานเท่ากับสัญญาเดิม จะต้องจ่ายเท่าไหร่ เราก็จะรู้ว่าสรุปแล้วจ่ายน้อยลงเท่าไหร่ คุ้มที่จะทำหรือไม่ แต่ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่าเงินจากการรีไฟแนนซ์สินเชื่อบ้านจะไม่ได้มีออกมาเป็นเงินส่วนต่างอย่างชัดเจน (ต่างจากการได้รับเครดิตเงินคืนในกรณีอื่น ๆ ที่จ่ายมาเป็นเงินก้อนแยกจากรายได้ตามปกติ) ฉะนั้นการจะดึงส่วนต่างนี้ออกมาได้จะต้องเกิดจากการควบคุมค่าใช้จ่าย เพราะหากไม่ทำ เราก็จะรู้สึกว่ามีเงินเพิ่มแล้วนำไปใช้จ่ายอย่างอื่นดีกว่า ถ้าเป็นแบบนั้น มันก็จะเป็นเพียงรายรับที่มีเข้ามาและจ่ายออกไป ไม่ก่อความคุ้มค่าในระยะยาว วันนี้เรามีสองวิธีใช้เงินส่วนนี้มาให้คุณครับ
• นำเงินส่วนต่างไปลงทุนกับหุ้นหรือกองทุนรวม แน่นอนว่าการลงทุนในสองส่วนนี้ ยังไงก็ให้ผลตอบแทนสูงกว่าการฝากเงินกับบัญชีออมทรัพย์ โดยเฉพาะกองทุนรวม เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำถ้าเทียบกับการลงทุนประเภทอื่น ฉะนั้นแทนที่จะผ่อนบ้านอย่างเดียว แบ่งเงินส่วนหนึ่งไว้ลงทุนในส่วนนี้เป็นประจำด้วยจำนวนเงินที่สม่ำเสมอ ก็จะทำให้คุณมีเงินใช้อย่างสุขสบายหลังจากหมดภาระเรื่องบ้านไปแล้ว
• ลงทุนดูแลตัวเองในปัจจุบันและมอบความสบายใจให้คนในครอบครัวด้วยการซื้อประกันชีวิตที่พ่วงประกันสุขภาพไว้ด้วย การทำเช่นนี้จะทำให้ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ คุณจะไม่ต้องปวดหัวเรื่องค่ารักษาพยาบาลและเมื่อเสียชีวิต ไม่ต้องกู้ เงินสดด่วน คนข้างหลังก็ยังมีทุนในการดำเนินชีวิตต่อไปได้อย่างไม่ติดขัด หรือหากถึงวันนั้นแล้วคุณยังมีภาระจากสินเชื่อส่วนบุคคลรายการอื่น เงินส่วนนี้ก็จะช่วยปลดหนี้ให้คุณได้ ทำให้ภาระหนี้ไม่ตกไปถึงคนข้างหลัง
   ความคุ้มค่าของการ รีไฟแนนซ์บ้านกับ SCB จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อคุณมีการวางแผนอย่างชัดเจน รู้ว่าส่วนต่างที่ได้มีเท่าไหร่และจะนำเงินส่วนต่างนั้นไปลงทุนอย่างไร เชื่อว่าสองวิธีที่เล่าไป ถ้าทำจริง คุณจะได้ทั้งการดูแลตัวเองในปัจจุบัน มีเงินไว้ใช้เมื่อไม่ได้ทำงานและยังมีเงินก้อนให้คนข้างหลังไว้ตั้งตัวอีกด้วย
ที่มาของข้อมูล:
https://www.scb.co.th/th/personal-banking/loans/home-loans/refinance-loan.html
https://www.scb.co.th/th/personal-banking/stories/how-to-make-money-from-refinance.html

โรคมะเร็ง โรคที่เกี่ยวกับอวัยวะสำคัญ โรคที่เกี่ยวกับระบบหมุนเวียนโลหิตและโรคที่เกี่ยวกับระบบประสาท ต่างเป็นโรคร้ายแรงที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นกับตัวเองหรือคนใกล้ชิด การวางแผนซื้อประกันสุขภาพเป็นทางเลือกที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลได้มาก
SCB Multi Care Multi Claims ประกันโรคร้ายแรงที่ออกแบบมาเพื่อบริหารความเสี่ยงและลดภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่ครอบคลุมโรคร้ายแรงถึง 5 กลุ่ม คือ กลุ่มโรคมะเร็ง กลุ่มโรคที่เกี่ยวกับอวัยวะสำคัญ กลุ่มโรคที่เกี่ยวกับระบบหมุนเวียนโลหิต กลุ่มโรคที่เกี่ยวกับระบบประสาทและกลุ่มโรคร้ายแรงอื่น ๆ  รวมทั้งสิ้น 104 โรค โดยจ่ายผลประโยชน์กรณีเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงไม่ซ้ำกลุ่มสูงสุดถึง 3 ครั้ง เมื่อตรวจพบโรคร้ายแรงทุกระดับและหากไม่ตรวจพบโรคร้ายระดับรุนแรงจนครบสัญญารับเบี้ยประกันคืนทั้งหมด ทั้งนี้ในกรณีที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคร้ายแรง ระดับรุนแรงครั้งแรกสามารถหยุดชำระเบี้ยได้ทันทีโดยไม่เสียสิทธิในการคุ้มครอง ประกันโรคร้ายแรง (เพิ่มเติมที่ : https://www.scb.co.th/th/personal-banking/insurance/cancer-insurance/mcci.html)  SCB Multi Care Multi Claims สามารถทำประกันเพื่อรับความคุ้มครองได้ตั้งแต่อายุ 1 วัน โดยมีระยะเวลาในการคุ้มครองยาวถึงอายุ 75 ปี และมีจำนวนเงินเอาประกันภัยตั้งแต่ 300,000 - 20,000,000 บาท โดยผู้เอาประกันสามารถจัดสรรภาระค่าใช้จ่างตามความสะดวกของตัวเองได้ โดยแบ่งเป็นงวด รายเดือน, ราย 3 เดือน, ราย 6 เดือน และรายปี นอกจากนี้การซื้อประกันสุขภาพ SCB Multi Care Multi Claims ยังสามารถใช้ลดหย่อนภาษีเงินได้ รวมถึงมีบริการให้คำปรึกษาเชิงจิตวิทยาให้กับผู้เอาประกันที่กำลังเผชิญหน้ากับโรคร้ายให้รู้จัดวิธีรับมือและสร้างกำลังใจเพื่อต่อสู้กับโรคร้ายต่อไป
SCB Multi Care Multi Claims สามารถเลือกระยะเวลาในการชำระเบี้ยประกันได้ตั้งแต่ 5, 10, 15 หรือ 20 ปี ทำให้ผู้มีรายได้น้อยก็สามารถซื้อประกันเพื่อดูแลสุขภาพของตัวเองได้ โดยผู้ที่สนใจสมัครสามารถกรอกข้อมูลส่วนตัวเพื่อรอเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับทางหมายเลขโทรศัพท์ที่แจ้งไว้หรือสามารถเข้าสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารไทยพานิชย์ทุกสาขา โดยเตรียมสำเนาบัตรประชาชนพร้อมเขียนระบุข้อความสำเนาถูกต้องเพื่อแนบเอกสารสมัคร
ไม่มีใครรู้ว่าโรคร้ายจะเกิดกับใคร เมื่อไหร่ การมีประกันป้องกันโรคร้ายติดตัวไม่เพียงช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตด้านการรักษาพยาบาลแต่ยังช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นกับคนรอบตัวได้ไม่น้อย ซึ่งข้อดีของ SCB Multi Care Multi Claims เรื่องไม่เคลมมีคืน ทำให้คนยุคใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพและไม่อยากเป็นภาระคนใกล้ชิดจึงเลือกให้ SCB Multi Care Multi Claims เป็นประกันบํานาญที่คุ้มค่ากับเบี้ยประกันทุกบาท

   การเลือกบัตรเครดิต scb ที่ตอบโจทย์ในทุกการใช้จ่ายของคุณจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ถ้าคุณเลือกบัตรเครดิตเพื่อตอบสนองตรงกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิต เช่น มีธุรกิจ จำเป็นต้องใช้เงินหมุน แนะนำบัตรเงินสดหรือสินเชื่อ scb เป็นต้น ซึ่งการใช้วิธีนี้จะเป็นการช่วยตัดสินใจในการเลือกบัตรเครดิตที่เหมาะสมกับคุณได้ง่ายขึ้น เรามีตัวอย่าง 3 สไตล์มาให้คุณได้พิจารณาดูว่าตรงกับไลฟ์สไตล์คุณหรือไม่ เพื่อเลือกบัตรเครดิตใบที่ใช่สำหรับคุณ
1.   สไตล์นักช้อป ผู้ชื่นชอบการจับจ่ายใช้สอย
หากคุณเป็นขาช้อปตัวยง การมีบัตรเครดิตเพื่อได้เป็นส่วนลดในการซื้อสินค้าหรือได้ของสมนาคุณ, เงินคืน, ได้รับสิทธิพิเศษผ่อนชำระ 0 % และที่สำคัญต้องใช้ได้ในทุกที่ ไม่ว่าจะในประเทศหรือต่างประเทศ เราขอแนะนำ บัตรเครดิต SCB King Power Platinum บัตรเครดิตใบเดียวที่จะตอบสนองคุณในการช้อปปิ้ง ได้รับส่วนลดเริ่มต้น 5 % และรับเพิ่มสูงสุด 20% สำหรับซื้อสินค้าทั่วไปที่ KING POWER แลกรับของรางวัลมากมาย แถมมีเงินคืน โดยเมื่อช้อปครบทุก 10,000 บาท รับคูปองเงินสด 1,000 บาท (สูงสุดได้ถึง 2,000 บาท) ที่ KING POWER และมีสิทธิพิเศษอีกมากมายทั่วโลก บัตรเดียวสามารถแลกเงินได้ทุกสกุลเงิน  คุณสามารถสมัครได้ด้วยตัวเองอย่างง่าย ๆ ผ่านแอป scb easy

2.   สไตล์นักเที่ยว ผู้ชอบท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ
หากคุณชื่นชอบการท่องเที่ยว ขึ้นเหนือล่องใต้ หรือตระเวนชิมอาหาร ทั้งในประเทศและต่างประเทศโดยเฉพาะแถบเอเชีย เราขอแนะนำบัตรเครดิต scb JCB PLATINUM ซึ่งเป็นบัตร scb travel ที่มีโปรโมชั่นเครดิตเงินคืน 3 % เมื่อใช้จ่ายบัตรที่ประเทศญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, ฮ่องกง, สิงคโปร์ และไต้หวัน ฟรีค่าธรรมเนียมรายปีตลอดชีพ เมื่อแสดงบัตรสามารถเข้าใช้บริการห้องรับรองในสนามบินได้ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ฮาวาย จีน ไต้หวัน และสนามบินอื่น ๆ กว่า 60 แห่งทั่วโลก เมื่อใช้จ่ายบัตรกับร้านอาหารที่ร่วมรายการ ฟรีเมนูพิเศษและรับส่วนลดค่าอาหาร มีประกันภัยคุ้มครองในต่างประเทศเมื่อชำระค่าโดยสารผ่านบัตรนี้ และใครที่ใช้บริการ GRAB เพื่อไปสนามบิน รับส่วนลดค่าใช้บริการ 100 บาท สามารถสมัครบัตรเพื่อการท่องเที่ยว scb travel ได้ โดยสมัครผ่านแอป scb easy

3.   สไตล์นักสะสม ผู้ชอบสะสมคะแนน ไมล์หรือส่วนลด
ผู้ที่ชื่นชอบการสะสมคะแนน สะสมไมล์ หรือส่วนลดต่าง ๆ บัตรเครดิต scb ULTRA PLATINUM นับว่าตอบโจทย์ความต้องการได้ดีเนื่องจากบัตร ULTRA PLATINUM เป็นบัตรที่รับคะแนนสะสมคูณ 5 ในหมวดการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เช่น ร้านอาหาร สถานีบริการน้ำมัน ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต กิจกรรมบันเทิง เป็นต้น ใช้จ่ายผ่านบัตร 25 บาท รับคะแนนสะสม 1 คะแนน แลกรับส่วนลดเพิ่ม 10 % เมื่อใช้จ่ายที่ SUPERSPORTS สาขาที่ร่วมรายการและสิทธิประโยชน์อื่น ๆ อีกมากมาย
นอกจากผลิตภัณฑ์ที่เป็นบัตรเครดิตตามที่เราได้แนะนำไปแล้วก็ยังมีประกันภัยรถยนต์ที่ไม่ว่าจะเป็นชั้น 1 ไปจนถึง SCB ประกันภัยชั้น 3 และหากใครเดินทางบ่อย ๆ ประกันสำหรับการเดินทางของ SCB เองก็นับว่าตอบโจทย์ทีเดียว เรียกได้ว่า อุ่นใจทุกทริป ฉีกซองปุ๊บ คุ้มครองปั๊บ
การมีบัตรเครดิตที่ตรงกับลักษณะการใช้งาน ตรงกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิต การเลือกบัตรเครดิตตามไลฟ์สไตล์นี้จะทำให้คุณได้รับประโยชน์ที่มากขึ้น และได้รับสิทธิพิเศษอย่างคุ้มค่ามากกว่า เพราะฉะนั้นถ้าใครสนใจ สามารถสมัครบัตรเครดิตและสินเชื่อ scb หรือประกันภัยต่าง ๆ ได้ที่แอปพลิเคชัน scb easy เพื่อรับสิทธิประโยชน์สุดคุ้ม

Hawaiian shirts are like paintings of tropical island paradise. The fabric itself, no matter it is viscose, rayon, cotton or silk, represents a canvas for these images of richness in island characteristic.
Nowadays, you can obviously spot many Hawaiian-inspired patterned shirts for men showing up in almost every department stores. Of course some of you know them as Hawaiian shirts, but in Hawaii they are originally went by aloha shirts. They have come a long way; aloha shirts go back for decades, from 1930s. The colorful patterns were directly inspired by those on bright kimono fabrics of Japanese rots. It was originally created to be sold in the island’s souvenir shops.
Hollywood star power has been boosting an important enhancement. Since the 50‘s, celebrities like Elvis Presley, Montgomery Cliff and Frank Sinatra, donned this Hawaiian Shirts and have made it iconic style. Even these days, you can still these vibrantly distinctive aloha shirts from the screen on celebrities, like Leonardo DiCaprio, Daniel Craig and Harry Styles. Hawaiian shirts have become a hit in men’s fashion with cool but carefree look.
However, here are some useful tips from us to pull off a modern attitude with Hawaiian shirts, including how to style them up in this season.
1.   Tropical Smart Casual (with trousers or relaxed fitted jeans)
   As you have already realized, like tank top and t shirt (Link : https://th.hm.com/men/shop-by-product/t-shirts-vests.html), printed shirt from H&M  is not considered formal. Hence, we would like to suggest some quick tips for making the Hawaiian shirts look not only amazing but most importantly, widely acceptable.
   Match a Hawaiian shirt with pleated trousers, with no belt required. You can always tuck it in for any formal occasion.    •   Wear it under a suit jacket to create a fashion statement     •   Pair with loafers, sneakers, leather oxfords or even boots like suede chukka.    •   Layer an aloha shirt over tank top, t shirt or linen shirts for men
   2.   Beachboy Summertime (with shorts)
Bold striking prints on Hawaiian shirts are undeniably perfect for summer. It will help ensure that you are formal enough to arrive with collar but care enough to be stylish. Nevertheless, keep in mind to keep it simple. Wear it with plain shorts in basic colors, and just let the aloha piece shine.
3. Be flamboyant with prints
This season’s statement piece cannot be modest, so it’s best to go flamboyant. For Hawaiian shirts there are assortments of choices. Traditional ones are of course with floral, palm leaves, or paintings of island and surfer. However, pineapples and bamboo leaves are very interesting. In case you are not a fan of standard beach prints, go with Japanese influenced patterns reminding you of souvenir jacket like waves, tigers or carps. As for brands have tried out neon shades, you can also go for psychedelic combinations of bright hues.
4. Find your perfect aloha fit
These days, Hawaiian shirts projects more refined silhouette. It can be layered over a tank top or t shirt. Unless you want to go totally retro, a modern Hawaiian printed shirt should make its own statement.  Firstly, examine the fit.  Keep it slim and structured. The best choice is a straight fit to the hips, so it can be both worn out and tucked in much easily for versatile look.
   Our country does not provide the best environment for layered heavy formal suits or any type of business jackets. So, if your workplace relaxes its formal work attire on Fridays, just go ahead and grab an aloha!

ในปัจจุบันมีพนักงานบริษัทจำนวนไม่น้อยที่มี credit card เป็นของตัวเอง เนื่องจากผลิตภัณฑ์ทางการเงินประเภทนี้ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้จ่ายในยามที่ไม่มีเงินสดติดตัวหรือการซื้อสินค้าและบริการผ่าน Market place ทั่วโลก
โดยการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตไม่เพียงแค่ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นจากสภาพคล่องทางการเงินที่สามารถจับจ่ายใช้สอยเพื่อซื้อสินค้าหรือบริการได้ตามความต้องการพร้อมรับสิทธิพิเศษบัตรเครดิตที่มีแต่ผู้ถือบัตรเครดิตเท่านั้นที่จะได้รับ
ลักษณะของ สิทธิพิเศษบัตรเครดิต ที่ได้รับความนิยมมี 2 ประเภท คือ
-   เครดิตเงินคืน เป็นโปรโมชั่นที่จะให้เงินคืนเมื่อซื้อสินค้าหรือบริการที่กำหนด โดยเปอร์เซ็นต์เงินคืนที่ได้รับขึ้นอยู่กับเปอร์เซ็นต์ที่ เครดิตเงินคืน กำหนดไว้แตกต่างกันไปตามแต่ละบัตรเครดิต cashback หรือประเภทสินค้าหรือบริการ โดยส่วนใหญ่จะคำนวณเปอร์เซ็นต์หลังจากใช้จ่ายขั้นต่ำ 800 – 1,000 บาท/ครั้ง
-   บัตรสะสมแต้ม เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตลูกค้าจะได้รับ point สะสมเพื่อนำไปแลกรับบัตรกำนันหรือสินค้าเมื่อครบแต้มสะสมตามที่โปรโมชั่นบัตรกำหนดไว้ โดยอัตราการคำนวณคะแนนจะนับทุก ๆ ยอดเงินที่กำหนด เช่น 25 บาท เท่ากับ 1 คะแนน เป็นต้น
บัตรเครดิตโปรโมชั่นใหม่ของ SCB ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าด้วยโปรโมชั่นฟรีค่าธรรมเนียมและใช้เป็นส่วนลดค่าสินค้าหรือบริการในร้านค้าที่เข้าร่วมโปรโมชั่น โดยฐานเงินเดือนขั้นต่ำที่สามารถสมัครบัตรเครดิตได้เริ่มต้นเพียง 15,000 บาท/เดือน เหมาะสำหรับพนักงานประจำที่ต้องการเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้สามารถซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคต่าง ๆ ได้ตามความต้องการพร้อมรับสิทธิประโยชน์สุดพิเศษที่มีแต่ลูกค้าบัตรเครดิต SCB เท่านั้นที่จะได้รับ
โดยบัตรเครดิต SCB UP2ME เป็นบัตรเครดิตที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ถือบัตรสามารถปรับเปลี่ยนโปรโมชั่นได้ตามลักษณะการใช้ชีวิตพร้อมรับคะแนนคูณ 3 เท่าในหมวดการใช้จ่ายที่ได้ทำการเลือก ทั้งช็อปปิ้ง ร้านอาหาร เสื้อผ้าและเครื่องสำอาง หรือแม้กระทั่งการใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวก็สามารถทำได้และยังคูณคะแนนพิเศษในเดือนเกิดถึง 5 เท่า นอกจากนี้ไม่ว่าจะใช้จ่ายเท่าไหร่ก็ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมตลอดชีพ โดยคะแนนใน บัตรสะสมแต้ม SCB UP2ME สามารถใช้แลกบัตรกำนัน ส่วนลดหรือสินค้าและบริการได้หลากหลายหมวด
เงื่อนไขในการสมัคร SCB UP2ME แสนง่ายเหมาะสำหรับพนักงานประจำรุ่นใหม่ อายุ 20 ปีขึ้นไป รายได้ 15,000 บาท/เดือน เพียงนำสำเนาบัตรประชาชน สลิปเงินเดือนและ Statement บัญชีเงินเดือนย้อนหลัง 3 เดือนและกรอกเอกสารสมัครที่ธนาคาร SCB ใกล้ที่สุด จากนั้นรอการอนุมัติบัตรเป็นอันเรียบร้อย
SCB credit card ไม่เพียงช่วยอำนวยความสะดวกในการจับจ่ายใช้สอยตามความต้องการ แต่ยังคุ้มค่ากว่าด้วยสิทธิพิเศษมากมาย ยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีกว่าคุ้มค่ากว่าการใช้สอยด้วยเงินสด นอกจากนี้ SCB ยังมีกองทุน RMF ที่มีการลงทุนที่หลากหลายให้คุณเลือกลงทุน โดยไม่มีการจ่ายเงินปันผล เน้นเพื่อมีเงินออมไว้ใช้หลังเกษียณอีกด้วย

   การขอสินเชื่อระบบเก่า อาจสร้างประสบการณ์แง่ลบให้กับหลายคน นอกจากความยุ่งยากในการเตรียมเอกสารมากมาย ยังต้องใช้ระยะเวลาในการรอผลอนุมัตินานหลายวัน บางรายเจอหนักกว่านั้น เพราะผ่านไปหลายวัน ข้อความที่ติดต่อกลับมากลายเป็นการขอเอกสารเพิ่มเติม ทำให้ระยะเวลาดำเนินการยิ่งนานวันขึ้นอีก
แต่การขอ สินเชื่อ scb ในปัจจุบันนี้ ไม่มีคำว่าล่าช้า เมื่อสมัคร สินเชื่อ scb ผ่านแอปฯ scb easy ด้วยแล้ว อะไรที่ว่าง่าย ก็อาจไม่ง่ายเท่าการขอสินเชื่อผ่านแอปของธนาคารไทยพาณิชย์
ตัวอย่างขั้นตอนการขอสินเชื่อผ่านแอป  scb easy
1.   ในกรณีที่ยังไม่มีแอปนี้ในสมาร์ทโฟน สามารถดาวน์โหลดแอปฯ ได้ทั้งในระบบ iOS และ Android
2.   เปิดใช้งานแอปฯ โดยทำตามขั้นตอนที่แอปฯ แนะนำ
3.   ล็อกอินเพื่อเข้าใช้งาน
4.   เลือกรายการ  บัตรเครดิตและสินเชื่อ
5.   กรอกข้อมูลตามลำดับ
6.   ตรวจสอบข้อมูลทั้งหมด จากนั้นกดยืนยัน
7.   รอผลอนุมัติ
8.   รับเงินโอนเข้าบัญชีที่แจ้งไว้ในขั้นตอนการสมัคร   
การขอสินเชื่อผ่านแอป รวดเร็วกว่า สะดวกกว่า และทำได้จากทุกที่ ตลอด 24 ชม. ทั้งหมดเป็นความตั้งใจของทางธนาคารไทยพาณิชย์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าของธนาคารทุกท่าน พร้อมสร้างประสบการณ์ที่ดีในการขอสินเชื่อ และสำคัญที่สุดเพื่อตอบทุกโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุกราย
อย่างไรก็ตาม สำหรับลูกค้าของธนาคารไทยพาณิชย์ที่ถือ บัตร เครดิต scb การขอสินเชื่อจะง่ายขึ้นอีก เพราะสามารถเปลี่ยนวงเงินในบัตรเป็นเงินโอนเข้าบัญชีได้เลยทันที ซึ่งวิธีนี้อาจจะพูดได้ว่ารวดเร็ว และสะดวกมาก ดังนั้นหากท่านใดต้องการเปิดโอกาสให้ตนเองได้มีสิทธิ์ขอสินเชื่อประเภทนี้ในอนาคต ก็สามารถสมัคร บัตร เครดิต scb ผ่านแอปฯ ได้ทันที ไม่จำเป็นต้องรอวันเวลาเปิดทำการของธนาคาร 
นอกจากจะสามารถขอ สินเชื่อ scb ผ่านแอปฯ ได้แล้ว สำหรับผู้ที่ต้องการแลกเงินต่างประเทศให้ได้เรทดี ต้องการแลกเงินเก็บไว้ใช้ในยามต้องการ ก็สามารถแลกเงินผ่านแอปฯ ได้เช่นเดียวกัน เพียงสมัครบัตร Planet SCB ผ่านแอปฯ แล้วใช้งานบัตรร่วมกับแอปฯ scb easy ตามคำแนะนำที่ระบุไว้ใน scb pantip (Link เพิ่มเติม : https://pantip.com/topic/39958974) และในกรณีที่ต้องการซักถาม หรือขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ธนาคาร ก็สามารถติดต่อผ่านพื้นที่ของ scb planet pantip ได้ตลอด 24 ชม. เนื่องจากจะมีเจ้าหน้าที่ของธนาคารไทยพาณิชย์เข้ามาตอบข้อสงสัยและช่วยประสานงานให้อยู่เสมอ   

   เหตุผลหลัก ๆ ที่ทำให้คนส่วนใหญ่เลือกอาศัยในย่านทองหล่อนั้นก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของความสะดวกสบายในด้านการเดินทางที่ตอบโจทย์ทั้งคนที่มีรถส่วนตัวและกลุ่มคนที่จำเป็นต้องใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ เนื่องจากบริเวณทองหล่อนั้นเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างถนนสายสำคัญของกรุงเทพฯ สองสายคือ ถนนสุขุมวิทและถนนเพชรบุรี อีกทั้งยังมีรถไฟฟ้าสายสีเขียนอ่อนตัดผ่านด้วย ซึ่งแน่นอนว่าจะช่วยประหยัดเวลาในการเดินทางได้หลายเท่าตัว อย่างไรก็ตาม นอกจากเรื่องของการเดินทางแล้ว สิ่งหนึ่งที่ถือได้ว่าเป็นเอกลักษณ์สำคัญของทองหล่อคือ สิ่งอำนวยความสะดวกสบายที่มีอยู่มากมายตลอดทั้งย่าน ไม่ว่าจะเป็น สถานบันเทิง ห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ร้านอาหาร ฟิตเนส ทำให้ย่านทองหล่อกลายเป็นแหล่งกิน แหล่งช้อปปิ้ง แหล่งเที่ยวที่ถูกใจทั้งวัยรุ่น วัยทำงาน และชาวต่างชาติ ดังนั้นเพื่อให้คนอยากอยู่ทองหล่อเลือกซื้อคอนโดพร้อมอยู่ ได้เร็วขึ้น วันนี้เราจึงมี 3 คอนโดทองหล่อมาฝาก แต่จะมีโครงการไหนบ้างนั้น มาดูกันเลย
1.   ลิฟ แอท 49
โครงการแรกที่แนะนำคือ โครงการลิฟ แอท 49 คอนโด Low Rise แบบคู่ สูง 8 ชั้น ที่ออกแบบมาเพื่อคนที่ชอบความเป็นส่วนตัวโดยเฉพาะ เนื่องจากโครงการนี้จำกัดจำนวนห้องต่อชั้นเพียงแค่ 17 ห้องเท่านั้น ส่วนถ้าถามเรื่องของทำเลที่ตั้งนั้น บอกได้เลยว่าเป็นตั้งอยู่บนทำเลที่ดีมาก ๆ แห่งหนึ่ง เพราะถึงแม้ว่าจะอยู่ห่างจากรถไฟฟ้าสถานีทองหล่อประมาณ 500 เมตร แต่ก็รายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายที่จะช่วยทำให้การใช้ชีวิตประจำวันสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น
2.   ไอดีโอ มอร์ฟ สุขุมวิท 38
โครงการต่อมาคือ โครงการไอดีโอ มอร์ฟ สุขุมวิท 38 คอนโดแบบ High Rise สูง 10 ชั้น โครงการสวยที่มาพร้อมจุดเด่นในเรื่องการเดินทาง เพราะอยู่ห่างจากรถไฟฟ้า BTS สถานีทองหล่อประมาณ 300 เมตร นอกจากนั้นด้วยตำแหน่งที่อยู่ในซอยสุขุมวิท 38 จึงทำให้สามารถเดินทางลัดเลาะเชื่อมต่อไปยังซอยต่าง ๆ ในย่านสุขุมวิทได้ง่ายขึ้นด้วย
3.   รูเนะสุ ทองหล่อ 5
สำหรับโครงการสุดท้ายที่ไม่ควรพลาดคือ โครงการรูเนะสุ ทองหล่อ 5 คอนโดสุดหรูแบบ Low Rise สูง 8 ชั้น ซึ่งจุดเด่นของโครงการนี้อยู่ที่การนำเทคโนโลยีการกลับคานที่ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างพื้นมากขึ้น ทำให้เพิ่มพื้นที่ใช้สอยเพิ่มมากขึ้น ส่วนเรื่องการเดินทางนั้น แม้ว่าจะไม่ใช่คอนโดติดรถไฟฟ้า อย่างชัดเจน เพราะอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าทองหล่อประมาณ 900 เมตร ต้องใช้บริการวินมอเตอร์ไซต์เพื่อไปยังสถานีรถไฟฟ้าอีกที แต่ถ้าดูดี ๆ จะเห็นว่าโดยรอบโครงการนั้นเต็มไปด้วยร้านอาหาร ร้านเที่ยวมากมาย เหมือนสวรรค์บนดินของขาช้อป นักกิน นักเที่ยวเลยทีเดียว
เป็นอย่างไรบ้างสำหรับ 3 คอนโดมิเนียมจากแสนสิริย่านทองหล่อ ที่เหมาะทั้งการอยู่อาศัยและการเดินทางที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ ซึ่งไม่เพียงตอบโจทย์เฉพาะ 2 เรื่องนี้เท่านั้น เพราะถ้าคุณกำลังวางแผนลงทุน บอกเลยว่าเป็นโครงการที่เหมาะกับการซื้อไว้เพื่อปล่อยขายและเช่าคอนโด (เพิ่มเติมที่ : https://www.plus.co.th/recommend-by-plus/rent/) แต่หากยังไม่รู้จะขายคอนโดที่ไหน ก็ให้มาขายคอนโดกับ Plus property รับรองว่าขายง่ายกว่าเดิมแน่นอน

   บ่อยครั้งที่ความจำเป็นในชีวิตคนเรามักจะเกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว และขึ้นชื่อว่าความจำเป็น 90% คงหนีไม่พ้นเรื่องของเงิน ๆ ทอง ๆ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะคงปฏิเสธไม่ได้ว่าเงินเป็นปัจจัยสำคัญหนึ่งในชีวิต หลายครั้งที่ได้ยินข่าวการฆ่าตัวตายด้วยสาเหตุของการมีเงินใช้ที่ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต จึงเลือกตัดสินปัญหาด้วยวิธีการแบบง่าย ๆ แต่รู้หรือไม่ว่าการฆ่าตัวตายไม่ใช่การจบปัญหาแต่มันคือการสร้างปัญหาให้กับคนที่มีชีวิตอยู่ต่างหาก
   ปัจจุบันธนาคารหลายแห่งจึงเกิดโครงการบ้านแลกเงินเพื่อเป็นตัวเลือกหนึ่งของทางออกปัญหาชีวิต แทนการให้รีไฟแนนซ์บ้านด้วยหลักการง่าย ๆ เริ่มจากนำบ้านไปฝากไว้ที่ธนาคาร รับเงินมาใช้ในเรื่องที่จำเป็นและยังสามารถอาศัยอยู่ในบ้านได้ตามเดิม หากตอนนี้ใครที่มีความคิดจะเข้าร่วมโครงการ เพียงแค่ปฏิบัติตามขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้
1.   เลือกธนาคารและจัดเตรียมเอกสาร ซึ่งมีธนาคารมากมายให้คุณได้ตัดสินใจเลือก แต่ถ้าให้แนะนำมาเป็นอันดับหนึ่ง ต้องธนาคารไทยพาณิชย์ด้วยโครงการสินเชื่อบ้านคือเงิน (My Home My Cash) สามารถให้คุณกู้ได้สูงสุดถึง 20 ล้านบาท ผ่อนสบาย ๆ ได้สูงสุดถึง 30 ปี พิเศษสุดดอกเบี้ย 0% นาน 3 เดือน และที่สำคัญฟรีค่าประเมินหลักทรัพย์และค่าจดจำนอง รับรองว่าจะไม่ทำให้คุณผิดหวังอย่างแน่นอน และในส่วนเรื่องของเอกสารโดยส่วนใหญ่แล้วก็แทบจะเหมือนกันทุกธนาคาร หลัก ๆ ก็จะประกอบด้วย
- สำเนาบัตรประชาชน
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- เอกสารต่าง ๆ ของคู่สมรส (ถ้ามี)
- เอกสารแสดงรายได้ (สลิปเงินเดือน / หนังสือรับรองเงินเดือน)
- รายการเดินบัญชีย้อนหลังอย่างน้อย 6 เดือน 
- เอกสารแสดงความเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ต่าง ๆ เป็นต้น
2. รอธนาคารประเมินราคา เมื่อดำเนินการยื่นเรื่องขอกู้เรียบร้อยแล้ว ที่เหลือก็แค่เพียงรอทางธนาคารจะส่งทีมประเมินเข้ามาตรวจสอบสภาพบ้านที่อยู่อาศัยและประเมินมูลค่า เพื่อนำไปคำนวณอัตราจำนวนวงเงินกู้สินเชื่อ
3. อนุมัติ หลังจากที่ธนาคารคำนวณมูลค่าที่อยู่อาศัยและประเมินวงเงินกู้เรียบร้อยแล้ว จะแจ้งผลการพิจารณาให้ผู้ยื่นขอกู้ทราบพร้อมอัตราดอกเบี้ย ในขั้นตอนนี้ผู้กู้จะต้องตัดสินใจว่าสามารถรับกับอัตราที่ธนาคารแจ้งได้หรือไม่ เพราะธนาคารอาจจะให้วงเงินกู้ที่น้อยกว่าที่ผู้กู้ต้องการ หากสามารถยอมรับวงเงินได้ก็สามารถดำเนินการขั้นตอนต่อไปได้เลย แต่ถ้าไม่สามารถยอมรับได้ ลองขอต่อรองวงเงินกับธนาคารอีกครั้งหรืออาจยื่นกู้กับธนาคารอื่นต่อไป
4. เซ็นสัญญา สามารถดำเนินการนัดวันทำสัญญากู้เงินร่วมกับธนาคาร และสัญญาการจดจองที่กรมที่ดินได้ต่อไป ถือเป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอน
   เพียง 4 ขั้นตอนง่าย ๆ กับการเปลี่ยนบ้านเป็นเงิน เพื่อมาใช้จ่ายในยามจำเป็น วิธีการนี้น่าจะเป็นทางออกที่ดีของใครหลาย ๆ คน เพราะความจำเป็นในชีวิตของคนเรานั้นต่างกัน การเอาบ้านไปฝากไว้กับธนาคารก็ไม่ได้แย่แบบที่ใคร ๆ พูด ความรู้สึกเหมือนการผ่อนบ้านหรือผ่อนคอนโด เมื่อเริ่มซื้อในครั้งแรก แต่ต่างกันตรงที่ครั้งนี้นอกจากได้บ้านแล้วยังได้เงินอีกด้วย   
   

   คอนโดพร้อมอยู่ ย่านพระราม9 เป็นทำเลหนึ่งที่มีความสมบูรณ์ครบครันในหลาย ๆ ด้าน ทั้งสำนักงาน บริษัท องค์กรต่าง ๆ สิ่งอำนวยความสะดวก ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร รวมถึงการคมนาคมที่มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ จึงเป็นทำเลที่ได้รับความนิยมอยู่ตลอดเวลา โดยวันนี้เรามีคอนโดพระราม 9 3 โครงการที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างมาแนะนำ
1.   แอชตัน อโศก - พระราม 9
   คอนโดโครงการหรูที่ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพ บริเวณแยกพระราม 9 ช่วยให้ทุกการเดินทางเป็นเรื่องง่ายมากขึ้น โดยเป็น คอนโดติดรถไฟฟ้า ทั้ง MRT พระราม 9 (230 เมตร), ARL มักกะสัน (950 เมตร) และอยู่ใกล้จุดขึ้น-ลง ทางด่วนด้วย นอกจากนี้ยังรายล้อมด้วยองค์กรต่าง ๆ และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น อาคารสำนักงานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, สถานฑูตจีน และ เซ็นทรัลพระราม 9 โดยมี 2 อาคาร สูง 46 และ 50 ชั้น 599 ยูนิตเพื่อการอยู่อาศัย ภายในโครงการมาพร้อมพื้นที่ส่วนกลางที่เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ที่มีกิจกรรมหลากหลาย อย่างเช่น สระว่ายน้ำ ห้องซาวน่า ห้องโยคะ ห้องออกกำลังกายที่มีเทคโนโลยีทันสมัย ช่วยให้การออกกำลังกายเป็นเรื่องสนุกมากขึ้น พื้นที่ทำงานที่เหมาะต่อการสร้างสรรค์ไอเดียดี ๆ และพื้นที่สีเขียวช่วยเพิ่มความสดชื่นได้ตลอดเวลา เป็นต้น โดยมีห้องขนาด 1-2 ห้องนอน และห้องแบบเพนท์เฮาส์ พื้นที่ใช้สอย 31.5 – 175.5 ตร.ม.
2.   แอสปาย พระราม 9
   คอนโดพระราม 9 โครงการนี้ตั้งอยู่บริเวณพระราม 9 ซอย 2 ใกล้แยกพระราม 9 เป็น คอนโดติดรถไฟฟ้า ที่อยู่ห่างจาก MRT พระราม 9 ประมาณ 400 เมตร มี 2 อาคาร สูง 23 และ 25 ชั้น 663 ยูนิตเพื่อการอยู่อาศัย โดยมีห้องแบบ 1 และ 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 32-66.2 ตร.ม. พื้นที่ส่วนกลางภายในโครงการก็มีการจัดเตรียมไว้ให้อย่างครบครัน ตกแต่งโดยเน้นพื้นที่สีเขียวเพื่อเพิ่มความสบายตาในทุกมุมมอง โดยมีทั้งสระว่ายน้ำ ห้องซาวน่า ห้องออกกำลังกาย สนามบาส และสวนสีเขียว นอกจากนี้ยังมีระบบรักษาความปลอดภัยมาตรฐานตลอด 24 ชม. ด้วย นอกจากการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าแล้ว ยังมีทั้งรถสาธารณะ ทางด่วน เรือประจำทางให้บริการอยู่ไม่ไกล และรอบ ๆ โครงการรายล้อมไปด้วยสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า และร้านค้าต่าง ๆ มากมาย สำหรับใครที่คิดจะลงทุน ขายคอนโด แล้ว โครงการนี้ก็เป็นอีกโครงการที่ไม่ควรพลาด
3.   คอนโดเลต มิสท์ อโศก-พระราม 9
   คอนโดพร้อมอยู่ ใกล้แยกพระราม 9 อีกหนึ่งโครงการที่อยู่ห่างจาก MRT พระราม 9 ประมาณ 300 เมตร โดยมีความสูง 30 ชั้น 433 ยูนิตเพื่อการอยู่อาศัย มีห้องทั้งแบบสตูดิโอ, 1 ,2 และ 3+ ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 21.5-78.8 ตร.ม. โดยมีการเดินทางที่สะดวกและมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ แบบเดียวกับสองโครงการข้างต้น เพราะเป็นคอนโดที่อยู่ใกล้แยกพระราม 9 เช่นเดียวกัน โดยตั้งอยู่บริเวณพระราม 9 ซอย 4 ซึ่งตัวโครงการจะอยู่ถัดจากถนนพระราม 9 เข้าไปประมาณ 100 เมตร พื้นที่ส่วนกลางมีทั้งห้องโถงต้อนรับ สระว่ายน้ำ สวนสีเขียว พื้นที่นั่งเล่นบนดาดฟ้า ห้องออกกำลังกายและห้องอเนกประสงค์ เป็นต้น
3 โครงการข้างต้นมีจุดเด่นและสไตล์ที่แตกต่างกันออกไป หากใครสนใจเพิ่มเติมสามารถดูรายละเอียดคอนโดพร้อมอยู่จากพลัส พร็อพเพอร์ตี้ได้ที่ https://www.plus.co.th/ และถ้าใครมีห้องที่ต้องการขาย หากยังไม่รู้จะ ขายคอนโด ที่ไหน ก็ให้มาขายคอนโดกับ Plus property

   การแต่งตัวถือเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวสาว ๆ ทุกคน แต่สาว ๆ ที่มีรูปร่างค่อนข้างอวบก็อาจจะเป็นกังวลว่าจะใส่เสื้อผ้าที่ค่อนข้างเข้ารูปได้หรือไม่ ใส่ออกมาแล้วจะดูสวยแบบที่ต้องการไหม เช่นนั้นหากว่าสาว ๆ อยากแต่งตัว ให้ออกมาสวย ดูดี มีเสน่ห์ก็ควรที่จะต้องมีแนวทางในการใส่เสื้อผ้า plus size จาก H&M ที่เหมาะสมกับรูปร่างตัวเอง จะมีอะไรบ้าง มาดูเลย!
เลือกกางเกงทรง skinny ช่วยสร้างลุคให้หลากหลาย
บอกเลยว่าถ้าสาว ๆ มีไอเทม อย่าง plus size jeans ติดตู้เสื้อผ้าไว้อุ่นใจแน่นอน เพราะสามารถนำไปแมชกับเสื้อผ้าและเครื่องประดับต่าง ๆ ได้หลากหลาย และยังมีหลายแบบทั้งแบบที่เป็นทรงขาตรง ขาบานหรือขาเดฟ ซึ่งทรง skinny jeans ถือเป็นไอเทมที่น่าสนใจ สามารถใส่กับเสื้อเชิ้ต เสื้อคอปกแขนยาว ได้ทั้งลุคไปทำงานและไปเที่ยว โดยสาว ๆ สามารถเพิ่มลูกเล่นให้มากขึ้นด้วยการหยิบหมวก แว่นตา มาเพิ่มความมั่นใจกันได้อย่างเต็มที่ ข้อสำคัญคือให้เลือกเป็นกางเกงยีนส์สีเข้มจะช่วยในการอำพรางรูปร่างของสาว ๆ ให้ดูเล็กลงมากยิ่งขึ้น
จับคู่แมชกับไอเทม mini skirt
แต่ทว่าใครอยากจะเพิ่มความหวานให้กับลุคนี้ให้มากขึ้น ก็สามารถใส่ skinny jeans กับ mini skirt สวมกระโปรงทับด้านนอกและใส่กางเกงยีนส์เสมือนกับการใส่กางเกงเลกกิ้ง แต่จะให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไป โดยจะช่วยเพิ่มความกระฉับกระเฉงและคล่องตัวแต่ก็ยังคงความหวานอยู่ ข้อควรระวังคือสาว ๆ ไม่ควรเลือกผ้าของ mini skirt ที่หนาจนเกินไป เพราะจะทำลำตัวให้ดูหนาเกินความเป็นจริง
จับคู่แมชกับไอเทมเสื้อยืด ครอปสั้น sports bra
กางเกงอีกทรงหนึ่งที่เหมาะกับสาว ๆ plus size  ก็คือทรงกางเกงเอวสูง ซึ่งช่วยในการเก็บเนื้อส่วนเกินทางด้านหน้า ด้านข้างได้ค่อนข้างดี ที่สำคัญคือเลือกความยาวของขากางเกงให้พอดี ทรงกางเกงแบบนี้ใส่กับเสื้อผ้าได้ค่อนข้างเยอะ ทั้ง Cardigan เสื้อยืด เสื้อครอปสั้น เสื้อตัวสั้นทั้งหลาย เสื้อ sports bra จาก H&M ใส่ออกมาแล้วก็จะดูไม่อึดอัดและเสริมให้รูปร่างมีส่วนสัดมากยิ่งขึ้น
จุดสำคัญในการแต่งตัวด้วย plus size  อีกอย่างคือต้องเลือกขนาดที่พอดีตัวหมายถึงไม่คับแน่นหรือมีความหลวมจนเกินไป เพราะจะทำให้เสน่ห์ของการใส่ยีนส์ขาดหายไป ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เป็นเทคนิคการแต่งตัวที่สาว ๆ  สามารถนำไปใช้ได้จริงและดูดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ

   การเดินทางในกรุงเทพฯ เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องให้ความสำคัญ ยิ่งต้องเดินทางผ่านช่วงที่มีการจราจรหนาแน่นแล้ว ยิ่งต้องเผื่อเวลาไว้อย่างมากเลยทีเดียว แต่ถ้าเราสามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้าได้ก็จะเพิ่มอิสระให้กับชีวิตมากขึ้น ดังนั้น อย่าลืมมองหาคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้า เพราะจะช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับการใช้ชีวิตอย่างมาก
เดอะ ไลน์ สุขุมวิท 101 อยู่ห่างจากสถานีปุณณวิถี 250 เมตร ซึ่งนอกจากจะสะดวกเรื่องการเดินทางโดยรถไฟฟ้าแล้วยังอยู่ใกล้ทางขึ้น-ลงทางด่วนอีกด้วย ทำให้ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่เดินทางโดยรถยนต์เช่นกัน และยังแวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย โดยภายนอกโครงการมีห้างสรรพสินค้า เช่น เซ็นทรัลพลาซา บางนา (4.7 กม.) และเทสโก้ โลตัส (4.2 กม.) เป็นต้น
ภายในโครงการมีการออกแบบโดยใช้สีสันสดใสและเส้นสายที่มีความเชื่อมโยงกันทั้งภายในและภายนอกอาคาร เพื่อแสดงถึงการใช้ชีวิตแบบยั่งยืน ทันสมัย เข้าได้กับทุกยุค ซึ่ง คอนโดอ่อนนุช – ปุณณวิถี โครงการนี้เป็นคอนโดแบบ high rise สูง 37 ชั้น มีการวางตัวอาคารแบบ couple block ที่จะทำให้ระยะทางระหว่างโถงลิฟต์ไปยังห้องต่าง ๆ สั้นลงกว่าแบบปกติด้วย ภายในห้องมีการใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่าโดยเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่สามารถเก็บของได้มากกว่าที่เห็น และสามารถพับเก็บได้เมื่อไม่ได้ใช้ประโยชน์ ใช้เพดานแบบสูงพิเศษเริ่มต้นที่ 3.4 - 5.5 เมตร ทำให้รู้สึกโล่ง โปร่ง สบายตา นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการอีก เช่น Co-kitchen ที่มีอุปกรณ์เครื่องครัวมากมายให้เลือกใช้สร้างสรรค์เมนูใหม่ ๆ ได้อย่างง่ายดาย Garden pavilion พื้นที่สีเขียวที่มีมุมพักผ่อนจัดวางไว้อย่างลงตัว Co-working space พื้นที่สำหรับสร้างสรรค์ผลงานซึ่งสามารถรองรับได้ทั้งการทำงานแบบเดี่ยวและแบบกลุ่มโดยมีโปรเจกเตอร์และไวท์บอร์ดให้บริการด้วย นอกจากนี้ยังมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ที่อยู่ท่ามกลางสวนสีเขียว LED multi-court ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามแรงกระแทกที่เกิดขึ้นบนพื้น ซึ่งรองรับทั้งสนามบาสเกตบอล ฟุตบอล และเทนนิส ซึ่งเป็นที่แรกในเอเชียทางตะวันออกเฉียงใต้ และยังมีห้องสันทนาการที่สามารถเล่นเกมส์ และผ่อนคลายด้วยกิจกรรมอย่างอื่นด้วย
คอนโดกรุงเทพ โครงการนี้ มีทั้งแบบ 1 ห้องนอน 2 ห้องนอน และแบบ Duplex พื้นที่เริ่มต้น 26.75 – 63.25 ตร.ม. ซึ่งหากใครต้องการ ซื้อคอนโดมือสอง มีห้องแบบ 1 ห้องนอน ราคา ตร.ม.ละ 141,819 บาท ขนาด 27.5 ตร.ม.โดยห้องนี้มีราคา 3,900,000 บาท ซึ่งสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ https://www.plus.co.th/
หากสนใจคอนโดอ่อนนุชจากพลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ติดต่อได้ที่โทร: 02-688-7555, อีเมล :plusagency@plus.co.th, Facebook: Plus Property Co.,Ltd.

   ก่อนที่เราจะซื้อหรือขายคอนโด เราควรที่จะทราบ ราคาประเมินคอนโด ของเราก่อนเพื่อเป็นราคากลางและเป็นราคาที่จะช่วยคุณตัดสินใจในการซื้อขาย ซึ่งราคาประเมินนี้ใครเป็นคนตั้ง เช็คราคาได้จากที่ไหน วันนี้เราจะได้มารู้กัน
ราคาประเมินคอนโดคืออะไร ใครเป็นผู้ตั้งราคา
   ราคาประเมินคอนโดคือราคากลางที่กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลังเป็นผู้กำหนด โดยดูตามศักยภาพของทำเลที่ตั้งและความเจริญของทำเล เช่น รถไฟฟ้า ถนนตัดใหม่ ห้างสรรพสินค้า เป็นต้น โดยราคาประเมินไม่ได้มีเฉพาะรัฐบาลเท่านั้นที่เป็นผู้กำหนด แต่ภาคเอกชนก็มีการกำหนดราคาเช่นกัน โดยสามารถอ้างอิงข้อมูล ราคาประเมินจากทั้งราคาประเมินจากภาครัฐและราคาตลาด เป็นต้น โดยราคาประเมินเอกชน หลัก จะมี 2 แบบ ได้แก่
1.   ธนาคารพาณิชย์ เพื่อประเมินการปล่อยสินเชื่อ หรือคำนวณมูลค่าหลักประกัน
2.   บริษัทประเมินราคาสินทรัพย์
ประโยชน์ของราคาประเมินอาคารชุด
   ราคาประเมินอาคารชุด ประโยชน์หลัก ๆ ไม่ใช่เพื่อการซื้อขายแต่เพียงอย่างเดียว แต่เพื่อนำมาใช้ เช่น
•   หลักในการคำนวณค่าธรรมเนียมภาษีเงินได้ ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ ในการทำนิติกรรมอสังหาริมทรัพย์ (โอนกรรมสิทธิ์ จำนอง ซื้อ ขาย)
•   ค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายให้กรมที่ดินในวันโอน โดยส่วนใหญ่จะคิดค่าใช้จ่าย 1-2% ของราคาประเมิน
•   ใช้ในกรณีที่นำอสังหาริมทรัพย์ ทรัพย์สินไปค้ำประกัน ลงทุน ขอสินเชื่อ ทำธุรกรรมต่าง ๆ เป็นต้น
•   กรณีที่มีการเกิดคดีความ เกิดการฟ้องร้อง โดยจะใช้ราคาประเมินเป็นหลักในการคิดค่าเสียหาย
•   จ่ายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง อิงตามราคาประเมินของทางราชการ
•   นักลงทุนสามารถใช้คำนวณค่าใช้จ่ายล่วงหน้าและใช้เป็นข้อมูลในการต่อรองได้
วิธีการเช็คราคาประเมินอาคารชุด ซึ่งมี 2 วิธีที่สามารถ เช็คราคาประเมินคอนโด ได้ดังนี้
วิธีที่ 1: ไปที่สำนักงานที่ดิน โดยเตรียม เอกสาร ได้แก่
1.   บัตรประชาชน
2.   โฉนดที่ดิน น.ส.3, น.ส.3ก
3.   สำเนาทะเบียนบ้าน   
วิธีที่ 2 : เช็คทางเว็บไซต์ของกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง (http://trdservice.treasury.go.th/) โดยสามารถเลือกหัวข้อ “ด้านประเมินทรัพย์สิน” เลือกค้นหาราคาประเมินอาคารชุดได้เลย โดยจะมีวันที่ประกาศและวันที่บังคับใช้ เพื่อให้เราทราบว่าเป็นการประเมินล่าสุดเมื่อไหร่

   สำหรับมนุษย์เงินเดือนที่จ่ายเงินประกันสังคมทุกเดือนมาตลอด คงมีหลายคนที่เข้าใจว่าประกันสังคมช่วยในเรื่องของกรณีเจ็บป่วยเท่านั้น แต่จริง ๆ แล้วเงินประกันสังคมที่จ่ายทุกเดือนนั้น สามารถแบ่งเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ ได้ 3 กลุ่ม ได้แก่ กรณีเจ็บป่วย กรณีว่างงาน และกรณีชราภาพ ซึ่งวันนี้เรามาพูดถึงกรณีสุดท้ายคือกรณีชราภาพกัน
เงินประกันชราภาพ ใครมีสิทธิได้รับบ้าง
   ไม่ใช่ทุกคนจะได้รับเงินประกันสังคมชราภาพเท่ากันทั้งหมด จะต้องเช็คเงินชราภาพประกันสังคมซึ่งมีเกณฑ์ระยะเวลาและเงื่อนไขดังนี้
•   อายุครบ 55 ปีบริบูรณ์
•   เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39
เงินชราภาพประกันสังคมแบ่งเป็น 2 กรณี ได้แก่ บำเหน็จชราภาพ (บำเหน็จประกันสังคม) และบำนาญชราภาพ (บำนาญประกันสังคม) ซึ่งทั้งสองกรณีแตกต่างกันดังนี้
1. เงินบำเหน็จประกันสังคม
•   รับเงินเป็นก้อน ครั้งเดียว
•   ส่งเงินสมทบไม่ถึง 180 เดือน หรือ 15 ปี
2. เงินบำนาญประกันสังคม
•   รับเงินรายเดือนตลอดชีวิต
•   ส่งเงินสมทบ 180 เดือนหรือ 15 ปีขึ้นไป
เอกสารและหลักฐานการยื่นเรื่องเงินชราภาพ
หลักฐานที่ต้องใช้เพื่อขอรับประโยชน์ทดแทน กรณีผู้ประกันตนขอคืนเงินชราภาพด้วยตัวเอง
•   แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพ (สปส. 2-01)
•   สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทออมทรัพย์หน้าแรก ซึ่งมีชื่อและเลขที่บัญชีของผู้ยื่นคำขอ ซึ่งสามารถรับได้สะดวกตามธนาคารได้ถึง 11 ธนาคาร
สถานที่ยื่นเอกสาร ขั้นตอนการดำเนินการ
•   ยื่นเอกสารที่ สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/สำนักงานประกันสังคมจังหวัดและสาขา (ยกเว้น สำนักงานใหญ่ในบริเวณกระทรวงสาธารณสุข) หรือยื่นขอรับทางไปรษณีย์โดยส่งหลักฐานที่ลงลายมือชื่อครบถ้วน
•   เจ้าหน้าที่ตรวจหลักฐานและพิจารณา
•   สำนักงานประกันสังคมมีหนังสือแจ้งผลการพิจารณา
•   พิจารณาสั่งจ่าย เงินชราภาพ โดยมารับด้วยตนเอง หรือผู้รับผลประโยชน์มารับแทน หรือโอนเข้าบัญชีธนาคารตามบัญชีของผู้รับประโยชน์
เงินชราภาพประกันสังคมกี่วันได้ ขึ้นกับการดำเนินการในแต่ละขั้นตอน แนะนำว่าให้เตรียมเอกสารตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อความรวดเร็วและสะดวกของการยื่นเรื่อง

การเช่าซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัยย่านใจกลางเมืองมีมูลค่าสูง เนื่องจากอยู่ใกล้สถานที่สำคัญและสะดวกต่อการเดินทาง ซึ่งย่านพระราม 9 เองก็เป็นหนึ่งในย่านใจกลางเมืองที่ได้รับความนิยมสูงทำให้มีราคาที่สูงมาก การซื้อคอนโดมือสองจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ซึ่งคอนโดที่น่าสนใจ มีดังนี้
-   เดอะทรี สุขุมวิท 71-เอกมัย คอนโดติดรถไฟฟ้า ถึง 3 สาย คือ BTS ทองหล่อ, BTS เอกมัยและ BTS พระโขนง ทำเลดีเดินทางสะดวก ใกล้สถานที่สำคัญ เช่น ห้างสรรพสินค้าดองดองกิ, Big-C super center สาขาเอกมัย, ห้างแม็คโคร, โรงพยาบาลเพชรเวช, โรงเรียนเกษมพิทยา, โรงเรียนเทพลีลา, ร้านอาหาร, วัดเทพลีลาและวัดพระรามเก้า ฯลฯ โครงการคอนโดอยู่ในแหล่งชุมชนปลอดภัย การตกแต่งสุดหรูสไตล์โมเดิร์นโทนสีเหลือง – น้ำเงินเข้ม ภายในมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, สวนสวยส่วนกลางและระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ด้วยประตูควบคุมการเข้า – ออกด้วยคีย์การ์ดและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ขนาดพื้นที่คอนโด 26.82 ตารางเมตร แบ่งพื้นที่ภายในเป็น 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำและพื้นที่ใช้สอยพอเหมาะ ราคาเพียง 2,700,000 บาท
-    ไลฟ์ อโศก – คอนโดย่านพระราม 9 คอนโดทำเลดีตั้งอยู่บนพื้นที่มีศักยภาพสูงทั้งปัจจุบันและในอนาคต สามารถลงทุนและขายต่อได้ในอนาคต เดินทางสะดวกแม้ไม่มีรถส่วนตัวอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้า MRT, BTS และ Airport link หลายสาย เช่น MRT พระราม 9, MRT เพชรบุรี, แอร์พอร์ตลิงค์มักกะสัน, BTS เพลินจิต, BTS นานาและ BTS อโศก ในระยะไม่เกิน 2 กิโลเมตร คอนโดติดสถานที่สำคัญทั้งส่วนราชการและเอกชนหลายแห่ง เช่น ฟอร์จูนทาวน์, สถานทูตจีน, เซ็นทรัล พระราม 9, ตึกจี ทาวเวอร์, โรงพยาบาลพระราม 9 และโรงพยาบาลปิยะเวท การตกแต่งภายในหรูหราคอนโดพร้อมอยู่ขนาดสตูดิโอเหมาะกับไลฟ์สไตล์คนเมือง พื้นที่ 25 ตารางเมตร จัดสรรพื้นที่ห้องนอน ห้องน้ำและพื้นที่ใช้สอยอย่างลงตัว พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ทั้งสระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกายและพื้นที่จอดรถส่วนตัวกว้างขวาง รวมถึงเน้นเรื่องระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา 2,890,000 บาท
-   ที.ซี. กรีน คอนโดพร้อมอยู่ เหมาะสำหรับหนุ่มสาวยุคใหม่ที่ไม่อยากเสียเงินค่าเฟอร์นิเจอร์ที่แสนแพงในภายหลัง พื้นที่ภายในยูนิตมีความกว้างถึง 37.97 ตารางเมตร พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการมากมาย เช่น สระว่ายน้ำ ฟิตเนสและพื้นที่ส่วนกลางที่เหมาะต่อการนั่งพักผ่อน เป็นต้น ที่ตั้งโครงการปลอดภัยเพราะอยู่ในแหล่งชุมชนพร้อมระบบรักษาความปลอดภัยของโครงการตลอด 24 ชม. เดินทางสะดวก คอนโดติดรถไฟฟ้า BTS, MRT และ Airport link หลายแห่งในระยะไม่เกิน 3 กิโลเมตร เช่น BTS นานา, BTS พร้อมพงษ์, BTS อโศก, MRT พระราม 9, MRT สุขุมวิท และ Airport link มักกะสัน เป็นต้น รวมถึงใกล้ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพระราม 9 ฟอร์จูน บิ๊กซี และโรบินสัน ราคาเพียง 3,440,000 บาท
Plus.co.th ไม่เพียงแต่เป็นศูนย์รวมคอนโดที่ตอบโจทย์คนยุคใหม่ที่อยากลงทุนซื้อหรือขายคอนโดมือสองกับ Plus property แต่ยังเป็นแหล่งขายคอนโดมือสองอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย หากสนใจขายคอนโดมือสองสามารถติดต่อได้ที่ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด โทรศัพท์ 02-688-7555

หลายคนอาจรู้จักสินเชื่อ scb ผ่านทางสินเชื่อชนิดบัตรเครดิต scb (เพิ่มเติมที่ https://www.sanook.com/money/733703/) ที่ขึ้นชื่อว่าอนุมัติไว ไม่ยุ่งยาก แต่ที่จริงแล้วสินเชื่อบุคคล scb ยังมีสินเชื่อส่วนบุคคลที่น่าสนใจมากอีกหนึ่งตัว ที่จะไม่แนะนำไม่ได้เลย ก็คือสินเชื่อ scb speedy loan นั่นเอง
สินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่ต้องมีหลักทรัพย์หรือบุคคลค้ำประกัน ไม่จำเป็นต้องไปยื่นด้วยตนเองที่สาขาของธนาคาร เพราะสามารถดำเนินการผ่าน SCB Easy Application บนมือถือได้ง่าย ๆ ตลอด 24 ชม. รอผลอนุมัติได้ทันที เงินโอนเข้าบัญชีภายในเวลาไม่กี่นาที ถือเป็นสินเชื่อส่วนบุคคลจาก scb ที่สะดวก และรวดเร็วสุด ๆ
รายละเอียดเกี่ยวกับสินเชื่อ scb speedy loan
-   ผู้สมัครต้องมีอายุระหว่าง 20-60 ปี
-   รายได้ขั้นต่ำ สำหรับพนักงานประจำและเจ้าของธุรกิจ เริ่มต้นที่ 15,000 บาท ต่อเดือน
-   มีหมายเลขโทรศัพท์บ้านหรือที่ทำงานที่สามารถติดต่อได้
-   วงเงินอนุมัติตั้งแต่ 20,000 – 2,000,000 บาท หรือไม่เกิน 5 เท่าของรายได้เฉลี่ยต่อเดือน
-   ระยะเวลาการผ่อนชำระ 12 – 72 เดือน
-   คิดอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก
-   ไม่จำเป็นต้องมีหลักทรัพย์หรือบุคคลค้ำประกัน
จะเห็นได้ว่าค่อนข้างเข้าถึงได้ง่าย และได้วงเงินสูง ทั้งยังสามารถปรับระยะเวลาการผ่อนชำระให้ยาวนานหรือสั้นได้ตามต้องการ หากต้องการเพิ่มสภาพคล่องในการใช้จ่ายแต่ละเดือน ควรเลือกผ่อนยาว เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายลง หากต้องการปิดบัญชีโดยเร็ว ก็สามารถเลือกผ่อนสั้นเพื่อปลดภาระหนี้
อย่างไรก็ตาม ยังมีสินเชื่อ scb ที่สามารถช่วยในด้านการศึกษาและด้านการรักษาพยาบาลได้อีกด้วย โดยสินเชื่อตัวนี้มีชื่อว่า “สินเชื่อเพื่อการศึกษา” และ “สินเชื่อเพื่อการรักษาพยาบาล” โดยหลักฐานยื่นสมัคร เพิ่มเติมเพียงใบเสร็จค่าเล่าเรียนหรือใบเสร็จค่ารักษาพยาบาลและใบรับรองแพทย์ประกอบการขอสินเชื่อในระยะเวลาไม่เกิน 30 วันนับจากวันชำระเท่านั้น สามารถสมัครผ่าน SCB Easy Application บนมือถือได้เลย ไม่ต้องไปยื่นด้วยตนเองที่สาขา วงเงินอนุมัติตั้งแต่ 20,000 – 2,000,000 บาท ตามเอกสารแสดงค่าใช้จ่าย ระยะเวลาผ่อนชำระนานสุด 60 เดือน คิดอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก จะสังเกตได้ว่าผลิตภัณฑ์สินเชื่อจาก scb มีความหลากหลายและสามารถปรับให้เข้ากับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของแต่ละคนได้อย่างแท้จริง