บรรจุภัณฑ์อาหารรักษ์โลก คืออะไร และมีอะไรบ้าง ?


บรรจุภัณฑ์อาหารรักษ์โลก เป็นสิ่งที่นิยมและให้ความสำคัญอยู่ในปัจจุบัน เนื่องมาจากปัญหาภาวะโลกร้อนที่เกิดจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือ ก๊าซเรือนกระจกที่เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดความผิดปกติทางด้านภูมิอากาศ และส่งผลเสียในด้านต่างๆตามมา

โดยทั่วไปแล้วสาเหตุในการเกิดภาวะโลกร้อน มีหลายสาเหตุ และหนึ่งในนั้นเกิดมาผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากพลาสติกต่างๆ เหตุเพราะตัวพลาสติกไม่สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ และต้องใช้เวลาในการย่อยสลายนานกว่า 400 ปี หากนำไปเผาไหม้ ก็ยังทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจกมีเทน และเอธิลีน ซึ่งเป็นตัวการของการทำให้เกิดมลภาวะโลกร้อน นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงต้องเปลี่ยนมาใช้บรรจุภัณฑ์รักษ์โลกชนิดต่างๆกัน

บรรจุภัณฑ์รักษ์โลก คือ
บรรจุภัณฑ์รักษ์โลก คือ บรรจุภัณฑ์ ที่ถูกคิดค้นออกแบบมาเพื่อให้ทำการรีไซเคิล หรือย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ โดยที่ตัวบรรจุภัณฑ์นั้นต้องไม่สร้างก๊าซเรือนกระจกเพิ่มเติม ซึ่งส่วนใหญ่ในปัจจุบันบรรจุภัณฑ์เหล่านี้ถูกนิยมใช้กับธุรกิจต่างๆที่หลากหลาย เช่น ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านขนม คาเฟ่เป็นต้น

การที่ร้านค้าหรือธุรกิจเหล่านี้ต่างหันมาใช้งานบรรจุภัณฑ์รักษ์โลกเกิดมาจากกระแสของการลดโลกร้อนที่เกิดขึ้นทั่วทุกมุมโลก ส่งผลให้ผู้ประกอบการไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ต่างก็เล็งเห็นว่าการเปลี่ยนมาใช้บรรจุภัณฑ์รักโลกนี้นอกจากจะช่วยเป็นส่วนนึงการลดโลกร้อนแล้ว ยังเป็นตัวกระตุ้นให้ยอดขายสินค้าหรืออาหารนั้นสูงขึ้นอีกด้วย
https://thaifoodpackaging.com/blog/what-eco-friendly-food-packaging/

บรรจุภัณฑ์อาหารรักษ์โลก
บรรจุภัณฑ์อาหารรักษ์โลก เป็นบรรจุภัณฑ์ที่ถูกออกแบบเพื่อรองรับอาหารโดยเฉพาะโดยตัวบรรจุภัณฑ์จะมีความหลากหลายในการใช้ ขึ้นอยู่ที่จะเลือกว่าต้องการใส่อาหารชนิดใดลงไปในบรรจุภัณฑ์ เนื่องจากอาหาร และเครื่องดื่มแต่ละชนิดมีความแตกต่างกัน เช่น อาหารที่มีน้ำมันเยอะ อาหารแช่แข็ง อาหารเปียก กาแฟร้อน กาแฟเย็น เป็นต้น

ด้วยความที่อาหารและเครื่องดื่มมีความแตกต่างกันอย่างที่กล่าวมา ทำให้การเลือกใช้งานบรรจุภัณฑ์อาหารจึงต้องรองรับการใช้ที่ต่างกันออกไป เพราะฉะนั้นผมอยากจะขอแนะนำบรรจุภัณฑ์อาหารรักษ์โลกในแต่ละชนิดของ Thaifoodpackaging กัน จะมีอะไรบ้างนั้นไปดูกันเลย

บรรจุภัณฑ์อาหารรักษ์โลก มีอะไรบ้าง ?
บรรจุภัณฑ์อาหารรักษ์โลก ไม่จำเป็นต้องเป็นบรรจุภัณฑ์ที่มีไว้ใช้ใส่อาหารโดยตรง อาจจะเป็นจำพวกถุงหิ้ว ถาดรองอาหาร หลอดกระดาษดูดน้ำ และอื่นๆ ซึ่งถึงแม้บรรจุภัณฑ์เหล่านี้จะไม่ได้สัมผัสกับอาหารโดยตรงแต่สำหรับผมนับได้ว่าเป็นบรรจุภัณฑ์อาหารชนิดหนึ่ง โดยทั่วไปแล้วเพื่อที่จะตอบโจทย์การใช้งานของผู้ซื้อ ตัวบรรจุภัณฑ์อาหารรักษ์โลกก็จะมีมากมายหลายชนิด หลายรูปทรง ดังต่อไปนี้

กล่องกระดาษคราฟท์ ใส่ขนม Kraft paper box
กล่องกระดาษคราฟท์ ส่วนใหญ่จะมีลักษณะเหมือนกล่องทั่วไป เพียงแต่สามารถดีไซน์ปรับเปลี่ยนรูปทรงตามความต้องการได้ ซึ่งเป็นสิ่งช่วยให้ตัวกล่องมีความโดดเด่น แตกต่างจากกล่องชนิดอื่นๆ สร้างความสวยงาม ดึงดูดได้ดีกว่าแก่ผู้พบเห็น
โดยส่วนใหญ่กล่องกระดาษคราฟท์จะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย แต่ในวงการอาหารส่วนมากจะใช้กล่องกระดาษคราฟ์ชนิดเหล่านี้ไปใส่ขนม หรือเบเกอรี่ชนิดต่างๆ

คุณสมบัติของกล่องกระดาษคราฟท์
         - ทำจากกระดาษคราฟท์ ผลิตจากเยื่อไม้สน 100 % ไม่มีเยื่อรีไซเคิลเป็นส่วนผสม
         - กล่องกระดาษ สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ 100% กระดาษเคลือบ สารสัมผัสอาหาร(Grease Resistant Barrier) ทำให้ถาดไม่ซึมน้ำมัน และปลอดภัยจากสารก่อเกิดโรคมะเร็ง (OPA)
         - สามารถติดสติ๊กเกอร์แปะได้
         - เหมาะกับใช้ภายในงานจัดอบรม งานสัมมนา งานประชุม งานอีเว้นท์
         - กระดาษปราศจากสารฟอกขาว ผ่านการรับรองการตรวจเคมี RoHs


กล่องกระดาษใส่อาหาร Food Box
กล่องกระดาษใส่อาหาร เป็นกล่องรุ่นแรกๆที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้ทดแทนกล่องพลาสติก ตัวกล่องจะมีลักษณะเหมื่อนกล่องใส่ข้าวทั่วๆไป เพียงแต่มีรูปทรงให้เลือกใช้มากขึ้น ส่วนมากกล่องจะเป็นสีขาว ผลิตขึ้นมาจากกระดาษคุณภาพดี สามารถใช้สำหรับงานพิมพ์ชนิดต่างๆได้ เช่น โลโก้ ชื่อสินค้า หรือลวดลายต่างๆก็สามารถพิมพ์ลงบนตัวกล่องได้

คุณสมบัติของกล่องกระดาษใส่อาหาร
           - กล่องกระดาษทรงสี่เหลี่ยมพร้อมฝาปิดขนาดเล็ก ขอบกล่องเป็นรอยคลื่นลดอันตรายจากกระดาษบาดมือ
           - บรรจุภัณฑ์ขึ้นรูปได้ง่าย ฝาและตัวล๊อกออกแบบ เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน (User Friendly)
           - บรรจุภัณฑ์สามารถสัมผัสอาหารได้โดยตรง ไม่จำเป็นต้องมีวัสดุอื่นๆรอง (Food Direct Contact)
           - ปลอดภัยจากสารเคมีอันตราย ขึ้นรูปด้วยความรูปโดยไม่ใช้กาว (Heat Sealed)
           - สามารถเรียงซ้อนได้มากกว่า 5 ชั้นโดยไม่ล้ม (Stacking Test)


กล่องพิซซ่า / กล่อง FOOD DELIVERY
กล่องพิซซ่า ถูกพัฒนาขึ้นมาตอบโจทย์อาหารชนิดนี้โดยเฉพาะ เนื่องจากตัวพิซซ่ามีขนาดและหน้าตาที่แตกต่างจากอาหารชนิดทำให้ตัวกล่องตัวมีรูปทรงที่แตกต่างจากกล่องอื่นๆออกไป ซึ่งในปัจจุบันกล่องกระดาษพิซซ่านอกจากจะใส่เพียงแค่พิซซ่าแล้วนั้น ยังถูกออกแบบให้รองรับอาหารชนิดอื่นๆได้ดี เช่น กุ้งเผา ปูเผา ขนมจีบ ปลาเผา เป็นต้น

คุณสมบัติของกล่องกระดาษพิซซ่า
           - กล่องกระดาษไดคัท FOOD GRADE สัมผัสอาหารได้โดยตรง
           - ลอน E กระดาษบาง ความหนาไม่เกิน 1.7 มม น้ำหนักเบา และ น้ำหนักกระดาษกล่องได้ตามมาตรฐาน มอกกระดาษมีกันซึมในตัว ซับน้ำมันได้เป็นอย่างดี ดูเรียบหรู ปลอดภัยจากสารฟอกขาวกระดาษสามารถย่อยสลายตามธรรมชาติ 100% (OPA)
           - น้ำหนักกล่องเบา แข็งแรงด้วยสูตรการผลิตลูกฟูกแบบพิเศษ
           - ค่าแรงดันกล่อง (Bursting) ทะลุที่ > 700 กิโลปาสคาล เรียงซ้อนได้ 5 ชั้น

พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสเสริม Food Delivery ให้ขายดี เลือกใช้กล่องกระดาษใส่อาหาร


จากสถาณการณ์ปัจจุบันผู้ประกอบการร้านค้าร้านอาหารไม่ว่าจะเป็นร้านตามสั่ง ร้านอาหารจานด่วน หรือร้านอาหารประเภทอื่นๆต่างมีการปรับและตัวตื่นตัวกับสถาณการณ์ไวรัสโควิด-19 ที่กำลังกลับมาอีกระลอก ทำให้แต่ละร้านต้องมีการหันมาให้บริการสั่งอาหารแบบ Delivery เท่านั้นเนื่องมาจากมารตรการของรัฐที่ห้ามนั่งทานที่ร้าน ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยต่อผู้บริโภค สิ่งที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการทานอาหารให้กับลูกค้า ก็คือการเลือกกล่องบรรจุภัณฑ์ให้เหมาะสมกับเมนูอาหาร เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ย่อยสลายเองตามธรรมชาติได้ ไม่ต้องเก็บล้างให้เสียเวลา กล่องกระดาษใส่อาหาร จึงกลายเป็นเทรนด์ใหม่มาแรงสำหรับผู้ประกอบการยุคใหม่

กล่องกระดาษใส่อาหาร
เป็นกล่องใส่อาหารอีกแบบหนึ่งที่ตอนนี้แทบจะทุกร้านค้าร้านอาหารนิยมใช้แทนกล่องโฟมไปแล้ว เหมาะสำหรับทานนอกสถานที่ได้สะดวกสบาย เป็นแนวทางเลือกใหม่ที่ผู้ประกอบการร้านอาหารนำมาบรรจุอาหารทั้งสามารถใส่อาหารประเภทน้ำ น้ำคลุกคลิก อาหารผัดแบบแห้งได้ เช่น ก๋วยเตี๋ยวน้ำ-แห้ง น้ำซุป ผัดหมี่ เกี๊ยวน้ำ สำหรับการบรรจุทานที่อื่นหรือในการขนส่ง delivery ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ซื้ออาหารกลับทานที่บ้านหรือใช้ชีวิตนอกบ้านอยู่เป็นประจำ

คุณสมบัติ กล่องกระดาษใส่อาหาร
กระแสรักษ์โลก เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมกำลังมาแรง ผู้ประกอบการร้านค้าร้านอาหาร ต่างพากันตระหนักหันมาใช้บรรจุภัณฑ์อาหารที่ทำมาจากวัสดุธรรมชาติแทนการใช้โฟม นอกจากนี้เรามาดูคุณสมบัติของกล่องใส่อาหารอีกมากมายกันค่ะ
          - ใช้กระดาษ food grade  ความหนา 270 แกรม
          - เนื้อกระดาษผลิตจากเยื่อไผ่ธรรมชาติ
          - ใช้หมึกถั่วเหลืองที่ปลอดภัยต่อสุขภาพของผู้บริโภคในการผลิต
          - มีความแข็งแรงทนทาน
         - ไม่เปื่อยง่าย
          - ตัวกล่องมีรูสำหรับระบายความร้อนด้วย
          - กระดาษสามารถ อุ่นร้อนเข้า MICROWAVE ที่ 800 W ได้ 2 นาที
          - การผลิตระดับมาตรฐานสากล Food pail ช่วยรักษาคุณภาพและรักษาอุณภูมิของอาหาร
          - สามารถออกแบบและพิมพ์ลายตามแบนด์สินค้าได้
          - กล่องพับปิดได้ทำให้อาหารสะอาดปลอดภัย ใช้แล้วพับทิ้งไม่เปลืองพื้นที่ทิ้งขยะ
          - มีเครื่องมือในการตรวจสอบรอยรั่วซึมและคัดแยกจุดสกปรกได้แม่นยำ


ข้อดีกล่องกระดาษใส่อาหาร
- ช่วยให้อาหารที่ใส่อยู่ในกล่องวางเป็นระเบียบ ไม่หกเลอะเทอะ
แน่นอนอาหารที่มีการส่งแบบ Delivery สิ่งที่ลูกค้า จะเห็นเป็นอันดับแรก คือหน้าตาของอาหาร ถ้าอาหารในกล่องมีการหกเลอะเุทอะของอาหารอาจจะเกิดผลเสียต่อร้านอาหาร ที่ไม่ได้ใส่ใจกับลูกค้ามากเพียงพอ ส่งผลถึงภาพลักษณ์ของร้านอาหารเอง ดังนั้น กล่องกระดาษใส่อาหาร จึงตอบโจทย์ เพราะด้วยความลักษณะกล่องเป็นทรงสูง ฝากล่องปิดอย่างมิดชิด การเกิดหกเลอะเทอะจึงมีโอกาสเกิดได้น้อย แม้ระยะทางการส่งอาหารจะไกล แต่สภาพ- - - -

- หน้าตาอาหารยังเหมือนเดิม
ใช้กล่องอาหารที่เข้าไมโครเวฟได้
พฤติกรรมของลูกค้าที่สั่งอาหารเดลิเวอรี่ บางครั้งลูกค้าอาจจะยังไม่ทานอาหารนั้นทันที หรืออาจจะสั่งที่ละหลายๆ กล่องเพื่อเก็บไว้ รับประทานในวันถัดๆ ไป ดังนั้นควรใช้กล่อง อาหารที่เหมาะสำหรับเข้าไมโครเวฟด้วย ซึ่งพลาสติกบางชนิดไม่สามารถทนอุณหภูมิ ดังกล่าวได้ จึงควรเลือกให้เหมาะสมเพื่อ ความปลอดภัยของผู้บริโภค

- สร้างแบรนด์ผ่านบรรจุภัณฑ์อาหาร
ความที่กล่องใส่อาหาร To go เป็นกล่องทรงสูงทันสมัย โดดเด่น แตกต่างจากกกล่องบรรจุภัณฑ์อื่นที่มีลักษณะ ไม่สูงมากนัก อีกทั้งยังใส่อาหารในปริมาณได้เยอะและหลายประเภท ผู้ประกอบการยังสามารถสกรีนโลโก้ เลือกสีของกล่องเพื่อเป็นการดึงดูดลูกค้าได้อีกทางหนึ่งด้วย การสร้างแบรนด์ของร้านอาหารให็เป็นที่ถูกใจและน่าจดจำ ส่วนหนึ่งที่สำคัญคือบรรจุภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของร้านนั้นๆ รวมไปถึงการใส่โลโก้สกรีนลงบนกล่องใส่อาหาร

- ลดต้นทุนด้วยกล่องอาหารราคาประหยัด
สถาณการณ์ปัจจุบันที่ผู้ประกอบการต้องปรับตัว การควบคุมต้นทุนเป็นสิ่งที่สำคัญ การใช้บรรจุภัณฑ์ที่ดูพรีเมี่ยมราคาแพง อาจจะเหมาะกับกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง แต่ถ้าร้านอาหารของเราเน้นขายลูกค้าทั่วไป อาจจะใช้บรรจุภัณฑ์แบบประหยัด เช่น กล่องอาหารกระดาษแบบมีฝาพับได้ นอกจากจะช่วยลดต้นทุนบรรจุภัณฑ์แล้ว ทำให้ลูกค้าสามารถเปิดทานง่ายและสะดวกมากขึ้น เมื่อร้านอาหารที่ใช้กล่องอาหารปริมาณมากขึ้นก็ต้องสั่งทีละจำนวนมากเพื่อประหยัดต้นทุน

- เพิ่มมูลค่าให้กับอาหาร
การเลือกใช้กล่องบรรจุภัณฑ์ของผู้ประกอบการร้านค้าร้านอาหาร มีผลอย่างยิ่ง ที่จะทำให้อาหารมีมูลค่าราคาของเมนูอาหารที่เพิ่มขึ้นไปด้วยตามวัตถุดิบ ช่วยเพิ่มยอดขายได้อีกทางหนึ่งด้วย เพราะด้วยลักษณะจุดเด่นของกล่องบรรจุภัณฑ์ที่เมื่อใส่อาหารลงไปแล้วทำให้หน้าตาอาหารดูดีและดูแพงน่ารับประทาน

- บรรจุภัณฑ์อาหารเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
เทรนด์อาหารเดลิเวอรี่เติบโตขึ้น ทำให้บรรจุภัณฑ์อาหารมีความต้องการที่มากขึ้นตามไปด้วย ร้านอาหารเป็นกำลังสำคัญ ในการช่วยลดภาวะสิ่งแวดล้อม ปัจจุบันมีบรรจุภัณฑ์หลายแบบให้เลือกใช้ เช่น กล่องอาหาร กระดาษ กล่องอาหาร เยื่อธรรมชาติ ถุงกระดาษ โดยต้นทุนก็ไม่ได้สูงเหมือนสมัยก่อน ลูกค้าสามารถเห็นได้จากการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ของร้านอาหารได้ว่าร้านนี้มีความใส่ใจผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อมมากแค่ไหน อีกทั้งยังถูกใจลูกค้าที่เป็นสาย Healthy และสาย Eco ด้วย

- เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว
สำหรับผู้ประกอบการเรื่องของต้นทุนเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งการลงทุนในกล่องอาหารกระดาษอาจมีต้นทุนสูงกว่าโฟมในระยะแรก แต่หากพูดถึงในระยะยาวแล้วล่ะก็ รับรองว่าคุ้ม! เพราะเราจะได้สร้างภาพจำด้านการเป็นแบรนด์ที่เอาใจใส่สิ่งแวดล้อมและสุขภาพของผู้บริโภค นอกจากนี้ยังสามารถประชาสัมพันธ์แบรนด์ผ่านฉลากหรือโลโก้บนกล่องได้อีกด้วย

เทรนด์รักษ์โลก ใช้วัสดุจากธรรมชาติกำลังมาแรง ผู้ประกอบการยุคใหม่แบบเราควรหันมาให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่ง โดยเลือกใช้ กล่องกระดาษใส่อาหาร นอกจากจะทำให้หน้าตาอาหารดูดีแล้ว ยังส่งผลกับแบรนด์ให้เป็นที่น่าจดจำในระยะยาวอีกด้วย
https://thaifoodpackaging.com/blog/food-paper-box-for-delivery/

บรรจุภัณฑ์กระดาษ และบรรจุภัณฑ์พลาสติก มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร


บรรจุภัณฑ์ ในปัจจุบันมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น บรรจุภัณฑ์พลาสติก บรรจุภัณฑ์กระดาษ บรรจุภัณฑ์แก้ว บรรจุภัณฑ์เหล็ก และอื่นๆอีกมาก แต่ที่นิยมใช้งานและพบเห็นได้บ่อยครั้งก็จะมี 2 ชนิดด้วยกัน นั่นคือบรรจุภัณฑ์กระดาษ และบรรจุภัณฑ์พลาสติก โดยบรรจุภัณฑ์ทั้ง 2 ชนิดนี้จะมีจุดเด่นจุดด้อยอะไรบ้าง และมีความแตกต่างกันอย่างไรนั้นหาคำตอบได้ในบทความนี้กันเลย

ข้อดี-ข้อเสียของ บรรจุภัณฑ์กระดาษ

บรรจุภัณฑ์ที่ทำมาจากกระดาษนั้นเป็นบรรจุภัณฑ์ที่นิยมในการเลือกใช้งานสูง ถูกพบเห็นได้บ่อยครั้งซึ่งส่วนมากจะนิยมนำบรรจุภัณฑ์กระดาษไปทำเป็น กล่องกระดาษ, กล่องไปรษณีย์, กล่องกระดาษใส่ข้าว, แก้วกระดาษ เป็นต้น

บรรจุภัณฑ์กระดาษ ผลิตขึ้นมาจากเยื่อกระดาษชนิดต่างๆ โดยตัวบรรจุภัณฑ์จะมีคุณสมบัติแตกต่างกันตามชนิด หรือเกรดของกระดาษที่นำมาทำ ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อทดแทนบรรจุภัณฑ์ชนิดเก่าๆ เนื่องจากบรรจุภัณฑ์กระดาษนั้นจะมีคุณสมบัติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยตัวบรรจุภัณฑ์จะสามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติและยังสามารถนำมารีไซเคิลใหม่ได้ 100% ทำให้บรรจุภัณฑ์ชนิดกระดาษนี้ไม่สร้างมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม และจะช่วยลดภาวะโลกร้อนได้นั่นเอง โดยข้อดี-ข้อเสียของบรรจุภัณฑ์กระดาษจะมีดังต่อไปนี้

ข้อดีของ บรรจุภัณฑ์กระดาษ
          - บรรจุภัณฑ์กระดาษ นับเป็นบรรจุภัณฑ์รักษ์โลก ซึ่งจะไม่ทำให้เกิดผลพิษแก่โลก
          - ตัวบรรจุภัณฑ์มีความปลอดภัยไร้สารพิษเจือปน
          - เกรดกระดาษมีให้เลือกหลายแบบ ทำให้สามารถบรรจุภัณฑ์ที่ถูกผลิตขึ้นมาตอบสนองความต้องการได้ทั่วถึง
          - สามารถสั่งทำรูปทรงแบบต่างๆได้ตามความต้องการ
          - น้ำหนักเบา เหมาะกับการขนส่ง
          - ตัวบรรจุภัณฑ์กระดาษมีความสามารถต้านไขมัน หรือน้ำมันได้ดี
          - สามารถนำกลับมารีไซเคิลใช้งานใหม่ได้
          - ตัวบรรจุภัณฑ์สามารถใช้ในด้านโฆษณา และกระตุ้นยอดขาย
          - สามารถออกแบบและเหมาะสำหรับงานพิมพ์ชนิดต่างๆได้ดี

ข้อเสียของ บรรจุภัณฑ์กระดาษ
          - ไม่สามารถป้องกันความชื้นได้ดีนัก
          - ตัวบรรจุภัณฑ์มีความทนทานต่อการเจาะทะลุไม่ได้มาก
          - หากนำบรรจุภัณฑ์ไปผสม ประกบเข้ากับวัสชนิดอื่นๆ จะทำให้เกิดความยากต่อการทำลายและรีไซเคิล
          - ราคาอาจจะมีสูงกว่าบรรจุภัณฑ์พลาสติกเล็กน้อย

คุณสมบัติของ บรรจุภัณฑ์พลาสติก

บรรจุภัณฑ์พลาสติก เป็นชนิดที่ถูกพบเห็นและทุกคนต่างเคยสัมผัสกันแล้วทั้งนั้น เนื่องจากตัวบรรจุภัณฑ์ชนิดนี้มีราคาที่ถูก และมีความแข็งแรงทำให้ถูกหยิบมาใช้ในหลายๆธุรกิจ โดยส่วนมากจะถูกนำไปใช้งานทำเป็นบรรจุภัณฑ์อาหาร และบรรจุภัณฑ์จำพวกขวดน้ำ เป็นต้น

บรรจุภัณฑ์พลาสติก เป็นบรรจุภัณฑ์ชนิดเก่าแก่ที่ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อใช้ทดแทนบรรจุภัณฑ์ธรรมชาติแบบเก่าจำพวกใบตองที่เป็นบรรจุภัณฑ์โบราณที่มีความแข็งแรง และคุณสมบัติในด้านต่างๆต่ำ โดยเริ่มแรกนั้นตัวบรรจุภัณฑ์พลาสติกสามารถตอบโจทย์ความต้องการใช้งานของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี ทั้งความแข็งแรง คงทน และยังสามารถยืดหยุ่นได้ง่าย ทำให้สามารถแปรรูปเป็นรูปทรงต่างๆ หรือลักษณะอื่นๆได้ดี เพียงแต่ตัวบรรจุภัณฑ์นั้นถูกทำมาจากพลาสติกซึ่งสามารถย่อยสลายได้ยาก และใช้เวลาในการย่อยนาน รวมทั้งหากถูกทิ้งผิดที่ผิดทางก็ทำให้ตัวบรรจุภัณฑ์ชนิดนี้เป็นขยะที่ส่งผลเสียต่อธรรมชาติ และก่อให้เกิดเป็นมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมนั่นเอง

ข้อดีของบรรจุภัณฑ์พลาสติก
          - บรรจุภัณฑ์พลาสติกมีราคาที่ค่อนข้างถูกกว่าบรรจุภัณฑ์กระดาษ
          - พลาสติกมีคุณสมบัติที่เหนียว น้ำหนักเบา
          - บรรจุภัณฑ์ถูกสร้างด้วยพลาสติกทำให้ตัวบรรจุภัณฑ์ไม่นำความร้อนและกระแสไฟฟ้า
          - บรรจุภัณฑ์พลาสติกสามารถป้องกันการรั่วซึมของอากาศ และน้ำได้ดี
          - บรรจุภัณฑ์พลาสติกยังมีความสามารถทนทานต่อความชื้นและสภาพอากาศได้ ทั้งยังไม่เป็นสนิม
          - สามารถพิมพ์ลวดลายต่างๆลงบนบรรจุภัณฑ์ได้เช่นกัน

ข้อเสียของบรรจุภัณฑ์
          - บรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ไม่ได้มาตรฐาน จะทำให้เกิดการเจือปนของสารเคมี และอาจจะส่งผลต่ออาหารที่อยู่ภายในได้
          - บรรจุภัณฑ์พลาสติก ติดไฟได้ง่าย
          - หากนำพลาสติกไปแปรรูปใหม่อาจทำให้คุณภาพด้อยลง
          - เนื่องจากบรรจุภัณฑ์ทำมาจากพลาสติกทำให้ย่อยสลายได้ยาก
          - ตัวบรรจุภัณฑ์พลาสติกเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เกิดผลพิษต่อสิ่งแวดล้อม
          - เวลาในการใช้ย่อยสลายพลาสติกยาวนานกว่า 400 ปี
https://thaifoodpackaging.com/blog/paper-packaging-and-plastic-packaging/

ไอเดียหลากหลายเมนู ใช้กับถาดฟอยล์ ถ้วยฟอยล์



การทำอาหาร ทำขนมนั้นหลากหลายเมนูต้องใช้ ถาดฟอยล์ ถ้วยฟอยล์ เพื่อการที่จะรักษาอุณหภูมิของอาหารให้ยังอุ่นอยู่ ทั้งยังรักษาหน้าอาหารให้ยังน่ารับประทานด้วย ถาดฟอยล์จัดได้ว่าเป็นภาชนะยอดนิยมที่นำมาใส่ขนม ส่วนอาหารคาวก็ไม่แพ้กันหลายๆเมนูก็ใช้ถาดฟอยล์กันมากขึ้น

คุณสมบัติของถาดฟอยล์ ถ้วยฟอยล์ บรรจุอาหาร
           - ทนความเย็นได้มากถึง -40  ถึง -280 องศา มีจุดหลอมเหลวอยู่ที่ 600 องศา เรียกว่าได้ทนความร้อนสูงมาก จึงสามารถนำเข้าเตาอบได้แบบสบายๆ 
           - เป็นฉนวนความร้อน สามารถซึมซับความเย็นได้อย่างรวดเร็ว เวลาเอาออกมาจากเตาอบจึงเย็นไว จับง่ายไม่ลวกมือ
           - ไม่มีกลิ่น สามารถบรรจุอาหารได้ทุกรูปแบบ อาหารคาวหวาน ขนม เบเกอรี่ฯลฯ ใส่ได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีกลิ่นโลหะปะปนมากับอาหาร
           - มีหลายรูปทรงให้เลือกใช้ เช่น ทรงกลม ทรงเหลี่ยม ทรงหัวใจฯลฯ ถาดฟอยล์บางรุ่นมีฝาปิด ช่วยรักษาความสดสะอาดให้กับอาหาร ช่วยเพิ่มความสวยงาม เพิ่มมูลค่าและความน่าเชื่อถือให้กับสินค้าได้
           - ใช้กับเตาอบได้ โดยสามารถใช้อบด้วยอุณหภูมิสูงได้มากกว่า 100  องศา ถาดฟอยล์นั้นทนความร้อนสูง หมดกังวลเรื่องจะมีสารเคมีละลายมาปนเปื้อนกับอาหารอีกทั้งฟอยล์ยังช่วยป้องกันการสูญเสียน้ำ การซึมผ่านของน้ำมันและไขมันได้เป็นอย่างดี ดังนั้นหากอบขนม ขนมจะขึ้นรูปสวยงาม หมดกังวลเรื่องกลิ่นหรือสารเคมีปนเปื้อนได้เลย
           - สามารถย่างบนตะแกรงไฟถ่านได้ แต่ไม่สามารถนำเข้าไมโคเวฟ
           - แผ่นกระดาษ สำหรับปิดฝาถ้วยฟอยล์ สามารถพิมพ์แบรนด์ร้าน หรือโลโก้หรือข้อความได้
           - เหมาะสำหรับเป็นบรรจุภัณฑ์ เดลิเวอรี่ และมีฝาปิดช่วยป้องกันสินค้าเสียหายได้ โดยฝาจะมีทั้งแบบ พลาสติก ฟอยล์ หรือกระดาษให้เลือกใช้

เรามาดูสารพัดเมนูที่ใช้ถาดฟอยล์ ถ้วยฟอยล์กันค่ะ
มินิพิซซ่าในถ้วยฟอยล์
ส่วนผสม
           - ขนมปังแซนด์วิชตัดขอบ
           - เนยสด
           - เบคอน
           - แฮม
​           - มอสซาเรลล่าชีส
           - ซอสมะเขือเทศ
​           - ออริกาโน่
ขั้นตอนการทำ
           1. ทาเนยลงบนขนมปังบางๆแล้วหั่นตรงกลางแผ่นขนมปัง 4 ด้าน จากนั้นจัดวางใส่ถ้วยฟอยล์
           2. ทาซอสมะเขือเทศลงบนขนมปัง วางเบคอน แฮม หรืออื่น ๆ ที่มีในตู้เย็นบนขนมปัง แล้วโรยด้วยออริกาโน่ โปะด้วยมอสซาเรลล่าชีส
           3. เข้าเตาอบ ใช้อุณหภูมิ 260 องศาเซลเซียส เวลาประมาณ 12 นาที

ผักโขมอบชีสใส่ถาดฟอยล์
ส่วนผสม
           - ผักโขม
           - ไวท์ซอส
           - มอสซาเรลล่าชีส
           - แฮมหั่นเต๋า
           - เนยสด
           - เกลือเล็กน้อย
           - พริกไทยเล็กน้อย
ขั้นตอนการทำ
          1. เด็ดใบผักโขม เอาเฉพาะใบที่ไม่แก่เกินไป ลวกในน้ำเดือดจัด น็อคในน้ำเย็น บิดน้ำพอหมาด หั่นหยาบ
          2. ใส่เนยในกระทะ ตามด้วยผักโขม ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย ใส่แฮมลงไปผัดให้เข้ากัน
          3. ตักผักโขมที่ผัดเสร็จแล้ว ใส่ถาดฟอยล์ให้เท่าๆกัน ราดด้วยไวท์ซอส โรยหน้าด้วยมอสซาเรลล่าชีสตามชอบ
          4. อบในเตาที่อุณหภูมิ 200 องศา 5 นาที นำออกมาใส่เตาซาลามานเดอร์ต่อ เพื่อเบิร์นหน้าชีสให้ไหม้สวยงาม

ห่อหมกปลากระพงในถาดฟอยล์
ส่วนผสม
           - เนื้อปลากะพงขาว 1 ตัว
           - พริกแกงเผ็ด 2 ช้อนโต๊ะ
           - กระชาย 1 ขีด
           - ไข่ไก่ 2 ฟอง
           - นมข้นจืด คาร์เนชัน 1 กระป๋อง
           - น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
           - น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
ขั้นตอนการทำ
          1. เริ่มจากนำกระชายไปตำหรือปั่นให้ละเอียดแล้วนำมาผสมกับพริกแกงเผ็ด,
          2. นมข้นจืด คาร์เนชัน, ไข่ไก่, และเนื้อปลากะพงขูดแล้วคนให้เข้ากัน(ถ้าหากต้องการให้ห่อหมกขึ้นฟู ให้ใส่แป้งข้าวเจ้าเล็กน้อย เพราะแป้งข้าวเจ้าจะช่วยให้ห่อหมกของเราขึ้นฟู ไม่ยุบตัว น่ารับประทาน)
          3. เมื่อส่วนผสมเข้ากันแล้ว ให้ปรุงรสด้วย น้ำปลาและน้ำตาล แล้วใส่กุ้ง หอย ที่เราเตรียมไว้ลงไป คนส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน นำกะหล่ำปลีหรือผักรองตามชอบ ใส่ลงไปในถ้วยฟอยล์ เสร็จแล้วตักส่วนผสมห่อหมกลงไปนำไปนึ่งประมาณ 10 นาที
          4. ขั้นตอนของการทำนมหยอดหน้า ให้นำ นมข้นจืด คาร์เนชัน ผสมกับแป้งข้าวเจ้า แล้วนำไปอุ่นในไมโครเวฟ โดยเวฟแล้วนำออกมาคนทุกๆ 10 วินาที เมื่อเหนียวข้นดีแล้ว ให้พักไว้ก่อน หากนมยังไม่ค่อยข้น ให้เติมแป้งข้าวเจ้าเพิ่ม หากนมข้นเกินไป ให้เติมนมเพิ่มได้ค่ะ โดยค่อยๆเติมทีละน้อยๆ เมื่อห่อหมกสุกแล้ว ให้ยกออกจากซึ้ง
          5. จัดใส่จาน แล้วหยอดหน้าด้วยนมที่เราเตรียมไว้ ตกแต่งด้วยใบมะกรูด, พริกชี้ฟ้า, และผักชี เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

เมนู ข้ามหลามในถ้วยฟอยล์
ส่วนผสม
           - ข้าวเหนียวขาว+ดำ นึ่งสุก
           - น้ำตาลทราย
           - กระทิ
           - เกลือ
           - แป๊ะก๊วย ถั่วดำ เนื้อมะพร้าวตามชอบ
ขั้นตอนการทำ
          1. เริ่มจากนำข้าวเหนียว ขาว,ดำ แช่น้ำค้างคืน หรือแช่น้ำอย่างน้อย 6-8 ชม..จากนั้นนำข้าวใส่ผ้าขาวบาง แล้วนำไปนึ่ง ประมาณ 20 นาที
          2. ถั่วดำแช่น้ำค้างคืน แล้วนำไปต้ม 20 นาที พักไว้
          3. เจาะมะพร้าว นำน้ำมะพร้าวออก ขูดมะพร้าวเป็นเส้นๆแผ่นๆพักไว้
          4. นำกระทิ+น้ำตาล+เกลือ ใส่ลงไปในหม้อ เปิดไฟ ตั้งหม้อจนน้ำตาลละลายกระทิเริ่มเดือดให้ตักหัวกระทิแยกออกมา
          5. นำกระทิที่เหลือมามูนข้าวเหนียวที่ร้อน เติมถั่วดำลงไป เติมเนื้อมะพร้าวลงไป คนส่วนผสมให้เข้ากัน
          6. ตักใส่กระลามะพร้าว ตักใส่ถ้วยฟอยล์ที่เตรียมไว้ จากนั้นใส่กระทิลงไป นำไปเข้าเตาอบที่ไฟ 200องศา 35 -45 นาทีให้สังเกตุดูสีของตัวหน้าขนม ถ้าเราชอบสีของหน้าขนมแล้วให้ปิดเตา ยกขนมออกจากเตา

เมนู ปลาหมึกนึ่งมะนาวในถาดฟอยล์
ส่วนผสม
           - ปลาหมึกกล้วย
           - ผักกาดขาว หรือผักอื่นตามชอบใช้รองก้นถาด
           - ส่วนผสมของน้ำจิ้ม
           - กระเทียม
           - รากผักชี
           - ตระไคร้ซอย
           - พริกขี้หนู
           - น้ำปลา
           - น้ำมะนาว
           - น้ำตาลทราย
ขั้นตอนการทำ
          1. บั้งปลาหมึกให้ทั่วทั้งตัวปลาหมึก จากนั้นนำผักกาดขาดวางบนถาดฟอยล์ แล้วนำปลาหมึกวางข้างบน นำไปใส่ในไมโครเวฟ ปรับเป็น 900 วัตต์ เวฟประมาณ 6-8 นาที
          2. ต่อมาทำน้ำจิ้มนำส่วนผสมทั้งหมดใส่ลงไปในโถปั่น แล้วนำไปไปให้ละเอียด
          3. นำถาดฟอยล์ปลาหมึกออกจากไมโครเวฟ แล้วราดน้ำจิ้มที่เตรียมไว้ลงไปเลยค่ะ โรยหน้าด้วยผักชีก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
         
          ถาดฟอยล์ ถ้วยฟอยล์สามารถนำมาประยุกต์ใส่กับอาหารทั้งคาวและหวานได้อย่างหลากหลายเมนู เป็นอีกหนึ่งทางเลือกหนึ่งที่ผู้ประกอบการสามารถนำไปใช้ใส่อาหาร ขนม เพราะคุณสมบัติที่สำคัญของถาดฟอยล์ ถ้วยฟอยล์ ทนความร้อนได้สูง ปลอดภัย ทั้งยังทำให้หน้าตาอาหารยังคงเดิมเมื่อเสิร์ฟถึงมือลูกค้า สะดวกสบายไม่ต้องเปลืองเนื้อที่ ไม่ต้องจัดเก็บล้าง เรียกได้ว่าเหมาะมากกับไลฟ์สไตส์ของคนยุคนี้
https://thaifoodpackaging.com/blog/foil-tray-idea-food/

บรรจุภัณฑ์อาหารกระดาษ กับการพิมพ์โลโก้ที่ทันยุคสมัย


กล่าวถึงในธุรกิจในทุกประเภท มีการแข่งขันทางการตลาดที่ค่อนข้างที่จะสูงมากๆ แทบจะในทุกๆด้าน เพื่อให้แบรนด์ของเรามีความโดดเด่น ติดตลาด สำหรับสินค้าประเภทเดียวกัน ที่จะเห็นได้อย่างชัดเจนที่สุดคงหนีไม่พ้นธุรกิจเกี่ยวกับอาหารและเครื่องดื่ม ที่แพร่หลายในสังคมทุกวันนี้ ซึ่งนั่นย่อมส่งผลต่อยอดขายอย่างมากรวมถึงภาพจำ หากสินค้าของเราไม่ได้มีความแตกต่าง ก็อาจจะทำให้โดนแย่งในเรื่องของ ส่วนแบ่งในทางการตลาดไปได้ ดังนั้นแล้วสิ่งหนึ่งที่ทางแบรนด์จะต้องสร้างนั่นก็คือสร้างความโดดเด่น น่าสนใจ ให้มากกว่าคู่แข่ง โดยเฉพาะกล่องบรรจุภัณฑ์ที่เป็นสิ่งแรกที่ผู้บริโภคมองเห็น และเป็นอีกปัจจัยที่ตัดสินใจว่าจะซื้อหรือไม่  แต่การออกแบบกล่องเพื่อเพิ่มยอดขายนั้นมีเทคนิคอะไรบ้าง มาดูกันเลย

การออกแบบโลโก้บนบรรจุภัณฑ์อย่างไรให้ปังขึ้น
พูดถึงผลิตภัณฑ์ของตัว แบรนด์นั้นๆ นอกจะตัวสินค้าของแบรนด์แล้ว ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของคุณภาพในตัวสินค้าสินค้าเองก็ดี เรื่องของรสชาติอาหาร รูปร่างหน้าตาที่ดึงดูดน่ารับประทาน และที่สำคัญคือความสะอาดปลอดภัย แล้วนั้น พูดถึงอีกภาพจำเลยที่ขาดไม่ได้ สำหรับผู้ประกอบกิจการไม่ว่าจะเป็นธุรกิจที่เกี่ยวกับอาหารหรือไม่ มันครอบคลุมรวมถึงในทุกๆธุรกิจที่หลากหลายด้านซึ่งก็คือ “โลโก้” ความสำคัญของการที่แบรนด์มี โลโก้ที่ดีจะช่วยภาพจำให้กับแบรนด์หรือสินค้าของผู้ประกอบการ เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ อย่างที่เราๆจะเห็นได้ดั่งเด่นชัด อาทิ เช่น แมคโดนัล เคเอฟซี เบอร์เกอร์คิง เอ็มเคสุกี้ เป็นต้น แบรนด์ธุรกิจเกี่ยวกับอาหารที่กล่าวมาในข้างต้น จะเห็นได้ว่า ไม่จำเป็นต้องเห็นตัวผลิตภัณฑ์เราก็สามารถตอบได้แล้วว่า แบรนด์ที่เกี่ยวกับอาหารเพราะภาพจำแว๊บแรกๆของผู้บริโภคก็คือสิ่งที่สังเกตุเห็นก็คือ โลโก้ หรือ สัญลักษณ์ ดังนั้นจะเห็นแล้วว่า โลโก้ก็มีความสำคัญอย่างมาก คือการระบุอัตลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ขององค์กรนั้นๆ หรือ อาจจะแฝงไปด้วยความหมายที่ลึกซึ้งต่างๆ ทั้งรวมถึงในด้านศาสตร์แขนงเกี่ยวกับหลักฮวงจุ้ยเสริมดวงให้กิจการประสบความสำเร็จเจริญรุ่งเรือง ดังนั้น การมีโลโก้อยู่บนบรรจุภัณฑ์สินค้าของคุณจึงสำคัญอย่างมาก เพื่อเข้าถึงลูกค้า ผู้บริโภค เป็นการโฆษณาสินค้า ในเรื่องของการตลาดไปด้วย ซึ่งถือว่าเป็นภาพจำให้แก่แบรนด์ของท่าน แล้วการออกแบบโลโก้ควร เป็นในรูปแบบใด

- การออกแบบโดยที่วางโลโก้ไว้ในมุมใดมุมหนึ่งของกล่อง
ในการจัดวางโลโก้ไว้ที่ตรงที่มุมใดมุมหนึ่ง ของกล่องหรือบรรจุภัณฑ์ ซึ่งนอกที่จากจะเป็นการออกแบบที่ดูมีความเรียบง่าย ชิคๆ แล้ว ทำให้กล่องดูสะอาดสะอ้าน สบายตาผู้มองแล้ว ในส่วนพื้นที่ว่างของกล่องนั้นยังต้องที่จะสามารถเพิ่มอัตลักษณ์ความเฉพาะต่างๆ ลงไปในชิ้นงานสำหรับ พื้นที่ว่างของบรรจุภัณฑ์ และนั่นก็สามารถเพิ่มความโดดเด่นให้กล่อง แบบไม่ซ้ำใครอย่างแน่นอน

- การออกแบบโดยที่วางโลโก้ไว้ไม่เต็มพื้นที่กล่อง
การออกแบบโดยใช้โลโก้เพียงส่วนใด ส่วนหนึ่ง เพื่อที่จะเพิ่มความมีสไตล์ มีเอกลักษณ์เฉพาะ ตัวของแบรนด์นั้นๆ เปรียบเหมือนเป็นการดีไซน์และเป็นการบ่งบอกตัวตนไปในตัว ให้มีความโดดเด่น เจิดจรัส เพิ่มความน่าจดจำให้กับแบรนด์ เหมาะมากโดยเฉพาะสินค้าประเภทแฟชั่น เพราะจะช่วยบ่งบอกถึงลักษณะสินค้าที่อยู่ภายในกล่องได้เป็นอย่างดี

- การออกแบบจัดวางโลโก้ แบบพาดมุมกล่อง
การออกแบบด้วยการใช้โลโก้พาดบริเวณมุมกล่องกระดาษนั้นก็เป็นอีกหนึ่งเทคนิค ที่ในปัจจุบันนี้นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย  เพราะนอกจากจะมีความเก๋ แปลกตา แปลกใหม่ แล้วยังสามารถช่วยสร้างให้แบรนด์เป็นที่จดจำจากกล่องบรรจุภัณฑ์อีกด้วย

- การออกแบบจัดวางโลโก้ตรงกลางกล่อง
ในเรื่องของการวางโลโก้ตรงกลางนั้น เน้นในส่วนของการจัดวางองค์ประกอบให้ลงตัว การออกแบบด้วยวิธีนี้ทำให้โลโก้โดดเด่นเพิ่มความเป็นที่จดจำของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี และนอกจากนั้นอาจจะใช้สีของกล่อง ที่เป็นสีของแบรนด์เข้ามาผสมผสาน กับโลโก้แบรนด์ก็ดูดีและไม่จำเจ การออกแบบนี้เป็นความเรียบง่ายที่คลาสสิคตลอดมา สำหรับการออกแบบโลโก้บนกล่องบรรจุภัณฑ์

การออกกล่องบรรจุภัณฑ์ให้ปังนั้น ไม่ใช่เพียงแค่จะทำกล่องของเรามันดูน่าสนใจขึ้น แปลกตา แปลกใหม่ และโดดเด่น โฉบเฉี่ยว แต่การออกแบบกล่องยังสามารถช่วยสร้างภาพลักษณ์ เป็นสัญลักษณ์ และเอกลักษณ์ให้กับแบรนด์ได้ด้วยเช่นกัน และนี่คือสิ่งที่เน้นย้ำถึงบทบาทของ โลโก้แบรนด์ ดังนั้นในการออกแบบและผลิตกล่องบรรจุภัณฑ์ ทางผู้ประกอบการเองก็ควรคำนึงถึงคุณภาพในการเลือกบริษัทหรือโรงงานผู้ผลิตที่ได้รับความนิยม มีมาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือ ผลิตชิ้นงานได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ปลอดภัย และอีกเรื่องที่มีความสำคัญคือ ความชำนาญประสบการณ์ เพื่อที่จะให้โลโก้บนบรรณจุภัณฑ์ที่ออกมานั้นตอบโจทย์เราได้อย่างมากที่สุด

การพิมพ์โลโห้แบรนด์ ในรูปแบบ Offset
เพื่อให้แบรนต์ของคุณเป็นที่จดจำ ยกระดับความดูดีพรีเมี่ยมมากขึ้นไปอีกด้วยการออกแบบโลโก้สินค้าบนบรรจุภัณฑ์กระดาษ ไม่ว่าจะเป็น บรรจุภัณฑ์ใส่อาหารและเคืร่องดื่มกระดาษ เช่น ถ้วยกระดาษสีขาวขนาด 8 ออนซ์ ไปจนถึงถ้วยกระดาษสีขาวขนาด 22 ออนซ์ หรือกล่องข้าวขนาด 600 ml ที่พิมพ์โลโก้ด้วยระบบ Offset มาดูตัวอย่างขั้นตอนการพิมพ์ตามภาพประกอบให้เข้าใจกันอย่างง่ายๆ กันครับ

การพิมพ์โลโก้สำหรับ ถ้วยไอศครีม สีขาว 8 ออนซ์ (ไม่มีฝา)

การพิมพ์โลโก้สำหรับ แก้วกระดาษสีขาว 8 ออนซ์ (ไม่รวมฝา)

การพิมพ์โลโก้สำหรับ กล่องไก่ทอด สีขาวจุ 13-15 ชิ้น (Size M) ขนาดเดียวกับ กล่องไก่บอนชอน

รายละเอียดในขั้นตอนการพิมพ์โลโก้
เตรียมไฟล์โลโก้ AI ของลูกค้า หรือทีมงานหงส์ไทยออกแบบ แล้วทำการ แจ้งรายละเอียด สีสกรีน ตำแหน่งที่วาง และจำนวนที่ต้องการผลิต ส่งรายละเอียดมาที่ Email : sales@hongthai.co.th

สรุป
กล่าวได้ว่าในการจะทำให้แบรนด์ หรือ ผลิตภัณฑ์ของผู้ประกอบการให้มีความเข้มแข็ง มีจุดขายที่ชัดเจน ผู้บริโภคจดจำได้นั้น สิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้ตัวสินค้าก็คือ โลโก้ จะเป็นสิ่งแรกๆที่ผู้บริโภคจะเห็นจากผลิตภัณฑ์ ดังนั้นการที่จะเลือกบรรจุภัณฑ์ที่จะใช้สำหรับพิมพ์โลโก้นั้น ต้องเป็นบรรจุภัณฑ์ที่สามารถพิมพ์ลายได้ ซึ่งตามท้องตลาดก็มีให้เลือกอย่างหลากหลายรูปแบบ แต่ถ้าจะให้เข้ากับยุคสมัย คนรุ่นใหม่ใส่ใจในสภาพแวดล้อมและธรรมชาติแล้วนะ การเลือกบรรจุภัณฑ์กระดาษรักษ์โลก ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีนั่นเองครับ
https://thaifoodpackaging.com/blog/screen-logo-packaging/

ฝาพลาสติก ปิดถ้วย, แก้ว, และชามกระดาษ คือ? มีขนาดและราคาเท่าไหร่บ้าง


ฝาพลาสติก เป็นสิ่งจำเป็นในการใช้งานควบคู่ไปกับบรรจุภัณฑ์หลายๆชนิด เช่น ถ้วย แก้ว ชาม และอื่นๆ ซึ่งนอกจากที่ฝาพลาสติกจะมีหน้าที่ในการป้องกันการหกเลอะเทอะของอาหารแล้ว ยังสามารถป้องกันการรั่วซึมของอาหารชนิดเหลวเช่นเครื่องดื่มต่างๆได้ดีอีกด้วย

ทั่วไปแล้วหากพูดถึงพลาสติกหลายคนคงรู้สึกว่าสิ่งนี้ไม่ได้เป็นบรรจุภัณฑ์รักษ์โลกนี่น่า แต่เดี่ยวก่อนผมอยากบอกว่าในปัจจุบันมีพลาสติกชนิด PET ( Polyethylene Terephthalate) เป็นพลาสติกประเภทคืนรูป มีความสามารถในการนำไปรีไซเคิลใหม่ได้ 100% ทำให้พลาสติกชนิดนี้ถูกนิยมนำไปใช้กับบรรจุภัณฑ์รักษ์โลกได้ดีนั่นเอง
https://thaifoodpackaging.com/blog/what-sizes-prices-plastic-lid/

ขนาด และ ราคาของฝาพลาสติก ปิดถ้วย แก้ว ชามกระดาษ
ฝาพลาสติก ของ thaifoodpackaging จะมีราคาที่ขึ้นอยู่กับรูปแบบ และขนาดของฝาเหล่านั้น ซึ่งจะแตกต่างกันออกไป ดังต่อไปนี้

ฝาพลาสติกใส(PET) ใช้กับถ้วยคราฟท์ 1500 ml

ราคาเริ่มต้นที่ ฿3.55 / ชิ้นราคารวม VAT

คุณสมบัติ ฝาพลาสติกใส(PET) ใช้กับถ้วยคราฟท์ 1500 ml
        - ทนความร้อนได้ไม่เกิน 60 องศาเซลเซียส
        - ฝาสามารถนำกลับไปรีไซเคลิใหม่ได้ในอุตสาหกรรมพลาสติก
        - ฝานี้ได้รับการออกแบบ และพัฒนาสินค้า ตามโครงสร้างความแข็งแรงของถ้วย 28 ออนซ์ หรือ 850 ซีซี ของหงส์ไทยฯ ดังนั้น จึงมั่นใจได้ว่า สามารถมีความแข็งแรงเพียงพอในการเรียงซ้อนได้ 5-7 ชั้น และปิดสนิทพอดี
*** ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดเช็คราคาล่าสุดได้ตาม Link ด้านล่างนี้
https://thaifoodpackaging.com/product/plastic-lid-for-kraft-cup-1500-ml/


ฝา(PP) 2 ชั้น 1 ช่อง(แยกกับข้าว)ใช้กับถ้วย 28 ออนซ์

ราคาเริ่มต้นที่ ฿3.57 / ชิ้นราคารวม VAT

คุณสมบัติ ฝา(PP) 2 ชั้น 1 ช่อง(แยกกับข้าว)ใช้กับถ้วย 28 ออนซ์
        - ฝาสามาถนำกลับไปรีไซเคลิใหม่ได้ในอุตสาหกรรมพลาสติก
        - ฝาช่อง 1 ใส่ปริมาตรอาหารได้ 165 ML
        - ฝาช่อง 2 ใส่ปริมาตรอาหารได้ 110 ML
        - ภายในถ้วยกระดาษหากใช้ฝา 2 ชั้นแล้วจะเหลือปริมาตรสุทธิที่ 440 ML (จาก 850 ML)
        - ฝาสินค้านี้ได้จดสิทธิบัตรการออกแบบตามกฏหมาย
        - ฝานี้ได้รับการออกแบบ และพัฒนาสินค้า ตามโครงสร้างความแข็งแรงของถ้วย 28 ออนซ์ หรือ 850 ซีซี ของหงส์ไทยฯ ดังนั้น จึงมั่นใจได้ว่า สามารถมีความแข็งแรงเพียงพอในการเรียงซ้อนได้ 5-7 ชั้น และปิดสนิทพอดี
*** ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดเช็คราคาล่าสุดได้ตาม Link ด้านล่างนี้
https://thaifoodpackaging.com/product/plastic-cover-1-compartment/


ถาดพลาสติกแบ่ง 2 ช่องสำหรับถ้วยคราฟท์ 1100,1300 ml.

ราคาเริ่มต้นที่ ฿2.85 / ชิ้นราคารวม VAT

คุณสมบัติ ถาดพลาสติกแบ่ง 2 ช่องสำหรับถ้วยคราฟท์ 1100,1300 ml.
        - เหมาะกับอาหารแปรรูป ปรุงรส หรืออาจเป็นอาหารทั่วไป สามารถใช้งานในอุณหภูมิต่ำ-สูงได้
        - อุณหภูมิที่เหมาะสม -40 ถึง 100 c
        - ฝาสามาถนำกลับไปรีไซเคลิใหม่ได้ในอุตสาหกรรมพลาสติก
        - ฝาสินค้านี้ได้จดสิทธิบัตรการออกแบบตามกฏหมาย
        - ฝานี้ได้รับการออกแบบ และพัฒนาสินค้า ตามโครงสร้างความแข็งแรงของถ้วยของหงส์ไทยฯมั่นใจได้ว่า สามารถมีความแข็งแรงเพียงพอในการเรียงซ้อนได้ 5-7 ชั้น และปิดสนิทพอดี
*** ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดเช็คราคาล่าสุดได้ตาม Link ด้านล่างนี้
https://thaifoodpackaging.com/product/2-plastic-food-dividers-tray/


ฝายกดื่ม ใช้กับแก้วร้อน 2 ชั้น 4 ออนซ์ (แก้ว shot กาแฟ)

ราคาเริ่มต้นที่ ฿1.07 / ชิ้นราคารวม VAT

คุณสมบัติ ฝายกดื่ม ใช้กับแก้วร้อน 2 ชั้น 4 ออนซ์ (แก้ว shot กาแฟ)
        - ฝาสามารถนำกลับไปรีไซเคิลใหม่ได้ในอุตสาหกรรมพลาสติก
        - ฝายกดื่มปากกว้าง 60 มม.
*** ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดเช็คราคาล่าสุดได้ตาม Link ด้านล่างนี้
https://thaifoodpackaging.com/product/lid-for-4-oz-double-wall-cup/


ฝาแก้วพลาสติกโดมตัด ใช้กับแก้ว 16,22 ออนซ์

ราคาเริ่มต้นที่ ฿0.56 / ชิ้นราคารวม VAT

คุณสมบัติ ฝาพลาสติกเรียบ สีขาวขุ่น ใช้กับแก้ว 16,22 ออนซ์
         - ฝาสามารถนำกลับไปรีไซเคลิใหม่ได้ในอุตสาหกรรมพลาสติก
*** ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดเช็คราคาล่าสุดได้ตาม Link ด้านล่างนี้
https://thaifoodpackaging.com/product/plastic-lid-for-cup-16-22-oz/

กล่องสุ่ม กระแสนิยมแห่งยุคสมัย

ในทุกวันนี้เราคงจะปฎิเสธไม่ได้ ถึงอิทธิพลของสื่อสังคมออนไลน์ ที่มีหลากหลายรูปแบบ หลายแพลตฟอร์ม มีการทำตลาดออนไลน์ที่มีการแข่งขันกันค่อนข้างสูง อาทิเช่นการไลฟ์สดขายสินค้า การทำ Content ต่างๆบน สื่อ เช่นบน Facebook Youtube เป็นต้น ซึ่งมีความสะดวกสบายทั้งต่อผู้ซื้อ และ ผู้ขาย เข้าถึงง่าย ในเรื่องของการชำระเงิน รับส่งของสะดวก ถึงหน้าบ้าน โดยไม่จำเป็นต้องใกล้ชิดกันเลย เข้ากับสถานการณ์ไวรัส ระบาดที่มีมาตรการของรัฐ ในเรื่องเว้นระยะห่าง เพียงแค่คุณอยู่บ้านก็สามารถสั่งสินค้าทางออนไลน์ได้ ยังส่งผลต่อการขนส่งทั้งเอกชน หรือ รัฐวิสาหกิจ ที่ต้องมีการขนส่งสินค้าให้ถึงมือลูกค้าอย่างปลอดภัยจำเป็นต้องมีบรรจุภัณฑ์ที่ดีในระหว่างการขนส่งด้วย และ กระแสที่ได้รับความนิยม ในหลายๆธุรกิจสินค้านั่นก็คือ “กล่องสุ่ม” บทความนี้จะพาเราไปรู้จักล่องสุ่มสินค้ากันครับ

กล่องสุ่มคืออะไร ใช้กับธุรกิจใดบ้าง
ในสถาวะเศรษฐกิจแบบนี้ ณ สังคมในปัจจุบันอย่างที่เราๆท่านๆ ทราบกันดีกับเรื่องที่เกิดปัญหาในการดำเนินชีวิต อันมีรอบด้าน การกระตุ้นการค้าขายในตลาดออนไลน์ จึงมีความสำคัญอย่างมาก เช่น อออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ มีการนำเสนอสินค้าที่แปลกแหวกแนว จะเห็นได้จากพ่อค้า แม่ค้า ในโลกออนไลน์ทุกวันนี้ล้วนเป็นคนที่มีชื่อเสียง มีจุดเด่น จุดขายที่ชัดเจน และกระแสที่มาแรงมากกับสินค้า ที่จะช่วยเพิ่มมูลค่าและความน่าสนใจดึงดูดลูกค้าของผู้ประกอบการ พ่อค้า แม่ขาย คงหนีไม่พ้น กล่องสุ่ม กล่องสุ่มคืออะไร คือ ภายในกล่องนั้นจะทำการสุ่มสินค้า คละกันหลายๆชิ้น และสินค้าจะอยู่ในเกณฑ์ราคาที่ผู้บริโภคซื้อ ทางลูกค้าจะไม่สามารถรู้ได้เลยว่าสินค้า หรือ อาหารในกล่องนั้นจะมีอะไรบ้าง นั่นคือความบันเทิง ความแปลกใหม่เวลาแกะสินค้า

อีกทั้งในบางเจ้ายังทำเรื่องพิเศษเช่น ใน 100 กล่องอาจจะมี สินค้า พิเศษ 20 กล่อง ขึ้นอยู่กับโชคของผู้ซื้อ เหมือนเป็นการเล่นเกมส์ร่วมสนุกไปด้วย และ สินค้าประเภทนี้ไม่จำกัดแค่ เครื่องสำอาง สินค้าเบ็ดเตล็ดทั่วไป ยังรวมไปถึงอหาร เช่น กล่องสุ่มอาหารทะเล เป็นต้น ในเมื่อสินค้าในกล่องสุ่มนั้นมีเยอะ แล้ว ผู้ประกอบการควรเลือกใช้กล่องรูปแบบใดในการบรรจุและขนส่งให้ถึงมือลูกค้าอย่างปลอดภัยหล่ะ บรรจุภัณฑ์กระดาษรักษ์โลกก็ถือว่าเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งเลยครับ

บรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสม กับ กระแสกล่องสุ่มฟีเวอร์
หลายๆคนที่เป็นเจ้าของร้านค้าออนไลน์มองว่ากล่องไปรษณีย์ที่มีขนาดใหญ่นั้นไม่ได้มีราคาสูงไปกว่ากล่องไปรษณีย์ขนาดเล็กมากนัก จึงใช้วิธีการสั่งกล่องไปรษณีย์ขนาดใหญ่มาตุนเอาไว้ เพราะมองว่าไม่ว่าเราจะขายสินค้าแบบไหนก็สามารถจัดส่งให้กับลูกค้าได้ทั้งหมด แต่หารู้ไม่ว่านอกจากต้นทุนของกล่องไปรษณีย์ต่อชิ้นที่สูงขึ้นแล้ว หากกล่องมีขนาดใหญ่ เรามักถูกคิดค่าจัดส่งตามขนาดของกล่องด้วย และไม่เพียงเท่านี้ หากลูกค้าสั่งของทีละหลายๆคน ทำให้เราไม่สามารถขนส่งของไปส่งได้ครบทั้งหมด ทำให้ต้องส่งกันหลายรอบ ยิ่งทำให้ต้นทุนของเราสูงขึ้นเป็นทวีคูณโดยที่เราไม่รู้ตัวหรือไม่ได้คาดคิดใดๆ

ดังนั้นอย่าลืมว่าในการเลือกกล่องไปรษณีย์นั้นจะต้องมีความสัมพันธ์กับขนาดของสินค้าที่เราต้องการขาย ไม่ใช่สั่งแบบที่มีขนาดใหญ่ไว้ก่อน พยายามที่จะทำให้ร้านของเราได้กำไรตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อจะหาโอกาสขยายกิจการได้ไม่ยาก อย่าใช้จ่ายเกินความจำเป็นสำหรับการลงทุน ตัวอย่างเช่น กล่องสุ่มพิซซ่าคละหน้า หรือ กล่องสุ่มอาหารทะเผา นั้นควรเลือกใช้กล่องแบบไหน


          - กล่องใส่อาหารทะเล (Size L) ขนาด 38x18x11.5 ซม. เหมาะกับการทำกิจกรรมอาหารสุ่ม ของผู้ประกอบการร้านค้าร้านอาหาร ที่ให้ผู้บริโภคร่วมสนุกได้ และกล่องขนาดนี้สามารถบรรจุอาหารทะเลได้หลายประเภทในกล่อง เช่น มีปูทะเลนึ่ง มีกุ้งเผา มีปลาย่าง หอยลวก ในกล่องเดียวได้ หรืออาจะเพิ่มเติมใส่พักรวมถึงน้ำจิ้มเพื่อความสวยงาม อีกทั้งยังปลอดภัยต่อการขนส่ง และ กล่องสามารถสัมผัสอาหารได้โดยตรงอีกด้วย จึงมั่นใจว่าปลอดภัยแน่นอน
          - กล่องพิซซ่าสี่เหลี่ยม ขนาด 18 นิ้ว 45.7 x 45.7 x 4.5 ซม. เหมาะสำหรับใส่อาหารประเภทพิซซ่า ซึ่งถ้าลูกค้าไม่ตัดสินใจเลือกหน้าของอาหารทางร้านอาจจะจัดเป็นหน้าสุ่มในกล่องเดียวให้ลูกค้าได้ อาจจะมีหน้าที่หลากหลายให้ลูกค้าหรือผู้บริโภคได้เลือกเพลิดเพลินกับการรับประทานอาหาร อีกทั้งยังใช้ได้กับอาหารพวกเกี๊ยวซ่า อาจจะทำการสุ่มไส้ของเกี๊ยวได้อีกด้วยเช่นกันครับ
          - กล่องไก่ทอด กล่องใส่ขนม สีขาว (Size L) กล่องประเภทนี้เหมาะกับใช้บรรจุอาหาร อย่างเช่นพวกของทอด ได้หลายแบบไม่จำกัดเฉพาะไก่ทอด แต่ได้ทั้ง หมูทอด ฟิชแอนด์ชิฟ เฟรนฟราย ไส้กรอกหรือลูกชิ้นแบบต่างๆ อาหารแปรรูปและในกล่องอาจจะบรรจุอาหารที่คละและหลากหลายได้ในกล่องเดียวเนื่องจากตัวกล่องมีขนาดที่ใหญ่ ทำให้ผู้บริโภคสามารถเพลิดเพลินกับอาหารได้ โดยที่เราไม่รู้ว่าในหนึ่งกล่องนั้นมีอาหารแบบใดบ้าง

สรุปเกี่ยวการเลือกใช้กล่องสุ่มกระตุ้นธุรกิจ
ไม่ว่าผู้ประกอบการนั้นจะเลือกใช้บรรจุภัณฑ์แบบใด ก็ตาม แต่สิ่งที่พึงคำนึงเวลาสินค้าถึงมือผู้บริโภคนั้นคือ คุณภาพของสินค้านั้นๆ รวมถึงการใช้บรรจุภัณฑ์ที่ปลอดภัย เหมาะสมกับประเภทอาหารนั้นๆด้วย และการจัดทำกล่องสุ่มนี้ไม่ได้ เฉพาะเจาะตงแค่ธุรกิจเกี่ยวกับอาหารและเครื่องดื่มอย่างเดียวยังรวมถึงธุรกิจประเภทอื่นๆได้ด้วย เช่น ธุรกิจเครื่องสำอาง ของใช้เบ็ดเตล็ด เป็นต้น ดังนั้นนอกจจากจะสร้างสีสันในการขายแล้ว ผู้บริโภคได้สินค้าที่หลากหลาย ยังถือเป็นการกระตุ้นการตลาดที่ดีอีกด้วยและควรคำนึงถึง บรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสม เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผลิตจากโรงงานที่ได้มาตรฐาน ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของการตอบแทนผู้บริโภคที่ไว้ใจใช้บริการแบรนด์ของท่านในอีกทางหนึ่งเลยครับ
https://thaifoodpackaging.com/blog/randombox-packaging/

กล่องไฮบริด คือ ? มีคุณสมบัติอะไรบ้าง และเหมาะกับธุรกิจแบบใด


ในปัจจุบันกระแสรักษ์โลกที่เพิ่มมากขึ้นและเป็นที่พูดถึงทั่วโลก ทำให้การออกแบบ พัฒนาบรรจุภัณฑ์ชนิดต่างๆต้องตอบโจทย์ความต้องการในจุดนี้ ช่วยให้เกิดเป็นบรรจุภัณฑ์รักษ์โลกต่างๆมากมายขึ้น โดยหนึ่งในนั้นก็คือ “กล่องไฮบริด” นั่นเอง

กล่องไฮบริด คือ
กล่องไฮบริด เป็น บรรจุภัณฑ์อาหารรักษ์โลกรูปแบบใหม่ มีลักษณะที่แตกต่างจากบรรจุภัณฑ์อาหารรักษ์โลกชนิดอื่นๆ โดยตัวกล่องจะมีรูปร่างเหมื่อนกล่องทั่วไปเพียงแต่ส่วนด้านบนจะเปิดโล่งและมีฝาชนิดใสเพื่อทำการปิด ทำให้สามารถโชว์หน้าสินค้า อาหารที่อยู่ภายในกล่องได้
การโชว์สินค้า หรืออาหารที่อยู่ภายในกล่องได้นั้นจะเป็นส่วนช่วยสร้างความสวยงาม และจุดเด่นให้กล่องได้อย่างดี ทำให้ผู้พบเห็นกล่องไฮบริดรู้ได้ทันทีว่าสิ่งอยู่ด้านในคืออะไร ซึ่งหากสินค้าหรืออาหารเหล่านั้นสวยงามดูน่ากิน ก็ยิ่งกระตุ้นให้ผู้พบเห็นเกิดความสนใจและอาจจะลองเลือกสั่งซื้ออาหารจากร้านของคุณเพิ่มมากขึ้น

กล่องไฮบริด ผลิตมาจากอะไร
ตัวกล่องไฮบริดจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนด้วยกัน คือ ส่วนของตัวกล่องด้านล่าง และส่วนบนเป็นฝาใสที่ช่วยแสดงสินค้าด้านใน โดยตัวกล่องด้านล่างจะผลิตขึ้นมาจากกระดาษ Food Grad ใช้เยื่อกระดาษยาวสีธรรมชาติ ส่วนของกระดาษยังเครือบ PE ช่วยให้ป้องกันการรั่วซึมจากน้ำ และน้ำมันได้ดี นอกจากนี้ตัวกล่องยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ 100% ส่วนตัวฝาใสที่ปิดด้านบนจะผลิตมาจากพลาสติก PET ( Polyethylene Terephthalate) เป็นพลาสติกประเภทคืนรูป และยังเป็นพลาสติกชนิดเดียวที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ 100% อีกด้วย

**สินค้าบรรจุภัณฑ์ชนิด กระดาษเคลือบ PE ไม่แนะนำเข้าไมโครเวฟหรือเตาอบ เพราะอาจจะให้เกิดการติดไฟขึ้นได้ (MICROWAVE AND OVEN NOT SAFE)”

คุณสมบัติของ กล่องไฮบริด
ผมจะทำการแบ่งคุณสมบัติของกล่องไฮบริดออกเป็น 2 ส่วน คือส่วนของตัวกล่อง และส่วนของฝาใส เพราะทั้ง 2 ส่วนนี้มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน และเพื่อช่วยให้เข้าใจได้ง่าย ดังนี้
         - คุณสมบัติส่วนของ ตัวกล่องด้านล่าง'
                    - ตัวกล่องถูกผลิตมาจากเยื่อกระดาษเกรดดี เครือบด้วย PE Food Contact Grade ทำให้มีความสามารถกันน้ำ และน้ำมันได้
                    - ตัวกล่องมีความสามารถในการปองกันการรั่วซึมได้ดี
                    - ตัวกล่องสามารถบรรจุอาหารชนิดเปียกได้
                    - มีหลายขนาด รูปทรงให้เลือกใช้งานตามความต้องการ
        - คุณสมบัติส่วนของ ฝาใสด้านบน
                    - ส่วนของฝาใสผลิตขึ้นจากพลาสติก PET ทำให้นำไปรีไซเคิลใหม่ได้
                    - ส่วนของฝาใสถูกออกแบบมาให้มีความแข็งแรง สามารถวางซ้อนเรียงกันโดยตัวกล่องและฝาไม่ยุบลงมาทับอาหาร
                    - ฝาใสช่วยทำให้มองเห็นอาหารที่อยู่ด้านในได้
                    - สามารถพิมพ์ชื่อร้าน โลโก้ หรือรูปภาพต่างๆลงไปที่ส่วนของฝาใสได้

กล่องไฮบริด เหมาะกับธุรกิจประเภทใด
กล่องไฮบริด ถูกออกแบบและพัฒนามาเพื่อรองรับการใส่อาหารชนิดต่างๆได้ดี จากการที่ตัวกระดาษถูกเครือบด้วย PE ทำให้ทนทานต่อน้ำและน้ำมัน ทั้งยังมีฝาใสโชว์อาหารที่อยู่ด้าน นอกจากนี้ตัวกล่องยังนับเป็นบรรจุภัณฑ์รักษ์โลก ด้วยประโยชน์มากมายเหล่านี้ทำให้หลายๆธุรกิจต่างเลือกใช้งานกล่องไฮบริดกัน ได้แก่
        - ธุรกิจเกี่ยวกับอาหารและเครื่องดื่ม
        - ธุรกิจ SMEs ที่เกี่ยวกับการค้าขายอาหารชนิดอื่นๆ เช่น ร้านอาหารตามสั่ง เบอเกอรี่ คาเฟ่ขนม เป็นต้น
        - พ่อค้าและแม่ค้าที่ขายอาหารตามท้องถนน หรือตลาดนัด ไปจนถึงห้างร้านทั่วไป

6 ข้อดีของการนำ กล่องไฮบริด มาใช้กับธุรกิจของคุณ
        1. กล่องไฮบริดมีความโดดเด่นกว่ากล่องชนิดอื่น ทำให้ลูกค้า และผู้พบเห็นเกิดการจดจำได้ง่าย
        2. กล่องไฮบริดจะช่วยกระตุ้นยอดขายได้ จากความสามารถต่างๆของกล่อง
        3. ช่วยโฆษณาให้กับธุรกิจของคุณได้ดี จากการพิมพ์โลโก้ หรือชื่อแบรนด์ของคุณลงไปบนฝาใสด้านบน
        4. เพิ่มมูลค่าของสินค้าหรืออาหารให้ดูแพงยิ่งขึ้น จากความสวยงามของบรรจุภัณฑ์
        5. เป็นส่วนช่วยในการลดปัญหาทางด้านมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม และทำให้ธุรกิจของคุณดูมีความน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น
        6. เมื่อลองเปรีบเทียบกับคุณสมบัติและความสามารถนั้น กล่องไฮบริดมีราคาที่สมเหตุสมผลและไม่แพงจนเกินไป

สรุป
อย่างที่ได้กล่าวไปกล่องไฮบริดนั้นมีความสามารถที่หลากหลาย และถูกคิดค้นพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ทดแทนบรรจุภัณฑ์ชนิดเก่าๆจำพวกพลาสติก เพื่อเป็นส่วนร่วมในการแก้ไขและช่วยลดมลพิษลง นอกจากนั้นตัวกล่องไฮบริดยังจะช่วยดึงดูดผู้คน และกระตุ้นยอดขายได้ดี โดยตัวกล่องจะนิยมนำไปใช้กับธุรกิจจำพวกร้านอาหารต่างๆไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็กก็สามารถใช้งานได้ เนื่องจากตัวกล่องไฮบริดมีราคาที่ไม่สูงเกินไปนักนั่นเอง'
https://thaifoodpackaging.com/blog/what-features-hybrid-box/

การผลิตบรรจุภัณฑ์กระดาษที่ได้มาตรฐาน นั้นต้องมีขั้นตอนอะไรบ้าง


นวัตกรรมยุคใหม่ บรรจุภัณฑ์ ภาชนะรักษ์โลก
บรรจุภัณฑ์อาหาร และเครื่องดื่มที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติล้วนๆ ซึ่งในกระบวนการผลิตไม่มีสารเคมีหรือวัสดุอื่นๆ เจือปนหรือนำมาเป็นส่วนประกอบเพื่อเพิ่มความคงทนของบรรจุภัณฑ์ ก็จะเรียกกันว่าบรรจุภัณฑ์ หรือ “ภาชนะรักษ์โลก” เพราะนอกจากย่อยสลายได้ตามธรรมชาติแล้วนั้น วัสดุประเภทเยื่อกระดาษที่นำมาผลิตกล่องกระดาษใส่อาหาร แก้วกระดาษประเภทต่างๆ และถ้วยกระดาษ ยังปลูกทดแทนขึ้นมาใหม่ได้ วัสดุจากธรรมชาติ ส่วนนวัตกรรมที่เป็นบรรจุภัณฑ์รักษ์โลกได้แก่อะไรบ้าง บทความนี้มีคำตอบ

การผลิตที่ทันสมัยได้มาตรฐาน ห่วงต่อสภาพแวดล้อม ที่มาพร้อมกับการส่งเสริมอาชีพให้ผู้คน
จากผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่มีสาเหตุมาจากหลายๆปัจจัย  และขยะจากบรรจุภัณฑ์นั้นจะเห็นได้ว่าก็ถือเป็นหนึ่งในหลายปัจจัยที่ส่งผลกระทบโดยตรงได้แก่การที่อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์เป็นแหล่งใช้พลังงาน ทั้งการใช้สารบางประเภท เช่น CFC (Chlorofluorocarbons)  ในกระบวนการที่จะผลิตและแปรรูป ส่งผลต่อการทำลายโอโซนในชั้นบรรยากาศ และยังเป็นปัญหาจากบรรจุภัณฑ์ที่ใช้แล้วก่อให้เกิดขยะอยู่ตามแหล่งชุมชน หรือ ในแม่น้ำลำคลอง นอกจากทำลายสิ่งแวดล้อมและภูมิทัศน์แล้วยังก่อให้เกิดมลพิษจากการกำจัดขยะที่ไม่ถูกวิธี เช่นการเผาทำลาย หรือขยะที่กลายเป็นปัญหาทำให้น้ำเน่าเหม็นส่งผลต่อปัญหาสุขภาพของคนในชุมชน

ปัญหาขยะบรรจุภัณฑ์เหล่านี้ ทำให้บรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมเข้ามามีบทบาทสำคัญ โดยมีการพัฒนาและปรับเปลี่ยนการใช้วัสดุบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อผลิตบรรจุภัณฑ์ตามเทรนด์การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เช่น กล่องกระดาษใส่ขนม กล่องกระดาษใส่อาหาร ชามกระดาษ ถาดกระดาษ ถาดใส่แก้ว แก้วกระดาษ ถ้วยกระดาษ และบรรจุภัณฑ์จากวัสดุธรรมชาติรูปแบบอื่น ๆ อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมเกษตรกร ที่ปลูกพื้น เช่น ไม้ไผ่ ยางพารา จำพวกไม้เนื้ออ่อน ต้นยูคาลิปตัส ไม้สน กระถินเทพา หรือที่ผลิตเยื่อไม้หรือเยื่อกระดาษขึ้นรูป ซึ่งทำการผลิตมาจากชานอ้อย ซึ่งจะเห็นแล้วว่า นอกจากจะรักษาสภาพแวดล้อมแล้วยังส่งเสริมชาวสวนผู้ประกอบอีกด้วย

บรรจุภัณฑ์กระดาษ ที่ใส่ใจในการผลิต
ทางโรงงานได้คำนึงถึง ขั้นตอนในการผลิตการตรวจสอบ ทดสอบคุณภาพกระดาษจากโรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์กระดาษ ด้วยประสบการณ์ที่มีมากกว่า 42 ปีจึงมั่นใจได้ถึงมาตรฐานการผลิตได้เลยครับ และมีการตรวจสอบคุณภาพขั้นตอนการผลิตคือ

กระบวนการตรวจสอบคุณภาพ (QUALITY CHECK PROCESS) ซึ่งจะมีอะไรกันบ้างนั้น เรามาเรียนรู้กันค่ะ
1. ความต้านการบิดงอ (Bending Stiffness) ผ่านการทดสอบว่า กระดาษลูกฟูก หรือ ผิวกระดาษนั้นมีการรองรับการดัดโค้งได้ดี ขั้นตอนการทดสอบ
        - ตัดชิ้นงานขนาด 2.5*10 cm
        - กระดาษที่ได้ใส่เข้ายังตัวประคอง วางชิ้นทดสอบลงบนแท่นล่าง (Lower Plate) ตามแนวตั้งของลอนลูกฟูก เพื่อหาค่าชิ้นงาน มาตรฐานการทดสอบ ISO 03037,TAPPI T 811, JIS Z 0401

2. น้ำหนักมาตรฐาน (Basis Weight) น้ำหนักกระดาษที่ดีมีผลต่อคุณภาพของกระดาษ ขั้นตอนการทดสอบ
        - ตัดชิ้นงานที่ต้องการทดสอบขนาด 10*10 cm
        - วางชิ้นทดสอบบนแท่นชั่งน้ำหนักรอจนจอแสดงค่านิ่งและมีสัญลักษณ์ ทำการบันทึก มาตรฐาน  อ้างอิง ISO536, ASTM646, TAPPI T 410, ISO 3039 (สำหรับกระดาลูกฟูก)

3. การดูดซึมน้ำ (Cobb Test) ทดสอบการดูดซึมน้ำซึ่งจะมีผลต่อความแข็งแรงของกระดาษ โดยใช้เครื่องมือทดสอบคือ Cobb Tester ขั้นตอนการทดสอบ
        - ตัดกระดาษที่ต้องการทดสอบ
        - วางชิ้นทดสอบบนแท่นชั่งน้ำหนักรอจนจอแสดงค่านิ่งและมีสัญลักษณ์การบันทึก
        - นำกระดาษมาทดสอบเข้าเครื่อง Cobb Test
        - ใส่น้ำพร้อมจับเวลาทดสอบ
        - ซับน้ำบนแผ่นกระดาษ
        - วางชิ้นทดสอบบนแท่นชั่งน้ำหนักอีกรอบรอจนจอแสดงค่านิ่งและมีสัญลักษณ์ทำการบันทึก มาตรฐานอ้างอิง ISO 535, TAPPI T 441

4. ความต้านทานแรงทะลุ (Bursting Strength) ใช้แผ่นทดสอบ ชี้บอกถึงความเหนียวหรือคุณภาพของกระดาษ ขั้นตอนการทดสอบ
        - เตรียมชิ้นงานทดสอบขนาด 25*40 cm.
        - นำชิ้นงานที่ได้เข้าเครื่องเพื่อทดสอบหาค่า
        - ผลที่ได้จากการทดสอบ มาตรฐานอ้างอิง ISO 2758, ISO 2759 , TAPPI T 403 , ASTM D 744

5. ความต้านแรงกดวงแหวน (Ring Crush Resistance) ทดสอบแข็งแรงในการเรียงซ้อนกันของกล่องกระดาษลูกฟูก ขั้นตอนการทดสอบ
        - ตัดชิ้นทดสอบขนาด152.4*12.7 มม. ด้วยเครื่อง Die cutter
        - สอดชิ้นทดสอบลงในอุปกรณ์ Ring crush fixture ให้เป็นรูปวงแหวน
        - วางชุดชิ้นทดสอบบนแทน (LOWER PLATE) เพื่อทำการทดสอบหาค่าชิ้นงาน มาตรฐานการทดสอบ TAPPI T818 , TAPPI T 822

6. ความต้านแรงกดในแนวเดียวกับลูกฟูก (Edge Wise Crush Resistance) ทดสอบความแข็งแรงของกระดาษลูกฟูกในการต้านแรงกดในแนวตั้ง ขั้นตอนการทดสอบ
        - ตัดชิ้นงานขนาด 2.5*10 cm.
        - กระดาษที่ได้ใส่เข้ายังตัวประคอง
       - วางชิ้นทดสอบลงบนแท่นล่าง (Lower Plate) ตามแนวตั้งของลอนลูกฟูก เพื่อหาค่าชิ้นงาน มาตรฐานการทดสอบ ISO 03037, TAPPI T 811, JIS Z 0401

7. ความต้านทานแรงกดของกล่องกระดาษลูกฟูก (Compression Strength)ทนต่อการเรียงซ้อนของกล่อง ไม่ให้เกิดการเสียรูป ขั้นตอนการทดสอบ วางชุดชิ้นทดสอบบนแทน (LOWER PLATE)เพื่อทำการทดสอบหาค่าชิ้นงาน

8. ความต้านแรงกดของลอนลูกฟูก (Flat crush resistance) ผ่านการทดสอบความสามารถในการรับน้ำหนักกดทับและกันกระแทกได้ดี ขั้นตอนการทดสอบ
        - ตัดชิ้นทดสอบด้วยเครื่องตัด (Flat crush cutter) ได้ขนาดชิ้นทดสอบ 32.25 ตารางเซนติเมตร
        - วางชิ้นทดสอบลงบนแท่นล่าง (Lower Plate) ซึ่งจุดที่วางชิ้นทดสอบต้องอยู่บริเวณกึ่งกลางของ Lower Plate เพื่อหาค่าชิ้นงาน มาตรฐานอ้างอิง ISO 3035, TAPPI T 808 มาตรฐานอ้างอิง ASMTM D 642, TAPPI T804

สรุป
จากที่กล่าวและได้รู้ถึง ขั้นตอนและที่มาของการผลิตที่เข้าใจง่ายใส่ใจในคุณภาพ การเลือกใช้บรรจุภัณฑ์รักษ์โลกทั้งแบบสำเร็จรูปที่โรงงานผลิตออกมาวางจำหน่ายและสั่งผลิตตามรูปแบบที่ผู้ประกอบการหรือองค์กรธุรกิจต้องการ ซึ่งยังเป็นกลยุทธ์ที่ใช้ส่งเสริมการขายและสร้างการมีส่วนร่วมของผู้บริโภค ช่วยให้สินค้าเป็นที่จดจำได้อย่างมีประสิทธิภาพ นั่นเองค่ะ
https://thaifoodpackaging.com/blog/standardized-paper-packaging-production-process/

ถ้วยกระดาษ ชามกระดาษ อิทธิพลต่อธุรกิจอาหารที่จำเป็นต้อง delivery


ถ้วยกระดาษ ชามกระดาษ อิทธิพลต่อธุรกิจ deliveryจากสถาณการณ์โควิด – 19 ทำให้ผู้ประกอบกิจการร้านค้าต่างๆ ต้องปรับตัวกันทั้งหมด จากเดิมที่เคยนั่งทานที่ร้านได้ต้องมาเปลี่ยนเป็นสั่งกลับบ้านได้อย่างเดียว ถ้วยกระดาษ ชามกระดาษ จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างมากในช่วงวิกฤตนี้ ยุคสมัยที่เปลี่ยนไปจากเดิมนิยมใช้เป็นกล่องโฟม ถ้วยพลาสติกที่มีสารเคมีปะปนซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคได้ ผู้ประกอบการจึงเล็งเห็นความสำคัญและใส่ใจในสุขภาพของผู้บริโภคจึงได้เปลี่ยนมาใช้เป็นถ้วยกระดาษ ชามกระดาษ เนื่องจากกระแสการรักษ์โลก ทำให้ ถ้วยกระดาษ ชามกระดาษ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เป็นบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังปลอดภัยเพราะผลิตมาจากวัสดุจากธรรมชาติ เช่น กระดาษเยื่อไผ่ธรรมชาติ หรือกระดาษชานอ้อย ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ เพิ่มมูลค่าสร้างภาพลักษณ์ให้แบรนด์และเมนูอาหารอีกด้วย

คุณสมบัติของถ้วยกระดาษ ชามกระดาษ
         - กระดาษนำเข้าจากต่างประเทศ คุณภาพดี ทนทานและป้องกันรั่วซึมได้
         - กระดาษสามารถย่อยสลายตามธรรมชาติ ปลอดภัยต่อผู้บริโภค
         - ไม่เป็นปัญหาต่อสิ่งแวดล้อม และการออกแบบพิมพ์ลาย ใช้หมึก SOY INK เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
         - กระดาษคงทนแข็งแรงไม่อ่อนตัว คงรูป ไม่รั่วซึมง่าย ถือง่ายถนัดมือ
         - มีเครื่องมือในการตรวจสอบรอยรั่วซึมและคัดแยกจุดสกปรกได้แม่นยำ
         - กระดาษสีน้ำตาลธรรมชาติปราศจากสารฟอกขาว
         - รักษาอุณหภูมิได้อย่างดีทั้งร้อนและเย็น
         - สี และ ลักษณะถ้วยและชามกระดาษ สามารถเพิ่มมูลค่าของอาหาร
         - ช่วยการโฆษณาประชาสัมพันธ์ด้วยการออกแบบลวดลายต่าง ๆ โลโก้ร้านค้า เพิ่มมูลค่าให้กับบรรจุภัณฑ์ได้ดี

ขนาดของถ้วยกระดาษ ชามกระดาษ ใช้ในโอกาสไหนได้บ้าง

ถ้วยกระดาษขนาด 4 ,8 ออนซ์
           มีทั้งถ้วยสีขาวและลายไทย วัสดุส่วนใหญ่ทำจากเยื่อกระดาษ 2 ชนิด ได้แก่ เยื่อใยขาวทำจากไม้เนื้ออ่อนเมืองหนาว เช่น ไม้สน และสปรูซ เยื่อไม้จะมีลักษณะหยาบมีความแข็งแรงที่มีความหนา 190 แกรม เคลือบ PE ทั้ง 2 ด้าน ใช้หมึกถั่วเหลืองที่มีความปลอดภัย สามารถเก็บความเย็นได้ ไม่รั่วซึมจึงเหมาะกับใส่ไอศครีม หรือสินค้าทดลองชิม

ถ้วยกระดาษขนาด 12 ออนซ์ ( กว้าง 10.2 x สูง 7.6 ซม. )
           มีสีขาว ลายไทย และลายดอกไม้ วัสดุหลักๆ ที่นำมาผลิต ถ้วยกระดาษ ได้แก่ เยื่อกระดาษจากไม้เนื้ออ่อน เช่น ยูคาลิปตัส กระถินเทพา หรือสน เพราะ ยื่อไม้จะมีลักษณะหยาบมีความแข็งแรง เหมาะพ่อค้าแม่ค้าที่ขายสินค้าประเภทของกิน โดยเฉพาะสินค้าพร้อมทานทั้งอาหารว่างและอาหารปรุงสำเร็จ ใส่ได้ทั้งร้อนและเย็น รวมไปถึงสินค้าประเภทขนมหวานหรือไอศกรีม

ถ้วยกระดาษขนาด 16 ออนซ์ ( กว้าง 11.2 x สูง 8.4 ซม. )
            มีทั้งถ้วยสีขาวและลายไทย ใช้สำหรับใส่ของหวาน ไอศกรีม น้ำแข็งใส ลูกชิ้นทอด

ถ้วยกระดาษขนาด 28 ออนซ์ ( กว้าง 14.1 x สูง 8.4 ซม. )
            มีสีขาว สีดำ ลายไทย ลายไก่ และถ้วยคราฟท์ ใช้บรรจุของร้อน ก๋วยเตี๋ยว สลัดผัก ลูกชิ้นทอด อาหารจานเดียว อาหารประเภทตามสั่ง

ถ้วยกระดาษคราฟท์ และสีขาว 500,750,1100,1300 ml
            ผลิตจากกระดาษที่มีความหนา 240และ 300 แกรม เหมาะกับใส่อาหารประเภทน้ำ น้ำคลุกคลิก ยำ สลัด ของร้อน อาหารประเภทเส้น

ชามกระดาษ 20 ออนซ์ ( กว้าง 17 x สูง 4.2 ซม. )
            มีสีขาวและลายไทย เหมาะสำหรับใช้บรรจุของร้อน ก๋วยเตี๋ยว สลัดผัก ลูกชิ้นทอด อาหารจานเดียว

ถ้วยกระดาษ 26 ออนซ์ ( กว้าง 15 x สูง 6 ซม. )
            มีลายไทยและลายไก่ มีขนาดใหญ่สามมารถใส่ถ้วยน้ำจิ้มเพิ่มได้ เหมาะกับอาหารประเภทชุดเซ็ท น้ำพริก ต้ม ผัด แกง ทอด สลัดโรล สลัดผัก-ผลไม้ อาหารประเภทเส้น

ถ้วยกระดาษ 36 ออนซ์ ( กว้าง 14.1 x สูง 8.4 ซม. )
             มีลายไทยและลายไก่ มีขนาดใหญ่สามมารถใส่ถ้วยน้ำจิ้มเพิ่มได้เหมาะสำหรับผู้ประกอบการร้านอาหารไทย อาหารประเภทชุดเซ็ท น้ำพริก ต้ม ผัด แกง ทอด สลัดโรล สลัดผัก-ผลไม้ อาหารประเภทเส้น

สรุป
อย่างไรก็ตามการปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย วิกฤตต่างๆที่เกิดขึ้นตามกาลเวลา ทำให้ผู้ประกอบการร้านค้าสามารถที่จะดำเนินกิจการต่อได้ สิ่งที่ขาดไม่ได้ในตอนนี้คือการป้องกันการแพร่เชื้อของ โควิด – 19 ถ้วยกระดาษ และชามกระดาษ จึงเป็นคำตอบที่ดีที่สุด ปลอดภัยต่อผู้บริโภค เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมใช้เวลาย่อยสลายสั้น อีกทั้งยังทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ดูดีไปด้วย เพราะเทรนรักษ์โลกร้อนกำลังมาแรง
https://thaifoodpackaging.com/blog/paper-bowl-for-delivery/

กล่องไฮบริด กล่องฝาใส คือ? มีขนาดและราคาเท่าไหร่บ้าง


กล่องไฮบริด กล่องฝาใส เป็นบรรจุภัณฑ์อาหารยอดนิมยเนื่องตัวกล่องมีรูปแบบที่สามารถมองเห็นหน้าตาอาหารได้จากส่วนบน ทำให้เกิดความสวยงาม น่ารับประทาน ทำให้ในปัจจุบันร้านค้าอาหารไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ก็ต่างใช้กล่องชนิดนี้ทั้งนั้น

กล่องไฮบริด กล่องฝาใส คือ?
กล่องไฮบริด คือ บรรจุภัณฑ์อาหารรักษ์โลกที่ถูกผลิตขึ้นจากวัสดุธรรมชาติ ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้วัสดุจากเยื่อไม้บริสุทธิ์จากป่าที่ปลูกเชิงพาณิชย์ โดยทั่วไปตัวกล่องมีลักษณะเหมือนกล่องข้าว หรือกล่องอาหารทั่วๆไปที่มีฝาปิดใสแบบ PET ซึ่งตัวฝาก็สามารถนำไปรีไซเคิลใหม่ได้เช่นกัน และยังสามารถนำไปใช้งานในอุตสาหกรรมพลาสติกต่อได้อีกด้วย
https://thaifoodpackaging.com/blog/what-sizes-prices-hybrid-box/

ขนาด และ ราคาของแก้วกระดาษ
กล่องไฮบริด กล่องกระดาษคราฟท์ใส่อาหาร ฝาใส 20 oz

ราคา ฿3.50 – 4.50 / ชุดราคารวม VAT

คุณสมบัติ กล่องไฮบริด กล่องกระดาษคราฟท์ใส่อาหาร ฝาใส 20 oz
          - กล่องกระดาษ สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ 100% และฝา PET นำกลับไปรีไซเคิลใหม่ได้ ในอุตสาหกรรมพลาสติก
          - ฝา PET สามารถเห็นอาหารชัดเจนและออกแบบมาเพื่อให้เรียงซ้อนได้
          - กระดาษเคลือบ สารสัมผัสอาหาร(Grease Resistant Barrier) ทำให้ถาดไม่ซึมน้ำมัน และปลอดภัยจากสารก่อเกิดโรคมะเร็ง
          - ถาดกระดาษสามารถบรรจุอาหารเปียกได้
          - สามารถพิมพ์ชื่อร้าน หรือโลโก้ที่ฝาพลาสติก PET
*** ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดเช็คราคาล่าสุดได้ตาม Link ด้านล่างนี้
https://thaifoodpackaging.com/product/hybrid-paper-box-500-ml/


กล่องไฮบริด กล่องกระดาษคราฟท์ใส่อาหาร ฝาใส 25 oz

ราคา ฿4.46 – 5.26 / ชุดราคารวม VAT

คุณสมบัติ กล่องไฮบริด กล่องกระดาษคราฟท์ใส่อาหาร ฝาใส 25 oz
          - กล่องกระดาษ สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ 100% และฝา PET นำกลับไปรีไซเคิลใหม่ได้ ในอุตสาหกรรมพลาสติก
          - ฝา PET สามารถเห็นอาหารชัดเจนและออกแบบมาเพื่อให้เรียงซ้อนได้
          - กระดาษเคลือบ สารสัมผัสอาหาร(Grease Resistant Barrier) ทำให้ถาดไม่ซึมน้ำมัน และปลอดภัยจากสารก่อเกิดโรคมะเร็ง
          - ถาดกระดาษสามารถบรรจุอาหารเปียกได้
          - สามารถพิมพ์ชื่อร้าน หรือโลโก้ที่ฝาพลาสติก PET
*** ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดเช็คราคาล่าสุดได้ตาม Link ด้านล่างนี้
https://thaifoodpackaging.com/product/hybrid-paper-box-700-ml/


กล่องไฮบริด กล่องกระดาษคราฟท์ใส่อาหาร ฝาใส 2 ช่อง 25 oz

ราคา ฿5.25 – 6.05 / ชุดราคารวม VAT

คุณสมบัติ กล่องไฮบริด กล่องกระดาษคราฟท์ใส่อาหาร ฝาใส 2 ช่อง 25 oz
          - กล่องกระดาษ สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ 100% และฝา PET นำกลับไปรีไซเคิลใหม่ได้ ในอุตสาหกรรมพลาสติก
          - ฝา PET สามารถเห็นอาหารชัดเจนและออกแบบมาเพื่อให้เรียงซ้อนได้
          - กระดาษเคลือบ สารสัมผัสอาหาร(Grease Resistant Barrier) ทำให้ถาดไม่ซึมน้ำมัน และปลอดภัยจากสารก่อเกิดโรคมะเร็ง
          - ถาดกระดาษสามารถบรรจุอาหารเปียกได้
          - สามารถพิมพ์ชื่อร้าน หรือโลโก้ที่ฝาพลาสติก PET
*** ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดเช็คราคาล่าสุดได้ตาม Link ด้านล่างนี้
https://thaifoodpackaging.com/product/hybrid-box-700-ml-2-compartment/


กล่องไฮบริด กล่องกระดาษคราฟท์ใส่อาหาร ฝาใส 30 oz

ราคา ฿5.25 – 6.05 / ชุดราคารวม VAT

คุณสมบัติ กล่องไฮบริด กล่องกระดาษคราฟท์ใส่อาหาร ฝาใส 30 oz
          - กล่องกระดาษ สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ 100% และฝา PET นำกลับไปรีไซเคิลใหม่ได้ ในอุตสาหกรรมพลาสติก
          - ฝา PET สามารถเห็นอาหารชัดเจนและออกแบบมาเพื่อให้เรียงซ้อนได้
          - กระดาษเคลือบ สารสัมผัสอาหาร(Grease Resistant Barrier) ทำให้ถาดไม่ซึมน้ำมัน และปลอดภัยจากสารก่อเกิดโรคมะเร็ง
          - ถาดกระดาษสามารถบรรจุอาหารเปียกได้
          - สามารถพิมพ์ชื่อร้าน หรือโลโก้ที่ฝาพลาสติก PET
*** ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดเช็คราคาล่าสุดได้ตาม Link ด้านล่างนี้
https://thaifoodpackaging.com/product/hybrid-paper-box-900-ml/


กล่องไฮบริด กล่องกระดาษคราฟท์ใส่อาหาร ฝาใส 40 oz

ราคา ฿5.35 – 6.15 / ชุดราคารวม VAT

คุณสมบัติ กล่องไฮบริด กล่องกระดาษคราฟท์ใส่อาหาร ฝาใส 40 oz
          - กล่องกระดาษ สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ 100% และฝา PET นำกลับไปรีไซเคิลใหม่ได้ ในอุตสาหกรรมพลาสติก
          - ฝา PET สามารถเห็นอาหารชัดเจนและออกแบบมาเพื่อให้เรียงซ้อนได้
          - กระดาษเคลือบ สารสัมผัสอาหาร(Grease Resistant Barrier) ทำให้ถาดไม่ซึมน้ำมัน และปลอดภัยจากสารก่อเกิดโรคมะเร็ง
          - ถาดกระดาษสามารถบรรจุอาหารเปียกได้
          - สามารถพิมพ์ชื่อร้าน หรือโลโก้ที่ฝาพลาสติก PET
*** ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดเช็คราคาล่าสุดได้ตาม Link ด้านล่างนี้
https://thaifoodpackaging.com/product/hybrid-paper-box-1200-ml/


กล่องไฮบริด กล่องกระดาษคราฟท์ใส่อาหาร ฝาใส 55 oz

ราคา ฿5.90 – 6.70 / ชุดราคารวม VAT

คุณสมบัติ กล่องไฮบริด กล่องกระดาษคราฟท์ใส่อาหาร ฝาใส 55 oz
          - กล่องกระดาษ สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ 100% และฝา PET นำกลับไปรีไซเคิลใหม่ได้ ในอุตสาหกรรมพลาสติก
          - ฝา PET สามารถเห็นอาหารชัดเจนและออกแบบมาเพื่อให้เรียงซ้อนได้
          - กระดาษเคลือบ สารสัมผัสอาหาร(Grease Resistant Barrier) ทำให้ถาดไม่ซึมน้ำมัน และปลอดภัยจากสารก่อเกิดโรคมะเร็ง
          - ถาดกระดาษสามารถบรรจุอาหารเปียกได้
          - สามารถพิมพ์ชื่อร้าน หรือโลโก้ที่ฝาพลาสติก PET
*** ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดเช็คราคาล่าสุดได้ตาม Link ด้านล่างนี้
https://thaifoodpackaging.com/product/hybrid-paper-box-1600-ml/


กล่องไฮบริด กล่องกระดาษคราฟท์ใส่อาหาร ฝาใส 70 oz

ราคา ฿6.83 – 7.63 / ชุดราคารวม VAT

คุณสมบัติ กล่องไฮบริด กล่องกระดาษคราฟท์ใส่อาหาร ฝาใส 70 oz
          - กล่องกระดาษ สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ 100% และฝา PET นำกลับไปรีไซเคิลใหม่ได้ ในอุตสาหกรรมพลาสติก
          - ฝา PET สามารถเห็นอาหารชัดเจนและออกแบบมาเพื่อให้เรียงซ้อนได้
          - กระดาษเคลือบ สารสัมผัสอาหาร(Grease Resistant Barrier) ทำให้ถาดไม่ซึมน้ำมัน และปลอดภัยจากสารก่อเกิดโรคมะเร็ง
          - ถาดกระดาษสามารถบรรจุอาหารเปียกได้
          - สามารถพิมพ์ชื่อร้าน หรือโลโก้ที่ฝาพลาสติก PET
*** ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดเช็คราคาล่าสุดได้ตาม Link ด้านล่างนี้
https://thaifoodpackaging.com/product/hybrid-paper-box-2100-ml/


กล่องไฮบริด กล่องกระดาษคราฟท์ใส่อาหาร ฝาใส 2 ช่อง 70 oz

ราคา ฿9.00 – 9.80 / ชุดราคารวม VAT

คุณสมบัติ กล่องไฮบริด กล่องกระดาษคราฟท์ใส่อาหาร ฝาใส 2 ช่อง 70 oz
          - กล่องกระดาษ สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ 100% และฝา PET นำกลับไปรีไซเคิลใหม่ได้ ในอุตสาหกรรมพลาสติก
          - ฝา PET สามารถเห็นอาหารชัดเจนและออกแบบมาเพื่อให้เรียงซ้อนได้
          - กระดาษเคลือบ สารสัมผัสอาหาร(Grease Resistant Barrier) ทำให้ถาดไม่ซึมน้ำมัน และปลอดภัยจากสารก่อเกิดโรคมะเร็ง
          - ถาดกระดาษสามารถบรรจุอาหารเปียกได้
          - สามารถพิมพ์ชื่อร้าน หรือโลโก้ที่ฝาพลาสติก PET
*** ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดเช็คราคาล่าสุดได้ตาม Link ด้านล่างนี้
https://thaifoodpackaging.com/product/hybrid-box-1200-ml-2-compartment/

Subsea Oil and Gas


Petroleum is a fossil fuel that includes all liquid, gaseous, and solid hydrocarbons. Petroleum is discovered in the Earth’s crust in porous rock formations. Huge amounts of oil and gas have been extracted in recent years from “tight” rock formations such as shale. The world’s second largest oil reservoir is the Athabasca tar sands in Alberta, Canada. Oil has become the world’s primary energy source due to its high energy density, ease of transport, and relative availability. Petroleum is also utilized in the production of pharmaceuticals, solvents, fertilizers, pesticides, and polymers.

Petroleum has been in use since prehistoric times. Babylon’s walls and towers were built with asphalt extracted from oil mines along the banks of the Issus River, a tributary of the Euphrates. In ancient Persia, petroleum was also used for medicine and illumination. Bamboo-drilled wells were producing oil in China by 347 AD.

Abraham Gessner of Nova Scotia, Canada, devised a method to produce kerosene from coal in 1846. The first large refinery was created in Ploesti, Romania, in 1856, using indigenous oil. Edwin Drake’s Titusville, Pennsylvania, well in 1859 is commonly considered as the first modern oil well. Drake’s well was drilled rather than dug, was driven by a steam engine, and was sponsored by a company, and it resulted in the first substantial oil boom. From then on, “rock oil” began to supersede whale oil as the primary source of light fuel. In the 1800s, liquefied petroleum gas (LPG) was developed. In the early twentieth century, the internal combustion engine and its development into cars created a need for gasoline. This accelerated the industry’s expansion.

The widespread use of natural gas as a fuel is novel. Crude oil is produced by an oil well. However, dissolved gas is released when crude oil is brought to the surface and exposed to reduced pressure. Due to its lower density, a “cap” of natural gas may float above the oil depending on the reservoir. Historically, there was less gas infrastructure, and gas was considered an annoyance. What couldn’t be used to power machinery was either buried or flared off (burned). Natural gas has become an important source of heating and electricity generation due to its extensive infrastructure.

Oil and gas account for more than 60% of total energy consumption in the United States, with oil used for transportation and gas used for electricity generation. Oil and gas, like all fossil fuels, are nonrenewable energy sources with finite supplies, according to experts. However, technology has always played an important role in oil and gas exploration. Supply and demand determine oil and gas prices, and as prices rise, so do technological innovations. This has enabled the United States and the rest of the world to constantly seek out and exploit new sources of oil and gas to replenish those that have been depleted over time.

There are numerous inland and offshore oil and gas fields around the world, and the term subsea refers to the exploration, drilling, and development of these fields. Underwater oil fields and infrastructure are referred to as subsea wells, subsea fields, subsea projects, and subsea developments.

There are two types of subsea oil field development: shallow water and deep water. When bottom-based facilities such as jack up drilling rigs and permanent offshore structures are used, saturation diving is possible at shallow water depths. Deepwater refers to offshore operations that necessitate the use of floating drilling boats and floating oil platforms, as well as remotely operated underwater vehicles (ROVs), because human diving is impractical.

 The first subsea completion took place in Lake Erie in 1943, in 35 feet (11 meters) of water. Diver intervention was necessary for the installation, maintenance, and flow line connections of a land-type Christmas tree. In 1961, Shell drilled their first subsea well.

They were intended for use at depths of up to a few hundred meters. In the intervening years, technology has advanced to allow for deep-water production, and the industry is constantly expanding its reach through the use of fixed platforms, compliant towers, SPAR (single point anchor reservoir), and FPSOs (Floating Production Storage Offloading).

A subsea development is an oil or gas field that is located on the seafloor. Semi-submersible mobile drilling rigs are used to drill wells from the water’s surface. A “wet tree” is then used to seal the wells on the seafloor. Most subsea systems use underwater flowlines to transport production to a surface processing system. A simple subsea system consists of a single well that feeds a nearby platform. Multiple wells flow through a subsea manifold and then to a production plant, which could be offshore or onshore. Figure 1 displays a number of subsea production components that are coupled to floating facilities.

Total field development expenses are reduced because an existing platform may be used for production or a dedicated platform can be located in shallower water.

The first underwater completion occurred in Lake Erie in 1943, at a depth of 35 feet. In 1961, Shell built the first subsea well off the coast of California. Companies focused on fixed platform technology with dry trees after initially showing interest in California and the Gulf of Mexico. During that time, Norway advanced subsea technology, beginning with the 1982 Frigg field in the North Sea and continuing for decades. Oil companies, particularly Shell USA and Petrobras Brazil, continued to develop subsea systems for deep-water applications. Shell’s Mensa field in the US Gulf of Mexico began producing in 5,376 feet of water in July 1997, breaking the previous record. Shell’s Tobago project in the Gulf of Mexico is the deepest subsea development at the moment.

Operators are now placing processing equipment on the seafloor thanks to advancements in subsea technology. Gas-liquid separation, electrical submersible pumps, and sand management are examples of technologies. The development of process technology is centered on oil-water separation and subsea produced water disposal. To extract offshore reserves, topside equipment (pump, separator, water handling, compressors, processing, and storage) is used. Surface facilities are expensive, and space in deep or remote waters is limited, making production difficult.

Production risers, flow lines, and associated production control systems comprise the subsea production system. A subsea production system manages fluid production and transportation, enabling for the exploitation of remote and/or deep-water deposits by installing wellheads and associated mechanical and electrical equipment on the seafloor.

Surface or shore infrastructure can be linked to subsea wells. Modularized subsea technology can improve recovery factors by lowering well backpressures while also cutting development and production expenses (e.g. via multiphase pumping or subsea separation). Subsea technology is gaining traction in West Africa, Brazil, and Asia.

The oil industry has been able to develop reserves in greener areas and water depths down to over 3000 meters by moving from dry land to shallow-water areas via wellhead platforms, and then into deeper water depths of a few hundred meters. Improved subsea solutions, such as better drilling equipment, installation technologies, and control systems, are required to meet increasing criteria. As new technologies enable the design and installation of more advanced subsea systems, the subsea industry is undergoing a transformation. Subsea processing units, for example, can use pumps or compressors to separate different fluid phases and boost the fluids (subsea factory).

Small fields are linked to bigger facilities and field centers by subsea plants. Subsea technology extends the life of existing platforms and infrastructure, allowing for greater extraction of resources from the field. Advances in subsea technology allow for development in ultra-deep seas. Subsea plants can be linked to onshore processing facilities in no-frills areas. Production can be managed on the ground or through linked-in installations. Extreme weather rarely has an impact on the amenities.

Subsea technology enables more environmentally friendly offshore development and operations. Reduced ship and helicopter traffic during operations lowers emissions, while remotely controlled technology lowers high-risk activities
https://www.gmsthailand.com/blog/subsea-oil-and-gas/

Offshore Oil and Gas


The extraction of offshore oil and gas is critical to the world’s energy supply. It will necessitate increasingly sophisticated technology as well as increased environmental consciousness. Offshore production accounts for 30% of global oil output and 27% of global gas production. Despite considerable onshore development of unconventional resources such as oil sands and shale oil and gas, these percentages have been stable since the early 2000s. Offshore production now accounts for 20% of world oil reserves and 30% of global gas reserves

Cost and time constraints
Offshore production, like unconventional resources, is restricted by cost and the environment. Despite technological advances, each stage of oil and gas production, from discovery to drilling to extraction to platform and vessel construction, requires billions of dollars in investment. Each project’s cost-competitiveness must be assessed independently. In response to environmental events like as the Macondo blowout in April 2010, companies are updating existing facilities, adjusting seabed installation designs, and strengthening best practices. Constant vigilance is required, especially while operating in such hazardous environments as the Arctic.

Deep-water output is increasing
  Offshore production in 200-meter-deep oceans began in the 1950s. On the seafloor, platforms with metal or concrete legs were constructed. Following the 1973 oil crisis, North Sea output increased dramatically. Half of today’s 17,000 platforms are permanently anchored to the bottom. Firms began pushing deeper in the 1990s, between 400 and 1500 meters (deep-water) (ultra-deep water). Companies are currently producing oil at depths of up to 3,000 meters and want to reach 4,000 meters. To reach such depths, hundreds of meters of silt must be excavated through.

Offshore deep-water production is on the rise. The Libra offshore oil field development, for example, is located more than 200 kilometers south of Rio de Janeiro and seeks deposits 3,500 meters beneath a salt layer, which is 2,000 meters below the seabed. Deep-water production has increased from 3% in 2008 to 6% now

Deep-water production has certain disadvantages
  Instead of fixed platforms, deep-water production needs floating platforms connected to wellheads via flexible risers. Some risers transport water and gas to producing wells, while others transport oil to the surface. The risers are insulated to prevent the oil, which is extracted at temperatures exceeding 50°C, from cooling too quickly and clogging the pipes at deep-water conditions. Submarine stations are transforming into a sort of undersea factory, doing duties such as oil and gas separation.

  Pipelines can be laid by sophisticated boats and underwater robots to bring the oil onshore. If the oil field is more than 1,000 meters deep and too distant from the shore, the oil is produced, stored, and dumped using a barge or tanker. These FPSOs have a capacity of up to 2.5 million barrels of oil. A field may have many FPSOs, each of which can last 20–25 years. FLNG (floating liquefied natural gas) facilities are also being studied, which would allow for fast liquefaction of gas after production. There is no need for costly onshore gas pipelines and liquefaction plants, which frequently spark debate due to their environmental effects.

Offshore Exploration
  First and first, offshore oil and gas must be located. Soundwaves are used by companies such as Geophysical Surveys to examine the seafloor. The energy source in water is a series of compressed air-filled air-chambers of various diameters. The source emits high-pressure energy bursts into the water. The returning sound waves are detected and recorded by hydrophones deployed along cables. Strict mitigation measures are used throughout the procedure to safeguard marine mammals and other marine animals. Geophysical surveys are commonly used for oil and gas exploration, but they are also used to find sand and gravel for coastal restoration.

Drilling in the Ocean
  Once a promising resource has been located, firms will use MODUs to drill highly controlled exploration wells (MODUs). Some MODUs is converted into production rigs, which collect oil rather than drilling for it. The oil firm usually replaces the MODU with a permanent oil producing rig. MODUs is classified into four types
          - A SUBMARINE OR BARGE MODU is a barge that sits on the seafloor at a depth of 30 to 35 feet (9.1 to 10.7 meters). On the deck of the barge, steel pillars rise above the waterline. A drilling platform is supported by the steel pillars.
          - A jackup is a rig that floats on top of a barge. The ship tows the barge to the drill site. Once put up, the jackup’s legs may be extended to the seabed. The legs are weighted so that they do not contact the ground. The jackup will continue to ratchet the legs until the platform is elevated above the water. This shields the rig from the effects of tides and waves. Jackups can work at depths of up to 525 feet (160 meters)
          - A drilling rig is located on the top deck of a drill ship. The drill goes all the way through the hull.
          - Drill ships use anchors and propellers to control drift while drilling for oil.
          - Semisubmersibles float on the ocean’s surface on massive, submerged pontoons. Others necessitate the use of a second vessel to transport them to the drilling To hold the structure upright, most use up to a dozen anchors. Some can convert from drilling rigs to production rigs, reducing the need for a second rig if oil is discovered.

MODUs drill into the ocean floor to locate oil and gas resources. The riser is the part of the drill that travels beneath the deck and into the water. The riser is the piece that links the floor to the rig. Engineers insert a drill string, which is a group of pipes, through the riser. The blowout preventer is currently at sea (BOP). By hydraulically sealing the pipe leading up to the rig, an emergency blowout can be avoided. The BOP is one of several interconnected levels of offshore energy safety precautions.

Engineers use metal casings, similar to those used on land-based oil rigs, to support the well. Casings keep the well from collapsing. The walls of each casing are made of cement. Thinner casings are used in deeper wells. Drill bits become smaller as the depth of a hole increases. A liner hanger O-ring is used by engineers to seal each annulus where a thinner casing joins a larger one When the MODU encounters oil, engineers must plug the well. Two plugs will be used to plug the well bore by the engineers. Near the oil deposit. Drilling mud or seawater holds the plug-in place while engineers insert a top plug to cap the hole. A production rig may then take over.

Offshore Production
  Once a commercially viable well is found, and the limits are met, the focus shifts from exploration to production. Drilling in ultra-deep water at high temperatures and pressures is an offshore oil and gas industry marvel. Every offshore environment appears to have its own manufacturing platform. The permanent platform may be constructed at depths of up to 1500 feet in the sea.
          - For drilling and production activities, the Compliant Tower (CT) is a thin, flexible tower supported by a piled foundation. Unlike the fixed platform, the compliant tower can withstand significant lateral loads and is used at sea depths ranging from 1,000 to 2,000 feet.
          - The Tension Leg Platform (TLP) is a floating structure that is fastened to the bottom by piles. Ankle tendons provide a broad variety of water depths while allowing for little vertical mobility. Larger TLPs have been successfully deployed at sea depths of 4,000 feet.
          - A floating mini-tension leg platform (Mini-TLP) was created to generate smaller deep-water reserves that would be uneconomical to extract using more traditional deep-water production technology. For larger deep-water discoveries, a utility, satellite, or early-production platform. In 1998, the world’s first Mini-TLP was installed.
          - The SPAR Platform (SPAR) is a large diameter vertical cylinder with an attached deck.
          - The hull is moored by a taut catenary system of six to twenty lines anchored into the bottom. SPARs are now used at water depths of up to 3,000 feet, but current technology allows them to be used in depths of up to 7,500 feet.
          - A Floating Production System is a semi-submersible unit containing drilling and production equipment (FPS). It’s held together with wire rope and chain and pushed about by spinning thrusters. Subsea well output is transferred to the surface deck through production risers designed to handle platform motion. The FPS might be rather high.

It might be a single subsea well supplying a neighboring platform, FPS, or TLP, or it could be a network of wells supplying a distant production facility via a manifold and pipeline system. Now used in marine depths of up to 5,000 feet

The FPSO is a large tanker that is permanently attached to the bottom. On an FPSO, oil generated from a neighboring subsea well is offloaded on a regular basis onto a smaller shuttle ship. The oil is subsequently transferred to an onshore processing plant by the shuttle tanker. An FPSO may be appropriate for marginal resources in remote deep-water sites without pipeline infrastructure.
https://www.gmsthailand.com/blog/offshore-oil-and-gas/

Water Treatment in Oil & Gas Business


Reservoirs, according to many outside the oil and gas industry, are huge subterranean hydrocarbon lakes. In reality, hydrocarbons are found in porous layers of rock that are covered by impermeable rock or shale. Sandstone and limestone are the most common oil-bearing rocks. The pores in these rocks range in size from sub-micron to tens of microns. This enables fluids to pass through the rocks.

The water beneath the oil is also known as “connate” or “formation” water. Their origins differ. Connate water is water that was caught in rock during formation and whose composition can change over time. Under the impermeable cap rock, formation water is trapped with the hydrocarbons. When an oil well is dug, it produces oil, gas, and water all at the same time

Oil Separation
When reservoir fluids (gas, oil, and water) are brought to the surface for separation and treatment, the pressure drops, resulting in the formation of insoluble scales. In basic language, decreased pressure causes soluble bicarbonates to form carbonate ions,

- releasing CO2 gas: 2HCO3− → CO32− + CO2↑ + H2O
When coupled with calcium ions, the carbonate ion produces insoluble carbonate scales. This can result in reduced flowrates (loss of money) as well as a loss of system integrity. To avoid scale formation, reservoir fluids can be dosed with a scale inhibitor chemical while still under high pressure. The first stage of oil separation is typically a horizontal three-phase separator sized to optimize oil and water residence times. It is critical to handle the removal and disposal of solids generated by the use of oil, gas, and water. All gas/oil/water/solid separation in these units is governed by Stokes’ Law.'

It is, in truth, far from clean. It will contain particles as well as residual oil in the form of small droplets distributed in water. Water will include certain dissolved hydrocarbons and gases, such as (corrosive) carbon dioxide and lighter hydrocarbons, as well as water-soluble chemicals required to enhance hydrocarbon production. Water from onshore and offshore oil and gas production systems is discharged into local river courses, estuaries or near-coastal waterways, or the sea from offshore oil and gas production platforms. The presence of potential toxins in these streams must be addressed in order to protect the ecology. A little number of hydrocarbons in the water may be recovered and reintroduced into the main production system

Wastewater de-oiling
Mineral therapy was used in the early stages of treatment, which eliminated larger oil droplets but not small ones. For removing dispersed oil droplets from produced water, the following methods have been developed:
      - increasing the overall droplet size (coalescence)
      - systems which change the specific gravity of the oil droplet by attaching to it a bubble of gas
      - techniques that apply increased gravitational forces to the separation process, for example, hydro cyclones and centrifuges

These advances in reducing residual hydrocarbons in produced waters enable dispersed oil in water (OIW) concentrations as low as 40 mg/l. Initially, this was sufficient to meet the discharge standards of the UK regulatory agency. A new regulation mandates offshore businesses to reduce the number of hydrocarbons leaked overboard on an annual basis.

This amount of oil should be 15% less than the total tonnage delivered by the individual assets in 2001. Any quantity of hydrocarbon released in excess of the permitted level is subject to a fine of £108 per kilogram. These calculations do not take into account new fields or the fact that water production grows with time.

Currently, the maximum OIW value in produced waters is 30mg/l. As a result, some operators must treat generated water to significantly higher standards than previously, while others have set a zero produced water discharge goal for both existing and new assets. The competent environmental protection agency regulates onshore discharges, which may include maximum limitations for heavy metals and dissolved hydrocarbons

Other waters
Two more processes occur while the oil is produced. As the gas cap expands, so does the oil/water contact. The first mechanism is unfavorable because it permits dissolved gas in oil to leave solution. Gas is more mobile than oil and will gravitate toward producing wells.

This is undesirable since it means that oil is bypassed and remains in the reservoir. When the oil/water contact is increased, more water is created along with the oil. This decreases oil income while increasing the amount of water that must be treated before it can be discharged

How can these approaches be avoided, or at the very least delayed, until the field’s revenue is maximized? The advantages of allowing water to flow into oilfields were discovered by chance as early as the early American oilfields. Water used to infiltrate oil-bearing strata by mistake and flush the oil towards the producing wells. Since then, knowledge has expanded significantly, and water injection is now employed in nearly all new oilfields.

The injected water has two purposes: it maintains reservoir pressure high enough so that gas cannot leave solution, and it creates an immiscible flood front that drives oil towards the wells. Regardless of the approach used, the total volume of oil recovered will increase dramatically. According to World Oil, a successful water injection operation may increase overall hydrocarbon recovery by 40%.
        - Seawater (if the asset is offshore or near the coast with a few exceptions)
        - Produced Waters (see above)
        - Aquifer waters (if easily accessible)
        - River or estuarine waters
        - Domestic and/or industrial waste waters

The Saudi Aramco Qurayyah system purifies 7 million barrels of seawater per day (1.1 million m3/day) before pumping it 350-400 kilometers inland for injection into the Ghawar oilfield. Since 1978, the plant’s capacity has been increased, and it now serves the Khurais oilfield. Before they can be safely injected into a hydrocarbon-bearing deposit, all of them must be treated

Injection Water Use
The current issue of injection water treatment will concentrate on saltwater, which is the most commonly used injection water. Seawater contains suspended particles, bacteria, and dissolved oxygen, all of which may wreak havoc on the reservoir’s ability to store water for extended periods of time, as well as the materials used to manage the water. Pipelines, injection wells, and any metals used beneath the ground to transport water to the reservoir are examples. Because saltwater may be used for cooling, it must first meet the cooling quality standards. This includes the removal of pathogens, marine life, and the treatment of larger suspended particles.

This is accomplished by injecting broad-spectrum bactericides, mostly chlorine in the form of sodium hypochlorite, into the water supply pumps. This is typically produced via seawater electrolysis. The larger suspended particles, such as hard–shelled marine animals and plankton, are next removed via coarse filtration. These filters remove a variety of particles depending on how the water is used. The typical range for solid removal is 80m to 6.4mm. After cooling, water injected into a hydrocarbon-bearing deposit may require further filtration.

There are now two schools of thought on this topic: one advocate’s filtration to avoid reservoir pore obstruction, while the other claims that cold seawater entering hot rock will produce rock fissures, allowing water (and particles) to flow freely. A bank of high-rate dual media downflow filters is often used for secondary filtering. After eliminating the sediments and most bacteria, the dissolved oxygen must be treated.

Because carbon steel is preferred for handling the high pressures required to inject water into the formation, the dissolved oxygen must be removed. This oxygen is removed from the seawater using vacuum deaeration, which entails a vertical tank with many vacuum stages.

The remaining dissolved oxygen is removed using a scavenger chemical based on sulphite : SO32− + O2 → SO42−
  The first stage vacuum is typically provided by liquid ring vacuum pumps, with lower vacuums provided by air/gas ejectors. In most cases, the pump seal/cooling water is cold filtered seawater. The conditioned saltwater is then pushed under high pressure to the water injection wells. The switch from aerobic to anaerobic conditions downstream of the deaerator can allow some anaerobic microorganisms to grow, notably sulphate reduction bacteria, potentially jeopardizing the integrity of any carbon steel systems Microbiologically influenced corrosion is often mitigated by intermittent use of organic, non-oxidizing biocides (MIC). No corrosive properties like chlorine. Aldehydes, quaternary ammonium compounds, and various kinds of quaternary phosphonium compounds are dosed alone or in combination as single or mixed chemical biocides. Organic biocides are expensive and are typically dosed once a week for 1-2 hours at 1,000 mg/l.
https://www.gmsthailand.com/blog/water-treatment-in-oil-gas-business/

กล่องกระดาษคราฟท์ คือ? มีขนาดและราคาเท่าไหร่บ้าง


กล่องกระดาษคราฟท์ มีหลากหลายชนิด หลากหลายรูปทรงขึ้นเนื่องจากการใช้งานนั้นมีความแตกต่างกันออกไปตามแต่สินค้า สิ่งของ และอาหารชนิดต่างๆที่ต้องการจะใส่ลงในตัวกล่องนั่นเอง

ในปัจจุบันกล่องกระดาษคราฟท์นั้นเป็นที่แพร่หลาย และได้รับความนิยมจากทุกธุรกิจไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือใหญ่ก็ตาม เหตุมาจากกระแสบรรจุภัณฑ์รักษ์โลกกำลังมาแรง และเป็นที่พูดถึงกันอยู่ทำให้หลายๆองค์กร และร้านค้า ร้านอาหารต่างๆก็หยิบกล่องกระดาษมาใช้นั่นเอง

กล่องกระดาษคราฟท์ คือ
กล่องกระดาษคราฟท์ คือ บรรจุภัณฑ์ชนิดหนึ่งที่ถูกผลิตขึ้นมาทดแทนการใช้งานบรรจุภัณฑ์ต่างๆ ซึ่งตัวกล่องกระดาษคราฟท์จะถูกผลิตขึ้นมาจากกระดาษรีไซเคิล หรือเนื้อไม้ชนิดต่างๆตามความต้องการของผู้ใช้งาน ด้วยความสามารถที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และสามารถนำมารีไซเคิลใช้งานใหม่ได้ แถมยังมีราคาที่ไม่สูงเกินไปนัก และยังมีคุณสมับติต่างๆที่บรรจุภัณฑ์อื่นๆไม่มีอีกด้วย

กระดาษคราฟท์ ผลิตมาจากกระดาษรีไซเคิล หรือเนื้อไม้ต่างๆ ถูกนำมาผ่านกระบวนการเคมี และเครื่องจักรซึ่งจะเป็นเนื้อกระดาษ 100% ไม่มีการเจือปน โดยกระดาษคราฟท์จะมีความหนาอยู่ที่ 125 แกรมต่อตารางเมตร และมีขนาดขึ้นอยู่ที่ความต้องการของผู้ซื้อ สามารถสั่งได้ตามขนาดต่างๆที่ต้องการ

กระดาษคราฟท์ เป็นวัสดุที่นำมาใช้เพื่อห่อสินค้า พัสดุต่างๆ ช่วยกันกระแทก กันการแตกหักของสินค้าได้ดี ทั้งยังสามารถนำไปปูพื้นรถยนต์ นำไปทำเป็น กล่องกระดาษลูกฟูก หรือ กล่องไปรษณีย์ ต่างๆ ทั้งยังสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อีกมากมาย โดยลักษณะของกระดาษคราฟท์จะมีรูปร่างเป็นสีเหลี่ยมผืนผ้า ที่มีขนาดที่หลากหลาย และมีคุณภาพดี ไม่เปื่อย ไม่ยุ่ยง่าย และไร้กลิ่นปนเปื้อน
https://thaifoodpackaging.com/blog/what-sizes-prices-kraft-paper-box/

ขนาด และ ราคาของกล่องกระดาษคราฟท์
กล่องกระดาษคราฟท์ ของ thaifoodpackaging จะมีราคาที่ขึ้นอยู่กับรูปแบบ และขนาดของกล่องกระดาษคราฟท์เหล่านั้น ซึ่งจะแตกต่างกันออกไป ดังต่อไปนี้

กล่องกระดาษคราฟท์ ทรงลิ้นชัก(ฝา+ตัว) HT1

ขั้นต่ำ 50 กล่องราคา ฿9.76 – 10.70 / กล่อง

คุณสมบัติ กล่องกระดาษคราฟท์ ทรงลิ้นชัก(ฝา+ตัว) HT1
         - ทำจากกระดาษคราฟท์ ผลิตจากเยื่อไม้สน 100 % ไม่มีเยื่อรีไซเคิลเป็นส่วนผสม
         - กล่องกระดาษทรงสี่เหลี่ยม ทรงลิ้นชัก สามารถคงรูปได้ดี
         - สามารถติดสติ๊กเกอร์แปะได้
         - กระดาษปราศจากสารฟอกขาว ผ่านการรับรองการตรวจเคมี RoHs
*** ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดเช็คราคาล่าสุดได้ตาม Link ด้านล่างนี้
https://thaifoodpackaging.com/product/kraft-paper-box-drawer-shape-ht1/


กล่องกระดาษคราฟท์ ทรงลิ้นชัก(ฝา+ตัว) HT2

ขั้นต่ำ 50 กล่องราคา ฿4.50 – 5.00 / กล่อง

คุณสมบัติ กล่องกระดาษคราฟท์ ทรงลิ้นชัก(ฝา+ตัว) HT2
         - ทำจากกระดาษคราฟท์ ผลิตจากเยื่อไม้สน 100 % ไม่มีเยื่อรีไซเคิลเป็นส่วนผสม
         - กล่องกระดาษทรงสี่เหลี่ยม ทรงลิ้นชัก สามารถคงรูปได้ดี
         - สามารถติดสติ๊กเกอร์แปะได้
         - กระดาษปราศจากสารฟอกขาว ผ่านการรับรองการตรวจเคมี RoHs
*** ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดเช็คราคาล่าสุดได้ตาม Link ด้านล่างนี้
https://thaifoodpackaging.com/product/kraft-paper-box-ht2/


กล่องกระดาษคราฟท์ใส่ขนม ทรงบ้าน

ราคา ฿5.85 – 6.65 / กล่องราคารวม VAT

คุณสมบัติ กล่องกระดาษคราฟท์ใส่ขนม ทรงบ้าน
         - ทำจากกระดาษคราฟท์ ผลิตจากเยื่อไม้สน 100 % ไม่มีเยื่อรีไซเคิลเป็นส่วนผสม
         - กล่องกระดาษทรงบ้านมีจั่ว ดีไซน์น่ารัก
         - สามารถติดสติ๊กเกอร์แปะได้
         - กระดาษปราศจากสารฟอกขาว ผ่านการรับรองการตรวจเคมี RoHs
         - หน้าต่างช่องเล็ก มองเห็นสินค้าได้
*** ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดเช็คราคาล่าสุดได้ตาม Link ด้านล่างนี้
https://thaifoodpackaging.com/product/bakery-box/


กล่องคุกกี้ เจาะหน้าต่าง มีหูหิ้ว ทรงสามเหลี่ยม

ราคา ฿3.85 – 4.15 / กล่องราคารวม VAT

คุณสมบัติ กล่องคุกกี้ เจาะหน้าต่าง มีหูหิ้ว ทรงสามเหลี่ยม
         - ทำจากกระดาษคราฟท์ ผลิตจากเยื่อไม้สน 100 % ไม่มีเยื่อรีไซเคิลเป็นส่วนผสม
         - กล่องกระดาษทรงสามเหลี่ยม มีหูหิ้ว สามารถคงรูปได้ดี
         - สามารถติดสติ๊กเกอร์แปะได้
         - กระดาษปราศจากสารฟอกขาว ผ่านการรับรองการตรวจเคมี RoHs
         - มีหน้าต่าง ไม่มีแผ่นพลาสติก PVC
*** ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดเช็คราคาล่าสุดได้ตาม Link ด้านล่างนี้
https://thaifoodpackaging.com/product/triangle-cookie-box/


กล่องคุกกี้ มีหน้าต่างและหูหิ้ว ทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส

ขั้นต่ำ 50 กล่องราคา ฿7.80 – 9.00 / กล่อง

คุณสมบัติ กล่องคุกกี้ มีหน้าต่างและหูหิ้ว ทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส
         - ทำจากกระดาษคราฟท์ ผลิตจากเยื่อไม้สน 100 % ไม่มีเยื่อรีไซเคิลเป็นส่วนผสม
         - กล่องกระดาษทรงสี่เหลี่ยม สามารถคงรูปได้ดี
         - สามารถติดสติ๊กเกอร์แปะได้
         - กระดาษปราศจากสารฟอกขาว ผ่านการรับรองการตรวจเคมี RoHs
         - หน้าต่าง PVC ใส มองหน้าสินค้าได้อย่างชัดเจนและสวยงาม
*** ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดเช็คราคาล่าสุดได้ตาม Link ด้านล่างนี้
https://thaifoodpackaging.com/product/square-cookie-box/


กล่องคุกกี้ 500 g. มีหน้าต่างและหูหิ้ว

ขั้นต่ำ 50 กล่องราคา ฿9.90 – 11.50 / กล่อง

คุณสมบัติ กล่องคุกกี้ 500 g. มีหน้าต่างและหูหิ้ว
         - ทำจากกระดาษคราฟท์ ผลิตจากเยื่อไม้สน 100 % ไม่มีเยื่อรีไซเคิลเป็นส่วนผสม
         - กล่องกระดาษทรงสี่เหลี่ยม สามารถคงรูปได้ดี
         - สามารถติดสติ๊กเกอร์แปะได้
         - กระดาษปราศจากสารฟอกขาว ผ่านการรับรองการตรวจเคมี RoHs
         - หน้าต่าง PVC ใส มองหน้าสินค้าได้อย่างชัดเจนและสวยงาม
*** ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดเช็คราคาล่าสุดได้ตาม Link ด้านล่างนี้
https://thaifoodpackaging.com/product/cookies-box-500-g/


กล่องกระดาษคราฟท์ ทรงผืนผ้า มีหูหิ้ว

ราคา ฿11.48 – 12.80 / กล่องราคารวม VAT

คุณสมบัติ กล่องกระดาษคราฟท์ ทรงผืนผ้า มีหูหิ้ว
         - ทำจากกระดาษคราฟท์ ผลิตจากเยื่อไม้สน 100 % ไม่มีเยื่อรีไซเคิลเป็นส่วนผสม
         - กล่องกระดาษทรงสี่เหลี่ยม มีหูหิ้ว สามารถคงรูปได้ดี
         - สามารถติดสติ๊กเกอร์แปะได้
         - กระดาษปราศจากสารฟอกขาว ผ่านการรับรองการตรวจเคมี RoHs
*** ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดเช็คราคาล่าสุดได้ตาม Link ด้านล่างนี้
https://thaifoodpackaging.com/product/kraft-paper-box-with-handle/


กล่องกระดาษคราฟท์ ทรงสูง 13.6 cm.

ราคา ฿4.55 – 4.87 / กล่องราคารวม VAT

คุณสมบัติ กล่องกระดาษคราฟท์ ทรงสูง 13.6 cm.
         - ทำจากกระดาษคราฟท์ ผลิตจากเยื่อไม้สน 100 % ไม่มีเยื่อรีไซเคิลเป็นส่วนผสม
         - กล่องกระดาษทรงสี่เหลี่ยมพร้อมฝาปิดขนาดเล็ก สามารถคงรูปได้ดี
         - สามารถติดสติ๊กเกอร์แปะได้
         - กระดาษปราศจากสารฟอกขาว ผ่านการรับรองการตรวจเคมี RoHs
         - หน้าต่าง PVC ใส มองหน้าสินค้าได้อย่างชัดเจนและสวยงาม
*** ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดเช็คราคาล่าสุดได้ตาม Link ด้านล่างนี้
https://thaifoodpackaging.com/product/craft-paper-cylinder-13-6-cm/


กล่องกระดาษคราฟท์ สี่เหลี่ยมผืนผ้า ลายดอกไม้

ราคา ฿3.92 – 4.20 / กล่องราคารวม VAT

คุณสมบัติ กล่องกระดาษคราฟท์ สี่เหลี่ยมผืนผ้า ลายดอกไม้
         - ทำจากกระดาษคราฟท์ ผลิตจากเยื่อไม้สน 100 % ไม่มีเยื่อรีไซเคิลเป็นส่วนผสม
         - กล่องกระดาษทรงสี่เหลี่ยมพร้อมฝาปิดขนาดเล็ก สามารถคงรูปได้ดี
         - สามารถติดสติ๊กเกอร์แปะได้
         - กระดาษปราศจากสารฟอกขาว ผ่านการรับรองการตรวจเคมี RoHs
         - หน้าต่าง PVC ใส มองหน้าสินค้าได้อย่างชัดเจนและสวยงาม
*** ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดเช็คราคาล่าสุดได้ตาม Link ด้านล่างนี้
https://thaifoodpackaging.com/product/craft-paper-cup-small-size/


กล่องกระดาษคราฟท์ ทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสหูหิ้ว

ราคา ฿4.39 – 4.70 / กล่องราคารวม VAT

คุณสมบัติ กล่องกระดาษคราฟท์ ทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสหูหิ้ว
         - ทำจากกระดาษคราฟท์ ผลิตจากเยื่อไม้สน 100 % ไม่มีเยื่อรีไซเคิลเป็นส่วนผสม
         - กล่องกระดาษทรงสี่เหลี่ยมพร้อมฝาปิดขนาดเล็ก สามารถคงรูปได้ดี
         - สามารถติดสติ๊กเกอร์แปะได้
         - กระดาษปราศจากสารฟอกขาว ผ่านการรับรองการตรวจเคมี RoHs
*** ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดเช็คราคาล่าสุดได้ตาม Link ด้านล่างนี้
https://thaifoodpackaging.com/product/craft-paper-dice/


กล่องกระดาษคราฟท์ มีหน้าต่าง ทรงสูง 24 ซม.

ราคา ฿6.19 – 6.64 / กล่องราคารวม VAT

คุณสมบัติ กล่องกระดาษคราฟท์ มีหน้าต่าง ทรงสูง 24 ซม.
         - ทำจากกระดาษคราฟท์ ผลิตจากเยื่อไม้สน 100 % ไม่มีเยื่อรีไซเคิลเป็นส่วนผสม
         - กล่องกระดาษทรงสี่เหลี่ยมพร้อมฝาปิดขนาดเล็ก สามารถคงรูปได้ดี
         - สามารถติดสติ๊กเกอร์แปะได้
         - กระดาษปราศจากสารฟอกขาว ผ่านการรับรองการตรวจเคมี RoHs
         - หน้าต่าง PVC ใส มองหน้าสินค้าได้อย่างชัดเจนและสวยงาม
*** ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดเช็คราคาล่าสุดได้ตาม Link ด้านล่างนี้
https://thaifoodpackaging.com/product/craft-paper-cylinder-24-cm/

ถุงกระดาษคราฟท์ คือ? มีขนาดและราคาเท่าไหร่บ้าง


ถุงกระดาษคราฟท์ ในปัจจุบันถูกหยิบขึ้นมาใช้เพื่อใส่ขนมและอาหารชนิดต่างๆอย่างแพร่หลาย จนทำให้ตัวถุงกระดาษมีการพัฒนาให้มีรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้นตามความต้องการของผู้ใช้งานนั่นเอง

ถุงกระดาษคราฟท์ คือ
ถุงกระดาษคราฟท์ คือ ถุงที่ใช้เพื่อใส่สิ่งของที่มีน้ำหนักเบา โดยตัวถุงจะผลิตขึ้นมาจากกระดาษที่ได้มาตรฐานและมีวิธีการรับรองการผลิตตามหลักสากล มีลักษณะเหมื่อนถุงหิ้วทั่วไป ต่างกันตรงวัสดุนำมาใช้ทำเป็นถุง ซึ่งในกรณีใช้กระดาษนี้จะทำให้ผิวสัมผัสแตกต่างกับถุงในชนิดอื่นๆ ส่วนของตัวของถุงกระดาษนั้นจะนิยมนำไปใช้งานในด้านการใส่อาหารชนิดต่างๆที่น้ำหนักไม่มากนัก เช่น ขนม คุกกี้ สินค้าชำร่วย และอื่นๆอีกมาก'
https://thaifoodpackaging.com/blog/what-sizes-prices-kraft-paper-bag/

ขนาด และ ราคาของถุงกระดาษคราฟท์
ถุงกระดาษคราฟท์ ของ thaifoodpackaging จะมีราคาที่ขึ้นอยู่กับรูปแบบ และขนาดของถุงกระดาษเหล่านั้น ซึ่งจะแตกต่างกันออกไป ดังต่อไปนี้

ถุงกระดาษคราฟท์ (Size Mini) หูหิ้วเกลียว 17x16x18 cm

ขั้นต่ำ 25 ชิ้นราคาเริ่มต้นที่ ฿7.44 / ชิ้น

คุณสมบัติ ถุงกระดาษคราฟท์ (Size Mini) หูหิ้วเกลียว 17x16x18 cm
       - ถุงมีหูหิ้วเกลียวกระดาษ 2 ข้าง ทำจากกระดาษหนาเพื่อรองรับน้ำหนักเวลาหิ้ว
       - ขึ้นรูปสวยงาม ถุงติดกาวแน่นหนา รับน้ำหนักได้ดี
       - สามารถนำสติ๊กเกอร์ติดแบรนต์ตัวเองได้ เพื่อเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
       - นำไปใส่สินค้าทั่วไป กล่องเบเกอรี่ เสื้อผ้า
       - กระดาษสามารถย่อยสลายตามธรรมชาติ 100%
       - วัตถุดิบกระดาษที่ใช้ สีกระดาษที่ใช้ปลอดภัย(flexo water based)
       - ไม่มีกลิ่นเหม็น ไม่เปื่อยยุ่ยง่าย หน้ากระดาษเนียน ไม่มีจุดสกปรก
*** ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดเช็คราคาล่าสุดได้ตาม Link ด้านล่างนี้
https://thaifoodpackaging.com/product/kraft-paper-bag-17x16x18-cm/


ถุงกระดาษคราฟท์ (Size M) หูหิ้วเกลียว 24x15x25 cm

ขั้นต่ำ 25 ชิ้นราคาเริ่มต้นที่ ฿7.85 / ชิ้น

คุณสมบัติ ถุงกระดาษคราฟท์ (Size M) หูหิ้วเกลียว 24x15x25 cm
       - ถุงมีหูหิ้วเกลียวกระดาษ 2 ข้าง ทำจากกระดาษหนาเพื่อรองรับน้ำหนักเวลาหิ้ว
       - ขึ้นรูปสวยงาม ถุงติดกาวแน่นหนา รับน้ำหนักได้ดี
       - สามารถนำสติ๊กเกอร์ติดแบรนต์ตัวเองได้ เพื่อเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
       - นำไปใส่สินค้าทั่วไป กล่องเบเกอรี่ เสื้อผ้า
       - กระดาษสามารถย่อยสลายตามธรรมชาติ 100%
       - วัตถุดิบกระดาษที่ใช้ สีกระดาษที่ใช้ปลอดภัย(flexo water based)
       - ไม่มีกลิ่นเหม็น ไม่เปื่อยยุ่ยง่าย หน้ากระดาษเนียน ไม่มีจุดสกปรก
*** ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดเช็คราคาล่าสุดได้ตาม Link ด้านล่างนี้
https://thaifoodpackaging.com/product/kraft-paper-bag-24x15x25-cm/


ถุงกระดาษคราฟท์ (Size M) หูหิ้วเกลียว 24x22x26 cm

ขั้นต่ำ 25 ชิ้นราคาเริ่มต้นที่ ฿9.51 / ชิ้น

คุณสมบัติ ถุงกระดาษคราฟท์ (Size M) หูหิ้วเกลียว 24x22x26 cm
       - ถุงมีหูหิ้วเกลียวกระดาษ 2 ข้าง ทำจากกระดาษหนาเพื่อรองรับน้ำหนักเวลาหิ้ว
       - ขึ้นรูปสวยงาม ถุงติดกาวแน่นหนา รับน้ำหนักได้ดี
       - สามารถนำสติ๊กเกอร์ติดแบรนต์ตัวเองได้ เพื่อเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
       - นำไปใส่สินค้าทั่วไป กล่องเบเกอรี่ เสื้อผ้า
       - กระดาษสามารถย่อยสลายตามธรรมชาติ 100%
       - วัตถุดิบกระดาษที่ใช้ สีกระดาษที่ใช้ปลอดภัย(flexo water based)
       - ไม่มีกลิ่นเหม็น ไม่เปื่อยยุ่ยง่าย หน้ากระดาษเนียน ไม่มีจุดสกปรก
*** ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดเช็คราคาล่าสุดได้ตาม Link ด้านล่างนี้
https://thaifoodpackaging.com/product/kraft-paper-bag-24x22x26-cm/


ถุงกระดาษคราฟท์ (Size L) หูหิ้วเกลียว 28x26x28 cm

ขั้นต่ำ 25 ชิ้นราคาเริ่มต้นที่ ฿10.75 / ชิ้น

คุณสมบัติ ถุงกระดาษคราฟท์ (Size L) หูหิ้วเกลียว 28x26x28 cm
       - ถุงมีหูหิ้วเกลียวกระดาษ 2 ข้าง ทำจากกระดาษหนาเพื่อรองรับน้ำหนักเวลาหิ้ว
       - ขึ้นรูปสวยงาม ถุงติดกาวแน่นหนา รับน้ำหนักได้ดี
       - สามารถนำสติ๊กเกอร์ติดแบรนต์ตัวเองได้ เพื่อเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
       - นำไปใส่สินค้าทั่วไป กล่องเบเกอรี่ เสื้อผ้า
       - กระดาษสามารถย่อยสลายตามธรรมชาติ 100%
       - วัตถุดิบกระดาษที่ใช้ สีกระดาษที่ใช้ปลอดภัย(flexo water based)
       - ไม่มีกลิ่นเหม็น ไม่เปื่อยยุ่ยง่าย หน้ากระดาษเนียน ไม่มีจุดสกปรก
*** ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดเช็คราคาล่าสุดได้ตาม Link ด้านล่างนี้
https://thaifoodpackaging.com/product/kraft-paper-bag-28x26x28-cm/


ถุงกระดาษคราฟท์ เจาะหู 28x15x28 cm

ขั้นต่ำ 50 ชิ้นราคาเริ่มต้นที่ ฿5.38 / ชิ้น

คุณสมบัติ ถุงกระดาษคราฟท์ เจาะหู 28x15x28 cm
       - ถุงมีหูหิ้วเกลียวกระดาษ 2 ข้าง ทำจากกระดาษหนาเพื่อรองรับน้ำหนักเวลาหิ้ว
       - ขึ้นรูปสวยงาม ถุงติดกาวแน่นหนา รับน้ำหนักได้ดี
       - สามารถนำสติ๊กเกอร์ติดแบรนต์ตัวเองได้ เพื่อเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
       - นำไปใส่สินค้าทั่วไป กล่องเบเกอรี่ เสื้อผ้า
       - กระดาษสามารถย่อยสลายตามธรรมชาติ 100%
       - วัตถุดิบกระดาษที่ใช้ สีกระดาษที่ใช้ปลอดภัย(flexo water based)
       - ไม่มีกลิ่นเหม็น ไม่เปื่อยยุ่ยง่าย หน้ากระดาษเนียน ไม่มีจุดสกปรก
*** ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดเช็คราคาล่าสุดได้ตาม Link ด้านล่างนี้
https://thaifoodpackaging.com/product/craft-paper-bag-size-m/


ถุงกระดาษคราฟท์มีหูหิ้ว สีขาว

ขั้นต่ำ 25 ชิ้นราคาเริ่มต้นที่ ฿5.03 / ชิ้น

คุณสมบัติ ถุงกระดาษคราฟท์มีหูหิ้ว สีขาว
       - ถุงมีหูหิ้วเกลียวกระดาษ 2 ข้าง ทำจากกระดาษหนาเพื่อรองรับน้ำหนักเวลาหิ้ว
       - ขึ้นรูปสวยงาม ถุงติดกาวแน่นหนา รับน้ำหนักได้ดี
       - สามารถนำสติ๊กเกอร์ติดแบรนต์ตัวเองได้ เพื่อเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
       - นำไปใส่สินค้าทั่วไป กล่องเบเกอรี่ เสื้อผ้า
       - กระดาษสามารถย่อยสลายตามธรรมชาติ 100%
       - วัตถุดิบกระดาษที่ใช้ สีกระดาษที่ใช้ปลอดภัย(flexo water based)
       - ไม่มีกลิ่นเหม็น ไม่เปื่อยยุ่ยง่าย หน้ากระดาษเนียน ไม่มีจุดสกปรก
*** ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดเช็คราคาล่าสุดได้ตาม Link ด้านล่างนี้
https://thaifoodpackaging.com/product/white-craft-paper-bag/


ถุงกระดาษคราฟท์มีหูหิ้ว สีกรมท่า

ขั้นต่ำ 25 ชิ้นราคาเริ่มต้นที่ ฿5.03 / ชิ้น

คุณสมบัติ ถุงกระดาษคราฟท์มีหูหิ้ว สีกรมท่า
       - ถุงมีหูหิ้วเกลียวกระดาษ 2 ข้าง ทำจากกระดาษหนาเพื่อรองรับน้ำหนักเวลาหิ้ว
       - ขึ้นรูปสวยงาม ถุงติดกาวแน่นหนา รับน้ำหนักได้ดี
       - สามารถนำสติ๊กเกอร์ติดแบรนต์ตัวเองได้ เพื่อเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
       - นำไปใส่สินค้าทั่วไป กล่องเบเกอรี่ เสื้อผ้า
       - กระดาษสามารถย่อยสลายตามธรรมชาติ 100%
       - วัตถุดิบกระดาษที่ใช้ สีกระดาษที่ใช้ปลอดภัย(flexo water based)
       - ไม่มีกลิ่นเหม็น ไม่เปื่อยยุ่ยง่าย หน้ากระดาษเนียน ไม่มีจุดสกปรก
*** ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดเช็คราคาล่าสุดได้ตาม Link ด้านล่างนี้
https://thaifoodpackaging.com/product/navy-craft-paper-bag/

กองทุน GMS ช่วยเหลือชาวนาบ้านกลาง หมู่ 6 ทุ่งฝาย จังหวัดลำปาง ครั้งที่ 22
กองทุนGMS นี้ถูกจัดขึ้นตั้งแต่ปี 1 ตุลาคม ปี พ.ศ. 2553 เป็นแนวคิดของคุณสมเกียรติ ไชยศรีรัตนากูล ผู้ก่อตั้งบริษัท โดยนำเงินส่วนตัวมาช่วยเหลือชาวนาบ้านกลาง หมู่ 6 ต.ทุ่งฝาย จ.ลำปาง ในด้านการลงทุน เช่น การซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าว ปุ๋ย หรือยาฆ่าแมลง ในนามบริษัท จี.เอ็ม.เอส ชาวบ้านจึงเรียกว่า “กองทุน จี.เอ็ม.เอส ” ทั้งนี้เพื่อช่วยเพิ่มผลผลิตเมล็ดข้าว และ ช่วงสร้างอนาคตที่ดีขึ้นให้กับชาวนา

โดยมอบหมายคณะกรรมการ กองทุนGMS รายชื่อ ดังต่อไปนี้ ช่วยดูแล
1. คุณจำนงค์ ธรรมวงศ์  (ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน)
2. คุณพรพันธ์ พัฒพร
3. คุณจงกลณี ณ ลำปาง
4. คุณสุภิญ อินต๊ะสงคะ
5. คุณกาญจนาวดี เลี่ยมสกุล

นอกจากนี้มีการกำหนดเงื่อนไขและระยะเวลาการยืมคืน เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนกับชาวนารายอื่น และได้รับโอกาสเช่นเดียวกัน

LNG storage tank for Permanent LNG station


LNG station facilitates for storing LNG, changing to natural gas, and regulating pressure prior to transfer to customers. LNG stations consists of important equipment such as LNG storage tank , gas exchange equipment (Vaporizer) and pressure control equipment (Pressure regulator unit).

Liquefied natural gas station (LNG Station)  and LNG storage tank will be under the supervision of DOEB: Department of Energy Business, Ministry of Energy. The engineering design, construction, installation, and safety must be strictly carried out under ministerial regulations and NFPA 59A.

Liquefied natural gas storage tank
LNG storage tank has its special function which stores liquid at very low temperatures -196 °C or LNG at -162 °C. The tank is designed by double-layered containers including inner containing LNG and outer vessels. Between Inner and Outer vessels, there is an annular space which is a vacuum working as an insulator. This vacuum layer is to protect heat transfer from outside. The tank is designed in both vertical and horizontal tank according to ASME SECTION VIII DIVISION1 as following.




ASME SECTION VIII (PRESSURE VESSELS), Division 1
Division 1 provides requirements applicable to the design, fabrication, inspection, testing, and certification of pressure vessels operating at either internal or external pressures exceeding 15 Psig. Such vessels may fire or unfire. This pressure may obtain from an external source or by the application of heat from a direct or indirect source, or any combination thereof. Specific requirements apply to several classes of material used in pressure vessel construction, and to fabrication methods such as welding, forging, and brazing. Division 1 contains mandatory and non-mandatory appendices detailing supplementary design criteria, nondestructive examination, and inspection acceptance standards. Rules pertaining to the use of the single ASME certification mark with the U, UM and UV designators are also included

Application of LNG storage tank
1. Filling circuit
The cycle of filling LNG into the tank begins with LNG passing a check valve through a separate pipe into Top Filling valve and Bottom Filling valve. These valves control LNG flow to regulate the pressure during filling
1.1  LNG flows into the upper of LNG tank which has compressed gas (Compressed Gas). Therefore, LNG with a lower temperature combines with compressed gas. As a result, gas pressure in the top of tank is lower.
1.2 LNG also flows into the lower of LNG tank which is liquefied gas state. Therefore, the amount of added LNG to the tank and is constantly increasing. This will cause higher gas compression in the top of the tank.
To fill LNG and control the pressure efficiently , the amount of LNG flow must be controlled by on-off valve.

2.  Pressure build-up coil
Using LNG consistently, the decreasing volume of the liquid lower the tank pressure. The principle of enhancing pressure depends on changing state of LNG from liquid to gas. With flowing through pressure build-up unit, the liquid will be changed to gas phase. Then, it returns to the upper tank to compensate lost pressure. Another important equipment is Regulator which controls on-off valve relying on the set pressure. When the tank pressure drops lower than the set point, the regulator will turn on the LNG flow. In contrast, the tank pressure increases higher than the set point, the regulator will narrow the LNG flow.

To sum up , the heat exchanger (Pressure Build-up coil) must be designed appropriately.

3. Pressure and Level Gauge
Monitoring tank pressure and volume are critical to its usage. Therefore, this device will have the principle as below

The mostly used pressure gauge is the Bourdon type to measure the pressure directly from the cylinder head which has different sizes and measurement ranges according to each type of tank and capacity.

Liquid level gauge  mostly useห in differential pressure type which applies the pressure difference between two points to measure the level of LNG tank. One is from the upper of the tank. Also, the other is from the bottom of the tank. This pressure difference (Delta P) converts to be in units of height, such as millimeters of water (mmH2O) or Inch H2O to represent the height of the volume of LNG tank. In order to find the LNG quantity, there is a content chart to convert the height to weight.

4. Pressure Relief Valve
LNG can vaporize due to the heat. Although it is stored in the tank, it can vaporize as well, called as Normal Evaporation. Moreover, if the gas phase rises, the pressure will also gather. Unless it reduces pressure from other factors such as application or pressure release, the excessive pressure will reach to set point of the pressure safety valve. The safety valve will open to relieve the pressure to the set point.

This safety valve will calculate the relief rate properly for the tank and usually have 2 sets (1 set = 2 each) to switch operation and to calibrate.

5. Economizer
This process has a major device which is the Back-Pressure Regulator (BRP) or called Economizer. The economizer is set following the pressure outlet at the tank header. When the pressure reaches to the set point, the vapor will flow to liquefied gas circuit. Thus, the excessive pressure from economizer will be sent to customers instead of releasing out from the safety valve.

6. LNG supply circuit (Supply Circuit)
There are two types of LNG supply.
1. Direct liquid application which will pass through the on-off valve and flow directly to the next process, e.g. Vaporizer.
2. Applications connected to the Economizer system shall be applied for process that requires gas phase.

https://www.gmsthailand.com/product/lng-storage-tank-gms-interneer/

LNG pressure regulator unit


LNG Station LNG pressure regulator unit
A system which adjusts the pressure of gas and fluid to an appropriate level is Pressure regulator unit (PRU). The process depends on negative feedback from the controlled pressure. This regulator may be used as an integral device for liquid and gas which includes a pressure setting, a sensor and a restrictor all in one body.

Application of Pressure regulator unit (PRU)
The primary function of a pressure reducing regulator is to control the flow of gas through the regulator to a desired value while sustaining an output pressure constantly. While the load flow reduces, the Pressure regulator unit flow will reduce too. In contrast, While the load flow rises, the regulator flow rises to sustain controlled pressure from gas shortage in the pressure system. Generally, the controlled pressure won’t be much different from the set point for a wide range of flow rates. Moreover, the flow through the regulator is expected to be constant and the regulated pressure won’t be oscillated excessively.

The pressure regulating system includes emergency shut-off valve, multi-stage heat exchanger, multi-stage pressure regulator, relief valve, intelligent flow meter, bypass valve and control system, etc. The control system includes pressure, temperature, flow display and safety interlocking. The heating system includes gas boiler, hot water circulation pump or electric heater.

A high differential pressure appears in LNG pressure regulator skid. Firstly, this device connects with LNG vaporizer by hose and quickly connector. After that, LNG which changes to NG runs into pressure regulating unit through the high-pressure hose, ball valve, filter, and cut-off valve. The pressure will be about 1.0 ~ 4.0Mpa depending on customer requirement by pressure regulator.

The secondary regulator will control the gas pressure following to customer’s demand. In case of low pressure of the outlet, the third pressure regulating will be necessary.

The gas flow meter will measure NG that passes it. Finally, it will be sent to middle pressure pipeline.  Normally, LNG Pressure regulating unit can be assembled by contractor at the site. Furthermore, Gms Interneer can provide pressure regulating unit skid for portable platform as temporary station.
https://www.gmsthailand.com/product/pressure-regulator-unit/

Wellhead Xmas Tree


Cameron’s MH Series hydraulic actuators are designed to be used with most manufacturers’ gate valves. Recommended for high-thrust applications required for large-bore and high-pressure valves – when there is no gas source or when the well gas is too sour – the MH Series offers a reliable and robust actuator that can be installed in harsh and remote environments.

Cameron’s MH Series hydraulic actuators
        - Fail-Safe Design
        - Rising and Non-Rising Stem Designs
        - Non-Pressurized Actuator Housing
        - Superior Piston Design
        - Cameron’s Seal Technology
        - Fixed rift Adjustment
        - Corrosion-Resistant Materials
        - Ease of Maintenance
        - Accessories

Wellhead Xmas Tree ‘s Standard Actuator Data
        - API 6A actuators for use with 1-13/16” through 9-1/16” nominal gate valves
        - API 6A Appendix F, PR-2 qualified
        - Temp -20° F to 250° F (-29° C to 121° C) standard temperature rating (other temperatures available)
        - 3” to 9” standard piston sizes for above referenced valve groups
        - 6000-psi maximum operating pressure
        - Wide range of options and accessories available

Wellhead Xmas Tree ‘s Standard Bonnet Data
        - Standard stem and bonnet materials API material/temperature class dependent
        - PSL-1, 2, 3, and 4 available
        - Standard bonnet backseat test port provided
        - Standard packing leak indicator port provided
https://www.gmsthailand.com/product/wellhead-xmas-tree/

Lithium Bromide Absorption Chiller for waste heat recovery


Absorption Chiller is an equipment which uses heat source from natural gas ,diesel, solar energy and waste heat to produce a cooling system.  As its practical function, absorption chiller is normally installed in air-conditioning building such as factory, office, hospital or airport. Especially, the machine utilize the waste heat recovery from gas engine or gas turbine.

Although the electricity is in limited situation, absorption chiller also can activate. Furthermore, it only consumes a small amount of electric energy in the systems, compared to electric chillers.

During the process, the absorption chiller uses a  lithium bromide solution (LiBr) as the absorbent and water as the refrigerant. The reason a lithium bromide because of not being a hazardous chemical.  Another outstanding characteristic is non-CFCs and non-HFCs which are harmful to the environment.

Here are more advantages of Absorption chiller:  Driving power from Heat Energy, Less electric energy consumption, Easy maintenance, Low maintenance costs, Less noise and vibration, Non-CFCs or Non-HFCs refrigerant and Environmental-friendly.

Principle

Firstly, weak solution in the absorber which is suitable for concentration mixed with lithium bromide solution and water is pumped through the heat exchanger. Then, It becomes the intermediate solution before flowing into the generator separating the water and lithium bromide solution. The generator utilizes the heat energy from waste heat such as Flue gas, Steam or Hot water.

In the Generator, the water will be changed to vapor and leave the lithium bromide solution, but it will not be left as a waste. It will be formed as a liquid and drop to bottom of the generator. The liquid flows down to preheat the weak solution in the heat exchanger and becomes strong solution. Then, it flows back to spray over the absorber to absorb the vapor for next process again.

Meanwhile, the vapor which left from lithium bromide solution in generator flows into the condenser. The solution will be cooldown by the cooling water, then it will be condensate to the refrigerant. It flows down to the evaporator due to the vacuum condition which made the water boiling temperature becomes low.

In the Evaporator, 12°C chilled water which returns from operation system flows into the evaporator. The unwanted thermal energy will be extracted by spraying refrigerant over the chilled water pipe in the evaporator. Therefore, the chilled water temperature will be decreased to 7°C.

Finally, after the refrigerant water extracted unwanted thermal from chilled water, it will become the vapor again as low boiling temperature under the vacuum condition in the evaporator. After that, the vapor will be absorbed by strong solution and become weak solution for the new cycle again.

Shuangliang Waste Heat Recovery Solution Provider
Shuangliang has dedicated to the study of industrial waste heat recovery over 3 decades. As endless attempt, Shuangliang is gradually developing from as equipment supplier into a system provider.

About 60% of all energy generated in the world is left as a waste heat. Unfortunately, most of the waste heat will be degraded as traditional heat recovery technologies can’t activate effectively. From this point, Shuangliang  Eco-Energy System Co., Ltd. wants to solve this problem by turning it to useable energy.

Shuangliang Eco-Energy Systems Co., Ltd. has been founded since 1982. According to the expertise, it is the first and only listed company in the absorption chiller industry. Eventually, the company joined with Shuangliang Group, a large enterprise that provides manufacturing, chemical and materials, and hotel services.

Product
- Flue Gas Lithium Bromide Absorption Chiller
Flue gas absorption chiller is applied as an important role of the tri-generation system. Normally, gas engine produces electricity while exhaust heat drives an energy of absorption chiller. According to this process, the waste heat from gas engine can provide cooling capacity for any communities and buildings.

As a combination of cooling, heating, and power generation system, the flue gas absorption chiller can increase capacity utilization and efficiency up to 85%. Moreover, the absorption chiller enhances power supply safety from the grid and leads more electricity saving. From several advantages, the absorption chiller can enhance environmental protection and sustainably economic development.

- Direct Fired Lithium Bromide Absorption Chiller
Due to the increase of electricity price and continual concern to environmental issues, Shuangliang eco-energy develops the high energy-efficiency. Absorption chiller is energized by the heat from directly burning light oil, heavy oil, industrial gas, or natural gas. By using heat of different levels, the direct fired absorption chiller can produce chilled water temperature from 5 °C to 7 °C which mostly used in the air conditioning system.

- Steam Lithium Bromide Absorption Chiller
The Steam Lithium Bromide Absorption chiller is one of Shuangliang famous models. Steam pressure with 0.01-0.15 MPa can provide a cooling capacity of 350~11630 kW. Also, 5°C to 7°C chilled water is suitable for the central air conditioning system or industrial process.

Due to its advantage, waste steam from the steam turbine in power generation can be reused as an energy for absorption chiller, also steam from the boiler

Especially, Shuangliang double-effect absorption chiller is in the most leading manufacturer. With high COPs of 1.43, it can provide high efficiency, low energy consumption and low-operating costs.

- Hot Water Lithium Bromide Absorption Chiller
With Shuangliang standard specifications, the temperature range of hot water about 90°-130°C is applied as a main role of the hot water single stage and two-stage absorption chillers. Moreover, Shuangliang standard specifications are available for suitable temperature and customer’s requirement.

The cooling capacity of hot water absorption chiller is between 350~6890 kW. As the chilled water temperature is about 5 °C –7 °C which is useful for air conditioning system and industrial process.

To reuse waste heat recovery, utilizing waste hot water from gas engine or other industrial process in hot water absorption chiller is one of effective ways to save energy, reduce electricity cost and saves considerable amount of operating costs.
https://www.gmsthailand.com/product/lithium-bromide-absorption-chiller/

LUBRICATED PLUG VALVES – TWIN ISOLATION


The Twin Isolation Lubricated Plug Valve is a reliable, double isolation plug valve with two independent obturators in a single body. It is ideal for double block and bleed applications.
https://www.gmsthailand.com/product/lubricated-plug-valves-twin-isolation/

Flowserve - valves are ready to service all over the world.

Flowserve
Our valves are designed with specific functions to match with our customer’s requirement.

Flowserve
valves are ready to service all over the world. Moreover, we do trust in safe environment, so we have many expert engineers to help you with useful information.
https://www.gmsthailand.com/category/flowserve/

Flowserve Plug Value for oil & gas isolation

Lubricated Plug Values - Twin Isolation

กล่องพิซซ่า คือ? มีขนาดและราคาเท่าไหร่บ้าง


กล่องพิซซ่า คือ บรรจุภัณฑ์อาหารอีกชนิดหนึ่ง ที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะ เพื่อรองรับพิซซ่าทำให้ตัวกล่อง หรือ บรรจุภัณฑ์นั้นมีความแตกต่างจากบรรจุภัณฑ์อาหารชนิดอื่นๆ โดยลักษณะของกล่องพิซซ่านั้นส่วนใหญ่จะออกแบบให้ตัวกล่องเป็นทรงสี่เหลี่ยมหรือแปดเหลี่ยมตามแต่ละความต้องการของคุณนั่นเอง

กล่องพิซซ่าผลิตมาจาก ?
กล่องพิซซ่า ผลิตมาจากกล่องกระดาษลูกฟูกที่ผ่านการเข้าเครื่องไดคัท โดยการปั้มโดยใช้เพลทไดคัทเพื่อให้ตัวกล่องนั้นออกมาตามแม่แบบที่ได้กำหนดเอาไว้ ทำให้ได้รูปทรงเป็นแผ่น แล้วจึงค่อยนำมาประกอบขึ้นเป็นกล่องนั่นเอง

ซึ่งขนาดที่นิยมนำมาใช้ทำเป็นกล่องพิซซ่านั้นจะเป็น ลอนกระดาษ E สีน้ำตาล (KI) ทำให้ตัวกล่องมีน้ำหนักที่เบาขนส่งได้สะดวก ทั้งยังมีความแข็งแรงเพียงพอต่อการวางซ้อนทับของกล่องที่มีน้ำหนักใกล้เคียงกันได้ดีอีกด้วย
https://thaifoodpackaging.com/blog/what-sizes-prices-pizza-box/

ขนาด และ ราคาของกล่องพิซซ่า
กล่องพิซซ่าของ thaifoodpackaging จะมีราคาที่ขึ้นอยู่กับรูปแบบ และขนาดของกล่องกระดาษที่แตกต่างกันออกไป ดังต่อไปนี้

กล่องพิซซ่าสามเหลี่ยม สีขาว

ราคา ฿2.86 – 3.12 / กล่องราคารวม VAT

คุณสมบัติ กล่องพิซซ่าสามเหลี่ยม สีขาว
        - มีช่องระบายอากาศ ป้องกันพิซซ่าเปียกแฉะ
        - การผลิตระดับมาตรฐานสากล Food grade ช่วยรักษาคุณภาพและรักษาอุณภูมิของอาหาร
        - สามารถออกแบบและพิมพ์ลายตามแบรนด์สินค้าได้
        - กล่องพับปิดได้ทำให้อาหารสะอาดปลอดภัย ใช้แล้วพับทิ้งไม่เปลืองพื้นที่ทิ้งขยะ
        - มีเครื่องมือในการตรวจสอบรอยรั่วซึมและคัดแยกจุดสกปรกได้แม่นยำ
*** ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดเช็คราคาล่าสุดได้ตาม Link ด้านล่างนี้
https://thaifoodpackaging.com/product/white-triangle-pizza-box/


กล่องพิซซ่าสี่เหลี่ยม ขนาด 6 นิ้ว

ราคา ฿4.04 – 5.11 / กล่องราคารวม VAT

คุณสมบัติ กล่องกล่องพิซซ่าสี่เหลี่ยม ขนาด 6 นิ้ว
        - ลอน E กระดาษบาง ความหนาไม่เกิน 1.7 มม น้ำหนักเบา และ น้ำหนักกระดาษกล่องได้ตามมาตรฐาน มอก
        - กระดาษสามารถย่อยสลายตามธรรมชาติ 100%
        - น้ำหนักกล่องเบา แข็งแรงด้วยสูตรการผลิตลูกฟูกแบบพิเศษ
*** ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดเช็คราคาล่าสุดได้ตาม Link ด้านล่างนี้
https://thaifoodpackaging.com/product/pizza-box-6-inchs/


กล่องพิซซ่าสี่เหลี่ยม ขนาด 7 นิ้ว

ราคา ฿5.22 – 5.86 / กล่องราคารวม VAT

คุณสมบัติ กล่องพิซซ่าสี่เหลี่ยม ขนาด 7 นิ้ว
        - ลอน E กระดาษบาง ความหนาไม่เกิน 1.5-2.0 มม น้ำหนักเบา และ น้ำหนักกระดาษกล่องได้ตามมาตรฐาน มอก
        - กระดาษสามารถย่อยสลายตามธรรมชาติ 100%
        - กระดาษสีน้ำตาลธรรมชาติ ปราศจาก สารเคมีฟอกเยื่อ และสารอันตราย
        - กระดาษมีใบรับรองความปลอดภัยด้านเคมี RoHs
        - น้ำหนักกล่องเบา แข็งแรงด้วยสูตรการผลิตลูกฟูกแบบพิเศษ
        - วัตถุดิบกระดาษที่ใช้ ไม่มีกลิ่นเหม็น ไม่เปื่อยยุ่ยง่าย หน้ากระดาษเนียน ไม่มีจุดสกปรก
        - กล่องแข็งแรง ปิดสนิท ขึ้นรูปง่าย แปะกาวแน่น ไม่มีรูให้แมลงเข้าไปในกล่องได้
        - น้ำหนักกล่องมีความคลาดเคลื่อนตาม มาตรฐานมอก ที่ 5%
*** ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดเช็คราคาล่าสุดได้ตาม Link ด้านล่างนี้
https://thaifoodpackaging.com/product/pizza-box-7-inchs/


กล่องพิซซ่าสี่เหลี่ยม ขนาด 8 นิ้ว

ราคา ฿5.68 – 6.26 / กล่องราคารวม VAT

คุณสมบัติ กล่องพิซซ่าสี่เหลี่ยม ขนาด 8 นิ้ว
        - ลอน E กระดาษบาง ความหนาไม่เกิน 1.5-2.0 มม น้ำหนักเบา และ น้ำหนักกระดาษกล่องได้ตามมาตรฐาน มอก
        - กระดาษสามารถย่อยสลายตามธรรมชาติ 100%
        - กระดาษสีน้ำตาลธรรมชาติ ปราศจาก สารเคมีฟอกเยื่อ และสารอันตราย
        - กระดาษมีใบรับรองความปลอดภัยด้านเคมี RoHs
        - น้ำหนักกล่องเบา แข็งแรงด้วยสูตรการผลิตลูกฟูกแบบพิเศษ
        - วัตถุดิบกระดาษที่ใช้ ไม่มีกลิ่นเหม็น ไม่เปื่อยยุ่ยง่าย หน้ากระดาษเนียน ไม่มีจุดสกปรก
        - กล่องแข็งแรง ปิดสนิท ขึ้นรูปง่าย แปะกาวแน่น ไม่มีรูให้แมลงเข้าไปในกล่องได้
        - น้ำหนักกล่องมีความคลาดเคลื่อนตาม มาตรฐานมอก ที่ 5%
*** ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดเช็คราคาล่าสุดได้ตาม Link ด้านล่างนี้
https://thaifoodpackaging.com/product/pizza-box-8-inchs/


กล่องพิซซ่าสี่เหลี่ยม ขนาด 10 นิ้ว

ราคา ฿7.91 – 8.71 / กล่องราคารวม VAT

คุณสมบัติ กล่องพิซซ่าสี่เหลี่ยม ขนาด 10 นิ้ว
        - ลอน E กระดาษบาง ความหนาไม่เกิน 1.5-2.0 มม น้ำหนักเบา และ น้ำหนักกระดาษกล่องได้ตามมาตรฐาน มอก
        - กระดาษสามารถย่อยสลายตามธรรมชาติ 100%
        - กระดาษสีน้ำตาลธรรมชาติ ปราศจาก สารเคมีฟอกเยื่อ และสารอันตราย
        - กระดาษมีใบรับรองความปลอดภัยด้านเคมี RoHs
        - น้ำหนักกล่องเบา แข็งแรงด้วยสูตรการผลิตลูกฟูกแบบพิเศษ
        - วัตถุดิบกระดาษที่ใช้ ไม่มีกลิ่นเหม็น ไม่เปื่อยยุ่ยง่าย หน้ากระดาษเนียน ไม่มีจุดสกปรก
        - กล่องแข็งแรง ปิดสนิท ขึ้นรูปง่าย แปะกาวแน่น ไม่มีรูให้แมลงเข้าไปในกล่องได้
        - น้ำหนักกล่องมีความคลาดเคลื่อนตาม มาตรฐานมอก ที่ 5%
*** ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดเช็คราคาล่าสุดได้ตาม Link ด้านล่างนี้
https://thaifoodpackaging.com/product/pizza-25-4x25x4-5-cm/


กล่องพิซซ่าสี่เหลี่ยม ขนาด 12 นิ้ว

ราคา ฿10.53 – 11.58 / กล่องราคารวม VAT

คุณสมบัติ กล่องพิซซ่าสี่เหลี่ยม ขนาด 12 นิ้ว
        - ลอน E กระดาษบาง ความหนาไม่เกิน 1.5-2.0 มม น้ำหนักเบา และ น้ำหนักกระดาษกล่องได้ตามมาตรฐาน มอก
        - กระดาษสามารถย่อยสลายตามธรรมชาติ 100%
        - กระดาษสีน้ำตาลธรรมชาติ ปราศจาก สารเคมีฟอกเยื่อ และสารอันตราย
        - กระดาษมีใบรับรองความปลอดภัยด้านเคมี RoHs
        - น้ำหนักกล่องเบา แข็งแรงด้วยสูตรการผลิตลูกฟูกแบบพิเศษ
        - วัตถุดิบกระดาษที่ใช้ ไม่มีกลิ่นเหม็น ไม่เปื่อยยุ่ยง่าย หน้ากระดาษเนียน ไม่มีจุดสกปรก
        - กล่องแข็งแรง ปิดสนิท ขึ้นรูปง่าย แปะกาวแน่น ไม่มีรูให้แมลงเข้าไปในกล่องได้
        - น้ำหนักกล่องมีความคลาดเคลื่อนตาม มาตรฐานมอก ที่ 5%
*** ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดเช็คราคาล่าสุดได้ตาม Link ด้านล่างนี้
https://thaifoodpackaging.com/product/pizza-square-box-12-inchs/


กล่องพิซซ่าสี่เหลี่ยม ขนาด 14 นิ้ว

ราคา ฿14.67 – 19.82 / กล่องราคารวม VAT

คุณสมบัติ กล่องพิซซ่าสี่เหลี่ยม ขนาด 14 นิ้ว
        - ลอน E กระดาษบาง ความหนาไม่เกิน 1.7 มม น้ำหนักเบา และ น้ำหนักกระดาษกล่องได้ตามมาตรฐาน มอก
        - กระดาษสามารถย่อยสลายตามธรรมชาติ 100%
        - น้ำหนักกล่องเบา แข็งแรงด้วยสูตรการผลิตลูกฟูกแบบพิเศษ
*** ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดเช็คราคาล่าสุดได้ตาม Link ด้านล่างนี้
https://thaifoodpackaging.com/product/pizza-box-14-inchs/


กล่องพิซซ่าสี่เหลี่ยม ขนาด 16 นิ้ว

ราคา ฿15.98 – 21.36 / กล่องราคารวม VAT

คุณสมบัติ กล่องพิซซ่าสี่เหลี่ยม ขนาด 16 นิ้ว
        - ลอน E กระดาษบาง ความหนาไม่เกิน 1.5-2.0 มม น้ำหนักเบา และ น้ำหนักกระดาษกล่องได้ตามมาตรฐาน มอก
        - กระดาษสามารถย่อยสลายตามธรรมชาติ 100%
        - กระดาษสีน้ำตาลธรรมชาติ ปราศจาก สารเคมีฟอกเยื่อ และสารอันตราย
        - กระดาษมีใบรับรองความปลอดภัยด้านเคมี RoHs
        - น้ำหนักกล่องเบา แข็งแรงด้วยสูตรการผลิตลูกฟูกแบบพิเศษ
        - วัตถุดิบกระดาษที่ใช้ ไม่มีกลิ่นเหม็น ไม่เปื่อยยุ่ยง่าย หน้ากระดาษเนียน ไม่มีจุดสกปรก
        - กล่องแข็งแรง ปิดสนิท ขึ้นรูปง่าย แปะกาวแน่น ไม่มีรูให้แมลงเข้าไปในกล่องได้
        - น้ำหนักกล่องมีความคลาดเคลื่อนตาม มอก ที่ 5%
*** ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดเช็คราคาล่าสุดได้ตาม Link ด้านล่างนี้
https://thaifoodpackaging.com/product/pizza-box-16-inchs/


กล่องพิซซ่าสี่เหลี่ยม ขนาด 18 นิ้ว

ราคา ฿19.51 – 21.46 / กล่องราคารวม VAT

คุณสมบัติ กล่องพิซซ่าสี่เหลี่ยม ขนาด 18 นิ้ว
        - ลอน E กระดาษบาง ความหนาไม่เกิน 1.5-2.0 มม น้ำหนักเบา และ น้ำหนักกระดาษกล่องได้ตามมาตรฐาน มอก
        - กระดาษสามารถย่อยสลายตามธรรมชาติ 100%
        - กระดาษสีน้ำตาลธรรมชาติ ปราศจาก สารเคมีฟอกเยื่อ และสารอันตราย
        - กระดาษมีใบรับรองความปลอดภัยด้านเคมี RoHs
        - น้ำหนักกล่องเบา แข็งแรงด้วยสูตรการผลิตลูกฟูกแบบพิเศษ
        - วัตถุดิบกระดาษที่ใช้ ไม่มีกลิ่นเหม็น ไม่เปื่อยยุ่ยง่าย หน้ากระดาษเนียน ไม่มีจุดสกปรก
        - กล่องแข็งแรง ปิดสนิท ขึ้นรูปง่าย แปะกาวแน่น ไม่มีรูให้แมลงเข้าไปในกล่องได้
        - น้ำหนักกล่องมีความคลาดเคลื่อนตาม มอก ที่ 5%
*** ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดเช็คราคาล่าสุดได้ตาม Link ด้านล่างนี้
https://thaifoodpackaging.com/product/pizza-box-18-inchs/


กล่องพิซซ่าแปดเหลี่ยม ขนาด 9 นิ้ว

ราคา ฿8.27 – 10.46 / กล่องราคารวม VAT

คุณสมบัติ กล่องพิซซ่าแปดเหลี่ยม ขนาด 9 นิ้ว
        - ลอน E กระดาษบาง ความหนาไม่เกิน 1.7 มม น้ำหนักเบา และ น้ำหนักกระดาษกล่องได้ตามมาตรฐาน มอก
        - กระดาษสามารถย่อยสลายตามธรรมชาติ 100%
        - น้ำหนักกล่องเบา แข็งแรงด้วยสูตรการผลิตลูกฟูกแบบพิเศษ
*** ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดเช็คราคาล่าสุดได้ตาม Link ด้านล่างนี้
https://thaifoodpackaging.com/product/pizza-box-9-inchs/


กล่องพิซซ่าแปดเหลี่ยม ขนาด 12 นิ้ว

ราคา ฿12.82 – 17.61 / กล่องราคารวม VAT

คุณสมบัติ กล่องพิซซ่าแปดเหลี่ยม ขนาด 12 นิ้ว
        - ลอน E กระดาษบาง ความหนาไม่เกิน 1.7 มม น้ำหนักเบา และ น้ำหนักกระดาษกล่องได้ตามมาตรฐาน มอก
        - กระดาษสามารถย่อยสลายตามธรรมชาติ 100%
        - น้ำหนักกล่องเบา แข็งแรงด้วยสูตรการผลิตลูกฟูกแบบพิเศษ
*** ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดเช็คราคาล่าสุดได้ตาม Link ด้านล่างนี้
https://thaifoodpackaging.com/product/pizza-box-12-inchs/

กล่องกระดาษใส่อาหาร คือ? มีขนาดและราคาเท่าไหร่บ้าง


บรรจุภัณฑ์กระดาษในปัจจุบันมีให้เลือกซื้อและพบเห็นได้มากมาย เนื่องจากกระแสความนิยมการรักษ์โลกพุ่งสูงขึ้น และผู้คนก็ต่างหันมาให้ความสนใจในเรื่องนี้กัน ทำให้เกิดการพัฒนาบรรจุภัณฑ์จากกระดาษใหม่ๆขึ้นเช่นเดียวกัน และกล่องกระดาษใส่อาหารก็เป็นหนึ่งในบรรจุภัณฑ์รักษ์โลกที่มีความสำคัญไม่น้อยกว่าบรรจุภัณฑ์ชนิดอื่นๆเลย

กล่องกระดาษใส่อาหาร คือ
กล่องกระดาษใส่อาหาร คือ บรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มชนิดหนึ่ง ซึ่งถูกสร้างขึ้นมาจากกระดาษด้วยวิธีทางด้านเคมีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยตัวกล่องจะสามารถย่อยสลายได้ 100% หรือนำไปรีไซเคิลก็ได้เช่นกัน

กล่องกระดาษใส่อาหารได้รับความนิยมอย่างมากในด้านธุรกิจอาหารทั้งเล็กและใหญ่ มีประโยชน์ใช้สอยต่างๆมากมาย ตัวกล่องแข็งแรง ทนทาน และยังเหมาะกับงานพิมพ์เพื่อช่วยสร้างความสวยงาม ทั้งยังสามารถนำไปใช้ในด้านโฆษณาได้อีกด้วย
https://thaifoodpackaging.com/blog/what-sizes-prices-food-box/

ขนาด และราคาของกล่องกระดาษใส่อาหาร
กล่องกระดาษใส่อาหารของ thaifoodpackaging จะมีราคาที่ขึ้นอยู่กับรูปแบบ และขนาดของกล่องกระดาษที่แตกต่างกันออกไป ดังต่อไปนี้

กล่องข้าวใส่อาหารปลอดภัย 600 ml.


ราคา ฿1.47 – 1.63 / กล่อง ราคารวม VAT

คุณสมบัติ กล่องข้าวใส่อาหารปลอดภัย 600 ml.
         - กล่องกระดาษทรงสี่เหลี่ยมพร้อมฝาปิดขนาดเล็ก ขอบกล่องเป็นรอยคลื่นลดอันตรายจากกระดาษบาดมือ
         - บรรจุภัณฑ์ขึ้นรูปได้ง่าย ฝาและตัวล๊อกออกแบบ เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน (User Friendly)
         - กล่องอาหารพับได้ขนาดมาตราฐานออกแบบและพิมพ์ลายตามแบรนด์สินค้าได้
         - บรรจุภัณฑ์สามารถสัมผัสอาหารได้โดยตรง ไม่จำเป็นต้องมีวัสดุอื่นๆรอง (Food Direct Contact)
         - ปลอดภัยจากสารเคมีอันตราย ขึ้นรูปด้วยความรูปโดยไม่ใช้กาว (Heat Sealed)
         - สามารถเรียงซ้อนได้มากกว่า 5 ชั้นโดยไม่ล้ม (Stacking Test)
         - ทนความร้อน ทนน้ำมัน และรีไซเคิลได้ในอุตสาหกรรมผลิตกระดาษ
         - รูปแบบบรรจุภัณฑ์นี้ได้รับอนุญาตจากเจ้าของสิทธิบัตร เพื่อใช้สิทธิบัตรในการผลิตแล้ว
*** ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดเช็คราคาล่าสุดได้ตาม Link ด้านล่างนี้
https://thaifoodpackaging.com/product/food-grade-box-600-ml/


กล่องข้าวใส่อาหารปลอดภัย 725 ml.


ราคา ฿1.63 – 1.80 / กล่องราคารวม VAT

คุณสมบัติ กล่องข้าวใส่อาหารปลอดภัย 725 ml.
         - กล่องกระดาษทรงสี่เหลี่ยมพร้อมฝาปิดขนาดเล็ก ขอบกล่องเป็นรอยคลื่นลดอันตรายจากกระดาษบาดมือ
         - บรรจุภัณฑ์ขึ้นรูปได้ง่าย ฝาและตัวล๊อกออกแบบ เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน (User Friendly)
         - กล่องอาหารพับได้ขนาดมาตราฐานออกแบบและพิมพ์ลายตามแบรนด์สินค้าได้
         - บรรจุภัณฑ์สามารถสัมผัสอาหารได้โดยตรง ไม่จำเป็นต้องมีวัสดุอื่นๆรอง (Food Direct Contact)
         - ปลอดภัยจากสารเคมีอันตราย ขึ้นรูปด้วยความรูปโดยไม่ใช้กาว (Heat Sealed)
         - สามารถเรียงซ้อนได้มากกว่า 5 ชั้นโดยไม่ล้ม (Stacking Test)
         - ทนความร้อน ทนน้ำมัน และรีไซเคิลได้ในอุตสาหกรรมผลิตกระดาษ
         - รูปแบบบรรจุภัณฑ์นี้ได้รับอนุญาตจากเจ้าของสิทธิบัตร เพื่อใช้สิทธิบัตรในการผลิตแล้ว
*** ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดเช็คราคาล่าสุดได้ตาม Link ด้านล่างนี้
https://thaifoodpackaging.com/product/food-grade-box-725-ml/


กล่องข้าวใส่อาหารปลอดภัย ลายไก่ 725 ml.


ราคา ฿1.73 – 1.94 / กล่องราคารวม VAT

คุณสมบัติ กล่องข้าวใส่อาหารปลอดภัย ลายไก่ 725 ml.
         - กล่องกระดาษทรงสี่เหลี่ยมพร้อมฝาปิดขนาดเล็ก ขอบกล่องเป็นรอยคลื่นลดอันตรายจากกระดาษบาดมือ
         - บรรจุภัณฑ์ขึ้นรูปได้ง่าย ฝาและตัวล๊อกออกแบบ เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน (User Friendly)
         - กล่องอาหารพับได้ขนาดมาตราฐานออกแบบและพิมพ์ลายตามแบรนด์สินค้าได้
         - บรรจุภัณฑ์สามารถสัมผัสอาหารได้โดยตรง ไม่จำเป็นต้องมีวัสดุอื่นๆรอง (Food Direct Contact)
         - ปลอดภัยจากสารเคมีอันตราย ขึ้นรูปด้วยความรูปโดยไม่ใช้กาว (Heat Sealed)
         - สามารถเรียงซ้อนได้มากกว่า 5 ชั้นโดยไม่ล้ม (Stacking Test)
         - ทนความร้อน ทนน้ำมัน และรีไซเคิลได้ในอุตสาหกรรมผลิตกระดาษ
         - รูปแบบบรรจุภัณฑ์นี้ได้รับอนุญาตจากเจ้าของสิทธิบัตร เพื่อใช้สิทธิบัตรในการผลิตแล้ว
*** ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดเช็คราคาล่าสุดได้ตาม Link ด้านล่างนี้
https://thaifoodpackaging.com/product/chicken-pattern-food-box-725-ml/


กล่องข้าวใส่อาหารปลอดภัย สีชมพู 725 ml.


ราคาเริ่มต้นที่ ฿2.28 / กล่องราคารวม VAT

คุณสมบัติ กล่องข้าว ใส่อาหารปลอดภัย สีชมพู 725 ml.
         - กล่องข้าวสีเหลือง แนะนำใช้ในเทศกาลกินเจ
         - กล่องกระดาษทรงสี่เหลี่ยมพร้อมฝาปิดขนาดเล็ก ขอบกล่องเป็นรอยคลื่นลดอันตรายจากกระดาษบาดมือ
         - บรรจุภัณฑ์ขึ้นรูปได้ง่าย ฝาและตัวล๊อกออกแบบ เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน (User Friendly)
         - กล่องอาหารพับได้ขนาดมาตราฐานออกแบบและพิมพ์ลายตามแบรนด์สินค้าได้
         - บรรจุภัณฑ์สามารถสัมผัสอาหารได้โดยตรง ไม่จำเป็นต้องมีวัสดุอื่นๆรอง (Food Direct Contact)
         - ปลอดภัยจากสารเคมีอันตราย ขึ้นรูปด้วยความรูปโดยไม่ใช้กาว (Heat Sealed)
         - สามารถเรียงซ้อนได้มากกว่า 5 ชั้นโดยไม่ล้ม (Stacking Test)
         - ทนความร้อน ทนน้ำมัน และรีไซเคิลได้ในอตสาหกรรมผลิตกระดาษ
         - รูปแบบบรรจุภัณฑ์นี้ได้รับอนุญาตจากเจ้าของสิทธิบัตร เพื่อใช้สิทธิบัตรในการผลิตแล้ว
         - คำเตือน “สินค้าบรรจุภัณฑ์ชนิด กระดาษเคลือบ PE ไม่แนะนำเข้าไมโครเวฟหรือเตาอบ เพราะอาจจะให้เกิดการติดไฟขึ้นได้ (MICROWAVE AND OVEN NOT SAFE)”
         - สีฐานน้ำ Flexo Water based ปลอดภัย ปราศจากสารโลหะหนัก (RoHs)
*** ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดเช็คราคาล่าสุดได้ตาม Link ด้านล่างนี้
https://thaifoodpackaging.com/product/pink-food-grade-box-725-ml/


กล่องข้าวใส่อาหารปลอดภัย สีเหลือง 725 ml.


ราคาเริ่มต้นที่ ฿2.28 / กล่องราคารวม VAT

คุณสมบัติ กล่องข้าวใส่อาหารปลอดภัย สีเหลือง 725 ml.
         - กล่องข้าวสีเหลือง แนะนำใช้ในเทศกาลกินเจ
         - กล่องกระดาษทรงสี่เหลี่ยมพร้อมฝาปิดขนาดเล็ก ขอบกล่องเป็นรอยคลื่นลดอันตรายจากกระดาษบาดมือ
         - บรรจุภัณฑ์ขึ้นรูปได้ง่าย ฝาและตัวล๊อกออกแบบ เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน (User Friendly)
         - กล่องอาหารพับได้ขนาดมาตราฐานออกแบบและพิมพ์ลายตามแบรนด์สินค้าได้
         - บรรจุภัณฑ์สามารถสัมผัสอาหารได้โดยตรง ไม่จำเป็นต้องมีวัสดุอื่นๆรอง (Food Direct Contact)
         - ปลอดภัยจากสารเคมีอันตราย ขึ้นรูปด้วยความรูปโดยไม่ใช้กาว (Heat Sealed)
         - สามารถเรียงซ้อนได้มากกว่า 5 ชั้นโดยไม่ล้ม (Stacking Test)
         - ทนความร้อน ทนน้ำมัน และรีไซเคิลได้ในอตสาหกรรมผลิตกระดาษ
         - รูปแบบบรรจุภัณฑ์นี้ได้รับอนุญาตจากเจ้าของสิทธิบัตร เพื่อใช้สิทธิบัตรในการผลิตแล้ว
         - คำเตือน “สินค้าบรรจุภัณฑ์ชนิด กระดาษเคลือบ PE ไม่แนะนำเข้าไมโครเวฟหรือเตาอบ เพราะอาจจะให้เกิดการติดไฟขึ้นได้ (MICROWAVE AND OVEN NOT SAFE)”
         - สีฐานน้ำ Flexo Water based ปลอดภัย ปราศจากสารโลหะหนัก (RoHs)
*** ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดเช็คราคาล่าสุดได้ตาม Link ด้านล่างนี้
https://thaifoodpackaging.com/product/yellow-food-grade-box-725-ml/


กล่องข้าวใส่อาหารปลอดภัย 2000 ml.


ราคา ฿5.71 – 6.10 / กล่องราคารวม VAT

คุณสมบัติ กล่องข้าวใส่อาหารปลอดภัย 2000 ml.
         - กล่องกระดาษทรงสี่เหลี่ยมพร้อมฝาปิดโดม
         - ผลิตจากกระดาษสำหรับสัมผัสอาหาร เคลือบพลาสติกพอลิเอทิลีน (PE) สำหรับสัมผัสอาหารที่ความหนา 18 ไมครอน
         - บรรจุภัณฑ์ขึ้นรูปได้ง่าย ฝาและตัวล็อกออกแบบ เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน (User Friendly)
         - กล่องอาหารพับได้ขนาดมาตราฐานออกแบบและพิมพ์ลายตามแบรนด์สินค้าได้
         - บรรจุภัณฑ์สามารถสัมผัสอาหารได้โดยตรง ไม่จำเป็นต้องมีวัสดุอื่นๆรอง (Food Direct Contact)
         - ปลอดภัยจากสารเคมีอันตราย ขึ้นรูปโดยไม่ใช้กาว (Heat Sealed)
         - สามารถเรียงซ้อนได้มากกว่า 5 ชั้นโดยไม่ล้ม (Stacking Test)
         - ทนความร้อน ทนน้ำมัน และรีไซเคิลได้ในอุตสาหกรรมผลิตกระดาษ
         - รูปแบบบรรจุภัณฑ์นี้ได้รับอนุญาตจากเจ้าของสิทธิบัตร เพื่อใช้สิทธิบัตรในการผลิตแล้ว
*** ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดเช็คราคาล่าสุดได้ตาม Link ด้านล่างนี้


กล่องใส่อาหาร To go กล่องเบนโตะ ทรงกว้าง 26 ออนซ์


ราคาเริ่มต้นที่ ฿5.55 / กล่องราคารวม VAT

คุณสมบัติ กล่องใส่อาหาร To go กล่องเบนโตะ ทรงกว้าง 26 ออนซ์
         - การผลิตระดับมาตรฐานสากล Food pail ช่วยรักษาคุณภาพและรักษาอุณภูมิของอาหาร
         - สามารถออกแบบและพิมพ์ลายตามแบนด์สินค้าได้
         - กระดาษนำเข้าจากต่างประเทศ สามารถคงรูปได้ดี
         - กล่องพับปิดได้ทำให้อาหารสะอาดปลอดภัย ใช้แล้วพับทิ้งไม่เปลืองพื้นที่ทิ้งขยะ
         - มีเครื่องมือในการตรวจสอบรอยรั่วซึมและคัดแยกจุดสกปรกได้แม่นยำ
*** ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดเช็คราคาล่าสุดได้ตาม Link ด้านล่างนี้
https://thaifoodpackaging.com/product/fold-to-go-box-26-oz/


กล่องใส่อาหาร To go กล่องเบนโตะ ทรงกว้าง 45 ออนซ์


ราคาเริ่มต้นที่ ฿7.60 / กล่องราคารวม VAT

คุณสมบัติ กล่องใส่อาหาร To go กล่องเบนโตะ ทรงกว้าง 45 ออนซ์
         - การผลิตระดับมาตรฐานสากล Food pail ช่วยรักษาคุณภาพและรักษาอุณภูมิของอาหาร
         - สามารถออกแบบและพิมพ์ลายตามแบนด์สินค้าได้
         - กระดาษนำเข้าจากต่างประเทศ สามารถคงรูปได้ดี
         - กล่องพับปิดได้ทำให้อาหารสะอาดปลอดภัย ใช้แล้วพับทิ้งไม่เปลืองพื้นที่ทิ้งขยะ
         - มีเครื่องมือในการตรวจสอบรอยรั่วซึมและคัดแยกจุดสกปรกได้แม่นยำ
*** ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดเช็คราคาล่าสุดได้ตาม Link ด้านล่างนี้
https://thaifoodpackaging.com/product/fold-to-go-box-45-oz/