มีหลายเหตุผลที่ดึงดูดให้คนมาทัวร์ภูฏาน และหนึ่งในเหตุผลสำคัญคงหนีไม่พ้นเรื่องสภาพอากาศ เนื่องจากดินแดนที่ตั้งอยู่ท่ามกลางภูเขาหิมาลายันแห่งนี้ ขึ้นชื่อว่าไม่เคยปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศโลกเลย ที่สำคัญ ยังมีอัตราปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ติดลบอีกด้วย

อัตราการทัวร์ภูฏาน ที่เพิ่มสูงขึ้น มาพร้อมกับการอนุรักษ์ที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน

ถึงแม้อัตราการเข้ามาทัวร์ภูฏาน จะเพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการอนุรักษ์ทรัพยากรในประเทศแม้แต่น้อย หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดที่ชาวต่างชาติจะได้เห็นว่า ประเทศแห่งนี้มีมีการอนุรักษณ์ทรัพยากรในประเทศอย่างไร คือการออกเดินทางท่องเที่ยว เพื่อไปให้เห็นด้วยสายตาตนเอง

จุดเด่นของการมาทัวร์ภูฏาน

ในฐานะจุดหมายปลายท่องเที่ยวแล้ว คนที่มาภูฏานโดยซื้อทัวร์กับเว็บ https://th.greentravelthailand.com/ทัวร์ภูฏานกรุ๊ปส่วนตัว.html นี้จะได้เห็นถึงเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของประเทศเล็ก ๆ ที่คั่นกลางระหว่าง 2 ประเทศอุตสาหกรรมขนาดใหญ่อย่างจีนและอินเดียอีกด้วย ซึ่งภูฐานถือเป็นชนชาติที่แยกตัวออกมาอย่างสันโดษ อีกทั้งยังเพิ่งเปิดประเทศต้อนรับคนต่างชาติอย่างเป็นทางการเมื่อปี 1974 และอนุญาตให้มีโทรทัศน์ได้ในปี 1999

ที่สำคัญการมาทัวร์ภูฏานเพื่อมาสัมผัสความโดนเด่นเหล่านี้ ยังเปรียบเสมือนการได้มาสัมผัสเอกลักษณ์ของชาติอีกด้วย เนื่องจากการพัฒนาที่ยั่งยืนของกษัตริย์ภูฏานที่ทรงงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย จึงช่วยสร้างความสมดุลในการเติบโตทางเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคม คำนึงถึงความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม ตลอดจนถึงการอนุรักษ์วัฒนธรรม

อยากมาทัวร์ภูฏาน ต้องทำอย่างไร

ใครที่อยากมาทัวร์ภูฏาน แต่ไม่ได้เดินทางมาจากจากอินเดีย, บังกลาเทศ หรือมัลดีฟส์ ก็มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีวีซ่าสำหรับการออกผจญภัย นอกเหนือจากวีซ่าธรรมดา (ราคา 40 ดอลล่าร์สหรัฐ) นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวที่อยากมาเยือน ยังต้องจ่ายค่าธรรมเนียมของแพคเกจรายวันอีกด้วย โดยมีอัตราอยู่ที่ 200 – 250 ดอลล่าร์สหรัฐ