ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


การใช้บริการบริษัทพัฒนาอสังหาฯ ระดับมืออาชีพ มีข้อดีอย่างไรบ้าง

ในปัจจุบันโลกของอสังหาริมทรัพย์เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเพิ่มจำนวนประชากรในช่วง ราว ๆ 20 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่เปลี่ยนแปลงชีวิตและถิ่นที่อยู่อย่างต่อเนื่อง บริษัทด้านอสังหาริมทรัพย์มีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือเจ้าของสินทรัพย์ ทำให้ธุรกรรมการซื้อ-ขาย การเช่าหรือการปล่อยเช่า ไม่ว่าจะเป็นคอนโดติดรถไฟฟ้า คอนโดมือสอง หรือบ้านหรู เป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็วตามความต้องการของผู้เกี่ยวข้อง การเข้าใจลักษณะของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างถูกต้องจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้การทำธุรกรรมเป็นไปอย่างสะดวกสบายและประหยัดเวลาได้มากขึ้น

1. มีความเป็นมืออาชีพ

สำหรับบริษัทบริหารจัดการอสังหาฯ ที่ดี มีชื่อเสียง จะมีลักษณะร่วมกันคือมีความเป็นมืออาชีพสูง ตั้งแต่วินาทีแรกที่เข้าหาลูกค้า นักลงทุน ไปจนถึงการจัดการงานรายวัน ซึ่งเป็นลักษณะที่ส่งผลให้ลูกบ้าน หรือลูกค้ารู้สึกเชื่อใจเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการ ติดต่อสื่อสารที่ถูกที่ถูกเวลา, ความโปร่งใส, และการรักษาธรรมาภิบาลในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งปัจจัยที่กล่าวมามีบทบาทสำคัญในการรักษาความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทบริหารอสังหาฯ และลูกค้า

2. มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมนี้

เมื่อต้องเข้าสู่แวดวงอสังหาริมทรัพย์ที่ลึกและซับซ้อน ไม่ว่าจะในฐานะอะไรก็ต้องมีความรู้ที่มากพอสมควรตั้งแต่ทำเล แนวโน้มอนาคต ไปจนถึงกฏหมายพื้นฐาน บริษัทพัฒนาอสังหาฯ ระดับท็อปก็มักจะมีบุคลากรที่มีความเป็นมืออาชีพเพียบพร้อมไปด้วยประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ และองค์ความรู้ที่จะทำให้ปัญหาของลูกค้าคลี่คลายได้อย่างรวดเร็ว และให้บริการตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะตัวของลูกค้า

3. ให้บริการที่ครอบคลุมความต้องการ

บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ดีมักจะให้บริการด้านอสังหาฯ ที่ค่อนข้างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นการสินเชื่อที่พักอาศัย, เป็นตัวกลางระหว่างผู้เช่า-ให้เช่า, การซ่อมบำรุงปรับปรุงอสังหาฯ, หรือการรายงานผลประกอบการ บริษัทพัฒนาดูแลอสังหาฯ ที่ดีจะมีความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ และความรู้มากพอที่จะให้บริการได้ครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะนักลงทุนที่ต้องมีมืออาชีพมาคอยดูแลทรัพย์สินให้เกิดรายได้ กำไร

4. ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง สานสัมพันธ์แบบยั่งยืน

บริษัทพัฒนาอสังหาฯ ที่ประสบความสำเร็จในอุตสาหกรรมนี้จะยึดความต้องการของลูกค้าเป็นศูนย์กลางเพราะลูกค้าถือเป็นสินทรัพย์มูลค่าสูงของบริษัท ใส่ใจรับฟังความต้องการ เข้าใจจุดมุ่งหมาย พร้อมปรับแต่งและส่งมอบบริการที่ดีที่สุดเพื่อให้ลูกค้าได้สิ่งที่ต้องการ ความสำเร็จเหล่านี้จะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ยาวนานระหว่างบริษัทและลูกค้า และทำให้ลูกค้าอยากกลับมาใช้บริการอยู่เรื่อย ๆ หากมีโอกาส

5. เข้าใจตลาดในเชิงลึก

การคาดการณ์เทรนด์ตลาดล่วงหน้าอาศัยความเข้าใจตลาดในเชิงลึก บริษัทพัฒนาอสังหาฯ ที่ดีจะอ่านเกมข้ามช็อตเสมอว่ามีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างในตลาด ความเข้าใจเรื่องนี้ในเชิงลึกจะทำให้การตัดสินใจต่างเพื่อผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นไปอย่างเฉียบขาด แน่นอน สร้างผลประโยชน์และผลตอบแทนจากการลงทุนให้กับลูกค้าได้ตามที่ลูกค้าคาดหวัง

6. มีการปรับใช้เทคโนโลยีเพื่อยกระดับธุรกิจ

ในยุคดิจิทัล เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับบริษัทบริหารจัดการอสังหาฯ ไม่ว่าจะช่วยให้การสื่อสารรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ การเปลี่ยนขั้นตอนการทำงานให้เป็นอัตโนมัติ  หรือการใช้งานซอฟต์แวร์เฉพาะทาง เหล่านี้ล้วนเป็นการใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ไม่เพียงแต่เพิ่มศักยภาพให้ภายในองค์กรแต่ยังช่วยให้ลูกค้าได้รับข้อมูลต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์แบบ Real-Time

7. มีการจัดการด้านการเงินที่โปร่งใส ตรวจสอบได้

ความโปร่งใสในการทำธุรกิจทุกประเภทคือสิ่งสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด เพราะบริษัทที่โปร่งใส มีธรรมภิบาลสูง จะพร้อมเปิดเผยข้อมูลด้านการเงิน ไม่ว่าจะเป็นค่าธรรมเนียม ค่าใช้จ่ายการให้บริการ และการจัดการการเงิน การเปิดเผยข้อมูลด้านการเงินก็จะทำให้ลูกค้ารู้สึกวางใจ และมั่นใจได้ว่าบริษัทจะไม่มีค่าใช้จ่ายแฝงนอกเหนือจากที่ตกลง เป็นขั้นแรกในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี

8. สร้างเครือข่ายความสัมพันธ์กับบริษัทอื่น ๆ ในอุตสาหกรรมเดียวกัน

ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างบริษัทในอุตสาหกรรมจะส่งผลดีต่อธุรกิจโดยรวม ทั้งบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ไปจนถึงนักกฏหมาย เครือข่ายความสัมพันธ์ที่ดีก็เป็นอีกหนึ่งสินทรัพย์มูลค่าสูงที่บริษัทจัดการอสังหาฯ ต้องรักษาไว้ เพราะจะทำให้ทั้งตัวบริษัทและลูกค้าได้ประโยชน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการมองเห็นสาเหตุของปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

9. ปรับตัวได้ไว มีความยืดหยุ่นสูง

เพราะความนิยมของการใช้ชีวิตมีการเปลี่ยนแปลงตลอดโดยเฉพาะที่อยู่อาศัย โลกของธุรกิจอสังหาฯ จึงมีการเปลี่ยนแปลงต่อเนื่อง บริษัทพัฒนาอสังหาฯ ที่ประสบความสำเร็จได้จะน้อมรับความเปลี่ยนแปลง ปรับตัวให้เข้ากับสภาพตลาด กฏหมายข้อบังคับใหม่ ๆ รวมถึงเทคโนโลยีที่เอื้อให้ธุรกิจคล่องตัวมากขึ้น ศักยภาพในการปรับตัวของบริษัทจะช่วยสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าว่าจะได้รับบริการที่ดี ทันสมัย และศักยภาพดังกล่าวจะช่วยรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดได้อีกด้วย

10. สั่งสมชื่อเสียงในทางที่ดีมาเป็นเวลานาน

เพราะชื่อเสียงในด้านดีจะสั่งสมได้ผ่านการให้บริการที่ดีอย่างต่อเนื่องเท่านั้น ไม่มีทางอ้อมใด ๆ ที่จะช่วยให้บริษัทอสังหาริมทรัพย์มีชื่อเสียงได้นอกจากวิธีนี้ โดยคำชมเชยจากลูกค้า รีวิวในแง่ดี และชื่อเสียงใวงการจะเป็นตัวพิสูจน์ชั้นดี ดังนั้นหากต้องการบริการที่ดีจากบริษัทพัฒนาอสังหาฯ ที่มีคุณภาพสูง การตรวจสอบบริษัทเหล่านั้นจากชื่อเสียงผ่านช่องทางออนไลน์ ผ่านผู้บริโภคที่เป็นลูกค้าของบริษัทเหล่านั้นจริง ๆ ก็จะทำให้มองเห็นภาพสะท้อนตัวตนบริษัทเหล่านั้น

สำหรับนักลงทุนแล้วทั้งหมดนี้อาจจะฟังดูเป็นเรื่องซับซ้อน แต่ก็ไม่ควรมองข้ามหรือเพิกเฉยโดยเด็ดขาด เพราะไม่ว่าคุณจะเป็นลูกค้าหรือนักลงทุน การทำธุรกรรมหรือการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ทุกรูปก็ยังถือเป็นเรื่องใหญ่ใช้เงินจำนวนมาก ดังนั้นการตรวจสอบบริษัทพัฒนาอสังหาฯ ว่ามีลักษณะเด่นสะท้อนคุณภาพตามที่เรากล่าวมาในบทความนี้จึงเป็นเรื่องที่ต้องทำแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพื่อการันตีความสำเร็จ ความอุ่นใจ ที่คุณสมควรได้รับ

ซึ่ง Plus+ เองก็ถือเป็นหนึ่งในบริษัทผู้เชี่ยวชาญบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ ที่ตรงตามเกณฑ์บริษัทพัฒนาอสังหาฯ ที่มีคุณภาพ ใส่ใจในลูกบ้าน ลูกค้า นักลงทุน รวมไปถึงสิ่งแวดล้อม การันตีจากรางวัลมากมายที่ทั้งบริษัทและตัวโครงการที่บริหารจัดการได้รับ ทั้งรางวัลอาคารต้นแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม, รางวัลอาคารประหยัดพลังงาน มาตรฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการ และอื่น ๆ อีกมากมาย

ขอบคุณข้อมูลจาก: https://www.plus.co.th/