ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


สรุปให้แล้ว 4 บัตร travel card ธนาคารไหนดี จุดเด่นจุดด้อยยังไงบ้าง

   เมื่อเรากำลังจะไปท่องเที่ยวต่างประเทศ อีกหนึ่งสิง่ที่ไม่พกไปไม่ได้เลยคือ บัตร travel card บัตรที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบเดินทางไปต่างประเทศ ใช้บัตรจ่ายเงินแทนเงินสดโดยไม่ต้องวุ่นวายแลกเงินก่อนเดินทาง บัตรใบเดียวใช้จ่ายสะดวก ไม่ต้องพกเงินสดติดตัวจำนวนมาก กดเงินสดเบิกออกจากตู้ ATM ในต่างประเทศได้เลย และยังมาพร้อมกับสิทธิประโยชน์ทั้งเรื่องของการคุ้มครองการเดินทาง และส่วนลดต่างๆ ในต่างประเทศอีกมากมาย
แนะนำ บัตร Travel Card จากธนาคารใด ใบไหนน่าสมัครบัตรเครดิต บัตรเดบิต   

   1.ธนาคารกรุงไทย บัตร Krungthai Travel Card ถือเป็นบัตรต้นแบบเนื่องจากธนาคารกรุงไทยเป็นรายแรกที่ออกบัตรท่องเที่ยวในเดือนเมษายน ปี พ.ศ. 2561 ลักษณะเป็นบัตรเติมเงินที่ต้องเติมเงินเข้าไปก่อนใช้งาน บัตรออกมาภายใต้แบรนด์ Visa Card
จุดเด่น
-ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี ใช้จ่ายสบายไม่เสียค่าธรรมเนียมความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน 2.5%
-เป็นบัตรเติมเงินที่แลกเก็บไว้ในบัตร
-แลกเงินและโอนเงินเข้าบัญชีผ่านแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT ง่ายๆ ตลอด 24 ชม.
-รองรับสกุลเงินที่แลกเก็บได้ 19 สกุลเงิน ได้แก่ AUD, CAD, CHF, DKK, EUR, GBP, HKD, INR, JPY, KRW, MYR , NOK, NZD, RUB, SEK, SGD, TWD, USD และ THB
-จำนวนเงินในบัตรสูงสุด (รวมทุกสกุลเงิน) ไม่เกิน 5 ล้านบาท
-ถอนเงินในต่างประเทศได้ 100,000 บาท ต่อวัน
-จำนวนถอนเงินสดสกุลต่างประเทศ 25,000 บาทต่อครั้ง ไม่เกิน 2 ครั้งต่อวัน
-มีประกันอุบัติเหตุการเดินทางทั้งในและต่างประเทศ วงเงินประกันคุ้มครองสูงสุด 6,000,000 บาท รับประกันโดย บมจ. ทิพยประกันภัย
จุดด้อย
-ไม่สามารถใช้จ่ายเงินสกุลที่ไม่รองรับ ไม่สามารถรูดได้ทันทีหากไม่แลกในสกุลเงินที่รองรับก่อน

2.ธนาคารทหารไทย บัตร TMB All Free
บัตรท่องเที่ยวของธนาคารทหารไทยเปิดตัวตามมาในเดือนพฤศจิกายน ปี พ.ศ. 2561 บัตรออกมาภายใต้แบรนด์ Visa Card เช่นเดียวกัน ถือเป็นบัตรเดบิตท่องเที่ยวรายแรกที่ทำบัตรให้รูดใช้ง่ายสกุลเงินต่างประเทศได้โดยไม่ต้องแลกเงินก่อน สามารถใช้จ่ายจากเงินในบัญชีได้เลย นอกจากนี้ยังเป็นเหมือน บัตร atm เบิกเงินสดตู้ ATM ได้ทุกตู้ธนาคารทั่วไทยซึ่งเป็นข้อดีที่ต่างจากบัตรธนาคารอื่น
จุดเด่น
-รองรับทุกสกุลเงิน รูดจ่ายได้ทั่วโลกโดยตรง ไม่ต้องแลกก่อน ใช้ได้ตามยอดเงินในบัญชีซึ่งจะตัดเงินออกจากบัญชีเราโดยตรง
-ไม่มีชาร์จค่าความเสี่ยงการแปลงสกุลเงินต่างประเทศ 2.5%
-ถอนเงินจากตู้ ATM ในไทยได้ทุกสาขา ถอนเงินในต่างประเทศมีค่าธรรมเนียมถูกสุด 75 บาท (บัตรอื่น 100 บาท)
-วงเงินที่สามารถรูดได้ต่อวันสูงสุด 500,000 บาทต่อวันต่อบัตร
-มีส่วนลดและสะสมแต้มสำหรับการใช้จ่ายในประเทศ
-มีประกันการเดินทางให้ฟรี
-ควบคุมวงเงินที่จะใช้จ่ายบัตรได้ด้วยตนเอง ผ่าน TMB TOUCH และระบบรักษาความปลอดภัยยกเลิกการใช้งานบัตรผ่านแอป
จุดด้อย
-มีการจ่ายค่าแรกเข้าและรายปี เหมือนบัตรเดบิตทั่วไป
-ไม่สามารถแลกเงินเก็บเอาไว้ได้ เรตแปรผันตามวันที่ใช้
-ต้องเตรียมเงินในบัญชีไว้ให้เพียงพอต่อการใช้จ่ายตลอดทริป

3.ธนาคารไทยพาณิชย์ บัตร PLANET SCB อีกหนึ่งบัตรที่น่าสนใจเพราะมีลักษณะเป็นบัตรเติมเงินที่ต้องเติมเงินเข้าไปก่อนใช้งานเหมือนกับบัตร Krungthai Travel Card รูดใช้จ่ายได้ทั้งร้านค้าทั่วไปหรือร้านออนไลน์ที่รับบัตร VISA
จุดเด่น
-ฟรีค่าธรรมเนียมรายปีตลอดชีพ ไม่เสียค่าธรรมเนียมความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน 2.5%
-เป็นบัตรเติมเงินที่แลกเก็บไว้ในบัตรหรือรูดจ่ายได้ด้วย
-รองรับการแลกเปลี่ยนทุกสกุลเงิน
-แลกเงินและโอนเงินง่าย ทุกที่ ตลอด 24 ชม. ผ่าน SCB EASY App
-ล็อกเรทได้ แลกเปลี่ยนเงินตราสกุลต่างประเทศเก็บไว้ได้ 13 สกุลเงิน ได้แก่ USD, EUR, GBP, JPY, AUD, CHF, SGD, HKD, NZD, CAD, CNY, KRW และ TWD
-จำนวนเงินในบัตรสูงสุด (รวมทุกสกุลเงิน) ไม่เกิน 5 ล้านบาท
-วงเงินการกดเงินสดผ่านตู้ ATM ในต่างประเทศ สูงสุด 100,000 บาทต่อวัน (ค่าธรรมเนียมการกดเงินสดที่ต่างประเทศ 100 บาท ต่อครั้ง)
-มีประกันการเดินทาง 10 วัน บัตรเดบิตประกัน ดูแลค่าใช้จ่ายค่ารักษาพยาบาล สูงถึง 1,000,000 บาท พร้อมดูแล 24 ชั่วโมง มีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินยามเดินทาง
จุดด้อย
-ไม่สามารถกดเงินสดในประเทศไทยได้

   4.ธนาคารกสิกรไทย บัตร YouTrip powered by KBANK สายท่องเที่ยวแทบไม่มีใครไม่รู้จักกับบัตรท่องเที่ยวของธนาคารกสิกรไทยเปิดตัวในเดือนพฤศจิกายน ปี พ.ศ. 2562 บัตรออกมาภายใต้แบรนด์ Mastercard รูดใช้ง่ายทุกสกุลเงินต่างประเทศ
จุดเด่น
-ฟรีค่าธรรมเนียมสมัครบัตร และค่าธรรมเนียมรายปี
-รูด แตะ จ่าย ช้อปออนไลน์ทั่วโลกได้ทุกสกุลเงินทั่วโลก
-ไม่มีการชาร์จค่าธรรมเนียม 2.5% ในการใช้จ่ายเป็นสกุลเงินต่างประเทศ
-แลกเงินล่วงหน้าเก็บไว้ได้ 10 สกุลเงิน ได้แก่ THB, JPY, HKD, SGD, AUD, EUR, GBP, CHF, USD, CAD ผ่านแอป YouTrip ตามเรทที่ล็อกไว้ ไม่จำกัดจำนวนครั้งที่แลก
-ถอนเงินสดในต่างประเทศ 50,000 บาทต่อเดือน ยกเว้นค่าธรรมเนียมกดเงินสดจากตู้ ATM ที่ต่างประเทศ จนถึง 31 ธ.ค. 2565
-อัปเดตสเตตัสทุกรายจ่ายแบบ Real-time ช่วยให้วางแผนและตรวจสอบการใช้งานบัตรได้สะดวกสบาย
-บัตรสูญหาย สามารถระงับบัตรผ่านแอป YouTrip ได้ทันที
-มีระบบ SmartExchange กรณีที่แลกเงินล่วงหน้าไม่เพียงพอต่อการใช้จ่าย โดยระบบจะแลกเปลี่ยนเงินสกุลบาทในบัญชีเป็นสกุลเงินอื่นตามอัตราแลกเปลี่ยนในเวลานั้น
   -วงเงินที่รูดได้สูงสุด 500,000 บาทต่อวัน ผ่านร้านค้าทั่วโลกที่รองรับ Mastercard หรือร้านค้าออนไลน์โยดมียอดใช้จ่ายรวมกันไม่เกิน 500,000 บาท / วัน
   -โปรโมชั่น ชวนเพื่อนมา สมัครบัตรเดบิต YouTrip รับโบนัสคนละ 100 บาท ชวนได้สูงสุด 10 คน ถึง 31 ธันวาคม 2565
จุดด้อย
-ไม่มีประกันการเดินทางให้
ข้อมูลข้างต้นชี้ได้ชัดเจนถึงข้อดีของบัตร travel card ของแต่ละธนาคาร สรุปว่าบัตรใบไหนดีกว่า ขึ้นอยู่กับความต้องการใช้งานของแต่ละคน ต้องการเรตถูกที่สุด ควรเลือกบัตรที่ล็อกเรตแลกเก็บไว้ได้ หรือถ้าต้องการความสะดวกไว้ก่อนก็เลือกบัตรที่รูดจ่ายได้เลย หรือบัตรที่อัพเดทข้อมูลการใช้จ่ายตลอดเวลาเพื่อให้วางแผนใช้เงินได้ง่ายมากขึ้นนั่นเอง   

ถือว่าทั้ง 4 ใบที่นำมาแนะนำกันนั้นมีข้อดี จุดด้อยที่ต่างกันไป แนะนำว่าให้ลองเปรียบเทียบและเลือกให้เหมาะกับการใช้งานในการท่องเที่ยวของเราดูนะคะ