ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


กระทู้เมื่อเร็วๆ นี้

หน้า: [1] 2 3 4 5 6 ... 10
1
   กาแฟคือเครื่องดื่มที่เป็นที่นิยมเสมอมา หลายคนดื่มกาแฟให้ร่างกายตื่นตัวพร้อมทำงานในช่วงเช้า หลายคนดื่มกาแฟระหว่างวันเพื่อความกระปรี้กระเปร่าระหว่างวัน แต่รู้ไหมว่า กาแฟอะไรเข้มสุด วันนี้เรามี 5 เมนูกาแฟยอดนิยมมาเปรียบเทียบ

1. เอสเพรสโซ่ (Espresso)
   วิธีการชง Espresso คือการนำเมล็ดกาแฟคั่วบดไปสกัดด้วยแรงดันออกมาด้วยอุณหภูมิความร้อนสูง เป็นการสกัดกาแฟด้วยแรงดันจนได้ออกมาเป็นช็อตกาแฟสีดำเข้ม โดยมากนิยมดื่มแบบร้อนไม่ผสมอะไร และจะมีระดับความเข้มมากที่สุด แต่ระยะหลังจะมีการผสมนมหรือน้ำตาล รวมไปถึงนำไปทำเมนูเย็นและปั่นเพื่อทำให้ดื่มง่ายขึ้น

2. อเมริกาโน่ (Americano)
   กาแฟที่คนไทยมักเรียกกันจนติดปากว่ากาแฟดำ เป็นการนำช็อตเอสเปรสโซ่มาผสมเข้ากับน้ำร้อนเพื่อเจือจางความขมของกาแฟลงให้ดื่มง่าย มีทั้งแบบร้อนและเย็น บางสูตรมีการผสมน้ำตาลหรือน้ำผึ้งเพื่อให้มีรสชาติที่ดีขึ้น โดย อเมริกาโน่ มีความเข้มรองลงมาจากเอสเปรสโซ่

3. longblack
   เป็นกาแฟที่คล้ายคลึงกับอเมริกาโน่ แต่จะมีความแตกต่างในขั้นตอนการชง คือ อเมริกาโน่จะใส่ช็อตกาแฟลงไปในแก้วก่อน จากนั้นจึงเติมน้ำร้อนลงไป แต่ longblack นั้นจะเติมน้ำร้อนลงไปก่อนจากนั้นค่อยเทช็อตกาแฟลงไป ซึ่งจะทำให้ที่ส่วนบนจะมีความเครม่าที่ขอบแก้วกาแฟ ซึ่งมีกลิ่นหอม ซึ่งมีความเข้มรองมาจากเอสเพรสโซ่

4. มัคคิอาโต (Macchiato)
   กาแฟมัคคิอาโต มีวิธีการชงคือนำช็อต Espresso มาเทฟองนมลงไปที่ด้านบน ซึ่งจะช่วยให้มีรสชาตินุ่มนวล มีความหวานจากรสชาติของนมแต่ยังคงความขมของกาแฟเอาไว้ครบถ้วน เหมาะสำหรับคนที่ชอบดื่มกาแฟผสมนมที่มีความละมุนมากขึ้น โดย กาแฟมัคคิอาโต นี้มีความเข้มรองมาจาก 3 อันดับแรก

5. คาปูชิโน่ (Cappuccino)
   เป็นกาแฟที่มีฟองนุ่ม ๆ อยู่ที่ด้านบน วิธีชงมีส่วนผสม 3 อย่าง คือ ช็อตเอสเปรสโซ่ 1 ส่วน นมร้อน 2 ส่วน ฟองนม 1 ส่วน และอาจโรยผงโกโก้เอาไว้ที่ด้านบนสุด คาปูชิโน่ ดื่มได้ทั้งแบบร้อนและเย็น โดยมีความเข้มน้อยที่สุดจาก 4 สูตรแรก

   ทั้ง 5 กาแฟนี้คือเมนูที่มีคนดื่มมากที่สุด โดยความเข้มของแต่ละสูตรขึ้นอยู่กับส่วนผสมของสูตรนั้น ๆ ส่วน กาแฟอะไรเข้มสุด ก็คงจะได้คำตอบจากบทความนี้กันแล้ว ถ้าเป็นคอกาแฟแล้ว การลองชิมกาแฟหลากหลายสูตรจะช่วยให้เราค้นพบความเป็นเอกลักษณ์ของกาแฟแต่ละแบบได้ รับรองว่าอาจจะมีสูตรกาแฟในดวงใจไว้ดื่มสลับสับเปลี่ยนกันในหลายโอกาสก็ได้

ชมรายละเอียดเพิ่ม
https://www.nespresso.com/th/th/what-is-cappuccino
https://www.nespresso.com/th/th/what-is-espresso
2
รู้หรือไม่? กาแฟคาปูชิโน่ ที่เป็นเมนูโปรดของหลาย ๆ คน เกิดขึ้นมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17 และกลายเป็นเครื่องดื่มหลักของประเทศอิตาลีเมื่อประมาณปี ค.ศ. 1930 จากนั้นเมนูกาแฟนมเมนูนี้ก็กลายเป็นที่รู้จักของคอกาแฟทั่วโลกในเวลาไม่นาน บทความนี้มีแนะนำสูตรชง คาปูชิโน่ร้อน /เย็น แสนอร่อยสไตล์คาเฟ่ที่คุณสามารถชงเองง่าย ๆ ที่บ้าน
5 ไอเดียชง กาแฟคาปูชิโน่ สไตล์คอฟฟี่คาเฟ่
สำหรับไอเดียที่ Nespresso จะมาแนะนำไม่ใช่เมนู คาปูชิโน่ร้อน แบบ Original ที่มีส่วนผสมของเอสเพรสโซ่, นมสดและฟองนม แต่จะเป็นไอเดียสุดครีเอทีฟที่จะทำให้คุณเพลิดเพลินไปกับรสชาติแสนอร่อยที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร
1. HAZELNUT CAPPUCCINO
คาปูชิโน่ ที่ผสานกลิ่นหอมของเมล็ดกาแฟคั่วและเฮเซลนัทเข้ากันอย่างลงตัว
วัตถุดิบ
-   กาแฟ
-   น้ำร้อน
-   ผงเฮเซลนัท
-   น้ำตาล
-   ไซรัป
-   นมสด
วิธีทำ
 เริ่มต้นด้วยการเตรียมใส่ผงเฮเซลนัทและน้ำตาลเข้าด้วยกันนำไปอบให้ได้สีเหลืองทอง จากนั้นเทไซรัปและนมสดเพื่อตีฟองนมนุ่ม ๆ เตรียมเอาไว้แต่งหน้าเมนูกาแฟแก้วโปรดและชงกาแฟกับน้ำร้อนใส่ลงในแก้วตามด้วยฟองนมและผงเฮเซลนัทและน้ำตาลอบลงไป
2. ALMOND ORGEAT CAPPUCCINO
หากคุณอยากลองลิ้มรส คาปูชิโน่ร้อน ผสานกลิ่นหอมและรสชาติของอัลมอนด์แนะนำเมนูนี้เลย
วัตถุดิบ
-   กาแฟ
-   น้ำร้อน
-   ไซรัปอัลมอนด์
-   นมสด
-   ฟองนม
-   ผงโกโก้
วิธีทำ
เริ่มต้นด้วยการใส่ไซรัปอัลมอนด์ 2 ช้อนชาลงในแก้วเสิร์ฟ จากนั้นเทกาแฟที่ชงกับน้ำร้อนแล้วตามลงไปแต่งหน้าด้วยฟองนมนุ่ม ๆ และโรยผงโกโก้เพื่อความสวยงาม
3. DOLCE TRUFFLE CAPPUCCINO
ลิ้มรสชาติเมนูกาแฟ คาปูชิโน่ ที่กลมกล่อมยิ่งขึ้นกว่าเดิมด้วยช็อกโกแลตทรัฟเฟิล
วัตถุดิบ
-   กาแฟ
-   น้ำร้อน
-   คาราเมลไซรัป
-   ซอสช็อกโกแลตทรัฟเฟิล
-   ฟองนม
วิธีทำ
เริ่มต้นด้วยการใส่คาราเมลไซรัปลงในแก้วเสิร์ฟ จากนั้นใส่ฟองนมตามลงไปและปิดท้ายด้วย กาแฟชงกับน้ำร้อนและซอสช็อกโกแลตทรัฟเฟิล หรือเลือกกาแฟสดที่สกัดจากแคปซูลกาแฟ Cocoa Truffle ให้กลิ่นหอมชวนรับประทาน
4. CAPPUCCINO D'AMOUR ROSÉ
คาปูชิโน่ สีชมพูนมสุดน่ารักที่เหมาะสำหรับคนแพ้แลตโตสในนมวัว
วัตถุดิบ
-   กาแฟ
-   น้ำร้อน
-   นมถั่วเหลือง
-   ผงลูกกระวาน (คาดาม่อม)
-   น้ำบีทรูต
วิธีทำ
เริ่มต้นด้วยการใส่นมถั่วเหลืองผสมน้ำบีทรูตและผงลูกกระวาน (คาดาม่อม) เพื่อทำฟองนมสีชมพูหวาน จากนั้นเทกาแฟที่ชงกับน้ำร้อนตามลงไปในแก้วเสิร์ฟ
5. สูตรคาปูชิโน่เย็น ICED CAPPUCCINO
สูตรคาปูชิโน่เย็น เมนูกาแฟยอดฮิตของคนไทยเพราะช่วยเติมความสดชื่นเต็มขั้น
วัตถุดิบ
-   กาแฟ
-   น้ำร้อน
-   น้ำตาล
-   อบเชยป่น
-   นมสด
-   น้ำแข็ง
วิธีทำ
เริ่มต้นด้วยการผสมกาแฟและน้ำตาลตามต้องการใส่ลงในแก้วเสิร์ฟที่ใส่น้ำแข็งไว้แล้ว จากนั้นเทนมสดตามลงไปและแต่งหน้าด้วยฟองนมและอบเชยป่นโรยแต่งหน้าเพิ่มกลิ่นหอมชวนดื่ม
กาแฟคาปูชิโน่ สไตล์คอฟฟี่คาเฟ่รสชาติหวานผสานกลิ่นหอมของธัญพืชสามารถทำเองได้ ซึ่งคุณสามารถเพิ่มความสะดวกสบายในการทำเมนูกาแฟสดแสนอร่อยได้ด้วยเครื่องชงและแคปซูลกาแฟ Nespresso ทำให้เมนูกาแฟแก้วโปรดมีเอกลักษณ์โดดเด่นไม่ซ้ำใคร

ชมเพิ่มที่เว็บไซด์
https://www.nespresso.com/th/th/nespresso-iced-coffee
https://www.nespresso.com/th/th/nespresso-iced-coffee
https://www.nespresso.com/th/th/nespresso-iced-coffee
3
   เวลาที่เราไปเข้าพักตามโรงแรมคุณภาพ มักจะมีการต้อนรับกันด้วย welcome drink หรือเครื่องดื่มต้อนรับที่จะมอบความสดชื่น ความประทับใจให้กับเราก่อนเสมอ ซึ่งเป็นกลยุทธ์การตลาดอย่างหนึ่งที่สำคัญ เพราะ welcome drink โรงแรม ช่วยสร้างความประทับใจแรกเพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับการให้บริการ welcome drink กัน พร้อมแนะนำเมนูเครื่องดื่มที่เหมาะกับการทำ welcome drink ที่คุณสามารถเอาไปทำตามกันได้
   welcome drink คืออะไร
   หากถามว่า welcome drink คืออะไรนั้น ก็สามารถแปลตามตัวได้เลยก็คือเครื่องดื่มที่ใช้สำหรับการต้อนรับ จะพบมากในกลุ่มธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท สปา ร้านนวด เพื่อเป็นการต้อนรับลูกค้าเพื่อสร้างความประทับใจให้ลูกค้าที่เดินเข้ามามีเครื่องดื่มเย็น ๆ รอเสิร์ฟ เมื่อลูกค้าประทับใจก็จะช่วยให้เราสามารถพูดคุยและปิดดีลกับลูกค้าได้ง่าย ภาพลักษณ์ในการบริการก็จะดีขึ้นด้วย หลาย ๆ ที่จึงให้ความสำคัญกับ welcome drink เป็นอย่างมาก
   แนะนำเมนูที่เหมาะเป็น welcome drink ในธุรกิจคุณ
   welcome drink ไม่ได้เหมาะกับธุรกิจโรงแรมหรือสปาเท่านั้นแต่ยังเหมาะกับธุรกิจหลาย ๆ ประเภทที่ต้องอาศัยการพูดคุย ต้องใช้เวลาในการรอ หรือการขายบริการที่ต้องสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า เช่น ร้านทำผม ร้านทำเล็บ คลินิกต่าง ๆ รวมไปถึงร้านอาหาร วันนี้เราเลยมีไอเดียเมนู welcome drink มาฝาก
   1.น้ำผลไม้
   เป็นเมนูเครื่องดื่ม welcome drink โรงแรม สุดคลาสสิก แนะนำให้เลือกน้ำผลไม้คั้นสดจะดีกว่าน้ำผลไม้สังเคราะห์ที่แต่งสีและกลิ่น เพราะจะช่วยเสริมภาพลักษณ์ความตั้งใจว่าเราใส่ใจเลือกวัตถุดิบมาทำ แถมยังดื่มง่าย เป็นเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพ แนะนำว่าควรมีผลไม้หลากหลายประเภทอย่างน้ำส้ม น้ำแตงโม น้ำลำไย น้ำมะพร้าว เป็นต้น เพื่อรองรับกับความชอบที่หลากหลายของลูกค้า
   2. น้ำสมุนไพร
   นอกจากน้ำผลไม้แล้วน้ำสมุนไพรไทยก็เป็นอีกทางเลือก ช่วยปลุกความสดชื่น ยกตัวอย่างเช่นน้ำอัญชันมะนาว น้ำใบเตย น้ำตะไคร้ น้ำมะตูม น้ำเก๊กฮวย น้ำกระเจี๊ยบ เป็นต้น
   3.อิตาเลียนโซดา
   น้ำอัดลมหรืออิตาเลียนโซดาเป็นอีกหนึ่งเครื่องดื่ม welcome drink ที่น่าสนใจ ลองคิดดูว่าลูกค้าเดินเข้ามาร้อน ๆ หากได้ดื่มเครื่องดื่มเย็น ๆ ซ่า ๆ สักแก้วก็ช่วยดับร้อนและปลุกความสดชื่นได้ง่าย ๆ แล้ว
   4.กาแฟ
   กาแฟเป็นเครื่องดื่มยอดฮิตอีกอย่างหนึ่งที่น่าสนใจนำมาทำเป็น welcome drink โดยมีเครื่องทํากาแฟแคปซูล ของ Nespresso และ เครื่องตีฟองนม ของ Nespresso ไว้บริการ ไม่ว่าจะเป็นเมนูกาแฟดำอย่างเอสเพรสโซ่ อเมริกาโน่ หรือจะเป็นกาแฟผสมนมง่าย ๆ อย่าง ลาเต้ คาปูชิโน่ ทำให้มีทางเลือกสำหรับบริการให้ลูกค้าเลือกเองได้แบบนี้ยิ่งดีสร้างความประทับใจได้แน่นอน

   ใครที่ทำธุรกิจแล้วอยากจะใช้กลยุทธ์การสร้างความประทับใจให้ลูกค้าด้วย welcome drink ลองนำไปเป็นไอเดียกันดูจะเสิร์ฟเครื่องดื่มง่าย ๆ อย่างน้ำผลไม้ ชาสมุนไพร หรือจะเป็นกาแฟแบบ อเมริกาโน่ คาปูชิโน่ ลาเต้ อะไรแบบนี้ก็ได้ขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณเลยว่าแบบไหนตอบโจทย์มากกว่ากัน
4
อันดับผ้าม่านยี่ห้อยอดนิยม

อันดับผ้าม่านยอดนิยม เลือกยี่ห้อไหนดี เลือกซื้ออย่างไร แบบไหนเหมาะกับบ้าน ราคาไม่แพง คุณภาพดี

ผ้าม่าน ยี่ห้อไหนดี คำถามยอดฮิตสำหรับคนแต่งบ้าน ปัจจุบันบ้านเกือบทุกหลังต้องมีผ้าม่านแน่นอน เพราะผ้าม่านถือได้ว่าเป็นอุปกรณ์ตกแต่งบ้านยอดนิยมประเภทหนึ่ง นอกจากช่วยเพิ่มความสวยงามให้ที่พักอาศัยแล้ว ยังมีประโยชน์ด้านอื่น ๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นป้องกันแสงแดด ช่วยสะท้อนแสงยูวีจากแสงแดด ป้องกันฝุ่น ป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอก รวมถึงสร้างความเป็นส่วนตัวให้กับผู้อาศัยด้วย

ดังนั้น การเลือกซื้อผ้าม่าน ควรเลือกผ้าม่าน ยี่ห้อไหนดี จึงต้องดูรายละเอียดรีวิวผ้าม่าน ซื้อผ้าม่าน ที่ไหนดี จากผู้ใช้งานหลากหลายแห่ง เพื่อช่วยสนับสนุนการตัดสินใจเลือกผ้าม่าน ยี่ห้อไหนดี ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์เจ้าของบ้าน มาดูกันว่า 5 อันดับยี่ห้อผ้าม่าน น่าใช้ ดีไซน์ดี ราคาเหมาะสม มียี่ห้อไหนน่าสนใจบ้างไปพร้อมกัน

รีวิวผ้าม่านในปัจจุบันมีความจำเป็นแค่ไหน ? เลือกอย่างไรให้โดนใจ ใช้งานได้ยาวๆ

เปลี่ยนบรรยากาศห้องให้น่ามองด้วยการเลือกผ้าม่าน ยี่ห้อไหนดี ดีไซน์ทันสมัย ในปัจจุบันผ้าม่านมีหลากหลายชนิดให้เลือกซื้อ เจ้าของบ้านสามารถศึกษารายละเอียดชนิดของผ้าม่าน เลือกซื้อผ้าม่าน ที่ไหนดี หรือราคาผ้าม่าน เมตรละเท่าไหร่ หาข้อมูลเหล่านี้ได้จากรีวิวผ้าม่านบนสื่อสังคมออนไลน์ เว็บไซต์ร้านผ้าม่าน ซึ่งจะอธิบายรายละเอียดของผ้าม่านแต่ละชนิด รีวิวจากการใช้งานจริง รวมถึงมีรูปภาพการติดตั้งผ้าม่านให้เลือกชม จะเห็นได้ว่าการรีวิวผ้าม่าน มีส่วนช่วยในการตัดสินใจเลือกผ้าม่าน ยี่ห้อไหนดีได้อีกทางหนึ่ง

เพราะผ้าม่านเป็นอุปกรณ์ตกแต่งบ้านที่มีความสำคัญอย่างหนึ่ง สร้างบรรยากาศบ้านให้น่าอยู่ มีความจำเป็นต่อการตกแต่งภายในบ้านให้ดูดี โดดเด่นอย่างมีสไตล์ ซึ่งความชื่นชอบของแต่ละคนแตกต่างกัน ทำให้การรีวิวผ้าม่านมักมีการรวบรวมแนวทางการตกแต่งบ้านด้วยผ้าม่าน ยี่ห้อไหนดีหลากหลายสไตล์ไว้ เพื่อช่วยสนับสนุนการตัดสินใจเลือกชนิดผ้าม่านได้ถูกต้อง เลือกสีผ้าม่านให้เข้ากับเฟอร์นิเจอร์หรือห้อง เหมาะกับการตกแต่งบ้านให้เข้ากับไลฟ์สไตล์อย่างลงตัว

5 อันดับผ้าม่าน ยี่ห้อไหนดี มีคุณภาพ ราคาสุดคุ้ม

เลือกผ้าม่าน ยี่ห้อไหนดี

อันดับยอดนิยมผ้าม่าน ยี่ห้อไหนดี ราคาคุ้มค่า มีคุณภาพ มีคุณสมบัติตรงกับความต้องการใช้งาน เลือกซื้อผ้าม่าน ที่ไหนดีให้เข้ากับสไตล์เจ้าของบ้าน มาดูกันว่า 5 อันดับยี่ห้อผ้าม่าน จากรีวิวผ้าม่านที่น่าสนใจมีอะไรบ้าง

1. KACEE

KACEE เป็นยี่ห้อผ้าม่านที่มีให้เลือกหลายรูปแบบทั้งสีและชนิดผ้าม่าน ซึ่งมีคุณภาพ มีความทนทานต่อการใช้งาน ราคาสมเหตุสมผล อีกทั้งยังสามารถเลือกคุณสมบัติผ้าม่าน รูปแบบของดีไซน์แต่ละรุ่นได้ตามความต้องการ เพราะยี่ห้อ KACEE ได้มีการออกแบบผ้าม่านร่วมกับบริษัทผ้าม่านชั้นนำจากต่างประเทศ ทำให้ได้ดีไซน์โดดเด่น ผ้าม่านมีคุณภาพและตอบโจทย์การใช้งาน

2. HOME LIVING STYLE

ยี่ห้อผ้าม่าน HOME LIVING STYLE เป็นแบรนด์ผ้าม่านชั้นนำ ผลิตและจำหน่ายผ้าม่านคุณภาพดี มีการออกแบบสไตล์คลาสสิก มีลวดลายคมชัดเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว พร้อมทั้งมีสีให้เลือกหลากหลาย ซึ่งมีขั้นตอนการตัดเย็บจากช่างผู้ชำนาญ จึงได้ผ้าม่านที่สวยงาม มีความประณีต โดยผ้าม่านของ HOME LIVING STYLE มีคุณสมบัติทนทานต่อการใช้งาน ไม่ฉีกขาดง่าย มีความยืดหยุ่นและทิ้งตัวได้ดี รวมไปถึงช่วยป้องกันแสงยูวีได้ จึงเหมาะกับการตกแต่งบ้านได้ทุกสไตล์เลยทีเดียว

3. IKEA

ยี่ห้อผ้าม่าน IKEA มีให้เลือกหลากหลายรุ่น แต่ละรุ่นมีความโดดเด่นแบบไม่ซ้ำใคร ด้วยเป็นแบรนด์ชั้นนำด้านอุปกรณ์ตกแต่งบ้านแล้ว แน่นอนว่าผ้าม่านต้องมีคุณภาพดี ดีไซน์ทันสมัย ราคาไม่แพง มีรูปแบบให้เลือกทุกสไตล์ตามความชื่นชอบ จากการรีวิวผ้าม่านยี่ห้อ IKEA ได้รับความนิยมอย่างมาก หมดปัญหาว่าผ้าม่าน ยี่ห้อไหนดี สามารถเลือกซื้อได้ทั้งร้านค้าและออนไลน์

4. INDEX HOME

INDEX HOME เป็นยี่ห้อผ้าม่านที่ผลิตและจำหน่ายผ้าม่านหลายรูปแบบ มีผ้าม่านชนิดต่าง ๆ ให้เลือกซื้อตามความต้องการ แล้วยังมีคุณภาพดี การออกแบบผ้าม่านเหมาะกับทุกสไตล์ ราคาไม่แพง มีความคุ้มค่าต่อการใช้งานได้ระยะยาว ถือได้ว่าตอบโจทย์ตามความต้องการสำหรับการลงทุนซื้อผ้าม่านตกแต่งบ้าน

5. PASAYA

ผ้าม่าน ยี่ห้อไหนดี เมื่อพูดถึงแบรนด์ผ้าม่าน PASAYA ก็ต้องคุ้นเคยเป็นอย่างแน่นอน เป็นแบรนด์ผ้าม่านที่มีชื่อเสียง ผลิตผ้าม่านจากวัสดุคุณภาพดี มีคุณสมบัติหลากหลาย มีความทนทาน จึงเหมาะกับการใช้งานและตกแต่งบ้านทุกสไตล์ เพราะมีการออกแบบที่ทันสมัย โดดเด่นไม่เหมือนใคร แล้วยังมีสี ลดลายให้เลือกจำนวนมาก ราคาไม่แพงด้วย

ข้อดีของยี่ห้อผ้าม่าน เลือกอย่างไรดี?

มาดูกันว่าข้อดีของผ้าม่าน ยี่ห้อไหนดี เลือกซื้อผ้าม่าน ที่ไหนดี เพิ่มสีสันให้บ้านน่าอยู่ มีชีวิตชีวามากขึ้น ซึ่งประโยชน์และข้อดีของผ้าม่าน ยี่ห้อไหนดี มีดังนี้

  • ช่วยสร้างบรรยากาศภายในบ้านให้น่าอยู่มากขึ้น สีผ้าม่าน ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย
  • ช่วยควบคุมแสงภายในบ้าน
  • ช่วยลดการใช้พลังงานสิ้นเปลืองได้
  • ช่วยให้ความเป็นส่วนตัวให้กับผู้อาศัยภายในบ้าน บังสายตาจากบุคคลภายนอก
  • ช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอกได้ และภายในบ้านได้พอสมควร
  • ช่วยป้องกันแสงแดด ไม่ให้บ้านร้อนจนเกินไป
  • ช่วยสะท้อนความร้อน ป้องกันความร้อนได้
  • ช่วยป้องกันฝุ่นละอองได้
  • สามารถใช้แบ่งห้องได้เป็นสัดส่วน กรณีที่มีพื้นที่จำกัด ราคาผ้าม่าน เมตรละเท่าไหร่ น่าจะถูกกว่าการกั้นห้องด้วยวิธีอื่น
  • ช่วยปิดบังสภาพแวดล้อมที่มีมุมไม่น่ามอง เช่น วัด โรงพยาบาล สถานที่สาธารณะ เป็นต้น

สรุป

ผ้าม่านเป็นของตกแต่งบ้านที่มีความจำเป็นต่อการใช้งาน โดยการเลือกซื้อผ้าม่าน ที่ไหนดี หรือผ้าม่าน ยี่ห้อไหนดี ควรเลือกผ้าม่านที่มีคุณภาพ มีคุณสมบัติตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุด ซึ่งสามารถดูรายละเอียดเปรียบเทียบยี่ห้อจากรีวิวผ้าม่าน เพื่อช่วยให้ตัดสินใจเลือกผ้าม่าน ยี่ห้อไหนดี ได้ตรงกับความต้องการและเข้ากับสไตล์การตกแต่งบ้านมากที่สุด สร้างบรรยากาศให้บ้านน่าอยู่มากขึ้นอีกด้วย
6
ขออนุญาต อัพเดทกระทู้
7
ขออนุญาต อัพเดทกระทู้
9
ขออนุญาต อัพเดทกระทู้
หน้า: [1] 2 3 4 5 6 ... 10