ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


รู้ก่อนซื้อ! ประกันรถ ev คุ้มครองอะไรบ้าง เบี้ยประกันต่างจากรถน้ำมันหรือไม่

   ปัจจุบัน ผู้ใช้รถหลายคนเลือกที่จะซื้อ  รถ ev คือ ‘รถยนต์ไฟฟ้า’ มาใช้งานแทนรถยนต์สันดาปที่ใช้พลังงานน้ำมัน เพราะแม้จะมีราคาแพงกว่า แต่ก็มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยกว่า แถมยัง มีข้อดีของรถยนต์ไฟฟ้า คือช่วยประหยัดค่าน้ำมันในระยะยาวได้ด้วย แต่สำหรับมือใหม่หัดขับอาจจะต้องศึกษาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ ประกันรถยนต์ไฟฟ้า ให้ดีก่อนซื้อ ไม่เช่นนั้นอาจทำให้เสียผลประโยชน์ได้ โดยวันนี้เราก็จะพาทุกคนไปดูกันให้ชัด ๆ ว่า ประกันรถพลังงานไฟฟ้านั้นให้ความคุ้มครองอะไรบ้าง และเบี้ยประกันแพงกว่าประกันรถยนต์ทั่วไปหรือไม่

ความคุ้มครองของประกันรถยนต์ไฟฟ้า
   โดยพื้นฐานแล้ว ประกันรถไฟฟ้า ให้ความคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินของทั้งผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และคู่กรณีคล้ายกับประกันรถยนต์ทั่วไป แต่ที่แตกต่างกันคือประกันรถพลังงานไฟฟ้าจะมีความคุ้มครองพิเศษเพื่อรองรับคุณสมบัติของรถยนต์ไฟฟ้าที่แตกต่างจากรถยนต์สันดาป โดยมีความคุ้มครองดังต่อไปนี้
ความคุ้มครองทั่วไป
   - คุ้มครองอุบัติเหตุทั้งแบบมีคู่กรณีและไม่มีคู่กรณี
   - คุ้มครองทั้งตัวผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และคู่กรณี
- คุ้มครองความเสียหายจากไฟไหม้ น้ำท่วม และภัยธรรมชาติ
- สิทธิ์ในการซ่อมศูนย์สำหรับรถอายุไม่เกิน 5 ปี
ความคุ้มครองพิเศษ
- คุ้มครองความเสียหายจากสายชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของบริษัทประกัน)
- คุ้มครองความเสียหายต่อเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้าน (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของบริษัทประกัน)
- คุ้มครองบุคคลภายนอกจากอุบัติเหตุอันเกิดจากการใช้งานเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าทั้งที่บ้านและสถานีชาร์จสาธารณะ (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของบริษัทประกัน)

ค่าเบี้ยประกันและวงเงินประกันของประกันรถยนต์ไฟฟ้า
   โดยปกติแล้ว ประกันรถไฟฟ้า มักจะมีวงเงินความคุ้มครองเริ่มต้นมากกว่าประกันรถยนต์สันดาปทั่วไปพอสมควร โดยวงเงินคุ้มครองเริ่มต้นของประกันรถยนต์ชั้น 1 ทั่วไปจะอยู่ที่ 4-5 แสนบาท แต่สำหรับประกันรถพลังงานไฟฟ้าจะเริ่มต้นที่ 1 ล้านบาท  สาเหตุที่วงเงินความคุ้มครองสูงขนาดนี้ก็เพราะรถยนต์ไฟฟ้าใช้เทคโนโลยีที่แตกต่างจากรถยนต์พลังงานน้ำมัน ไม่ว่าจะเป็นแบตเตอรี่ เครื่องยนต์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ไปจนถึงค่าซ่อมบำรุงล้วนมีราคาแพงกว่ารถยนต์ทั่วไป อีกทั้งจำนวนช่างซ่อมที่มีความเชี่ยวชาญและศูนย์บริการของรถยนต์ไฟฟ้าก็มีจำนวนน้อยกว่าศูนย์บริการรถยนต์ทั่วไปด้วย และด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ ‘เบี้ยประกัน’ ของรถยนต์ไฟฟ้ามีอัตราที่สูงกว่ารถยนต์ทั่วไป แต่จะมากจะน้อยก็ขึ้นอยู่กับบริษัทประกันที่เลือก 

   เลือกประกันรถยนต์ไฟฟ้าแบบไหนดี?
สำหรับใครที่ยังสงสัยว่าควรจะเลือกซื้อ ประกันรถ ev แบบไหนดี เราขอแนะนำให้พิจารณาเลือกจากองค์ประกอบดังต่อไปนี้
ความคุ้มครอง
สิ่งที่ควรพิจารณาเป็นอันดับแรกคือ ประกันภัยที่เรากำลังเลือกซื้อนั้นมีความคุ้มครองครอบคลุมถึงอะไหล่ต่าง ๆ ให้อย่างครบถ้วนหรือไม่ โดยเฉพาะชิ้นส่วนสำคัญอย่าง แบตเตอรี่ที่งรถยนต์ไฟฟ้าในทุกรุ่น
เบี้ยประกัน
ความคุ้มครองที่สูงย่อมหมายถึงอัตราของเบี้ยประกันที่สูงตามไปด้วย แต่ก็ต้องมาพร้อมกับความคุ้มค่าด้วย ไม่ใช่ว่าจ่ายเบี้ยสูงแต่คุ้มครองไม่ครอบคลุม เวลาเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นต้องมาควักกระเป๋าออกเองทีหลัง
ทุนประกัน
อย่างที่เราได้บอกไปแล้วว่ารถยนต์ไฟฟ้านั้นมีราคาแพง ค่าอะไหล่และค่าซ่อมบำรุงก็แพงกว่ารถยนต์ทั่วไป ดังนั้นเราจึงควรเลือกประกันที่ให้วงเงินคุ้มครองสูง ๆ ยิ่งทุนประกันนั้นสูงมากเท่าไหร่ การคุ้มครองดูแลย่อมเป็นไปด้วยความสะดวกสบายมากขึ้นเท่านั้น
   ทั้งหมดนี้คือสาระความรู้ดี ๆ เกี่ยวกับ ประกันรถยนต์ไฟฟ้า ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ และสำหรับใครที่กำลังมองหาประกันภัยรถไฟฟ้าที่ให้ความคุ้มครองคุ้มค่า เราขอแนะนำประกัน Directasia ที่ประกันชั้น 1 สำหรับรถไฟฟ้า คุ้มครองทั้งตัวรถ แบตเตอรี่ และอุปกรณ์ชาร์จไฟฟ้า วงเงินคุ้มครอง 500,000 – 10,000,000 ล้านบาท พร้อมบริการช่วยเหลือ 24 ชั่วโมง เบี้ยประกันเริ่มต้นเพียง 2,xxx บาท/เดือน ที่สำคัญคือสามารถผ่อนชำระ 0% นานสูงสุดถึง 10 เดือน  สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของ Directasia หรือโทร 02-767-7777  ได้ตลอด 24 ชั่วโมง