ในทุก ๆ เดือนผู้หญิงจะต้องเจอกับการเป็นประจำเดือน หรือเป็นเมนส์ ซึ่งอาจมีอาการปวดกล้ามเนื้อตอนเป็นประจำเดือน เป็นเมนแล้วปวดแขนปวดขา มีประจำเดือนปวดกระดูก หรือ บางรายอาจปวดท้องประจําเดือนรุนแรง หรือ
ปวดท้องเมนส์ คลื่นไส้ร่วมด้วย
อาการปวดประจำเดือนเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกของโรคร้ายได้ ควรพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยสาเหตุ แล้วปวดท้องประจำเดือน อาการแบบไหนที่ควรพบแพทย์ พร้อมบอกวิธีแก้ปวดท้องเมนส์แบบเร่งด่วน ติดตามได้จากบทความนี้ค่ะ
ปวดท้องประจำเดือนประจำเดือน คือเลือดและเนื้อเยื่อบุโพรงมดลูกที่หลุดออกมาทุกรอบเดือนของผู้หญิง ซึ่งจะแตกต่างกันไปในแต่ละคน ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นทุก 21-35 วัน แต่ละรอบจะอยู่นาน 3-7 วัน อาการที่ตามมาคือ เป็นสิว วิตกกังวล หรืออารมณ์เปลี่ยนแปลงง่าย แต่นี่เป็นอาการปกติทั่วไปของการมีประจำเดือน แล้วสาเหตุไหนที่จะบ่งบอกว่ามีประจำเดือนผิดปกติ นั้นคือ อาการปวดประจำเดือนนั่นเอง
อาการปวดท้องเมนส์อาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ปวดหลังด้านล่าง คลื่นไส้อาเจียน เหงื่อออก ท้องเสียหรือท้องผูก ท้องอืด เวียนศีรษะและปวดศีรษะ เป็นต้น ผู้หญิงจำนวนมากมีอาการปวดท้องเมนส์ก่อนมีประจำเดือน 1-2 วัน และระหว่างมีประจำเดือนในช่วงวันแรกๆ อาการปวดประจำเดือนมีตั้งแต่อาการปวดหน่วงหรือปวดเกร็งเล็กน้อย ไปจนถึงอาการปวดขั้นรุนแรงบริเวณท้องน้อย
ปวดท้องประจำเดือนเกิดจากสาเหตุใดสาเหตุที่ปวดท้องเมนเกิดจากอะไร โดยเฉลี่ยทุกๆ 28 วัน หากไข่ไม่มีอสุจิมาผสม เยื่อบุโพรงมดลูกจะหลุดลอกออกมาเป็นประจำเดือน
อาการปวดท้องประจำเดือนสาเหตุเกิดจากสารที่ออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมน ชื่อว่า โพรสตาแกลนดิน (prostaglandin) ซึ่งก่อตัวขึ้นที่เยื่อบุโพรงมดลูกระหว่างมีประจำเดือน โพรสตาแกลนดินทำให้กล้ามเนื้อบีบตัวและหดเกร็งคล้ายกับอาการเจ็บปวดขณะคลอดบุตร
นอกจากนี้ยังทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ ท้องเสีย หากร่างกายหลั่งสารนี้ในปริมาณมากจะยิ่งเพิ่มความรุนแรงของอาการบีบรัด ทำให้รู้สึกปวดประจำเดือนยิ่งขึ้น
ลักษณะอาการปวดท้องประจำเดือนอาการปวดประจำเดือนสามารถแบ่งได้ 2 ประเภท แต่ละประเภทเกิดจากสาเหตุที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้
ปวดประจำเดือนแบบปฐมภูมิ (Primary Dysmenorrhea)เป็นอาการปวดท้องเมนส์ที่พบบ่อยที่สุด สาเหตุมักเกิดจากการที่เยื่อบุโพรงมดลูกผลิตสารโพรสตาแกลนดินมากเกินไป
ปวดประจำเดือนแบบทุติยภูมิ (Secondary Dysmenorrhea) เกิดจากภาวะผิดปกติของมดลูกหรืออวัยวะสืบพันธุ์อื่นๆ
อาการปวดท้องเมนส์ที่ควรพบแพทย์อาการปวดท้องเมนส์อาจเป็นเรื่องปกติของผู้หญิงที่เป็นประจำเดือน แต่การปวดประจำเดือนสามารถบอกถึงความผิดปกติที่ทำให้เกิดโรคร้ายแรงได้ สังเกตได้จากอาการดังต่อไปนี้
1.มีอาการปวดท้องเมนส์มากปวดท้องประจำเดือนทุกเดือน โดยช่วงที่ปวดประจำเดือนแรกๆอาจพอทนไหว แต่ต่อมาอาจเพิ่มความรุนแรงมากขึ้นทุกเดือน และมักจะรู้สึกปวดรุนแรงในช่วง 1-2 วันแรกของการมีประจำเดือน
2.ปวดปวดท้องเมนส์รุนแรงจนต้องทานยาแก้ปวด มากกว่าวันล่ะ 1 ครั้ง หรือเคยต้องฉีดยาแก้ปวดมากกว่า 1 ครั้ง
3.ขณะมีประจำเดือนมีอาการปวดท้องอยากถ่ายอุจจาระ แต่ไปถ่ายอุจจาระแต่ไม่มีอุจจาระออกมา
4.ปวดประจำเดือนและกดเจ็บตรงบริเวณท้องน้อยข้างใดข้างหนึ่ง และมักมีอาการปวดร้าวลงมาที่ช่องคลอดข้างเดียวกัน หรือปวดร้าวไปที่ขา
5.ปวดประจำเดือนมากร่วมกับการมีเลือดออกกระปริบกระปรอย หรือประจำเดือนมามากกว่าปกติ ในบางราย อาจมามากกว่า 1 ครั้ง ใน 1 เดือน
6.มีอาการปวดท้องขณะมีเพศสัมพันธ์
การวินิจฉัยอาการปวดท้องเมนส์1.ซักประวัติเบื้องต้นหากมีอาการปวดประจำเดือนที่ควรพบแพทย์ ในขั้นตอนแรกของแพทย์จะทำการวินิจฉัยโดยการซักประวัติเบื้องต้นของผู้ป่วย หากผู้ป่วยมีประวัติการปวดท้องเมนส์ที่สามารถทำให้เกิดโรคร้ายแรงได้แพทย์จะทำการตรวจเช่น ตรวจภายใน ตรวจอัลตร้าซาวด์
2.ตรวจภายในอวัยวะภายในของผู้หญิงมีความซับซ้อนและเป็นระบบปิดจึงจำเป็นต้องมีการตรวจภายใน ซึ่งอาจถูกรบกวนจากปัจจัยภายนอก และส่งผลให้เกิดการผิดปกติได้ เช่น การมีเพศสัมพันธ์ การตั้งครรภ์และการคลอด และยังอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรค ภายในอวัยวะสืบพันธุ์ได้อีกด้วย
3.ตรวจอัลตร้าซาวด์เมื่อมีอาการปวดประจำเดือน แพทย์จะทำการวินิจฉัยเพื่อให้ทราบว่าเป็นการปวดชนิดใด หากพบว่ามีข้อบ่งชี้อื่นจะใช้วิธีตรวจภายใน หากบางคนไม่อยากตรวจภายใน เพื่อความสบายใจของคนไข้ก็จะใช้การตรวจอัลตร้าซาวด์แทน และได้ข้อมูลเบื้องต้นในการตรวจวินิจฉัย
ปวดประจำเดือนรุนแรง เสี่ยงโรคใดบ้างในผู้หญิงบางรายอาจมีอาการปวดท้องเมนส์รุนแรง ปวดท้องเมนส์นอนไม่หลับอาการผิดปกตินี้อาจเสี่ยงทำให้เกิดโรคดังต่อไปนี้
1.ถุงน้ำในรังไข่ เป็นความผิดปกติของระดับฮอร์โมนทำให้เกิดถุงน้ำจำนวนมากในรังไข่ ผู้ป่วยจะมีประจำเดือนที่ผิดปกติ เช่น ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ ประจำเดือนมานานกว่าปกติ เป็นต้น
2.เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ภาวะนี้จะทำให้ปวดท้องประจำเดือนมาก โดยจะมีอาการติดต่อกันนานกว่า 6 เดือน ซึ่งอาจส่งผลกระทบทำให้เกิดภาวะมีบุตรยากได้ด้วย
3.เนื้องอกมดลูกเป็นเนื้องอกที่เกิดขึ้นในกล้ามเนื้อของมดลูก ซึ่งมักจะพบได้บ่อยในผู้หญิงที่มีอายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป อาจเกิดในเนื้อมดลูกหรืออยู่ในโพรงมดลูก หรือโตเป็นก้อนนูนออกมาจากตัวมดลูก ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการตั้งครรภ์ หรือทำให้มีลูกยากได้ อาการที่แสดงออกมาในบางรายอาจปวดท้องเมนส์อย่างรุนแรง หรือประจำเดือนมามาก และมาเป็นเวลานานผิดปกติ
4.ภาวะปากมดลูกตีบทำให้ขัดขวางการไหลของเลือดประจำเดือน และเกิดแรงดันภายในมดลูกมาก ก่อให้เกิดอาการปวดประจำเดือน และประจำเดือนมาไม่ปกติ เมื่อมีประจำเดือนจะปวดท้องมาก เนื่องจากเลือดประจำเดือนไหลออกมาไม่สะดวก หากมีประจำเดือนมาน้อย เลือดออกกะปริบกะปรอย แต่หากปากมดลูกปิดสนิท ก็จะไม่มีประจำเดือนเลย และอาจมีไข้หนาวสั่นร่วมด้วย เนื่องจากเกิดการอักเสบในโพรงมดลูก
5.อุ้งเชิงกรานอักเสบเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียในระบบอวัยวะสืบพันธุ์ โดยอาการหลักจะเป็นการปวดที่อุ้งเชิงกราน และยังส่งผลให้ผู้ป่วยปวดประจำเดือน ตกขาวมีกลิ่นเหม็นคาวด้วย
วิธีแก้ปวดท้องประจำเดือน มีอะไรบ้างสำหรับผู้หญิงที่ปวดท้องเมนส์แบบรุนแรงหลายคนยังไม่ทราบวิธีแก้ปวดท้องเมน วันนี้เรามีวิธีแก้ปวดท้องเมนส์แบบเร่งด่วนซึ่งอาจช่วยคุณบรรเทาอาการปวดให้ดีขึ้น มีดังนี้
1. ประคบร้อนแก้ปวดท้องเมนส์แก้ปวดท้องเมนส์โดยประคบร้อน ประจำเดือนโดยความร้อนจะมีส่วนช่วยให้กล้ามเนื้อรู้สึกผ่อนคลาย ทำให้อาการปวดประจำเดือนลดลง
2. ทานยาแก้ปวดท้องเมนส์ทานแมกนีเซียมเป็นวิธีแก้ปวดท้องประจําเดือนเร่งด่วนได้ดีมาก เพราะมีส่วนช่วยในเรื่องลดอาการปวดเกร็งในช่องท้อง โดยอาหารที่เหมาะสำหรับช่วงมีประจำเดือน เช่น ผักโขม ตำลึง หรือกล้วย เป็นต้น
3.จิบเครื่องดื่มอุ่นๆวิธีแก้ปวดท้องประจําเดือนอย่างรุนแรงโดยการจิบเครื่องดื่มอุ่น ๆ เช่น น้ำผึ้งผสมมะนาว หรือน้ำขิง จะช่วยปรับให้ภายในร่างกายอุ่นขึ้นด้วย
4.ออกกำลังกายแบบเบาๆผู้หญิงทุกคนสามารถออกกำลังกายได้ขณะมีประจำเดือน เช่น การเดินเร็ว หรือ เล่นโยคะในท่าง่ายๆ ซึ่งการออกกำลังกายจะช่วยลดอาการปวดท้องเมนส์ได้ดี
5.นวดเบาๆ บรรเทาอาการปวดนวดบริเวณท้องน้อย เป็นวิธีที่ช่วยกล้ามเนื้อบริเวณท้องให้ผ่อนคลายลง สามารถทำได้โดยการนวดวนเป็นวงกลมบริเวณท้องน้อย
วิธีป้องกันการปวดท้องประจำเดือนหากมีอาการปวดประจำเดือน วิธีแก้ปวดท้องเมนด้วยตัวเองได้ดังนี้
- รับประทานยาต้านการอักเสบชนิดไม่มีสเตียรอยด์
- ใช้กระเป๋าน้ำร้อนประคบท้องน้อยและหลัง
- ใช้เทคนิคการผ่อนคลาย เช่น โยคะหรือนั่งสมาธิ
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- อาบน้ำอุ่น
ข้อสรุปเรื่องสุขภาพนั้นสำคัญเป็นอย่างมากในแต่ละรอบเดือนควรสังเกตอาการปวดท้องเมนส์ ว่ามีอาการปวดประจำเดือนรุนแรงผิดปกติหรือไม่ หากมีอาการปวดท้องเมนส์ผิดปกติควรเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุของโรคร้าย สุดท้ายนี้วิธีแก้ปวดท้องเมนส์แบบเร่งด่วนจากบทความข้างต้นอาจช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือนของคุณได้ไม่มากก็น้อย