หลายคนมักมีภาระในการใช้เงินก้อนที่แตกต่างกันออกไป บางคนมีภาระซื้อบ้าน ผ่อนบ้าน หรือว่าซื้อรถ หรือบางทีก็อยาก
สินเชื่อเพื่อธุรกิจ อยากเติบโตในเส้นทางของตนเอง แต่การที่เรานั้นจะขอกู้เงินก็ไม่ใช่เรื่องง่าย บางคนขอแล้วไม่ได้ ก็มักจะมีการบ่นออกมาว่าไม่โกงหรอก ขอ
เงินกู้ไปแล้วก็ต้องให้ ทำไมต้องมีการขอเอกสารด้วย ทำไมต้องดูอะไรมากมาย แต่ที่จริงแล้ว ธนาคารเพียงแต่อยากจะเพิ่มความมั่นใจให้กับคนที่จะมาขอเงินกู้ว่าคนที่ขอนั้นมีการเอาเงินมาใช้เองจริงหรือไม่ ไม่ใช่มีแค่พูดออกมาว่าเรานั้นจะใช้หรือไม่ใช้ หากคุณมีเอกสารพร้อมแล้ว นอกจากจะพิจารณาสิ่งที่เรานำมาฝากในวันนี้ เรามีข้อมูลดีๆ มาให้ดูกันต่อ เช่น
ดอกเบี้ยเงินกู้ เป็นต้น จะเป็นเรื่องอะไรนั้น พร้อมแล้วมาดูกัน
1. ประวัติของเราต้องดีก่อน
สำหรับใครที่อยากจะขอกู้เงินให้ผ่าน หรือให้ทางแบงค์อนุมัติเงินให้กับเราแล้วล่ะก็ ต้องรู้ด้วยว่าก่อนที่ทางแบงค์จะให้สินเชื่อใครนั้น ทางแบงค์จะมีการตรวจสอบก่อนอย่างแน่นอน โดยอาจจะมีการดูว่าประวัติของเรานั้นเป็นอย่างไร จ่ายช้าหรือว่าเร็ว หากชื่อของคุณนั้นขึ้นในเครดิตบูโรว่ามีการค้างชำระ ต้องบอกเลยว่าโอกาสที่จะขอสินเชื่อผ่านนั้นก็เป็นเรื่องที่ยากมากพอสมควร เพราะว่าเคสการขอเงินกู้กับแบงค์ หากว่ามีให้เลือกสองคน คนแรกมีเครดิตบูโร อีกคนไม่มีหนี้ค้าง แน่นอนว่าธนาคารจะเลือกคนแรกอย่างแน่นอน
2. บัญชีต้องเดิน
มนุษย์เงินเดือนคงยักไหล่แล้วบอกว่าไม่เป็นไร เพราะว่าการเดินบัญชีนั้นส่วนใหญ่ก็มาจากเงินเดือนที่เข้ามานั่นเอง แต่หากจะให้ดีก็ควรมีเงินฝากนอนวางนิ่งไว้ในบัญชีบ้างก็คงจะดีไม่น้อยเลยทีเดียว ไม่ใช่ว่ามีเงินเท่าไรก็ถอนออกไปใช้หมด แบบนี้ทางแบงค์เองก็ไม่อยากจะให้เช่นกัน
ส่วนใครที่เป็นเจ้าของกิจการ อาจจะมีปัญหาอยู่บ้าง เพราะว่าเงินของเราไม่ได้เข้าสม่ำเสมอนั่นเอง หากจะให้ดีก็ต้องดูในแง่ที่ว่าเงินของเรานั้นมีเข้าออกตลอดไหม เพราะหากว่ามีเข้าออกตลอด ทางแบงค์จะมีการอนุมัติเงินกู้ได้มากกว่าเดิม เพราะเขาคิดว่าลูกหนี้ของเขามีเงินมากพอจะนำมาใช้นั่นเอง
3. เราต้องดูด้วยว่าเราจะผ่อนใช้ได้หรือไม่
หลายๆ คนนั้น เจ้าหน้าที่ของทางแบงค์ จะมีการอนุมัติวงเงินไม่เกินสี่สิบเปอร์เซ็นต์ของรายได้นั่นเอง ก็เลยแปลว่า หากใครที่ผ่อนกับทางแบงค์ เวลาที่เราผ่อนนั้นทางแบงค์จะเช็คว่าเราผ่อนได้หรือไม่ได้
สำหรับการขอเงินเพื่อไปซื้อบ้าน หากว่ากู้เงินหนึ่งล้านบาทก็จะมีการผ่อนชำระเงินคืนเจ็ดพันบาทนั่นเอง ซึ่งก็หมายความว่าหากว่าคุณมีรายได้ห้าหมื่นบาท คุณจะสามารถขอกู้เงินกับทางแบงค์ได้ราวๆ สามล้านบาทนั่นเอง
4. ไม่ควรเป็นหนี้ที่อื่นอยู่ด้วย
สำหรับใครที่กำลังจะไปขอสินเชื่อ ทางที่ดี ก็ควรจะตัดหนี้ให้หมดเสียก่อน โดยอาจจะเลือกเป็นหนี้น้อยๆ ก็ดีกว่าการเป็นหนี้มากๆ เพราะในเครดิตบูโรจะมีการขึ้นแสดงด้วยว่าปัจจุบันคุณผ่อนอะไรอยู่บ้างนั่นเอง