เมื่อค่ารักษาพยาบาลในโรงพยาบาลเอกชนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การมีแผนสำรองทางการเงินจึงกลายเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญไม่น้อยกว่าการดูแลสุขภาพตนเอง ด้วยเหตุนี้ หลายคนเริ่มมองหาเครื่องมือที่จะช่วยรับภาระค่าใช้จ่ายยามเจ็บป่วย ซึ่งประกันสุขภาพเหมาจ่ายถือเป็นทางเลือกหนึ่งที่ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการความครอบคลุมโดยไม่ต้องกังวลเรื่องวงเงินรายหมวด เพราะระบบนี้ให้ความยืดหยุ่นในการเบิกค่ารักษาพยาบาลในรูปแบบที่เหมาจ่ายตามวงเงินรวม ทำให้ผู้ถือกรมธรรม์สามารถเข้ารับบริการทางการแพทย์ได้อย่างมั่นใจมากขึ้น
เบิกค่ารักษาได้คล่องตัว แม้ค่ารักษาพุ่งสูง
หนึ่งในข้อได้เปรียบของการมีความคุ้มครองแบบเหมาจ่าย คือความสามารถในการเบิกค่ารักษาได้เต็มจำนวนตามวงเงินรวม โดยไม่ต้องจำกัดตามประเภทค่าใช้จ่าย เช่น ค่าห้อง ค่าแพทย์ หรือค่าผ่าตัด ซึ่งแตกต่างจากแผนประกันแบบดั้งเดิมที่มักกำหนดวงเงินแยกเป็นรายหมวด ทำให้ผู้ถือกรมธรรม์หลายรายต้องรับภาระส่วนต่างเอง การเลือกแผนที่มีการเหมาจ่ายค่ารักษาแบบรวมจึงเป็นทางออกที่ลดความยุ่งยากในการบริหารค่าใช้จ่ายเมื่อเข้าสู่กระบวนการรักษา
ปรับวงเงินตามไลฟ์สไตล์ ไม่ต้องจ่ายเกินจำเป็น
แผนประกันสุขภาพที่ดีควรสามารถปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้เอาประกัน เช่น ผู้ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเอกชนเป็นประจำ อาจเลือกวงเงินสูงขึ้นเพื่อครอบคลุมค่ารักษาที่มีราคาสูง ในขณะที่คนที่ดูแลสุขภาพดีและพบแพทย์เพียงปีละครั้ง อาจไม่จำเป็นต้องจ่ายเบี้ยแพงเพื่อรับความคุ้มครองในระดับเดียวกัน การเลือกแผนที่เปิดโอกาสให้ผู้เอาประกันเลือกวงเงินเองได้ ช่วยให้ควบคุมค่าใช้จ่ายระยะยาวได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งหลาย
แผนประกันสุขภาพเหมาจ่ายแบบปรับวงเงินได้ก็ตอบโจทย์เรื่องนี้อย่างมีประสิทธิภาพ
เข้าถึงการรักษาระดับพรีเมียม โดยไม่ต้องจ่ายเองทั้งหมด
หลายครั้งที่การรักษาโรคร้ายแรง หรือการเข้ารับบริการในโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำ อาจมีค่าใช้จ่ายสูงจนเกินความสามารถของผู้ป่วยทั่วไป การมีแผนที่พร้อมจ่ายในวงเงินสูงแบบไม่จำกัดรายหมวด จึงช่วยเปิดโอกาสให้เข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย การวางแผนโดยใช้ประกันสุขภาพเหมาจ่ายที่มีวงเงินสูงและความยืดหยุ่นสูง จึงกลายเป็นกลยุทธ์ทางการเงินที่ผู้มีวิสัยทัศน์เลือกใช้
