HIFU คืออะไร? รู้จักเทคนิคยกกระชับผิวหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด

[ไม้เอก การันต์]

HIFU หัตถการช่วยยกกระชับผิว เพื่อใบหน้าที่กระชับ เรียบเนียนขึ้น

ในยุคที่ใคร ๆ ก็อยากดูอ่อนเยาว์แต่ไม่อยากเจ็บตัว HIFU จึงกลายเป็นหนึ่งในหัตถการความงามที่ได้รับความนิยมอันดับต้น ๆ ในคลินิกเสริมความงาม ด้วยจุดเด่นที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องฉีดเข็ม และไม่ต้องพักฟื้น HIFU จึงตอบโจทย์ทั้งเรื่องความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่รวดเร็ว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวหน้าให้ดูเรียวกระชับอย่างเป็นธรรมชาติ ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับเทคโนโลยี HIFU ให้มากขึ้น ตั้งแต่หลักการทำงาน บริเวณที่เหมาะกับการทำหัตถการ ไปจนถึงการเตรียมตัวก่อน–หลังทำ เพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น
HIFU คือเทคโนโลยีอะไร ทำงานอย่างไร?

High-Intensity Focused Ultrasound หรือ HIFU คือเทคโนโลยียกกระชับผิวที่ใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูงส่งผ่านลงไปยังผิวชั้นลึก โดยไม่ทำลายผิวหนังชั้นบน คลื่นเสียงเหล่านี้จะถูกโฟกัสให้รวมพลังงานในจุดเล็ก ๆ คล้ายกับการใช้แว่นขยายรวมแสงอาทิตย์จนเกิดความร้อนใต้ผิวหนัง ความร้อนนี้จะกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนใหม่อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผิวค่อย ๆ กระชับ และดูเรียบเนียนมากขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ โดยเครื่อง HIFU นั้นมีต้นกำเนิดจากการแพทย์ เดิมใช้ในวงการรักษามะเร็ง ก่อนจะถูกพัฒนาต่อยอดมาใช้ในด้านความงามเพื่อแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยโดยไม่ต้องผ่าตัดและไม่ต้องใช้เข็ม
HIFU ทำบริเวณไหนได้บ้าง?

HIFU ช่วยอะไร? HIFU เป็นหัตถการที่มีความยืดหยุ่นสูง สามารถปรับระดับความลึกของคลื่นอัลตราซาวด์ให้เหมาะกับบริเวณที่ต้องการรักษาได้อย่างแม่นยำ จึงสามารถใช้ได้ทั้งบนใบหน้าและบางจุดของร่างกาย โดยไม่มีบาดแผล และไม่ต้องพักฟื้น ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวและยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยได้อย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งบริเวณที่สามารถทำ HIFU ได้ มีดังนี้

• กรอบหน้า และใต้คาง : ช่วยยกกระชับผิว ลดเหนียง เสริมให้รูปหน้าดูเรียวชัดเจนมากขึ้น
• แก้ม และร่องแก้ม : ลดความหย่อนคล้อย เติมเต็มความตึงกระชับให้ผิวดูอ่อนเยาว์
• หน้าผาก และระหว่างคิ้ว : ลดริ้วรอยและยกคิ้วให้ดูยกขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
• รอบดวงตา : ลดถุงใต้ตาและริ้วรอยรอบดวงตา
• ลำคอ : กระชับผิวบริเวณคอ ลดรอยย่นและเหนียง

นอกจากใบหน้าแล้ว ปัจจุบันยังเริ่มมีการนำ HIFU มาใช้กับบริเวณอื่นของร่างกายในบางคลินิก เช่น ต้นแขน หน้าท้อง หรือต้นขา เพื่อยกกระชับผิวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นลึกอีกด้วย
เครื่อง HIFU มีกี่แบบ อะไรบ้าง?

หลายคนอาจเกิดความสงสัยว่าเครื่อง HIFU มีกี่แบบ แต่ละรุ่นมีความแตกต่างกันอย่างไร? แท้จริงแล้วเครื่อง HIFU แตกต่างกันทั้งในเรื่องของพลังงานที่ใช้ วิธีการปล่อยพลังงาน ความรู้สึกขณะทำ รวมถึงประเทศผู้ผลิต ซึ่งล้วนมีผลต่อประสิทธิภาพและผลลัพธ์หลังทำ ดังนั้นเราลองมาดูกันว่าเครื่อง HIFU แต่ละแบบเป็นอย่างไร เหมาะกับใครบ้าง

HIFU ทั่วไป

เครื่อง HIFU ทั่วไปมักเป็นเครื่องจากจีนหรือเกาหลีที่มีราคาย่อมเยา ใช้เทคโนโลยีพื้นฐานในการปล่อยคลื่นเสียงลงสู่ชั้นใต้ผิว โดยพลังงานอาจไม่คงที่เท่าเครื่องระดับพรีเมียม เหมาะกับผู้ที่ต้องการทดลองทำในงบประมาณจำกัด อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพและความแม่นยำอาจแตกต่างกันไปตามคุณภาพของเครื่องและความชำนาญของผู้ให้บริการ

Ultraformer III

เครื่อง Ultraformer III ผลิตโดยบริษัท Classys จากประเทศเกาหลีใต้ เป็นเครื่อง HIFU ระดับกลางถึงพรีเมียมที่ได้รับความนิยมสูงในคลินิกความงามทั่วเอเชีย จุดเด่นคือการปล่อยพลังงานแบบ Micro และ Macro Focused Ultrasound ทำให้สามารถเจาะจงชั้นผิวได้ลึกหลายระดับ เห็นผลชัดเจน และเจ็บน้อยกว่าเครื่อง HIFU ทั่วไป

Ultraformer MPT

Ultraformer MPT เป็นเครื่อง HIFU รุ่นใหม่ล่าสุดของตระกูล Ultraformer จาก Classys เกาหลีใต้ มาพร้อมเทคโนโลยี MPT (Micro Pulse Technology) ที่สามารถควบคุมรูปแบบการปล่อยพลังงานได้ละเอียดมากขึ้น ทำให้สามารถปรับให้เหมาะกับปัญหาผิวแต่ละจุดได้อย่างแม่นยำ เจ็บน้อยลงแต่ให้ผลลัพธ์ที่แน่นขึ้น โดยเฉพาะในการยกกระชับผิวบริเวณที่บอบบาง

New Ulthera SPT

เป็นเครื่อง HIFU ระดับ Medical Grade จากสหรัฐอเมริกา ได้รับการรับรองจาก FDA ทั้งในสหรัฐฯ และไทย จุดเด่นคือเทคโนโลยี SPT (See – Plan – Treat) ซึ่งมีการใช้หน้าจอแสดงผลแบบ Real-Time Visualization เพื่อให้แพทย์เห็นชั้นผิวขณะทำ และปล่อยพลังงานอย่างแม่นยำไปยังตำแหน่งที่ต้องการ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ชัดเจนและปลอดภัยในระดับสูงสุด
การเตรียมตัวก่อนทำ HIFU

หากต้องการให้ผลลัพธ์จากการทำ HIFU มีประสิทธิภาพสูงสุดและลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง การเตรียมตัวล่วงหน้าก่อนเข้ารับบริการถือเป็นขั้นตอนที่ไม่ควรมองข้าม เพราะจะช่วยให้เห็นผลลัพธ์ได้เร็วขึ้นและลดความรู้สึกไม่สบายระหว่างทำ HIFU ได้ โดยแนวทางการดูแลตัวเองเบื้องต้น มีดังนี้

• หลีกเลี่ยงการทำเลเซอร์หรือทรีตเมนต์รุนแรงก่อนทำ HIFU อย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพื่อไม่ให้ผิวระคายเคืองหรืออ่อนแอเกินไปก่อนรับพลังงานจาก HIFU
• หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวหรือกรดวิตามิน A ก่อนทำ 3–5 วัน เช่น Retinol หรือ AHA/BHA เพราะอาจทำให้ผิวไวต่อพลังงานและเกิดการระคายเคืองได้
• งดการทานยาแก้อักเสบบางชนิด หรือยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน หรือไอบูโพรเฟน เพื่อป้องกันการเกิดรอยช้ำง่าย
• พักผ่อนให้เพียงพอ และดื่มน้ำมาก ๆ อย่างน้อย 1 วันก่อนทำ เพื่อให้ผิวมีความชุ่มชื้นและพร้อมต่อการกระตุ้นคอลลาเจนได้อย่างเต็มที่
• ไม่จำเป็นต้องงดอาหารหรือเครื่องดื่มก่อนทำ แต่ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือกาแฟที่อาจทำให้ผิวขาดน้ำ

วิธีดูแลตัวเองหลังทำ HIFU

ควรดูแลตัวเองหลังทํา HIFU อย่างไร และมีข้อห้ามหลังทํา HIFU อะไรบ้าง? หลังทำหัตถการ เพื่อให้ผลลัพธ์จากการทำ HIFU อยู่ได้นานและลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียง เช่น รอยแดงหรืออาการบวม ควรให้ความสำคัญกับการดูแลผิวหลังทำอย่างเหมาะสม ซึ่งทำได้ดังนี้

• หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือกดผิวแรง ๆ ในบริเวณที่ทำ โดยเฉพาะในช่วง 24–48 ชั่วโมงแรก เพื่อป้องกันการระคายเคืองหรือช้ำเพิ่มเติม
• หลีกเลี่ยงความร้อน เช่น ซาวน่า อบไอน้ำ หรือออกแดดจัด เป็นเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพราะความร้อนอาจกระตุ้นให้ผิวอักเสบหรือระคายเคืองได้ง่าย
• งดการทำเลเซอร์ ทรีตเมนต์ผลัดเซลล์ผิว หรือกรอผิวทุกชนิดเป็นเวลา 1–2 สัปดาห์ เพื่อให้ผิวได้พักฟื้นและสร้างคอลลาเจนได้อย่างเต็มที่
• ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ให้ความชุ่มชื้นและอ่อนโยน เช่น เซรั่มหรือครีมที่ไม่มีน้ำหอมและไม่มีแอลกอฮอล์ เพื่อปลอบประโลมผิว
• ทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ แม้จะอยู่ในที่ร่ม โดยเลือกใช้ครีมกันแดดที่มี SPF 30 ขึ้นไป เพื่อป้องกันรังสียูวีที่อาจรบกวนกระบวนการฟื้นฟูของผิว
• ดื่มน้ำมาก ๆ และพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อช่วยส่งเสริมกระบวนการสร้างคอลลาเจนและให้ผิวฟื้นตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

HIFU หัตถการยอดนิยมเพื่อผิวที่เรียบเนียน กระชับขึ้น

HIFU ถือเป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัดหรือพักฟื้น ด้วยเทคโนโลยีที่ปลอดภัย เห็นผลลัพธ์ชัดเจน และมีให้เลือกหลากหลายรุ่นตามความต้องการ หากเตรียมตัวและดูแลผิวอย่างถูกวิธี ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานและดูเป็นธรรมชาติ ใครที่มองหาวิธีกู้ผิวให้ตึงกระชับแบบไม่เจ็บ HIFU ถือเป็นอีกหนึ่งคำตอบที่น่าสนใจอย่างยิ่ง