ในยุคปัจจุบันที่เรื่องของการตกแต่งบ้านและการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ให้ดูสวยงามและเข้ากับสไตล์ของบ้านนั้น กลายเป็นเรื่องที่หลายคนให้ความสำคัญมากขึ้น
ตู้วางทีวี ก็เป็นหนึ่งในเฟอร์นิเจอร์ที่ได้รับความนิยมและมีบทบาทสำคัญในการตกแต่งห้องนั่งเล่น ด้วยความที่ทีวีเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ดูบันเทิงอยู่บ่อย ๆ ชั้นวางทีวีจึงไม่ได้มีแค่ประโยชน์ในการวางทีวีเพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องช่วยทำให้ห้องดูเป็นระเบียบ สวยงาม และตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวัน



เมื่อเราไปเดินดูตามห้างสรรพสินค้าหรือร้านเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ เราจะเห็นว่าชั้นวางทีวีที่วางขายทั่วไปนั้นมีอยู่ประมาณ 2 ประเภทหลัก ๆ ที่เป็นรูปแบบพื้นฐาน คือ ชั้นวางทีวีแบบทรงเตี้ย กับ ชั้นวางทีวีแบบทรงสูง ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีข้อดีข้อเสียและการใช้งานที่ต่างกันออกไปชั้นวางทีวีแบบทรงเตี้ย
เริ่มจาก ชั้นวางทีวี แบบทรงเตี้ยก่อนเลย ชั้นวางแบบนี้โดยทั่วไปจะมีความสูงไม่เกินระดับเอวหรืออาจจะต่ำกว่านั้นหน่อย เหมาะกับการวางทีวีจอใหญ่ ๆ ที่ต้องการความมั่นคงและให้มุมมองที่เหมาะสมเมื่อเรานั่งดูทีวีในห้องนั่งเล่น ชั้นวางทีวีทรงเตี้ยมักจะถูกออกแบบให้มีพื้นที่สำหรับเก็บของไม่เยอะมาก บางรูปแบบก็จะมีลิ้นชักหรือตู้เก็บของใต้ทีวีเล็ก ๆ เพื่อให้สามารถเก็บอุปกรณ์เสริมอย่างรีโมท เครื่องเล่นเกม หรือแผ่นดีวีดีได้ นอกจากนี้การใช้ชั้นวางทรงเตี้ยยังช่วยให้ห้องดูโปร่งและกว้างขวางขึ้น เพราะไม่บังทัศนียภาพในห้องมากนัก ทำให้เหมาะกับบ้านหรือห้องที่มีพื้นที่จำกัดหรือห้องที่มีหน้าต่างประตูอยู่บริเวณผนังด้านหลังทีวี
ขนาดและความยาวของชั้นวางทีวีแบบทรงเตี้ยทีวีทรงเตี้ย ไซส์ไหนดี สมัยนี้ทีวีจอใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ตู้ทีวีทรงเตี้ยก็เลยต้องปรับไซส์ตามไปด้วย จากเดิมที่เคยมีขนาดกะทัดรัด ตอนนี้ไซส์เริ่มต้นของตู้ทีวีทรงเตี้ยก็ขยับไปอยู่ที่ 1.20 เมตรแล้ว
ไซส์ยอดนิยม
• 1.20 เมตร
• 1.35 เมตร
• 1.50 เมตร
• 1.60 เมตร
• 1.80 เมตร
• 2.10 เมตร
• ใหญ่สุด 2.40 เมตร
เลือกยังไงให้เป๊ะ
อันดับแรกเลย ต้องดูขนาดทีวีของเราเป็นหลักเพราะเดี๋ยวนี้ทีวีส่วนใหญ่เริ่มต้นที่ 50-55 นิ้วแล้ว ถ้าตู้ทีวีขนาด 1.20 เมตร จะวางทีวี 50 นิ้วได้พอดี หรือใหญ่สุดก็ 55 นิ้ว แต่ก็ต้องเช็คขาตั้งทีวีของเราด้วยว่าอยู่ในขอบเขต 1.20 เมตรหรือเปล่า
ใหญ่กว่านี้มีไหม
สำหรับใครที่มีพื้นที่กว้างขวาง อาจจะอยากได้ตู้ทีวีที่ใหญ่กว่า 2.40 เมตร แต่เสียใจด้วย ตู้ทีวีทรงเตี้ยที่ผลิตออกมาขายในปัจจุบันยังไม่มีขนาดใหญ่กว่า 2.40 เมตร
ชั้นวางทีวีแบบทรงสูง
ในทางตรงกันข้าม
ตู้วางทีวี แบบทรงสูงจะมีลักษณะที่สูงขึ้นไปมากกว่าระดับเอว บางครั้งอาจสูงจนถึงระดับอกหรือหัวไหล่ของผู้ใหญ่ ชั้นวางแบบนี้มักจะมีพื้นที่เก็บของหรือโชว์ของได้มากกว่า เนื่องจากดีไซน์จะรวมทั้งตู้ เก็บของ และชั้นวางของย่อย ๆ หลายชั้นเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งเหมาะกับคนที่มีของเยอะ หรือต้องการโชว์ของสะสมต่าง ๆ พร้อมกับจัดเก็บอุปกรณ์เกี่ยวกับเครื่องเสียง ทีวี และของใช้ส่วนตัวให้เป็นระเบียบ ชั้นวางทรงสูงยังช่วยให้ดูห้องมีความสูงและหรูหรายิ่งขึ้น แต่ก็อาจทำให้รู้สึกว่าห้องมีขนาดเล็กลงหรือดูอึดอัดได้ถ้าห้องนั้นมีพื้นที่จำกัดหรือเลือกใช้ชั้นวางที่สูงและใหญ่เกินไป
จุดเด่นของชั้นวางทีวีทรงสูงเลยก็คือขนาดที่เริ่มต้นตั้งแต่ประมาณ 2 เมตรขึ้นไป และยังมีความกว้างที่หลากหลาย ตั้งแต่ 2.40 เมตร จนถึง 3 เมตรเลยทีเดียว ซึ่งความยาวที่มากขึ้นนี้ก็ช่วยเพิ่มพื้นที่ให้เราได้จัดวางของหรือของตกแต่งรอบๆ ทีวีได้มากขึ้นด้วย



อย่างแรกเลย ผมขอแนะนำรุ่นขนาด 2 เมตรก่อน รุ่นนี้เหมาะกับคนที่ต้องการชั้นวางทีวีที่ไม่สูงมากจนเกินไป แต่ยังมีพื้นที่พอให้วางของเพิ่มได้บ้าง ส่วนรุ่นขนาด 2.40 เมตรนั้น มีความพิเศษตรงที่สามารถทำจากไม้แผ่นเดียวเลย ซึ่งทำให้ Top ของชั้นวางดูเรียบเนียนและยาวเชื่อมต่อกันแบบไม่ขาดสาย ทำให้ชั้นดูสวยและมีความแข็งแรงไปด้วย
พอขยับมาเป็นขนาด 2.80 เมตร รุ่นนี้ส่วนใหญ่จะถูกออกแบบมาเป็น 2 ชิ้นนะครับ ก็คือส่วนหนึ่งสำหรับวางทีวี ส่วนอีกส่วนก็ใช้เป็นที่วางหนังสือหรือของตกแต่งอื่นๆ ที่น่าสนใจคือ ลูกค้าสามารถปรับย้ายชิ้นส่วนวางของนี้ได้ตามความสะดวก ไม่ว่าจะขยับจากขวาไปซ้าย หรือจะวางตำแหน่งอื่นก็แล้วแต่ความเหมาะสมของแต่ละคนเลย ทำให้ชั้นวางทีวีทรงสูงรุ่นนี้มีความยืดหยุ่นและตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย
รุ่นที่ถือว่าใหญ่ที่สุดในประเภทนี้จะมีขนาดสูงถึง 3 เมตร ซึ่งในปัจจุบันนี้ดีไซน์ของชั้นวางทีวีทรงสูงรุ่นใหญ่มักจะออกแบบมาอย่างสวยงาม ดูทันสมัย เหมือนงานดีไซน์ที่ใส่ใจทุกรายละเอียดเลย ทั้งแผ่นหลังที่ติดตั้งช่องเสียบ USB และปลั๊กไฟในตัว ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ได้อย่างดี
สุดท้ายแล้วการตัดสินใจเลือกรูปแบบของ
ตู้วางทีวี ก็ควรพิจารณาจากหลายปัจจัยร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นขนาดของทีวี ขนาดและรูปแบบของห้อง ความต้องการในการจัดเก็บหรือโชว์ของ รวมถึงสไตล์การตกแต่งบ้านของแต่ละคน เพื่อให้ได้ชั้นวางทีวีที่ไม่เพียงแค่สวยงามและเหมาะสมกับห้องเท่านั้น แต่ยังตอบโจทย์การใช้งานอย่างแท้จริงอีกด้วย