การจำนองบ้านและที่ดินคืออะไร จำนองแล้วได้เงินก้อนจริงไหม?ใครที่มีบ้านเป็นของตัวเอง การขอสินเชื่อบ้านถือว่าเป็นอีกตัวช่วยในการให้ได้เงินมาเพิ่มสภาพคล่องหรือนำเงินไปต่อยอดธุรกิจ ซึ่งการขอสินเชื่อบ้านที่หลายคนคุ้นเคยจะมีการ
จำนองบ้านและขอสินเชื่อบ้านแลกเงิน ซึ่งมีความแตกต่างของการวางหลักประกัน เงื่อนไข และวงเงิน ในบทความนี้เราจะพาทุกคนมาไขข้อสงสัย ว่าการจำนองบ้านและที่ดินคืออะไร ต่างจากสินเชื่อบ้านแลกเงินอย่างไรบ้าง แล้วแบบไหนดีกว่ากัน
การจำนองบ้าน จำนองที่ดิน คืออะไร?ก่อนจะไปทำความเข้าใจถึงความหมายของการจำนองบ้าน จำนองที่ดินว่าคืออะไร เราต้องเข้าใจถึงความหมายของการจำนองกันก่อน โดยการจำนองนั้นหมายถึง การที่บุคคลที่เรียกว่า “ผู้จำนอง” ได้นำอสังหาริมทรัพย์หรือสังหาริมทรัพย์ของตน มาจดทะเบียนให้กับอีกบุคคลหนึ่ง หรือที่เรียกว่า “ผู้รับจำนอง” เพื่อเป็นหลักประกันในการชำระหนี้
จำนองที่ดิน การจำนองคอนโด หรือการจำนองบ้านคือ การนำทรัพย์สินที่เป็นอสังหาริมทรัพย์ หรือทรัพย์สินที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ นำมาใช้เป็นหลักประกัน โดยวางโฉนดที่ดิน หรือโฉนดบ้าน คอนโด ให้แก่ผู้รับจำนองบ้านหรือผู้รับขายฝากที่ดินทั่วประเทศ ในการชำระหนี้ โดยที่ไม่ต้องส่งมอบอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวให้กับผู้รับจำนองโฉนดที่ดินแต่อย่างใด
เปรียบเทียบการจำนองบ้านกับสินเชื่อบ้านแลกเงินหลายคนอาจมีข้อสงสัยว่าระหว่างจำนองบ้านและสินเชื่อบ้านแลกเงินมีความแตกต่างกันอย่างไร โดยทั้งสองอย่างจะต่างกันอย่างเห็นได้ชัด โดยวงเงินการจำนองบ้านนั้นจะได้น้อยกว่าสินเชื่อบ้านแลกเงิน โดยวงเงินของจำนองบ้านจะอยู่ที่ประมาณ 20 - 30% ของราคาประเมิน เนื่องจากเป็นเพียงการค้ำ ต่างจากสินเชื่อบ้านแลกเงินที่ใช้บ้านเป็นหลักประกันเพื่อขอเงินกู้ ที่จะได้วงเงินสูงถึง 80% ของวงเงินกู้
ในส่วนของอัตราดอกเบี้ยการจำนองบ้านหรือจำนองโฉนดที่ดิน จะมีอัตราดอกเบี้ยที่ไม่แน่นอน โดยส่วนใหญ่จำนองบ้านดอกเบี้ยจะไม่เกินกว่า 15% ในขณะที่สินเชื่อบ้านแลกเงินจะเป็นดอกเบี้ยที่มีความแน่นอน โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 5% ต่อปี และสามารถผ่อนชำระหนี้ระยะยาวได้
ในส่วนของเงื่อนไขการชำระหนี้นั้น หากผู้จำนองบ้านเกิดการผิดชำระหนี้ ผู้รับจำนองขายฝากบ้านหรือผู้รับจำนองขายฝากที่ดินมีสิทธิ์ที่จะฟ้องบังคับชำระหนี้และบังคับคดีกับทรัพย์สินได้ตามกฎหมาย ส่วนสินเชื่อบ้านแลกเงินนั้น หากผิดชำระหนี้ธนาคารหรือสถาบันการเงินมีสิทธิ์ที่จะยึดทรัพย์สินหรืออสังหาริมทรัพย์ที่ใช้จำนองเพื่อขายทอดตลาดได้
ข้อควรระวังในการจำนองบ้านเนื่องจากการจำนองบ้านนั้น เป็นอีกหนึ่งธุรกรรมที่มีความเสี่ยง ดังนั้นก่อนดำเนินการจำนองบ้านหรือจำนองขายฝากอสังหาริมทรัพย์ ควรศึกษาข้อระวังดังนี้
เปรียบเทียบข้อมูลจากหลายธนาคารก่อนดำเนินการทำเรื่องจำนองบ้าน ผู้จำนองควรเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ย รวมถึงเงื่อนไขจากหลาย ๆ ธนาคารที่รับจำนองขายฝากอสังหาริมทรัพย์ เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้ข้อเสนอ เงื่อนไข และดอกเบี้ยที่ตอบโจทย์มากที่สุด
ค่าธรรมเนียมแฝงการจำนองบ้านหรือขอสินเชื่อเกี่ยวกับบ้านในแต่ละครั้ง จะมีค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่ตามมาภายหลังที่ผู้จำนองต้องศึกษาและทำความเข้าใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าธรรมเนียมแฝงต่าง ๆ เช่น ค่าดำเนินการ ค่าเอกสาร ต่าง ๆ ที่ควรตรวจสอบในสัญญาให้ดี เพื่อเตรียมค่าใช้จ่ายให้พร้อมก่อนทำการทำสัญญาจำนอง
เงื่อนไขและสัญญาการจะทำสัญญาจำนองบ้านหรือจำนองบ้านที่ไม่ใช่ธนาคาร ผู้จำนองควรศึกษาเงื่อนไขต่าง ๆ ในสัญญาอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็น จำนวนเงินที่ต้องชำระ รายละเอียดหลักทรัพย์ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของอัตราดอกเบี้ย หากพบว่ามีส่วนไหนในสัญญาที่ไม่ตรงกับที่คุยกันไว้ ให้รีบสอบถามเพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
เงื่อนไขและคุณสมบัติของผู้ขอสินเชื่อบ้านแลกเงินมีอะไรบ้าง?สำหรับใครที่ไม่ต้องการจำนองบ้าน การขอสินเชื่อบ้านแลกเงิน ถือว่าเป็นอีกทางเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับคนมีบ้าน โดยคนที่จะสามารถขอสินเชื่อบ้านแลกเงิน จะต้องมีคุณสมบัติดังนี้
- เป็นบุคคลธรรมดาที่ถือสัญชาติไทย และมีอายุระหว่าง 20 - 70 ปี (บางธนาคารอาจกำหนดไม่เกิน 60 ปี)
- เป็นบุคคลที่มีรายได้แน่นอน โดยพนักงานประจำจะต้องมีอายุงาน 6 - 12 เดือน หากเป็นเจ้าของกิจการหรืออาชีพอิสระ จะต้องดำเนินธุรกิจมาแล้ว 1 - 3 ปีขึ้นไป
- เป็นผู้ที่มีอสังหาริมทรัพย์ เช่น บ้าน อาคารพาณิชย์ คอนโด หรือที่ดินเปล่า ที่ปลอดภาระ
- ไม่เป็นบุคคลล้มละลายหรือมีประวัติห้ามทำธุรกรรมทางกฎหมาย
จำนองบ้านหรือขอสินนเชื่อบ้านแลกเงินดีกว่ากัน?หากใครที่มีบ้านแต่อยากได้เงินเพื่อไปหมุนหรือเพิ่มสภาพคล่อง แล้วลังเลที่จะเลือกระหว่าง จำนองบ้านหรือขอสินเชื่อบ้านแลกเงิน ทั้งนี้หากดูจากจำนวนเงินที่ต้องการมาใช้ หากต้องการใช้เงินจำนวนมาก สินเชื่อบ้านแลกเงินอาจตอบโจทย์มากกว่า เพราะสินเชื่อบ้านแลกเงินนั้น คือการขอวงเงินจากธนาคารโดยมีอสังหาริมทรัพย์เป็นหลักประกัน ซึ่งธนาคารจะให้วงเงินกู้ที่สูงถึง 80% ขึ้นอยู่กับสภาพของบ้าน และมีงวดการผ่อนที่ยาวนาน เหมาะกับคนที่มีบ้านแต่ต้องการวงเงินก้อนเพื่อไปลงทุน หรือต่อยอดธุรกิจ เป็นต้น
ส่วนการจำนองบ้านนั้น คือการนำบ้านไปใช้เป็นหลักค้ำประกันกับผู้รับจำนองหรือรับขายฝากบ้านเพื่อขอเงินกู้เท่านั้น ทำให้วงเงินของการจำนองบ้านไม่เช็คบูโรนั้นไม่สูงมากเมื่อเทียบกับสินเชื่อบ้านแลกเงิน โดยวงเงินการจำนองบ้านจะอยู่ที่ประมาณ 30% เหมาะกับคนที่ต้องการเงินก้อนไม่เยอะมาก เพื่อไปเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินชั่วคราว
สรุปโดยสรุปแล้วการจำนองบ้านและการขอสินเชื่อบ้านแลกเงิน ถือว่าเป็นการทำธุรกรรมด้านสินเชื่อทั้งคู่ แต่มีความแตกต่างกันในด้านของการวางหลักประกัน ที่วางบ้านเพื่อค้ำประกันหรือใช้บ้านมาเป็นหลักประกัน รวมทั้งวงเงินที่ได้นั้นก็ต่างกันโดยสิ้นเชิง ดังนั้นก่อนทำธุรกรรมสินเชื่ออย่างใดอย่างหนึ่ง ผู้กู้ควรพิจารณาความต้องการของตนเองให้ดี ว่าจำเป็นต้องใช้วงเงินมากน้อยแค่ไหน นอกจากนี้อย่าลืมที่จะเปรียบเทียบเงื่อนไขและดอกเบี้ยแต่ละธนาคารก่อนขอสินเชื่อ เพราะจะช่วยให้คุณได้วงเงิน และดอกเบี้ยที่ตรงใจ ผ่อนสบายหายห่วง