แก้ผ่าตัดหนังตาตก: เมื่อผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่หวัง ควรทำอย่างไร?แม้การ
ผ่าตัดหนังตาตก จะถือเป็นหัตถการที่ปลอดภัยและให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจสำหรับคนส่วนใหญ่ แต่ก็มีบางกรณีที่ผลหลังการผ่าตัดอาจไม่เป็นไปตามคาด ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างของดวงตาที่ดูไม่สมดุล หนังตายังตกอยู่ หรือเกิดพังผืดและแผลเป็นที่รบกวนการมองเห็น
ผู้ที่เจอกับสถานการณ์เหล่านี้อาจรู้สึกผิดหวังหรือไม่มั่นใจ และไม่แน่ใจว่าควรดำเนินการอย่างไรต่อไป บทความนี้จึงจะมาแนะนำวิธีรับมืออย่างมีระบบสำหรับผู้ที่ต้องการ “แก้ไข” การผ่าตัดหนังตาอย่างปลอดภัยและมีแนวโน้มได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น
สาเหตุหลักที่ทำให้ต้องแก้ผ่าตัดหนังตาตกผลลัพธ์ไม่สมดุลระหว่างตาทั้งสองข้าง
ในบางกรณีอาจเกิดจากการประเมินกล้ามเนื้อตาผิดพลาดก่อนผ่าตัด หรือมีอาการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อที่แตกต่างกันระหว่างข้างซ้ายและขวา ซึ่งต้องอาศัยการแก้ไขโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง
แผลเป็นหรือพังผืดหลังผ่าตัด
ผู้ป่วยบางรายมีแนวโน้มเกิดพังผืดหรือแผลเป็นที่ดึงรั้งหนังตาให้ผิดรูป หรือทำให้รู้สึกตึง เจ็บ หรือหลับตาไม่สนิท ซึ่งอาจต้องใช้การผ่าตัดซ้ำเพื่อคลายพังผืดหรือปรับโครงสร้าง
หนังตาตกซ้ำ
บางครั้งหลังจากผ่าตัดไปไม่นาน หนังตาอาจกลับมาตกอีกครั้ง โดยเฉพาะในกรณีที่เป็นภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง (ptosis) ซึ่งต้องแก้ไขที่กล้ามเนื้อยกตาโดยตรง ไม่ใช่แค่ตัดหนังส่วนเกิน
ควรทำอย่างไรหากต้องการแก้ผ่าตัด
รอให้แผลเดิมหายสนิทก่อน
โดยทั่วไป ควรรออย่างน้อย 3–6 เดือนหลังจากผ่าตัดครั้งแรก เพื่อให้เนื้อเยื่อภายในฟื้นตัวเต็มที่ก่อนพิจารณาแก้ไขใหม่ เพื่อหลีกเลี่ยงการผ่าตัดในช่วงที่เนื้อเยื่อยังบอบบางและเสี่ยงต่อการเกิดพังผืดเพิ่ม
ปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตาโดยตรง
หากเป็นการผ่าตัดแก้ไข ควรพบจักษุแพทย์หรือศัลยแพทย์ตกแต่งที่มีประสบการณ์เฉพาะด้านเปลือกตา เพราะการแก้ไขมีความซับซ้อนมากกว่าการผ่าตัดครั้งแรกหลายเท่า
สรุปแม้การผ่าตัดหนังตาตกจะให้ผลลัพธ์ที่ดีในหลายกรณี แต่หากคุณไม่พอใจกับผลลัพธ์เดิมหรือมีปัญหาหลังผ่าตัด การวางแผนเพื่อแก้ไขอย่างถูกวิธีคือทางออกที่ปลอดภัยที่สุด อย่าปล่อยให้ความผิดพลาดในอดีตทำให้คุณสูญเสียความมั่นใจไปตลอด หากเลือกทีมแพทย์ที่เหมาะสม คุณยังสามารถกลับมามีดวงตาที่สดใส และใบหน้าที่ดูดีอย่างที่คุณตั้งใจไว้ได้อีกครั้ง.
