Sculptra เหมาะกับใคร? เคล็ดลับเลือกใช้ให้ได้ผลดีที่สุดนวัตกรรมฟื้นฟูผิวหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ปัจจุบันการดูแลผิวหน้ามีหลากหลายวิธี หนึ่งในตัวเลือกที่ได้รับความนิยมคือ
Sculptra เหมาะกับใคร ซึ่งเป็นสารเติมเต็มที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง แตกต่างจากฟิลเลอร์ทั่วไปที่ให้ผลลัพธ์รวดเร็ว Sculptra ทำงานโดยช่วยให้ผิวฟื้นฟูตัวเองอย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้ผิวดูกระชับและเรียบเนียนขึ้น
ในระยะยาว
หลักการทำงานของ Sculptraกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
Sculptra ไม่ได้ทำงานโดยการเติมเต็มริ้วรอยในทันที แต่ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนเอง กระบวนการนี้จะใช้เวลาหลายสัปดาห์ถึงหลายเดือน ทำให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติและคงอยู่ได้นาน
วัสดุหลักที่ใช้สารสำคัญใน Sculptra คือ Poly-L-lactic acid (PLLA) ซึ่งเป็นสารสังเคราะห์ที่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติในร่างกาย และมีความปลอดภัยสูง ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (FDA)
ระยะเวลาการเห็นผลผลลัพธ์เริ่มเห็นได้ในช่วง 4-6 สัปดาห์หลังฉีด
ผิวจะค่อยๆ กระชับขึ้น และดูเต็มขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นาน 2-3 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลหลังทำ
กลุ่มคนที่เหมาะกับการใช้ Sculptraผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการคืนความกระชับให้ผิว โดยเฉพาะบริเวณแก้ม ขมับ และแนวกราม ซึ่งเป็นจุดที่คอลลาเจนมักลดลงตามวัย
ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวแบบเป็นธรรมชาติ
ไม่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการผลลัพธ์ทันที แต่เหมาะกับผู้ที่ต้องการให้ผิวดีขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ และดูอ่อนเยาวะโดยไม่ดูเปลี่ยนไปมาก
ผู้ที่มีใบหน้าตอบ หรือไขมันใต้ผิวน้อย
ช่วยเติมเต็มบริเวณที่สูญเสียปริมาตร ทำให้หน้าดูมีมิติและดูสุขภาพดีขึ้น
เปรียบเทียบ Sculptra กับฟิลเลอร์แบบทั่วไปคุณสมบัติ Sculptra ฟิลเลอร์ทั่วไป วิธีการทำงาน กระตุ้นคอลลาเจน เติมเต็มโดยตรง ระยะเวลาการเห็นผล 4-6 สัปดาห์ ทันทีหลังฉีด ระยะเวลาคงอยู่ 2-3 ปี 6-12 เดือน เหมาะกับใคร ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูระยะยาว ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์รวดเร็ว บริเวณที่นิยมใช้ แก้ม ขมับ กรอบหน้า ริมฝีปาก ใต้ตา คาง
สรุปSculptra เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวอย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะกับคนที่ต้องการผลลัพธ์ระยะยาวและไม่ต้องการฉีดบ่อย อย่างไรก็ตาม ควรศึกษาข้อมูลและเลือกทำกับแพทย์ที่มีประสบการณ์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและน่าพอใจที่สุด
