ฟิลเลอร์ กลายเป็นหนึ่งในวิธีการเสริมความงามที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ด้วยความสามารถในการเติมเต็มร่องลึก ปรับรูปหน้า และทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ขึ้น แต่คำถามสำคัญที่หลายคนสงสัยก่อนตัดสินใจคือ “ฟิลเลอร์ปลอดภัยไหม?” เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจและมั่นใจก่อนการฉีด เราได้รวบรวมข้อมูลสำคัญที่คุณควรรู้มาไว้ที่นี่แล้ว
ฟิลเลอร์คืออะไร?ฟิลเลอร์ (Filler) คือสารที่ใช้ฉีดเข้าสู่ผิวหนังหรือใต้ผิวหนังเพื่อเติมเต็มร่องลึก ลดริ้วรอย และเพิ่มความเต่งตึงของผิว สารที่นิยมใช้มากที่สุดคือ
ไฮยาลูรอนิคแอซิด (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติ ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นและให้ผิวดูอิ่มฟู นอกจากไฮยาลูโรนิคแอซิด ยังมีฟิลเลอร์ชนิดอื่น เช่น คอลลาเจน และสารสังเคราะห์ที่ได้รับการรับรองจากองค์กรทางการแพทย์
ฟิลเลอร์ปลอดภัยหรือไม่?ความปลอดภัยของ
ฟิลเลอร์ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ดังนี้
1. คุณภาพของฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์ที่ได้รับการรับรองจากองค์กรเช่น อย. (FDA) จะมีความปลอดภัยสูง เนื่องจากผ่านการทดสอบอย่างเข้มงวด
หลีกเลี่ยงฟิลเลอร์ราคาถูกหรือไม่มีฉลากที่ชัดเจน เนื่องจากอาจเป็นของปลอมและก่อให้เกิดปัญหาได้
2. ความเชี่ยวชาญของแพทย์
การฉีดฟิลเลอร์ต้องทำโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านผิวหนังหรือศัลยกรรมตกแต่งเท่านั้น
แพทย์ที่มีประสบการณ์จะสามารถประเมินปริมาณและตำแหน่งที่เหมาะสมได้ ลดความเสี่ยงของการเกิดผลข้างเคียง เช่น การฉีดผิดตำแหน่งหรือเกิดการอุดตันของหลอดเลือด
3. สถานที่ฉีด
ควรเลือกสถานพยาบาลหรือคลินิกที่มีมาตรฐาน มีใบอนุญาตประกอบกิจการ และเครื่องมือที่สะอาดปลอดเชื้อ
4. การดูแลหลังฉีด
การปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์หลังฉีด เช่น หลีกเลี่ยงความร้อนและการกดบริเวณที่ฉีด จะช่วยลดโอกาสการเกิดผลข้างเคียง
ฉีดฟิลเลอร์ ตำแหน่งไหนได้บ้าง การฉีดฟิลเลอร์สามารถทำได้หลายตำแหน่งเพื่อช่วยเติมเต็มริ้วรอย, เสริมรูปหน้า หรือปรับความสมดุลของใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้น โดยตำแหน่งที่นิยมมีดังนี้
ใต้ตา ช่วยลดรอยคล้ำ รอยหมองคล้ำ และปรับรูปทรงบริเวณใต้ตาให้ดูสดใสขึ้น
แก้ม เติมเต็มบริเวณที่แห้งหรือหย่อนคล้อย ช่วยให้รูปหน้าดูอ่อนเยาว์และเต็มเปี่ยม
ร่องแก้ม ช่วยลดริ้วรอยร่องลึกที่เกิดขึ้นระหว่างจมูกและมุมปาก
มุมปาก ช่วยยกมุมปากให้ดูยิ้มได้อย่างเป็นธรรมชาติ
ริมฝีปาก เติมเต็มริมฝีปากเพื่อให้ดูอวบอิ่มหรือปรับรูปทรงริมฝีปากให้สวยงาม
คาง ช่วยปรับรูปคางให้ชัดเจนขึ้น หรือเติมคางให้ยาวขึ้น เพื่อให้ใบหน้าดูสมดุล
ขมับ เติมฟิลเลอร์บริเวณขมับเพื่อปรับให้ใบหน้าดูเรียวและสมดุล
สันจมูก เติมฟิลเลอร์บริเวณสันจมูกเพื่อเสริมโครงสร้างจมูกให้ดูโด่งขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัด
กราม เติมฟิลเลอร์เพื่อปรับให้รูปกรามดูเรียวขึ้น
หน้าผาก เติมฟิลเลอร์บริเวณหน้าผากเพื่อให้ผิวดูเรียบเนียน หรือช่วยลดริ้วรอยบนหน้าผาก
การฉีดฟิลเลอร์ควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและเป็นธรรมชาติค่ะ
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นแม้ว่าฟิลเลอร์จะถือว่าปลอดภัย แต่ในบางกรณีก็อาจเกิดผลข้างเคียงได้ เช่น
อาการบวม แดง หรือเขียวช้ำบริเวณที่ฉีด
การแพ้สารฟิลเลอร์ (พบได้น้อยมาก)
การอุดตันของหลอดเลือด (กรณีที่ฉีดผิดตำแหน่ง)
ผลลัพธ์ที่ไม่สมมาตร หากทำโดยผู้ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญ
การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์
หากคุณตัดสินใจที่จะฉีดฟิลเลอร์ การเตรียมตัวที่ดีจะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มประสิทธิภาพของผลลัพธ์
ปรึกษาแพทย์ : แจ้งประวัติการแพ้ยา โรคประจำตัว และยาที่กำลังใช้อยู่
หลีกเลี่ยงยาและอาหารเสริมบางชนิด : เช่น แอสไพรินและวิตามินอี ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดรอยช้ำ
งดดื่มแอลกอฮอล์ : อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนการฉีด
คำแนะนำหลังฉีดฟิลเลอร์
หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีดในช่วง 24 ชั่วโมงแรก
งดการออกกำลังกายหนักและการใช้ซาวน่าหรืออบไอน้ำในช่วง 48 ชั่วโมง
หากมีอาการบวมแดงหรือผิดปกติ ควรติดต่อแพทย์ทันที
ฉีดฟิลเลอร์ปลอมแล้วอันตรายอย่างไรการฉีด
ฟิลเลอร์ปลอม หรือฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐานมีอันตรายมากมายที่อาจเกิดขึ้นกับร่างกายและสุขภาพของผู้ที่ได้รับการฉีด ซึ่งอาจส่งผลกระทบในระยะสั้นและระยะยาว ดังนี้
การติดเชื้อ ฟิลเลอร์ปลอมที่ไม่ได้ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา (FDA) หรือไม่ได้มาตรฐานอาจมีเชื้อแบคทีเรียปนเปื้อน ทำให้เกิดการติดเชื้อรุนแรงบริเวณที่ฉีด หากไม่ได้รับการรักษาอาจแพร่กระจายและทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง เช่น การบวม, แดง, หรือการเน่าเปื่อย
การอุดตันของหลอดเลือด ฟิลเลอร์ปลอมบางชนิดอาจมีส่วนผสมที่ไม่เหมาะสมหรือเป็นของที่ไม่สามารถย่อยสลายได้ในร่างกาย เมื่อฉีดเข้าไปแล้วอาจเกิดการอุดตันในหลอดเลือด ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะร้ายแรง เช่น การขาดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย หรือการเกิดเนื้อตายจากการขาดออกซิเจน
การบวมและการระคายเคือง ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้คุณภาพอาจทำให้เกิดการบวม, แดง, หรืออาการระคายเคืองบริเวณที่ฉีด เนื่องจากร่างกายไม่สามารถยอมรับสารเหล่านั้นได้ อาการเหล่านี้อาจทวีความรุนแรงขึ้นหากไม่ทำการรักษา
ผลลัพธ์ที่ผิดปกติ ฟิลเลอร์ปลอมอาจไม่สามารถปรับรูปหน้าหรือเติมเต็มได้อย่างที่คุณคาดหวัง และอาจทำให้เกิดการผิดปกติ เช่น รูปหน้าไม่สมดุล, บริเวณที่ฉีดมีรอยบุ๋ม, หรือการเคลื่อนย้ายของฟิลเลอร์ที่ไม่สม่ำเสมอ
อาการแพ้ ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐานอาจมีสารเคมีที่ร่างกายไม่สามารถทนได้ ทำให้เกิดอาการแพ้ที่อาจมีอาการบวม, คัน, หรือแม้แต่ลมพิษบริเวณที่ฉีด
ผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว ฟิลเลอร์ที่ปลอมและไม่ปลอดภัยอาจทำให้เกิดการสะสมสารที่ร่างกายไม่สามารถขับออกมาได้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบในระยะยาว เช่น การสะสมสารพิษในร่างกาย หรือการเกิดก้อนเนื้อที่ไม่สามารถรักษาได้ง่าย
การเลือกฉีดฟิลเลอร์ที่ปลอดภัยเพื่อป้องกันอันตรายจากการใช้ฟิลเลอร์ปลอม ควรเลือกใช้บริการจากคลินิกที่มีชื่อเสียงและมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการรับรอง พร้อมทั้งเลือกฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา (FDA) เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ
ฉีดฟิลเลอร์ มีผลข้างเคียงอย่างไรบ้าง หลังการฉีดฟิลเลอร์ แม้ว่าการฉีดจะเป็นกระบวนการที่ปลอดภัยเมื่อทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน แต่ยังคงมีผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยปกติแล้วผลข้างเคียงเหล่านี้จะเป็นชั่วคราวและหายไปได้เองภายในระยะเวลาสั้น ๆ แต่ก็ยังควรระวังและทราบถึงอาการที่อาจเกิดขึ้น
1. บวมและแดง
สาเหตุ : การฉีดฟิลเลอร์อาจทำให้เกิดอาการบวมและแดงที่บริเวณที่ฉีด เนื่องจากการกระทบกระเทือนและการฉีดสารเข้าสู่ผิว
ระยะเวลา : โดยทั่วไปจะหายไปภายใน 1-2 วัน
2. ฟ้าหรือรอยช้ำ (Hematoma)
สาเหตุ : ฟิลเลอร์อาจทำให้เกิดการแตกของเส้นเลือดเล็กๆ ทำให้มีเลือดซึมออกมาใต้ผิวหนัง เกิดรอยช้ำ
ระยะเวลา : อาการจะหายไปเองภายใน 1-2 สัปดาห์
3. การระคายเคืองหรือคัน
สาเหตุ : การฉีดฟิลเลอร์อาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองหรือคันบริเวณที่ฉีด ซึ่งสามารถเกิดจากสารที่ใช้ในฟิลเลอร์
ระยะเวลา : อาการมักจะหายไปในไม่กี่วัน
4. การติดเชื้อ
สาเหตุ : หากการรักษาความสะอาดไม่ดีหรือมีการใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจทำให้เกิดการติดเชื้อบริเวณที่ฉีด
อาการ : อาการบวม, แดง, เจ็บ และมีหนอง
การรักษา : ควรพบแพทย์เพื่อการรักษาโดยเร็ว
5. การเคลื่อนย้ายของฟิลเลอร์ (Migration)
สาเหตุ : ฟิลเลอร์อาจเคลื่อนที่จากตำแหน่งที่ฉีดไปยังตำแหน่งอื่น ทำให้ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง
การรักษา : ในบางกรณีอาจจำเป็นต้องทำการแก้ไขหรือฉีดฟิลเลอร์เพิ่มเติม
6. ก้อนหรือบวมที่ไม่สม่ำเสมอ
สาเหตุ : บางครั้งฟิลเลอร์อาจไม่กระจายตัวได้ดี ทำให้เกิดก้อนหรือบวมที่ไม่สม่ำเสมอในบริเวณที่ฉีด
การรักษา : ปัญหานี้สามารถแก้ไขได้โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เช่น การนวดหรือการใช้เอนไซม์ที่ช่วย
สลายฟิลเลอร์7. อาการแพ้
สาเหตุ : ในบางคนอาจเกิดอาการแพ้จากส่วนผสมในฟิลเลอร์ เช่น ผื่นแดง, คัน, หรืออาการบวมบริเวณที่ฉีด
การรักษา : หากเกิดอาการแพ้ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาทันที
8. ปวดหรือรู้สึกไม่สบาย
สาเหตุ : หลังการฉีดฟิลเลอร์ บางคนอาจรู้สึกปวดหรือไม่สบายที่บริเวณที่ได้รับการฉีด
การรักษา : อาการนี้มักหายไปภายใน 1-2 วัน แต่ถ้าเจ็บปวดหรือไม่สบายมากควรปรึกษาแพทย์
9. ผลลัพธ์ไม่เป็นธรรมชาติ
สาเหตุ : หากแพทย์ฉีดฟิลเลอร์มากเกินไป หรือไม่เข้าใจโครงสร้างของใบหน้า อาจทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมาดูไม่เป็นธรรมชาติ
การรักษา : ฟิลเลอร์บางประเภทสามารถสลายได้เอง หรืออาจต้องทำการแก้ไขโดยแพทย์
คำแนะนำหลังการฉีดฟิลเลอร์หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือการนวดบริเวณที่ฉีด เพื่อป้องกันการเคลื่อนย้ายของฟิลเลอร์
พักผ่อนและหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก ในวันแรกหลังการฉีด
หลีกเลี่ยงการโดนความร้อนหรือแสงแดดจัด เพื่อป้องกันการระคายเคือง
ดูแลรักษาความสะอาด เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
โดยทั่วไปแล้วผลข้างเคียงส่วนใหญ่จะเป็นชั่วคราวและหายไปภายในไม่กี่วัน หากมีอาการผิดปกติหรือไม่สบายใจ ควรพบแพทย์เพื่อรับคำแนะนำและการรักษาที่เหมาะสมค่ะ
สรุปฟิลเลอร์เป็นวิธีการเสริมความงามที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ หากเลือกใช้บริการจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และเลือกฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพ อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจฉีดควรพิจารณาอย่างรอบคอบ และไม่ควรฉีดจากบุคคลที่ไม่ได้รับการรับรองทางการแพทย์ ความงามที่ปลอดภัยต้องเริ่มต้นจากการมีข้อมูลที่ครบถ้วนและการเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวคุณเอง หากคุณกำลังมองหาวิธีที่จะเติมเต็มความอ่อนเยาว์ให้กับใบหน้า ปรับรูปทรงให้สวยงาม และดูแลตัวเองอย่างมีคุณภาพ
Vincent Clinic พร้อมให้บริการด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์ที่มีมาตรฐานระดับสากล