ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


อย่ามองข้าม โรคอาหารเป็นพิษ เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต

   เชื่อได้ว่าหลาย ๆ คนคงมีประสบการณ์ป่วยท้องเสียหรือท้องเดินกันมาแล้ว ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่มักเกิดจาก โรคอาหารเป็นพิษ จากการที่เรารับประทานอาหารที่ไม่สะอาด หรือพฤติกรรมการชอบรับประทานอาหารที่สุก ๆ ดิบ ๆ ก็ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการนี้ได้ ในส่วนของความรุนแรงของโรคนั้นก็มีตั้งแต่ไม่รุนแรงมากไป กินยาเองก็หาย ไปจนถึงขั้นเสียชีวิต ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แต่มีการพบว่า อาการ อาหาร เป็น พิษ ในเด็กจะมีความอันตรายมากกว่า เนื่องจากเด็กเสี่ยงที่จะเกิดภาวะขาดน้ำเฉียบพลันได้มากกว่าผู้ใหญ่ ซึ่งภาวะขาดน้ำจะมีอาการแสดง เช่น
1. เยื่อบุในช่องปากแห้ง
2. ปัสสาวะน้อย
3. มีอาการกระหายน้ำ
4. ร้องไห้ไม่มีน้ำตา
5. ผิวหนังเย็น

หากเด็กมีอาการใดอาการหนึ่งที่คาดว่าจะเป็นภาวะขาดน้ำ ควรรีบพาเด็กส่งโรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจวินิจฉัยต่อไปจะดีที่สุด เนื่องจากร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่ในปริมาณมาก จึงควรค่อย ๆ จิบน้ำเกลือแร่ ORS ไม่ควรรับประทานยาหยุดถ่ายเพราะจะทำให้เชื้อโรคยังค้างอยู่ในร่างกาย ทำให้อาการของโรคไม่หาย
นอกจากนี้ ใครที่สับสนว่า โรค มือ เท้า ปาก อาการ เป็นอย่างไร จะมีอาการท้องเสียเหมือนกันหรือไม่ แล้วจะแยกความแตกต่างระหว่างโรคอาหารเป็นพิษและโรค มือ เท้า ปาก ได้อย่างไร ต้องขอบอกก่อนเลยว่าอาการของโรค มือ เท้า ปาก จะสามารถแบ่งได้ออกเป็น 2 ส่วน คือ อาการเบื้องต้นและอาการแทรกซ้อน

-   อาการเบื้องต้น เช่น ท้องเสียหรือถ่ายเหลวที่มีการอาเจียนร่วมด้วย มีตุ่มใสขึ้นบริเวณมือ เท้า ลำตัว
-   อาการแทรกซ้อน เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบ หรือหัวใจวายเฉียบพลัน

เรียกได้ว่าไม่ว่าเด็กจะป่วยจากโรคมือเท้าปาก หรือ โรคอาหารเป็นพิษ ก็มีโอกาสที่อาการจะรุนแรงจนต้องแอดมิทเข้าโรงพยาบาล เนื่องจากภูมิคุ้มกันน้อยกว่าวัยผู้ใหญ่ หลายคนทราบกันอยู่แล้วว่า ipd คือ อะไร แต่ยังไม่ทราบว่า opd คือ อะไร วันนี้เราจะมาอธิบายให้เข้าใจง่ายเพิ่มเติมกัน ดังนี้

-   ipd คือ ลักษณะของผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการรักษาภายในโรงพยาบาลตั้งแต่ 6 ชั่วโมงขึ้นไป หรือที่เรียกกันโดยทั่วไป คือ ผู้ป่วยใน
-   opd คือ ลักษณะของผู้ป่วยที่มีอาการไม่ค่อยรุนแรง เข้ารับการรักษาภายในโรงพยาบาลไม่เกิน 6 ชั่วโมงขึ้นไป หรือที่เรียกกันโดยทั่วไป คือ ผู้ป่วยนอก ส่วนใหญ่แพทย์มักวินิจฉัยอาการและให้ยากลับไปรับประทานที่บ้าน

ดังนั้น การป้องกันที่ดีที่สุดนอกเหนือจากการปรับพฤติกรรม คือ การมีแผนประกันที่มีความคุ้มครองที่ครอบคลุม โดยควรมีการรับผิดชอบในส่วนของค่ารักษาพยาบาลทั้งกรณีที่เป็นผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอกเมื่อมีการเจ็บป่วยจากโรคที่มักจะพบได้บ่อยในแต่ละช่วงวัย เช่น โรคอาหารเป็นพิษ โรคไข้หวัดใหญ่ โรคไข้เลือดออก โรค มือ เท้า ปาก เป็นต้น

ชมข้อมูลเพิ่ม
https://online.scbprotect.co.th/content/what-is-ipd-and-opd