การเลือกใช้
เลนส์กรองแสงสีฟ้า กลายเป็นประเด็นที่หลายคนให้ความสนใจมากขึ้น โดยเฉพาะในยุคที่การจ้องหน้าจอแทบตลอดวันกลายเป็นเรื่องปกติ อย่างไรก็ตาม ข้อถกเถียงที่เกิดขึ้นคือความแตกต่างระหว่างเลนส์ราคาหลักร้อยและหลักพันนั้นคุ้มค่าหรือไม่? บางคนอาจมองว่าเลนส์ราคาถูกก็เพียงพอ แต่ในเชิงวิทยาศาสตร์ ความแตกต่างในคุณสมบัติการกรองแสงโดยเฉพาะในช่วงความยาวคลื่นที่ต่างกันนั้นอาจส่งผลต่อสุขภาพตาและระบบนาฬิกาชีวิตในระยะยาวอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเราจะพาคุณวิเคราะห์เชิงลึกเพื่อช่วยให้ตัดสินใจอย่างมีข้อมูล
เลนส์กรองราคาหลักร้อยกับหลักพัน: ต่างกันแค่ราคา หรือมากกว่านั้น?
ผู้บริโภคจำนวนมากอาจคิดว่าเลนส์กรองแสงทุกแบบก็ให้ผลลัพธ์ไม่ต่างกัน แต่ข้อเท็จจริงทางเทคนิคคือ เลนส์ราคาหลักร้อยมักใช้เทคนิคการเคลือบแบบพื้นฐานที่กรองแสงสีฟ้าทั้งหมดออกไปโดยไม่แยกแยะ ส่งผลให้แสงสีฟ้าทั้งดีและไม่ดีถูกตัดออกพร้อมกัน แตกต่างจากเลนส์ระดับพรีเมียมในราคาหลักพันที่ใช้เทคโนโลยีเฉพาะในการกรองเฉพาะแสงสีฟ้าอมม่วง ซึ่งเป็นช่วงคลื่นที่เป็นอันตรายต่อจอประสาทตา ขณะเดียวกันยังคงปล่อยแสงสีฟ้าอมเขียวที่จำเป็นต่อสมองและการควบคุมจังหวะชีวิตให้เข้าสู่ร่างกายได้อย่างปลอดภัยและแม่นยำยิ่งกว่า
ทำไมแสงสีฟ้าถึงมีทั้ง “ดี” และ “ร้าย”?
แสงสีฟ้าไม่ได้เป็นศัตรูของสุขภาพเสมอไป เพราะในความเป็นจริง มันมีทั้งช่วงที่เป็นอันตรายและช่วงที่มีประโยชน์ แสงสีฟ้าในช่วงความยาวคลื่นสั้นกว่า 455 นาโนเมตร หรือที่เรียกว่า “แสงสีฟ้าอมม่วง” คือสาเหตุของความเสียหายที่เกิดขึ้นกับจอประสาทตาและมีส่วนทำให้นอนไม่หลับ ขณะที่แสงสีฟ้าในช่วงความยาวคลื่นประมาณ 480 นาโนเมตร หรือ “แสงสีฟ้าอมเขียว” กลับมีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยกระตุ้นความตื่นตัว ปรับสมดุลฮอร์โมน และควบคุมนาฬิกาชีวภาพ ซึ่งเลนส์คุณภาพสูงจึงมักถูกออกแบบมาให้กรองเฉพาะช่วงคลื่นที่ก่อปัญหาเท่านั้น เพื่อยังคงคุณสมบัติทางธรรมชาติที่ร่างกายควรได้รับ
