สิงห์บุรีเป็นจังหวัดเล็ก ๆ ที่อาจไม่หวือหวาในสายตานักท่องเที่ยวกระแสหลัก แต่กลับอัดแน่นด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ วิถีชีวิตเรียบง่าย และบรรยากาศสงบที่หาได้ยากในปัจจุบัน หากคุณกำลังมองหาการเดินทางที่ไม่เร่งรีบ ได้ทั้งความรู้ ความอิ่มใจ และการพักผ่อนอย่างแท้จริง ไม่ควรพลาด 10 สถานที่ท่องเที่ยวในสิงห์บุรี ดังต่อไปนี้ ที่สะท้อนตัวตนของเมืองได้อย่างชัดเจน ตั้งแต่วัดเก่าแก่ สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ไปจนถึงชุมชนท้องถิ่นที่ยังคงรักษาเสน่ห์ดั้งเดิมไว้ครบถ้วน ว่าแล้วก็เตรียมตัวออกไปสัมผัสกันเลยค่ะ
1. วัดพระนอนจักรสีห์
วัดพระนอนจักรสีห์วรวิหาร ตั้งอยู่ที่ตำบลจักรสีห์ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นก่อนกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ภายในวัดพระนอนจักรสีห์วรวิหารมีวิหาร ประดิษฐาน พระนอนจักรสีห์ พระพุทธรูปไสยาสน์ หรือพระนอนขนาดใหญ่ ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศไทย เป็นพระพุทธรูปสุโขทัยที่มีความอ่อนช้อยงดงามมากๆ มีความเชื่อว่า หากมาขอพรให้ท่านช่วย เมื่อสำเร็จก็จะนิยมมาแก้บนด้วย ไข่ต้ม หัวหมู บายศรี
2. อนุสาวรีย์วีรชนค่ายบางระจัน
อนุสาวรีย์วีรชนค่ายบางระจัน สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่วีรชนบ้านบางระจัน ตามประวัติศาสตร์ในสมัยสมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์ โดยพม่าได้ยกทัพมาตีไทย และมีกองทัพส่วนหนึ่งเข้าตีหมู่บ้านบางระจัน แม้ว่าชาวบ้านบางระจันจะขาดแคลนอาวุธ และมีกำลังน้อยกว่า แต่ก็ได้แสดงความกล้าหาญ และความสามัคคีใ นการรวมพลังกันต่อสู่กับกองทัพพม่า ที่ยกทัพเข้าตีหมู่บ้านบางระจันถึง 8 ครั้ง ใช้เวลานานกว่า 5 เดือน
3. พิพิธภัณฑ์บ้านคูเมือง
เป็นพิพิธภัณฑ์ชุมชนที่ถ่ายทอดเรื่องราวประวัติศาสตร์ วิถีชีวิต และภูมิปัญญาท้องถิ่นของชาวสิงห์บุรีอย่างเรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง ภายในจัดแสดงเครื่องใช้พื้นบ้าน เครื่องมือเกษตร ข้าวของในชีวิตประจำวัน รวมถึงเรื่องราวความเป็นอยู่ของคนลุ่มน้ำเจ้าพระยาในอดีต
4. วัดโพธิ์เก้าต้น
สถานที่เที่ยวสิงห์บุรีที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนบางระจัน ซึ่งก็คือวัดโพธิ์เก้าต้นและหลวงพ่อธรรมโชติ สถานที่แห่งนี้อยู่ในบริวารเดียวกันกับตลาดย้อนยุคบางระจันด้วย ด้านนอกของตัววัดจะเป็นกำแพงวัดที่จะแตกต่างจากกำแพงวัดทั่วไป เพราะว่าเขาจำลองกำแพงของค่ายบางระจันในยุคอดีตเอาไว้ให้ชมกัน
5. ตลาดย้อนยุคบ้านบางระจัน
ตลาดน้ำบางระจันเป็นตลาดที่อยู่ในจังหวัดสิงห์บุรี ตลาดเปิด ตั้งแต่ 8.00 – 16.00 แต่เปิดแค่ เสาร์ อาทิตย์ ที่นี่มีเอกลักษณ์ดี พ่อค้าแม่ค้าก็แต่งตัวเหมือนชาวบ้านบางระจันทร์ มีพูดจาแบบสมัยก่อนด้วย หรือใครอยากถ่ายรูปสวย ๆ เขาก็มีชุดให้เช่าใส่ด้วย ใส่แล้วเดินไปตลาด เหมือนเราย้อนไปในอดีตเลย มีมุมถ่ายรูปเยอะ คนถ่ายก็เยอะ เหมือนถ่ายกับชุมชนชาวบางระจัน แถมเขามีการแสดงของชาวบ้าน กับเด็ก ๆ ด้วย
6. โบราณสถานเตาเผาแม่น้ำน้อย
ถ้าพูดถึงสิงห์บุรี ก็ต้องมีเรื่องของโบราณวัตถุต่าง ๆ แหล่งเตาเผาแม่น้ำน้อยนี้ ตั้งอยู่ใกล้กับวัดพระปรางค์ ซึ่งเป็นสถานที่เก่าแก่ โดยลักษณะของที่นี่คือจะเป็น เตาเผาขนาดใหญ่ มีที่ระบายความร้อนเฉียงขึ้น ก่อสร้างด้วยอิฐ มี 3 ส่วนคือ ปล่องไฟ ห้องวางเครื่องปั้นดินเผา และห้องเชื้อเพลิง ส่วนไฮไลต์เด็ดที่พลาดไม่ได้ของที่นี่คือ เตาเผาที่มีขนาดใหญ่ที่สุด โดยมีความยาวถึง 14 เมตร กว้าง 5.6 เมตร และเส้นผ่าศูนย์กลาง ยาว 2.15 เมตร ซึ่งที่นี่นอกจากจะมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญ ยังเป็นศูนย์ศึกษาทางวิชาการเซรามิกที่ยิ่งใหญ่ของโลกอีกด้วย
7. วัดอัมพวัน
วัดสวยและสงบ ที่เที่ยวสิงห์บุรีที่เหมาะแก่การมาเรียนรู้การปฏิบัติธรรม และมากราบสรีระสังขารพระเกจิดัง หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม ชื่นชมพระเจดีย์ธรรมสิงหบุราจริยานุสรณ์ สร้างถวายแด่หลวงพ่อจรัญ หลังท่านละสังขาร ที่มาของการสร้างเจดีย์นั้น ได้มาจากการปรารภของพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคยพูดคุยกับพระครูวินัยธรวรพงษ์ (เลขาฯ) ตั้งแต่ปี 2551 และได้มีการร่างแบบและกำหนดสถานที่ก่อสร้างเจดีย์ เพื่อเป็นอนุสรณ์สถาน ฝากไว้ให้อนุชนคนรุ่นหลัง
8. อุทยานแม่ลามหาราชานุสรณ์
อุทยานแม่ลามหาราชานุสรณ์ แห่งนี้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวสิงห์บุรี โดยจะตั้งอยู่ติดลำน้ำ มีความสงบร่มรื่น อากาศเย็นสบายๆ ซึ่งก็ถือได้ว่าเป็นจุดพักผ่อนที่น่าไปเยือมากๆ ของ สิงห์บุรี โดยจุดเริ่มต้นของที่นี่ ก็เกิดขึ้นมาจากของดีอย่าง ปลาช่อนแม่ลา ปลาช่อนที่มีรสชาติพิเศษไม่เหมือนใครจนกลายมาเป็นของดีประจำจังหวัด
9. วัดม่วงชุม
วัดม่วงชุม เป็น วัดสวย เก่าแก่ ของสิงห์บุรี มีอายุมากกว่า 400 ปี เมื่อก่อนนั้นจะมีชื่อว่า วัดกระดังงา สร้างมาตั้งแต่ในสมัยกรุงศรีอยุธยาแล้ว มีจุดเด่นตรงที่ประดิษฐาน หลวงพ่อดำ ที่อยู่หลังวัด และเมื่อปี พ.ศ. 2424 นั้น ชาวบ้านในอำเภอบางระจันก็ได้ร่วมกันสร้างวัดที่ขึ้นมาใหม่ และเปลี่ยนชื่อเป็น วัดม่วงชุม ซึ่งที่มาของชื่อก็มาจากการที่ชาวบ้านไปประชุมกันใต้ต้นมะม่วง
10. ตลาดปากบาง
ตลาดชุมชนตลาดเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่รัตนโกสินทร์ และยังเป็นมีการอนุรักษ์อาคารบ้านเรือนต่าง ๆ เอาไว้ในสภาพเก่าแก่แบบในอดีต ทำให้ได้บรรยากาศที่อบอุ่น พร้อมกับร้านค้าต่าง ๆ ที่ให้กลิ่นอายของความเป็นชุมชนในอดีต และอีกหนึ่งสถานที่สำคัญของชุมชนนี้คือ “ศาลาหลวงพ่อหิน” หลวงพ่อหินที่อยู่คู่ตลาดมานาน และเป็นพระที่ศักดิ์สิทธิ์เป็นที่นับถือของคนในตลาด และศาลเจ้าพ่อปากบางหมื่นหาญ ซึ่งเป็นศาลจีนที่จะมีงานประเพณีทิ้งติ้วประจำปี
แหล่งอ้างอิง
https://travel.trueid.net/detail/91oGdEMb9VQ1https://www.wongnai.com/listings/attractions-singburihttps://shorturl.asia/NPrHR