
ทำไม “เงินทุนระยะสั้น” ถึงสำคัญกับผู้เริ่มต้นธุรกิจ
ทุกการเริ่มต้นธุรกิจไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร คาเฟ่ สตาร์ทอัพออนไลน์ หรือบริการขนาดเล็ก ต่างต้องเผชิญกับปัญหาเดียวกันคือ “เงินทุนหมุนเวียน” โดยเฉพาะในช่วงปีแรกที่รายได้ยังไม่สม่ำเสมอ ค่าใช้จ่ายกลับวิ่งเข้ามาทุกเดือน
ตรงนี้เองที่ สินเชื่อระยะสั้น หรือ Working Capital Loan กลายเป็นพระเอก เพราะช่วยเสริมสภาพคล่องระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี ให้ธุรกิจไม่สะดุดระหว่างสร้างฐานลูกค้า
สินเชื่อระยะสั้นคืออะไร?
สินเชื่อระยะสั้น (Short-Term Loan) คือ วงเงินกู้ที่มีกำหนดไม่เกิน 12 เดือน จุดประสงค์หลักเพื่อให้ธุรกิจมีเงินสดหมุนเพียงพอในการดำเนินงาน เช่น
จ่ายเงินเดือนพนักงาน
ซื้อวัตถุดิบ/สต็อกสินค้า
ชำระค่าสาธารณูปโภค
รองรับออร์เดอร์ใหม่
Insight ปี 2568: ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ผลักดันให้ธนาคารพาณิชย์และ non-bank สนับสนุนสินเชื่อเพื่อธุรกิจรายย่อย วงเงิน ไม่เกิน 5 ล้านบาท โดยใช้เกณฑ์กระแสเงินสดแทนหลักทรัพย์ค้ำประกัน ช่วยเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการหน้าใหม่เข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น

ประเภทสินเชื่อระยะสั้นที่ผู้ประกอบการควรรู้
1. สินเชื่อ OD (Overdraft)
วงเงินเบิกเกินบัญชีที่เชื่อมกับบัญชีธุรกิจ ใช้เมื่อจำเป็นและคิดดอกเบี้ยเฉพาะยอดเบิกจริง เหมาะกับธุรกิจที่รายรับ–รายจ่ายขึ้นลงตามฤดูกาล
2. สินเชื่อตั๋วสัญญาใช้เงิน (P/N)
เงินกู้ที่ออกตั๋วสัญญาใช้เงิน มีอายุไม่เกิน 1 ปี เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการก้อนเงินชัดเจนและรู้กำหนดชำระแน่นอน
3. สินเชื่อเพื่อการค้า (Trade Finance)
ครอบคลุมธุรกรรมการนำเข้า–ส่งออก เช่น L/C, T/R ใช้ในธุรกิจที่มีคู่ค้าต่างประเทศ
4.
สินเชื่อแฟคตอริ่ง (Factoring)
เปลี่ยน Invoice เป็นเงินสด โดยการขายลูกหนี้การค้าให้สถาบันการเงิน เหมาะกับ SME ที่ต้องรอเครดิตเทอม 30–90 วัน
ผู้ประกอบการรายใหม่ กู้ได้จริงหรือ?
คำตอบคือ “ได้” แต่ต้องเตรียมตัวมากกว่าธุรกิจที่เปิดมานาน เพราะสถาบันการเงินยังไม่เห็นประวัติรายได้ที่มั่นคง
ปัจจัยที่ช่วยเพิ่มโอกาสอนุมัติ
แผนธุรกิจชัดเจน – ระบุรายได้เป้าหมาย, กลยุทธ์การตลาด, แผนใช้เงิน และตารางคืนหนี้
หลักฐานรายได้ในอนาคต – เช่น ใบสั่งซื้อ (PO), สัญญาจ้างงาน
เครดิตส่วนตัวเจ้าของกิจการดี – ชำระหนี้ตรงเวลา, ไม่มีค้างชำระ
ผู้ค้ำประกัน/หลักทรัพย์ – ลดความเสี่ยงให้ธนาคารมั่นใจ
บสย. (บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม) – เข้ามาค้ำแทนผู้กู้ในบางโครงการ

? สถิติจาก บสย. ปี 2568: สนับสนุนผู้ประกอบการ SME กว่า 20,000 ราย วงเงินรวมกว่า 30,000 ล้านบาท
ขั้นตอนการเตรียมตัวขอสินเชื่อระยะสั้น
1. ทำแผนธุรกิจ (Business Plan)
ต้องมีทั้งประมาณการรายได้–ค่าใช้จ่าย, กลยุทธ์การตลาด และแผนชำระคืนหนี้
2. แยกบัญชีธุรกิจออกจากบัญชีส่วนตัว
ช่วยให้ธนาคารเห็นกระแสเงินสดจริงของธุรกิจ
3. รวบรวมเอกสารให้ครบ
หนังสือจดทะเบียนธุรกิจ
บัตรประชาชน/ทะเบียนบ้านผู้กู้
แผนธุรกิจ + งบการเงิน (ถ้ามี)
ใบสั่งซื้อ/สัญญาลูกค้า
หลักฐานทรัพย์สินค้ำ (ถ้ามี)
4. เปรียบเทียบหลายสถาบันการเงิน
ทั้งธนาคารพาณิชย์, ธนาคารรัฐ และฟินเทค เพื่อหาดอกเบี้ยและเงื่อนไขที่เหมาะสม
เทคนิคเพิ่มโอกาสอนุมัติสินเชื่อ
เริ่มจากวงเงินเล็ก ๆ ก่อน: ขอวงเงินพอดีกับความต้องการจริง สร้างประวัติชำระดี แล้วค่อยขยาย
สร้างความสัมพันธ์กับธนาคาร: เปิดบัญชีธุรกิจ, ใช้บริการอื่น ๆ สร้างเครดิต
พัฒนาทักษะการนำเสนอ: นำเสนอแผนธุรกิจอย่างมั่นใจ ให้ทีมเครดิตเห็นภาพความเป็นไปได้
เตรียมแผนสำรอง: เช่น หาเงินทุนจากนักลงทุน หรือปรับโครงสร้างต้นทุน หากไม่ได้สินเชื่อตามเป้า
มุมมองเชิงกลยุทธ์: สินเชื่อระยะสั้นกับธุรกิจขนาดเล็ก
ร้านอาหาร/คาเฟ่: ใช้ OD เสริมสภาพคล่อง + Factoring แปลงบิลส่งโมเดิร์นเทรดเป็นเงินสด
ธุรกิจบริการ: เช่น คลีนิค, ฟิตเนส ใช้ P/N หรือ Term Loan ระยะสั้นเพื่อซื้ออุปกรณ์ และ OD สำหรับค่าใช้จ่ายประจำ
ผู้ส่งออก–นำเข้า: Trade Finance ช่วยปิด Gap ระหว่างจ่ายต้นทุนกับรอรับเงินคู่ค้า
สตาร์ทอัพออนไลน์: ใช้ OD ควบคู่กับการวางระบบชำระเงินดิจิทัล แสดงรายได้จริงให้ธนาคารเห็น
สรุป
สินเชื่อระยะสั้น เป็นทางออกที่ช่วย SME รายใหม่ “อยู่รอดและเติบโต” ในปี 2568 โดยเฉพาะเมื่อคุณยังไม่มีเงินทุนสำรองมากพอ การเลือกประเภทสินเชื่อที่เหมาะสม (OD, Factoring, Trade Finance ฯลฯ) และการเตรียมแผนธุรกิจชัดเจน จะช่วยให้สถาบันการเงินมั่นใจและอนุมัติง่ายขึ้น

? หากคุณกำลังมองหา สินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดเล็ก หรืออยากเปรียบเทียบข้อเสนอที่คุ้มที่สุด สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและรับคำปรึกษาฟรีได้ที่
www.easycashflows.com