เตาไมโครเวฟเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่อยู่คู่บ้านเรือนมานานนับสิบปี ใช้งานง่าย สะดวกสบาย แต่ขณะเดียวกันก็เป็นต้นกำเนิดของความเข้าใจผิดและความเชื่อผิด ๆ มากมายเกี่ยวกับพลังงานไมโครเวฟและผลกระทบต่อสุขภาพหรืออาหาร บางเรื่องก็เป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อนเล็กน้อย แต่บางเรื่องถึงขั้นทำให้ผู้ใช้งานหลีกเลี่ยงไม่กล้าใช้งานโดยไม่จำเป็น
บทความนี้จึงจะมาขออาสามาไขข้อข้องใจว่าความเชื่อยอดฮิตเหล่านี้ “เรื่องไหนจริง เรื่องไหนมั่ว” กันแน่
ไมโครเวฟทำให้ของกินกลายเป็นของมีสารก่อมะเร็ง – มั่ว หนึ่งในความเชื่อที่ทำให้หลายคนกลัวการใช้เตาไมโครเวฟคือ ความเชื่อที่ว่าคลื่นไมโครเวฟจะเปลี่ยนโครงสร้างอาหารจนกลายเป็นสารก่อมะเร็ง แต่ในความเป็นจริง คลื่นไมโครเวฟคือพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าความถี่ประมาณ 2.45 GHz ซึ่งทำให้โมเลกุลของน้ำในอาหารเกิดการสั่นสะเทือน เกิดความร้อนโดยไม่ทำให้เกิดการแตกตัวของโมเลกุลอย่างที่รังสีเอกซ์ (X-ray) หรือรังสีแกมมา (Gamma Ray) ทำ
ดังนั้น ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ใดที่ยืนยันว่าอาหารที่ผ่านการอุ่นด้วยเตาไมโครเวฟจะมีสารก่อมะเร็ง หรือโครงสร้างทางเคมีเปลี่ยนแปลงจนเป็นอันตรายต่อร่างกาย
ไมโครเวฟทำงานโดยใช้การสั่นของโมเลกุลน้ำ – จริง หลักการทำงานของเตาไมโครเวฟคือการใช้ Magnetron ซึ่งเป็นหลอดสร้างคลื่นไมโครเวฟ ปล่อยคลื่นเข้าสู่ช่องภายในเตา ทำให้โมเลกุลของน้ำในอาหารเกิดการสั่นอย่างรวดเร็วประมาณ 2.45 พันล้านครั้งต่อวินาที เกิดแรงเสียดทานภายในระดับโมเลกุล จึงเกิดความร้อนขึ้นจาก “ภายในออกภายนอก” ต่างจากเตาแก๊สที่ให้ความร้อนจากด้านนอก
อาหารที่มีปริมาณน้ำมากจึงอุ่นได้เร็ว ขณะที่อาหารแห้งอาจร้อนช้าหรือแห้งแข็ง เพราะไม่มีน้ำให้สั่น
ห้ามเปิดประตูขณะเตาทำงาน เพราะจะโดนคลื่นไมโครเวฟเล็ดลอดออกมาทำอันตราย – มั่ว (แต่มีพื้นฐานความจริง) เตาไมโครเวฟในปัจจุบันถูกออกแบบให้มี Interlock Switch ซึ่งจะตัดการทำงานของ Magnetron ทันทีเมื่อประตูเปิด หมายความว่าต่อให้คุณเปิดประตูเร็วแค่ไหน คลื่นไมโครเวฟจะถูกตัดและหยุดทำงานทันที จึงไม่เกิดอันตรายจากคลื่น
แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าเตาของคุณเก่าเกิน 8–10 ปี หรือมีรอยแตกร้าวบริเวณประตู ขอบยาง หรือโลหะบังคลื่น (waveguide cover) ชำรุด อาจเกิดการรั่วไหลของคลื่นได้ จึงควรให้ช่างตรวจสอบและเปลี่ยนอะไหล่หากพบความผิดปกติ
ห้ามใส่วัสดุโลหะเข้าไมโครเวฟ – จริง โลหะเป็นตัวสะท้อนคลื่นไมโครเวฟ เมื่อใส่จานที่มีขอบโลหะ หรือใช้ภาชนะโลหะ เช่น ฟอยล์ อาจเกิดประกายไฟ หรือกรณีเลวร้ายอาจทำให้ Magnetron เสียหายได้
ถ้าอยากอุ่นอาหารในเตาไมโครเวฟอย่างปลอดภัย ให้เลือกภาชนะที่ระบุว่า “Microwave Safe” เท่านั้น และหลีกเลี่ยงโลหะทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นส้อม ช้อน หรืออลูมิเนียมฟอยล์
อาหารที่อุ่นจากไมโครเวฟไม่สุกทั่วถึง – จริงบางส่วน เนื่องจากเตาไมโครเวฟให้ความร้อนจากการสั่นของน้ำ ไม่ได้แผ่ความร้อนเท่า ๆ กันในทุกจุด โดยเฉพาะอาหารชิ้นใหญ่หรือก้อนหนา อาจมีบางจุดที่ร้อนจัดและบางจุดที่ยังเย็นอยู่
เตาไมโครเวฟคุณภาพดีจึงมักมี Plate หมุน เพื่อหมุนอาหารระหว่างอุ่นให้คลื่นกระจายตัวทั่วถึง หรือมี Stirrer Fan เพื่อกระจายคลื่นอย่างสม่ำเสมอ หากไม่มี ให้คุณคนอาหารระหว่างอุ่น หรือหั่นเป็นชิ้นเล็กเพื่อความร้อนที่ทั่วถึงมากขึ้น
เตาไมโครเวฟต้องได้รับการดูแลอย่างสม่ำเสมอ – จริง การใช้งานเตาไมโครเวฟอย่างต่อเนื่องโดยไม่ทำความสะอาด อาจทำให้อาหารกระเด็นเข้าไปที่ Waveguide Cover หรือแผ่นโลหะกรองคลื่น ส่งผลให้เกิดการช็อต มีเสียงแปลบ ๆ หรือแม้กระทั่งทำให้ Magnetron ทำงานหนักและเสื่อมเร็ว
นอกจากนี้ยังควรตรวจสอบ Seal ประตู, ระบบล็อก, และ พัดลมระบายความร้อน อย่างสม่ำเสมอ หากพบความผิดปกติควรหยุดใช้งานและให้ช่างผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบทันที
เตาไมโครเวฟไม่ได้น่ากลัวอย่างที่หลายคนเชื่อ หากเข้าใจหลักการทำงานและใช้งานอย่างถูกวิธี โดยเลือกภาชนะที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงโลหะ ทำความสะอาดเป็นประจำ และตรวจสอบความสมบูรณ์ของอุปกรณ์อย่างสม่ำเสมอ คุณก็สามารถใช้เตาไมโครเวฟอุ่นอาหารได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด