ในการซื้อขายฟอเร็กซ์ หนึ่งในจุดที่นักลงทุนมือใหม่มักมองข้าม แต่มีผลกระทบต่อความสำเร็จในระยะยาวคือการเข้าใจขนาดของสัญญาที่เรียกว่า lot forex คือ หน่วยวัดปริมาณการเทรดที่กำหนดขนาดความเสี่ยง กำไร และการจัดการเงินทุนทั้งหมดของพอร์ตการลงทุนอย่างเป็นระบบ หากคุณยังไม่แน่ใจว่าแต่ละลอตหมายถึงอะไร มีผลอย่างไรกับการเทรด และควรเลือกใช้ขนาดใดในสถานการณ์ไหน ลองอ่านเพิ่มเติมจาก
การอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยวัด pip และ lot ในการเทรดฟอเร็กซ์ ที่ช่วยให้เห็นภาพชัดเจนทั้งในเชิงทฤษฎีและเชิงปฏิบัติ เพื่อการจัดการพอร์ตที่แม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
จังหวะของตลาดมีผลต่อการเลือกขนาด lot อย่างไร
ในขณะที่หลายคนให้ความสำคัญกับจุดเข้าออเดอร์และกลยุทธ์ทางเทคนิค แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ให้ความสำคัญกับการปรับขนาด lot ให้เหมาะสมตามความผันผวนของตลาด ความจริงแล้ว ความเคลื่อนไหวของราคาในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูงหรือช่วงข่าวสำคัญ มีผลโดยตรงต่อความเสี่ยง หากเลือกใช้ขนาดลอตใหญ่เกินไปในช่วงตลาดไม่นิ่ง โอกาสที่จะพอร์ตโดนลากก็มีสูงขึ้นโดยไม่จำเป็น
ดังนั้น เทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์มักปรับขนาดลอตให้สอดคล้องกับภาวะตลาด ณ เวลานั้น เช่น ช่วงก่อนข่าวสำคัญอาจเลือกใช้ micro lot เพื่อจำกัดความเสียหาย หากราคาสวิงแรง ในขณะที่ช่วงตลาดสงบ หรือมีแนวโน้มชัดเจน การขยับไปใช้ standard lot ก็อาจสร้างผลตอบแทนที่เหมาะสมขึ้นได้ เพราะฉะนั้น การเข้าใจบริบทของตลาดจึงเป็นหัวใจในการเลือกขนาด lot ให้สอดคล้องกับความเสี่ยงจริง
เทคนิคการแบ่งไม้ด้วยการจัดสรร lot แบบมีระบบ
หนึ่งในกลยุทธ์ที่เทรดเดอร์มืออาชีพใช้กันมากคือการ “แบ่งไม้” แทนที่จะเทรดด้วยขนาด lot เดียวในไม้เดียว พวกเขาจะกระจายความเสี่ยงด้วยการเปิดหลายไม้ย่อย เพื่อให้สามารถปรับตัวตามสถานการณ์ตลาดได้ดีขึ้น เช่น หากเปิดออเดอร์ buy ไว้แล้วราคาเกิดย่อลงมาอีก อาจเติมออเดอร์ใหม่ด้วยขนาดลอตที่น้อยลง ทำให้สามารถเฉลี่ยต้นทุนและควบคุมพอร์ตได้ยืดหยุ่นกว่าเดิม
เทคนิคนี้จะมีประสิทธิภาพมากหากคุณรู้วิธีคำนวณขนาด lot ในแต่ละไม้ให้เหมาะสม เช่น ไม้แรกใช้ 0.2 lot ไม้ต่อมาใช้ 0.1 lot เพื่อไม่ให้ผลรวมของขนาดลอตเกินความเสี่ยงที่รับได้ เทคนิคนี้เหมาะอย่างยิ่งกับการเทรดในตลาดที่มีแนวโน้ม แต่ยังไม่มีความมั่นใจ 100% การแบ่งไม้และปรับขนาดลอตในลักษณะนี้จึงช่วยเพิ่มโอกาสรักษาพอร์ตให้อยู่รอดในระยะยาว
