ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


ซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์ยังไงให้เหมาะกับตัวเอง? รู้ก่อนเลือก ไม่พลาดภายหลัง

ซื้อประกันรถยนต์ยังไงให้เหมาะกับตัวเอง? คิดให้ครบก่อนตัดสินใจ

การซื้อประกันรถยนต์คืออีกหนึ่งสิ่งที่ต้องคิดหนัก ถ้าเป็นมือใหม่ ห้ามพลาดบทความนี้ถ้าอยากซื้อแบบไม่พลาด

รถมีล้อ ประกันต้องมีแผน แต่จะซื้อประกันรถยนต์ยังไงให้ตรงไลฟ์สไตล์ ไม่จ่ายเกิน ไม่คุ้มครองขาด นี่แหละคำถามที่หลายคนยังตอบตัวเองไม่ได้ เพราะไม่ได้มีสูตรตายตัวให้เลือกเหมือนชุดนักเรียน บทความนี้จะพาไปดูแบบครบทุกแง่ ว่าก่อนตัดสินใจ "ซื้อประกันรถยนต์" ต้องมองอะไรบ้างถึงจะไม่พลาด ทั้งเรื่องรถ เรื่องคน เรื่องงบ และเรื่องความสบายใจในวันที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นจริง

ไม่มีประกันไหนดีที่สุด มีแต่ประกันที่เหมาะกับคุณที่สุด ซื้อประกันรถยนต์ ต้องเลือกให้เข้ากับไลฟ์สไตล์

ทุกคนที่กำลังจะซื้อประกันรถยนต์ ต้องเริ่มจากการเข้าใจให้ได้ก่อนว่า “ไม่มีแผนไหนดีที่สุดสำหรับทุกคน” เพราะแต่ละคนมีพฤติกรรมการใช้รถต่างกัน ไลฟ์สไตล์ไม่เหมือนกัน ความเสี่ยงก็เลยไม่เท่ากัน ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลต่อการเลือกซื้อประกันรถยนต์โดยตรง การเลือกประกันให้เหมาะกับตัวเอง ไม่ได้แค่ลดค่าเบี้ย แต่มันช่วยให้ได้แผนที่ไม่จ่ายเกิน แถมยังคุ้มครองแบบตรงจุด

คนที่ใช้รถในเมือง เจอรถติดบ่อย มีโอกาสโดนเฉี่ยวชนจากรถรอบข้างสูง อาจต้องพิจารณาแผนที่รองรับความเสียหายแม้ไม่มีคู่กรณี ส่วนคนที่ขับรถไม่บ่อย จอดรถในบ้านตลอด อาจไม่จำเป็นต้องเลือกแผนที่แพงเกินไปก็ได้ บางคนขับรถไกล ๆ บ่อย ๆ ก็อาจต้องเน้นแผนที่มีบริการฉุกเฉิน หรือช่วยเหลือบนท้องถนนด้วย

เพราะฉะนั้น ก่อนจะซื้อประกันรถยนต์ ต้องตอบให้ได้ก่อนว่า “รถคันนี้ใช้งานแบบไหน” จากนั้นค่อยไปเลือกแผนความคุ้มครองให้ตรงกับชีวิตจริงจะดีที่สุด

ปัจจัยส่วนตัวที่มีผลต่อการเลือกซื้อประกันรถยนต์

ลักษณะการใช้รถ (ประจำวัน / เดินทางไกล / จอดเป็นส่วนใหญ่)

การใช้งานรถในชีวิตประจำวันมีผลต่อความเสี่ยงโดยตรง คนที่ใช้รถขับไปทำงานทุกวัน เสี่ยงเฉี่ยวชนหรือถอยชนมากกว่าคนที่ใช้เฉพาะเสาร์อาทิตย์ ยิ่งถ้าต้องขับรถในเมือง รถติด หรือขับผ่านแยกเยอะ ๆ ควรซื้อประกันรถยนต์ที่คุ้มครองครอบคลุมไว้ก่อน เช่น ชั้น 1 ที่เคลมได้แม้ไม่มีคู่กรณี ส่วนใครที่ใช้งานเฉพาะเส้นทางเดิม ๆ ไม่ค่อยมีเหตุฉุกเฉิน และมีความมั่นใจในการขับขี่ อาจเลือกประกันรถยนต์ชั้น 2+ ก็ยังตอบโจทย์ในราคาย่อมเยา

สำหรับรถที่แทบไม่ได้ขับ จอดไว้เป็นส่วนใหญ่ อาจเลือกซื้อประกันรถยนต์ชั้น 3 หรือ 3+ เพื่อให้มีความคุ้มครองขั้นต่ำที่ดูแลความเสียหายคู่กรณี เพราะแม้ไม่ได้ใช้รถบ่อย แต่ถ้าขับทีแล้วชนใหญ่ขึ้นมา ค่าซ่อมก็ไม่ใช่น้อย

อายุรถยนต์ และมูลค่าปัจจุบัน

รถใหม่ป้ายแดง หรือรถที่ยังมีมูลค่าสูง ควรซื้อประกันรถยนต์ชั้น 1 เพราะความเสียหายแต่ละครั้งซ่อมทีต้องใช้เงินมาก และหลายครั้งค่าอะไหล่แพงกว่าค่าแรงซ่อม ถ้าไม่มีประกันมาช่วยแบ่งเบา จะรู้สึกหนักใจทันที

แต่ถ้ารถมีอายุมากกว่า 5 ปี เริ่มเก่า หรือหมดระยะรับประกันจากศูนย์ไปแล้ว ก็สามารถลดระดับความคุ้มครองลงมาให้เหมาะกับมูลค่ารถ เช่น ชั้น 2+ หรือ 3+ เพื่อให้ยังมีการดูแลเบื้องต้นหากเกิดอุบัติเหตุ แต่จ่ายค่าเบี้ยน้อยลง การซื้อประกันรถยนต์ไม่จำเป็นต้องเน้นแพงที่สุดเสมอไป แค่เลือกให้สมเหตุสมผลกับสภาพรถจริง ก็ช่วยประหยัดงบได้เยอะโดยไม่ลดความปลอดภัย

เลือกซื้อประกันรถยนต์ ที่มีความคุ้มครองแบบไหน ถึงจะพอดี ไม่เกินจำเป็น พร้อมแนะนำประกันรถยนต์ออนไลน์รูปแบบใหม่

การซื้อประกันรถยนต์ที่เหมาะกับตัวเองต้องดูที่ความคุ้มครองแบบเจาะจง ไม่ใช่เลือกจากชื่อชั้นประกันอย่างเดียว เพราะประกันชั้นเดียวกันแต่ต่างบริษัท ก็อาจให้ความคุ้มครองไม่เหมือนกัน บางแผนครอบคลุมเฉพาะกรณีชนมีคู่กรณีเท่านั้น แต่บางแผนครอบคลุมแม้ชนแบบไม่มีคู่กรณีก็ยังเคลมได้ นี่คือรายละเอียดที่ต้องเช็กก่อนซื้อ

บางแผนจะรวมความคุ้มครองเพิ่มเติมไว้ด้วย เช่น ค่ารักษาพยาบาลของผู้โดยสาร ค่าประกันตัวผู้ขับขี่ หรือการชดเชยรายได้กรณีหยุดงานเพราะบาดเจ็บ ถ้าใครกังวลเรื่องพวกนี้ก็ควรเลือกซื้อประกันรถยนต์ที่มีส่วนนี้อยู่ด้วย เพื่อไม่ต้องมาควักจ่ายเองทีหลังแบบไม่ตั้งตัว

นอกจากนี้ยังมีประกันรูปแบบใหม่ที่ให้ซื้อผ่านออนไลน์เต็มระบบ ตั้งแต่เลือกแผนจนถึงแจ้งเคลม จบในมือถือได้เลย เหมาะกับคนรุ่นใหม่ที่อยากจัดการทุกอย่างด้วยตัวเอง ไม่ต้องโทร ไม่ต้องรอคอลเซ็นเตอร์ และยังสามารถปรับแต่งแผนได้ตามพฤติกรรมการใช้งาน เช่น เลือกซื้อความคุ้มครองเฉพาะกรณีรถหาย ไฟไหม้ หรือเฉพาะอุบัติเหตุแบบชนกับรถเท่านั้นก็ได้

สิ่งสำคัญของการซื้อประกันรถยนต์คือ ต้องอ่านรายละเอียดความคุ้มครอง และเงื่อนไขให้ละเอียด อย่าดูแค่เบี้ยถูกอย่างเดียว ต้องดูว่าราคานั้นให้ความคุ้มครองพอหรือเปล่า ถ้าต้องจ่ายเบี้ยเพิ่มขึ้นอีกนิดเพื่อได้ความคุ้มครองแบบที่ตรงความต้องการ ก็ถือว่าคุ้มกว่าในระยะยาว

คำถามที่พบบ่อย

1. ถ้าใช้งานรถไม่บ่อย ควรซื้อประกันรถยนต์ประเภทไหนดี?

คนที่ขับรถแค่อาทิตย์ละสองครั้ง หรือจอดเป็นส่วนใหญ่ ไม่จำเป็นต้องซื้อประกันที่คุ้มครองทุกอย่างเต็มแม็กซ์แบบชั้น 1 ก็ได้ ประกันชั้น 2+ หรือ 3+ อาจเพียงพอ เพราะคุ้มครองเฉพาะเมื่อชนมีคู่กรณี และยังช่วยประหยัดค่าเบี้ยไปได้เยอะ

2. ซื้อประกันรถยนต์ชั้น 1 ทุกแผนให้ความคุ้มครองเหมือนกันหรือเปล่า?

ไม่เหมือนกัน หลายคนเข้าใจผิดว่าชั้น 1 ก็คือชั้น 1 แต่จริง ๆ แล้วแต่ละบริษัทมีรายละเอียดต่างกัน เช่น วงเงินซ่อม ค่าเสียหายส่วนแรก อู่ที่ซ่อมได้ หรือข้อยกเว้นบางกรณี ดังนั้นต้องอ่านเงื่อนไขให้ดีทุกครั้งก่อนตัดสินใจ

3. อายุรถกับการซื้อประกันรถยนต์เกี่ยวข้องกันยังไง?

อายุรถเป็นปัจจัยสำคัญที่บริษัทประกันใช้ในการประเมินเบี้ยและเลือกแผนที่เหมาะสม เช่น รถใหม่ไม่เกิน 5 ปี เหมาะกับชั้น 1 แต่ถ้าเก่ากว่านั้น อาจจะต้องพิจารณาชั้น 2+ หรือ 3+ แทน เพราะบางบริษัทจะไม่รับประกันชั้น 1 สำหรับรถเก่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 15, 2025, 05:51:10 PM โดย ไม้เอก การันต์ »