ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


ประกันชั้น 2+ คุ้มไหม เหมาะกับใคร เช็กให้ชัวร์ก่อนซื้อ

ประกันชั้น 2+ รู้ก่อนเลือก เข้าใจก่อนตัดสินใจ

ประกันชั้น 2+ คุ้มครองอะไรบ้าง แตกต่างจากชั้น 1 ยังไง เหมาะกับคนใช้รถแบบไหน เช็กก่อนตัดสินใจ ไม่ให้จ่ายเกินจำเป็น

ประกันชั้น 2+ กลายเป็นตัวเลือกยอดฮิตของคนใช้รถ เพราะให้ความคุ้มครองครอบคลุมในราคาที่เข้าถึงง่าย แต่ก่อนจะตัดสินใจซื้อ ลองมาดูกันให้ชัดว่าเงื่อนไขแบบไหนที่ควรรู้ และประกันชั้น 2+ เหมาะกับใครมากที่สุดกันแน่

ประกันชั้น 2+ คืออะไร และมีจุดเด่นตรงไหน?

ประกันชั้น 2+ เป็นประกันรถยนต์ภาคสมัครใจที่ผสมผสานจุดแข็งระหว่างประกันชั้น 1 และชั้น 2 เข้าไว้ด้วยกัน จุดเด่นที่ทำให้ประกันชั้น 2+ โดนใจคนใช้รถ คือความคุ้มครองที่ครอบคลุมเกือบเทียบเท่าชั้น 1 แต่ราคาจ่ายเบี้ยน่าคบกว่ามาก โดยจะให้ความคุ้มครองในกรณีเกิดอุบัติเหตุชนกับยานพาหนะที่มีเครื่องยนต์และสามารถระบุคู่กรณีได้ เช่น รถเก๋ง รถกระบะ มอเตอร์ไซค์ รถบรรทุก รถไฟ รถราง หรือแม้แต่รถพ่วง

นอกจากความเสียหายจากการชนกับรถคันอื่นที่มีคู่กรณี ประกันชั้น 2+ ยังครอบคลุมกรณีรถหายจากการถูกขโมย และรถไฟไหม้ด้วย ซึ่งความคุ้มครองตรงนี้จะคล้ายกับประกันชั้น 1 แต่ที่ต่างกันคือ หากอุบัติเหตุไม่มีคู่กรณี เช่น ชนต้นไม้ เสาไฟ หรือชนแล้วหนีแต่หาหลักฐานไม่ได้ ประกันชั้น 2+ จะไม่ครอบคลุม ทำให้เบี้ยประกันลดลงอย่างเห็นได้ชัด

ประกันชั้น 2+ จึงตอบโจทย์คนที่ใช้รถอย่างระมัดระวัง มีวินัย ไม่ได้เกิดอุบัติเหตุบ่อย และไม่อยากจ่ายแพงเกินจำเป็น แต่อยากได้ความคุ้มครองที่ยังครอบคลุมกรณีใหญ่ ๆ ที่อาจเกิดขึ้น

เหตุผลที่หลายคนเลือกประกันชั้น 2+ แทนชั้น 1

ราคาเบี้ยที่เข้าถึงง่าย แต่ยังครอบคลุมอุบัติเหตุสำคัญ

จุดขายแรกของประกันชั้น 2+ ที่หลายคนชอบเลยคือเบี้ยประกันที่สบายกระเป๋ากว่าชั้น 1 พอสมควร เพราะไม่ครอบคลุมอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณี และไม่มีภัยธรรมชาติในแผนมาตรฐาน ทำให้เบี้ยประกันลดลงไปเยอะ แต่ยังครอบคลุมอุบัติเหตุหลัก ๆ อย่างการชนรถ มีคู่กรณี รถหาย หรือรถไฟไหม้แบบจัดเต็ม

ที่น่าสนใจคือ ถ้าซื้อประกันชั้น 2+ ต่อเนื่องหลายปีโดยไม่มีการเคลมเลย หรือเคลมน้อยมากและระบุคู่กรณีได้ ผู้เอาประกันยังมีสิทธิได้รับส่วนลดเบี้ยประกันสูงสุดถึง 50% ในปีต่ออายุอีกด้วย ถือเป็นรางวัลของคนขับรถมีวินัยที่ช่วยเซฟเงินในระยะยาวได้ดีเลยทีเดียว

คุ้มครองรถคู่กรณีและรถเรา กรณีชนแบบมีคู่กรณีเท่านั้น

ประกันชั้น 2+ ออกแบบมาเพื่อรองรับเคสที่คนส่วนใหญ่กังวล เช่น ขับรถชนรถคนอื่นแล้วเป็นฝ่ายผิด ต้องรับผิดชอบค่าเสียหายฝั่งตรงข้าม หรือรถตัวเองได้รับความเสียหายจากการชน ซึ่งหากสามารถระบุคู่กรณีได้ ประกันชั้น 2+ จะจัดการเรื่องซ่อมรถให้ครบทั้งรถของเราและรถของคู่กรณี

แถมยังดูแลผู้โดยสารในรถเราในกรณีเจ็บตัวจากอุบัติเหตุ เช่น ค่ารักษา ค่ายา ค่าศัลยกรรม ไปจนถึงค่าปลงศพ ถ้าเหตุการณ์ร้ายแรงแบบเสียชีวิต ความคุ้มครองครอบคลุมแบบมีรายละเอียด ไม่ใช่แค่จ่ายให้แค่พอผ่าน แต่ดูแลกันจบตามทุนประกันที่ระบุไว้ในกรมธรรม์

ในกรณีรถหายหรือไฟไหม้ ประกันชั้น 2+ ก็ยังช่วยจ่ายชดเชยได้ตามเงื่อนไข หากเป็นการหายจากการลักทรัพย์ ปล้น ชิง หรือเหตุเพลิงไหม้แบบที่ไม่เกิดจากการวางเพลิงเอง การแจ้งความถูกต้องและรวดเร็วคือสิ่งสำคัญ เพราะจะใช้เป็นหลักฐานประกอบการเคลม

เลือกประกันชั้น 2+ อย่างไรให้เหมาะกับการใช้งานรถของคุณ?

ใครที่กำลังตัดสินใจว่าจะเลือกประกันชั้น 2+ หรือไม่ ลองดูว่าพฤติกรรมการใช้รถของตัวเองเข้าข่ายเหล่านี้รึเปล่า ถ้าใช่ ก็มีแนวโน้มสูงว่าแผนนี้จะเหมาะกับคุณมากกว่าการจ่ายเบี้ยแพง ๆ เพื่อความคุ้มครองที่อาจไม่ได้ใช้บ่อย

  • ใช้รถเฉพาะช่วงจำเป็น เช่น ขับไปทำงาน ใกล้บ้าน วิ่งเส้นเดิมทุกวัน ไม่ค่อยออกต่างจังหวัดไกล ๆ
  • มีประสบการณ์ขับรถพอสมควร ไม่ใช่มือใหม่ ไม่ใช่สายซิ่ง ไม่ขับรถเร็วเกินเหตุ
  • จอดรถในที่ปลอดภัย แต่ยังมีความเสี่ยงเรื่องรถหาย เพราะที่จอดเป็นลานสาธารณะ หรือเป็นคอนโดริมถนน
  • รักรถ ดูแลรถดี ไม่ได้มีแผนจะขายในเร็ว ๆ นี้ แต่อยากป้องกันความเสียหายแบบหนัก ๆ

นอกจากนี้ควรดูด้วยว่าในกรมธรรม์ประกันชั้น 2+ นั้นมีการระบุว่า "ไม่มีความเสียหายส่วนแรก" หรือไม่ เพราะบางแผนอาจมีข้อกำหนดให้ผู้เอาประกันต้องจ่ายส่วนแรก 1,000-2,000 บาท ก่อนที่ประกันจะจ่ายส่วนที่เหลือ ซึ่งมีผลกับค่าใช้จ่ายเวลาเกิดเหตุจริง

ประกันชั้น 2+ จึงไม่ใช่แค่ทางเลือกกลาง ๆ ระหว่างชั้น 1 กับ 3+ แต่เป็นแผนที่ตอบโจทย์การใช้งานจริงของหลายคนที่อยากได้ความอุ่นใจแบบไม่ต้องจ่ายแพงเกินความจำเป็น หากเลือกให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ ก็ถือว่าคุ้มสุด ๆ แล้ว