ค่าแรงขั้นต่ำ ประจำปี 2568 เปลี่ยนแปลงอย่างไร ใครได้รับผลกระทบบ้างอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เป็นเรื่องที่ส่งผลต่อชีวิตของคนทำงานจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มแรงงานทั่วไปที่ต้องพึ่งรายได้ประจำวัน การเปลี่ยนแปลง
ค่าแรงขั้นต่ำในแต่ละปีจึงกลายเป็นสิ่งที่หลายคนจับตา ปี 2568 นี้ มีการปรับอัตราใหม่ที่น่าสนใจ ซึ่งอาจส่งผลทั้งด้านรายได้ การใช้จ่าย และภาระค่าครองชีพ มาดูรายละเอียดของค่าแรงขั้นต่ำ ล่าสุดในปีนี้ว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง และส่งผลกระทบกับใครบ้างในสังคม
ค่าแรงขั้นต่ำ สำคัญยังไง?หลายคนอาจคิดว่าค่าแรงขั้นต่ำ เป็นเพียงตัวเลขที่รัฐกำหนดไว้เท่านั้น แต่ความจริงแล้ว มันมีบทบาทสำคัญมากต่อชีวิตของแรงงานโดยตรง เพราะเป็นฐานรายได้ที่ช่วยให้ลูกจ้างได้รับค่าตอบแทนที่เหมาะสมกับเวลาที่ใช้ไปในการทำงาน โดยเฉพาะคนที่ทำงานในจังหวัดที่มีค่าครองชีพสูง การรู้ว่าจังหวัดไหนกำหนดค่าแรงพื้นฐานขั้นต่ำเท่าไหร่ จะช่วยให้สามารถวางแผนการเงินได้ดีขึ้น
และยังเป็นการป้องกันไม่ให้ถูกเอาเปรียบจากนายจ้างอีกด้วย ดังนั้นการเข้าใจเรื่องอัตราค่าจ้างขั้นต่ำปัจจุบันวันละต้องไม่ต่ำกว่าเท่าใด ไม่ใช่แค่เรื่องตัวเลข แต่เป็นเครื่องมือสำคัญของค่าแรงงานทุกคน เพื่อการดำรงชีวิตเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่ติดขัดเรื่องรายได้
ตารางค่าแรงขั้นต่ำ อัปเดตล่าสุด 2568วันที่ 1 ม.ค. 2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศคณะกรรมการค่าจ้าง เรื่อง อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ (ฉบับที่ 13) ให้แต่ละจังหวัดมีค่าแรงขั้นต่ำ ดังนี้
จังหวัด | ค่าแรงขั้นต่ำ 2568 |
ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ภูเก็ต ระยอง และสุราษฎร์ธานี (เฉพาะ อ.เกาะสมุย) | 400 บาท |
เชียงใหม่ (เฉพาะ อ.เมืองเชียงใหม่) และสงขลา (เฉพาะ อ.หาดใหญ่) | 380 บาท |
กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร | 372 บาท |
นครราชสีมา | 359 บาท |
สมุทรสงคราม | 358 บาท |
ขอนแก่น เชียงใหม่ (ยกเว้น อ.เมืองเชียงใหม่) ปราจีนบุรี พระนครศรีอยุธยา สระบุรี | 357 บาท |
ลพบุรี | 356 บาท |
นครนายก สุพรรณบุรี หนองคาย | 355 บาท |
กระบี่ ตราด | 354 บาท |
กาญจนบุรี จันทบุรี เชียงราย ตาก นครพนม บุรีรัมย์ ประจวบคีรีขันธ์ พังงา พิษณุโลก มุกดาหาร สกลนคร สงขลา (ยกเว้น อ.หาดใหญ่) สระแก้ว สุราษฎร์ธานี (ยกเว้น อ.เกาะสมุย) อุบลราชธานี | 352 บาท |
ชุมพร เพชรบุรี สุรินทร์ | 351 บาท |
นครสวรรค์ ยโสธร ลำพูน | 350 บาท |
กาฬสินธุ์ นครศรีธรรมราช บึงกาฬ เพชรบูรณ์ ร้อยเอ็ด | 349 บาท |
ชัยนาท ชัยภูมิ พัทลุง สิงห์บุรี อ่างทอง | 348 บาท |
กำแพงเพชร พิจิตร มหาสารคาม แม่ฮ่องสอน ระนอง ราชบุรี ลำปาง เลย ศรีสะเกษ สตูล สุโขทัย หนองบัวลำภู อำนาจเจริญ อุดรธานี อุตรดิตถ์ อุทัยธานี | 347 บาท |
ตรัง น่าน พะเยา แพร่ | 345 บาท |
นราธิวาส ปัตตานี ยะลา | 337 บาท |
*ประกาศคณะกรรมการค่าจ้างฉบับนี้ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2568 เป็นต้นไป
การจ้างลูกจ้างเด็กต้องมีอายุกี่ปีตามกฎหมายค่าแรงขั้นต่ำ และกฎหมายคุ้มครองแรงงานในประเทศไทย ปัจจุบันมีการกำหนดเงื่อนไขชัดเจนเกี่ยวกับการจ้างงานเด็ก โดยระบุไว้ในพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 หมวด 4 ซึ่งครอบคลุมสิทธิและสภาพการทำงานของแรงงานเด็ก โดยห้ามไม่ให้นายจ้างจ้างเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี เข้าทำงานเด็ดขาด
แต่ในกรณีที่เด็กมีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป แต่ยังไม่เกิน 18 ปี นายจ้างสามารถจ้างได้ภายใต้เงื่อนไขพิเศษ เช่น ต้องแจ้งการจ้างต่อพนักงานตรวจแรงงานภายใน 15 วันนับจากวันเริ่มทำงาน
และเมื่อสิ้นสุดการจ้างต้องแจ้งภายใน 7 วัน รวมถึงต้องจัดทำบันทึกเกี่ยวกับสภาพการจ้างเก็บไว้ ณ สถานประกอบการ ไม่ว่าจะเป็นแรงงานเชื้อชาติ สัญชาติ หรือเพศใด ทุกคนมีสิทธิเข้าถึงการคุ้มครองตามกฎหมายอย่างเท่าเทียม การปฏิบัติตามกฎหมายเหล่านี้จึงเป็นการเคารพสิทธิพื้นฐานของเด็กและช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตของแรงงานรุ่นเยาว์ให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน
ต้องทำยังไง เมื่อได้เงินไม่ตรงกับค่าแรงขั้นต่ำหากคุณเป็นลูกจ้างที่ได้รับค่าจ้างต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ตามค่าแรงขั้นต่ำ อย่าเพิ่งนิ่งเฉย เพราะสิ่งนี้ถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่คุณควรได้รับอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ขั้นตอนแรกที่ควรทำคือการพูดคุยกับนายจ้างโดยตรง เพื่อสอบถามเหตุผลและตรวจสอบความเข้าใจตรงกันเรื่องค่าแรงพื้นฐาน
หากยังไม่ได้รับคำตอบหรือการแก้ไขที่เหมาะสม ลูกจ้างสามารถแจ้งเรื่องได้ที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานประจำจังหวัด หรือโทรสายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506 เพื่อขอคำปรึกษาและดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมาย การได้รับค่าจ้างที่ต่ำกว่าค่าแรงขั้นต่ำปัจจุบันไม่เพียงเป็นการเอาเปรียบแรงงาน แต่ยังขัดต่อ พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานอีกด้วย ซึ่งอาจนำไปสู่บทลงโทษทางกฎหมายต่อนายจ้างได้
การรู้สิทธิของตนเองจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะนอกจากจะปกป้องรายได้ของตัวเองแล้ว ยังช่วยให้ระบบแรงงานในภาพรวมมีมาตรฐานที่ดีขึ้นในระยะยาวอีกด้วย
เทคนิคบริหารเงิน ของคนค่าแรงขั้นต่ำน้อยแม้รายได้จากค่าแรงขั้นต่ำ อาจไม่มากนัก แต่หากรู้จักบริหารเงินให้เป็น ก็สามารถใช้ชีวิตได้อย่างไม่ตึงจนเกินไป หลายคนที่มีรายได้น้อยอาจคิดว่าการเก็บเงินเป็นเรื่องไกลตัว แต่จริง ๆ แล้วแค่ปรับพฤติกรรมเล็ก ๆ ก็ช่วยให้เงินพอใช้ แถมยังมีเหลือเก็บได้ ลองมาดูเทคนิคง่าย ๆ ที่จะช่วยให้คุณบริหารเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
วางแผนรายรับรายจ่ายอย่างจริงจังเริ่มจากการจดทุกอย่างที่ใช้จ่ายในแต่ละวัน รวมถึงรายได้ที่ได้รับจากค่าแรงขั้นต่ำต่อชั่วโมง เพื่อให้เห็นภาพรวมการเงินชัดเจนขึ้น จากนั้นค่อยวางแผนจัดสรรงบแต่ละหมวด เช่น ค่าอาหาร ค่าเดินทาง และค่าใช้จ่ายจำเป็นอื่น ๆ เมื่อเห็นพฤติกรรมการใช้เงินอย่างละเอียด จะสามารถปรับปรุงการใช้จ่ายให้เหมาะสมกับรายได้ และเริ่มเก็บออมได้อย่างมีเป้าหมาย
บัตรกดเงินสด ตัวช่วยยามฉุกเฉินแม้รายได้จากค่าแรงขั้นต่ำ จะไม่ได้มากนัก แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นได้เสมอ บัตรกดเงินสดจึงเป็นทางเลือกหนึ่งในการรับมือกับสถานการณ์เร่งด่วน เช่น ค่ารักษาพยาบาล หรือค่าซ่อมรถ จำเป็นต้องเลือกที่มีดอกเบี้ยต่ำ และต้องตั้งเป้าจ่ายคืนให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้กลายเป็นภาระหนี้ระยะยาว และไม่กระทบการเงินในเดือนต่อไป
ตั้งงบรายวัน จำกัดการใช้จ่ายเทคนิคนี้ช่วยให้คนที่มีรายได้น้อยจากการรู้ว่าค่าแรงขั้นต่ำของตนเองวันละเท่าไหร่ สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้น เช่น ตั้งงบไว้วันละ 200 บาท ถ้าใช้ไม่หมดให้นำไปเก็บเป็นเงินสำรองในวันต่อไป วิธีนี้ทำให้รู้ขอบเขตของการใช้เงินในแต่ละวัน ลดการใช้จ่ายเกินตัว และช่วยสร้างนิสัยวางแผนก่อนใช้ ไม่เผลอซื้อของตามใจโดยไม่คิดล่วงหน้า
เน้นของจำเป็น ลดของฟุ่มเฟือยเมื่อรายได้จำกัดจากค่าแรงขั้นต่ำ ควรเลือกใช้จ่ายให้ตรงจุด เลือกซื้อแค่ของที่จำเป็น เช่น ของใช้ในบ้าน ของกิน หรือค่ารถ แนะนำให้เลี่ยงการสั่งอาหารเดลิเวอรี หรือการซื้อของตามกระแสที่ไม่ได้มีความจำเป็น การฝึกแยกแยะระหว่างของที่อยากได้ กับของที่จำเป็นต้องใช้ ช่วยให้เงินในกระเป๋าอยู่ได้นานขึ้น และลดการขาดสภาพคล่องในแต่ละเดือน
เก็บก่อนใช้ ไม่ใช่เหลือแล้วค่อยเก็บสำหรับคนที่มีรายได้ขั้นต่ำ การเก็บเงินอาจดูยาก แต่ไม่ใช่เป็นไปไม่ได้ ลองเริ่มต้นจากจำนวนเล็ก ๆ เช่น เก็บ 5% ของรายได้ทันทีหลังเงินเดือนเข้า ก่อนจะเอาไปใช้ วิธีนี้ช่วยให้มีเงินสำรองติดตัวตลอด และไม่ต้องรอให้เหลือ ซึ่งบางครั้งก็อาจไม่เหลือจริง ๆ การเก็บก่อนใช้เป็นนิสัยทางการเงินที่สำคัญมากในระยะยาว
หารายได้เสริมเล็ก ๆ หลังเลิกงานสำหรับคนที่รายได้จากค่าจ้างขั้นต่ำ ยังไม่เพียงพอ ลองมองหางานเสริมเล็ก ๆ ที่ไม่กินเวลาหลัก เช่น ขายของออนไลน์ ทำขนมเล็ก ๆ ส่งในหมู่บ้าน หรือรับงานแพลตฟอร์มฟรีแลนซ์ตามทักษะที่มี ไม่ว่าจะเป็นแปลภาษา เขียนบทความ หรืองานฝีมือบางอย่างก็ช่วยเพิ่มรายได้พิเศษ ใช้เวลาหลังเลิกงานวันละไม่กี่ชั่วโมง แต่ช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายประจำเดือนให้เบาขึ้นได้เยอะทีเดียว
ใช้แอปช่วยออมเงิน แบ่งเงินอัตโนมัติแอปพลิเคชันด้านการเงินมีบทบาทมากในการช่วยจัดการงบคนที่มีรายได้ค่าแรงขั้นต่ำ เช่น แอปที่สามารถตั้งเป้าเก็บเงินรายวันหรือรายเดือน แล้วหักเงินอัตโนมัติจากบัญชีหลัก วิธีนี้ทำให้การออมกลายเป็นเรื่องง่าย ไม่ต้องอาศัยวินัยมากนัก เพราะแอปจะช่วยเตือนหรือจัดการให้ ช่วยให้คนที่ไม่เคยออมเริ่มต้นได้ทันทีแบบไม่รู้สึกกดดันหรือยุ่งยาก
สรุปเกี่ยวกับค่าแรงขั้นต่ำประจำปี 2568จากข้อมูลที่ได้กล่าวถึงเกี่ยวกับค่าแรงขั้นต่ำ จะเห็นได้ว่ามีการปรับเปลี่ยนหลายอย่างเพื่อช่วยเหลือแรงงานในประเทศไทย โดยเฉพาะการปรับเพิ่มขึ้นค่าแรง 2568 ในบางจังหวัด เพื่อให้สอดคล้องกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น การจ้างงานเด็กยังคงต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด และควรให้ความสำคัญกับการรู้จักสิทธิประโยชน์เกี่ยวกับแรงงานขั้นต่ำ เพื่อลดปัญหาการถูกเอารัดเอาเปรียบ
ในส่วนของการบริหารเงินสำหรับคนที่มีรายได้ ตามอัตราค่าจ้างตามวุฒิการศึกษา หรือค่าแรงขั้นต่ำ กรุงเทพฯ รวมถึงในจังหวัดต่าง ๆ ก็ยังคงสำคัญ เพื่อให้สามารถจัดการการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ