ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


ค่าแรงขั้นต่ำล่าสุด ส่งผลต่อรายได้แรงงานทั้งภาครัฐและเอกชน

ค่าแรงขั้นต่ำ ประจำปี 2568 เปลี่ยนแปลงอย่างไร ใครได้รับผลกระทบบ้าง

ค่าแรงขั้นต่ำ

อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เป็นเรื่องที่ส่งผลต่อชีวิตของคนทำงานจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มแรงงานทั่วไปที่ต้องพึ่งรายได้ประจำวัน การเปลี่ยนแปลงค่าแรงขั้นต่ำในแต่ละปีจึงกลายเป็นสิ่งที่หลายคนจับตา ปี 2568 นี้ มีการปรับอัตราใหม่ที่น่าสนใจ ซึ่งอาจส่งผลทั้งด้านรายได้ การใช้จ่าย และภาระค่าครองชีพ มาดูรายละเอียดของค่าแรงขั้นต่ำ ล่าสุดในปีนี้ว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง และส่งผลกระทบกับใครบ้างในสังคม


ค่าแรงขั้นต่ำ สำคัญยังไง?

ค่าแรงขั้นต่ำ คือ

หลายคนอาจคิดว่าค่าแรงขั้นต่ำ เป็นเพียงตัวเลขที่รัฐกำหนดไว้เท่านั้น แต่ความจริงแล้ว มันมีบทบาทสำคัญมากต่อชีวิตของแรงงานโดยตรง เพราะเป็นฐานรายได้ที่ช่วยให้ลูกจ้างได้รับค่าตอบแทนที่เหมาะสมกับเวลาที่ใช้ไปในการทำงาน โดยเฉพาะคนที่ทำงานในจังหวัดที่มีค่าครองชีพสูง การรู้ว่าจังหวัดไหนกำหนดค่าแรงพื้นฐานขั้นต่ำเท่าไหร่ จะช่วยให้สามารถวางแผนการเงินได้ดีขึ้น

และยังเป็นการป้องกันไม่ให้ถูกเอาเปรียบจากนายจ้างอีกด้วย ดังนั้นการเข้าใจเรื่องอัตราค่าจ้างขั้นต่ำปัจจุบันวันละต้องไม่ต่ำกว่าเท่าใด ไม่ใช่แค่เรื่องตัวเลข แต่เป็นเครื่องมือสำคัญของค่าแรงงานทุกคน เพื่อการดำรงชีวิตเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่ติดขัดเรื่องรายได้


ตารางค่าแรงขั้นต่ำ อัปเดตล่าสุด 2568

วันที่ 1 ม.ค. 2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศคณะกรรมการค่าจ้าง เรื่อง อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ (ฉบับที่ 13) ให้แต่ละจังหวัดมีค่าแรงขั้นต่ำ ดังนี้

จังหวัดค่าแรงขั้นต่ำ 2568
ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ภูเก็ต ระยอง และสุราษฎร์ธานี (เฉพาะ อ.เกาะสมุย)400 บาท
เชียงใหม่ (เฉพาะ อ.เมืองเชียงใหม่) และสงขลา (เฉพาะ อ.หาดใหญ่)380 บาท
กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร372 บาท
นครราชสีมา359 บาท
สมุทรสงคราม358 บาท
ขอนแก่น เชียงใหม่ (ยกเว้น อ.เมืองเชียงใหม่) ปราจีนบุรี พระนครศรีอยุธยา สระบุรี357 บาท
ลพบุรี356 บาท
นครนายก สุพรรณบุรี หนองคาย355 บาท
กระบี่ ตราด354 บาท
กาญจนบุรี จันทบุรี เชียงราย ตาก นครพนม บุรีรัมย์ ประจวบคีรีขันธ์ พังงา พิษณุโลก มุกดาหาร สกลนคร สงขลา (ยกเว้น อ.หาดใหญ่) สระแก้ว สุราษฎร์ธานี (ยกเว้น อ.เกาะสมุย) อุบลราชธานี352 บาท
ชุมพร เพชรบุรี สุรินทร์351 บาท
นครสวรรค์ ยโสธร ลำพูน350 บาท
กาฬสินธุ์ นครศรีธรรมราช บึงกาฬ เพชรบูรณ์ ร้อยเอ็ด349 บาท
ชัยนาท ชัยภูมิ พัทลุง สิงห์บุรี อ่างทอง348 บาท
กำแพงเพชร พิจิตร มหาสารคาม แม่ฮ่องสอน ระนอง ราชบุรี ลำปาง เลย ศรีสะเกษ สตูล สุโขทัย หนองบัวลำภู อำนาจเจริญ อุดรธานี
อุตรดิตถ์ อุทัยธานี
347 บาท
ตรัง น่าน พะเยา แพร่345 บาท
นราธิวาส ปัตตานี ยะลา337 บาท

*ประกาศคณะกรรมการค่าจ้างฉบับนี้ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2568 เป็นต้นไป


การจ้างลูกจ้างเด็กต้องมีอายุกี่ปี

ตามกฎหมายค่าแรงขั้นต่ำ และกฎหมายคุ้มครองแรงงานในประเทศไทย ปัจจุบันมีการกำหนดเงื่อนไขชัดเจนเกี่ยวกับการจ้างงานเด็ก โดยระบุไว้ในพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 หมวด 4 ซึ่งครอบคลุมสิทธิและสภาพการทำงานของแรงงานเด็ก โดยห้ามไม่ให้นายจ้างจ้างเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี เข้าทำงานเด็ดขาด
แต่ในกรณีที่เด็กมีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป แต่ยังไม่เกิน 18 ปี นายจ้างสามารถจ้างได้ภายใต้เงื่อนไขพิเศษ เช่น ต้องแจ้งการจ้างต่อพนักงานตรวจแรงงานภายใน 15 วันนับจากวันเริ่มทำงาน

และเมื่อสิ้นสุดการจ้างต้องแจ้งภายใน 7 วัน รวมถึงต้องจัดทำบันทึกเกี่ยวกับสภาพการจ้างเก็บไว้ ณ สถานประกอบการ ไม่ว่าจะเป็นแรงงานเชื้อชาติ สัญชาติ หรือเพศใด ทุกคนมีสิทธิเข้าถึงการคุ้มครองตามกฎหมายอย่างเท่าเทียม การปฏิบัติตามกฎหมายเหล่านี้จึงเป็นการเคารพสิทธิพื้นฐานของเด็กและช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตของแรงงานรุ่นเยาว์ให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน


ต้องทำยังไง เมื่อได้เงินไม่ตรงกับค่าแรงขั้นต่ำ
หากคุณเป็นลูกจ้างที่ได้รับค่าจ้างต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ตามค่าแรงขั้นต่ำ อย่าเพิ่งนิ่งเฉย เพราะสิ่งนี้ถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่คุณควรได้รับอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ขั้นตอนแรกที่ควรทำคือการพูดคุยกับนายจ้างโดยตรง เพื่อสอบถามเหตุผลและตรวจสอบความเข้าใจตรงกันเรื่องค่าแรงพื้นฐาน

หากยังไม่ได้รับคำตอบหรือการแก้ไขที่เหมาะสม ลูกจ้างสามารถแจ้งเรื่องได้ที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานประจำจังหวัด หรือโทรสายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506 เพื่อขอคำปรึกษาและดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมาย การได้รับค่าจ้างที่ต่ำกว่าค่าแรงขั้นต่ำปัจจุบันไม่เพียงเป็นการเอาเปรียบแรงงาน แต่ยังขัดต่อ พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานอีกด้วย ซึ่งอาจนำไปสู่บทลงโทษทางกฎหมายต่อนายจ้างได้

การรู้สิทธิของตนเองจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะนอกจากจะปกป้องรายได้ของตัวเองแล้ว ยังช่วยให้ระบบแรงงานในภาพรวมมีมาตรฐานที่ดีขึ้นในระยะยาวอีกด้วย


เทคนิคบริหารเงิน ของคนค่าแรงขั้นต่ำน้อย
แม้รายได้จากค่าแรงขั้นต่ำ อาจไม่มากนัก แต่หากรู้จักบริหารเงินให้เป็น ก็สามารถใช้ชีวิตได้อย่างไม่ตึงจนเกินไป หลายคนที่มีรายได้น้อยอาจคิดว่าการเก็บเงินเป็นเรื่องไกลตัว แต่จริง ๆ แล้วแค่ปรับพฤติกรรมเล็ก ๆ ก็ช่วยให้เงินพอใช้ แถมยังมีเหลือเก็บได้ ลองมาดูเทคนิคง่าย ๆ ที่จะช่วยให้คุณบริหารเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

วางแผนรายรับรายจ่ายอย่างจริงจัง
เริ่มจากการจดทุกอย่างที่ใช้จ่ายในแต่ละวัน รวมถึงรายได้ที่ได้รับจากค่าแรงขั้นต่ำต่อชั่วโมง เพื่อให้เห็นภาพรวมการเงินชัดเจนขึ้น จากนั้นค่อยวางแผนจัดสรรงบแต่ละหมวด เช่น ค่าอาหาร ค่าเดินทาง และค่าใช้จ่ายจำเป็นอื่น ๆ เมื่อเห็นพฤติกรรมการใช้เงินอย่างละเอียด จะสามารถปรับปรุงการใช้จ่ายให้เหมาะสมกับรายได้ และเริ่มเก็บออมได้อย่างมีเป้าหมาย
บัตรกดเงินสด ตัวช่วยยามฉุกเฉิน
แม้รายได้จากค่าแรงขั้นต่ำ จะไม่ได้มากนัก แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นได้เสมอ บัตรกดเงินสดจึงเป็นทางเลือกหนึ่งในการรับมือกับสถานการณ์เร่งด่วน เช่น ค่ารักษาพยาบาล หรือค่าซ่อมรถ จำเป็นต้องเลือกที่มีดอกเบี้ยต่ำ และต้องตั้งเป้าจ่ายคืนให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้กลายเป็นภาระหนี้ระยะยาว และไม่กระทบการเงินในเดือนต่อไป
ตั้งงบรายวัน จำกัดการใช้จ่าย
เทคนิคนี้ช่วยให้คนที่มีรายได้น้อยจากการรู้ว่าค่าแรงขั้นต่ำของตนเองวันละเท่าไหร่ สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้น เช่น ตั้งงบไว้วันละ 200 บาท ถ้าใช้ไม่หมดให้นำไปเก็บเป็นเงินสำรองในวันต่อไป วิธีนี้ทำให้รู้ขอบเขตของการใช้เงินในแต่ละวัน ลดการใช้จ่ายเกินตัว และช่วยสร้างนิสัยวางแผนก่อนใช้ ไม่เผลอซื้อของตามใจโดยไม่คิดล่วงหน้า
เน้นของจำเป็น ลดของฟุ่มเฟือย
เมื่อรายได้จำกัดจากค่าแรงขั้นต่ำ ควรเลือกใช้จ่ายให้ตรงจุด เลือกซื้อแค่ของที่จำเป็น เช่น ของใช้ในบ้าน ของกิน หรือค่ารถ แนะนำให้เลี่ยงการสั่งอาหารเดลิเวอรี หรือการซื้อของตามกระแสที่ไม่ได้มีความจำเป็น การฝึกแยกแยะระหว่างของที่อยากได้ กับของที่จำเป็นต้องใช้ ช่วยให้เงินในกระเป๋าอยู่ได้นานขึ้น และลดการขาดสภาพคล่องในแต่ละเดือน
เก็บก่อนใช้ ไม่ใช่เหลือแล้วค่อยเก็บ
สำหรับคนที่มีรายได้ขั้นต่ำ การเก็บเงินอาจดูยาก แต่ไม่ใช่เป็นไปไม่ได้ ลองเริ่มต้นจากจำนวนเล็ก ๆ เช่น เก็บ 5% ของรายได้ทันทีหลังเงินเดือนเข้า ก่อนจะเอาไปใช้ วิธีนี้ช่วยให้มีเงินสำรองติดตัวตลอด และไม่ต้องรอให้เหลือ ซึ่งบางครั้งก็อาจไม่เหลือจริง ๆ การเก็บก่อนใช้เป็นนิสัยทางการเงินที่สำคัญมากในระยะยาว
หารายได้เสริมเล็ก ๆ หลังเลิกงาน
สำหรับคนที่รายได้จากค่าจ้างขั้นต่ำ ยังไม่เพียงพอ ลองมองหางานเสริมเล็ก ๆ ที่ไม่กินเวลาหลัก เช่น ขายของออนไลน์ ทำขนมเล็ก ๆ ส่งในหมู่บ้าน หรือรับงานแพลตฟอร์มฟรีแลนซ์ตามทักษะที่มี ไม่ว่าจะเป็นแปลภาษา เขียนบทความ หรืองานฝีมือบางอย่างก็ช่วยเพิ่มรายได้พิเศษ ใช้เวลาหลังเลิกงานวันละไม่กี่ชั่วโมง แต่ช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายประจำเดือนให้เบาขึ้นได้เยอะทีเดียว
ใช้แอปช่วยออมเงิน แบ่งเงินอัตโนมัติ
แอปพลิเคชันด้านการเงินมีบทบาทมากในการช่วยจัดการงบคนที่มีรายได้ค่าแรงขั้นต่ำ เช่น แอปที่สามารถตั้งเป้าเก็บเงินรายวันหรือรายเดือน แล้วหักเงินอัตโนมัติจากบัญชีหลัก วิธีนี้ทำให้การออมกลายเป็นเรื่องง่าย ไม่ต้องอาศัยวินัยมากนัก เพราะแอปจะช่วยเตือนหรือจัดการให้ ช่วยให้คนที่ไม่เคยออมเริ่มต้นได้ทันทีแบบไม่รู้สึกกดดันหรือยุ่งยาก


สรุปเกี่ยวกับค่าแรงขั้นต่ำประจำปี 2568
จากข้อมูลที่ได้กล่าวถึงเกี่ยวกับค่าแรงขั้นต่ำ จะเห็นได้ว่ามีการปรับเปลี่ยนหลายอย่างเพื่อช่วยเหลือแรงงานในประเทศไทย โดยเฉพาะการปรับเพิ่มขึ้นค่าแรง 2568 ในบางจังหวัด เพื่อให้สอดคล้องกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น การจ้างงานเด็กยังคงต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด และควรให้ความสำคัญกับการรู้จักสิทธิประโยชน์เกี่ยวกับแรงงานขั้นต่ำ เพื่อลดปัญหาการถูกเอารัดเอาเปรียบ

ในส่วนของการบริหารเงินสำหรับคนที่มีรายได้ ตามอัตราค่าจ้างตามวุฒิการศึกษา หรือค่าแรงขั้นต่ำ กรุงเทพฯ รวมถึงในจังหวัดต่าง ๆ ก็ยังคงสำคัญ เพื่อให้สามารถจัดการการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 23, 2025, 05:42:36 AM โดย สมหมาย รอคอย »